“ให้ผมช่วยดูเท้าให้ไหมครับดูมันเริ่มบวมแล้วนะครับ” ลูกแก้วเห็นเจคอปกำลังก้มลงดูที่เท้าของเธอหญิงสาวก็หันหนีเพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดีอีกอย่างเธอก็พึ่งรู้จักกับเขาจะมาถึงเนื้อถึงตัวกันมันทำให้เธอไม่สบายใจที่จะให้ช่วยเท่าไร
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวนั่งอีกสักพักคงหายปวดค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนนะครับ”
“ได้ค่ะ”
ทั้งเจคอปและลูกแก้วนั่งคุยกันสักพักพีรพัตรก็เดินออกจากในงานมาเมื่อเห็นว่าลูกแก้วอยู่กับใครเขาถึงกับควันออกหูอุตส่าห์ให้เธอมานั่งรอหน้างานจะได้ไม่ไปเจอพวกเสือพวกตะเข้ที่ในงานแล้วยังมิวายมาเจอนอกงานอีกคนที่เธอนั่งอยู่ด้วยเป็นเพื่อเขาก็จริงแต่ก็ได้ชื่อว่าตัวพ่อเรื่องผู้หญิงเหมือนกัน
“กลับกันเถอะคุณ”
“เอ่อ..” พีรพัตรเดินเข้าดึงมือลูกแก้วที่กำลังนั่งอยู่โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวทำเอาเธองงเล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปไหนเหมือนกัน
“ไงเพื่อนไม่เจอกันนานเลยนะ”
“อืม..ฉันกลับก่อนนะ” เจคอปเห็นพีรพัตรเดินเข้ามาด้วยอาการไม่พอใจก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เขาห้ามยุ่งเขาจึงรู้สึกเสียดายนิดหน่อยแต่ผู้หญิงในสต็อคของเขามีให้เลือกมากมายอยู่แล้วพลาดคนนี้ไปก็ไม่เห็นเป็นไร
“คุณพรีมเดินช้าๆหน่อยสิคะแก้วเจ็บเท้าค่ะ”
“อืมม”
“ว้าย..” พีรพัตรดึงมือลูกแก้วให้เดินตามด้วยอารมณ์โมโหจึงลืมไปสนิทเลยว่าเธอเจ็บเท้าอยู่ด้วยความที่อยากพาเธอออกจากตรงนั้นโดยเร็วเขาจึงถือวิสาสะอุ้มเธอเดินไปขึ้นรถเลยละกัน
“เอ่อ....ขอบคุณค่ะ” พีรพัตรอุ้มหญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถตู้คันหรูเขาถอดเสื้อสูทของตัวเองคลุมให้เธอและกลับโรงแรมกันทันทีระหว่างทางทั้งสองไม่ได้คุยอะไรกันมีแต่ลูกแก้วที่นั่งแอบดูอาการของชายหนุ่มที่ตอนนี้ดูแปลกๆทั้งยังนั่งไม่อยู่สุขหน้าชายหนุ่มก็เริ่มแดงผิดปกติอีกต่างหาก
“คุณพรีมเป็นอะไรหรือเปล่าคะ...สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะคะ”
ไม่นานนักทั้งคู่มาถึงโรงแรมลูกแก้วก็สังเกตอาการของชายหนุ่มก็ดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆเธอจึงตัดสินใจถามเขาออกไปเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
“เปล่าผมไม่ได้เป็นอะไร....งั้นผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะคุณ” พีรพัตรที่รู้ตัวตั้งแต่อยู่บนรถว่าตัวเองโดนวางยาจึงพยายามจะข่มตัวเองไม่ให้ออกอาการเขาคิดว่าน่าจะเป็นวายแก้วนั้นที่เบลล่าส่งให้เขาดื่มแน่ๆ
เขาไม่น่าไว้ใจเธอเลยเพราะก็รู้อยู่ว่าเธอคิดยังไงกับเขาแต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะใช้วิธีนี้เพื่อที่จะสร้างสัมพันธ์ยิ่งคิดยิ่งโมโหตัวเองที่เสียรู้เธอเสียได้ดีที่ยังปลีกตัวกลับมาก่อน
“ค่ะ” พีรพัตรข่มใจประคองลูกแก้วมาส่งที่หน้าห้องแล้วเขาก็รีบเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเมื่อเข้าห้องมาได้ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำและเปิดน้ำรดตัวดับความร้อนหวังว่ามันจะพอลดความต้องการของเขาได้แต่ไม่เลยเหมือนมันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ
ลูกแก้วเข้าห้องมาก็พึ่งนึกได้ว่าลืมคืนเสื้อสูทให้กับชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นเธอจึงตั้งใจว่าจะเดินเอาไปคืนเขาเลยและถือโอกาสดูอาการของเขาด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้างด้วยความกังวลใจในอาการไม่ปกติของพีรพัตรตั้งแต่นั่งรถกลับมาแล้ว
ก๊อกๆๆ
“มีอะไรหรือเปล่าคุณ” ชายหนุ่มได้ยินเสียงเคาะประตูที่มันดังอยู่ยังไม่ยอมหยุดเขาจึงใช้ผ้าขนหนูพันท่อนล่างแล้วเดินออกมาดูที่ตาแมวว่าเป็นใครเมื่อพบว่าเป็นลูกแก้วเขาจึงไม่เปิดประตูเพราะกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ได้แต่ส่งเสียงถามเธอออกไป
“คือแก้วเอาเสื้อมาคืนคุณค่ะ...คุณพรีมเปิดประตูให้แก้วหน่อยสิคะดูน้ำเสียงคุณไม่ดีเลยนะคะ”
“คืนตอนเช้าก็ได้คุณ”
“คุณพรีมน้ำเสียงคุณไม่ดีเอาซะเลยนะคะขอแก้วเข้าไปดูคุณหน่อยนะคะ” ลูกแก้วเมื่อเห็นคนข้างในไม่เปิดประตูยิ่งทำให้เธอร้อนใจเข้าไปใหญ่น้ำเสียงที่เขาถามเธอนั้นยังดูติดๆขัดๆอีกต่างหากเธอจึงรู้สึกเป็นห่วงคนข้างในเหลือเกินกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรร้ายแรง
“ไหนเสื้อเอามาสิคุณ” พีรพัตรเปิดประตูพร้อมยื่นมือขอเสื้อจากหญิงสาว
“นี่ค่ะ...คุณพรีมไหวไหมคะเนี่ย...ว้ายยยย” พีรพัตรดึงมือหญิงสาวที่กำลังยื่นเสื้อคืนให้เขาอยู่หน้าห้องแบบที่เธอไม่ทันตั้งตัวและปิดประตูทันทีในตอนนี้เขาควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่แล้ว
ยิ่งชุดที่เธอใส่อยู่ตอนนี้มันก็ช่างปลุกอารมณ์เขาให้พลุ่งพล่านดีเหลือเกินเขาดึงเธอเข้ามาข้างในห้องด้วยแรงดึงของเขาบวกกับที่เท้าเธอเจ็บทำให้หญิงสาวเซถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างง่ายดาย
“คุณพรีมเป็นอะไรคะเนี่ยย” หญิงสาวตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆก็ดึงเธอเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
“ช่วย..ยยผม.มม...ด้วย...ผม..โดน..วางยา”
“อื้ออ” ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านความต้องการในตัวเขามันควบคุมไม่ได้แล้วว่าจบเขาจึงประกบจูบเธออย่างเร่าร้อนและหนักหน่วงทำเอาหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมอกของเขารีบยกกำปั้นทุบหน้าอกแกร่งของเขาเป็นการประท้วง
ปึกๆๆๆ ปึกๆๆๆๆ
ชายหนุ่มดันตัวของหญิงสาวไปที่เตียงของเขาพร้อมทิ้งตัวลงนอนทับเธอบนเตียงนุ่มๆโดยที่หญิงสาวก็ยังดิ้นประท้วงอยู่เมื่อเธอยิ่งดินชุดเกาะอกที่เธอใส่มันก็เผยเห็นเนินอกที่มันใหญ่เกินตัวของเธอชัดขึ้นแขนของชายหนุ่มกอดกะชับตัวคนที่อยู่ข้างล่างไว้อย่างแนบแน่นไม่ยอมให้ดีดดิ้นประท้วงเขาได้
คนตัวเล็กที่อยู่ด้านร่างเริ่มรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกเลยเปิดปากทำให้คนตัวโตได้ฉกฉวยโอกาสแทรกลิ้นเรียวเข้ามาสำรวจในปากอันแสนหวานของเธอทุกซอกทุกมุม
ด้วยชั่วโมงบินที่สูงกว่าของชายหนุ่มก็สามารถเล้าโลมหญิงสาวให้คล้อยตามเขาอย่างว่าง่ายเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มอ่อนลงชายหนุ่มจึงใช้มืออีกข้างรีบถอดชุดของเธอออกไปอย่างง่ายดาย
เขาจูบพรมบนตัวของเธอแทบจะทุกซอกทุกมุมทำให้ร่างบางที่ไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้เพราะไม่เคยหญิงสาวค่อยๆอ่อนลงเรื่อยๆเผลอไผลกับรสสวาทที่วาบหวามของเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้
ตอนนี้หญิงสาวเริ่มกำลังสับสนกับตัวเองที่ในสมองนั้นสั่งให้ขัดขืนคนตัวโตที่รังแกเธออยู่แต่ช่างขัดกับร่างกายเธอเหลือเกินที่ดูจะคล้อยตามเขาทุกอย่าง
ด้วยฤทธิ์ยาที่ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังตักตวงความสุขจากร่างบางรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาเม็ดใสๆไหลออกมาเท่านั้นกว่าเพลิงสวาทของชายหนุ่มจะจบลงก็เล่นเอาหญิงสาวแทบสลบหมดแรงนอนหลับอยู่คาเตียง
หลายชั่วโมงต่อมา ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกินที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และได้กระทำย่ำยีหญิงสาวไร้เดียงสาที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าถึงเขาจะรู้สึกชอบเธอแต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ารักเธอหรือเปล่าแต่ถึงอย่างไรในสมองของเขาเองก็สั่งว่าเธอไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แท้ๆ จากเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปเขารู้ดีว่าเป็นคนแรกของเธอยิ่งทำให้ชายหนุ่มนั้นโกรธตัวเองเข้าไปใหญ่ไม่รู้ว่าเธอตื่นมาจะว่าอย่างไรแต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องรับผิดชอบในตัวเธออย่างแน่นอนเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายพอกล้าทำต้องกล้ารับอยู่แล้ว ชายหนุ่มนอนตะแคงใช้แขนชันหัวจ้องมองร่างบางที่เนื้อตัวเธอมีแต่รอยแดงจากการกระทำของเขายิ่งมองยิ่งรู้สึกสงสารเขาได้แต่คิดโทษตัวเองอยู่พักใหญ่แล้วซุกตัวใช้แขนแกร่งของเขานอนกอดด้านหลังเธออย่างทะนุถนอมแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปเช้าวันต่อมา พีรพัตรรู้สึกตัวตื่นก็ใช้มือควานหาร่างบางที่เขานอนกอดเมื่อคืนแต่เมื่อพบกับความว่างเปล่าเขาจึงลืมตาขึ้นเขามองหาหญิงสาวไปทั่วห้องก็ไม่มีวี่แววของเธอไม่รู้ว่าเธอออกไปตอนไหนและหวังในใจว่าเธอคงยังไม่หนีเขาไปไหนเพราะเขายั
“แต่งงานเหรอแก้วไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่รักแก้วเด็ดขาดการแต่งงานมันต้องเกิดจากความรักเมื่อไม่เคยรักกันแต่งกันไปเดี๋ยวก็มีปัญหากันอยู่ดี” ที่หญิงสาวพูดออกมามันก็จริงอยู่ที่ไม่ได้รักกันแต่งงานกันไปมันก็คงจะไม่มีความสุขอยู่ดีเพราะตอนนี้ชายหนุ่มเองก็ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ว่ารักหญิงสาวหรือเปล่าหรือแค่ชอบเท่านั้น“มันก็จริงอย่างที่คุณพูดถึงผมจะยังให้คำตอบคุณไม่ได้ว่าผมรักคุณหรือเปล่าแต่ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบคุณ” คำตอบจากปากของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวน้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้รู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลกๆตอนที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักเธอที่เขามาดูแลเธอก็คงอยากที่จะรับผิดชอบกับการกระทำของเขาเท่านั้นเธอรู้สึกโมโหตัวเองที่เมื่อคืนยอมเผลอไผลไปกับเขาอย่างลืมตัวลืมอายมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของตัวเองให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเลยสักนิด“คุณไม่ต้องรับผิดชอบแก้วหรอกในเมื่อเราไม่ได้รักกันแก้วจะถือว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นความผิดพลาดที่เราไม่ได้ตั้งใจต่อไปนี้เรื่องระหว่างคุณกับแก้วขอให้ลืมมันไปคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ลูกแก้วกลั้นใจพูดแบบนั้นออกไปเพราะคิดว่าที่เขาจะรับผิดชอบเธอเพราะรู้สึกผิดเท่านั้นถ้
3 เดือนผ่านไป17.50 น.“พี่สาครับลูกแก้วกลับไปแล้วเหรอครับ” พีรพัตรที่พึ่งออกมาจากห้องประชุมเขาเหลือบมองไปที่ห้องของลูกแก้วซึ่งเคยเป็นห้องของสาวิตรีมาก่อนพบว่าไฟปิดลงเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าวันนี้หญิงสาวกลับไปแล้วแต่ก็อยากรู้ว่าหญิงสาวกลับไปเมื่อไรจึงเอ่ยถามสาวิตรี“ค่ะพึ่งกลับไปเมื่อสักพักนี้เองค่ะ”“ครับงั้นผมกลับก่อนนะครับ”“ค่ะคุณพรีม..เอ่อคุณพรีมคะช่วยดูอาการของลูกแก้วหน่อยก็ดีนะคะพี่เห็นลูกแก้วมักจะวูบๆอยู่บ่อยๆน่ะค่ะพี่บอกให้ไปหาหมอตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมไปค่ะ”“งั้นเหรอครับโอเคครับเดี๋ยวผมจะดูเธอให้” สาวิตรีคิดว่าทั้งสองต้องมีปัญหากันตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาแน่นอนทั้งการที่หญิงสาวขอเปลี่ยนตำแหน่งกับเธอและตอนนี้ก็ยังไปกลับที่ทำงานเองอีกด้วยเธอไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องของทั้งสองมากนักแต่เมื่อเห็นอาการของลูกแก้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้เธอคิดว่าถ้าให้พีรพัตรเป็นคนบอกหญิงสาวเธอก็น่าจะฟังบ้างและนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ทั้งสองอาจจะมีโอกาศพูดคุยกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ พีรพัตรเองหลังๆมานี้ก็แอบเห็นอาการของลูกแก้วเหมือนกันแต่เขาไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงเธอเขาพยายามจะเข้าหาเธอหลายรอบแล้ว
20นาทีผ่าน“คุณยังไม่หายคลื่นไส้อีกเหรอ” พีรพัตรเดินสำรวจห้องครัวของหญิงสาวเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นเมื่อตอนเดินกลับมาเขาเองยังได้ยินเสียงของหญิงสาวอาเจียนยังไม่ยอมหยุดเขาเองอยากจะไปดูอาการเธอใกล้ๆแต่ก็กลัวเมื่อเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วอาการของเธอจะหนักขึ้นกว่าเดิมจึงได้แต่ตะโกนถามเธอแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรได้ยินแต่เสียงอาเจียนที่ดังออกมาเท่านั้น เขานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นของเธอสักพักหมอก็มาถึงเมื่อหมอเข้ามาเขาก็เดินพาหมอมาดูอาการของลูกแก้วที่กำลังเป็นตอนนี้ทันที“ช่วยตรวจเธอให้ละเอียดเลยนะครับหมอผมว่าอาการเธอน่าจะหนักอยู่ครับ” หมอและพยาบาลมาประคองลูกแก้วไปนอนที่เตียงและตรวจอาการของเธออย่างละเอียดอีกครั้งหญิงสาวไม่ให้ชายหนุ่มเข้าใกล้หมอเลยให้ชายหนุ่มรออยู่ด้านนอกเพราะยิ่งชายหนุ่มเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้อาการของเธอกำเริบขึ้นมาอีก“ยาที่ผมให้ไว้ยังทานอยู่ไหมครับคุณลูกแก้ว”“ทานอยู่ค่ะแต่ก็ใกล้จะหมดแล้วค่ะ”“งั้นเดี๋ยวหมอให้ยาเพิ่มไว้นะครับ”“ค่ะ”“ยังไงช่วงนี้ก็ทานผักผลไม้เยอะๆนะครับ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวหมอกลับก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะหมอ” ลูกแก้วรู้ดีว่าเมื่อหมอออกไปชา
“พอเลยคุณผมไม่เคยลำบากใจที่จะรับผิดชอบตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ” ชายหนุ่มยืนพูดอยู่ที่ปลายเตียงของหญิงสาวไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เธอเพราะกลัวเธอจะอาเจียนออกมาอีกทั้งที่ในใจอยากเข้าไปกอดปลอบคนที่ร้องให้สะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ใจจะขาด“ฮือๆ..แล้วคุณพรีมคิดอะไรก็บอกแก้วมาสิ….ฮือๆๆ” ร่างบางที่นั่งสะอื้นอยู่ที่เตียงก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ชายหนุ่มคิดยังไงกับเธอกันแน่ก็ตอนนั้นบอกว่าไม่รักแล้วตอนนี้บอกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงอีกเธอสับสนกับคำพูดเขาจริงๆ“คุณหยุดร้องแล้วฟังผมก่อนได้ไหม” พีรพัตรต้องปรามหญิงสาวให้หยุดร้องจะได้คุยกันให้รู้เรื่องสักทีถ้าเธอยังสะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ“แก้วก็อยาก….กก…จะหยุดแต่มัน…..ฮึกๆ…หยุดไม่ได้…ฮือๆ” ลูกแก้วเองก็อยากจะหยุดแต่เมื่อมองหน้าเขาได้ยินคำที่เขาพูดน้ำตาเธอมันก็ไหลออกมาตลอดเธอไม่รู้ว่าจะหยุดมันยังไง“งั้นก็ฟังผมนะ…คือ..ผมรักคุณ…ผมไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไรแต่ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณแต่งงานกับผมเถอะนะ” ในเมื่อเธอไม่หยุดร้องเขาก็บอกรักเธอทั้งๆที่ยังร้องอยู่ละกันเผื่อเธอจะยอมหยุดร้องแล้
“คุณก็รู้นี่ว่าสามีของคุณเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทจะให้ภรรยาตัวเองหยุดทำงานบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปยกอาหารมาให้นะครับ” ชายหนุ่มใช้สองมือดันตัวหญิงสาวจากด้านหลังแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวให้เธอนั่งรอเขาเอาอาหารมาเสริฟ ลุกแก้วเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตาคนที่คุยด้วยเพราะเขินคำพูดที่เขาพูดว่าตัวเองเป็นสามีและเธอป็นภรรยาของเขา เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาดีๆแบบนี้กับชายหนุ่มผู้ชายที่เคร่งขรึมเจ้าระเบียบหน้ายักษ์คนที่เธอเจอครั้งแรกตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธอขอให้เขาเป็นแบบนี้กับเธอตลอดไปไม่ใช่แค่ช่วงที่เป็นโปรโมชั่นเท่านั้น“โหทำไมมันเยอะจังเลยล่ะคะคุณพรีม” ลูกแก้วมองพีรพัตรยกจานอาหารมาให้เธอคราแรกก็คิดว่าหมดแล้วนี่เขายังเดินไปหยิบมาจนเต็มโต๊ะอาหารเธอไม่รู้ว่าอาหารที่เขาทำเธอจะทานได้หรือเปล่าเพราะไอ้อาการแพ้ท้องของเธอนี่แหละจนต้องทำให้เธอทานข้าวต้มกับไข่เค็มอยู่ทุกวันเพราะทานได้แค่นั้น...เธอเคยลองทานอาหารที่เขาบอกว่าดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์หลายต่อหลายอย่างแต่เมื่อตักเข้าปากเท่าไม่ทันได้เคี้ยวเท่าไรก็ต้อง
“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแ
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร