หลายชั่วโมงต่อมา
ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกินที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และได้กระทำย่ำยีหญิงสาวไร้เดียงสาที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าถึงเขาจะรู้สึกชอบเธอแต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ารักเธอหรือเปล่าแต่ถึงอย่างไรในสมองของเขาเองก็สั่งว่าเธอไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แท้ๆ
จากเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปเขารู้ดีว่าเป็นคนแรกของเธอยิ่งทำให้ชายหนุ่มนั้นโกรธตัวเองเข้าไปใหญ่ไม่รู้ว่าเธอตื่นมาจะว่าอย่างไรแต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องรับผิดชอบในตัวเธออย่างแน่นอนเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายพอกล้าทำต้องกล้ารับอยู่แล้ว
ชายหนุ่มนอนตะแคงใช้แขนชันหัวจ้องมองร่างบางที่เนื้อตัวเธอมีแต่รอยแดงจากการกระทำของเขายิ่งมองยิ่งรู้สึกสงสารเขาได้แต่คิดโทษตัวเองอยู่พักใหญ่แล้วซุกตัวใช้แขนแกร่งของเขานอนกอดด้านหลังเธออย่างทะนุถนอมแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไป
เช้าวันต่อมา
พีรพัตรรู้สึกตัวตื่นก็ใช้มือควานหาร่างบางที่เขานอนกอดเมื่อคืนแต่เมื่อพบกับความว่างเปล่าเขาจึงลืมตาขึ้นเขามองหาหญิงสาวไปทั่วห้องก็ไม่มีวี่แววของเธอไม่รู้ว่าเธอออกไปตอนไหนและหวังในใจว่าเธอคงยังไม่หนีเขาไปไหนเพราะเขายังไม่ได้ขอโทษและขอโอกาสรับผิดชอบเธอเลย
ชายหนุ่มรีบลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบเดินมาที่หน้าห้องของลูกแก้วเขาเองยืนทำใจอยู่ที่หน้าห้องของเธอสักพักก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูห้องเรียกเธอ
ก๊อกๆๆๆๆ
“ลูกแก้วคุณอยู่ในห้องหรือเปล่า”
ก๊อกๆๆๆๆ
“ลูกแก้ววว” พอเห็นภายในห้องเงียบเขาจึงถือวิสาสะใช้คีการ์ดสำรองเข้าห้องเธอโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างที่เคยทำเมื่อเดินเข้าห้องมาได้เขาก็เดินเข้าไปที่ห้องนอนของหญิงสาวพบว่าเธอนอนหลับอยู่เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าเธอจะหนีเขาไปแล้วเสียอีก
พีรพัตรเดินไปที่เตียงสังเกตเห็นหญิงสาวหน้าซีดผิดปกติเลยใช้หลังมือไปอังที่หน้าผากของเธอดูพบว่าหญิงสาวมีไข้ขึ้นสูงไม่พ้นคงเป็นผลจากการกระทำของเขาเมื่อคืนแน่ๆเขานี่อยากจะชกหน้าตัวเองชะมัด
“ลูกแก้ว..คุณ..คุณ” พีรพัตรเอื้อมมือหนาเขย่าตัวหญิงสาวพร้อมเรียกชื่อเธอเบาๆ
“อืม..ออก..ไป..” หญิงสาวสลึมสลือลืมตาขึ้นเห็นว่าเป็นใครก็เอ่ยปากไล่เขาเสียงแผ่วเบาเพราะไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมาไล่คนตรงหน้าอย่างที่ใจต้องการ
“คุณไข้ขึ้นเดี๋ยวผมเช็ดตัวให้”
“ม่าย..ต้อง”
“ไม่มีแรงจะพูดแล้วยังจะดื้ออีกนะคุณ” พีรพัตรเห็นอาการของหญิงสาวท่าจะไม่ดีเลยโทรหาหมอให้มาดูอาการของเธอและเช็ดตัวไปพลางๆรอหมอให้ไข้ของเธอทุเลาลงบ้างแต่ยิ่งเห็นหญิงสาวที่กึ่งหลับกึ่งตื่นยังมีแรงพูดไล่เขาอยู่เขาก็ขอบ่นคนจอมดื้อสักนิดนึงที่ป่วยจนไม่มีแรงขัดขืนอะไรเขาอยู่แล้วยังจะดื้อไม่ยอมให้เขาช่วยเธออีก
ลูกแก้วที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงในใจอยากจะไล่เขาออกไปไกลๆเสียให้ได้แต่ด้วยพิษไข้ทำให้เธออ่อนเปี้ยเพลียแรงที่จะต่อต้านตอนนี้เธอก็ทำได้แค่ปล่อยให้เขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวเธอไปก่อนแต่หลังจากที่เธอหายดีแล้วอย่าหวังเลยว่าจะมาแตะตัวเธอได้อีกเลย
พีรพัตรเช็ดตัวเธออยู่พักใหญ่เขาเห็นว่าตัวหญิงสาวเบาตัวร้อนแล้วจึงนั่งรอหมอที่ข้างๆเตียงของเธอชายหนุ่มนั่งจับมือหญิงสาวอยู่ไม่ห่างพลางมองไปที่ใบหน้าของเธอที่ซีดเซียวก็ยิ่งใจไม่ดีรู้สึกใจร้อนรนว่าหมอทำไมถึงไม่มาสักทีเขาจึงหยิบมือถือออกมาโทรตามหมออีกรอบ
ชายหนุ่มนั่งรอหมออีกประมาณสิบนาทีหมอก็มาถึงหมอตรวจอาการของหญิงสาวก็ฉีดยาลดไข้พร้อมกับให้ยาแก้อักเสบและให้ยาแก้ไข้พร้อมกำชับบอกว่าเมื่อเธอตื่นมาให้เธอทานข้าวและทานยาทันทีหมอนั่งรอดูอาการของประมาณครึ่งชั่วโมงเมื่ออุณหภูมิของเธอลดลงเกือบเป็นปกติหมอจึงขอตัวกลับ
“พี่พลอยแก้วหนาว..พี่พลอยย..แม่น้อยแก้วเจ็บ..ฮืออๆๆๆ” พีรพัตรที่นั่งกุมมือเฝ้าร่างบางอยู่นั้นเมื่อได้ยินหญิงสาวละเมอร้องให้ก็ค่อยๆแทรกตัวไปกอดเธอเอาไว้เขาไม่ได้อยากฉวยโอกาศแต่ใจเขาตอนนี้รู้สึกสงสารเธอเหลือเกินเธอคงเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจที่ถูกเขารังแก
“ผมขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยคำขอโทษก่อนจะจุมพิตไปที่กระหม่อมของเธอเบาๆเขากอดหญิงสาวที่นอนละเมออย่างแนบแน่นราวกับเธอจะหนีเขาไปไหนก่อนจะนอนหลับตาอยู่ข้างๆเธออยู่แบบนั้น..ใจเขาตอนนี้อยากจะให้เธอฟื้นจากไข้เร็วๆจะได้ตื่นขึ้นมาฟังเขาขอโทษและขอโอกาสที่จะรับผิดชอบเธอตอนนี้เสียให้ได้ความรู้สึกผิดที่เขาทำต่อเธอตอนนี้มันบีบแน่นอยู่ในหัวใจเขามากมายเหลือเกิน
19.00 น.
“อื้อ..” ลูกแก้วเมื่อรู้สึกตัวก็รู้สึกหนักที่ลำตัวเมื่อตื่นลืมตาขึ้นมาก็เห็นชายหนุ่มที่รังแกเธอเมื่อคืนนอนกอดเธออยู่เธอจึงผลักเขาออกทำให้คนตัวโตรู้สึกตัวต่อขึ้นทันทีที่รับรู้แรงผลัก
“ตื่นแล้วเหรอคุณ” หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามที่ชายหนุ่มถามเธอเอาแต่ผลักใสตัวชายหนุ่มให้ห่างออกไปจากตัวเธอ
“หยุดก่อนคุณ” ชายหนุ่มจับแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวยึดไว้และดึงเธอเข้ามากอดในอ้อมอกเขากอดแน่นไม่ยอมให้หญิงสาวได้ดีดดิ้นไปไหน
“เรื่องเมื่อคืนผมขอโทษผมพร้อมจะรับผิดชอบคุณนะ”
“รับผิดชอบเหรอคุณจะรับผิดชอบยังไง” หญิงสาวถามคนที่กอดเธออยู่เสียงแข็ง
“ผมจะแต่งงานกับคุณ” ชายหนุ่มตอบฉะฉานในเมื่อเขากล้าทำเขาก็ต้องกล้ารับผิดชอบในตัวเธอ
“แต่งงานเหรอแก้วไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่รักแก้วเด็ดขาดการแต่งงานมันต้องเกิดจากความรักเมื่อไม่เคยรักกันแต่งกันไปเดี๋ยวก็มีปัญหากันอยู่ดี” ที่หญิงสาวพูดออกมามันก็จริงอยู่ที่ไม่ได้รักกันแต่งงานกันไปมันก็คงจะไม่มีความสุขอยู่ดีเพราะตอนนี้ชายหนุ่มเองก็ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ว่ารักหญิงสาวหรือเปล่าหรือแค่ชอบเท่านั้น“มันก็จริงอย่างที่คุณพูดถึงผมจะยังให้คำตอบคุณไม่ได้ว่าผมรักคุณหรือเปล่าแต่ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบคุณ” คำตอบจากปากของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวน้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้รู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลกๆตอนที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักเธอที่เขามาดูแลเธอก็คงอยากที่จะรับผิดชอบกับการกระทำของเขาเท่านั้นเธอรู้สึกโมโหตัวเองที่เมื่อคืนยอมเผลอไผลไปกับเขาอย่างลืมตัวลืมอายมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของตัวเองให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเลยสักนิด“คุณไม่ต้องรับผิดชอบแก้วหรอกในเมื่อเราไม่ได้รักกันแก้วจะถือว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นความผิดพลาดที่เราไม่ได้ตั้งใจต่อไปนี้เรื่องระหว่างคุณกับแก้วขอให้ลืมมันไปคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ลูกแก้วกลั้นใจพูดแบบนั้นออกไปเพราะคิดว่าที่เขาจะรับผิดชอบเธอเพราะรู้สึกผิดเท่านั้นถ้
3 เดือนผ่านไป17.50 น.“พี่สาครับลูกแก้วกลับไปแล้วเหรอครับ” พีรพัตรที่พึ่งออกมาจากห้องประชุมเขาเหลือบมองไปที่ห้องของลูกแก้วซึ่งเคยเป็นห้องของสาวิตรีมาก่อนพบว่าไฟปิดลงเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าวันนี้หญิงสาวกลับไปแล้วแต่ก็อยากรู้ว่าหญิงสาวกลับไปเมื่อไรจึงเอ่ยถามสาวิตรี“ค่ะพึ่งกลับไปเมื่อสักพักนี้เองค่ะ”“ครับงั้นผมกลับก่อนนะครับ”“ค่ะคุณพรีม..เอ่อคุณพรีมคะช่วยดูอาการของลูกแก้วหน่อยก็ดีนะคะพี่เห็นลูกแก้วมักจะวูบๆอยู่บ่อยๆน่ะค่ะพี่บอกให้ไปหาหมอตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมไปค่ะ”“งั้นเหรอครับโอเคครับเดี๋ยวผมจะดูเธอให้” สาวิตรีคิดว่าทั้งสองต้องมีปัญหากันตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาแน่นอนทั้งการที่หญิงสาวขอเปลี่ยนตำแหน่งกับเธอและตอนนี้ก็ยังไปกลับที่ทำงานเองอีกด้วยเธอไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องของทั้งสองมากนักแต่เมื่อเห็นอาการของลูกแก้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้เธอคิดว่าถ้าให้พีรพัตรเป็นคนบอกหญิงสาวเธอก็น่าจะฟังบ้างและนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ทั้งสองอาจจะมีโอกาศพูดคุยกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ พีรพัตรเองหลังๆมานี้ก็แอบเห็นอาการของลูกแก้วเหมือนกันแต่เขาไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงเธอเขาพยายามจะเข้าหาเธอหลายรอบแล้ว
20นาทีผ่าน“คุณยังไม่หายคลื่นไส้อีกเหรอ” พีรพัตรเดินสำรวจห้องครัวของหญิงสาวเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นเมื่อตอนเดินกลับมาเขาเองยังได้ยินเสียงของหญิงสาวอาเจียนยังไม่ยอมหยุดเขาเองอยากจะไปดูอาการเธอใกล้ๆแต่ก็กลัวเมื่อเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วอาการของเธอจะหนักขึ้นกว่าเดิมจึงได้แต่ตะโกนถามเธอแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรได้ยินแต่เสียงอาเจียนที่ดังออกมาเท่านั้น เขานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นของเธอสักพักหมอก็มาถึงเมื่อหมอเข้ามาเขาก็เดินพาหมอมาดูอาการของลูกแก้วที่กำลังเป็นตอนนี้ทันที“ช่วยตรวจเธอให้ละเอียดเลยนะครับหมอผมว่าอาการเธอน่าจะหนักอยู่ครับ” หมอและพยาบาลมาประคองลูกแก้วไปนอนที่เตียงและตรวจอาการของเธออย่างละเอียดอีกครั้งหญิงสาวไม่ให้ชายหนุ่มเข้าใกล้หมอเลยให้ชายหนุ่มรออยู่ด้านนอกเพราะยิ่งชายหนุ่มเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้อาการของเธอกำเริบขึ้นมาอีก“ยาที่ผมให้ไว้ยังทานอยู่ไหมครับคุณลูกแก้ว”“ทานอยู่ค่ะแต่ก็ใกล้จะหมดแล้วค่ะ”“งั้นเดี๋ยวหมอให้ยาเพิ่มไว้นะครับ”“ค่ะ”“ยังไงช่วงนี้ก็ทานผักผลไม้เยอะๆนะครับ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวหมอกลับก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะหมอ” ลูกแก้วรู้ดีว่าเมื่อหมอออกไปชา
“พอเลยคุณผมไม่เคยลำบากใจที่จะรับผิดชอบตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ” ชายหนุ่มยืนพูดอยู่ที่ปลายเตียงของหญิงสาวไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เธอเพราะกลัวเธอจะอาเจียนออกมาอีกทั้งที่ในใจอยากเข้าไปกอดปลอบคนที่ร้องให้สะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ใจจะขาด“ฮือๆ..แล้วคุณพรีมคิดอะไรก็บอกแก้วมาสิ….ฮือๆๆ” ร่างบางที่นั่งสะอื้นอยู่ที่เตียงก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ชายหนุ่มคิดยังไงกับเธอกันแน่ก็ตอนนั้นบอกว่าไม่รักแล้วตอนนี้บอกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงอีกเธอสับสนกับคำพูดเขาจริงๆ“คุณหยุดร้องแล้วฟังผมก่อนได้ไหม” พีรพัตรต้องปรามหญิงสาวให้หยุดร้องจะได้คุยกันให้รู้เรื่องสักทีถ้าเธอยังสะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ“แก้วก็อยาก….กก…จะหยุดแต่มัน…..ฮึกๆ…หยุดไม่ได้…ฮือๆ” ลูกแก้วเองก็อยากจะหยุดแต่เมื่อมองหน้าเขาได้ยินคำที่เขาพูดน้ำตาเธอมันก็ไหลออกมาตลอดเธอไม่รู้ว่าจะหยุดมันยังไง“งั้นก็ฟังผมนะ…คือ..ผมรักคุณ…ผมไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไรแต่ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณแต่งงานกับผมเถอะนะ” ในเมื่อเธอไม่หยุดร้องเขาก็บอกรักเธอทั้งๆที่ยังร้องอยู่ละกันเผื่อเธอจะยอมหยุดร้องแล้
“คุณก็รู้นี่ว่าสามีของคุณเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทจะให้ภรรยาตัวเองหยุดทำงานบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปยกอาหารมาให้นะครับ” ชายหนุ่มใช้สองมือดันตัวหญิงสาวจากด้านหลังแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวให้เธอนั่งรอเขาเอาอาหารมาเสริฟ ลุกแก้วเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตาคนที่คุยด้วยเพราะเขินคำพูดที่เขาพูดว่าตัวเองเป็นสามีและเธอป็นภรรยาของเขา เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาดีๆแบบนี้กับชายหนุ่มผู้ชายที่เคร่งขรึมเจ้าระเบียบหน้ายักษ์คนที่เธอเจอครั้งแรกตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธอขอให้เขาเป็นแบบนี้กับเธอตลอดไปไม่ใช่แค่ช่วงที่เป็นโปรโมชั่นเท่านั้น“โหทำไมมันเยอะจังเลยล่ะคะคุณพรีม” ลูกแก้วมองพีรพัตรยกจานอาหารมาให้เธอคราแรกก็คิดว่าหมดแล้วนี่เขายังเดินไปหยิบมาจนเต็มโต๊ะอาหารเธอไม่รู้ว่าอาหารที่เขาทำเธอจะทานได้หรือเปล่าเพราะไอ้อาการแพ้ท้องของเธอนี่แหละจนต้องทำให้เธอทานข้าวต้มกับไข่เค็มอยู่ทุกวันเพราะทานได้แค่นั้น...เธอเคยลองทานอาหารที่เขาบอกว่าดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์หลายต่อหลายอย่างแต่เมื่อตักเข้าปากเท่าไม่ทันได้เคี้ยวเท่าไรก็ต้อง
“อืม..ยัยหนู” แผ่นดินรู้สึกตัวตื่นเพราะแรงฝ่ามือของลูกสาวที่กำลังตีหน้าเขาอยู่จึงใช้แขนทั้งสองข้างรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเขามากอดไว้บนอกและเริ่มการทำโทษลูกสาวด้วยการใช้ไรหนวดฟัดไปที่แก้มพองๆก่อนจะพลิกตัวกลับมาฟัดที่พุงกลมๆของเจ้าก้อนอีกที“อร๊าย...แอ้.เฮ่อๆ”“พอแล้วค่ะพี่พอลเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้วค่ะลูกหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว” พลอยไพลินที่เห็นคนเป็นสามีกำลังแกล้งลูกสาวหัวเราะจนจะไม่มีเสียงอยู่แล้วจึงส่งเสียงปรามคนตัวโตซะหน่อย“โถ่พลอย..ก็พลอยปล่อยให้ยัยหนูแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะ”“พี่พอลจะมาโทษพลอยไม่ได้นะคะก็พี่พอลตื่นสายเองพลอยก็เลยปล่อยให้ยัยหนูก็เลยปลุกเท่านั้นเองค่ะ” พลอยไพลินแสร้งพูดก่อนจะอมยิ้มแล้วมองไปทางอื่น“พี่รู้สึกมึนๆหัวน่ะพลอยพี่ขอนอนต่ออีกสักพักนะ” วันนี้แผ่นดินรู้สึกมึนหัวอ่อนล้าอ่อนเพลียผิดปกติเขาเลยตื่นสายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพักก็อาการก็คงจะดีขึ้นเอง“พี่พอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะไปหาหมอดีไหม” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีหน้าซีดผิดปกติแถมยังบ่นว่ามึนหัวขอนอนต่ออีกเธอเห็นท่าไม่ดีเพราะปกติเธอก็ไม่เคยเห็นคนที่แข็งแรงแ
30 นาทีต่อมา“อาการของลูกชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ตอนนี้ในห้องมีทั้งพิไลดวงแขและพลอยไพลินรอฟังอาการของชายหนุ่มอยู่ข้างๆเตียงหลังจากหมอตรวจเสร็จคนเป็นแม่ของคนนอนป่วยก็เอ่ยปากถามหมอทันทีเพราะอยากรู้อาการของลูกชายตัวเองที่ตอนนี้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเต็มทน“เอ่อ...จากที่ผมตรวจอาการของคุณพอลไม่มีอะไรผิดปกตินะครับแต่ถ้าฟังจากที่พวกคุณเล่ามาผมคงต้องขอตรวจคุณพลอยแทนนะครับ”“คะ....ตรวจฉันเหรอคะ” พลอยไพลินมีสีหน้าที่สงสัยอยู่ดีๆหมอก็จะขอตรวจเธอทั้งๆที่เธอสบายดี“ครับ....ผมขอถามคุณพลอยว่าประจำเดือนคุณขาดกี่เดือนแล้วครับ” หลังจากที่ได้ยินคำถามจากคุณหมอหญิงสาวเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้วนี่นา“เอ่อ...น่าจะสองเดือนแล้วค่ะ”“งั้นผมว่าอาการที่คุณพอลเป็นน่าจะแพ้ท้องแทนภรรยาแล้วหละครับเคสแบบนี้ผมเจอมาบ่อยน่าจะไม่พลาดนะครับ” พลอยไพลินถึงกับยิ้มหน้าบานอย่างตื้นตันว่าเธอกำลังจะมีน้องให้ยัยหนูอีกคนนึงแล้ว“ยังไงผมขอนัดคุณพลอยไปตรวจและฝากครรภ์ทีโรงพยาบาลได้เลยนะครับส่วนคุณพอลคงต้องให้ยาไปตามอาการถ้าเรียบร้อยแล้วหมอขอตัวนะครับ”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หลังจากหมอตรวจเสร็จเรียบร
“ตายแล้วคุณพี่น้องจะเป็นลม”“คุณแม่/คุณแม่” ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วเมื่อเห็นอาการไม่ดีของพิไลก็รีบโผเข้ามาดูอาการอยู่ใกล้ๆ“ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณแม่เสียใจ” พีรพัตรรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเกือบจะเป็นลมเพราะตนเองทำให้ผูเป็นแม่เสียใจจึงเอ่ยขอโทษออกมา“เสียใจอะไรกันล่ะตาพรีมแม่ดีใจมากต่างหากล่ะ...น้องจะมีหลานกับเค้าแล้วค่ะคุณพี่” พิไลที่ดีใจจนเกือบเป็นลมเพราะได้ลูกสะใภ้สมใจแล้วอยู่ดีๆก็ได้หลานมาด้วยเธอจึงหันไปคุยอวดผู้เป็นพี่สาวว่าจะมีหลานยกใหญ่“แล้วนี่ท้องได้กี่เดือนแล้วจ้ะลูกแก้ว” พลอยไพลินที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็นั่งยิ้มดีใจกับน้องสาวของตนที่จะมีครอบครัวและมีคนที่ดีๆดูแลซะที“สี่เดือนแล้วค่ะพี่พลอยไม่โกรธแก้วใช่ไหมคะที่แก้วไม่ได้บอกพี่พลอยก่อน”“พี่จะโกรธทำไมพี่รู้ว่าลูกแก้วเป็นคนมีเหตุผลพี่ดีใจน้าที่น้องสาวพี่มีคนดีๆอย่างคุณพรีมดูแล” สองพี่น้องโอบกอดกันภาพตอนนี้ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น“ดีจังเลยนะครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกตั้งสองคนแน่ะ” ดวงแขคราแรกก็ตกใจกับเรื่องที่พีรพัตรโพล่งพูดออกมารวดเดียวแต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับคู่เธอดีใจที่