“เอ่อ…พี่วิน” จอมขวัญเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็จำได้ทันทีว่าเป็นพี่ชายที่เธอเฝ้าคิดถึงเขาอยู่ตลอดถึงแม้เวลามันจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตามดวงตาอ่อนโยนคู่นี้เธอยังจำมันได้ดี
เมื่อจอมขวัญหันไปเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็จำได้ทันทีว่าเป็นพี่ชายที่เธอเฝ้าคิดถึงเขาอยู่ตลอดถึงแม้เวลามันจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตามดวงตาคู่นั้นเธอยังจำมันได้ดี
“พี่วิน..นี่ขวัญเองจำขวัญได้ไหม..โอ้ยย..” จอมขวัญที่ดีใจจนลืมเจ็บหญิงสาวรีบดันตัวเองลุกขึ้นเพื่อที่จะเข้าไปหาชายหนุ่มแต่ก็ยังไม่ทันยืนได้สุดตัวก็ต้องล้มลงไปอีกยังดีที่ชายหนุ่มช่วยรับไว้ทันตอนนี้หน้าของทั้งสองใกล้กันจนจอมขวัญอยู่ดีๆก็ถึงกับหน้าแดงหายใจผิดจังหวะดื้อๆเอาซะงั้นก็พี่วินของเธอไม่ใช่เด็กชายธาวินแบบเมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นเด็กๆกันอยู่นี่ตอนนี้คนตรงหน้าเธอทั้งหล่อทั้งล่ำแล้วก็ยังดูดีมากๆอีกด้วย
“เจ็บตรงไหนบอกพี่มาซิ”
“ขวัญเจ็บที่ข้อเท้าค่ะพี่วิน”
“แล้วนี่มากับใครทำไมถึงมาเดินอยู่ตรงนี้คนเดียวไม่รู้เหรอว่ามันอันตราย”
“ว้ายย..” ธาวินอุ้มหญิงสาวขึ้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะดูจากแผลที่ข้อเท้าแล้วเธอคงเดินเองไม่ไหวแน่ๆ
“พี่วินจะอุ้มขวัญก็บอกกันก่อนสิคะตกใจหมดเลย” ธาวินไม่ได้โต้ตอบอะไรแค่อมยิ้มให้กับเธอเท่านั้น
“เอ่อ…..แล้วพี่วินไปอยู่ไหนมาคะทำไมไม่ติดต่อหาพวกเราบ้างเลยรู้ไหมขวัญคิดถึงพี่วินมากที่สุดเลย” จอมขวัญกระชับกอดคนที่อุ้มเธออยู่ทำเอาชายหนุ่มต้องหยุดเดินกระทันหันไม่คิดว่าหญิงสาวจะมากอดเขาแบบนี้คิดในใจว่าเธอไม่รู้บ้างหรือไงว่าเธอน่ะโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วจะมากอดผู้ชายสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้แต่ก็แปลกที่หัวใจของเขากลับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อโดนคนในอ้อมแขนนั้นกระชับกอด
“พี่วินหยุดทำไมคะ”
“เอ่อ…….พี่จะถามว่าขวัญมากับใครเมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบพี่เลย”
“อ่อ ..แก้วลืมไปเลยมัวแต่ดีใจที่ได้เจอพี่วิน..คือแก้วมากับคุณแม่แล้วก็คุณป้าพี่พอลกับพี่พรีมก็มาด้วยนะคะมากันเยอะเลยค่ะอยู่ที่น้ำตกน่ะค่ะ”
“โอเค” ธาวินจำหญิงสาวได้ตั้งแต่เธอเดินมาตั้งแต่แรกแต่เพราะเขาเองไม่อยากเจอใครในตอนนี้และไม่อยากให้ใครรู้ด้วยว่าเขากลับมาอยู่ที่นี่แต่เพราะเห็นหญิงสาวหกล้มด้วยความเป็นห่วงเขาเองจึงต้องออกมาช่วยเธอเหมือนที่เขาทำเป็นประจำเมื่อตอนเด็กๆเขาเองจะดูแลเธออย่างดีเมื่อโดนแกล้งหรือโดนพี่ชายของเธอดุจะเป็นเขาที่คอยปกป้องและปลอบใจเธอเวลาที่ร้องให้
“อ้าวนั่นใครอุ้มยัยขวัญมาน่ะตาพรีม..ไปดูน้องหน่อยซิลูก” พีรพัตรหันไปมองตามเสียงที่ผู้เป็นแม่ของตนบอกเมื่อชายหนุ่มหันไปเห็นคนที่อุ้มน้องสาวของตนเดินมาทางด้านนี้อยู่เขารู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้เหลือเกินแต่ทำไมคิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
“ยัยขวัญเป็นอะไร....ปล่อยเธอมาให้ผม” พีรพัตรรีบเดินไปหาคนที่ยืนอุ้มน้องของตนเองอยู่แล้วขออุ้มน้องสาวของเขาเองเพราะถ้าปล่อยให้ชายแปลกหน้าอุ้มน้องสาวของเขานานมันจะดูไม่ดีอีกอย่างเขาเองก็หวงน้องสาวของเขาด้วย
ธาวินส่งจอมขวัญให้กับพีรพัตรเขาเดินตามชายหนุ่มที่อุ้มน้องสาวมาวางที่เตียงสนามที่แผ่นดินพึ่งเอามากางเมื่อสักครู่นี้
“ไม่เจอกันนานเลยนะพรีมนายก็ดูหล่อขึ้นเยอะเลยนะพอล” ธาวินเอ่ยทักทายสองหนุ่มจนตอนนี้ทั้งสองทำหน้างงจ้องหน้ากันไปมาอย่างสงสัยแล้วก็พลันนึกออกในทันทีว่าชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มาใหม่คนนี้เป็นใคร
“เฮ้ยยวิน/วิน”
“นายไปอยู่ที่ไหนมาไม่เห็นติดต่อพวกเราบ้างเลย” แผ่นดินเป็นฝ่ายเริ่มเปิดประเด็นเอ่ยถามเรื่องที่เขาคาใจมานานกับธาวิน
“จริงด้วยขวัญถามพี่วินเมื่อกี้พี่วินยังไม่ได้ตอบขวัญเลย” จอมขวัญเมื่อรู้ว่าแผ่นดินอยากรู้เรื่องที่เธออยากรู้เหมือนกันเธอจึงเอ่ยเสริม
ดวงแขเดินมาดูจอมขวัญกับพิไลคราแรกก็ไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มที่อุ้มหลานสาวตนมานั้นเป็นใครแต่เมื่อได้ยินที่ทั้งสามคุยกันก็นึกออกทันทีเด็กชายคนนั้นลูกของวารีที่ขายขนมอยู่ใกล้ๆกับไร่ของเธอนั่นเองเมื่อครั้งนั้นที่เธอรู้ข่าวว่าวารีเสียชีวิตเธอเองก็ยังอยู่ที่ไร่นี้อยู่เหมือนกันตอนแรกเธอคุยกับสามีเธอว่าจะรับเด็กชายมาเลี้ยงเพราะเห็นว่าไม่มีญาติที่ไหนแต่เมื่อรู้ว่ามีญาติมารับเด็กชายไปเลี้ยงแล้วเธอก็สบายใจ
“อ้าวนี่วินลูกวารีเองเหรอโตขึ้นแล้วหล่อไม่เบาเลยนะเราแล้วหายไปไหนมาซะตั้งนานล่ะ”
“นี่วินเหรอเนี่ยตายแล้วโตขึ้นฉันจำไม่ได้เลยนะเนี่ยรู้ไหมน้องตอนนั้นชอบงอแงว่าจะมาเที่ยวที่ไร่มาเล่นกับพี่วินท่าเดียวเลย”
ทั้งดวงแขและพิไลเมื่อรู้ว่าเป็นเด็กชายวินเมื่อตอนนั้น..ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้วหล่อจนจำไม่ได้ต่างก็เอ่ยชมกันยกใหญ่พิไลยังเล่าเรื่องที่จอมขวัญเอาแต่ร้องหาเด็กชายอีกด้วย
“คือตั้งแต่ที่แม่ผมเสียคุณป้าผมก็รับไปอยู่ด้วยที่อิตาลีน่ะครับคุณหญิง……พอดีคุณลุงสามีคุณป้าท่านมีบริษัทอยู่ที่อิตาลีผมเลยได้เรียนที่นั่นพอเรียนจบก็อยู่ช่วยงานพวกท่านสักพักแล้วก็ขอกลับมาอยู่ที่นี่ครับ”
“อย่างนี้นี่เองงั้นคุยกันต่อเถอะพวกฉันไม่กวนแล้วแล้วนี่ขายัยขวัญเป็นอย่างไรบ้างพิไล”
“ทายาสักหน่อยคงหายบวมน่ะค่ะคุณพี่” พิไลตอบผู้เป็นพี่ขณะที่นั่งทายาที่ขาของลูกสาวเธออยู่
“งั้นเราไปดูยัยหนูกันเถอะปล่อยให้เด็กๆได้คุยกัน”
“ค่ะคุณพี่”
เมื่อจำกันได้ทั้งสามก็ยืนคุยกันพักใหญ่จงบจนเป็นเวลาเย็นธาวินจึงขอตัวกลับโดยบอกทุกคนว่าต้องไปทำธุระต่อทำเอาจอมขวัญหน้าหงิกหน้างอยกใหญ่เพราะไม่อยากให้ธาวินกลับ
หลังจากธาวินกลับไปแล้วทุกคนก็เตรียมตัวกลับกันทันทีเพราะยัยหนูชมพูก็เริ่มจะไม่สบายตัวงอแงแล้วด้วยก็เด็กหญิงตัวกลมเอาแต่เล่นทั้งวันไม่ยอมนอนพักพอหมดฤทธิ์ก็เริ่มงอแง พอทุกคนกลับมาถึงบ้านนมนิดก็เตรียมจัดโต้ะอาหารทันทีเพราะเมื่อทุกคนทานเสร็จก็จะได้รีบพักผ่อนเพราะดูท่าคงเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วแผ่นดินและพลอยไพลินขอตัวไปพักก่อนด้วยเห็นว่ายัยหนูน่าจะทั้งง่วงและเพลียมากแล้ว“พี่พอลคะช่วยหยิบทิชชู่เปียกข้างนอกให้พลอยหน่อยสิคะในลิ้นชักในห้องมันหมดแล้วค่ะ”“นี่ครับ..ลูกหลับแล้วเหรอพลอย” แผ่นดินเดินไปหยิบของให้พลอยไพลินก่อนจะเอ่ยปากถามเพราะเมื่อกี้ยังเห็นพลอยไพลินให้นมเจ้าก้อนอยู่ตอนนี้กลับอุ้มลงเปลเสียแล้ว“ค่ะ”“สงสัยยัยหนูคงเหนื่อยวันนี้เล่นทั้งวันแล้วพลอยล่ะเหนื่อยไหม”“อืมก็ไม่เหนื่อยเท่าไรค่ะ.ว๊ายยยยเล่นอะไรคะเนี่ย” จะไม่ให้หญิงสาวตกใจได้อย่างไรเพราะจู่ๆคนเป็นสามีก็เล่นกระโจนเข้ามากอดเธออย่างไม่ทันตั้งตัวฟอดดด “แก้มเมียพี่หอมที่สุดในโลกเลยยยยยยย”“หืมมมคนบ้า” พลอยไพลินที่โดนผู้เป็นสามีกอดหอมอยู่ถึงกับหน้าแดงเขินทำอะไรไม่ถูก“ไหนๆวันนี้พลอยก็ไม่เหนื่อยมากแล้วงั้นวันนี้เรามาทำน้องให้ยั
“แล้วขวัญไม่ทานด้วยกันเหรอ”“ทานสิคะ” ทั้งสองทาข้าวต้มกันไปคุยกันไปตอนนี้ดูคนจะอารมณ์ดีที่สุดก็น่าจะเป็นจอมขวัญเพราะยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยอมหุบทำเอาชายหนุ่มรู้สึกเกร็งขึ้นบ้างบางครั้งที่หันไปสบตากับเธอ...ถึงตอนเด็กๆจะสนิทกันเล่นด้วยกันได้ทุกอย่างแบบไม่คิดอะไรแต่ใช่ว่าโตมาแล้วเขาจะไม่หวั่นไหวกับคนตรงหน้านี้หรอกนะก็ดูน้องสาวจอมแก่นของเขาตอนนั้นสิโตขึ้นมาไม่คิดว่าจะสวยน่ารักขนาดนี้นี่นา“เอ่อ..วันนี้ขวัญขออยู่ที่นี่ทั้งวันเลยนะคะ”“ไม่ได้หรอกขวัญ...คือวันนี้พี่มีนัดกับเพื่อนน่ะ” ธาวินคิดไว้แล้วว่าเธอต้องมาแบบนี้ตอนเด็กๆเป็นยังไงโตมาก็เป็นแบบนั้นเลยเขาให้เธออยู่ที่นี่ไม่ไดเพราะวันนี้เขามีนัดกับวิเวียนชายหนุ่มจะให้วิเวียนเห็นหญิงสาวอยู่ที่นี่ไม่ได้.. วิเวียนเป็นผู้หญิงที่นิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจถ้าเธอเห็นจอมขวัญอยู่ที่นี่เธอต้องไม่พอใจแน่ๆอาจจะทำร้ายจอมขวัญด้วยซ้ำเขาไม่อยากให้จอมขวัญได้รับอันตรายไม่อย่างนั้นถ้าป็นแบบที่เขาคิดจริงเขาต้องทนไม่ได้ที่จอมขวัญโดนทำร้ายแล้วแผนของเขาที่วางเอาไว้คงไม่ราบรื่นแน่“เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งที่บ้านนะจะได้ไม่ต้องเดินให้เมื่อย”“งั้นขวัญอยู่ด้วยได
17.00 น.“อะไรนะ……ยัยขวัญจะยังไม่กลับ” พีรพัตรที่กำลังเตรียมตัวเก็บของกลับพรุ่งนี้เมื่อได้ยินที่น้องสาวตนเองบอกว่าไม่กลับก็ดุน้องสาวเป็นการใหญ่“ค่ะ..ขวัญขออยู่ที่นี่สักพักนะคะคุณป้า” จอมขวัญหลบหน้าพี่ชายของเธอมายืนกอดหลังดวงแขเพื่อขอความช่วยเหลือโดยด่วน“น้องโตแล้วนะตาพรีมให้น้องอยู่ที่สักพักเถอะเดี๋ยวป้าดูแลเองไม่ต้องห่วง” ดวงแขเมื่อเห็นหลานสาวอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพักเลยช่วยพูดให้เธอเองรู้ว่าหลานชายของเธอทั้งหวงทั้งห่วงน้องสาวแต่ก็น่าจะรู้ได้ว่าน้องสาวน่ะโตแล้วดูแลตัวเองได้แล้วควรที่จะเลิกหวงซะที“แต่คุณป้าครั....”“เอาเถอะน่าตาพรีมเดี๋ยวน้องอยากกลับก็กลับเองแหละจริงอย่างที่ป้าลูกบอกน้องน่ะโตแล้วเราก็เลิกหวงน้องซะทีเถอะ” พิไลชักเริ่มไม่ไหวกับอาการหวงน้องสาวของลูกชายซะแล้วจากเมื่อก่อนที่เห็นว่าจอมขวัญเด็กจริงๆพี่ชายจะหวงก็ไม่แปลกแต่นี่ลูกสาวเธอก็โตจนถึงวัยทำงานแล้วแต่ก็ยังหวงไม่เลิกเธอจึงคิดว่าต้องปรามลูกชายบ้างซะแล้วเพราะมัวหวงอยู่อย่างนี้มีหวังไม่ได้เห็นลูกสาวตัวเองแต่งงานมีครอบครัวแน่ๆเพราะถ้าหวังจากลูกชายของเธอจะมีครอบครัวคงยาก“ก็ได้ครับ...แต่ถ้าทำตัวไม่ดีผมมารับกลับไปแ
ในห้องนอนของทั้งคู่ตอนนี้มีเสียงครางปนความสุขของทั้งคู่ดังออกมาเบาๆไม่นานภารกิจทำน้องให้ยัยหนูชมพูก็เสร็จสิ้นและผ่านไปด้วยดีชายหนุ่มโอบกอดคนเป็นภรรยาที่นอนหมดแรงเพราะพึ่งผ่านศึกรักที่หนักหน่วงของเขาอยู่ข้างๆมากอดไว้แล้วหลับไปพร้อมกับเธอเช้าวันต่อมาคอนโด XXXX ลูกแก้วและพีรพัตรกลับจากไร่บดินทร์เดชากันตั้งแต่เช้าตรู่ทั้งสองกลับกันมาแค่สองคนโดยคุณหญิงพิไลบอกว่าจะขออยู่ที่นี่กับจอมขวัญสักพักโดยพีรพัตรเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยเลยไม่ได้ว่าอะไร เมื่อทั้งสองกลับมาถึงคอนโดต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันพักผ่อนทันทีเพราะพรุ่งนี้ทั้งพีรพัตรและลูกแก้วต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศกันแต่เช้าRrrrrrrrrrrr ลูกแก้วที่วันนี้เพลียจากการนั่งเครื่องกลับมาเมื่อวานและบวกกับการนอนดึกเพราะมัวจัดกระเป๋าเดินทางอยู่ทำให้หญิงสาวนอนตื่นสายเป็นพิเศษเธอตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้นึกขึ้นได้ทันทีว่าวันนี้เธอต้องเดินทางแต่เช้า“ค่า....คุณพรีม”“คุณอีก10นาทีเจอกันข้างล่างนะผมเรียกรถมารับแล้ว”“โอเคค่ะ” ลูกแก้วตอบตกลงคนที่โทรตามโดยที่ยังไม่ได้เตรียมอะไรหลังจากวางสายได้เธอก็เตรียมตัวอาบน้ำทันทีอย่าเรียก
“ค่ะคุณพี่น้องน่ะเอ็นดูหนูแก้วเหมือนลูกสาวคนนึงถ้าตาพรีมได้หนูแก้วเป็นภรรยาน้องก็หมดห่วงค่ะ” พิไลถึงแม้จะคิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างเพราะถ้าเป็นเรื่องจริงมีหรือที่ทั้งสองจะปิดกันเงียบไม่มีพิรุทได้ขนาดนี้แต่ในใจก็ภาวนาอยากจะให้ทั้งสองลงเอยกันจริงๆซะเหลือเกิน“หนูแก้วก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของพี่คนนึงนะจะสู้ค่าสินสอดที่พี่เรียกไหวเหรอ” ดวงแขแกล้งหยอกน้องสาวของตนที่ดูอยากจะได้ลูกสาวคนเล็กของเธอเป็นสะใภ้ซะเหลือเกิน“เท่าไรน้องก็สู้ค่ะคุณพี่”“ฮ่าๆๆ” ว่าจบทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน กว่าพีรพัตรและลูกแก้วจะมาถึงอเมริกาแล้วไหนกว่าจะนั่งรถมาถึงโรงแรมที่พักอีกก็ใช้เวลาไปเป็นวันลูกแก้วที่พึ่งเคยนั่งเครื่องเป็นครั้งแรกแล้วยังนั่งเป็นเวลานานอีกต่างหากเธอจึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเหมือนจะเป็นไข้พอมาถึงโรงแรมเธอก็ขอตัวพักผ่อนทันที“เดี๋ยวแก้วขอกินยาแล้วนอนพักสักครู่คงเบาแล้วค่ะ....คุณพรีมจะออกไปตอนไหนก็โทรหาแก้วได้เลยนะคะ” ลูกแก้วที่นั่งกุมหัวอยู่บนโซฟาในห้องหันมาบอกกับพีรพัตรเธอคิดว่าถ้านอนพักอีกนิดอาการคงดีขึ้นอีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้อาการป่วยของเธอทำให้เสียงานด้วย“ไม่เป็นไร
“เอาน่าร้านนี้แหละคุณเดี๋ยวผมนั่งรอ....ช่วยแต่งตัวให้เธอได้เลยนะครับ” พีรพัตรขี้เกียจยืนเถียงกับเธอเลยถือโอกาสเรียกเด็กในร้านมาพาเธอไปลองชุดแต่งตัวก่อนที่เธอจะยืนเถียงกับเขานานไปกว่านี้หลังจากส่งหญิงสาวให้ไปแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเขาเองก็ให้ช่างเลือกชุดเปลี่ยนใส่ไปงานคืนนี้ใช้เวลาไม่นานมากเขาก็แต่งตัวเสร็จ คนตัวโตก็นั่งรอหญิงสาวประมาณสองชั่วโมงได้และแล้วเธอก็เดินออกมาวินาทีที่หญิงสาวปรากฏตัวตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มถึงกับละสายตาไม่ได้ชุดที่เธอใส่เป็นชุดราตรีเกาะอกสีขาวเหลือบมุขยาวพอดีตัวกระโปรงแหวกข้างสูงบวกกับหน้าผมที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รองเท้ากระเป๋าที่มาเป็นเซ็ตเข้ากับชุดซึ่งพอมันอยู่บนตัวเธอแล้วมันยิ่งหน้ามองละด้วยหุ่นทรวดทรงของเธอที่เหมาะกับชุดนี้อย่างมากทำให้เธอดูสวยสะดุดตาจนเขาแทบละสายตาไม่ได้“คุณพรีมคะ....คุณพรีมมมม...”“เอ่อ....เสร็จแล้วเหรองั้นเราไปกันเลยงานจะเริ่มแล้ว”“ค่ะ” พีรพัตรหลุดจากภวังค์จากเสียงเรียกของหญิงสาวเขารีบยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานเมื่อจัดการเสร็จแล้วเขาก็ไปที่งานทันที ไม่นานมากทั้งสองก็มาถึงงานในเวลาที่งานใกล้จะเริ่ม“คุณพรีมคะรอแก้วด้วยค่ะ”ลูก
“ให้ผมช่วยดูเท้าให้ไหมครับดูมันเริ่มบวมแล้วนะครับ” ลูกแก้วเห็นเจคอปกำลังก้มลงดูที่เท้าของเธอหญิงสาวก็หันหนีเพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดีอีกอย่างเธอก็พึ่งรู้จักกับเขาจะมาถึงเนื้อถึงตัวกันมันทำให้เธอไม่สบายใจที่จะให้ช่วยเท่าไร“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวนั่งอีกสักพักคงหายปวดค่ะ”“งั้นเดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนนะครับ”“ได้ค่ะ” ทั้งเจคอปและลูกแก้วนั่งคุยกันสักพักพีรพัตรก็เดินออกจากในงานมาเมื่อเห็นว่าลูกแก้วอยู่กับใครเขาถึงกับควันออกหูอุตส่าห์ให้เธอมานั่งรอหน้างานจะได้ไม่ไปเจอพวกเสือพวกตะเข้ที่ในงานแล้วยังมิวายมาเจอนอกงานอีกคนที่เธอนั่งอยู่ด้วยเป็นเพื่อเขาก็จริงแต่ก็ได้ชื่อว่าตัวพ่อเรื่องผู้หญิงเหมือนกัน“กลับกันเถอะคุณ”“เอ่อ..” พีรพัตรเดินเข้าดึงมือลูกแก้วที่กำลังนั่งอยู่โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวทำเอาเธองงเล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปไหนเหมือนกัน“ไงเพื่อนไม่เจอกันนานเลยนะ”“อืม..ฉันกลับก่อนนะ” เจคอปเห็นพีรพัตรเดินเข้ามาด้วยอาการไม่พอใจก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เขาห้ามยุ่งเขาจึงรู้สึกเสียดายนิดหน่อยแต่ผู้หญิงในสต็อคของเขามีให้เลือกมากมายอยู่แล้วพลาดคนนี้ไปก็ไม่เห็นเป็นไร“คุณพรีมเดินช้าๆหน่อยสิคะแก้วเ
หลายชั่วโมงต่อมา ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกินที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และได้กระทำย่ำยีหญิงสาวไร้เดียงสาที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าถึงเขาจะรู้สึกชอบเธอแต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ารักเธอหรือเปล่าแต่ถึงอย่างไรในสมองของเขาเองก็สั่งว่าเธอไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แท้ๆ จากเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปเขารู้ดีว่าเป็นคนแรกของเธอยิ่งทำให้ชายหนุ่มนั้นโกรธตัวเองเข้าไปใหญ่ไม่รู้ว่าเธอตื่นมาจะว่าอย่างไรแต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องรับผิดชอบในตัวเธออย่างแน่นอนเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายพอกล้าทำต้องกล้ารับอยู่แล้ว ชายหนุ่มนอนตะแคงใช้แขนชันหัวจ้องมองร่างบางที่เนื้อตัวเธอมีแต่รอยแดงจากการกระทำของเขายิ่งมองยิ่งรู้สึกสงสารเขาได้แต่คิดโทษตัวเองอยู่พักใหญ่แล้วซุกตัวใช้แขนแกร่งของเขานอนกอดด้านหลังเธออย่างทะนุถนอมแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปเช้าวันต่อมา พีรพัตรรู้สึกตัวตื่นก็ใช้มือควานหาร่างบางที่เขานอนกอดเมื่อคืนแต่เมื่อพบกับความว่างเปล่าเขาจึงลืมตาขึ้นเขามองหาหญิงสาวไปทั่วห้องก็ไม่มีวี่แววของเธอไม่รู้ว่าเธอออกไปตอนไหนและหวังในใจว่าเธอคงยังไม่หนีเขาไปไหนเพราะเขายั