Share

บทที่สามสิบเก้า

“ค่ะคุณพี่น้องน่ะเอ็นดูหนูแก้วเหมือนลูกสาวคนนึงถ้าตาพรีมได้หนูแก้วเป็นภรรยาน้องก็หมดห่วงค่ะ”  พิไลถึงแม้จะคิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างเพราะถ้าเป็นเรื่องจริงมีหรือที่ทั้งสองจะปิดกันเงียบไม่มีพิรุทได้ขนาดนี้แต่ในใจก็ภาวนาอยากจะให้ทั้งสองลงเอยกันจริงๆซะเหลือเกิน

“หนูแก้วก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของพี่คนนึงนะจะสู้ค่าสินสอดที่พี่เรียกไหวเหรอ”  ดวงแขแกล้งหยอกน้องสาวของตนที่ดูอยากจะได้ลูกสาวคนเล็กของเธอเป็นสะใภ้ซะเหลือเกิน

“เท่าไรน้องก็สู้ค่ะคุณพี่”

“ฮ่าๆๆ”  ว่าจบทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

   กว่าพีรพัตรและลูกแก้วจะมาถึงอเมริกาแล้วไหนกว่าจะนั่งรถมาถึงโรงแรมที่พักอีกก็ใช้เวลาไปเป็นวันลูกแก้วที่พึ่งเคยนั่งเครื่องเป็นครั้งแรกแล้วยังนั่งเป็นเวลานานอีกต่างหากเธอจึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเหมือนจะเป็นไข้พอมาถึงโรงแรมเธอก็ขอตัวพักผ่อนทันที

“เดี๋ยวแก้วขอกินยาแล้วนอนพักสักครู่คงเบาแล้วค่ะ....คุณพรีมจะออกไปตอนไหนก็โทรหาแก้วได้เลยนะคะ”  ลูกแก้วที่นั่งกุมหัวอยู่บนโซฟาในห้องหันมาบอกกับพีรพัตรเธอคิดว่าถ้านอนพักอีกนิดอาการคงดีขึ้นอีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้อาการป่วยของเธอทำให้เสียงานด้วย

“ไม่เป็นไรหรอกวันนี้คุณไม่ต้องไปเป็นเพื่อนผมหรอกคืนนี้คุณนอนพักก่อนก็ได้เดี๋ยวผมไปคุยงานกับหุ้นส่วนเอง”  พีรพัตรที่เห็นอาการของหญิงสาวแล้วก็รู้เลยว่าเธอไปคุยงานกับเขาคืนนี้ไม่ไหวแน่ๆอีกอย่างเขาก็ตั้งใจว่าจะไม่ให้เธอไปอยู่แล้วเพราะหุ้นส่วนของเขานัดเจอกันในคลับหรูที่ดูไม่ปลอดภัยสำหรับเธอเท่าไรแล้วหุ้นส่วนคนนี้ก็ดูจะเป็นเสือผู้หญิงซะด้วยสิ

“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวละกันนะคุณพักผ่อนเถอะ.....มีอะไรโทรเรียกผมได้ตลอดเลยนะคุณ”

“ขอบคุณค่ะ”

20.00 น.

คลับหรู

“Hi….พรีม”  เจมส์ที่พึ่งเดินเข้าคลับมากับเลขาสาวสวยของเขาเมื่อเห็นพีรพัตรนั่งรออยู่แล้วเขาจึงเดินเข้าไปทักทายทันที

“หวัดดีเจมส์”  พีรพัตรรีบลุกขึ้นทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มยินดี

“นี่เลขาของผมเอมม่า”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“เช่นกันค่ะ”   เจมส์แนะนำหญิงสาวที่เป็นเลขาของเขาให้กับพีรพัตรได้รู้จักเธอยื่นมือให้เขาเป็นการทักทายพร้อมส่งสายตาโปรยเสน่ห์แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพียงแต่กล่าวทักทายและรีบหลบสายตาลงไม่อยากทำให้เธอรู้สึกว่าเขาอยากที่จะสานต่อ

“คุณยังเป็นคนตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะวันนี้คุณมาคนเดียวเหรอผมคิดว่าจะมีเลขาสาวสวยมาด้วยซะอีก”

“พอดีเธอป่วยนิดหน่อยน่ะครับผมเลยให้เธอพัก”

“งั้นเหรอครับ....งั้นเราเริ่มคุยงานกันเลยดีกว่า”

“ครับ”  ทั้งสองคุยงานกันราวๆชั่วโมงได้จากนั้นเจมส์ก็เริ่มชวนพีรพัตรดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อยเมื่อพีรพัตรดื่มพอเป็นพิธีแล้วจึงขอตัวกลับเพราะรู้สึกเป็นห่วงคนที่กำลังป่วยอยู่ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะดีขึ้นหรือยังในใจตอนนี้อยากอยู่ดูแลเธอเหลือเกินแต่ติดว่าต้องมาคุยงานนั่นเอง

    หลังจากคุยงานเรียบร้อยแล้งพีรพัตรก็กลับถึงที่โรงแรมโดยใช้เวลาไม่นานนักเขารีบเข้ามาดูลูกแก้วทันทีไม่ต้องแปลกใจเลยที่ทำไมเขาเข้าห้องเธอได้ก็เพราะเขาเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของโรงแรมที่นี่เพียงเขาขอคีการ์ดสำรองกับพนักงานเท่านั้น

   เมื่อเขาเปิดห้องมาก็พบว่าหญิงสาวนอนหลับอยุ่ภายใต้แสงสลัวๆของโคมไฟที่หัวเตียงเขาดึงผ้าห่มที่มันล่วงลงข้างล่างขึ้นมาห่มให้เธอนึกเอ็นดูคนตรงหน้าเวลานอนนิ่งๆแล้วน่ารักอย่างบอกไม่ถูกก่อนที่เขาจะค่อยๆใช้ปลายนิ้วสัมผัสไปที่แก้มของเธอ

   จากนั้นไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่เขารู้สึกว่าแก้มของเธอตอนนี้มันน่าหอมซะเหลือเกินเขาจึงก้มตัวกดจมูกไปที่แก้มนวลครู่ใหญ่จะว่าเขาเมาก็ไม่ใช่เพราะเขาก็ไม่ได้ดื่มเยอะขนาดนั้นที่ทำไปเพราะใจมันสั่งให้เขาทำล้วนๆเขารู้ว่าหญิงสาวคงหลับเพราะฤทธิ์ยาไม่อย่างนั้นเธอคงตื่นมาโวยวายตั้งแต่ที่เขาเปิดประตูเข้าห้องเธอมาแล้ว

   หลังจากพีรพัตรนั่งมองหน้าคนที่นอนหลับอยู่จนพอใจเขาก็กลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องของตัวเองชายหนุ่มยิ้มให้ตัวเองเบาๆไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะมาลักหลับหอมแก้มผู้หญิงที่ดูกะโปโลได้

   เขาไม่รู้ว่าเขาเองเริ่มสนใจเธอตั้งแต่เมื่อไรแต่เมื่อนึกถึงตั้งแต่ที่มีเธอเข้ามาป่วนในชีวิตถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นานแต่ก็ทำให้เขามีรอยยิ้มมากขึ้นและรู้สึกสบายใจทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ๆกับเธอแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยลงรอยกันก็ตาม

วันต่อมา

Rrrr

“ดีขึ้นหรือยังคุณ”  ลูกแก้วที่พึ่งเดินออกจากห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์พอเห็นชื่อว่าเป็นใครเธอจึงกดรับแต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็โพล่งถามออกมาก่อน

“เอ่อ.....แก้วโอเคแล้วค่ะคุณพรีมมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“โอเคก็ดีแล้ว....ผมจะบอกคุณว่าเย็นนี้ผมจะพาคุณออกไปข้างนอกอีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”

“โอเคค่ะ”  ทั้งสองใช้เวลาประมาณชั่วโมงก็มาถึงห้างดังพีรพัตรบอกกับลูกแก้วว่าจะพามาเลือกซื้อชุดที่ต้องใส่ออกงานคืนนี้ทำเอาหญิงสาวแอบบ่นเขาเป็นการใหญ่ที่ไม่บอกล่วงหน้าว่าจะพาเธอออกงาน

“ช่วยแต่งตัวให้เธอพร้อมไปงานคืนนี้ด้วยครับขอแบบดูดีที่สุดเท่าไรผมพร้อมจ่าย”

“ได้เลยค่ะ”  พีรพัตรพาลูกแก้วเดินเข้าชอปเสื้อผ้าแบรนด์หรูและเดินไปสั่งพนักงานให้แต่งตัวให้กับเธอพอลูกแก้วเห็นป้ายราคาชุดแต่ละชุดเธอก็ถึงต้องกับรีบดึงแขนพีรพัตรมาคุยส่วนตัวแบบเบาๆ

“คุณพรีมคะนี่มันแพงมากเลยนะคะแก้วไม่มีปัญญาจ่ายหรอกค่ะ”

“ไม่ต้องห่วงคุณเดี๋ยวผมจ่ายให้”

“ถึงคุณจะจ่ายให้แก้วก็ว่ามันแพงเกินไปอยู่ดีค่ะเราไปเลือกดูร้านอื่นที่ถูกกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status