Share

ตอนที่สิบเจ็ด ความลับในไดอารี่

ไม่นานนักทั้งสามก็ออกจากบ้านไปตอนนี้พรฟ้าตัดสินใจถึงเรื่องของตะวันฉายดีแล้วว่าเธอจะบอกกับฟาทิทเรื่องที่ตะวันฉายเป็นลูกของเขาหลังจากที่เขากลับมาเพราะเมื่อคืนพรฟ้าได้รู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดอย่างไรกับเธอเมื่อฟาทิทรู้สึกดีกับเธอความกลัวที่จะถูกพรากลูกหายไปปลิดทิ้ง

ส่วนตัวเธอเองก็รู้สึกดีกับเขาไม่น้อยเวลาหลังจากนี้หากเขาเสมอต้นเสมอปลายคงไม่ยากที่เธอจะมอบใจให้เขาเต็มร้อยและตะวันฉายก็จะได้มีพ่อและแม่ครบครอบครัวที่สมบูรณ์

สามวันต่อมา

ฟาทิทจัดการประชุมที่บริษัทในตุรกีเรียบร้อยเขาจึงเดินทางมาที่ซาอุดิอาราเบียเพื่อมาดูแลความเรียบร้อยที่แท่นขุดเจาะน้ำมันพอมาถึงเขาก็ต้องเจอกับเรื่องปวดหัวเพราะพนักงานหลายคนที่นี่ดันป่วยพร้อมกันจนงานเกิดปัญหา

ฟาทิทยืนเท้าเอวอย่างหัวเสียตรงหน้าผู้จัดการที่นี่ในห้องประชุมตอนนี้เขาโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์จึงสั่งให้ผู้จัดการหาคนมาเสริมให้เร็วที่สุด

"เฮ้อ...หาคนมาแทนให้เร็วที่สุด"

"ครับนาย"

ผู้จัดการหนุ่มได้ยินเช่นนั้นจึงรีบไปจัดการทันทีไม่รู้ว่าทำไมเหล่าพนักงานถึงต้องมาป่วยพร้อมกันในวันที่เจ้านายมาที่นี่ได้

“หืม...”

ในส่วนของโรฮานที่เดินตรวจตราดูความเรียบร้อยตามแท่นขุดเจาะจนมาถึงห้องเก็บของเขาตามดูพนักงานชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจเงียบๆจนได้มาเห็นว่าชายคนนี้กำลังติดตั้งวัตถุระเบิดเขาจึงรีบเข้ามาขัดขวางได้ทันเวลาและลากตัวคนผิดเข้ามาหาฟาทิทในห้อง

"ใครสั่งแกมา”

ฟาทิทกัดฟันกรอดนั่งอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่น่าจะอ่อนกว่าเขาสักสิบปีได้เขาคิดว่าการที่พนักงานป่วยหลายๆคนพร้อมกันคงจะไม่ใช่อุบัติเหตุแต่มีคนจงใจให้เขามัวแต่สนใจกับพนักงานที่ป่วยมากกว่าความเรียบร้อยของที่นี่แต่พวกมันประมาทเขาเกินไป

"ไม่มีใครสั่งผมทำของผมเอง"

"คิดว่าฉันโง่เชื่อนายงั้นเหรอ...ซ้อมมันจนกว่ามันจะยอมบอก"

ฟาทิทยิ้มมุมปากที่ดูอีกฝ่ายจะดูว่าเขาโง่เกินคนที่จะเชื่อผู้ร้ายด้วยคำตอบคำแรกเขาให้โรฮานและมัคซิมนั่งซ้อมคนร้ายจนกว่ามันจะปริปากพูดออกมา

ประเทศไทย

เย็นของวัน

พรฟ้าขับรถออกจากบ้านมาที่ร้านอาหารในตัวเมืองคนเดียวที่เธอต้องเสี่ยงออกมาแบบนี้ก็เพราะเมื่อช่วงบ่ายเธอได้รัยสายจากคนๆหนึ่งซึ่งอ้างกับเธอว่าเขาเป็นคนของฉวีวรรณและรู้เรื่องเธอกับตะวันฉายทุกอย่างและอยากจะคุยกับหญิงสาวด่วนที่สุด

"คุณพิศาลมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ"

เมื่อมาถึงที่ร้านพรฟ้าก็ได้เจอกับชายคนไทยวัยกลางคนดูภูมิฐานน่าเชื่อถือพอสมควรเมื่อทักทายกับอีกฝ่ายแนะนำตัวกันเรียบร้อยเธอจึงโพร่งถามเขาทันทีถึงความสงสัยภายใจใจเพราะไม่ใช่ว่าเขาจะมาทวงตะวันฉายคืนให้กับฟาทิทตอนนี้เธออยากจะเป็นคนบอกเรื่องตะวันฉายกับฟาทิทจากปากเองเมื่อเขากลับมามากกว่า

"ผมเป็นคนของคุณฉวีวรรณลูกของคุณคือลูกของคุณฟาทิท...ผมรู้มาตลอดว่าคุณอุ้มท้องลูกของคุณฟาทิทแต่ก็ไม่ได้ปริปากบอกใครเพราะเห็นว่าคุณเลี้ยงลูกเองคงจะดีแล้วเพราะหากลูกคุณอยู่กับคุณฟาทิทเค้าก็จะไม่มีเวลาให้ลูกเช่นกัน..."

"เรื่องนี้ฉันก็พึ่งรู้เหมือนกันค่ะ...เมื่อตอนที่รักษาตัวให้เค้าและได้อยู่บ้านเดียวกัน..ฉันไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้"

"แล้วคุณได้บอกคุณฟาทิทถึงความจริงของเรื่องนี้แล้วหรือยัง"

"ยังค่ะ"

หญิงสาวส่ายหัวเบาๆ

"ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากให้คุณบอก...เพราะผมรู้ว่ายังไงคุณก็ต้องถูกกีดกันจากลูกแน่นอน...ผมรู้ดีว่าคุณฟาทิทเป็นคนที่เก่งเรื่องธุรกิจแต่เขาเป็นคนที่ไม่อยากมีครอบครัวคุณลองคิดดูเอาว่าชีวิตของคนที่มีแต่งานอย่างเขาจะมีเวลาสนใจลูกแค่ไหนถ้าได้ลูกไปอยู่กับตัวแล้ว"

คำพูดของพิศาลทำเอาหญิงสาวเริ่มโลเลในใจอีกครั้งเพราะเป็นคำที่ผู้ใหญ่เตือนทั้งเขายังเป็นคนของฉวีวรรณคงไม่น่าจะคิดร้ายกับเธอในส่วนของฟาทิทเธอเองก็ไม่ได้เชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นเช่นกันว่าอยากจะมีครอบครัวจริงหรือไม่หรือเพียงแค่ความใกล้ชิดที่ผ่านมาทำให้เขาเผลอใจไปเท่านั้น

"ยังไงคุณก็ลองคิดเอา...ผมขอตัว"

พิศาลว่าจบก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งสีหน้าเจื่อนคิดไม่ตกอยู่คนเดียวพิศาลมั่นใจว่าอย่างไรพรฟ้าคงต้องเลือกลูกอยู่แล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงมาจนป่านนี้

21.00 น.

ตอนนี้สองพี่น้องนั่งปรึกษากันด้วยความกลัดกลุ้มอีกครั้งหลังจากที่พรฟ้าได้คุยกับพิศาลเมื่อเย็นพลอยฝนเองก็ไม่รู้จะเชียร์ให้พี่สาวของเธอเลือกทางไหนดีเลย

"จะเอายังไงล่ะทีนี้"

พลอยฝนนั่งถอนหายใจเมื่อรับรู้ปัญหาของคนเป็นพี่

"ตอนนี้พี่คิดว่าเราควรจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดหากคุณฟาทิทยังไม่รู้สักวันเค้าก็ต้องรู้"

พรฟ้าเห็นทีจะเชื่อฝั่งผู้ใหญ่เสียมากกว่าในเมื่อสิ่งที่พิศาลพูดมามันก็มีเค้ามูลความจริงเขาเป็นคนที่งานรัดตัวขนาดนั้นจะมีเวลาที่ไหนดูแลครอบครัวจริงจังเธอเองก็ลืมคิดและที่เขาขอเธอเป็นแฟนอาจจะเพราะเคลิ้มไปเพราะความใกล้ชิดก็เป็นได้ดีที่ตอนคืนนั้นเธอเองไม่ตัดสินใจบอกความจริงเขาไปเสียก่อน

"แต่ในเมื่อคุณฟาทิทก็มีความรู้สึกดีๆให้พี่ฟ้าอนาคตถ้าพี่ฟ้าและคุณฟาทิทจะรักกันมันก็ดีไม่ใช่เหรอคะ"

"พี่ไม่แน่ใจอะไรกับคุณฟาทิทร้อยเปอร์เซ็นเพราะพึ่งรู้จักกันไม่นาน...แต่ถ้าเค้ารู้ว่าตะวันเป็นลูกเค้าสิ่งที่แน่นอนก็คือเค้าต้องทวงตะวันคืน...และพี่ก็คงยอมไม่ได้"

ตอนนี้เหมือนพรฟ้าจะตัดสินใจได้แน่วแน่แล้วว่าเธอจะเอาอย่างไรเธอจะใช้ช่วงเวลาที่ฟาทิทไม่อยู่หายไปจากชีวิตของเขาเอง

วันต่อมา

อังการา

หลังจากที่เค้นคำตอบจากคนร้ายที่แท่นขุดเจาะเมื่อวานจนได้รู้คำตอบว่าเป็นอัสลานกรรมการผู้จัดการในองค์กรของฟาทิทเองเป็นคนสั่ง

วันนี้เขาเลยรีบกลับมาที่ตุรกีเพื่อมาสะสางความผิดทุกอย่างกับอัสลานชายวัยห้าสิบที่เป็นคนทำงานเก่าตั้งแต่รุ่นพ่อของเขาและฟาทิทก็ไม่เคยคิดว่าคนที่สนิทชิดเชื้อดูภักดิ์ดีกับคนเป็นพ่อจะกล้าสั่งการทุกอย่างเพื่อปลิดชีวิตของเขา

"อืม.."

อัสลานที่ร่างกายสะบักสะบอมเพราะถูกเฟอฮัทซ้อมมาก่อนหน้าแล้วตอนนี้เขาก็นอนฟุบอยู่กับพื้นในโกดังร้างแห่งหนึ่งที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของบริษัทในเครือตระกูลเอดิซ

"เรื่องที่มีคนตามฆ่าฉันที่ไทยก็ฝีมือแกใช่หรือเปล่า"

ฟาทิทจ่อปากกระบอกปืนไปที่อัสลานด้วยอารมณ์ของความโมโหสุดขีดเขาตวาดจนฝาดก้องไปทั่วโกดังไม่ใช่เพียงตัวของเขาที่อัสลานอยากจะปลิดชีวิตแต่หากระเบิดที่แท่นขุดเจาะระงับไว้ไม่ทันไม่รู้เลยว่าจะเสียหายต่อบริษัทเท่าไร

"ยอมรับไปสิว่าแกเป็นคนทำอัสลาน"

เฟอฮัทเห็นอัสลานยังคงเงียบเขาจึงเริ่มเอ่ยเสียงแข็งให้อีกฝ่ายได้เกรงกลัว

"ใช่..ฉันทำที่ทำก็เพราะ..."

ปั้งง..  ยังไม่ทันที่อัสลานจะพูดจบประโยคลูกกระสุนปืนจากมือเฟอฮัทก็ฝังอยู่ที่กะโหลกของอัสลานจนหมดลมหายใจไปแล้ว

"คุณอา..."

ฟาทิทที่ยังไม่ทันได้คำตอบว่าจริงหรือไม่จริงก็ต้องตกใจเมื่อคนเป็นอาดันฆ่าอัสลานไปเสียก่อน

"คนทรยศแบบนี้ไม่ต้องให้มันพูดเหตุผลอะไรทั้งนั้นตายไวๆแบบนี้ดีแล้ว"

เฟอฮัทดูจะไม่ได้เสียดายชีวิตอัสลานแม้แต่น้อยเพราะคนที่ทรยศกับเอดิซไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้นาน

คฤหาสน์เอดิซ

หลังจากสะสางกับศรัตรูไปอีกหนึ่งฟาทิทก็กลับมาที่คฤหาสน์ของเขาที่นานๆจะกลับมาครั้งเพราะปกติแล้วเขาจะมีบ้านอยู่อีกเมืองที่ห่างจากอังการาพอสมควร

เขานั่งดื่มอยู่จนดึกทั้งยังรู้สึกเบื่อเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ตั้งอยู่บนความระแวงแม้นจะรู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนคิดปองร้ายเพราะอำนาจในมือของเขามันเหลือล้นจนมีคนมากมายอยากที่จะช่วงชิงไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่างและต้องได้สิ่งนั้นไว้คนเดียว

เขาเคยคิดอยากจะมีพี่น้องเหมือนคนอื่นเอาไว้ปรึกษากันแต่นั่นก็เป็นได้แค่ความคิดเขาไม่มีโอกาสได้มีแม้นแต่เพื่อนฝูงยังน้อยนิดนัก

หลังจากดื่มเรียบร้อยแล้วร่างสูงก็เดินเหินด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายเข้ามาในห้องนอนที่ไม่ได้นอนมานานมากเกือบห้าปีได้เขามาที่นี่แต่ละครั้งก็มาหาคนเป็นพ่อเท่านั้นแล้วจึงกลับไปนอนบ้านหลังจากที่พ่อของเขาเสียก็ไม่ค่อยได้เข้ามาอีกเลย

ร่างสูงถอดชุดสูทราคาแพงพาดไว้หน้าห้องน้ำและเสื้อผ้าตัวอื่นจนเหลือตัวล่อนจ้อนโชว์แผงกล้ามเนื้อหนังที่มีแต่กล้ามเนื้อไม่มีไขมันออกจนหมดก่อนจะเข้าไปนอนแช่น้ำพักใหญ่กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ปาไปกลางดึก

ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดกางเกงนอนตัวเดียวทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มหลับตาก่อนจะเอื้อมมือปิดโคมไฟแต่มือของเขาก็ไปถูกอะไรบางอย่างล่วงไปเสียก่อน

ฟึ่บบ..

"หืม..."

ดวงตาสีครามมองไปยังซองสีน้ำตาลที่หล่นอยู่กับพื้นเขาลืมไปเสียสนิทว่าเขาเอาของของคุณยายจากวันที่ทนายมอบให้หลังจากคุณยายเขาเสียมาเก็บไว้ที่นี่เพราะตอนนั้นความเสียใจทำให้เขาไม่พร้อมที่จะเปิดดู

มือหนาค่อยๆบรรจงแกะซองสีน้ำตาลออกก่อนจะหยิบสมุดเล่มหนึ่งออกมาสมุดเล่มนี้มีสีน้ำตาลเป็นสมุดปกแข็งฟาทิทคิดว่าคงจะเป็นไดอารี่ของคนเป็นยายเพราะตอนเด็กๆปกติเขาจะเห็นคุณยายของเขานั่งเขียนก่อนนอนอยู่เป็นประจำ

มือหนาค่อยๆเลื่อนเปิดไปเรื่อยๆหน้าแรกๆด็คงจะเป็นชีวิตประจำวันเสียส่วนใหญ่พอหลังๆเขาก็เริ่มเห็นว่าคุณยายของเขาเริ่มเขียนถึงครั้งที่ไปขอร้องให้เขามีลูกจนมาถึงหน้าที่เขาเจอกับรูปภาพของพรฟ้าที่แปะอยู่

"คุณฟ้า"

ข้อความ : นี่หนูฟ้าคนที่ฉันอยากจะให้อุ้มท้องลูกของหลานชายฉันหนูฟ้าเป็นคนดีมากๆแม้นฉันจะไม่ยอมบอกว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกของใครเธอก็ไม่เคยคิดจะอยากรู้แม้แต่นิดเดียว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status