"เอ่อ..เรียบร้อยแล้วไปกันเถอะครับ"
"ค่ะคุณพ่อ"
เมื่อเห็นใบหน้าหวานมองมาทางเขาชายหนุ่มร่างสูงที่ใส่สูทสีดำเซ็ทผมเผ้าเนี้ยบก็รีบละสายตาไปทางอื่นก่อนจะเข้ามาอุ้มลูกสาวตัวกลมของตัวเองออกจากห้องไป
ขณะที่รถยนต์คันหรูสีดำที่มีฟาทิทเป็นคนขับแล่นอยู่บนท้องถนนพรฟ้าที่นั่งข้างๆคนขับเธอก็เอาแต่นั่งกังวลเพราะไม่รู้ว่าต่อไปเธอจะต้องเจอกับอะไรจนฟาทิทต้องลดความเร็วของรถลงก่อนจะเอียงหน้าเข้ามากระซิบกระซาบข้างๆใบหน้าหวานเบาๆเพื่อไม่ให้ลูกสาวตัวกลมที่นั่งอยู่บนคาซีทด้านหลังได้ยิน
"ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยถ้าคุณทำผมเสียหน้าผมจะไม่เปิดโอกาสให้คุณได้อยู่กับตะวันอีกเลยแล้วก็จะไม่รับรองความปลอดภัยของน้องสาวคุณด้วย"
พรฟ้าไม่ได้โต้ตอบเพียงแค่มองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่พอใจกลับไปที่เอาแต่ขู่เธอเท่านั้นหากไม่มีตะวันฉายอยู่ใกล้ๆเธอคงตอกกลับเขาไปบ้างแล้ว
บริษัทXXX
ไม่นานนักทั้งสามก็มาถึงบริษัทฟาทิทอุ้มตะวันฉายไว้ในอ้อมอกส่วนพรฟ้าเขาก็เดินจูงมือเธอไม่ปล่อยจนคนในบริษัทต่างก็จับจ้องประธานใหญ่กันเป็นตาเดียวเพราะอยากรู้ว่าคนที่ประธานใหญ่พามาด้วยคือใครกันแน่
ในส่วนของพรฟ้าเองดูจะประหม่าไม่น้อยเพราะทุกคนที่เธอเดินผ่านไม่มีสักคนที่ไม่จับจ้องสายตามาทางเธอเห็นจะเป็นตะวันฉายคนเดียวที่ดูจะตื่นเต้นตื่นตากับการเจอคนใหม่ๆสถานที่ใหม่ๆอยู่คนเดียว
“คุณกับลูกรอผมอยู่ที่นี่ก่อน”
ฟาทิทพาทั้งสองมาที่ห้องทำงานของเขาและบอกให้เธอรออยู่ที่นี่เพราะเขาต้องเข้าประชุมถึงแผนงานของบริษัทก่อนหลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาที่เขาจะเปิดตัวเธอกับหุ้นส่วนทุกคน
พรฟ้ามองตามหลังคนที่เดินออกจากห้องไปพรางหันกลับมาดูคนเป็นลูกสาวที่เมื่อคนเป็นพ่อปล่อยลงได้ก็วิ่งเล่นสำรวจรอบห้องในหัวของพรฟ้าตอนนี้คิดไม่ออกเลยจริงๆว่าฟาทิทต้องการให้เธอเล่นบทภรรยาของเขาเพื่ออะไร
ห้องประชุม
การประชุมแผนงานกับหุ้นส่วนผ่านไปร่วมชั่วโมงจนทุกอย่างเสร็จสิ้นเวลานี้ก็ถึงเวลาที่ฟาทิทจะต้องแนะนำตัวคนสองคนให้หุ้นส่วนของเขาชายหนุ่มเดินไปตามพรฟ้าและอุ้มตะวันฉายเข้ามาในห้องประชุมเพื่อที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการ
"นี่คือพรฟ้าภรรยาของผมส่วนนี่ตะวันฉายลูกสาวของผมและไม่นานผมก็มีแพลนจะมีทายาทเพิ่ม...ทุกคนสบายใจได้นะครับว่าอนาคตบริษัทจะไม่มีความมั่นคงเพราะจะมีวิกฤตตอนเปลี่ยนผ่านคนคุมอำนาจ"
สิ้นเสียงของฟาทิทเหล่าหุ้นส่วนผู้หลักผุ้ใหญ่ต่างก็มีสีหน้าที่ตกใจไปตามๆกันเพราะไม่คิดว่าฟาทิทจะมีครอบครัวแล้วเพราะเขาไม่เคยเปิดเผยแถมยังหน้าชาเพราะถูกตอกหน้าเรื่องที่พวกเขาคิดถึงวิกฤตกาลในวันหน้า
ในส่วนของพรฟ้าเองเธอได้แต่ยืนข่มอารมณ์นิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกเพราะเข้าใจแล้วว่าฟาทิทพาเธอกับลูกมาที่นี่เพื่ออะไรจากคำที่ว่า ”ทุกคนสบายใจได้นะครับว่าอนาคตบริษัทจะไม่มีความมั่นคงเพราะจะมีวิกฤตตอนเปลี่ยนผ่านคนคุมอำนาจ"
ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่เคยห่วงความปลอดภัยของลูกเลยสักนิดแต่เขาห่วงหน้าที่การงานของเขามากกว่าตอนนี้หญิงสาวจึงทำได้แค่ฝืนยิ้มแห้งๆตามมารยาทให้กับผู้คนที่ฟาทิทแนะนำให้รู้จักเท่านั้น
ตกดึก
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
หลังจากที่พรฟ้ากล่อมตะวันฉายจนหลับไปแล้วเธอจึงเดินออกลงมาจากห้องนอนเพื่อที่จะคุยกับฟาทิทเรื่องที่เธอรู้สึกไม่สบายใจหวังว่าเขาจะฟังเธอบ้างเพราะเรื่องที่เธอจะคุยเป้นเรื่องของความปลอดภัยของตะวันฉาย
“นั่งสิ..”
ฟาทิทนั่งดื่มไวน์คิดอะไรเพลินๆเขาจึงเปรยสายตาให้หญิงสาวนั่งฝั่งตรงข้ามเห็นว่าเธอคงมีเรื่องสำคัญจะคุยเป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ฝืนใจตัวเองลงมาหาเขาเป็นแน่
"คุณพาฉันกับลูกมาที่นี่เพราะหน้าที่การงานของคุณแค่นั้นใช่หรือเปล่า"
เมื่อนั่งลงได้สาวเจ้าก็โพร่งถามอีกฝ่ายเสียงแข็งทั้งยังมองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก
ฟาทิทไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่จ้องหน้าหญิงสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะกระดกไวน์ในแก้วจนหมดเขาตั้งใจที่จะเปิดเผยเรื่องลูกให้ทุกคนรู้อยู่แล้วแต่เวลามันเร่งให้เร็วขึ้นก็เพราะมีประเด็นเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
"ทุกลมหายใจคุณมีแต่งานโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของลูกเลยใช่หรือเปล่า"
ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเงียบด้วยความที่พรฟ้าเป็นห่วงตะวันฉายมากจึงทำให้เธอโมโหมากที่ฟาทิททำอะไรไม่คิดให้ดี
"ลูกอยู่กับผมจะต้องห่วงอะไร"
ฟาทิทถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เขาสบายใจในการแจ้งเรื่องลูกกับหุ้นส่วนในบริษัทก็เพราะเขาได้กำจัดคนที่เป็นศรัตรูอย่างอัสลานไปเรียบร้อยแล้วและเขาก็คิดว่าเขานั้นมีความสามารถมากพอที่จะดูแลปกป้องลูกคนเดียวได้ไม่จำเป็นต้องให้หญิงสาวมาสอน
"คุณก็รู้ว่าตัวคุณเองอยู่ในที่แจ้งศรัตรูมากมาย..ถ้า...ก"
ไม่ทันที่พรฟ้าจะได้พูดจนจบประโยคฟาทิทก็ตัดหน้าเสียงแข็งใส่เธอก่อน
"มันไม่มีใครทำอะไรตะวันได้แล้วเพราะไอ้คนชั่วคนนั้นมันนอนตายต่อหน้าผมไปแล้ว"
"หา..."
จากคราแรกที่คิดว่าชายหนุ่มเผด็จการร้ายกาจใจร้ายใจดำแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขนาดฆ่าคนสาวเจ้ามองอีกฝ่ายอ้าปากค้างแววตาไหวระริกเพราะในใจรู้สึกเริ่มกลัวคนตรงหน้าเธอไม่อยากที่จะเอื้อนเอ่ยต่อปากต่อคำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่รีบลุกขึ้นออกจากตรงนี้ไปให้เร็วที่สุด
ฟาทิทมองตามหลังหญิงสาวด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะหันกลับมาดื่มต่อไม่พอใจที่หญิงสาวมาโวยวายใส่ทำเหมือนว่าเขาไม่มีความสามารถในการปกป้องลูกอย่างนั้น
เช้าวันต่อมา
วันนี้ฟาทิทไม่ได้พาพรฟ้าและตะวันฉายออกไปไหนส่วนตัวของเขาเองก็นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนที่พรฟ้าและฟาทิทมีปากเสียงกันจวบจนตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังมองผ่านกันไปมาไม่มีใครพูดจากับใครก่อนทั้งคู่จะมีเสียงก็เมื่อพูดคุยกับตะวันฉายเท่านั้น
"คุณทวด"
เด็กหญิงวิ่งเอารูปภาพของฉวีวรรณมาให้คนเป็นแม่ที่กำลังยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรูปที่ตะวันฉายยื่นให้พรฟ้าเป็นรูปฉวีวรรณรูปเดี่ยวที่น่าจะถ่ายไว้หลายสิบปีแล้วเธอดีใจที่ตะวันฉายยังจำภาพของคุณทวดตัวเองได้
"ตะวันเอารูปมาจากไหนคะ"
หญิงสาวรับรูปจากในมือเจ้าตัวกลมด้วยรอยยิ้มอ่อนก่อนจะถามว่าเอามาจากไหนเพราะคิดว่ารูปนี้น่าจะเป็นรูปที่ฟาทิทเก็บเอาไว้เป็นแน่
"ในนั้น"
ตะวันฉายชี้ไปที่ตู้ลิ้นชักใกล้กับหัวเตียงก่อนจะไปเล่นอย่างอื่นต่อตามประสา
"คุณยายรู้หรือเปล่าคะว่าหลานชายคุณยายร้ายกาจแค่ไหน”
พรฟ้ารีบเดินกลับมานั่งที่เตียงคราแรกว่าจะเก็บใส่เข้าไปที่เดิมแต่เธอก็อดที่จะจ้องมองรูปในมือด้วยความคิดถึงไม่ได้เธออยากจะให้ความจริงปรากฏโดยเร็วนักว่าใครเป็นคนทำร้ายคุณยายของเธอวันนั้นเธอเองก็จะได้พ้นมลทินและคนร้ายตัวจริงก็จะต้องถูกลงโทษ
"ใครใช้ให้คุณมายุ่งกับรูปคุณยาย...มารยาทมีบ้างหรือเปล่า"
และแล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆฟาทิทก็เดินดุ่มมากระชากรูปในมือเธอพร้อมตะคอกใส่ด้วยความไม่พอใจ
"มารยาทฉันมีอยู่แล้วค่ะแล้วรูปนี่ตะวันก็เป็นคนเอามาคุณน่าจะทำตัวมีมารยาทถามฉันก่อนนะคะว่ารูปนี้มาอยู่กับฉันได้ยังไงไม่ใช่ต่อว่าคนอื่นก่อนแบบนี้”
พรฟ้าลุกขึ้นยืนเงยหน้าประชันกับคนตัวโตเมื่อเขาร้ายมาเธอก็ต้องร้ายกลับก่อนจะเดินหนีออกไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวนึกเกลียดนิสัยแย่ๆของฟาทิทเพิ่มขึ้นไปอีก
"อืม.."
ฟึ่บ..กึกๆๆ
ด้วยความเครียดที่สะสมเป็นเวลานานเวลาที่หัวใจเต้นแรงเพราะความโมโหทำให้พรฟ้าที่กำลังจะเดินลงบันไดเกิดหน้ามืดล้มพับกลิ้งตกไปนอนกองลงกับพื้นด้านล่าง
"คุณแม่..."
ตะวันฉายที่วิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆได้เห็นคนเป็นแม่กลิ้งลงมานอนกับพื้นกด็ส่งเสียงร้องดังตกใจจนฟาทิทได้ยินจึงเดินออกมาดู
"คุณ!!"
ชายหนุ่มวิ่งหน้าตาตื่นลงมาอุ้มร่างบางและเรียกตะวันฉายให้ตามมาขึ้นรถแล้วพากันไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
โรงพยาบาลแพทย์สาวตรวจร่างกายพรฟ้าพักใหญ่พร้อมทำแผลตรงหางคิ้วที่แตกก่อนจะพาเธอมาที่ห้องพักในส่วนของฟาทิทก็อุ้มลูกสาวเดินตามเตียงของพรฟ้ามาติดๆสีหน้าของเขาเป็นห่วงหญิงสาวจนเหล่าแพทย์และพยาบาลต่างก็เอ็นดูในความน่ารักของสามีที่เป็นห่วงคนเป็นภรรยา"ผลเอ็กซเรย์ไม่มีอะไรแตกหักที่คุณวูบน่าจะเป็นเพราะความดันสูงพักที่นี่สักคืนพรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วล่ะค่ะ""ค่ะคุณหมอ"หมอสาวอธิบายสิ่งที่เธอเป็นและการรักษาคร่าวๆก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้คนไข้ของเธอได้พักผ่อนหลังจากหมอออกไปแล้วฟาทิทก็อุ้มตะวันฉายให้นั่งอยู่บนเตียงกับคนเป็นแม่ด้วยรู้ว่าเวลานี้ลูกคือยาดีที่สุดสำหรับหญิงสาว"คุณแม่เจ็บไหมคะ""ไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะตะวันนอนที่นี่กับแม่ได้ใช่ไหมลูก""ค่ะตะวันจะอยู่กับคุณแม่"ว่าจบตะวันฉายก็ล้มตัวลงนอนกอดกับแม่กลมส่วนพรฟ้าแม้นจะเห็นฟาทิทนั่งอยู่ใกล้ๆแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจเขาเช่นเคยที่เธอชอบทำฟาทิทรู้ตัวดีว่าเวลานี้พรฟ้าคงยังไม่อยากมองหน้าเขาเท่าไรจึงค่อยๆลุกและเดินออกไปสูดอากาศข้างนอกเชียงใหม่ห้างสรรพสินค้าพลอยฝนให้โรฮานพาออกมาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับบ้านพักเพราะเธอต้องการซื้อของใช้ส่วนตัวและเลือกซื้ออาหา
"พวกมึงเป็นใคร"กวินชี้หน้าถามชายหนุ่มทั้งสองด้วยความไม่พอใจ"เดี๋ยวมึงก็รู้.. แล้วไม่ต้องคิดจะเรียกคนของมึงถ้าไม่อยากนอนตายตรงนี้"มัคซิมจ่อปากกระบอกปืนไปที่หัวของกวินก่อนจะใส่กุญแจมือและใช้ถุงผ้าคลุมหัวกวินออกจากห้องไปที่รถมัคซิมและโรฮานใช้ความมืดหลังผับพาตัวกวินออกไปจากผับจนได้ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงโกดังร้างที่มัคซิมจัดเตรียมสถานที่เอาไว้"ฮึก..ฮือๆๆ.."พลอยฝนที่นั่งรถมากับโรฮานตามหลังมัคซิมมาติดๆสาวเจ้าพยายามข่มอารมณ์ให้เป็นปกติแต่ก็ทำได้ยากเพราะความกลัวยังไม่หายเธอยังคงสะอื้นเบาๆแบบนั้นจนมาถึงที่นี่"คุณรอผมอยู่บนรถแล้วผมจะรีบมา"โรฮานห่วงสภาพจิตใจของหญิงสาวพอสมควรแต่ตอนนี้เขาก็ต้องช่วยมัคซิมก่อนจึงให้เธอรออยู่ที่รถเขาจะรีบจัดการงานให้เสร็จจะได้รีบพาพลอยฝนกลับบ้านครู่ต่อมา"บอกมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณฉวีวรรณ"มัคซิมและโรฮานนั่งถามคนที่ฟุบกองกับพื้น"พวกมึงเป็นใครกล้ามาทำกับกูแบบนี้"กวินตวาดกลับคนทั้งสองอย่างไม่เกรงกลัว"กูเป็นคนของคุณฟาทิทเข้าใจหรือยัง"ปึกมัคซิมฟาดกระบอกปืนไปที่ปากของกวินจนอีกฝ่ายเลือดกลบปากร้องลั่น"อ้าสส...กูแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น"กวินใจเต้นโครมครามเ
ในส่วนของฟาทิทหลังจากที่พาพรฟ้าออกจากโรงพยาบาลได้ไม่เท่าไรเขาก็ได้รู้เรื่องกวินและรู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นแต่อย่างเดียวที่เขาไม่รู้ก็คืออัสลานจะทำร้ายพวกเขาไปเพื่ออะไรตอนนี้ยังเป็นปริศนาและอีกเรื่องที่เขากำลังเครียดก็คือเขาดันไปมั่นอกมั่นใจตั้งแต่แรกว่าพรฟ้าคือคนร้ายพอความจริงเปิดเผยได้เขาก็รู้สึกผิดจนอยากจะต่อยหน้าตัวเองสักหลายพันครั้งพอทิฐิเริ่มคลายเขาก็มานั่งคิดได้ว่าไม่ควรจะปรักปรำใครเพียงเพราะเชื่อในความคิดของตัวเองขณะที่ยังไม่มีหลักฐานแถมเขายังทำร้ายเธอด้วยคำพูดและการกระทำอีกต่างหากไม่รู้เลยว่าหญิงสาวจะให้อภัยเขาได้หรือไม่"อร่อยไหมคะ"พรฟ้านั่งอยู่ข้างๆตะวันฉายขณะที่ลูกสาวของเธอนั่งทานไอศครีมของโปรด"ค่ะ...คุณแม่ขาเมื่อไรตะวันจะได้กลับไปเล่นกับเพื่อนๆคะ"เด็กหญิงหันมาถามคนเป็นแม่ตาแป๋วเพราะรู้สึกเบื่อที่จะต้องเล่นคนเดียวแล้วคำพูดและแววตาที่ไร้เดียงสาของลูกน้อยบีบคั้นหัวใจของพรฟ้าพอสมควรเพราะเธอไม่รู้ได้เลยว่าเธอกับลูกจะกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เมื่อไร"ตะวันคิดถึงเพื่อนๆเหรอลูก""ค่ะตะวันคิดถึงเพื่อนๆคิดถึงคุณครูด้วย""รออีกนิดนะคะแม่จะพาตะวันกลับไปหาเพื่อนๆ"มือเรียวยกลูบหัวเจ
"จะให้ฉันพูดตรงๆฉันคิดว่าศักยภาพในเรื่องเงินทองคุณมีมาก..แต่เวลาที่จะเอาใจใส่ลูกคุณไม่น่าจะมีเพราะฉะนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดีที่สุดแล้วค่ะ"พรฟ้าเอ่ยตามอย่างที่ใจคิดไม่ได้อยากอ้อมค้อมอะไรมากมายสิ้นเสียงของพรฟ้าชายหนุ่มก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินเข้าไปประชิดร่างบางที่นั่งอยู่บนโซฟามุมห้องเขาค่อยๆกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆก่อนจะเอ่ยความในใจเสียงอ่อน"ถ้าผมจะขอร้องให้คุณอยู่กับผมในฐานะแม่ของตะวันฉายและภรรยาผมจริงๆจะได้หรือเปล่า"ฟาทิทรู้ตัวว่าหญิงสาวคงจะคิดว่าเขาหน้าไม่อายที่ทำเธอเจ็บแล้วยังจะกล้ามาขอร้องให้เธอทำตามคำขออีก"คุณคิดว่าฉันอยากจะอยู่กับคุณอย่างนั้นเหรอคะ?"พรฟ้าจ้องตาชายหนุ่มนิ่งแววตาของเธอไหวระริกเปล่งเสียงเอ่ยถามประชดเสียงสั่นหากเป็นเขาจะให้อภัยคนที่ทำมห้ตัวเองเจ็บง่ายๆหรืออย่างไร"ถึงคุณจะเกลียดผม..แต่ผมอยากจะบอกว่าผมมีความรู้สึกดีๆให้คุณไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่ตอนที่ผมคิดว่าคุณเป็นคนทำร้ายคุณยาย...หัวใจของผมก็ยังคงเป็นของคุณ"คนตัวโตรวบกอดร่างบางเอาไว้แน่นเขาไม่ได้พูดเพื่อให้เธออภัยแค่อยากพูดความในใจให้หญิงสาวได้รับรู้เท่านั้นว่าหัวใจของเขาให้เธอไปเท่าไรไม่เคยเอากลับคืน..แม้นจะหลอกต
22.00 น.พรฟ้าเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จวันนี้เธอไม่ได้นอนกับลูกเพราะพลอยฝนคิดถึงหลานมากคืนนี้จึงขอพาเจ้าตัวกลมไปนอนด้วย"คุณจะอยู่ที่นี่กี่วันคะ"หญิงสาวในชุดนอนสีฟ้าหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามชายหนุ่มที่ห้องนั่งเล่นเพราะมีเรื่องที่จะต้องบอกเขา"เสร็จธุระแล้วผมว่าจะอยู่ไทยต่อสักเดือน""ฉันจะพาตะวันกับพลอยฝนกลับเขาใหญ่นะคะตะวันจะได้กลับไปเรียนที่เดิมแล้วฉันก็จะได้กลับไปเปิดคลีนิคด้วย""ได้สิงั้นถ้าผมเสร็จธุระแล้วเรากลับเขาใหญ่กัน""คุณ...จะทำอะไรกับคุณกวินเหรอคะ""มีอะไรหรือเปล่า""ฉันแค่จะบอกว่าให้กฏหมายเป็นคนจัดการเค้าดีกว่านะคะ"พรฟ้ารู้ว่าคืนนี้ฟาทิทต้องออกไปพร้อมโรฮานเธอรู้ว่าฟาทิทมีอำนาจในมือมากพอที่จะสั่งเก็บใครก็ได้แต่เธอไม่อยากให้เขาทำร้ายคนอื่นอีกต้องการให้คนผิดถูกกฏหมายลงโทษมากกว่าและเชื่อว่าคุณยายคงคิดเหมือนกับเธอ"ผมขอเป็นคนลงโทษคนแบบนั้นด้วยตัวผมเอง""ถือว่าฉันขอร้องคุณนะคะ""ถ้าคุณขอร้อง.. ผมก็จะไม่ทำมันถึงตาย...คุณไปอยู่กับลูกเถอะผมจะออกไปจัดการธุระของผม"ว่าจบก็ผุดลุกออกไปข้างนอกพรฟ้ามองตามหลังคนตัวโตด้วยแววตาที่ค่อนข้างหดหู่แม้นเธอจะรู้ว่าฟาทิทจะไว้ชีวิตกวินตาม
ก๊อกๆๆ พลอยฝนที่กำลังจะเตรียมตัวนอนเพราะนี่ก็เริ่มดึกแล้วเธอก็ต้องผงกหัวจากหมอนหยิบแว่นขึ้นมาใส่ก่อนจะผุดลุกออกมาเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ"คุณโรฮาน"พลอยฝนแปลกใจพอสมควรที่เห็นโรฮานเคาะประตูห้องเธอเวลานี้"คุณถูกทำร้ายตรงไหนหรือเปล่าครับ"โรฮานเอ่ยถามหญิงสาวด้วยท่าทีร้อนใจ"ไม่ค่ะ..ฉันไม่เป็นอะไร"สาวเจ้าส่ายหัวเบาๆตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเขินแปลกๆเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทีห่วงใย"ดีแล้วล่ะ...ผมขอตัวนะครับ"โรฮานรู้แบบนี้เขาก็โล่งใจก่อนจะจ้องหน้าหญิงสาวในขณะที่เธอเองก็จ้องมาที่เขาเหมือนกันเมื่อไม่รู้จะสนทนาอะไรต่อจึงจำใจหันหลังกลับแม้นจะอยากอยู่ใกล้หญิงสาวนานๆก็ตาม"เอ่อ..แล้วคุณล่ะคะ..มีแผลตรงไหนหรือเปล่า...ฉันจะทำแผลให้ค่ะ"พลอยฝนรั้งมือหนาของโรฮานเอาไว้เธอเองก็เป็นห่วงเขาไม่แพ้กัน"ไม่ครับพวกเราไม่ได้ต่อสู้อะไร"โรฮานอมยิ้มอ่อนก่อนจะส่ายหัวเบาๆครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พลอยฝนได้เห็นรอยยิ้มของเขาเธอแทบละสายตาจากรอยยิ้มนี้ไม่ได้เลย"อ่อ..อย่างนั้นก็ฝันดีนะคะ"เมื่อตั้งสติหลุดจากภวังค์ได้วาวเจ้าก็รีบปล่อยมือชายหนุ่มเพราะรู้ตัวว่ารั้งเขาเอาไว้นานเกินไปแล้ว"ครับ..เอ่อ..ฝันดีเ
หลายวันต่อมาตอนนี้โรฮานและมัคซิมต่างก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วเห็นทีงานหนักจะเป็นของโรฮานเพราะต้องบริหารงานแทนในตำแหน่งของเฟอฮัทหลังจากที่เฟอฮัทหายตัวไปเป็นปริศนาแต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามหาเพราะเห็นว่าขนาดฟาทิทยังไม่เอ่ยปากถามหาอาของตนพวกเขาก็รู้ได้ว่าคงมีปัญหาขัดใจกันร้ายแรงระหว่างอากับหลานแน่นอนหลายวันมานี้พรฟ้ารู้สึกดีขึ้นกับฟาทิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะเห็นว่าเขาทำหน้าที่พ่อได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่องห้างสรรพสินค้าสองพี่น้องออกจากคลินิกได้ก็ตรงมาที่ห้างสรรพสินค้าเพราะวันนี้ต้องหาซื้อของใช้ส่วนตัวและพวกอาหารสดเข้าบ้านหลังจากที่เลือกซื้อของใช้กันพักใหญ่ตอนนี้สองสาวก็เดินซื้ออาหารสดกันอยู่ที่ซุปเปอร์พรฟ้าไม่ลืมที่จะหยิบไอศครีมวานิลลาของโปรดตะวันฉายและฟาทิทลงรถเข็นเพราะในตู้เย็นที่บ้านเหลือไม่เท่าไรแล้ว"ซื้อให้ตะวันเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ"พลอยฝนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่สาวเธอเหมาไอศครีมวานิลลาแทบหมดตู้ทั้งที่ปกติจะซื้อน้อยกว่านี้"พี่ซื้อเผื่อคุณฟาทิทด้วยน่ะ"พรฟ้าเอ่ยกับน้องสาวตนขณะที่มือน้อยก็ยังหยิบไอศครีมใส่รถเข็นไม่ขาดมือ"อ๋อ.. เผื่อคุณฟาทิท"พลอยฝนอมยิ้มกริ่มทั้งแอบเหล่
เดือนต่อมาเป็นเวลาร่วมเดือนกว่าแล้วที่ฟาทิทกลับไปคราแรกตะวันฉายก็มีงอแงร้องหาคนเป็นพ่อบ้างแต่เมื่อได้พูดได้คุยกับคนเป็นพ่อทางโทรศัพท์ก็พอทุเลาความอ้อนลงได้บวกกับพรฟ้าเองก็ย้ำกับลูกอยู่เสมอว่าพ่อเจ้าตัวนั้นมีงานที่จะต้องรับผิดชอบหลังๆมาตะวันฉายจึงไม่งอแงเท่าไร"คุณแม่ขาโทรหาคุณพ่อได้หรือเปล่าคะตะวันอยากคุยกับคุณพ่อ"เด็กหญิงกลับมาที่คลินิคหลังจากเลิกเรียนพร้อมกับน้าสาวได้ก็รีบวิ่งแจ้นตรงไปที่ห้องทำงานคนเป็นแม่ทันทีเพราะวันนี้อยากจะคุยกับพ่อตนเสียเหลือเกินเนื่องจากไม่ได้คุยหลายวันแล้ว"อืม...ไว้แม่ว่างเมื่อไรแม่จะโทรให้นะคะ..แต่ตอนนี้ตะวันต้องทำการบ้านก่อนน้า""ค่ะ"พรฟ้าหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเธอเองก็ติดต่อฟาทิทไม่ได้หลายวัน"ทำไมติดต่อไม่ได้กันนะ"หลังจากที่เจ้าตัวกลมวิ่งออกจากห้องเธอไปหาพลอยฝนแล้วหญิงสาวก็ลองติดต่อฟาทิทอีกรอบแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิมเธอจึงค่อนข้างกังวลพอสมควรว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่หลายวันต่อมาคลินิควันนี้คนไข้ไม่ค่อยมากเท่าไรหมอสาวทั้งสามจึงได้ทานข้าวพร้อมกันในเวลาเที่ยงอลินเร่งมือจัดแจงอาหารวางบนโต๊ะเพราะตอนนี้เธออยากจะทานอาหารตรงหน้าจะแย่มีทั้งปลาสามรสผ