ในส่วนของฟาทิทหลังจากที่พาพรฟ้าออกจากโรงพยาบาลได้ไม่เท่าไรเขาก็ได้รู้เรื่องกวินและรู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นแต่อย่างเดียวที่เขาไม่รู้ก็คืออัสลานจะทำร้ายพวกเขาไปเพื่ออะไรตอนนี้ยังเป็นปริศนา
และอีกเรื่องที่เขากำลังเครียดก็คือเขาดันไปมั่นอกมั่นใจตั้งแต่แรกว่าพรฟ้าคือคนร้ายพอความจริงเปิดเผยได้เขาก็รู้สึกผิดจนอยากจะต่อยหน้าตัวเองสักหลายพันครั้งพอทิฐิเริ่มคลายเขาก็มานั่งคิดได้ว่าไม่ควรจะปรักปรำใครเพียงเพราะเชื่อในความคิดของตัวเองขณะที่ยังไม่มีหลักฐานแถมเขายังทำร้ายเธอด้วยคำพูดและการกระทำอีกต่างหากไม่รู้เลยว่าหญิงสาวจะให้อภัยเขาได้หรือไม่
"อร่อยไหมคะ"
พรฟ้านั่งอยู่ข้างๆตะวันฉายขณะที่ลูกสาวของเธอนั่งทานไอศครีมของโปรด
"ค่ะ...คุณแม่ขาเมื่อไรตะวันจะได้กลับไปเล่นกับเพื่อนๆคะ"
เด็กหญิงหันมาถามคนเป็นแม่ตาแป๋วเพราะรู้สึกเบื่อที่จะต้องเล่นคนเดียวแล้ว
คำพูดและแววตาที่ไร้เดียงสาของลูกน้อยบีบคั้นหัวใจของพรฟ้าพอสมควรเพราะเธอไม่รู้ได้เลยว่าเธอกับลูกจะกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เมื่อไร
"ตะวันคิดถึงเพื่อนๆเหรอลูก"
"ค่ะตะวันคิดถึงเพื่อนๆคิดถึงคุณครูด้วย"
"รออีกนิดนะคะแม่จะพาตะวันกลับไปหาเพื่อนๆ"
มือเรียวยกลูบหัวเจ้าตัวกลมเบาๆก่อนจะรับปากลูกน้อยโดยที่เธอคิดว่าจะต้องคุยเรื่องนี้หกับฟาทิทเพราะตะวันฉายจะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ลูกเธอจะต้องเรียนหนังสือเข้าสังคมตามวัยที่ควรจะเป็น
"เย่ๆ...ตะวันจะได้ไปหาเพื่อนๆแล้ว"
คำพูดและการกระทำของพรฟ้ากับตะวันฉายอยู่ในสายตาของฟาทิททั้งหมดเขาพึ่งรู้ตอนนี้เองว่าเขาได้ทำลายความสุขของตะวันฉายไปมากพอสมควรหลังจากนี้เขาต้องแก้ตัวกับการกระทำที่ผ่านมาบ้าง
พรฟ้าจัดการวางอุปกรณ์ทำแผลหลังจากมื้ออาหารเย็น
"ผมช่วย"
ฟาทิทลงนั่งตรงข้ามกับพรฟ้าหมายจะยื่นมือแกะผ้าพันแผลช่วยเธอแต่ก็ถูกห้ามเอาไว้ก่อน
"ไม่ต้อง..."
คำพูดและสายตาของหญิงสาวดูจะไม่ตอบรับความช่วยเหลือขอเขาเอาเสียเลยและเขาก็ไม่ได้ดึงดันที่จะขัดใจเธอสิ้นเสียงปฏิเสธของหญิงสาวได้เขาก็นั่งเงียบๆครู่หนึ่งก่อนจะลุกเดินหนีออกไป
22.00 น.
"ออกมาคุยกับผมหน่อยสิ"
ฟาทิทที่พึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเห็นว่าตะวันฉายหลับไปแล้วเขาจึงชวนพรฟ้าออกมานั่งคุยกันข้างนอกเพราะเห็นทีจะต้องมีเรื่องคุยกันยาว
"มีอะไรคะ"
พรฟ้าเดินตามชายหนุ่มออกมาที่ห้องนั่งเล่นแต่โดยดีเพราะเธอก็ต้องการคุบกับเขาเรื่องของตะวันฉายเช่นกัน
"คนขับรถของคุณยายผมยังไม่ตาย"
"คุณวินเหรอคะ"
คำพูดของฟาทิททำเอาพรฟ้ามีสีหน้าแปลกใจพอสมควรเพราะเธอจำได้ว่ากวินเสียไปพร้อมกับคุณยายของเธอ
"อืม...มันสารภาพทุกอย่างว่าถูกอัสลานจ้างให้ทำ"
"หา...ล..แล้วเหตุผลที่ต้องทำร้ายคุณยายเค้าได้บอกหรือเปล่าว่าทำไปทำไม"
สาวเจ้ายกมือทาบอกเท่ากับว่าฉวีวรรณถูกฆาตกรรมจริงๆด้วยฝีมือของกวินคนที่เธอเห็นว่าเขาไว้ใจได้และไม่มีพิษมีภัยอะไร
"ไม่มีใครรู้ข้อนี้เหมือนกัน...ตอนนี้ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ...ขอโทษกับเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้น"
ฟาทิทหลุบสายตาลงเล็กน้อยเขาเอ่ยขอโทษหญิงสาวเสียงอ่อนตอนนี้เขารู้สึกปวดหัวใจไปไม่น้อยไปกว่าพรฟ้าสักนิด
"รู้ตัวคนร้ายก็ดีแล้ว...ยังดีที่ฉันยังได้ยินคำขอโทษจากปากของคุณ..."
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งเธอพอจะมองออกว่าเขารู้สึกผิดแต่จะให้เธอให้อภัยเขาตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้เขาต้องได้เรียนรู้ว่าการตัดสินคนโดยที่ใช้ทิฐิไม่สมควรได้รับการอภัยง่ายๆ
ฟาทิทเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าก่อนหน้าอยู่มากเขารู้สึกผิดมากจริงๆที่หลงผิดทำร้ายเธอกับมือทั้งที่เขาควรจะรอให้มีหลักฐานแน่ชัดก่อน
วันต่อมา
ฟาทิทเข้ามาหาเฟอฮัทที่บริษัทเขาต้องการจะฝากฝังงานกับคนเป็นอาอีกครั้งเพราะครั้งนี้เขากะว่าจะพาพรฟ้าและตะวันฉายกลับไปที่ไทยและอยู่ยาวพอสมควรเขาอยากจะปรับความเข้าใจกับพรฟ้าเสียก่อนเรื่องงานค่อยว่ากันอีกทีฟาทิทในตอนนี้จากคนที่บ้างานในคราแรกเมื่อมีความรักและรู้ตัวว่าเป็นพ่อคนจึงทำให้เห็นเรื่องงานเป็นเรื่องรองอัตโนมัติ
"ผมรู้ตัวคนร้ายแล้วครับ...ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอัสลานจ้องจะทำร้ายทั้งผมแล้วก็คุณยายแบบนี้"
ฟาทิทเอ่ยกับคนเป็นอาด้วยความเหนื่อยใจเขาไม่อายที่จะแสดงความอ่อนแอตรงหน้าเฟอฮัทเพราะไว้ใจอาของเขาเป็นที่สุด
"เห้อ..ความคิดคนไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ..แล้วนี่จะเอายังไงต่อ"
เฟอฮัทเดินเข้ามาตบบ่าหลานชายตนเบาๆก่อนจะถามถึงแผนการข้างหน้าว่าฟาทิทจะเอาอย่างไรต่อไปเมื่อรู้ความจริงแล้ว
"ผมจะกลับไปจัดการกับคนที่มันกล้าทำกับคุณยายด้วยมือของผมเอง..อืม"
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงและแววตาที่แน่วแน่ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับแต่เขาก็ต้องล้มนั่งบนเก้าอี้อีกครั้งเพราะรู้สึกปวดหัวรุนแรงขึ้นมากะทันหัน
"เรา...เป็นอะไรหรือเปล่า"
เฟอฮัทรีบเอ่ยถามหลานชายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงร้อนใจ
"เปล่าครับแค่ช่วงนี้ปวดหัวนิดหน่อยคงจะเครียดนั่นแหละครับ...ผมกลับก่อนนะครับ"
มือหนากุมขมับหนึบดีที่อาการปวดค่อยๆทุเลาลงเขาจึงลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
"ยังไงก็ดูแสุขภาพด้วย"
"ครับ.."
หลังจากฟาทิทหันหลังกลับไปเฟอฮัทก็มองตามหลังหลานชายตนไม่ห่างเพราะคิดว่าอาการปวดหัวของฟาทิทคงไม่ใช่แค่เครียดเป็นแน่
เมื่อฟาทิทเดินไปจนลับตาได้เฟอฮัทก็อมยิ้มกริ่มภาวนาให้ฟาทิทเป็นโรคร้ายและตายไปไวๆเพราะทุกอย่างจะได้ตกมาเป็นของเขาตามแผนที่เขาต้องการ
ใช่...ทุกอย่างเป็นฝีมือของเฟอฮัทที่บงการคนทั้งหมดเขาใช้อัสลานเป็นเครื่องมือออกหน้าแทนทุกอย่าง
เรื่องพ่อกับแม่ของฟาทิทที่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกก็เป็นฝีมือขอเขาและเรื่องที่ฉวีวรรณต้องตายก็เพราะเขารู้ว่าฉวีวรรณกำลังจะทำให้ทายาทฟาทิทเกิดมาแต่เขาก็ดันฆ่าฉวีวรรณช้าไปเพราะเด็กคนนั้นได้เกิดมาเสียแล้ว
ที่เขาพยายามทำดีกับฟาทิทเป่าหูว่าพ่อแม่ไม่สนใจตั้งแต่เริ่มโตมาก็เพื่อที่จะให้ฟาทิทไว้ใจเขาและเขาจะได้ทำงานง่ายขึ้นหากกำจัดครอบครัวฟาทิมจนหมดสิ้นได้เขาก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ
ที่เฟอฮัทมีความคิดชั่วร้ายแยบยลแบบนี้เพราะเขาเกลียดที่พ่อของเขาไม่เคยสนใจใยดีเพราะเขาเป็นแค่ลูกเมียน้อยตั้งแต่โตมาเขาต้องเป็นรองฟีรัทพ่อของฟาทิทมาโดยตลอดจึงทำให้เขาเกลียดทุกคนที่เป็นทายาทของพ่อของเขาและต้องการกำจัดมันให้สิ้นซาก
21.00
"คุณพ่อขา"
เมื่อเห็นคนเป็นพ่อเปิดประตูเข้าห้องมาได้เด็กหญิงก็วิ่งโล่เข้าไปหาทันที
พรฟ้ามองลูกสาวของเธอด้วยสีหน้าอ่อนใจหากวันหน้าไม่มีฟาทิทอยู่ด้วยแล้วไม่รู้ว่าลูกเธอจะเป็นอย่างไรเมื่อครู่ก็งอแงพักใหญ่บอกว่าหากพ่อตนไม่กลับก็จะไม่นอนดีที่ฟาทิทกลับมาไม่ดึกมากนักไม่อย่างนั้นคงต้องมีดุกันบ้างเพื่อที่จะให้ตะวันฉายนอนให้ตรงเวลา
"ทำไมยังไม่นอนครับ"
ฟาทิทอุ้มเจ้าตัวกลมในชุดนอนขึ้นและค่อยๆเดินตรงไปที่เตียง
"ตะวันรอคุณพ่อค่ะ"
"คุณพ่อมาแล้วตะวันไปนอนนะครับ"
"ค่ะ" ฟอดด
เจ้าตัวกลมหอมแก้มสากคนเป็นพ่อฟอดใหญ่จึงยอมไปนอนขลุกข้างแม่เจ้าตัวได้เมื่อฟาทิทเหลือบมองไปที่สีหน้าของพรฟ้าเขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงไม่พอใจที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้ตะวันฉายงอแงเป็นแน่
ชายหนุ่มยืนมองลูกสาวตนที่เข้าไปนอนที่พรฟ้าเงียบๆครู่หนึ่งหลังจากนั้นจึงเดินเข้าไปที่ห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว
อันที่จริงเขาออกมาจากบริษัทตั้งแต่ช่วงเย็นแต่ที่กลับมาช้าเพราะเขาเข้าไปที่โรงพยาบาลที่มีเพื่อนของเขาเป็นเจ้าของและให้เพื่อนของเขาตรวจเอ็กซเรย์ว่าไอ้อาการปวดหัวรุนแรงกะทันหันมันเกิดจากอะไรตอนนี้เขายังไม่ได้คำตอบคงต้องรออีกสองสามวันภาวนาในใจว่าอย่าให้ตัวเองเป็นอะไรร้ายแรงเพราะเขายังไม่พร้อมจะเผชิญกับเรื่องหนักใจอะไรตอนนี้
พรฟ้าเดินไปเดินมาครู่ใหญ่หลังจากที่ตะวันฉายหลับไปแล้วเพราะเธอกำลังคิดว่าจะขอกับฟาทิทเรื่องตะวันฉายว่าให้ลูกอยู่ในการดูแลของเธอเพราะรู้ดีว่าฟาทิทไม่มีเวลาให้ลูกแน่นอน
"คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
ฟาทิทที่พึงแต่งตัวเสร็จเขาดูออกว่าพรฟ้าคงมีเรื่องอะไรในใจแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทีท่ากังวลแบบนี้
"ฉันอยากจะขอให้ลูกอยู่กับฉันที่ไทย....คุณคงไม่ขัดนะคะ"
แม้นจะกลัวคำปฏิเสธหรือเสี่ยงต่อการถูกต่อว่าแต่พรฟ้าก็ยังต้องพูดเพื่อลูกของเธอ
"ผมขอคิดดูก่อน"
"ไม่ต้องคิดหรอกค่ะคุณไว้ใจฉันเถอะว่าฉันดูแลตะวันอยู่ที่นี่ได้ถ้าคุณพาเธอไปอยู่กับคุณเวลาคุณก็ไม่มีให้เธออยู่ดี..ฉันไม่พาตะวันหนีคุณไปไหนหรอกนะคะ...ถ้าคุณว่างเมื่อไรก็ค่อยมาหาลูก"
"ผมดูเป็นพ่อที่ไม่มีศักยภาพในการดูแลลูกเลยสินะ"
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาไหวระริกก่อนจะนั่งลงปลายเตียงมองดูลูกสาวที่กำลังหลับอุตุที่เขาอยากให้มันเป็นไปได้ตอนนี้คือหญิงสาวกับลูกอยู่กับเขาอยู่กันแบบครอบครัวไม่ใช่ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่เท่านั้น
"จะให้ฉันพูดตรงๆฉันคิดว่าศักยภาพในเรื่องเงินทองคุณมีมาก..แต่เวลาที่จะเอาใจใส่ลูกคุณไม่น่าจะมีเพราะฉะนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดีที่สุดแล้วค่ะ"พรฟ้าเอ่ยตามอย่างที่ใจคิดไม่ได้อยากอ้อมค้อมอะไรมากมายสิ้นเสียงของพรฟ้าชายหนุ่มก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินเข้าไปประชิดร่างบางที่นั่งอยู่บนโซฟามุมห้องเขาค่อยๆกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆก่อนจะเอ่ยความในใจเสียงอ่อน"ถ้าผมจะขอร้องให้คุณอยู่กับผมในฐานะแม่ของตะวันฉายและภรรยาผมจริงๆจะได้หรือเปล่า"ฟาทิทรู้ตัวว่าหญิงสาวคงจะคิดว่าเขาหน้าไม่อายที่ทำเธอเจ็บแล้วยังจะกล้ามาขอร้องให้เธอทำตามคำขออีก"คุณคิดว่าฉันอยากจะอยู่กับคุณอย่างนั้นเหรอคะ?"พรฟ้าจ้องตาชายหนุ่มนิ่งแววตาของเธอไหวระริกเปล่งเสียงเอ่ยถามประชดเสียงสั่นหากเป็นเขาจะให้อภัยคนที่ทำมห้ตัวเองเจ็บง่ายๆหรืออย่างไร"ถึงคุณจะเกลียดผม..แต่ผมอยากจะบอกว่าผมมีความรู้สึกดีๆให้คุณไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่ตอนที่ผมคิดว่าคุณเป็นคนทำร้ายคุณยาย...หัวใจของผมก็ยังคงเป็นของคุณ"คนตัวโตรวบกอดร่างบางเอาไว้แน่นเขาไม่ได้พูดเพื่อให้เธออภัยแค่อยากพูดความในใจให้หญิงสาวได้รับรู้เท่านั้นว่าหัวใจของเขาให้เธอไปเท่าไรไม่เคยเอากลับคืน..แม้นจะหลอกต
22.00 น.พรฟ้าเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จวันนี้เธอไม่ได้นอนกับลูกเพราะพลอยฝนคิดถึงหลานมากคืนนี้จึงขอพาเจ้าตัวกลมไปนอนด้วย"คุณจะอยู่ที่นี่กี่วันคะ"หญิงสาวในชุดนอนสีฟ้าหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามชายหนุ่มที่ห้องนั่งเล่นเพราะมีเรื่องที่จะต้องบอกเขา"เสร็จธุระแล้วผมว่าจะอยู่ไทยต่อสักเดือน""ฉันจะพาตะวันกับพลอยฝนกลับเขาใหญ่นะคะตะวันจะได้กลับไปเรียนที่เดิมแล้วฉันก็จะได้กลับไปเปิดคลีนิคด้วย""ได้สิงั้นถ้าผมเสร็จธุระแล้วเรากลับเขาใหญ่กัน""คุณ...จะทำอะไรกับคุณกวินเหรอคะ""มีอะไรหรือเปล่า""ฉันแค่จะบอกว่าให้กฏหมายเป็นคนจัดการเค้าดีกว่านะคะ"พรฟ้ารู้ว่าคืนนี้ฟาทิทต้องออกไปพร้อมโรฮานเธอรู้ว่าฟาทิทมีอำนาจในมือมากพอที่จะสั่งเก็บใครก็ได้แต่เธอไม่อยากให้เขาทำร้ายคนอื่นอีกต้องการให้คนผิดถูกกฏหมายลงโทษมากกว่าและเชื่อว่าคุณยายคงคิดเหมือนกับเธอ"ผมขอเป็นคนลงโทษคนแบบนั้นด้วยตัวผมเอง""ถือว่าฉันขอร้องคุณนะคะ""ถ้าคุณขอร้อง.. ผมก็จะไม่ทำมันถึงตาย...คุณไปอยู่กับลูกเถอะผมจะออกไปจัดการธุระของผม"ว่าจบก็ผุดลุกออกไปข้างนอกพรฟ้ามองตามหลังคนตัวโตด้วยแววตาที่ค่อนข้างหดหู่แม้นเธอจะรู้ว่าฟาทิทจะไว้ชีวิตกวินตาม
ก๊อกๆๆ พลอยฝนที่กำลังจะเตรียมตัวนอนเพราะนี่ก็เริ่มดึกแล้วเธอก็ต้องผงกหัวจากหมอนหยิบแว่นขึ้นมาใส่ก่อนจะผุดลุกออกมาเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ"คุณโรฮาน"พลอยฝนแปลกใจพอสมควรที่เห็นโรฮานเคาะประตูห้องเธอเวลานี้"คุณถูกทำร้ายตรงไหนหรือเปล่าครับ"โรฮานเอ่ยถามหญิงสาวด้วยท่าทีร้อนใจ"ไม่ค่ะ..ฉันไม่เป็นอะไร"สาวเจ้าส่ายหัวเบาๆตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเขินแปลกๆเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทีห่วงใย"ดีแล้วล่ะ...ผมขอตัวนะครับ"โรฮานรู้แบบนี้เขาก็โล่งใจก่อนจะจ้องหน้าหญิงสาวในขณะที่เธอเองก็จ้องมาที่เขาเหมือนกันเมื่อไม่รู้จะสนทนาอะไรต่อจึงจำใจหันหลังกลับแม้นจะอยากอยู่ใกล้หญิงสาวนานๆก็ตาม"เอ่อ..แล้วคุณล่ะคะ..มีแผลตรงไหนหรือเปล่า...ฉันจะทำแผลให้ค่ะ"พลอยฝนรั้งมือหนาของโรฮานเอาไว้เธอเองก็เป็นห่วงเขาไม่แพ้กัน"ไม่ครับพวกเราไม่ได้ต่อสู้อะไร"โรฮานอมยิ้มอ่อนก่อนจะส่ายหัวเบาๆครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พลอยฝนได้เห็นรอยยิ้มของเขาเธอแทบละสายตาจากรอยยิ้มนี้ไม่ได้เลย"อ่อ..อย่างนั้นก็ฝันดีนะคะ"เมื่อตั้งสติหลุดจากภวังค์ได้วาวเจ้าก็รีบปล่อยมือชายหนุ่มเพราะรู้ตัวว่ารั้งเขาเอาไว้นานเกินไปแล้ว"ครับ..เอ่อ..ฝันดีเ
หลายวันต่อมาตอนนี้โรฮานและมัคซิมต่างก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วเห็นทีงานหนักจะเป็นของโรฮานเพราะต้องบริหารงานแทนในตำแหน่งของเฟอฮัทหลังจากที่เฟอฮัทหายตัวไปเป็นปริศนาแต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามหาเพราะเห็นว่าขนาดฟาทิทยังไม่เอ่ยปากถามหาอาของตนพวกเขาก็รู้ได้ว่าคงมีปัญหาขัดใจกันร้ายแรงระหว่างอากับหลานแน่นอนหลายวันมานี้พรฟ้ารู้สึกดีขึ้นกับฟาทิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะเห็นว่าเขาทำหน้าที่พ่อได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่องห้างสรรพสินค้าสองพี่น้องออกจากคลินิกได้ก็ตรงมาที่ห้างสรรพสินค้าเพราะวันนี้ต้องหาซื้อของใช้ส่วนตัวและพวกอาหารสดเข้าบ้านหลังจากที่เลือกซื้อของใช้กันพักใหญ่ตอนนี้สองสาวก็เดินซื้ออาหารสดกันอยู่ที่ซุปเปอร์พรฟ้าไม่ลืมที่จะหยิบไอศครีมวานิลลาของโปรดตะวันฉายและฟาทิทลงรถเข็นเพราะในตู้เย็นที่บ้านเหลือไม่เท่าไรแล้ว"ซื้อให้ตะวันเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ"พลอยฝนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่สาวเธอเหมาไอศครีมวานิลลาแทบหมดตู้ทั้งที่ปกติจะซื้อน้อยกว่านี้"พี่ซื้อเผื่อคุณฟาทิทด้วยน่ะ"พรฟ้าเอ่ยกับน้องสาวตนขณะที่มือน้อยก็ยังหยิบไอศครีมใส่รถเข็นไม่ขาดมือ"อ๋อ.. เผื่อคุณฟาทิท"พลอยฝนอมยิ้มกริ่มทั้งแอบเหล่
เดือนต่อมาเป็นเวลาร่วมเดือนกว่าแล้วที่ฟาทิทกลับไปคราแรกตะวันฉายก็มีงอแงร้องหาคนเป็นพ่อบ้างแต่เมื่อได้พูดได้คุยกับคนเป็นพ่อทางโทรศัพท์ก็พอทุเลาความอ้อนลงได้บวกกับพรฟ้าเองก็ย้ำกับลูกอยู่เสมอว่าพ่อเจ้าตัวนั้นมีงานที่จะต้องรับผิดชอบหลังๆมาตะวันฉายจึงไม่งอแงเท่าไร"คุณแม่ขาโทรหาคุณพ่อได้หรือเปล่าคะตะวันอยากคุยกับคุณพ่อ"เด็กหญิงกลับมาที่คลินิคหลังจากเลิกเรียนพร้อมกับน้าสาวได้ก็รีบวิ่งแจ้นตรงไปที่ห้องทำงานคนเป็นแม่ทันทีเพราะวันนี้อยากจะคุยกับพ่อตนเสียเหลือเกินเนื่องจากไม่ได้คุยหลายวันแล้ว"อืม...ไว้แม่ว่างเมื่อไรแม่จะโทรให้นะคะ..แต่ตอนนี้ตะวันต้องทำการบ้านก่อนน้า""ค่ะ"พรฟ้าหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเธอเองก็ติดต่อฟาทิทไม่ได้หลายวัน"ทำไมติดต่อไม่ได้กันนะ"หลังจากที่เจ้าตัวกลมวิ่งออกจากห้องเธอไปหาพลอยฝนแล้วหญิงสาวก็ลองติดต่อฟาทิทอีกรอบแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิมเธอจึงค่อนข้างกังวลพอสมควรว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่หลายวันต่อมาคลินิควันนี้คนไข้ไม่ค่อยมากเท่าไรหมอสาวทั้งสามจึงได้ทานข้าวพร้อมกันในเวลาเที่ยงอลินเร่งมือจัดแจงอาหารวางบนโต๊ะเพราะตอนนี้เธออยากจะทานอาหารตรงหน้าจะแย่มีทั้งปลาสามรสผ
อาทิตย์ต่อมาร่วมสามสี่วันแล้วที่พรฟ้าพาลูกน้อยมาเฝ้าฟาทิทที่โรงพยาบาลคราแรกที่ฟาทิทรู้ว่าโรฮานเป็นคนไปรับพรฟ้าและตะวันฉายมาที่นี่เขาก็ไม่ได้ตำหนิโรฮานแต่อย่างใดเพราะรู้ว่าสิ่งที่โรฮานกับมัคซิมตัดสินใจทำลงไปเพราะความเป็นห่วงเขาในการมาของหญิงสาวและลูกทำให้เขามีกำลังใจในการที่จะหายป่วยมากนับว่าลูกและภรรยาเป็นยาดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ก็ว่าได้โรงพยาบาล"คุณพ่อขา.."ตะวันฉายตื่นขึ้นมาได้เจ้าตัวกลมก็วิ่งแจ้นไปที่เตียงคนเป็นพ่อที่กำลังนอนอยู่ตอนเช้า"ชู่ว.. คุณพ่อหลับอยู่ตะวันอย่าส่งเสียงดังนะคะ"พรฟ้ารีบปรามเจ้าตัวกลมที่กำลังกวนคนเป็นพ่อเพราะเธออยากให้ฟาทิทพักผ่อนให้มาก"ค่ะ.. คุณแม่ตะวันหอมคุณพ่อได้หรือเปล่าคะ"เด็กหญิงรีบวิ่งกลับมาหาคนเป็นแม่ก่อนจะกระซิบกระซาบจนน่าเอ็นดู"ได้สิคะ"ว่าจบพรฟ้าก็อุ้มตะวันฉายเดินไปที่เตียงของฟาทิทก่อนจะปล่อยเจ้าตัวกลมลงข้างๆคนเป็นพ่อให้ตะวันฉายนั้นก้มลงหอมพ่อตนได้สะดวกตลอดหลายวันที่ผ่านมาเมื่อพรฟ้ามาถึงเธอก็พักที่บ้านแค่คืนเดียวหลังจากนั้นเธอก็มาขลุกอยู่แต่ที่โรงพยาบาลเธอไม่ได้รู้สึกลำบากแม้นแต่น้อยทั้งกลับรู้สึกมีความสุขมากกว่าลูกสาวเธอเองก็เห็นจะพอใจที่
22.00 น."ผมไม่อยากจะเชื่อว่าโรฮานจะมีความรักกับเค้าเป็น"ฟาทิทกล่อมเจ้าตัวกลมจนหลับไปแล้วจึงหันมาเอ่ยกับพรฟ้าถึงเรื่องโรฮานยอมรับเลยว่าเขาตกใจพอสมควรที่รู้เรื่องโรฮานกับพลอยฝนทั้งยังเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดติดมาก่อนว่าโรฮานจะรักใครได้เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่มีผู้หญิงเข้าหาโรฮานแต่โรฮานไม่เคยสนใจเช่นเดียวกับเขาเพราะเป็นจำพวกจ่ายเงินแล้วจบไม่มีข้อผูกมัดเท่านั้น"ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคุณโรฮานเปลี่ยนไปได้คุณเองก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะลืมไปแล้วเหรอ"ว่าจบก็อมยิ้มกริ่มพรฟ้าเห็นว่าฟาทิทคงจะลืมไปแล้วว่าตนเองก็เป็นเช่นเดียวกับโรฮานเธอจึงต้องเตือนความจำเสียหน่อย"นั่นสินะ...ผมเปลี่ยนไปเพราะคุณ"ฟาทิทพยักหน้าเบาๅก่อนจะรวบกอดภรรยารักเอาไว้แน่น"งานที่คาสิโนไม่ค่อยมีอะไรน่าห่วงแล้วผมเลยให้มัคซิมไปช่วยอลินดูแลที่คลินิคคุณว่าดีหรือเปล่า""ดีเหมือนกันนะคะระหว่างที่รอหาหมอคนใหม่มาที่คลินิค"พรฟ้าไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือของฟาทิทเพราะเห็นทีหลังจากนี้อลินคงหัวหมุนหากไม่มีคนช่วยเป็นลูกมือ"อยากรู้จังว่าถ้าคุณไม่เป็นหมอเราจะได้เจอกันหรือเปล่า"ฟาทิทก่อยกระซิบข้างแก้มนวล"ถ้าชะตาลิขิตให้เราเจอกันยัง
ณ. คลินิกเวชกรรมเล็กๆแห่งหนึ่งเป็นตึกคูหาที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดในตัวอำเภอมากนักมีหมอสาวพรฟ้าเป็นเจ้าของคลินิกตอนนี้เป็นเวลาเช้า คนไข้ค่อนข้างแน่นเป็นพิเศษเพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝนคนเลยเป็นไข้หวัดกันเยอะช่วงนี้เช้าๆจะยุ่งทุกวันบ่ายๆก็จะไม่ค่อยมีคนหมอในคลินิกก็จะได้พักช่วงนี้คลินิกที่นี่จะปิดทุกวันอาทิตย์มีหมอทำงานกันอยู่สามคนมีหมอพรฟ้าและหมอพลอยฝนที่เป็นน้องสาวอีกคนก็หมออลินเป็นเพื่อนของหมอพลอยฝนเข้ามาทำงานที่นี่พร้อมกันได้ปีกว่าแล้ว"น้องหอบหนักมากเลยนะคะทำไมไม่พามาเร็วกว่านี้คะ"พรฟ้าตรวจลูกสาววัยสี่ขวบของหญิงชาวพม่าตอนนี้หลอดลมเด็กหญิงตีบมากจนเธอต้องรีบพ่นยาไม่รู้ว่าคนเป็นแม่ปล่อยลูกให้เป็นหวัดหนักจนปอดบวมได้อย่างไรทั้งที่ควรจะรีบมาหาหมอนานแล้ว"ฉันไม่ค่อยมีเงินค่ะหมอฉันไม่ใช่คนไทย" หญิงสาวแม่ของเด็กตอบกลับหมอด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักก่อนหน้าเธอเป็นแค่ลูกจ้างในสวนผลไม้แห่งหนึ่งเงินก็ไม่ได้มีมากอะไรแถมต้องตกงานถูกไล่ออกเพราะมัวแต่เอาเวลามาดูแลลูกที่อุ้มลูกมาที่นี่ก็เห็นว่าลูกเป็นหนักมากจึงยอมมาทั้งที่มีเงินติดตัวไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท"โถ่.. ถ้าลูกเป็นแบบนี้อีกรีบพามาเลยนะคะถ้าไม่มีเงินก