ณ. คลินิกเวชกรรมเล็กๆแห่งหนึ่งเป็นตึกคูหาที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดในตัวอำเภอมากนักมีหมอสาวพรฟ้าเป็นเจ้าของคลินิก
ตอนนี้เป็นเวลาเช้า คนไข้ค่อนข้างแน่นเป็นพิเศษเพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝนคนเลยเป็นไข้หวัดกันเยอะช่วงนี้เช้าๆจะยุ่งทุกวันบ่ายๆก็จะไม่ค่อยมีคนหมอในคลินิกก็จะได้พักช่วงนี้
คลินิกที่นี่จะปิดทุกวันอาทิตย์มีหมอทำงานกันอยู่สามคนมีหมอพรฟ้าและหมอพลอยฝนที่เป็นน้องสาวอีกคนก็หมออลินเป็นเพื่อนของหมอพลอยฝนเข้ามาทำงานที่นี่พร้อมกันได้ปีกว่าแล้ว
"น้องหอบหนักมากเลยนะคะทำไมไม่พามาเร็วกว่านี้คะ"
พรฟ้าตรวจลูกสาววัยสี่ขวบของหญิงชาวพม่าตอนนี้หลอดลมเด็กหญิงตีบมากจนเธอต้องรีบพ่นยาไม่รู้ว่าคนเป็นแม่ปล่อยลูกให้เป็นหวัดหนักจนปอดบวมได้อย่างไรทั้งที่ควรจะรีบมาหาหมอนานแล้ว
"ฉันไม่ค่อยมีเงินค่ะหมอฉันไม่ใช่คนไทย"
หญิงสาวแม่ของเด็กตอบกลับหมอด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักก่อนหน้าเธอเป็นแค่ลูกจ้างในสวนผลไม้แห่งหนึ่งเงินก็ไม่ได้มีมากอะไร
แถมต้องตกงานถูกไล่ออกเพราะมัวแต่เอาเวลามาดูแลลูกที่อุ้มลูกมาที่นี่ก็เห็นว่าลูกเป็นหนักมากจึงยอมมาทั้งที่มีเงินติดตัวไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท
"โถ่.. ถ้าลูกเป็นแบบนี้อีกรีบพามาเลยนะคะถ้าไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร"
พรฟ้ารีบบอกให้คนตรงหน้าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเพราะเธอเป็นหมอหน้าที่ก็คือรักษาเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะ"
หญิงสาวรีบยกมือไหว้หมอสาวก่อนจะน้ำตารื้นนับว่าชีวิตที่นี่ก็ไม่ได้โหดร้ายกับคนต่างบ้านต่างถิ่นอย่างเธอเสมอไป
"ไม่เป็นไรค่ะ...ถ้าน้องพ่นยาเสร็จแล้วหมอจะเข้ามาฟังปอดอีกรอบนะคะอาจจะต้องฉีดยาด้วย"
"ค่ะ"
หมอสาวว่าจบก็รีบออกไปดูคนไข้เคสอื่นต่อเพราะอยากจะตรวจอาการของคนที่มานั่งรอให้เร็วที่สุดคนไข้จะได้รีบกลับบ้านไปพักผ่อน
พรฟ้าเธอเป็นหญิงสาวสวยวัย29หุ่นนาฬิกาทรายผิวขาวอมชมพูสูง160 ผมดกดำหยักศกยาวถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วเรียวบางได้รูปดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อย
เธอเป็นหมอสาวเจ้าของคลินิกอยู่ที่ตัวอำเภอหนึ่งของจ.นครราชสีมาคลินิกของเธอเป็นคลินิกเล็กๆที่มีคนไข้มาเรื่อยๆไม่ได้เยอะอะไร
พรฟ้าต้องใช้ชีวิตตามลำพังกับน้องสาวเธอตั้งแต่เธออายุ15ปีเนื่องจากพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
และคนที่มาซัพพอร์ตส่งเสียให้เธอเรียนคือฉวีวรรณผู้ใหญ่ใจดีที่เป็นเจ้านายของคนเป็นแม่ท่านเห็นว่าเธอและน้องไม่เหลือใครจึงคอยมาดูแลเป็นระยะ
คลินิกนี่ก็เป็นเงินของฉวีวรรณที่สร้างให้เธอหลังจากเธอเรียนจบและได้ทดลองทำงานมาได้ปีกว่าแล้วจึงมาทำงานในคลินิกที่นี่
ตอนนี้เธอเป็นหมอสาวที่เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอท้องกับใครแม้กระทั่งน้องสาวและเธอก็ไม่คิดจะบอกใครว่าเธอท้องได้อย่างไร
หญิงสาวเป็นคนที่ค่อนข้างแข็งนอกอ่อนในเพราะที่ต้องเป็นแบบนั้นด้วยเธอต้องเป็นหลักให้น้องสาวและต้องใช้ชีวิตลำพังมาตั้งแต่อายุยังน้อยแถมยังใจดีขี้สงสารบ่อยครั้งที่เธอรักษาคนฟรีๆเพราะเห็นว่าคนไข้ไม่มีเงิน
หลายชั่วโมงต่อมา
"น้องเป็นยังไงบ้างคะพี่ฟ้า" ตอนนี้ก็เป็นช่วงบ่ายที่คนไข้ไม่มีแล้วเหลือแค่เคสเมื่อเช้าที่เด็กหญิงปอดบวมพลอยฝนจึงเข้ามาถามอาการจากคนเป็นพี่สาวเพราะเห็นว่าพี่เธอยังไม่ยอมปล่อยให้คนไข้กลับ
"ดีขึ้นมากแล้วล่ะพี่ขอให้อยู่ดูอาการหลังจากยาที่กินออกฤทธิ์สักพักก็จะให้กลับได้แล้ว" พรฟ้ามีเหตุผลที่ยังไม่ยอมให้คนไข้กลับเพราะเธอยังอยากดูอาการให้แน่ใจว่าอาการของเด็กหญิงดีขึ้นแล้วจริงๆจึงจะยอมให้กลับไปได้ไม่อย่างนั้นเธอคงจะเป็นกังวล
พลอยฝนน้องสาวของพรฟ้าเป็นหญิงสาวอายุ27ตัวเล็กสูงเพียง155 ผมสีดำหยักศกยาวถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่เหมือนพี่แก้มมีลักยิ้มคิ้วเข้มคมได้ส่วนเหมือนคนเป็นพ่อมาดวงตากลมโตจมูกโด่งเป็นสันปากเรียวบางอมชมพูใบหน้าหวานถูกบดบังความน่ารักด้วยแว่นหนาๆเพราะเป็นคนสายตาสั้นและเธอก็เลือกที่จะใส่แว่นแบบนี้เพราะไม่ค่อยชอบใส่คอนแท็คเลนส์
เธอเป็นเป็นหมอเช่นเดียวกับพี่สาวและช่วยกันทำงานที่คลินิคที่นี่หญิงสาวเป็นคนขี้สงสารแบบเดียวกับคนเป็นพี่แต่จะแอบขี้กลัวกว่าหน่อย
ก๊อกๆๆ
"พี่ฟ้าคะ"
"ว่าไงลิน" ทั้งพรฟ้าและพลอยฝนต่างก็จ้องสายตาไปที่อลินเป็นตาเดียว
"ลินเข้าไปคุยกับแม่ของคนไข้พี่ฟ้ามาเธอบอกว่าเธอถูกไล่ออกจากไร่xxxแถมต้องเลี้ยงลูกคนเดียวลินก็เลยให้พี่คิณรับเป็นคนในไร่ค่ะ"
อลินหมอสาวอายุ27 เป็นหญิงสาวตัวเล็กพอๆกับพลอยฝนและเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน.ปลายจนมาเรียนหมอด้วยกัน
หญิงสาวเป็นคนตัวเล็กเจ้าเนื้อแต่สมส่วนผิวขาวเหลืองใบหน้ากลมผมสีน้ำตาลเข้มยาวตรงรวบตึงเป็นหางม้าปล่อยปอยหวานข้างหน้าเล็กน้อย
คิ้วเรียวบางได้รูปดวงตาเฉี่ยวประดุจตาแมวนัยห์ตาสีดำสนิทจมูกเป็นแท่งตรงเรียวเล็กริมฝีปากล่างค่อนข้างหนาเป็นคนที่รูปปากสวยอมชมพูแก้มป่องเพราะเจ้าตัวเป็นคนทานเก่ง
ครอบครัวหมออลินเป็นเจ้าของไร่เป็นพันไร่ในจังหวัดนครราชสีมาตอนนี้พี่ชายเธอก็ขึ้นเป็นพ่อเลี้ยงแห่งไร่คีรีรักษ์
เมื่อเรียนจบได้ก็ทำงานที่โรงพยาบาลพร้อมพลอยฝนหาประสปการณ์และก็เริ่มเข้ามาทำงานในคลินิกของพรฟ้าพร้อมพลอยฝน
นิสัยค่อนข้างไม่ยอมคนแต่ก็มีเหตุผลหากใครดีมาดีกลับร้ายมาร้ายกลับรักเพื่อนรักครอบครัวเป็นที่สุด
"ดีจังเลยนะ" พรฟ้ายิ้มร่านับว่าเป็นโชคดีของเด็กหญิงและคนเป็นแม่จริงๆ
"ได้เป็นคนในไร่พี่คิณรับรองไม่มีลำบากแน่นอน"
อลินอวดโอ้คนเป็นพี่ชายด้วยสีหน้าระรื่นเพราะอยากให้พรฟ้าได้เห็นข้อดีของพี่ชายเธอมากๆด้วยรู้อยู่มานานว่าอคิณพี่ชายของเธอตามจีบพรฟ้าอยู่
"ใช่ๆพี่คิณดูแลคนของตัวเองดีมากๆเลยพลอยขอยืนยันอีกปากไม่รู้ว่าถ้ามีแฟนจะดูแลแฟนดีขนาดไหนน้า.."
พลอยฝนเอ่ยเสริมอลินอีกแรงด้วยชอบในนิสัยใจคอของอคิณที่เป็นสุภาพบุรุษจิตใจดีแถมมีทรัพย์พร้อมหากได้มาเป็นพี่เขยพี่สาวเธอคงจะสบาย
"พี่รู้นะว่าพวกเราจะพูดอะไร"
พรฟ้าหลี่สายตามองสองสาวก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
"เมื่อไรพี่ฟ้าจะใจอ่อนกับพี่คิณเสียทีล่ะคะ"
อลินเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะบุ้ยปากเล็กน้อยเพราะเธออยากให้พรฟ้าและพี่ชายเธอลงเอยกันเสียที
"พี่บอกแล้วไงว่าพี่เห็นคุณคิณเป็นแค่พี่ชาย"
พรฟ้าพูดเรื่องนี้กับสองสาวเป็นรอบที่ร้อยแต่ทว่าก็ไม่พ้นจะถูกคะยั้นคะยอความเป็นจริงแล้วให้เธอมองอคิณต่างจากพี่ชายเป็นอื่นไม่ได้เลยเพราะเห็นกันมานานแล้วและไม่เคยนึกจะคิดอะไรเกินเลยกว่าคำว่าพี่ชาย
โรงแรมxxxฟาทิทนั่งอยู่ริมระเบียงกว้างในห้องของโรงแรมหรูในย่านตัวเมืองกรุงเทพมหานครฟาทิทเป็นหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทยตุรกีอายุ45ความสูงของเขาเกือบสองเมตรเป็นลูกครึ่งไทยตุรกีหุ่นล่ำบึกบึนสมส่วนผมสีน้ำตาลเข้มตัดลองทรงเซ็ทเนี้ยบใบหน้าเป็นสันคมมีไรหนวดเคราเล็กน้อยดวงตาหวานขนตางอนราวกับผู้หญิงนัยห์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่เมื่อใครได้มองเป็นดั่งต้องมนต์สะกดยากที่จะละสายตาคิ้วหนาเข้มได้รูปจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับอมชมพูฟาทิททำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมมีหุ้นส่วนมากมายทั้งในแคนาดาและซาอุดิอาราเบียและยังเป็นเจ้าของคาสิโนอีกหลายแห่งแถมยังมีหุ้นเล็กหุ้นน้อยในบริษัทอสังหาเรียกได้ว่าชีวิตของเขามีแต่งานรัดตัวที่ชีวิตของเขาสนใจแต่เพียงเรื่องงานเพราะธุรกิจมากมายล้วนแล้วแต่ตกทอดเป็นมรดกให้เขาเพียงแค่คนเดียวและการที่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวชีวิตแต่ละช่วงวัยก็จะไม่ได้ใช้ไปเหมือนคนอื่นเขาถูกฝึกมาเพื่อเป็นผู้นำชีวิตของเขาตั้งแต่เด็กๆจึงอยู่กับการฝึกการต่อสู้เรียนรู้การบริหารไม่ได้มีสัมพันธ์ครอบครัวกับพ่อแม่เหมือนคนอื่นๆชีวิตจึงไม่ได้ใส่ใจที่จะหาคนรักเพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นหากมีความต้องการของความเป็นบุรุษเพศเขาก็
"วันนี้มีไอศครีมวานิลลาของโปรดตะวันหรือเปล่าคะ" เป็นประจำของทุกวันที่ตะวันฉายจะร้องขอไอศครีมวานิลลากับคนเป็นแม่เพราะเป็นของโปรดจนพรฟ้าต้องมีติดตู้เย็นที่บ้านและทั้งคลินิกเพื่อเอาไว้ให้ตะวันฉาย"เอ...มีหรือเปล่าน้า.." "ไม่มีเหรอคะ" จากน้ำเสียงลังเลที่คนเป็นแม่แกล้งทำเอาเด็กหญิงเริ่มคอตกเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"ใครว่าล่ะคะ...อยู่ในตู้เย็นนี่ไง" พรฟ้ารีบอุ้มลูกสาวเธอเดินเข้าไปในห้องทานอาหารของคลินิกก่อนจะเปิดตู้หยิบกล่องไอศครีมของโปรดลูกสาวเธอออกมา"เย่..ตะวันรักคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ" ดวงตากลมโตของเด็กหญิงมองดูกล่องไอศครีมในมือคนเป็นแม่ด้วยตาเป็นประกายตบมือชอบใจและโผกอดคอคนเป็นแม่ก่อนจะเอ่ยคำหวานเอาใจแม่ตนอีกรอบเพราะดีใจที่จะได้ทานของโปรด20.30"ตะวันหลับแล้วเหรอพี่ฟ้า" พลอยฝนเอ่ยทักคนเป็นพี่ขณะที่ตนกำลังจัดแจงข้าวของที่ซื้อมาเพื่อที่จะไปทำสังฆทานที่วัดใกล้บ้านในวันพรุ่งนี้เพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบเสียชีวิตของคุณยายฉวีวรรณคนที่มีพระคุณชุบเลี้ยงพวกเธอมาตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสีย "อืม...กลิ้งคว่ำกลิ้งหงายกับถั่วเน่าจนหลับคากันเลย" พรฟ้าเอ่ยถึงลูกสาวตนด้วยรอยยิ้มอ่อน"นี่ถ้าขาดถัวเน่
"มีอะไรครับนาย" มัคซิมที่เห็นว่าเจ้านายตนจู่ๆก็หยุดชะงักการเดินจึงต้องเอ่ยถามขึ้นมัคซิมมือซ้ายของฟาทิท มัคซิมอายุ 35 เป็นคนรัสเซียเขาเป็นหนุ่มหล่อสูงใหญ่ใบหน้าคมผมสีเทาตัดทรงวินเทจเซ็ทเนี้ยบคิ้วหนาเข้มตาคมสีนิลจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางอมชมพูเขาเป็นผู้ชายที่ยิ้มสวยคนหนึ่งและสาวๆก็หลงเสน่ห์โดยการมองรอยยิ้มของเขาแทบทุกคนใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครานิสัยค่อนข้างแอบซนและช่างเจรจากว่าคนเป็นเจ้านายและโรฮานจริงจังในการทำงานอย่างมากจึงอยู่กับฟาทิทได้ทั้งนี้มัคซิมยังทันเล่ห์เหลี่ยมคนเพราะรู่เล่ห์รู้กลโกงมาแต่ไหนแต่ไรงานของเขาส่วนมากเลยจะอยู่ที่คาสิโนเสียส่วนใหญ่เขามาทำงานกับฟาทิทตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเพราะตั้งแต่พ่อที่เลี้ยงมาคนเดียวเสียเขาก็ไปอยู่กับพวกขี้ยาข้างถนนลักเล็กขโมยน้อยจนวันนึงมาเจอกับฟาทิทเขาเห็นว่ามัคซิมค่อนข้างเป็นคนฉลาดมีความสามารถจึงอยากจะชุบชีวิตใหม่ให้มัคซิมและความสามารถในการต่อสู้บวกกับความฉลาดทันเล่ห์เหลี่ยมคนมัคซิมจึงขึ้นเป็นมือซ้ายของฟาทิทหลังจากเข้ามาอยู่กับฟาทิทไม่นาน"เปล่า.. กลับกันเถอะ" ใบหน้าคมส่ายหัวเบาๆก่อนจะเลิกสนใจสิ่งรอบข้างและเดินตรงดิ่งไปที่รถ"ครับ
"อืม.." หัวใจดวงน้อยของเธอตอนนี้เต้นไม่เป็นส่ำเธอพยายามตั้งสติแล้วทำตามที่อีกฝ่ายบอกแต่โดยดีเพราะเธอไม่เสี่ยงที่จะโวยวายด้วยกลัวว่าลูกน้อยจะตื่นมาตกใจและเป็นอันตรายไปด้วย"คุณเป็นหมอใช่หรือเปล่า""อืม.." พรฟ้าพยักหน้าหงึกหงักดวงตาของเธอตอนนี้ดูตื่นตระหนกจนเห็นได้ชัด"นายของผมบาดเจ็บหนักเค้าถูกยิงต้องผ่าตัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้วไปกับผม" โรฮานเอ่ยบอกกับหญิงสาวด้วยความร้อนใจ"ถ้าคนไข้ต้องผ่าตัดคุณต้องพาเค้าไปโรงพยาบาลเกิดให้ฉันทำโดยที่อุปกรณ์ไม่พร้อมเสียเลือดมากจะทำยังไง" พรฟ้าไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าไม่พาคนเจ็บไปโรงพยาบาลเนื่องจากบาดเจ็บถึงขั้นผ่าตัดใจของเธอตอนนี้ชักกลัวเสียแล้วว่าเขาจะเป็นพวกโจรหรือผู้ร้ายที่หนีคดี"ยังไงคุณก็ไปกับพวกผมก่อน" โรฮานเริ่มหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำตามที่บอกแต่โดยดีจึงชูปืนขึ้นมาไว้ตรงหน้าหญิงสาวเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกกลัวและทำตามคำสั่งของเขา"ฉันขอเรียกน้องสาวฉันให้ดูลูกก่อนจะได้หรือเปล่า" หัวใจของพรฟ้าตอนนี้แทบจะเต้นกระเด็นออกมาข้างนอก"น้องสาวคุณอยู่ที่ไหน""อีกห้อง" มือน้อยชี้ไปอีกห้องข้างๆที่อยู่ติดกันไม่นานนักพรฟ้าพลอยฝนรวมถึงเจ้าก้อนก
ช่วงเช้าโรฮานพาพลอยฝนมาที่บ้านของเธอเพื่อจัดแจงเตรียมของใช้ต่างๆของพรฟ้าและตะวันฉายให้เสร็จก่อนที่เธอจะไปที่คลินิก"เรียบร้อยแล้วใช่หรือเปล่า" โรฮานเห็นหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามถึงความเรียบร้อย"ค่ะ..นี่ของพี่ฟ้าส่วนพวกนี้ก็ของตะวันและก็นั่นของฉัน" พลอยฝนชี้ไปที่กระเป๋าใบใหญ่ที่กองๆรวมกันอยู่ให้โรฮานได้รู้ว่าของใครเป็นของใครเวลาที่กลับมาขนไปที่บ้านนั้นจะได้บอกพี่สาวเธอถูก"อืม.." ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินหันหลังออกจากบ้านไป"...." พลอยฝนรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาโรฮานเท่าไรเพราะเขาดูเย็นชาจนไม่น่าเป็นมิตรเอาเสียเลย โรฮานใช้เวลาไม่นานนักก็มาส่งพลอยฝนที่หน้าคลินิกก่อนที่หญิงสาวจะเปิดประตูออกไปจากรถ"เดี๋ยว""คะ?""หวังว่าจะไม่มีใครรู้" เขาก็ต้องรั้งเธอเอาไว้ก่อนเพื่อย้ำว่าเรื่องที่เธอเจอจะต้องเป็นความลับ"ฉันเข้าใจดีค่ะ" พลอยฝนพยักหน้าเบาๆและรีบออกจากรถไปก่อนที่จะมีคนมาเห็นว่าเธอมากับใครเพราะขี้เกียจหาข้ออ้างตอบคำถาม หลังจากที่โรฮานกลับไปเก็บของที่บ้านของพรฟ้ามาหมดแล้วเขาก็กลับมาจัดแจงเก็บทุกอย่างเรียบร้อยจึงเข้าไปบอกกับพรฟ้าว่าของพวกเธอนั้นเขาจัดการใ
"...."พรฟ้าเงียบครู่หนึ่งเพราะมัวแต่จ้องมองดวงตาของชายหนุ่มที่พึ่งจะลืมนัยห์ตาของเขาสีฟ้าน้ำทะเลสะกดสายตาของเธอได้เป็นอย่างดีทั้งยังเหมือนกับดวงตาของลูกสาวเธอไม่มีผิด"เอ่อ..ฉันเป็นหมอที่คุณโรฮานพามารักษาคุณค่ะ"พอตั้งสติได้สาวเจ้าก็รีบเอ่บบอกอีกฝ่ายที่ไม่ยอมปล่อยข้อมือน้อยของเธอให้ได้รู้ว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไรและเป็นใคร"อืม..""คุณอย่าพึ่งขยับนะคะคุณมีแผล" ร่างบางรีบโผจับบ่าของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างเบามือเพื่อไม่ให้เขาขยับเพราะเดี๋ยวจะสะเทือนที่แผล"......" ฟาทิทจ้องมองหญิงสาวเงียบๆขณะที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอและเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบรู้สึกคุ้นหน้าของเธอแปลกๆแต่จำไม่ได้ว่าเขาเคยเห็นที่ไหน"เอ่อ.."หญิงสาวรีบหลบสายตาอีกฝ่ายและถอยออกห่างเมื่อรู้ตัวว่าเธอใกล้กับเขามากเกินไปแถมสายตาของเธอกับเขายังประสานกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกด้วยเธอจึงเริ่มประหม่าเล็กน้อย"ทานยาแก้ปวดนะคะเดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้คุณเป็นระยะตอนนี้ไข้คุณยังไม่ลดเท่าไร""อืม.."พรฟ้ารีบจัดการหายาให้ชายหนุ่มทานเห็นว่าเขาตื่นขึ้นมาตอนนี้ก็ดีแล้วเธอจะได้ให้เขาทานยาลดไข้หลังจากนี้ก็เช็ดตัวไปพรางๆไข้จะได้ลดเร็วขึ้นตุรกีอังการา"ฉั
"ฝีมือฉันพอจะทานได้หรือเปล่าคะ" พลอยฝนเอ่ยถามรสชาติของอาหารขณะที่ทุกคนกำลังจะทานข้าวหมดจานเพราะเธอเห็นว่ามัคซิมและโรฮานเล่นทานไม่พูดไม่จาจนเธอไม่รู้ว่าตกลงพวกเขาชอบในรสมือของเธอหรือเปล่า"โอเคเลยครับอร่อยมากรสชาติแบบนี้โรฮานก็ชอบเหมือนกัน"มัคซิมยกผ้าเช็ดปากก่อนจะพยักหน้าเอ่ยชมฝีมือของหญิงสาวเขาคิดว่าโรฮานก็คงจะชอบแบบนี้เหมือนกันไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเจริญอาหารจนเติมข้าวรอบที่สามทั้งที่ไม่ใช่อาหารที่คุ้นชินเท่าไร"เหรอคะคุณโรฮาน"พลอยฝนและพรฟ้าต่างก็อมยิ้มอ่อนที่ได้รับคำชมในส่วนพลอยฝนเองก็รีบหันไปถามโรฮานแต่ดูท่าว่าเขาจะเอาแต่นั่งนิ่งไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆเท่านั้น"....." มัคซิมหันไปยิ้มเจื่อนให้พลอยฝนเขารู้ว่าหญิงสาวคงคิดว่าโรฮานดูจะไม่ร่อยเป็นมิตรแต่กับเขานั้นชินกับพฤติกรรมของโรฮานไปแล้ว"อืม.."พลอยฝนถอนหายใจให้กับโรฮานเป็นครั้งที่หลายสิบได้ไม่รู้ว่าหากเขาปริปากพูดมากๆแล้วดอกพิกุลทองจะล่วงออกจากปากหรืออย่างไร"..พลอย...."พรฟ้ารีบดึงมือคนเป็นน้องให้ทำสีหน้าดีๆเพราะรู้ว่าน้องเธอคงจะไม่ค่อยชอบโรฮานเท่าไรในส่วนของตัวเธอนั้นมองออกว่าโรฮานเป็นคนเช่นไรจึงไม่คิดจะถือสา21.00
"ลูกคุณน่ารักดีนะ..สามีคุณล่ะ"หลังจากเด็กหญิงกลับห้องไปและหมอสาวก็เดินกลับมายังฟูกนอนของตัวเองฟาทิทจึงเอ่ยถามเรื่องที่เป็นคำถามคาใจของเขาอยู่เพราะการที่เธอและลูกมาอยู่ที่นี่สามีของหญิงสาวจะเป็นอย่างไร"บ้านฉันก็อยู่กันแค่นี้"เป็นคำถามครั้งที่สองหลังจากที่โรฮานถามพรฟ้าจึงเอ่ยตอบคำเดียวกับที่เคยตอบโรฮานเมื่อลูกน้องเข้าใจหวังว่าเจ้านายก็คงเข้าใจคำที่เธอสื่อเช่นเดียวกัน"แล้วอยู่แบบนี้มานานแล้วเหรอ"ฟาทิทยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัวรู้สึกว่าคำตอบนี้ดูน่ายินดีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในใจมันคิดแบบนั้นทั้งอยากจะรู้อีกว่าเธอและสามีเธอเลิกกันไปเมื่อไรจึงตั้งคำถามแบบอ้อมๆขึ้นมา"ค่ะ..ก็นานแล้ว"พรฟ้าพยักหน้าเบาๆก่อนจะเอื้อมมือปิดโคมไฟและล้มตัวลงนอนด้วยไม่อยากพุดอะไรต่อเรื่องนี้แล้ว"อืม..."ฟาทิทอมยิ้มอยู่ในความมืดนานแล้วที่หัวใจของเขาไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษแบบนี้แต่ก็ยังไม่รู้ตัวเองว่าทำไมเหมือนกันหรืออาจจะเป็นเพราะได้อยู่ในสถานที่ใหม่ๆเจอเรื่องราวและผู้คนใหม่ๆก็เป็นไปได้สามวันต่อมาวันนี้ฟาทิทรู้สึกว่าตัวเองอาการดีขึ้นพอสมควรจึงเรียกคนสนิททั้งสองคุยถึงเหตุการณ์ที่เขาถูกลอบทำร้าย"ฉันเชื่อว่าคน