Share

ตอนที่ยี่สิบสาม ทำไปเพราะจำเป็น

หลังจากทานข้าวเสร็จวันทั้งวันพรฟ้าก็เอาแต่นอนซมหลับเป็นพักๆด้วยฤทธิ์ยาและมีฟาทิทดูแลอยู่ไม่ห่างตลอดเวลาจนพรฟ้าอดคิดไม่ได้ว่าเขากลัวเธอหนีหรือมีความห่วงใยเธอขึ้นมาบ้างกันแน่แต่เห็นจะเป็นอย่างแรกเสียมากกว่า

 ทางด้านโรฮานตอนนี้เขาเปรียบเสมือนบอดี้การ์ดประจำตัวพลอยฝนและตะวันฉายไปแล้วไม่ว่าหญิงสาวและตะวันฉายจะไปที่ไหนเขาก็ต้องตามติดตลอดเวลาเพราะฟาทิทสั่งมาว่าหากพลอยฝนอยากจะพาตะวันฉายไปเที่ยวที่ไหนให้ไปได้เลยเพียงแค่โรฮานต้องอย่าปล่อยให้ทั้งคู่คลาดสายตาและพากันหนีไปได้เท่านั้น

ช่วงเย็นของวันนี้พลอยฝนขอให้โรฮานพาเธอและตะวันฉายออกมาที่สวนสาธารณะใกล้ๆที่มีสนามเด็กเล่นเพื่อให้หลานสาวของเธอได้มีพื้นที่เล่นและเจอเด็กๆคนอื่นๆบ้าง

"คุณโรฮานเรื่องที่พวกคุณสืบได้เรื่องยังไงบ้างเมื่อไรความจริงจะกระจ่างสักที"

ระหว่างที่นั่งจ้องมองหลานสาวตนอยู่ห่างๆพลอยฝนก็เอ่ยถามความคืบหน้าถึงเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้เพราะหากความจริงปรากฏเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีพี่สาวเธอจะได้พ้นมลทิน

"ตอนนี้มัคซิมกำลังจัดการอยู่เรื่องมันไม่ใช่ผ่านมาแค่วันสองวันแต่ต้องใช้เวลาสักนิด"

โรฮานรู้ว่ามัคซิมกำลังได้เบาะแสสำคัญแต่ไม่ได้คิดจะบอกหญิงสาวตอนนี้เพราะรู้ว่าลงรายละเอียดไปไม่พ้นเธอคงเค้นถามจุกจิกเขาเป็นแน่

"เฮ้อ.."

พลอยฝนยกมือขยับแว่นตาหนาทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างอ่อนใจก่อนจะลุกหนีโรฮานไปหาตะวันฉายที่กำลังง่วนกับการปีนเล่นสไลด์เดอร์

"....."

โรฮานมองตามหลังพลอยฝนด้วยสีหน้าเรียบเฉยใช่ว่าเขาไม่อยากให้ความจริงปรากฏโดยเร็วแต่ตอนนี้หลักฐานช่างหาได้ยากเสียเหลือเกิน

วันต่อมา

ฟาทิทที่กำลังนั่งเช็คอีเมลอยู่ในห้องนอนข้างๆกับร่างบางที่นอนนิ่งหันหลังให้กับเขาในช่วงเช้า

"ฉันจะหาทางออกกับเรื่องนี้เองพวกนายทำหน้าที่ที่ฉันสั่งต่อไป"

มือหนาพิมพ์ตอบกลับอีเมลของมัคซิมไปหลังจากรู้ว่าตอนนี้บริษัทกำลังขาดคงามเชื่อมั่นในตัวของเขาด้วยเพราะประธานใหญ่ไม่มีทายาทสืบสกุลอนาคตจึงอาจทำให้มีข้อพิพาทว่าจะมีใครขึ้นดำรงตำแหน่งแทนถึงวันนั้นหุ้นส่วนและคนภายในองค์กรอาจระส่ำระส่ายได้ว่าไม่รู้นโยบายของบริษัทจะไปทางไหน

ฟาทิทคิดว่าเรื่องแค่นี้เขาจัดการเองได้และให้มัคซิมกับโรฮานจัดการเรื่องเก่าที่เขาต้องการคำตอบต่อ

"จะไปไหน"

มือหนาดึงข้อมือเรียวของพรฟ้าเอาไว้ขณะที่เธอกำลังจะลุกออกไปจากเตียงนุ่ม

"ฉันจะไปไหนได้ล่ะคะ"

ดวงตากลมโตมองค้อนกลับมายังฟาทิทก่อนจะเอ่ยถ้อยคำประชดประชัน

"เย็นนี้ตะวันจะมาที่นี่"

"เหรอคะ...คุณยอมให้ฉันเจอลูกแสดงว่าเชื่อที่ฉันพูดแล้วใช่หรือเปล่า"

จากสีหน้าที่ดูหมดอาลัยตายอยากกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มมือเรียวทั้งสองกุมมือของฟาทิทเอาไว้ที่เขายอมให้เธอเจอลูกแบบนี้แสดงว่าเขาต้องรู้ความจรอิงแล้วเป็นแน่ว่าเธอนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการเสียชีวิตของฉวีวรรณ

"อย่าดีใจไปเลยผมมีความจำเป็นต่างหาก"

ฟาทิทจ้องมองหญิงสาวนิ่งๆปล่อยให้ห้องนี้มีแต่ความเงียบและค่อยๆส่ายหัวทั้งยังดับฝันหญิงสาวให้เธอคิดใหม่เพราะที่เขาให้เธอได้เจอลูกเป็นเพียงเพราะความจำเป็นเท่านั้น

และหลังจากที่มัคซิมไปรับตะวันฉายจากโรฮานแล้วเขาจะพาพรฟ้าและตะวันฉายไปที่ตุรกีทันทีแม้นไม่ได้อยากให้ใครรู้เรื่องลูกเท่าไรนักแต่ปัญหาครั้งนี้มันทำให้เขาจำเป็นจะต้องเปิดตัวลูกของเขา

“หมายความว่ายังไง”

“เย็นนี้ตะวันจะมากับมัคซิมเท่านั้นพลอยฝนยังจะอยู่ในความดูแลของโรฮานผมแค่มีธุระที่จะต้องพาคุณกับตะวันไปที่อังการาเท่านั้นเมื่อถึงที่นั่นคุณจะต้องเล่นบทภรรยาแสนดีที่อยู่กับผมมานานหากคุณคิดจะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งน้องคุณไม่ปลอดภัยแน่เข้าใจหรือเปล่า”

“มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำแบบนี้”

พรฟ้ามีสีหน้าสงสัยหนักทว่าเดาไม่ออกเลยว่าเขาจะทำแบบนี้เพื่ออะไร

“เรื่องของผมทำตามที่ผมสั่งก็พอ”

ว่าจบก็วางโน๊ตบุ๊คลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะลุกหนีหญิงสาวออกไป

17.00 น.

ตั้งแต่ช่วงเช้าที่รู้ว่าจะได้เจอลูกพรฟ้าก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเธอเหมือนจะหายป่วยเป็นปลิดทิ้งลุกมาทำโน่นทำนี่รอลูกสาวมาหาในช่วงเย็นและแล้วก็ถึงเวลาที่ตะวันฉายกับมัคซิมมาถึงที่นี่

"ตะวันขา" ฟอดดด

พรฟ้าเห็นมัคซิมอุ้มตะวันฉายเข้ามาเธอก็รีบลุกไปโผรับลูกสาวของเธอมากอดหอมให้หายคิดถึงทันที

"คุณแม่"

เด็กหญิงที่คิดถึงคนเป็นแม่เช่นกันพอแม่ของเจ้าตัวอุ้มได้ก็กอดคอคนเป็นแม่เอาไว้แน่นก่อนจะเงยหน้ามาหอมแก้มนวลของแม่ตนฟอดใหญ่

"คิดถึงตะวันจังเลยค่ะ"

ฟาทิทที่เห็นพรฟ้าได้รับความนคิดถึงจากลูกสาวเขาก็อยากได้รับความรู้สึกสำคัญแบบนี้บ้างจึงเข้าไปดึงตะวันฉายออกจาพรฟ้าจนหญิงสาวถึงกับหน้าเสียแต่ก็ไม่ได้อยากโวยวายอะไรในตอนนี้ทำได้เพียงแค่มองค้อนใส่อีกฝ่ายเท่านั้น

"ตะวันก็คิดถึงคุณแม่ค่ะคิดถึงคุณลุงด้วย"

ตะวันฉายเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วดีใจที่ได้พบกับคุณลุงคนดปรดของเธออีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายวัน

"ต้องเรียกคุณพ่อแล้วนะครับตะวัน"

คำพูดของฟาทิททำเอาพรฟ้าถึงกับยืนนิ่งงันและเอาแต่จ้องหน้าลูกสาวของเธอว่าจะมีปฏิกิริยาเช่นไรเพราะตั้งแต่เกิดมาน้อยครั้งที่ตะวันฉายจะได้ยินคำนี้

"คุณพ่อเหรอคะ"

เด็กหญิงขมวดคิ้วสงสัยก่อนจะมองหน้าของฟาทิทเพื่อต้องการคำอธิบาย

"ใช่ครับพ่อเป็นพ่อของตะวันไง"

จบประโยคของฟาทิทตะวันฉายก็ยังคงมีสีหน้าสงสัยเช่นเดิมแอบตำหนิหญิงสาวอยู่ในใจเล็กน้อยเพราะดูออกว่าพรฟ้าคงจะไม่ใส่ใจที่จะสอนให้ลูกสาวได้รู้ว่าคำว่าพ่อมีความหมายอย่างไรแต่ไม่เป็นไรหลังจากนี้เขาจะเป็นคนอธิบายเรื่องนี้กับลูกเอง

"ทำหน้าสงสัยไปกินไอศครีมกันดีกว่าครับ"

"ดีค่ะ...เย่ๆ"

เด็กหญิงยิ้มปากบานเมื่อรู้ว่าจะได้ทานของโปรด

“น้องสาวฉันสบายดีใช่หรือเปล่าครับ”

พรฟ้ายังไม่ได้เดินตามสองพ่อลูกไปเธอออกมาถามมัคซิมที่กำลังยกของเข้ามาในบ้านถึงเรื่องความเป็นอยู่ของพลอยฝนด้วยความเป็นห่วงน้องสาว

“เธอสบายดีครับคุณฟ้าไม่ต้องเป็นห่วง...นี่พวกของใช้คุณฟ้าที่นายสั่งให้ผมเตรียมมาให้ครับ”

“ค่ะ..เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บเองค่ะ”

เมื่อรู้ว่าน้องสาวตนปลอดภัยพรฟ้าก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะก่อนจะมองไปที่ถุงแบรนด์เนมสี่ห้าถุงในมือของมัคซิมและรับมันมาเพื่อนำไปเก็บเอง

วันทั้งวันพรฟ้าตามติดลูกสาวเธอแจหญิงสาวมีชีวิตชีวาขึ้นได้เมื่อได้อยู่ใกล้กับตะวันฉายลูกสาวตัวกลมที่เสมือนแสงสว่างเฉิดฉายในนาทีที่มืดมนจวบจนลูกเธอหลับหญิงสาวก็ยังนอนกอดหอมไม่ยอมปล่อย

ฟอดด..

มือเรียวกอบกุมมือน้อยเอาไว้หลวมๆกลัวว่าเจ้าก้อนกลมจะหายไปจากอกโดยที่ไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างๆแม้แต่น้อย

ทุกกิริยาและการกระทำของพรฟ้าอยู่ในสายตาของฟาทิททั้งหมดแม้นจะอยากแย่งตะวันฉายมาอยู่ในอ้อมอกตนเหมือนเมื่อเย็นก็ทำได้แต่มองดูเฉยๆเพราะทำใจร้ายใส่หญิงสาวเวลานี้ไม่ลง

หัวใจของเขาตอนนี้มันดูอ่อนให้พรฟ้าจนบางครั้งเขาก็อดโมโหตัวเองไม่ได้เมื่อเห็นสองแม่ลูกนอนหลับตามกันไปแล้วเขาก็ล้มตัวนอนตามหลังจากที่นั่งพิงหัวเตียงตรวจงานในโน๊ตบุ๊คอยู่นาน

ดวงตากลมโตนัยห์ตาฟ้าครามจ้องมองแผ่นหลังร่างบางด้วยแววตาสับสนหากถึงวันที่ความจริงปรากฏว่าเธอเป็นคนร้ายจริงเขาจะจัดการกับเธอได้อย่างที่พูดหรือไม่

และหากเธอไม่ได้ผิดจริงเธอกับเขาวินาทีนั้นจะมองหน้ากันอย่างไรยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวไม่นานนักฟาทิทก็ขจัดอาการสับสนออกไปและข่มตาหลับจนได้เรื่องของอนาคตเขาก็จะเก็บไว้เป็นปัญหาในอนาคตหากถึงเวลาค่อยกลับมาคิดอีกที

ทรับซอน

ฟาทิทพาพรฟ้าและตะวันฉายเดินทาวมาราวหนึ่งวันเต็มๆได้กว่าจะมาถึงบ้านของฟาทิทที่ทรับซอนบ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้นแบบลอฟท์ไม่ใหญ่มากนักแต่อาณาเขตพื้นที่กว้างขวางแถมยังใกล้กับแถบทะเลเป็นบ้านที่ฟาทิทพักผ่อนอยู่ที่นี่เป็นประจำ

ส่วนมากจะมีแค่เขามัคซิมและโรฮานเท่านั้นที่เข้าออกบ้านนี้เพราะฟาทิทชอบความเป็นส่วนตัวเขาไม่ได้พาทั้งสองไปที่คฤหาสน์ที่อังการาเพราะหากพาเข้าไปมิวายเสียเวลาพักผ่อนจะต้องมาแนะนำทั้งสองให้คนในคฤหาสน์รู้จัก

เมื่อมาถึงฟาทิทก็ให้พรฟ้าพาตะวันฉายขึ้นไปพักผ่อนเสียก่อนเพราะเวลานี้ก็เริ่มจะถึงเวลาเช้าของอีกวันส่วนเขาก็เตรียมตัวสำหรับการประชุมในช่วงเย็นของอีกวันว่าจะต้องจัดการกับปัญหาที่บริษัทอย่างไร

เมื่อใกล้เวลาประชุมในช่วงเย็นฟาทิทก็ให้คนมาจัดการแต่งหน้าแต่งตัวให้พรฟ้าและจัดการเรื่องชุดให้ลูกสาวของเขาเพราะเย็นวันนี้ในการประชุมเขาจะถือโอกาสเปิดตัวลูกและภรรยาให้กับหุ้นส่วนทุกคนได้รู้จักจะได้ไม่มีข้อครหาอะไรอีก

"คุณแม่สวยจังค่ะ"

ตะวันฉายในชุดเดรสสีขาวกระโปรงสีฟ้าฟูฟ่องผมทั้งสองถักเปียผูกโบว์สีขาวดุูไม่ต่างจากตุ๊กตาแม้แต่น้อยเจ้าก้อนกลมเห็นคนเป็นแม่แต่งหน้าทำผมเสร็จก็เอ่ยชมเปราะเพราะน้อยครั้งนักที่จะเห็นแม่เจ้าตัวแต่งองค์ทรงเครื่อง

"ลูกสาวก็สวยเหมือนกันค่ะ"

มือเรียวยกลูบหัวลูกสาสจอมปากหวานของตัวเองเบาๆ

ฟาทิทเข้ามาในห้องแต่งตัวเขามองตรงไปยังหญิงสาวในชุดเดรสสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีชมพูนู้ดทรงผมรวบตึงเป็นหางม้าแต่งหน้าสีชมพูฉ่ำร่างบางที่กำลังอมยิ้มอ่อนกับตะวันฉายเธอดูสวยหวานหยาดเยิ้มสะกดสายตาของเขาให้ละจากเธอไม่ได้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status