Share

ตอนที่ยี่สิบ เผลอใจ

"ฉันยอมรับว่าฉันผิดแต่ฉันรักตะวันฉันเสียลูกไปไม่ได้.. ส่วนเรื่องคุณยายฉันไม่ได้ทำร้ายคุณยายจริงๆ"

พรฟ้าเริ่มน้ำตาคลอหวังว่าอีกฝ่ายจะเชื่อที่ตัวเองพูดบ้างเธอยอมรับว่าเธอผิดเรื่องตะวันฉายแต่เธอไม่ยอมรับข้อหาที่ชายหนุ่มปรักปรำเธอว่าเป็นผู้ร้าย

"คิดว่าผมจะเชื่อคุณอย่างนั้นเหรอ...รอให้ผมมีหลักฐานก่อนเถอะผมจะฆ่าคุณด้วยมือของผมเอง"

ฟาทิทสบถใส่หญิงสาวเน้นเขี้ยวเน้นฟันคำพูดของเขาบาดลึกเข้าไปในหัวใจของหญิงสาวที่อีกฝ่ายคิดจะฆ่าจะแกงเธอลง

"ฉันภาวนาขอให้คุณเจอหลักฐานเร็วๆก็แล้วกันจะได้รู้ว่าสิ่งที่คุณคิดมันผิด"

พรฟ้าดูท่าว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจอะไรยากพอสมควรเธอจึงท้าแบบไม่กลัวหากเขาหาหลักฐานมาได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี...แบบนี้นี่เองที่เค้าว่ากันว่าดูคนต้องดูให้นานๆดีที่เธอไม่ปักใจหลงไหลไปกับความอ่อนโยนก่อนหน้าของเขา

"อย่าท้าทายผม"

มือหนายกมือชี้หน้าหญิงสาวที่ทำท่าทางพยศใส่

"ฉันไม่ได้ท้าทายอะไรคุณทั้งนั้น..ตะวันกับน้องสาวฉันอยู่ที่ไหนฉันจะไปหาพวกเค้า"

"ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวตะวันทั้งนั้น"

"หมายความว่ายังไง"

"ผมก็ไม่ยอมให้คุณไปจากที่นี่ง่ายๆน่ะสิผมจะทรมานคุณให้เหมือนตายทั้งเป็นคุณคิดจะพรากลูกไปจากผม...ส่วนผมก็จะทำแบบนั้นบ้าง"

ปั้งง

ว่าจบก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องและหันมาปิดประตูเสียงดังใส่หน้าพรฟ้าจนเธอต้องสะดุ้งตัวโยนอีกครั้ง

"ไม่นะ..."

พรฟ้าเห็นทีจะให้เขามาเผด็จการใช้ศาลเตี้ยกับเธอแบบนี้ไม่ได้เธอต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นี่

"ได้เรื่องยังไงมัคซิม"

ร่างสูงใหญ่ที่นั่งกุมขมับหนึบเห็นคนสนิทตนเข้ามาในช่วงสายเขารีบผุดลุกเต็มความสูงก่อนจะเดินปรี่เข้าไปถามความคืบหน้ากับมัคซิมด้วยน้ำเสียงและท่าทีร้อนใจ

ด้วยทางนี้พรฟ้าไม่ยอมรับแม้แต่น้อยว่าเธอนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของคนเป็นยายเขาก็อยากจะฟังคำตอบของพลอยฝนโดยเร็วว่าเธอยอมรับหรือไม่ว่าพี่สาวมีส่วนเกี่ยวข้อง

"โรฮานบอกว่าคุณพลอยเธอยืนยันว่าคุณฟ้าไม่เคยคิดจะทำร้ายคุณท่าน...ผมว่าเรื่องนี้นายอย่าพึ่งเชื่ออะไรเต็มร้อยเลยนะครับ"

มัคซิมที่วางตนเป็นกลางไม่มีทิฐิไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่ฟาทิทกับเฟอฮัทสันนิษฐานแต่เขาต้องเจอหลักฐานก่อนเท่านั้นถึงจะปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็น

และเขาเองก็อยากให้เจ้านายของเขาลองวางใจเป็นกลางด้วยตอนนี้มัคซิมคิดว่านายของเขาคงวางใจกลับเป็นกลางไม่ได้เพราะด้วยเชื่อใจในคำพูดของเฟอฮัทแถมความโกรธที่พรฟ้าไม่ยอมบอกเรื่องลูกคงทำให้นายของเขาทวีความเชื่อในหัวว่าหญิงสาวเป็นคนร้ายมากขึ้นไปแล้ว

"น้องก็ต้องเข้าข้างพี่อยู่แล้ว...นายกลับไปทำหน้าที่ที่ฉันสั่งเถอะ"

ฟาทิทยังคงเชื่อในความคิดของตัวเองดวงตากลมโตนัยห์ตาสีครามมองค้อนมัคซิมเล็กน้อยที่ครั้งนี้แม้นคนสนิทของเขาดูจะไม่เชื่อในความคิดของเขาร่างสูงที่ยืนเท้าเอวยกมือซ้ายสะบัดไล่คนสนิทไปให้พ้นหน้าพร้อมน้ำเสียงไม่พอใจ

"ครับ"

มัคซิมต้องรีบเดินออกจากบ้านไปทันทีด้วยดูอารมณ์ออกว่าคงอารมณ์เสียเพราะคำพูดของเขาที่ดูจะไม่เข้าหูนักแต่นั่นก็เป็นแค่คำที่เขาอยากให้คนที่เขาเคารพคิดในสิ่งที่ถูก

ในส่วนของพรฟ้าสาวเจ้าในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืนจนจวบเย็นของอีกวันเธอยืนมองถาดอาหารวางอยู่สองถาดบนโต๊ะของมุมห้องเธอไม่เคยคิดจะแตะมันแม้แต่น้อยเพราะไม่มีกระจิตกระใจจะกลืนมันลงได้แต่ลุกๆนั่งๆคิดถึงวิธีที่จะออกไปจากที่นี่เพื่อที่จะได้ไปตามหาลูกแม้นจะรู้ว่าคงลำบากแต่จะให้เธอทนอยู่แบบนี้คงทนไม่ได้

แกร๊กก

เสียงประตูที่เปิดเข้ามาทำเอาพรฟ้าที่เดินครุ่นคิดสะดุ้งเฮือกใบหน้าหวานตวัดมองร่างสูงที่เดินหน้าตายเข้ามาสายตาของเขาจ้องมองมายังถาดอาหารทั้งสองที่เธอยังไม่ได้แตะก่อนจะเริ่มยืนนิ่งถอนหายใจหากหญิงสาวเดาไม่ผิดร่างสูงใหญ่คงจะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้โวยวายใส่เธอตอนนี้เป็นแน่

"ฉันไม่หิวคุณเอาออกไปสิคะ"

เมื่อสายตาของฟาทิทละจากถาดอาหารมามองที่เธอพรฟ้าจึงต้องทำลายความเงียบโดยการบอกให้อีกฝ่ายยกถาดอาหารออกไปใจของเธอตอนนี้เต้นแรงและภาวนาให้เขาเดินไปที่มุมห้องที่ห่างจากประตูพอสมควรเพื่อที่จะให้เธอได้มีโอกาสที่จะวิ่งหนีออกไปแม้นไม่รู้ว่าจะหนีเขารอดหรือไม่รอดอย่างไรก็ดีกว่าไม่ลอง

ฟาทิทเดินผ่านร่างบางไปเงียบๆตรงไปที่ถาดอาหารเมื่อพรฟ้าสบโอกาสที่ฟาทิทเผลอหญิงสาวจึงรีบวิ่งตรงไปที่หน้าประตูออกไปอย่างรวดเร็ว

ฟาทิทมองตามหลังหญิงสาวด้วยอาการที่ไม่ได้ตกใจที่เธอวิ่งออกไปนักเพราะรู้ว่าอย่างไรเธอก็หนีเขาไม่พ้นมีแต่อารมณ์โกรธที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เห็นว่าหญิงสาวกล้าคิดหนี

"คิดว่าจะหนีผมพ้นเหรอไง"

น้ำเสียงทุ้มลอดรายฟันออกมาเบาๆก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะสาวเท้ายาวๆออกไปจากห้องตามรวบร่างบางกลับมาได้ภายในกี่วินาที

"..ปล่อยยยฉัน..ฉันบอกว่าฉันไม่รู้เรื่องอุบัติเหตุของคุณยายแล้วก็ปล่อยฉันไปหาตะวันได้แล้ว"

ร่างบางดีดดิ้นเป็นกุ้งเต้นทั้งเอ่ยปฏิเสธครั้งที่เป็นร้อยได้ว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอุบัติเหตุของฉวีวรรณเสียงสุดท้ายสั่นเครือเมื่อพูดถึงลูกจนอีกฝ่ายฟังออกชัดแต่เขาก็ไม่สนใจคำพูดโวยวายเพื่อที่จะเอาตัวรอดของเธออยู่ดี

เมื่อลากหญิงสาวกลับเข้าในห้องของเขาดังเดิมได้ฟาทิทก็ขึงข้อมือทั้งสองของเธอเอาไว้กับผนังกำแพงก่อนจะทาบทับร่างบางเอาไว้ด้วยร่างให่ของเขาและก้มลงบดจูบริมฝีปากบางอย่างไร้ความนุ่มนวลเป็นการทำโทษให้หญิงสาวได้รู้ว่าเธอไม่ควรคิดจะหนีหรือคิดจะต่อต้านอะไรคนอย่างเขา

"อื้อ.."

หัวใจดวงน้อยของพรฟ้าสั่นระรัวตกใจเมื่ออีกฝ่ายจู่โจมลวนลามเธออย่างไม่ทันตั้งตัวดวงตากลมหลับตาปี๋พยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่พ้นที่จะถูกบดจูบเพราะอีกฝ่ายไล่ตามเธอทันยังกับโลหะที่ไล่ตามแรงดึงดูดของแม่เหล็กพรฟ้านึกโมโหฟาทิทอยู่มากที่เขากระทำการไม่ให้เกียรติเธอหากเขาคิดว่าเธออยู่ในเงื้อมมือของเขาแล้วเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้เขานั้นคิดผิดเพราะเธอจะต่อต้านทุกอย่างที่ทำได้หากเขาไม่ให้เกียรติเธอก่อนเธอก็ไม่จำเป็นต้องคุยดีๆกับเขาเช่นกัน

"อืม.."

ฟาทิทไล่บดจูบหญิงสาวเนิ่นนานจากจูบด้วยอารมณ์โกรธนานเข้าก็เริ่มโอนอ่อนนุ่มนวลด้วยอารมณ์หลงไหลจนสาวเจ้าเองก็เริ่มแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขา

เธอยืนนิ่งเบิกตาโพรงรับรสสัมผัสของเขาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้จากคราแรกอยากจะดิ้นหนีแต่เมื่อสัมผัสใหม่แปลกไปจากเดิมทำให้เธอชะงักงันแน่นิ่งทำอะไรไม่ถูกเสียอย่างนั้นหน้าท้องน้อยตอนนี้ก็เหมือนมีผีเบื้อบินวนอยู่เป็นพันตัว

ในส่วนของฟาทิทเองเขายังไม่หยุดการกระทำง่ายๆมือหนาทั้งสองปล่อยข้อมือหญิงสาวให้หลุดจากพันธนาการและวาดแขนข้างขวารวบเอวร่างบางแน่นตามด้วยข้างซ้ายที่กุมหัวทุยกดไม่ให้เธอหนีไปจากการบดจูบของเขาได้

คิ้วบางของสาวเจ้าขมวดกันเป็นปมเริ่มหายใจหอบถี่เมื่อคนตัวโตส่งลิ้นร้ายเข้ามาตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากเธอไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเอาตัวเองออกจากห้วงภวังค์นี้อย่างไรดีสมองที่สั่งให้หาทางให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอีกฝ่ายแต่ร่างกายและหัวใจกลับไม่อยากปฏิเสธการกระทำของคนตัวโตเสียอย่างนั้น

"อืม..."

ฟาทิทที่เริ่มเคลิ้มหลงไหลในความหอมหวานของหญิงสาวรสสัมผัสที่วาบหวามทำให้เขาลืมความโกรธก่อนหน้าไปชั่วขณะเขาค่อยๆอุ้มร่างบางลงไปนอนทาบทับลงไปที่เตียงนุ่มลิ้นร้ายยังคงตวัดฉกชิมความหวานไม่คลายทั้งดูดดึงลิ้นเรียวเรียกอารมณ์วาบหวามอยู่ตลอดไม่ขาดดวงตากลมโตสีครามปรือหวานหยาดเยิ้มดูไม่แข็งกระด้างเหมือนก่อนหน้าด้วยหลงไหลร่างบางนี้เข้าไปเสียแล้ว

พรฟ้าที่รู้ว่าอะไรจะเกิดต่อไปเธอจึงพยายามสั่งให้ตัวเองต่อต้านเขาพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นมือถือของฟาทิทในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังความรู้สึกที่อยากจะหนีไปจากที่นี่ก็แล่นเข้ามาแทนที่ห้วงภวังค์แห่งความหลง

หญิงสาวจึงใช้จังหวะนี้ทำทีค่อยๆใช้แขนเรียวเล็กกอดก่ายอีกฝ่ายเมื่อหาจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอได้จึงดึงมือถือราคาแพงที่อยู่หมิ่นเหม่ออกมาจนได้เธอค่อยๆสอดมันไว้ที่ใต้ลำตัวและรีบส่งเสียงร้องท้วงให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำก่อนที่จะถลำลึกไปมากกว่านี้

"อื้อ.."

ปึกๆ

ฟาทิทรู้สึกตัวหลุดจากห้วงภวังค์วาบหวามเพราะได้ยินเสียงต่อต้านของร่างบางทั้งเธอยังทุบมาที่แผ่นหลังของเขาให้รู้สึกตัวว่ากำลังเผลอในสิ่งที่ไม่ควรจะเผลอเมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองลืมความโกรธก่อนหน้าจึงผุดลุกและรีบออกไปจากห้องทิ้งให้หญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนเดียว

"..บ้าเอ้ย..แกจะรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เข้าใจไหม"

ฟาทิทนั่งข่มอารมณ์บนโซฟาในห้องนั่งเล่นให้เป็นปกติเขากุมขมับถอนหายใจกร่นด่าตัวเองพักใหญ่ที่ไม่ใช่แค่เพียงเผลอใจให้หญิงสาวแต่เขากลับลืมความผิดของหญิงสาวครั้งก่อนหน้าขณะที่ได้สัมผัสดูดดื่มกับร่างกายของเธอ

"จะเผลอแบบนี้อีกไม่ได้...เฮ้อ.."

หลังจากที่ฟาทิทออกไปได้ร่างบางก็ผุดลุกนั่งหลับตาปี๋ยกมือเรียวกุมหน้าด้วยความอายเธอเตือนตัวเองเสียงอ่อนพยายามรีบสลัดความรู้สึกจากรสสัมผัสเมื่อครู่ของชายหนุ่มออกจากห้วงความคิดและความรู้สึกเมื่อนั่งอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกหัวใจเต้นเป็นปกติแล้วจึงหันมาหยิบมือถือของฟาทิทที่เธอแอบดึงมันมา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status