แพทย์นิติเวชหญิงเยี่ยนเว่ยฉือที่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยแสนล้ำค่าบังเอิญได้เดินทางข้ามเวลา มือซ้ายของนางถือมีดเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้วายชนม์ มือขวาถือเข็มเพื่อรักษาคนที่ยังมีลมหายใจ ไม่ว่าเรื่องของคนเป็นหรือคนตายนางพร้อมลุยได้หมด! เยี่ยนเว่ยฉือ : ด้วยความสามารถของข้า จะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ในยุคโบราณไม่ได้เลยหรือ? ผู้ชายหรือ? ผู้ชายคืออะไร? พวกผู้ชายมีแต่จะส่งผลต่อความเร็วที่ข้าชักมีดก็เท่านั้น อ้อ ยกเว้นผู้ชายรูปงาม! ซ่างกวนซี องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าซางผู้หล่อเหลาเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าถูกใส่ร้ายป้ายสี เขามีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่โดดเด่นยากจะหาใครเปรียบ ทั้งยังน่ากลัวและโหดเหี้ยมจนไร้คู่ต่อสู้ในสนามประลอง ตัวตน ตำแหน่ง ความมั่งคั่งและเกียรติยศศักดิ์ศรี ทุกสิ่งล้วนสลายหายไปจนเหลือเพียงความว่างเปล่าเนื่องจากต้องคดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ่างกวนซี : เจ้าต้องช่วยข้า เยี่ยนเว่ยฉือ : ขอเหตุผลหน่อยสิ ซ่างกวนซี : หากเจ้าอยากช่วยชีวิตคน ข้าก็จะเป็นคนป่วย! หากเจ้าอยากฆ่าคน ข้าก็จะมอบชีวิตให้! หากเจ้าอยากจะรักใคร ข้าก็ว่างอยู่! เยี่ยนเว่ยฉือ : กล้าพูดกับข้าเช่นนี้เชียว ช่างอาจหาญเสียจริง!
View Moreเมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะหงายหลัง ซ่างกวนซีก็คว้าเอวของนางไว้โดยสัญชาตญาณ โอบนางไว้แน่นเยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงได้มั่นคงอีกครั้ง จู่ ๆ ก็ยกยิ้ม “เป็นอย่างไร เอวข้าคอดดีใช่หรือไม่?”นี่… นี่มันคำถามอะไรกัน?ซ่างกวนซีรู้สึกว่าหายใจติดขัดเล็กน้อย เหตุใดหลังจากเมานางถึงเป็นเช่นนี้?เยี่ยนเว่ยฉือฮึดฮัดในลำคอ ทำปากยื่น บ่นต่อ “มีภรรยาเอวคอด ขาเรียว ผิวขาวสวยเช่นนี้ ท่านไม่ทะนุถนอมไม่พอ ยังดุข้าอีก ทำตัวเช่นนี้สมควรเป็นลูกผู้ชายหรือ? ช่าง…ช่าง…”ซ่างกวนซีพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “ทำลายของดี!”“ใช่! คำนี้แหละ! ซ่างกวนซี ข้าจะบอกท่านไว้ สุภาพบุรุษไม่ควรทำตัวเช่นท่าน ลูกผู้ชายอกสามศอก สิ่งแรกคือ ไม่ควรโกรธง่าย นี่แสดงว่าท่านใจแคบ สอง ไม่ควรพูดพล่อย นี่แสดงว่าท่านไม่รู้จักคิด สาม ข้อสามสำคัญที่สุด…”ยังไม่ทันที่เยี่ยนเว่ยฉือจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็ถามด้วยความอยากรู้ “สามคืออะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตาหยี “สาม คือไม่ควรแสดงความกำหนัดโดยไม่เลือกที่เลือกทาง นี่แสดงว่าท่านไม่มี… ทักษะชีวิตคู่”พรวด!หากตอนนี้ซ่างกวนซีมีน้ำอยู่ในปาก คงจะพ่นใส่หน้าเยี่ยนเว่ยฉือไปแล้วยายเด็กแก่แดด กล้าพูดอะไรเช่นนี้ออ
“ใครกันทำตัวเหลวไหลเช่นนี้?!” ซ่างกวนซีมองไปที่ประตูอย่างประหลาดใจผลปรากฏว่าเห็นเยี่ยนเว่ยฉือหน้าแดงก่ำ เดินเข้ามาด้วยฝีเท้ามั่นคงซ่างกวนซีลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหานางด้วยความสงสัย “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้ากล้ามาก! ถึงกับกล้า…”“ใช่! ข้ากล้ามาก แล้วทำไม?” เยี่ยนเว่ยฉือตาปรือ แต่คำพูดกลับแข็งกร้าวสิ่งนี้ทำให้ซ่างกวนซีประหลาดใจเล็กน้อยเห็นเพียงเยี่ยนเว่ยฉือเดินโซเซมาหาเขา พูดเสียงดังว่า “มีคำกล่าวว่าสอนลูกต่อหน้าคนอื่น ตักเตือนภรรยาลับหลัง… อ่า ไม่ใช่ ตักเตือนสามีลับหลัง วันนี้ข้าจะสอนท่านถึงหลักการใช้ชีวิตเอง”เยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปหาซ่างกวนซีอย่างฮึกเหิม แต่ก้าวพลาด เท้าซ้ายสะดุดเท้าขวา ทำให้ทั้งร่างโถมเข้าไปหาซ่างกวนซีเมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนซีก็เบิกตากว้าง สัญชาตญาณทำให้เขายื่นมือออกไปรับแต่เนื่องจากแรงเฉื่อยของเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไป ทำให้เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวโชคดีที่ข้างหลังเป็นเก้าอี้ ซ่างกวนซีนั่งลงไปอย่างแรง ใช้มือยันโต๊ะไว้ได้ ทำให้ไม่ล้มลงไปในขณะเดียวกัน เยี่ยนเว่ยฉือก็นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองนาง ถามว่า “เจ้าดื่มสุรามารึ?”บนร่างกายของนางเจือก
“เฮ้อ ก็ได้ ๆ คราวนี้ข้าใจกว้าง จะไม่ถือสา! ไม่ต้องขอโทษข้าแล้ว! ฮึ่ม!” เยี่ยนเว่ยฉือพูดปลอบใจตัวเอง หยิบกาน้ำชาบนโต๊ะ เตรียมจะดื่มน้ำดับกระหายแต่พอหยิบขึ้นมาก็พบว่ากาน้ำชาว่างเปล่า ทำให้หงุดหงิดมากขึ้นทันที“ไคจือ ซ่านเย่!” เยี่ยนเว่ยฉือตะโกนพอดีกับที่ไคจือถือกาน้ำชาเข้ามา ยิ้มตอบว่า “พระชายากระหายน้ำหรือเพคะ? มีชาดอกสายน้ำผึ้งที่ต้มใหม่ ๆ ช่วยดับกระหายได้ พระชายาจะลองชิมดูหรือไม่เพคะ?”ไคจือรีบรินชาให้เยี่ยนเว่ยฉือหนึ่งแก้วกลิ่นชาหอมอบอวล ทำให้เยี่ยนเว่ยฉืออดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว“เอ๊ะ หอมจัง ในนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ดอกสายน้ำผึ้งนะ?”ไคจือตอบว่า “ได้ยินจากจางมามาว่าเป็นชาดอกไม้ที่ท่านหมอฉินต้ม อาจจะใส่สมุนไพรอื่นด้วยกระมังเพคะ?”เยี่ยนเว่ยฉือยกขึ้นมาดมที่จมูก รู้สึกเพียงแต่กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้หลงใหลเล็กน้อยนางยิ้ม “ของของฉินเซียงหรูต้องเป็นของดีแน่ ๆ”พูดจบ นางก็ดื่มชาจนหมดจอกตอนแรกที่ดื่มเข้าไปจะขมปร่า ตอนที่กลืนลงคอจะหวาน หลังจากขมแล้วรสหวานจะตีตื้นขึ้น หอมละมุนติดปาก“เป็นชาที่ดีจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือพอใจกับรสชาตินี้มากที่สำคัญคือไม่รู้ด้วยเหตุใด หลังจากดื่มชาแก้ว
อวี๋เฟยเหยียนไปที่ห้องครัว เลือกสุราดอกท้อชั้นดีมาไหหนึ่ง กำลังจะใส่เมามายลืมโลกนี้ลงไป ทว่ากลับคิดอะไรขึ้นมาได้“เอ๊ะ? ไม่ถูก วันนี้ศิษย์พี่ใหญ่ต้องงดเสวย ดื่มได้แต่น้ำชา ดื่มสุราไม่ได้!”อวี๋เฟยเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นค้นหาของในครัว ในที่สุดก็เจอดอกสายน้ำผึ้งเขายิ้ม “นี่ดีกว่า ต้มชาดอกสายน้ำผึ้งให้ศิษย์พี่ดื่ม นอกจากจะดับร้อนได้แล้ว กลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งยังกลบกลิ่นสุราได้ด้วย”อวี๋เฟยเหยียนเริ่มลงมือทันที หลังจากธูปหมดไปดอกหนึ่ง ชาก็ต้มเสร็จแล้วเขาเปิดขวดกระเบื้องใบเล็กที่ฉินเซียงหรูให้มา กำลังจะรินลงในกาน้ำชา แต่น้ำชากำลังเดือด เมื่อเปิดฝาออก ไอน้ำร้อนก็พุ่งขึ้นมาและไอน้ำเหล่านั้นก็พัดพาแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงบนมือของอวี๋เฟยเหยียนกระจายไปในอากาศทันทีหลังจากที่อวี๋เฟยเหยียนได้กลิ่น เขาก็เริ่มเวียนหัว“นี่…นี่…ของของฉินเซียงหรู เหตุใดฤทธิ์สุราถึงแรงเช่นนี้!”อวี๋เฟยเหยียนเซไปเซมา ฝืนรินสุราลงในน้ำชาสองสามหยดตอนที่เขากังวลว่ายังไม่พอ เขาก็ถูกกลิ่นสุราทำให้มึนเมา หลังจากที่โลกหมุนอยู่ชั่วขณะ เขาก็ล้มลงกับพื้นห้องครัว สลบไปเตาบังร่างของเขาไว้ ทำให้ไคจือและซ่านเย่ที
หลังจากเยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ ก็ออกจากเรือนหน้าไปทางลานรั่วชู อวี๋เฟยเหยียนยืนอยู่ที่ทางแยก มองไปที่เรือนซวงหาน มองไปที่เรือนรั่วชู คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจไปหาฉินเซียงหรูฉินเซียงหรูกำลังยุ่งอยู่กับสมุนไพรของเขา วันนี้มีปลาแห้งเพิ่มมาตัวหนึ่ง อวี๋เฟยเหยียนมองฉินเซียงหรูที่กำลังทาเกลือบนปลา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจ้ายังมีอารมณ์มาหมักปลาเค็มอีกหรือ? ข้างหน้าเขาทำลายข้าวของกันจนหมดแล้ว!”ฉินเซียงหรูยิ้ม พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้าได้ยินแล้ว”“ได้ยินแล้ว?” อวี๋เฟยเหยียนประหลาดใจ “ได้ยินแล้วยังใจเย็นเช่นนี้อยู่ได้?”“แล้วจะให้ทำอย่างไร?” ฉินเซียงหรูมองอวี๋เฟยเหยียนอย่างขบขัน “ไปช่วยแม่นางเยี่ยนตำหนิองค์รัชทายาทที่ไม่รู้จักบุญคุณ? หรือไปช่วยองค์รัชทายาทตำหนิแม่นางเยี่ยนว่าชอบยุ่งไม่เข้าเรื่อง?”อวี๋เฟยเหยียนอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอะไรไม่ออกฉินเซียงหรูยังคงทำปลาต่อไป พูดว่า “ถ้าจะให้ข้าพูด การที่แม่นางเยี่ยนก่อเรื่องเช่นนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยวันนี้ของทุกปี ทุกคนก็จะได้ไม่ลำบาก แม้แต่หายใจก็ยังไม่กล้าดัง เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ถึงจะยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ควรจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ จะยึดติดอยู่กั
เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเช่นนั้น จู่ ๆ ก็หยุดเดินเยี่ยนเว่ยฉือตาเป็นประกาย คิดว่าซ่างกวนซีจะกลับมากินอาหารแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลังจากซ่างกวนซีหันกลับมา สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความโกรธเขาเดินไปหาเยี่ยนเว่ยฉืออย่างโกรธเคือง จับคอเสื้อของนางไว้ ตะโกนด่าว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ มีธุระก็เรียกหา ไม่มีธุระก็เมินเฉย! เจ้าคิดจะเรียกใช้ข้าอย่างคล่องแคล่ว! อยากให้ข้าช่วยตามหาฮวาอวี๋ ถึงอุตส่าห์ประจบประแจง เมื่อเจ้าคิดว่าข้าหมดประโยชน์ เจ้าก็เมินเฉย หลบหน้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าจำไว้ ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเจ้า ในสายตาของข้าเป็นเพียงเรื่องน่าขัน! เหมือนกับตัวเจ้า น่าขันสิ้นดี!”เมื่อพูดจบ ซ่างกวนซีก็ผลักเยี่ยนเว่ยฉือออกอย่างแรงโชคดีที่อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ ตาไวคว้าตัวเยี่ยนเว่ยฉือไว้ ไม่อย่างนั้นนางคงล้มก้นกระแทกพื้นไปแล้วทว่าแค่นั้นยังไม่พอ หลังจากที่ซ่างกวนซีผลักเยี่ยนเว่ยฉือออก เขากลับใช้ฝ่ามือฟาดไปที่โต๊ะอาหารเกิดเสียงดังสนั่น โต๊ะอาหารที่จัดไว้อย่างดีแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ แม้แต่โต๊ะก็หักกระจัดกระจายเยี่ยนเว่ยฉือ ไคจือ และซ่านเย่ตกตะลึงไคจือและซ่านเย่รีบคุก
เยี่ยนเว่ยฉือรีบพยักหน้า “ใช่ ๆ ดังนั้นข้าจะทำเค้กวันเกิดให้เขา!”“พระชายา อะไร…อะไรคือเค้กวันเกิดหรือเพคะ?” ซ่านเย่ถามอย่างงุนงงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตอบ “ทำออกมาเสร็จแล้วประเดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้เอง เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนไปทำอาหารหลาย ๆ อย่าง กับข้าวหกอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่าง อร่อยและดีต่อสุขภาพ!”ไคจือและซ่านเย่พูดพร้อมกัน “เพคะ หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”บ่าวและนายสามคนยุ่งกันอยู่ในครัวอย่างสนุกสนานจางมามาที่อยู่หน้าประตูเห็นดังนั้นก็ถามพ่อบ้านจางด้วยความสงสัย “พระชายากำลังทำอะไรอยู่ในครัวรึ? วันนี้ไม่ใช่วันที่องค์รัชทายาทต้องงดเสวยหรือ?”พ่อบ้านจางก็ไม่เข้าใจ ตอบกลับไปว่า “องค์รัชทายาททรงงดเสวยคนเดียว ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องงดตาม พระชายาคงทำอาหารกินเองกระมัง”จางมามาพยักหน้าเล็กน้อย “ก็จริงของท่าน ข้าไปซื้อของที่องค์รัชทายาทต้องใช้ก่อน ดูแลที่นี่ดี ๆ อย่าให้ครัวไฟไหม้ล่ะ!”จางมามาไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือทำอาหารของเยี่ยนเว่ยฉือพ่อบ้านจางรับคำด้วยรอยยิ้ม…… หลังเที่ยงวัน ซ่างกวนซีพาอวี๋เฟยเหยียนกลับมาที่จวนองค์รัชทายาทเยี่ยนเว่ยฉือสังเกตว่าวันนี้ซ่างกวนซีกลับมาช้าเป็นพิเศษแต่ไม่ได้สัง
เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะกล่าวว่า “ก่อนที่จะรู้จักท่าน ข้าไม่เคยได้ยินชื่อปลาตัวนี้เลย แต่ข้าก็ยังยืนยันได้ว่ามันเป็นของปลอม!”“เป็นเพราะอะไรกัน?” ฉินเซียงหรูไม่เข้าใจเยี่ยนเว่ยฉืออธิบายต่อ “เพราะท่านเคยบอกว่า มัจฉาทองคำจิ่วหยางชอบกินหญ้าหางสุนัขเขียว ซึ่งหญ้าหางสุนัขเขียวขึ้นในที่ลุ่ม ปลาที่ชาวเป่ยอิ้นนำมาอาศัยอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนใกล้ภูเขาไฟ สภาพอากาศที่นั่นแตกต่างจากที่ลุ่มมาก! ที่เขาว่า ดินน้ำเลี้ยงคนฉันใด ก็ใช้กับสัตว์ได้เช่นกัน ในเมื่อชอบกินหญ้าหางสุนัขเขียวในที่ลุ่ม มัจฉาทองคำจิ่วหยางก็ต้องอาศัยอยู่ในที่ลุ่มหรือบริเวณใกล้เคียง จะไปอยู่แถวภูเขาไฟได้อย่างไร? ปลาบินไม่ได้เสียหน่อย!”ฉินเซียงหรูพยักหน้ายิ้ม ๆ “ถูกต้อง ถูกต้อง! แม่นางเยี่ยนฉลาดหลักแหลมจริง ๆ ในเมื่อท่านรู้เหตุผลนี้แล้ว เหตุใดถึงยังรับ... ปลาแห้งตัวนี้ไว้?”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ “ฝ่าบาททรงรักและเอ็นดูองค์รัชทายาท อย่าให้พระองค์ต้องทรงผิดหวังเลย แม้จะไม่สามารถช่วยเรื่องพิษกู่เย็นขององค์รัชทายาทได้ แต่ก็นำไปทำอาหาร ทำซุปบำรุงกระเพาะของเขาได้! ข้านำมาให้ท่าน ท่านจะได้ดูว่าปลาพิเศษตัวนี้จะใช้เป็นยาได้หรือไม่ ในเมื่อหายากเช่น
เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตากล่าว “นี่ก็เป็นความคิดที่ดี แต่จะหาเขาเจอได้อย่างไร? อีกอย่าง ถึงข้าจะหาเขาเจอ เขาก็คงไม่เต็มใจเข้าวังไปพร้อมกับข้า เขาเป็นโจรขุดสุสาน เข้าวังกับข้าก็เท่ากับพาตนเองไปติดกับมิใช่หรือ?”ซ่างกวนซีตอบกลับอย่างเฉยเมย “หากเขาเป็นโจรขุดสุสานจริง นั่นถึงจะเรียกว่าติดกับตนเอง แต่หากเขาไม่ใช่ นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ องครักษ์เงาของสำนักอิ้นเฉิงก็ไม่ใช่พวกอ่อนแอ ในสองแคว้นสี่นครเลื่องชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม เขาถูกคนสำนักอิ้นเฉิงตามล่ามาตลอด ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องตายอย่างแน่นอน หากครั้งนี้สามารถชี้แจงถึงสิ่งที่เขาทำต่อหน้าทั้งสองแคว้น ก็อาจจะหลุดพ้นจากการตามล่าของสำนักอิ้นเฉิงได้”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “สิ่งที่ท่านกล่าวนับว่ามีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะลองไปตามหาเขาดู!”“พรุ่งนี้ไม่ได้!” ซ่างกวนซีปฏิเสธเยี่ยนเว่ยฉือสงสัย “ทำไมไม่ได้?”ซ่างกวนซีเงียบไปครู่หนึ่ง ตอนที่เยี่ยนเว่ยฉือคิดว่าจะไม่ได้รับคำตอบเสียแล้ว ซ่างกวนซีก็พูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้ตรงกับเทศกาลตวนอู่”ต้องอยู่ในจวนเพื่อฉลองเทศกาลงั้นหรือ?เขาก็ยึดถือพิธีรีตองในการใช้ชีวิตดีนี่!เมื่อคิดได้ดังนั้น เ
ในฐานะแพทย์นิติเวช เยี่ยนเว่ยฉือไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนางจะถูกส่งไปผลิตทายาทใช่แล้ว ผลิตทายาท!นางต้องมีทายาททางสายเลือดคนสุดท้ายกับซ่างกวนซี องค์รัชทายาทผู้ถูกทอดทิ้งแห่งแคว้นจิ่วหลีที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนางเป็นแพทย์นิติเวชจากศตวรรษที่ยี่สิบเจ็ด ผู้ซึ่งเดินทางข้ามเวลามาเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนยังไม่ทันที่วิญญาณจะเข้ากันกับร่างกายได้ดี นางก็ได้สวมชุดแต่งงานแบบลวก ๆ และถูกส่งตัวเข้าคุกหลวง“เชิญทางนี้ องค์รัชทายาทกำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน!” เสียงเหยียดหยามของขันทีดังเข้ามาในโสตประสาทของนางเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังห้องขังตรงหน้า พบว่าภายในคุกใหญ่โตนี้ มีเพียงเงาร่างสีขาวนอนขดตัวอยู่บนกองฟางแห้งเขาคือพระโอรสของอดีตฮองเฮา องค์รัชทายาทซ่างกวนซีผู้ไร้ค่าน่ะหรือ?ก่อนที่เยี่ยนเว่ยฉือจะได้ครุ่นคิดอย่างกระจ่างแจ้ง ทันใดนั้นก็มีแรงผลักมหาศาลจากด้านหลังผลักส่งนางเข้าไปในห้องขัง ก่อนจะมีเสียงดังตามมา!ปัง! แกร๊ง!ประตูห้องขังถูกลงกลอนจากด้านนอก ขันทีที่พานางมายืนอยู่ด้านนอกห้องขังพลางพูดว่า “เจ้ามีเวลาสองชั่วยาม เจ้าจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะมีทายาทกับฝ่าบาทสำเร็จหรือ...
Comments