Share

บทที่ 5 จุดไฟเผาตัวเอง

“บังอาจ!” ฮองเฮาก้าวมาข้างหน้าพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาเย็นชา และตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”

ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินลงโทษซ่างกวนซี และฝ่าบาทก็เป็นผู้ปลดซ่างกวนซีออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วย

การบอกว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ความ จะไม่ถือเป็นการตั้งคำถามกับคำตัดสินของฝ่าบาทหรือ?

ดูเผิน ๆ คำพูดของฮองเฮานั้นก็นับว่าไม่ผิดอะไร

แต่เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่ามีคำว่า “น้ำท่วมปาก” ถูกเขียนบนพระพักตร์ของฮ่องเต้เอาไว้

ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง นางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พูด ดังนั้นนางจึงต้องบอกเรื่องสำคัญก่อนที่ฮองเฮาจะสั่งประหารนาง

เยี่ยนเว่ยฉือจึงตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล “ฝ่าบาททรงพิจารณาเถิดเพคะ องค์รัชทายาททรงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน หม่อมฉันขอทูลถามว่าคนที่นกเขาไม่ขันจะขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้อย่างไร? องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!”

คำพูดเหล่านั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจ

ทุกคนต่างอ้าปากค้างจากความตกใจ!

“จะ...เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ

เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะเพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่อมฉันมาเพื่อให้สืบทายาทให้กับองค์รัชทายาท ที่หม่อมฉันทูลไปทั้งหมดนั้นล้วนมาจากสิ่งที่ประสบพบเจอด้วยตัวของหม่อมฉันเอง หากฮองเฮาไม่ทรงเชื่อ ไม่อย่างนั้น… ทรงอยากลองตรวจดูเองไหมเพคะ?”

“เหลวไหล!” ฮองเฮาตำหนิเสียงแข็ง

เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากแล้วหันไปมองฮ่องเต้คังอู่ “ฝ่าบาท สิ่งที่หม่อมฉันทูลนั้นเป็นความจริง ฮองเฮาคงจะทรงไม่กล้าตรวจดูเอง เช่นนั้นก็ทรงให้หมอหลวงเป็นคนตรวจดูแทนดีหรือไม่เพคะ?”

“เจ้าตัวก็ตายไปแล้ว ตรวจดูตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?” โอรสที่ฮองเฮาเป็นผู้ประสูติออกมาเองอย่าง องค์ชายรอง ซ่างกวนหลีเหลือบมองไปยังเยี่ยนเว่ยฉือ

เยี่ยนเว่ยฉือโต้กลับ “ตรัสเช่นนั้นไม่ได้นะเพคะ มีคำพูดที่ว่า แม้กายจะสลาย แต่ขอทิ้งความบริสุทธิ์ไว้ให้โลกเชยชม! แม้เองค์รัชทายาทจะสิ้นพระชนม์แล้ว ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาก็จะถูกจดจำในฐานะองค์รัชทายาท และถูกฝังตามราชพิธีอันยิ่งใหญ่ ถึงอย่างไรหม่อมฉันก็มีสัมพันธ์กับเขาไปแล้ว ก็ถือว่าหม่อมฉันเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทไปด้วยมิใช่หรือเพคะ?”

“เจ้าเป็นคุณหนูตระกูลใดกัน? หน้าด้านหน้าทนไร้ยางอายเสียจริง ใครก็ได้ ลากนางออกไปซะ!” ฮองเฮาออกคำสั่งทันที พยายามยับยั้งเยี่ยนเว่ยฉือที่ยังคงพล่ามไม่หยุด

เยี่ยนเว่ยฉือรีบถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อขยายระยะห่างระหว่างนางกับฮองเฮาให้มากขึ้น แล้วพูดต่อ “ฮองเฮาโปรดทรงอย่าเบี่ยงประเด็นเลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ไร้ยางอาย ฮองเฮาเองก็ทรงทราบกฎเกณฑ์ดี ในเมื่อมีการตรวจพบข้อสงสัยที่สำคัญ ก็ควรต้องมีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งไม่ใช่หรือเพคะ? ฝ่าบาท ว่าอย่างไรหรือเพคะ”

พระเนตรของฮ่องเต้คังอู่ไม่เคยละสายตาจากใบหน้าของซ่างกวนซี จนกระทั่งเขาได้ยินคำว่า “พิจารณาคดีใหม่” พระองค์ถึงได้ตรัสด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกมาว่า “ใช่แล้ว! คดีนี้จะถูกส่งกลับไปยังศาลต้าหลี่…”

“ฝ่าบาท คนก็ตายไปแล้ว ยังจำเป็นอยู่อีกหรือเพคะ? อีกอย่าง วันนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าอดีตองค์รัชทายาทถือมีดอย่างเหี้ยมโหด อีกทั้งสองมือเปื้อนเลือดเต็มไปหมด ทุกคนเห็นเต็มสองตา จะผิดพลาดได้อย่างไรกันเพคะ?” ฮองเฮาพยายามขัดขวางอย่างสุดกำลัง

“นี่! รับนะเพคะ!” คำพูดที่จู่ ๆ ก็โพล่งขึ้นของเยี่ยนเว่ยฉือก็ทำให้ทุกคนตะลึง

ขณะนั้น ถุงเงินใบหนึ่งก็ถูกโยนไปทางฮองเฮา พระนางทรงเอื้อมมือออกไปรับโดยไม่รู้ตัว และแล้วถุงเงินก็ตกไปอยู่ในมือของพระนาง

“เจ้าบังอาจมาก กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายข้า?” ฮองเฮาทำหน้าน่าเหลือเชื่อ

เยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเบา ๆ “ฮองเฮาเพคะ ถุงเงินของหม่อมฉันอยู่ในมือของพระองค์แล้ว พระองค์เป็นหัวขโมยที่ขโมยถุงเงินของหม่อมฉันไปหรือไม่เพคะ?”

องค์ชายรองซ่างกวนหลีพูดด้วยความโกรธ “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าเป็นคนโยนถุงเงินให้เสด็จแม่ของข้า”

“โอ้ มีเหตุผลดีเพคะ ในเมื่อหม่อมฉันสามารถโยนถุงเงินให้ฮองเฮาได้ แล้วฆาตกรตัวจริงจะนำมีดสังหารใส่มือขององค์รัชทายาทไม่ได้หรือเพคะ? ทุกท่านเห็นเพียงแต่ฉากหลังจากเกิดเหตุเท่านั้น มีใครที่เห็นเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นบ้างไหมเพคะ? มีใครเห็นหรือไม่ว่าองค์รัชทายาททรงกวัดแกว่งมีดสังหารคน?” คำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือทำเอาทุกคนพูดไม่ออก

ฮ่องเต้คังอู่ที่ทรงนิ่งเงียบมานานตรัสขึ้นทันที “ถูกต้อง! คดีนี้มีข้อสงสัยมากมาย ข้าจะสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่!”

“ฝ่าบาท...” ฮองเฮาต้องการจะห้ามปราม แต่หมอหลวงชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน “ขอแสดงความเสียพระทัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรง… สิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ทันทีที่สิ้นประโยค ฮองเฮาและองค์ชายรองซ่างกวนหลีก็กระหยิ่มยิ้มย่อง

พระพักตร์ของฮ่องเต้คังอู่ซีดลงทันที อีกทั้งยังทรงแทบจะยืนไม่ไหว

“ตรวจดู! ตรวจสอบซะ! แม้ชูจิ่งจะตายแล้ว แต่ข้าก็จะคืนความบริสุทธิ์ให้เขา! ใคกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะให้มันผู้นั้นมีจุดจบเหมือนชูจิ่ง!”

ฮองเฮากับองค์ชายรองมองหน้ากัน และทั้งคู่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

เยี่ยนเว่ยฉือคิดในใจ “คิดแล้วไม่มีผิด ต้องได้เผชิญกับความสูญเสียของจริงเท่านั้นถึงจะได้รู้ความหมายของคำว่าเสียใจ แล้วถึงจะยอมเทหมดหน้าตักเพื่อชดเชย หึ!”

ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังปลื้มปีติที่แผนของนางผ่านไปได้ด้วยดี และกำลังจะก้าวสู่ความสำเร็จ ฮองเฮาก็กล่าวอย่างเหี้ยมโหดว่า “คดีนี้สามารถส่งกลับไปพิจารณาคดีใหม่ได้ แต่นางคนชั่วช้าปากไม่มีหูรูดไม่รู้กาลเทศะผู้นี้จะต้องถูกประหารชีวิต นำตัวออกไปโบยให้ตายซะ!”

โอ๊ย! หาเหาใส่หัวตัวเองเสียแล้ว!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status