หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 4 องค์รัชทายาทนกเขาไม่ขัน?

แชร์

บทที่ 4 องค์รัชทายาทนกเขาไม่ขัน?

ผู้เขียน: โม่เชียนซาง
เยี่ยนเว่ยฉือขมวดคิ้วมองเขา “กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งอย่างไรเล่า!”

ซ่างกวนซีไม่เข้าใจ “หมายความว่าอย่างไร?”

เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ท่านคลายจุดชีพจรให้ข้าก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง”

ขณะนี้ชะตาชีวิตของทั้งสองคนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ถือว่าคนทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน ซ่างกวนซีจึงไม่กลัวว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะพูดโกหก

หากเขาตาย นางก็ต้องถูกฝังตามเขาไปด้วย

ดังนั้นซ่างกวนซีจึงคลายจุดชีพจรของเยี่ยนเว่ยฉือทันที

ทว่าเยี่ยนเว่ยฉือที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ กลับใช้เข็มแทงเข้าที่ต้นขาของซ่างกวนซี

อาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซ่างกวนซีมองนางอย่างเหลือเชื่อ พลางพูดอย่างยากลำบาก “จะ...เจ้าหลอกข้า เจ้าเป็นมือสังหารจริง ๆ!”

เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นนั่งและผลักซ่างกวนซีให้ล้มไปที่พื้น

ขณะที่สวมเสื้อผ้า นางก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าจะฆ่าท่านกับผีน่ะสิ! ก็พูดอยู่ว่าจะใช้กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่ หากท่านไม่ตายแล้วจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? ในเมื่อร่างกายท่านมีพิษกู่เย็น ก็อย่าโทษข้าที่ลงมือหนักหน่อยแล้วกัน!”

ซ่างกวนซีไม่ได้ยินประโยคหลังที่เยี่ยนเว่ยฉือพูด เพราะเขาได้เข้าสู่สภาวะเสมือนตายไปแล้ว เนื่องจากฤทธิ์ยา

หลังจากที่เยี่ยนเว่ยฉือจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว นางก็พูดต่อ “ท่านก่ออาชญากรรมร้ายแรงและกำลังจะตาย ทว่าฮ่องเต้กลับยังทรงต้องการให้ท่านมีทายาท ดูเหมือนว่าสายเลือดของท่านจะไม่ธรรมดา หรือไม่ฮ่องเต้ก็ทรงยังมีความผูกพันกับท่านในฐานะบิดาอยู่ หากท่านมีค่ามากพอ ข้าก็จะช่วยให้ท่านหนีรอดจากนรกได้แน่นอน!”

หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็บีบแก้มของซ่างกวนซีอย่างแรง ราวกับว่าเป็นการแก้แค้นที่เขาแตะต้องนางเมื่อครู่

หลังจากบีบจนพอใจแล้ว นางก็ตะโกนขึ้นมา “องค์รัชทายาท องค์รัชทายาทตื่นสิเพคะ องค์รัชทายาท องค์รัชทายาท เหตุใดพระองค์ถึงไม่หายใจแล้วล่ะเพคะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

ขันทีหนุ่มสองคนที่อยู่ไกลออกไปรีบวิ่งกลับเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงร้อง

ขันทีคนหนึ่งถามด้วยความตกใจว่า “เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น?”

เยี่ยนเว่ยฉือใช้มือกำคอเสื้อแน่น พลางแสดงสีหน้าหวาดกลัว “องค์รัชทายาท องค์รัชทายาททรงไม่หายใจแล้ว”

“เช่น...เช่นนั้นพวกเจ้าทำสำเร็จหรือไม่?” น้ำเสียงที่เป็นกังวลของขันทีหนุ่มทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าพวกเขาสนใจมากจริง ๆ ว่าซ่างกวนซีจะมีทายาทได้หรือไม่

เพราะอะไรกัน?

เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดอยู่สักพักแต่ก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นนางจึงใส่ใจเรื่องนั้นแล้วตอบว่า “สำ...สำเร็จอะไรเล่า? องค์รัชทายาททรง...นกเขาไม่ขันด้วยซ้ำ!”

“หา?!” ขันทีหนุ่มทั้งสองอุทานพร้อมกัน

ขันทีอีกคนถามด้วยความวิตก “นกเขาไม่ขัน… แสดงว่าไม่มีทายาทน่ะสิ? ทายาทก็ไม่มี คนก็ตายไปแล้ว เราจะทำอย่างไรดี?!”

ขันทีเอตะโกนอย่างร้อนใจว่า “ถามข้า แล้วข้าจะไปถามใครเล่า รีบไปเชิญหมอหลวงมาสิ ดูซิว่าพอจะช่วยเขาได้หรือไม่”

“ไม่ได้ ไม่ได้ ฝ่าบาททรงมีราชโองการ ห้ามเชิญหมอหลวงมารักษาเขา!” ขันทีหนึ่งในนั้นส่ายหัวปฏิเสธ

“เจ้าบ้าหรือเปล่า? หากองค์รัชทายาทนกเขาไม่ขันจริง เช่นนั้นคนที่ขืนใจสนมสวีก็ไม่ใช่องค์รัชทายาทน่ะสิ! เรื่องนี้… เรื่องนี้ต้องไปกราบทูลฝ่าบาท!”

เยี่ยนเว่ยฉือที่ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสอง อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้ขันทีหนุ่ม

ฉลาดมาก! ยอดเยี่ยม!

นางยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย แต่ทั้งคู่ก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว!

เยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างสะอึกสะอื้น “ข้าทั้งมอง ทั้งสัมผัส แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ข้า…ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ฮือ ๆ ๆ!”

“พอแล้ว ๆ ไม่ต้องร้องไห้ ข้าจะไปเชิญหมอหลวงมา ส่วนเจ้าเข้าวังไปกราบทูลฝ่าบาท!”

ขันทีน้อยทั้งสองพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานพวกเขาก็กลับมาพร้อมคนมากมาย

ผู้นำกลุ่มไม่ใช่ใครอื่น นอกจากฮ่องเต้คังอู่ที่สวมฉลองพระองค์ลายมังกรสีเหลืองสด

ฮ่องเต้เสด็จมาเองเชียวหรือ?

“เร็วเข้า รีบไปดูซิ!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงกังวลเป็นอย่างมาก เมื่อทอดพระเนตรเห็นสภาพที่ดูไร้ชีวิตของซ่างกวนซี รีบรับสั่งให้หมอหลวงที่ตามเสด็จมารีบไปตรวจดูทันที

เยี่ยนเว่ยฉือที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างแอบลอบสำรวจฮ่องเต้คังอู่อย่างลับ ๆ พบว่าความกังวลบนใบหน้าของฮ่องเต้เฒ่าผู้นี้ไม่ได้เสแสร้งแม้แต่น้อย

ในเมื่อพระองค์ทรงกังวลจริง ๆ แล้วเหตุใดถึงทรงให้โอรสมาเผชิญกับความตายเล่า?

ช่างเถิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ขอเพียงฮ่องเต้ยังทรงรักและห่วงใยองค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้ นางก็จะมีวิธีที่จะช่วยให้เขารอดพ้นจากความตายได้

“ฝ่าบาท! องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!” เสียงร้องไห้ดังก้องไปทั่วทั้งเรือนจำ ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 5 จุดไฟเผาตัวเอง

    “บังอาจ!” ฮองเฮาก้าวมาข้างหน้าพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาเย็นชา และตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินลงโทษซ่างกวนซี และฝ่าบาทก็เป็นผู้ปลดซ่างกวนซีออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วยการบอกว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ความ จะไม่ถือเป็นการตั้งคำถามกับคำตัดสินของฝ่าบาทหรือ?ดูเผิน ๆ คำพูดของฮองเฮานั้นก็นับว่าไม่ผิดอะไรแต่เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่ามีคำว่า “น้ำท่วมปาก” ถูกเขียนบนพระพักตร์ของฮ่องเต้เอาไว้ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง นางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พูด ดังนั้นนางจึงต้องบอกเรื่องสำคัญก่อนที่ฮองเฮาจะสั่งประหารนางเยี่ยนเว่ยฉือจึงตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล “ฝ่าบาททรงพิจารณาเถิดเพคะ องค์รัชทายาททรงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน หม่อมฉันขอทูลถามว่าคนที่นกเขาไม่ขันจะขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้อย่างไร? องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!”คำพูดเหล่านั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจทุกคนต่างอ้าปากค้างจากความตกใจ!“จะ...เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจเยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะเพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 6 พระชายาองค์รัชทายาท

    แม้สถานการณ์จะค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังจัดการได้เยี่ยนเว่ยฉือรีบตะโกนเสียงดัง “ไม่ได้ ท่านฆ่าข้าไม่ได้นะ!”“ไม่ได้?!” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ เกือบจะคิดว่าตัวเองฟังผิดไปนางคิดว่านางเป็นใคร ถึงได้กล้าที่พูดจาเช่นนี้กับเจ้าแห่งหกตำหนักฝ่ายใน ทั้งยังพูดคำว่าไม่ได้ออกมาอีก?ในขณะที่ฮองเฮากำลังตกตะลึง เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบมองไปที่ฮ่องเต้คังอู่และพูดต่อ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าองค์รัชทายาททรงนกเขาไม่ขัน ดังนั้นจึงถือว่าหม่อมฉันเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้ด้วย คดีนี้ยังต้องมีการพิจารณาคดีใหม่ ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนเลย หากมาฆ่าพยานเสียก่อนคงไม่เหมาะนักใช่หรือไม่เพคะ?”ฮ่องเต้คังอู่ทรงขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ ครู่หนึ่งพระองค์สับสนไม่รู้ว่านางเป็นสตรีตระกูลใดแต่สตรีนางนี้กลับกล้าปฏิเสธฮองเฮาต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งนั่นทำให้พระองค์ชอบพระทัยเป็นอย่างมากเมื่อทอดพระเนตรผ่านร่างเล็ก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือไป พระองค์ก็ทรงเห็นร่างไร้ชีวิตที่มีบาดแผลทั่วร่างกายซ่างกวนซีอยู่ข้างหลังนาง ทำให้ความโศกเศร้าและความเกรี้ยวโกรธของฮ่องเต้คังอู่ถึงจุดสูงสุดเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 7 ชันสูตรศพ

    เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ชันสูตรศพ ท่านทำไม่เป็นหรือ? ไม่เป็นไร ข้าทำเอง!”เยี่ยนเว่ยฉือมองผางเหออวี้พร้อมรอยยิ้ม ทำท่าทางกระตือรือร้นที่จะได้ทำหน้าที่ผางเหออวี้ขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้า...เจ้าบ้าไปแล้วรึ? สวีเหม่ยเหรินกับองค์ชายน้อยสิ้นพระชมน์ไปหลายวันแล้ว อีกทั้งศพก็อยู่ในโลง กำลังรอทำพิธีฝัง เจ้าจะไปรบกวนวิญญาณคนที่ตายไปอย่างสงบแล้วทำไม?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างไม่เห็นด้วย “ท่านใต้เท้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ในมุมมองของข้า มีเพียงการหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและคืนความยุติธรรมแก่ผู้ตายเท่านั้น นั่นถึงจะทำให้ผู้ตายจะได้พบความสงบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ตามกฎของวังหลวง พระสนมที่มีบุตรจะต้องมีการตั้งศพไว้ในห้องนอนเป็นเวลาเจ็ดวันจึงจะทำการฝังได้ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่เจ็ดพอดี!”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชันสูตรศพฮองเฮานั่งอยู่บนที่ประทับสูงสบสายตากับซ่างกวนหลี โอรสของนางซ่างกวนหลีพยักหน้าเล็กน้อย เป็นการบอกว่าเยี่ยนเว่ยฉือพูดถูก ร่างของสวีเหม่ยเหรินยังไม่ถูกฝังฮองเฮาขมวดคิ้วพลางคิดว่าจะขวางอีกฝ่ายอย่างไร ขณะนั้นฮ่องเต้คังอู่ก็ตรัสอย่างจริงจัง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 8 ถูกวางยาพิษ

    “อะไรนะ? เจ้าพูดว่าอะไร?!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงเดินอย่างรวดเร็วไปหาเยี่ยนเว่ยฉือเยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่บาดแผลบริเวณลำคอของสวีเหม่ยเหริน พลางตอบอย่างสงบว่า “บาดแผลทั้งหมดบนร่างนี้แบ่งออกเป็นบาดแผลก่อนเสียชีวิตและบาดแผลหลังเสียชีวิต สำหรับบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ผิวหนังจะมีการหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รอบ ๆ บาดแผลจะมีก้อนเลือดสีดำคล้ำ และหากเลือดไหลออกมากก็อาจมีรอยห้อเลือดด้วย ซึ่งนั่นเป็นกลไลตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นหลังเสียชีวิต ผิวหนังบริเวณบาดแผลจะเรียบเนียน เนื่องจากร่างกายไม่มีกระบวนการแข็งตัวของเลือดแล้ว ดังนั้นบริเวณบาดแผลก็จะไม่มีลิ่มเลือดหรือรอยห้อเลือด เช่นเดียวกับที่เห็นในตอนนี้เพคะ”ฮ่องเต้คังอู่และผางเหออวี้ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ต่างก็เข้ามาจับตาดูอย่างใกล้ชิด เห็นว่าลักษณะของร่างตรงหน้าตรงกับที่เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวไว้ไม่มีผิดเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ความจริงที่เรียบง่ายเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ชันสูตรศพที่มีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยก็สามารถตรวจพบเบาะแสนี้ได้ แต่เหตุถึงไม่มีใครพูดออกมาเลยเล่า?”ผางเหออวี้สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าหลบตาเยี่ย

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 9 ทุกการสัมผัสย่อมทิ้งร่องรอยเอาไว้

    คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สงสัยเช่นกันสาวน้อยที่เสื้อผ้าผมเผ้ารุงรังผู้นี้เป็นใครกันแน่?เหตุใดถึงได้รู้มากเช่นนี้?ฮองเฮาพูดเสียงแข็งว่า “เหลวไหล เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยจะไปรู้อะไร? อย่าคาดเดาอะไรเรื่อยเปื่อย!”เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากพูดว่า “การกล้าตั้งสมมติฐานและตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ใช่วิธีการพื้นฐานในการคลี่คลายคดีหรือเพคะ? อีกอย่าง สิ่งที่พวกท่านพบในร่างของสวีเหม่ยเหรินไม่มีใครเคยเห็นว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทนี่เพคะ!”ทันทีที่พูดจบ บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่อยู่ในเหตุการณ์ บ้างก็งุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกบ้างก็ก้มหน้าก้มตา เยี่ยนเว่ยฉือผู้นี้ช่างพูดได้อย่างไม่อายปากเอาเสียเลย!เมื่อเห็นจากสายตาของฮองเฮาเหมือนต้องการจะโต้เถียง เยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเพคะ ในเมื่อตอนนี้ก็ได้รู้สาเหตุการเสียชีวิตของสวีเหม่ยเหรินแล้ว หม่อมฉันแค่ต้องตามหาฆาตกรตัวจริงเท่านั้น ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้องค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่าเพคะ!”ฮ่องเต้คังอู่ตรัสถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าสามารถตามหาฆาตกรตัวจริงได้หรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าและพูดต่อ “ทูลฝ่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 10 ไม่เปลี่ยนสีเลยหรือ?

    ทุกคนยืนชูคอมองอ่างทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งส่วนฮองเฮานั้นถึงกับบีบมือเข้าหากัน แลดูค่อนข้างกังวลทว่าหลังจากที่ทดสอบนางกำนัลและขันทีไปกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีมือของใครเปลี่ยนสีเลยบุรุษชุดสีชมพูที่อยู่ในความมืดขมวดคิ้วพลางพูดว่า “เฮ้อ วิธีการของนางไม่ได้ผล!”บุรุษชุดสีทองแค่นเสียงเบา ๆ “ข้าคิดว่านางจะฉลาดหลักแหลมเสียอีก ไม่เพียงนางทำลายแผนของศิษย์พี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้นางได้เอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย”เป็นดังที่คาดไว้ ทันทีที่ทางนี้เอ่ยจบฮองเฮาที่อยู่ทางนั้นก็เริ่มโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือ“เจ้าช่างบังอาจที่กล้าหลอกใช้ฝ่าบาทกับข้า เจ้าลองใช้สองตามองดูสิ มีฝ่ามือของใครเปลี่ยนสีหรือไม่ พูดจาเหลวไหลยิ่งนัก! ใครก็ได้มาลากนาง…”ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็แคะหูแล้วพูดด้วยความรำคาญ “ฮองเฮาเพคะ พวกเรายืนใกล้กันมากเช่นนี้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนหูหนวก”หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ให้โอกาสให้ฮองเฮาได้ตำหนิตนต่อ พลางชี้ไปยังเฟินเอ๋อร์ที่ยืนหลบมุมอยู่ในกลุ่มคนรับใช้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท นางคือฆาตกรเพคะ”อะไรนะ?!เฟินเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 11 ต้องฝังเยี่ยนเว่ยฉือไว้ข้าง ๆ กัน!

    เฟินเอ๋อร์รู้สึกประหม่าจนเหงื่อออกท่วมตัว นางมองฮองเฮาอย่างมีความหวัง แต่กลับได้รับสายตาเย็นชาจากอีกฝ่าย“มองอะไร นางให้เจ้าล้างมือ ก็รีบ ๆ ล้างไปสิ!” ฮองเฮาตำหนิเฟินเอ๋อร์ตัวสั่นพลางจุ่มมือลงในน้ำอย่างไม่เต็มใจเพื่อล้างให้สะอาดหลังจากเช็ดมือให้แห้ง นางก็เดินไปที่อ่างน้ำส้มสายชูและน้ำด่างตอนที่นำมือจุ่มน้ำส้มสายชู มือก็ยังปกติอยู่แต่เมื่อมือนำไปจุ่มในน้ำด่าง มันก็กลายเป็นสีน้ำเงินอ่อนอย่างรวดเร็ว!ทุกคนตกตะลึง ส่วนฮ่องเต้คังอู่ก็ทรงอุทาน “สารเลว เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย!”ขาของเฟินเอ๋อร์อ่อนแรงจนล้มลงกับพื้นนางร้องไห้อ้อนวอน “ฝ่าบาท โปรดทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เพคะ ในวันเทศกาลฮัวเฉาวันนั้น แขกทุกคนล้วนดื่มเหล้าดอกท้อ มีเพียงสวีเหม่ยเหรินเท่านั้นที่ดื่มเหล้าบ๊วย ไม่รู้ว่าคนรับใช้คนไหนติดป้ายชื่อเหล้าทั้งสองชนิดสลับกัน หม่อมฉันเลย...เลยเผลอหยิบผิดเพคะ!”“หยิบผิดหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะ “สวีเหม่ยเหรินเพิ่งให้กำเนิดองค์ชายน้อย ทั้งยังอยู่ในช่วงให้นมบุตร นางจะดื่มเหล้าได้อย่างไร?”พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็มองไปที่จักรพรรดิคังอู่และพูดต่อ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 12 ดาบสยบพยัคฆ์

    บุรุษชุดสีชมพูในความมืดใช้ศอกผลักชายในชุดสีทองพลางเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นี่ เจ้าไม่ไปช่วยหน่อยหรือ? รัฐทายาท*แห่งอ๋องเซียวเหยา อย่างน้อยก็พูดสักหน่อยจะเป็นไรไป?”ปรากฏว่าบุรุษในชุดสีทองไม่ใช่ใครอื่น เขาคือพระโอรสในอ๋องเซียวเหยา นามว่าอวี๋เฟยเหยียนและคุณชายที่มีลักษณะคล้ายสตรีในชุดสีชมพูที่อยู่ข้าง ๆ ก็คือเย่เทียนซูศิษย์พี่รองของเขาทั้งสองเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของซ่างกวนซีอวี๋เฟยเหยียนกอดอกพลางพูดอย่างเหยียดหยาม “ศิษย์พี่ให้พวกเรามาสังเกตการณ์ ไม่ได้สั่งให้ช่วยใคร แล้วเหตุใดต้องไปยุ่งเรื่องของนางด้วย”เย่เทียนซูม้วนผมของตัวเอง แสร้งทำเป็นปวดใจและพูดว่า “เฮ้อ แต่นางน่าสนใจจริง ๆ อีกทั้ง... นางก็ดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย”“ไม่เมื่อไม่ใช่คนอายุสั้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าหรือเจ้าลงมือ เอาล่ะ ออกจากวังไปรายงานกันเถอะ!” อวี๋เฟยเหยียนเขย่งเท้าทะยานจากไปเย่เทียนซูหันกลับไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ตามอวี๋เฟยเหยียนไปทว่าทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเขาก็พลาดการแสดงที่น่ารับชมเมื่อเห็นอันกั๋วกงเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับดาบสยบพยัคฆ์ในมือ เยี่ยนเว่ยฉือก็เท้าเอวตะ

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 365 บุกเข้ามาตอนกลางดึก?

    “เฮ้อ ก็ได้ ๆ คราวนี้ข้าใจกว้าง จะไม่ถือสา! ไม่ต้องขอโทษข้าแล้ว! ฮึ่ม!” เยี่ยนเว่ยฉือพูดปลอบใจตัวเอง หยิบกาน้ำชาบนโต๊ะ เตรียมจะดื่มน้ำดับกระหายแต่พอหยิบขึ้นมาก็พบว่ากาน้ำชาว่างเปล่า ทำให้หงุดหงิดมากขึ้นทันที“ไคจือ ซ่านเย่!” เยี่ยนเว่ยฉือตะโกนพอดีกับที่ไคจือถือกาน้ำชาเข้ามา ยิ้มตอบว่า “พระชายากระหายน้ำหรือเพคะ? มีชาดอกสายน้ำผึ้งที่ต้มใหม่ ๆ ช่วยดับกระหายได้ พระชายาจะลองชิมดูหรือไม่เพคะ?”ไคจือรีบรินชาให้เยี่ยนเว่ยฉือหนึ่งแก้วกลิ่นชาหอมอบอวล ทำให้เยี่ยนเว่ยฉืออดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว“เอ๊ะ หอมจัง ในนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ดอกสายน้ำผึ้งนะ?”ไคจือตอบว่า “ได้ยินจากจางมามาว่าเป็นชาดอกไม้ที่ท่านหมอฉินต้ม อาจจะใส่สมุนไพรอื่นด้วยกระมังเพคะ?”เยี่ยนเว่ยฉือยกขึ้นมาดมที่จมูก รู้สึกเพียงแต่กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้หลงใหลเล็กน้อยนางยิ้ม “ของของฉินเซียงหรูต้องเป็นของดีแน่ ๆ”พูดจบ นางก็ดื่มชาจนหมดจอกตอนแรกที่ดื่มเข้าไปจะขมปร่า ตอนที่กลืนลงคอจะหวาน หลังจากขมแล้วรสหวานจะตีตื้นขึ้น หอมละมุนติดปาก“เป็นชาที่ดีจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือพอใจกับรสชาตินี้มากที่สำคัญคือไม่รู้ด้วยเหตุใด หลังจากดื่มชาแก้ว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 364 ใส่ยาผิดแล้วกระมัง

    อวี๋เฟยเหยียนไปที่ห้องครัว เลือกสุราดอกท้อชั้นดีมาไหหนึ่ง กำลังจะใส่เมามายลืมโลกนี้ลงไป ทว่ากลับคิดอะไรขึ้นมาได้“เอ๊ะ? ไม่ถูก วันนี้ศิษย์พี่ใหญ่ต้องงดเสวย ดื่มได้แต่น้ำชา ดื่มสุราไม่ได้!”อวี๋เฟยเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นค้นหาของในครัว ในที่สุดก็เจอดอกสายน้ำผึ้งเขายิ้ม “นี่ดีกว่า ต้มชาดอกสายน้ำผึ้งให้ศิษย์พี่ดื่ม นอกจากจะดับร้อนได้แล้ว กลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งยังกลบกลิ่นสุราได้ด้วย”อวี๋เฟยเหยียนเริ่มลงมือทันที หลังจากธูปหมดไปดอกหนึ่ง ชาก็ต้มเสร็จแล้วเขาเปิดขวดกระเบื้องใบเล็กที่ฉินเซียงหรูให้มา กำลังจะรินลงในกาน้ำชา แต่น้ำชากำลังเดือด เมื่อเปิดฝาออก ไอน้ำร้อนก็พุ่งขึ้นมาและไอน้ำเหล่านั้นก็พัดพาแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงบนมือของอวี๋เฟยเหยียนกระจายไปในอากาศทันทีหลังจากที่อวี๋เฟยเหยียนได้กลิ่น เขาก็เริ่มเวียนหัว“นี่…นี่…ของของฉินเซียงหรู เหตุใดฤทธิ์สุราถึงแรงเช่นนี้!”อวี๋เฟยเหยียนเซไปเซมา ฝืนรินสุราลงในน้ำชาสองสามหยดตอนที่เขากังวลว่ายังไม่พอ เขาก็ถูกกลิ่นสุราทำให้มึนเมา หลังจากที่โลกหมุนอยู่ชั่วขณะ เขาก็ล้มลงกับพื้นห้องครัว สลบไปเตาบังร่างของเขาไว้ ทำให้ไคจือและซ่านเย่ที

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 363 ความคิดห่วยๆ ลองดูว่ากล้าใช้หรือไม่

    หลังจากเยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ ก็ออกจากเรือนหน้าไปทางลานรั่วชู อวี๋เฟยเหยียนยืนอยู่ที่ทางแยก มองไปที่เรือนซวงหาน มองไปที่เรือนรั่วชู คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจไปหาฉินเซียงหรูฉินเซียงหรูกำลังยุ่งอยู่กับสมุนไพรของเขา วันนี้มีปลาแห้งเพิ่มมาตัวหนึ่ง อวี๋เฟยเหยียนมองฉินเซียงหรูที่กำลังทาเกลือบนปลา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจ้ายังมีอารมณ์มาหมักปลาเค็มอีกหรือ? ข้างหน้าเขาทำลายข้าวของกันจนหมดแล้ว!”ฉินเซียงหรูยิ้ม พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้าได้ยินแล้ว”“ได้ยินแล้ว?” อวี๋เฟยเหยียนประหลาดใจ “ได้ยินแล้วยังใจเย็นเช่นนี้อยู่ได้?”“แล้วจะให้ทำอย่างไร?” ฉินเซียงหรูมองอวี๋เฟยเหยียนอย่างขบขัน “ไปช่วยแม่นางเยี่ยนตำหนิองค์รัชทายาทที่ไม่รู้จักบุญคุณ? หรือไปช่วยองค์รัชทายาทตำหนิแม่นางเยี่ยนว่าชอบยุ่งไม่เข้าเรื่อง?”อวี๋เฟยเหยียนอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอะไรไม่ออกฉินเซียงหรูยังคงทำปลาต่อไป พูดว่า “ถ้าจะให้ข้าพูด การที่แม่นางเยี่ยนก่อเรื่องเช่นนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยวันนี้ของทุกปี ทุกคนก็จะได้ไม่ลำบาก แม้แต่หายใจก็ยังไม่กล้าดัง เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ถึงจะยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ควรจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ จะยึดติดอยู่กั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 362 เจ้ามันก็แค่ตัวตลก!

    เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเช่นนั้น จู่ ๆ ก็หยุดเดินเยี่ยนเว่ยฉือตาเป็นประกาย คิดว่าซ่างกวนซีจะกลับมากินอาหารแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลังจากซ่างกวนซีหันกลับมา สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความโกรธเขาเดินไปหาเยี่ยนเว่ยฉืออย่างโกรธเคือง จับคอเสื้อของนางไว้ ตะโกนด่าว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ มีธุระก็เรียกหา ไม่มีธุระก็เมินเฉย! เจ้าคิดจะเรียกใช้ข้าอย่างคล่องแคล่ว! อยากให้ข้าช่วยตามหาฮวาอวี๋ ถึงอุตส่าห์ประจบประแจง เมื่อเจ้าคิดว่าข้าหมดประโยชน์ เจ้าก็เมินเฉย หลบหน้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าจำไว้ ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเจ้า ในสายตาของข้าเป็นเพียงเรื่องน่าขัน! เหมือนกับตัวเจ้า น่าขันสิ้นดี!”เมื่อพูดจบ ซ่างกวนซีก็ผลักเยี่ยนเว่ยฉือออกอย่างแรงโชคดีที่อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ ตาไวคว้าตัวเยี่ยนเว่ยฉือไว้ ไม่อย่างนั้นนางคงล้มก้นกระแทกพื้นไปแล้วทว่าแค่นั้นยังไม่พอ หลังจากที่ซ่างกวนซีผลักเยี่ยนเว่ยฉือออก เขากลับใช้ฝ่ามือฟาดไปที่โต๊ะอาหารเกิดเสียงดังสนั่น โต๊ะอาหารที่จัดไว้อย่างดีแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ แม้แต่โต๊ะก็หักกระจัดกระจายเยี่ยนเว่ยฉือ ไคจือ และซ่านเย่ตกตะลึงไคจือและซ่านเย่รีบคุก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 361 ซ่างกวนซีเป็นอะไรไป?

    เยี่ยนเว่ยฉือรีบพยักหน้า “ใช่ ๆ ดังนั้นข้าจะทำเค้กวันเกิดให้เขา!”“พระชายา อะไร…อะไรคือเค้กวันเกิดหรือเพคะ?” ซ่านเย่ถามอย่างงุนงงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตอบ “ทำออกมาเสร็จแล้วประเดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้เอง เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนไปทำอาหารหลาย ๆ อย่าง กับข้าวหกอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่าง อร่อยและดีต่อสุขภาพ!”ไคจือและซ่านเย่พูดพร้อมกัน “เพคะ หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”บ่าวและนายสามคนยุ่งกันอยู่ในครัวอย่างสนุกสนานจางมามาที่อยู่หน้าประตูเห็นดังนั้นก็ถามพ่อบ้านจางด้วยความสงสัย “พระชายากำลังทำอะไรอยู่ในครัวรึ? วันนี้ไม่ใช่วันที่องค์รัชทายาทต้องงดเสวยหรือ?”พ่อบ้านจางก็ไม่เข้าใจ ตอบกลับไปว่า “องค์รัชทายาททรงงดเสวยคนเดียว ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องงดตาม พระชายาคงทำอาหารกินเองกระมัง”จางมามาพยักหน้าเล็กน้อย “ก็จริงของท่าน ข้าไปซื้อของที่องค์รัชทายาทต้องใช้ก่อน ดูแลที่นี่ดี ๆ อย่าให้ครัวไฟไหม้ล่ะ!”จางมามาไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือทำอาหารของเยี่ยนเว่ยฉือพ่อบ้านจางรับคำด้วยรอยยิ้ม…… หลังเที่ยงวัน ซ่างกวนซีพาอวี๋เฟยเหยียนกลับมาที่จวนองค์รัชทายาทเยี่ยนเว่ยฉือสังเกตว่าวันนี้ซ่างกวนซีกลับมาช้าเป็นพิเศษแต่ไม่ได้สัง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 360 วันเกิดของซ่างกวนซี

    เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะกล่าวว่า “ก่อนที่จะรู้จักท่าน ข้าไม่เคยได้ยินชื่อปลาตัวนี้เลย แต่ข้าก็ยังยืนยันได้ว่ามันเป็นของปลอม!”“เป็นเพราะอะไรกัน?” ฉินเซียงหรูไม่เข้าใจเยี่ยนเว่ยฉืออธิบายต่อ “เพราะท่านเคยบอกว่า มัจฉาทองคำจิ่วหยางชอบกินหญ้าหางสุนัขเขียว ซึ่งหญ้าหางสุนัขเขียวขึ้นในที่ลุ่ม ปลาที่ชาวเป่ยอิ้นนำมาอาศัยอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนใกล้ภูเขาไฟ สภาพอากาศที่นั่นแตกต่างจากที่ลุ่มมาก! ที่เขาว่า ดินน้ำเลี้ยงคนฉันใด ก็ใช้กับสัตว์ได้เช่นกัน ในเมื่อชอบกินหญ้าหางสุนัขเขียวในที่ลุ่ม มัจฉาทองคำจิ่วหยางก็ต้องอาศัยอยู่ในที่ลุ่มหรือบริเวณใกล้เคียง จะไปอยู่แถวภูเขาไฟได้อย่างไร? ปลาบินไม่ได้เสียหน่อย!”ฉินเซียงหรูพยักหน้ายิ้ม ๆ “ถูกต้อง ถูกต้อง! แม่นางเยี่ยนฉลาดหลักแหลมจริง ๆ ในเมื่อท่านรู้เหตุผลนี้แล้ว เหตุใดถึงยังรับ... ปลาแห้งตัวนี้ไว้?”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ “ฝ่าบาททรงรักและเอ็นดูองค์รัชทายาท อย่าให้พระองค์ต้องทรงผิดหวังเลย แม้จะไม่สามารถช่วยเรื่องพิษกู่เย็นขององค์รัชทายาทได้ แต่ก็นำไปทำอาหาร ทำซุปบำรุงกระเพาะของเขาได้! ข้านำมาให้ท่าน ท่านจะได้ดูว่าปลาพิเศษตัวนี้จะใช้เป็นยาได้หรือไม่ ในเมื่อหายากเช่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 359 ของขวัญจากฝ่าบาท

    เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตากล่าว “นี่ก็เป็นความคิดที่ดี แต่จะหาเขาเจอได้อย่างไร? อีกอย่าง ถึงข้าจะหาเขาเจอ เขาก็คงไม่เต็มใจเข้าวังไปพร้อมกับข้า เขาเป็นโจรขุดสุสาน เข้าวังกับข้าก็เท่ากับพาตนเองไปติดกับมิใช่หรือ?”ซ่างกวนซีตอบกลับอย่างเฉยเมย “หากเขาเป็นโจรขุดสุสานจริง นั่นถึงจะเรียกว่าติดกับตนเอง แต่หากเขาไม่ใช่ นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ องครักษ์เงาของสำนักอิ้นเฉิงก็ไม่ใช่พวกอ่อนแอ ในสองแคว้นสี่นครเลื่องชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม เขาถูกคนสำนักอิ้นเฉิงตามล่ามาตลอด ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องตายอย่างแน่นอน หากครั้งนี้สามารถชี้แจงถึงสิ่งที่เขาทำต่อหน้าทั้งสองแคว้น ก็อาจจะหลุดพ้นจากการตามล่าของสำนักอิ้นเฉิงได้”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “สิ่งที่ท่านกล่าวนับว่ามีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะลองไปตามหาเขาดู!”“พรุ่งนี้ไม่ได้!” ซ่างกวนซีปฏิเสธเยี่ยนเว่ยฉือสงสัย “ทำไมไม่ได้?”ซ่างกวนซีเงียบไปครู่หนึ่ง ตอนที่เยี่ยนเว่ยฉือคิดว่าจะไม่ได้รับคำตอบเสียแล้ว ซ่างกวนซีก็พูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้ตรงกับเทศกาลตวนอู่”ต้องอยู่ในจวนเพื่อฉลองเทศกาลงั้นหรือ?เขาก็ยึดถือพิธีรีตองในการใช้ชีวิตดีนี่!เมื่อคิดได้ดังนั้น เ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 358 โอบไว้ในอ้อมแขน

    เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “หากเป็นอย่างที่ฝ่าบาทกล่าว ในช่วงสิบวันนี้ ข้าก็ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ไปบันทึกชื่อและฐานะของชาวบ้านก็พอแล้วใช่หรือไม่? ถึงตอนนั้นก็ดูว่าใครบันทึกได้มากกว่ากัน”ซ่างกวนซีกล่าวต่อ “ไม่ว่าเจ้าจะบันทึกได้เท่าไหร่ ก็ไม่มีทางมากกว่าจวนอ๋องจ่างซิ่น”“ทำไมหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือไม่เข้าใจ “เป็นเพราะจวนอ๋องจ่างซิ่นมีคนมากกว่าหรือ?”ซ่างกวนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “ข้อมูลประจำตัวของชาวเมืองหลวง มีบันทึกไว้ที่ที่ว่าการเมือง อ๋องจ่างซิ่นแค่ส่งคนไปที่สำนักปกครองเมืองหลวงก็ได้ทุกอย่างมาแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด ตอนที่เขากว้านซื้อเถาเหลยกง เขาคงได้บันทึกข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว ชิงลงมือก่อน”“หา? ตาเฒ่าใกล้ตายเอ๊ย ทำไมถึงเจ้าเล่ห์เช่นนี้! นี่มันร่วมมือกับอวี้ฉืออวิ๋นจ้าววางแผนเล่นงานข้าชัด ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือฟุบลงข้าง ๆ ซ่างกวนซี ดูหดหู่เล็กน้อยซ่างกวนซีเงียบไป ไม่พูดอะไรต่อเยี่ยนเว่ยฉือฟุบอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ไม่สิ! ฝ่าบาท เรื่องเหล่านี้ท่านคงคิดไว้อยู่แล้วใช่หรือไม่?”ซ่างกวนซีตอบกลับอย่างเย็นชา “คิดแล้วอย่างไร?”เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นนั่งอย่างร้อนใจ “ฝ่าบาทคิดคำนวณปัญหาที่ยุ่งยากเช่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 357 เช่นนี้ไม่เรียกว่าอาบพร้อมกัน

    เรือนซวงหานหลังจากกลับถึงห้องตัวเอง ซ่างกวนซีก็ไม่สนใจเยี่ยนเว่ยฉืออีก เดินตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเยี่ยนเว่ยฉือคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็สั่งให้ไคจือซ่านเย่เตรียมน้ำร้อนที่ห้องข้างๆ และไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกันดังนั้นเมื่อซ่างกวนซีออกมา ก็เห็นเยี่ยนเว่ยฉืออยู่ในชุดชั้นในสีขาว กำลังเช็ดผมที่ยังหมาด ๆ อยู่แววตาของซ่างกวนซีหม่นลงเล็กน้อย หัวใจเต้นเร็วขึ้น“เอ๊ะ? ฝ่าบาทอาบเสร็จแล้วหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองเขาเมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนซีพยักหน้าเล็กน้อย ถามอย่างใจเย็นว่า “เจ้าก็อาบเสร็จแล้วหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบรับ “ใช่แล้ว ข้ากลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของฝ่าบาท ก็เลยอาบพร้อมท่าน”ลมหายใจของซ่างกวนซีติดขัด เผลอแย้งออกไปว่า “เช่นนี้ไม่เรียกว่าอาบพร้อมกัน”“อ้อ หือ?” เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตา รู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาด “ฝ่าบาท...ว่าอย่างไรนะ?”ซ่างกวนซีเดินเข้าไปก้าวหนึ่ง มองนางจากมุมสูงลงมา เอ่ยเสียงต่ำว่า “ข้าบอกว่า เช่นนี้ ไม่เรียกว่าอาบพร้อมกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือมองสายตาที่ร้อนแรงของซ่างกวนซี พลันรู้สึกใจสั่นขึ้นมาผู้ชายคนนี้ บนร่างกายนั้นแผ่รังสีที่คนนอกไม่อาจเข้าใกล้ตลอดเวลาแต่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status