แชร์

บทที่ 10 ไม่เปลี่ยนสีเลยหรือ?

ผู้แต่ง: โม่เชียนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทุกคนยืนชูคอมองอ่างทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

ส่วนฮองเฮานั้นถึงกับบีบมือเข้าหากัน แลดูค่อนข้างกังวล

ทว่าหลังจากที่ทดสอบนางกำนัลและขันทีไปกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีมือของใครเปลี่ยนสีเลย

บุรุษชุดสีชมพูที่อยู่ในความมืดขมวดคิ้วพลางพูดว่า “เฮ้อ วิธีการของนางไม่ได้ผล!”

บุรุษชุดสีทองแค่นเสียงเบา ๆ “ข้าคิดว่านางจะฉลาดหลักแหลมเสียอีก ไม่เพียงนางทำลายแผนของศิษย์พี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้นางได้เอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย”

เป็นดังที่คาดไว้ ทันทีที่ทางนี้เอ่ยจบ

ฮองเฮาที่อยู่ทางนั้นก็เริ่มโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือ

“เจ้าช่างบังอาจที่กล้าหลอกใช้ฝ่าบาทกับข้า เจ้าลองใช้สองตามองดูสิ มีฝ่ามือของใครเปลี่ยนสีหรือไม่ พูดจาเหลวไหลยิ่งนัก! ใครก็ได้มาลากนาง…”

ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็แคะหูแล้วพูดด้วยความรำคาญ “ฮองเฮาเพคะ พวกเรายืนใกล้กันมากเช่นนี้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนหูหนวก”

หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ให้โอกาสให้ฮองเฮาได้ตำหนิตนต่อ พลางชี้ไปยังเฟินเอ๋อร์ที่ยืนหลบมุมอยู่ในกลุ่มคนรับใช้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท นางคือฆาตกรเพคะ”

อะไรนะ?!

เฟินเอ๋อร์เบิกตากว้างมองเยี่ยนเว่ยฉือ จากนั้นก็รีบคุกเข่าและพูดว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะเพคะ ฝ่าบาทเองก็ทรงเห็น ฝ่าบาททรงเห็นอย่างชัดเจนว่ามือของหม่อมฉันไม่ได้เปลี่ยนสีเพคะ!”

เฟินเอ๋อร์ยื่นมือออกมา พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างร้อนรน

ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างก็พูดอย่างร้อนใจ “นั่นสิ มือของนางไม่ได้เปลี่ยนสีเลย เจ้าพูดจาไร้สาระอะไรของเจ้า?”

เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปหาเฟินเอ๋อร์พร้อมกับจับข้อมือซ้ายของนางพลิกฝ่ามือขึ้น

จากนั้นนางก็ยิ้มเยาะพลางพูดว่า “มือของนางไม่ได้เปลี่ยนสี แต่ชายแขนเสื้อของนางเปลี่ยนสีเพคะ”

ทุกคนมองไปก็พบว่าชายแขนเสื้อสีน้ำเงินอ่อนของเฟินเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอมเทา ราวกับว่าสีของผ้าจางลง

ผางเหออวี้มีความอยากรู้ จึงเดินไปพลิกข้อมือขวาของเฟินเอ๋อร์ ก็เห็นว่าสีของชายแขนเสื้อด้านขวาไม่ได้เปลี่ยนไป

จากนั้นเขาก็มองไปยังบรรดาคนรับใช้คนอื่น ๆ แล้วสั่งว่า “ยื่นมือออกมาให้หมด!”

ทุกคนต่างยื่นมือออก ปรากฏว่าชายแขนเสื้อของคนอื่น ๆ ไม่ได้เปลี่ยนสี แค่เปียกน้ำเท่านั้น ในบรรดาคนจำนวนมาก มีเพียงชายแขนเสื้อด้านซ้ายของเฟินเอ๋อร์เท่านั้นที่สีผ้าซีดลง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฮ่องเต้คังอู่ทรงขมวดคิ้วพลางตรัสว่า “อธิบายมาให้ชัดเจน”

เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าและอธิบายว่า “ทูลฝ่าบาท เสื้อผ้าของนางกำนัลและขันทีในวังล้วนทำจากผ้าไหมย้อมคราม ซึ่งเป็นการใช้ต้นครามมาย้อมสีผ้า เมื่อต้นครามสัมผัสกับน้ำด่าง สีของมันจะซีดลงอย่างรวดเร็ว แต่น้ำส้มสายชูจะทำให้น้ำด่างมีฤทธิ์เป็นกลาง พูดง่าย ๆ ก็คือคนที่ไม่มีความผิดจะนำมือไปแช่น้ำส้มสายชูแล้วตามด้วยน้ำด่างอย่างว่าง่าย แม้จะเปียกไปถึงชายแขนเสื้อแต่สีของผ้าก็จะไม่ซีดจางเพคะ”

ผางเหออวี้ที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วพลางพูดว่า “ที่ชายแขนเสื้อของเฟินเอ๋อร์จางลง นั่นหมายความว่านางไม่ได้จุ่มมือซ้ายของนางลงในน้ำส้มสายชู เพียงแต่จุ่มในน้ำด่างเท่านั้นหรือ?”

เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ใช่เพคะ ขอเรียนถามหน่อยว่าหากนางไม่มีความผิด เหตุใดนางถึงไม่กล้าจุ่มมือในน้ำส้มสายชูก่อนแล้วจุ่มในน้ำด่างเหมือนคนอื่น ๆ? แต่กลับใช้มือขวาจุ่มน้ำส้มสายชู แล้วสลับไปใช้มือซ้ายจุ่มน้ำด่างแทน?”

เมื่อเฟินเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางก็ซีดลงทันที

นางพยายามปกป้องตัวเองด้วยความหวาดกลัว “หม่อม...หม่อมฉันแค่บังเอิญ... บังเอิญลืมเพคะ!”

“ลืม?” เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเบา ๆ พลางพูดว่า “เอาล่ะ ลืมก็ไม่เป็นไร แค่ลองอีกครั้งก็ได้ใช่ไหม? ใครก็ได้ นำอ่างน้ำสะอาดมาให้นางล้างมือแล้วลองอีกครั้ง!”

ฮ่องเต้คังอู่ที่อยู่ด้านข้างทอดพระเนตรเห็นเยี่ยนเว่ยฉือออกคำสั่ง ทว่าก็ทรงไม่ได้ห้ามปราม เพียงทรงพยักหน้าให้องครักษ์

หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ก็เดินมาพร้อมกับอ่างทองแดง เยี่ยนเว่ยฉือรีบไปรับอ่างทองแดงมาส่งให้เฟินเอ๋อร์ด้วยตัวเอง

นางยิ้มและพูดว่า “แม่นางเฟินเอ๋อร์ ล้างมือสิ ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 11 ต้องฝังเยี่ยนเว่ยฉือไว้ข้าง ๆ กัน!

    เฟินเอ๋อร์รู้สึกประหม่าจนเหงื่อออกท่วมตัว นางมองฮองเฮาอย่างมีความหวัง แต่กลับได้รับสายตาเย็นชาจากอีกฝ่าย“มองอะไร นางให้เจ้าล้างมือ ก็รีบ ๆ ล้างไปสิ!” ฮองเฮาตำหนิเฟินเอ๋อร์ตัวสั่นพลางจุ่มมือลงในน้ำอย่างไม่เต็มใจเพื่อล้างให้สะอาดหลังจากเช็ดมือให้แห้ง นางก็เดินไปที่อ่างน้ำส้มสายชูและน้ำด่างตอนที่นำมือจุ่มน้ำส้มสายชู มือก็ยังปกติอยู่แต่เมื่อมือนำไปจุ่มในน้ำด่าง มันก็กลายเป็นสีน้ำเงินอ่อนอย่างรวดเร็ว!ทุกคนตกตะลึง ส่วนฮ่องเต้คังอู่ก็ทรงอุทาน “สารเลว เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย!”ขาของเฟินเอ๋อร์อ่อนแรงจนล้มลงกับพื้นนางร้องไห้อ้อนวอน “ฝ่าบาท โปรดทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เพคะ ในวันเทศกาลฮัวเฉาวันนั้น แขกทุกคนล้วนดื่มเหล้าดอกท้อ มีเพียงสวีเหม่ยเหรินเท่านั้นที่ดื่มเหล้าบ๊วย ไม่รู้ว่าคนรับใช้คนไหนติดป้ายชื่อเหล้าทั้งสองชนิดสลับกัน หม่อมฉันเลย...เลยเผลอหยิบผิดเพคะ!”“หยิบผิดหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะ “สวีเหม่ยเหรินเพิ่งให้กำเนิดองค์ชายน้อย ทั้งยังอยู่ในช่วงให้นมบุตร นางจะดื่มเหล้าได้อย่างไร?”พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็มองไปที่จักรพรรดิคังอู่และพูดต่อ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 12 ดาบสยบพยัคฆ์

    บุรุษชุดสีชมพูในความมืดใช้ศอกผลักชายในชุดสีทองพลางเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นี่ เจ้าไม่ไปช่วยหน่อยหรือ? รัฐทายาท*แห่งอ๋องเซียวเหยา อย่างน้อยก็พูดสักหน่อยจะเป็นไรไป?”ปรากฏว่าบุรุษในชุดสีทองไม่ใช่ใครอื่น เขาคือพระโอรสในอ๋องเซียวเหยา นามว่าอวี๋เฟยเหยียนและคุณชายที่มีลักษณะคล้ายสตรีในชุดสีชมพูที่อยู่ข้าง ๆ ก็คือเย่เทียนซูศิษย์พี่รองของเขาทั้งสองเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของซ่างกวนซีอวี๋เฟยเหยียนกอดอกพลางพูดอย่างเหยียดหยาม “ศิษย์พี่ให้พวกเรามาสังเกตการณ์ ไม่ได้สั่งให้ช่วยใคร แล้วเหตุใดต้องไปยุ่งเรื่องของนางด้วย”เย่เทียนซูม้วนผมของตัวเอง แสร้งทำเป็นปวดใจและพูดว่า “เฮ้อ แต่นางน่าสนใจจริง ๆ อีกทั้ง... นางก็ดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย”“ไม่เมื่อไม่ใช่คนอายุสั้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าหรือเจ้าลงมือ เอาล่ะ ออกจากวังไปรายงานกันเถอะ!” อวี๋เฟยเหยียนเขย่งเท้าทะยานจากไปเย่เทียนซูหันกลับไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ตามอวี๋เฟยเหยียนไปทว่าทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเขาก็พลาดการแสดงที่น่ารับชมเมื่อเห็นอันกั๋วกงเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับดาบสยบพยัคฆ์ในมือ เยี่ยนเว่ยฉือก็เท้าเอวตะ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 13 สละชีวิตช่วยผู้อื่น

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าอันกั๋วกงนั้นหยิ่งผยองแต่คาดไม่ถึงว่าคนที่เป็นเพียงขุนนางจะหยิ่งผยองได้ถึงเพียงนี้ฮ่องเต้ทรงยืนอยู่ตรงนี้แท้ ๆ เขากล้าฆ่าคนต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร?ทันใดนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็พลิกฝ่ามือ เข็มเงินสองเล่มปรากฏอยู่ที่ปลายนิ้วของนางทว่าในขณะที่นางกำลังจะสู้กลับ จู่ ๆ ร่างที่ไม่สมประกอบก็ร่วงลงมาจากฟ้า และดึงเยี่ยนเว่ยฉือมาไว้ข้างหลังเขาผู้นั้นปกป้องเยี่ยนเว่ยฉือพลางถอยหลังไปสองก้าว แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็ยังคงได้ยินเสียงดัง!เป็นเสียงดาบคมเฉือนผ่านผิวหนัง!“ชูจิ่ง?!”“องค์รัชทายาท?!”“เสด็จพี่ใหญ่?!”จากนั้นก็มีเสียงอุทานจากทุกคนใช่แล้ว คนที่มารับการโจมตีแทนเยี่ยนเว่ยฉือไม่ใช่ใครอื่น นอกจากองค์รัชทายาทซ่างกวนซีที่บาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่าง!อันกั๋วกงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ ปลายดาบสยบพยัคฆ์ของเขาแทงทะลุไหล่ของซ่างกวนซีซ่างกวนซีเช็ดเลือดตรงมุมปากพลางแค่นเสียงเย็น “อันกั๋วกง บังอาจนักนะที่กล้าลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท!”อันกั๋วกงหายใจเฮือกใหญ่อย่างหวาดกลัวและรีบดึงดาบออกมา จากนั้นก็ทำมือคำนับแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”หากฆ่าเยี่ยนเว่ยฉือไปก็คงจะไม่เป็

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 14 หยุดได้แล้ว!

    ณ จวนองค์รัชทายาทหลังจากที่เยี่ยนเว่ยฉือประคองซ่างกวนซีลงจากรถม้า นางก็คิดว่าตัวเองกำลังฝันไปที่นี่ที่ทั้งรกร้าง วัชพืชขึ้นรกชัฏ แม้แต่ป้ายชื่อด้านหน้าก็เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว นี่คือจวนองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?คงไม่ใช่นรกหรอกกระมัง?เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองซ่างกวนซีที่ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนเป็นโรคที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่…ไม่ได้มาผิดที่ใช่ไหม?”ซ่างกวนซีเมินนางพลางตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “หากจะดูถูกกัน ก็ไม่ต้องตามเข้ามา!”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็เดินไปที่ส่วนลึกของเรือนด้านในแล้วมุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก นางก็รู้สึกดูถูกเขาจริง ๆ เพราะนางนึกว่าตามเขามาแล้วจะได้อยู่ดีกินดีแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่กินน้ำซาวข้าวก็ยังไม่มีปัญญาแต่หากนางไม่เข้าไปแล้วนางจะไปที่ไหนได้?ตอนนี้ตำแหน่งชายารัชทายาทคือเครื่องรางช่วยชีวิตของนาง และไม่อาจคาดหวังให้บิดาผู้ให้กำเนิดมาปกป้องนางได้อีกต่อไปแล้วนอกจากองค์รัชทายาท นางก็ไม่มีใครให้พึ่งพิงเลยเยี่ยนเว่ยฉือรีบเดินตามองค์รัชทายาทพลางเอื้อมมือไปประคองเขาแล้วพูดว่า “โถ่ ข้าไม่ได้ดูถูกท่านเสียหน่อย ข้าคิดว่าที่นี่ก็ไ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 15 ชิงลงมือก่อน

    เยี่ยนเว่ยฉือดึงขากางเกงของซ่างกวนซีพลางพูดอย่างจนใจ “องค์รัชทายาท ดูบาดแผลตามตัวของท่าน หากไม่รีบรักษา ท่านอาจตายได้เลยนะ”ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ต้องยุ่ง!”“ไม่ให้ข้ายุ่งแล้วจะให้ใครยุ่งเล่า? หากท่านตายไป ข้าจะใช้อำนาจของใครเล่า?” เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ปิดบังความคิดของตัวเองแม้แต่น้อยซ่างกวนซีจนใจ การเสียเลือดจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบาดแผลอักเสบทำให้เขาเริ่มมีไข้สูงขึ้นเรื่อย ๆเขาต้องการการรักษาบาดแผลโดยด่วนแต่ไม่มีใครในวังที่สามารถไว้ใจได้ หมอในสำนักหมอหลวงยิ่งแล้วใหญ่ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ พลางคิดว่าสตรีผู้นี้รู้วิธีใช้พิษ หรือนางอาจมีทักษะทางการแพทย์จริง ๆ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงพูดว่า “เจ้ารักษาแค่บาดแผลที่ร่างกายช่วงบนก็พอ ส่วนช่วงล่าง...เจ้าไม่ต้องยุ่ง”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “นี่พี่ชาย ให้ข้าหากระจกทองเหลืองให้ท่านไปส่องก้นดูไหมเล่า? ถูกตีจนเป็นแผลช้ำเลือดขนาดนั้น ไม่รู้ว่าท่านทนเจ็บได้อย่างไร ไหนจะดันทุรังนั่งรถม้ามาอีก ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลตรงร่างกายส่วนบนหรือส่วนล่างก็ต้องรักษาให้หมด ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้แผลจะเน่าจนมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มตัว ถึงตอนนั้นคง…”

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 16 จิตใจของคนแก่ ๆ เช่นข้าว้าวุ่นไปหมด

    เยี่ยนเว่ยฉือเบนสายตาหนีพร้อมกับเกาจมูกและพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “อะแฮ่ม ความเป็นชายของนี้แตกต่างไปจากหนังโป๊ชายรักชายที่ข้าเคยดูอย่างสิ้นเชิง ทำเอาจิตใจของคนแก่ ๆ เช่นข้าว้าวุ่นไปหมด!”พูดจาเลอะเทอะอะไรเนี่ย??เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปหยิบน้ำสะอาดมาล้างคราบสกปรกบนร่างกายของซ่างกวนซีเสียก่อนหลังจากทำความสะอาดเสร็จ นางก็เดินไปหยิบยาวิเศษที่ฮ่องเต้ทรงประทานมาให้ เพื่อนำมาดูว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ทว่าทันทีที่นางเปิดกล่องผ้าที่บรรจุยา ซ่างกวนซีก็พูดด้วยอารมณ์รุนแรง “อย่าแตะต้องมัน ห้ามใช้ของทุกสิ่งที่มาจากวัง!”เยี่ยนเว่ยฉือหยิบกระปุกขี้ผึ้งขึ้นมาแล้วหันไปมองซ่างกวนซีพลางถามอย่างสงสัย “เหตุใดถึงใช้ไม่ได้? ข้าดูหมดแล้ว ของเหล่านี้ล้วนเป็นสมุนไพรชั้นยอด ไม่สามารถหาซื้อจากข้างนอกได้ อ้อ ต่อให้หาซื้อได้ แต่ข้าก็คงไม่มีปัญญาซื้อ”ซ่างกวนซีหลับตาพลางพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกกว่าเดิม “เดี๋ยวเวลาผ่านไปบาดแผลก็จะหายเอง เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก!”แม้เขาไม่ปรารถนาจะอธิบายไปมากกว่านี้ แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็เข้าใจดีแล้วนางเดินกลับไปที่ขอบเตียงแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนเตียง พลางทำท่าเหมือนนักเลงเจ้าถิ่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 17 กลยุทธ์ลักขื่อเปลี่ยนเสา

    “อา...อาการต้านยาของท่านมัน...รุนแรงเกินไปแล้ว” สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองรวดเร็วขนาดนี้เชียวซ่างกวนซีพูดเสียงเย็น “ทำไม? ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”“ข้า...ข้าจะกลัวทำไม ข้าไม่ได้ทำร้ายท่านเสียหน่อย!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเบือนหน้าหนี และรู้สึกร้อนตัวเกินกว่าจะกล้าสบตาซ่างกวนซีซ่างกวนซีมองขวดโหลที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็แอบมองกระเบื้องหลังคาที่หายไปพลางคิดกับตัวเองว่า ‘วันนี้นางทำตัวเปิดเผยมากเกินไป จะปล่อยให้นางทำการรักษาต่อไปไม่ได้ หากนางสามารถล้างพิษเย็นได้ต้องกลายเป็นหนามยอกอกของอันกั๋วกงอย่างแน่นอน’เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องมารักษาข้า ตอนนี้เจ้าออกไปหาห้องพักเถอะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีตาโต “ยังทายาไม่เสร็จเลยนะ!”ซ่างกวนซีกระชับวงแขนกอดเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่นซ่างกวนซีกัดฟันพูดขู่ว่า “หากเจ้าไม่อยากพักผ่อนคนเดียว เช่นนั้นพวกเราก็จะพักผ่อนด้วยกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหายใจลำบากในขณะที่ถูกกอดไว้แน่นนางพยักหน้าอย่างร้อนรนและพูดว่า “ได้ ได้ ได้ ข้าจะออกไป ข้าจะออกไปแล้วพอใจรึยัง!”ซ่างกวนซีผลักนางออกไปด้วยความโกรธ จนเกือบจะทำให้เยี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 18 ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

    ทันทีที่อันกั๋วกงพูดสิ่งที่อยากจะทำออกมา เขาก็รีบพาคนกลับไปทันทีจนไม่ได้สนใจเสียงเรียกของฮองเฮาที่อยู่ด้านหลังด้วยซ้ำ“ท่านพี่ใหญ่ ท่านพี่ใหญ่!” ฮองเฮาเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถรั้งอันกั๋วกงไว้ได้เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังโกรธมาก และแทบรอไม่ไหวที่จะไปปลิดชีพเยี่ยนเว่ยฉือเพราะไม่มีใครเคยกล้าชี้หน้าด่าเขามาก่อนเมื่อเห็นอันกั๋วกงจากไปด้วยความโกรธ ฮองเฮาจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ลุงของเจ้าก็ยังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิม”องค์ชายสองซ่างกวนหลียิ้มและกล่าวว่า “เสด็จแม่อย่าทรงกังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ผิงอี้โหวไม่มีอำนาจทางทหารอีกต่อไปแล้ว หากท่านลุงจะลงโทษเขาก็เหมือนการขยี้มดให้ตายคามือ”ฮองเฮามองไปที่ซ่างกวนหลีพลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ข้ากลัวว่ามดมันจะไม่ตาย แต่จะกัดตอบน่ะสิ”ซ่างกวนหลีถามอย่างสงสัย “เสด็จแม่ทรงกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะตอบโต้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮองเฮาพูดอย่างจนใจ “ข้ากังวลว่าการฆ่าคนของท่านลุงเจ้าอาจไม่สำเร็จหากทำไปเพราะต้องการระบายความโกรธ”“จะเป็นไปได้อย่างไร? ท่านลุงเป็นถึงกั๋วกงผู้สูงส่ง และเยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นเพียงบุตรีอนุจวนโหว เหตุใดถึงลงโทษนางไม่ได้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ซ่างกวนหลี

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 216 คนฉลาด

    ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงแม่น้ำเสี่ยวเหลียงที่ค่อนข้างห่างไกลอีกครั้งวันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน เพราะฉินเซียงหรูพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือได้นำกระถางกำยานออกมาด้วยฉินเซียงหรูถามอย่างสงสัย “สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบว่า “บริเวณริมน้ำนี้ยุงชุมนัก สิ่งนี้เอาไว้ไล่ยุงน่ะ”ฉินเซียงหรูค่อย ๆ สูดลมหายใจลึก พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “กลิ่นช่างสดชื่น ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะได้ปลากลับไปอย่างเต็มอิ่มอีกแล้ว!”ฉินเซียงหรูตกปลาอย่างเงียบ ๆ ส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็อ่านตำราแพทย์ที่นำติดตัวมาด้วยอย่างเงียบ ๆ เช่นกันบางครั้งที่ปลาติดเบ็ด เยี่ยนเว่ยฉือก็จะปรบมือและส่งเสียงไชโยโห่ร้องยกยออย่างเต็มที่ทั้งสองตกปลากันจนถึงตอนเย็นอีกครั้งสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือคราวนี้หลังจากข้องใส่ปลาเต็ม ฉินเซียงหรูไม่ได้รีบเก็บข้าวของเดินทางกลับ แต่ตะโกนไปทางป่าว่า “ชิงโจว ออกมาเอาของสิ!”ชิงโจว?เยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังป่าด้วยความสับสน และแน่นอนว่าครู่ต่อมาชิงโจวก็ออกจากป่ามายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม“ขอทำความเคารพชายารัชทายาทและคารวะท่านหมอฉิน”ฉินเซียงวางมือเท้าเอวแล้วยิ้ม “โอ้ ข้าก็ว่าเห

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 215 เจ้าไม่ให้อิสระข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าต้องบริสุทธิ์ต่อไป

    ซ่างกวนซีสะดุ้งเบา ๆ ขณะนั้นก็เข้าใจทันทีว่าฉินเซียงหรูหมายถึงอะไรที่แท้ฉินเซียงหรูก็รู้เจตนาของเขาอยู่แล้วฉินเซียงหรูต้องการบอกว่าการที่เขามีความรู้สึกต้องการอย่างแรงกล้ากับเยี่ยนเว่ยฉือในครั้งนี้ทำให้เกิดการกระตุ้นความร้อนภายในและสลายพิษเย็นไปได้ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปอาจรู้สึกไม่เหมือนเดิมแม้จะมีครั้งต่อไป แต่ครั้งต่อไปที่ว่าก็อาจจะไม่มีความรู้สึกนั้นแล้วว่ากันตามตรง ล้วนเป็นเพราะยังไม่ได้สมหวัง เลยยิ่งโหยหามากขึ้นเรื่อย ๆแต่หากสำเร็จดั่งหวังไปแล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั้นจะหายไปและหลงเหลือแต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือไม่?เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็รีบพูดว่า “ไม่มีทางหรอก!”ฉินเซียงหรูพูดอย่างขบขัน “ไม่มีทางอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ริมฝีปากของซ่างกวนซีขยับ แต่เขาพูดไม่ออก เขาหมายจะพูดว่าความสนใจที่เขามีให้เยี่ยนเว่ยฉือนั้นไม่มีทางลดน้อยลงแต่เหตุใดต้องบอกฉินเซียงหรูเรื่องนี้ด้วย หากจะพูดก็ควรพูดกับเยี่ยนเว่ยฉือสิเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ท่านจะมั่นใจว่าไม่มีทาง แต่ท่านก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของแม่นางเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 214 นี่คือชาอะไร

    “ช่วย...” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจนจบประโยค ซ่างกวนซีก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าเอง”ฉินเซียงหรูถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนัก เขาจับกรอบประตูด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างมือตบหน้าอกของตัวเอง “องค์รัชทายาท หลอกกันเช่นนี้ ถึงตายได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพิ่งสูญเสียชีวิตสามปีให้กับท่าน ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ! เฮ้อ!”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”ฉินเซียงหรูที่เห็นคราบน้ำบนรองเท้าของซ่างกวนซีก็รู้ว่าเขายืนอยู่ในลานเป็นเวลานานจนเนื้อตัวของเขาเปื้อนน้ำค้างไปหมดแล้วฉินเซียงหรูเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาทไม่ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อว่าราชกิจหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องราวยังไม่ชัดเจน ข้าไม่มีอารมณ์ไปเข้าเฝ้าหรอก!”ซ่างกวนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาฉินเซียงหรูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัน พลางขยับหลีกทางหลบไปข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เช่นนั้น เชิญองค์รัชทายาทเข้ามาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ซ่างกวนซีเดินเข้าไปในห้องของฉินเซียงหรูฉินเซียงจุดตะเกียงน้ำมัน และจุดเตาเผาดินแดงขนาดเล็ก จากนั้นก็เริ่มต้มชาเมื่อเห็นเช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ไม่ต้องต้มชา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 213 ทักษะด้านการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

    “ท่านอย่าเข้าไป!” ฉินเซียงหรูเอื้อมมือไปคว้าอวี๋เฟยเหยียน แต่คว้าได้เพียงชายเสื้อ ทำให้ห้ามไว้ไม่ทันจากนั้นเขาก็เห็นอวี๋เฟยเหยียนผลักประตูด้วยความกระวนกระวายใจเสียงดังตึงตังทำให้บุรุษและสตรีบนเตียงแข็งค้างอยู่กับที่อวี๋เฟยเหยียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้เห็นซ่างกวนซีจับเยี่ยนเว่ยฉือกดลงในท่านั้นแม้ทั้งสองคนจะแต่งตัวมิดชิด แต่ท่าทางของพวกเขา...ทำให้คนที่เห็นจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนซ่างกวนซีหันไปมองอวี๋เฟยเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยไฟลุกโชนไม่รู้ว่าโมโหเพราะถูกรบกวนหรือโมโหเพราะไม่ได้เติมเต็มความปรารถนา!อวี๋เฟยเหยียนเองก็แข็งตัวอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาฝืนใจพูดออกมา “ศะ...ศิษย์พี่ใหญ่ ตะ...ตัวท่านละลายแล้วหรือ?”นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน!!เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกอายและโกรธมาก นางผลักซ่างกวนซีด้วยกำลังทั้งหมดและรีบออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองเมื่อเห็นนางวิ่งออกไป ฉินเซียงหรูก็ส่ายหัวอย่างยินดีบนความทุกข์ของคนอื่น “จิ๊ ๆ ๆ ที่แท้ซ่างกวนซีก็ยังบริสุทธิ์อยู่นี่เอง! ฮ่า ๆ ๆ!”ขณะเดียวกันซ่างกวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง เขามองไปที่อวี๋เฟยเหยียนซึ่งยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม พลา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 212 เรียนรู้ที่จะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง

    เมื่อเห็นความดื้อรั้นของเขา เยี่ยนเว่ยฉือจึงพูดว่า “เช่นนั้นหากท่านไม่อ่าน ข้าก็จะอธิบายให้ฟัง”อธิบาย? อธิบายอะไร? ซ่างกวนซีเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความยากลำบากเยี่ยนเว่ยฉือสงบจิตสงบใจและกล่าวว่า “ท่าร่วมประเวณีท่าแรกเรียกว่าตาแปะเข็นรถ หลังจากทั้งสองถอดอาภรณ์ออกหมดแล้ว ให้บุรุษเริ่ม…”“หยุดพูด!” เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเสียงใสเหมือนระฆังเงินของเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวถึงเรื่องน่าอายในห้องหอนั่น กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาเลยทว่าเยี่ยนเว่ยฉือกลับประหลาดใจที่ได้พบว่า “โอ้ องค์รัชทายาท ท่านหน้าแดงแล้วนี่ ท่านร้อนรึ? ท่านรู้สึกร้อนแล้วใช่หรือไม่?”ซ่างกวนซีไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาจริง ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเยี่ยนเว่ยฉือที่เห็นว่าได้ผล นางก็เริ่มพูดอย่างไม่หยุดหย่อนทันที โดยพรรณนาถึงเนื้อหาในตำราอย่างสมจริงท่าบางท่าที่ยากจะอธิบาย นางก็พยายามสาธิตท่าทางเหล่านั้นด้วยตัวเองโชคดีที่นางใส่เสื้อผ้ามิดชิด จึงไม่ถึงกับมองไปแล้วทิ่มแทงสายตาอะไรมากนักแต่ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถต้านทานภาพที่จินตนาการขึ้นในหัวได้เลยทุกครั้งที่เยี่ยนเว่ยฉืออธิบายท่าทาง ในหัวขอ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 211 ช่างเป็นการเรียนรู้อันไร้ที่สิ้นสุด

    หลังจากนั้นไม่นานฉินเซียงหรูก็กลับมามือเปล่า ทำเอาทุกคนสับสนเยี่ยนเว่ยฉือถามว่า “ยาล่ะ? หมอฉิน ยาของท่านล่ะ?”ฉินเซียงหรูกล่าวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “พิษกู่เย็นกระจายออกมาจากภายในร่างกายขององค์รัชทายาท ดังนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความร้อนจากภายนอก แต่มีวิธีบรรเทาพิษเย็นได้ และบางทีมันอาจอยู่นานจนอาการของพิษหายไป”“เลิกพูดอ้อมค้อมเสียที รีบเข้าประเด็นเสีย!” อวี๋เฟยเหยียนกังวลจะแย่อยู่แล้วฉินเซียงหรูกระตุกมุมปากด้วยความกระดากและพูดต่อ “เช่นนั้นก็ต้อง... กระตุ้นความร้อนภายในขององค์รัชทายาท”“ความร้อนภายใน? ความร้อนภายในคืออะไร?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เข้าใจแต่เยี่ยนเว่ยฉือดูเหมือนจะนึกอะไรออกนางจำได้ว่าคนที่แข็งตายจะมีอาการประสาทหลอนจากความร้อนภายในขณะพวกเขากำลังจะตาย ร่างกายของพวกเขาจะร้อนมากจนต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกก่อนจะเสียชีวิตดังนั้นคนจำนวนมากที่แข็งตายจึงถูกพบในสภาพเปลือยเปล่าแต่สิ่งที่เรียกว่าความร้อนภายในนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่ใช่ของจริงแล้วความร้อนภายในที่แท้จริงคืออะไรกัน?คืออาการเลือดลมพุ่งสูงขึ้นหลังออกกำลังกาย อาการร้อนชื้นในม้ามและกระเพาะเนื่องจากไฟในตั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 210 วิธีสุดท้าย

    “ระดมพลังปราณไม่ได้รึ?” อวี๋เฟยเหยียนมองซ่างกวนซีด้วยความตกใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกอะไรออกและมองไปที่ฉินเซียงหรูอย่างรวดเร็ว “ท่านหมอฉิน ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าเถาชิงเกิงจะทำให้ศิษย์พี่ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ แต่ท่านได้ให้ยาถอนพิษไปแล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินเซียงหรูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เถาชิงเกิงมีความเป็นพิษมาก การดื่มยาถอนพิษสามารถถอนพิษได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถถอนฤทธิ์ยาได้ ฤทธิ์ยาของมันคือทำให้คนไม่สามารถระดมกำลังภายในของตนได้ และจะใช้เวลาประมาณห้าวัน ฤทธิ์ยาจึงจะถูกขับออกจากร่างกายไปพร้อมของเสีย แต่ใครจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะโชคร้าย รอเพียงห้าวันก็ยังผ่านไปไม่ไหว”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี? องค์รัชทายาทจะถูกแช่แข็งอยู่แล้ว! จริงสิ แช่น้ำร้อน แช่น้ำร้อนได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยฉือถามอย่างกังวลฉินเซียงหรูมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือและพูดต่อ “แม่นางเยี่ยน พิษกู่เย็นแสดงอาการมาจากภายใน ความร้อนจากภายนอกมีแต่จะบังคับให้พิษกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งกว่าเดิม”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง วิชาสหัสเหมันต์กระตุ้นพลังหยินมากจนทำให้เกิดความเย็น ศิษย์พี่ฝึกวิชาสหัส

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 209 แย่แล้ว พิษกระจายไปแล้ว

    ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังง้อซ่างกวนซี ฉินเซียงหรูก็ถูกสอบปากคำเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนพาชิงโจวและฉินซานมาด้วย โดยพวกเขายืนล้อมรอบฉินเซียงหรูกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมฉินเซียงหรูยิ้มเจื่อน “อะไร...ของพวกท่านเนี่ย?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หมอฉิน วันนี้ท่านกับพี่สะใภ้ของข้าไปทำอะไรมากันแน่?”ฉินเซียงหรูชี้ไปที่ข้องใส่ปลาที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วตอบว่า “ก็ตกปลาอย่างไรเล่า นี่ ได้ปลามาเยอะเลยนะ!”อวี๋เฟยเหยียนเหลือบมองข้องใส่ปลาแล้วถามว่า “หมอฉิน ท่านอย่าคิดว่าตนคนฉลาดอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าผู้อื่นโง่สิ แค่เวลาบ่ายช่วงสั้น ๆ ท่านตกปลาได้มากมายถึงเพียงนี้เลยรึ? ใครจะเชื่อกัน?”ฉินเซียงหรูยิ้มตาหยีและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะเหยื่อที่แม่นางเยี่ยนทำอย่างไรเล่า ข้าจะบอกพวกท่านให้ มันวิเศษมากจริง ๆ ไม่มีปลาตัวไหนที่ผ่านไปแล้วไม่ติดเบ็ดเลย หากรัฐทายาทอวี๋ไม่เชื่อ วันพรุ่งไปดูด้วยกันไหมล่ะขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าไม่ว่าง ข้าต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรมกลาโหม!”ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ “ไปนั่งดื่มชาทั้งวันน่ะหรือขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเบา ๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทะ...

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 208 ห่วงภรรยาจนจับอันธพาลไม่ได้

    เยี่ยนเว่ยฉือเห็นซ่างกวนซีที่ดูไม่พอใจ ก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความระมัดระวังและถามว่า “องค์รัชทายาท...วันนี้ไปเข้าเฝ้าเหนื่อยหรือไม่?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปเข้าเฝ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม แต่ข้าต้องใช้เวลาทั้งวันตามหาเจ้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำหูทวนลมไม่ฟังที่ข้าพูดหรือ? กล้าดีอย่างไรถึงได้แอบออกไป?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบพูด “เปล่านะ ก็องค์รัชทายาทสั่งไม่ให้ข้าออกไปคนเดียว ข้าก็ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย ข้าไปกับท่านหมอฉินไม่ใช่หรือ?”“ไปกับเขากับเจ้าไปคนเดียวมันต่างกันตรงไหน? เขาไม่มีวิทยายุทธ์เลยแม้แต่น้อย หากเผชิญกับอันตรายเข้า เจ้าจะปกป้องเขาหรือเขาจะปกป้องเจ้าล่ะ​?” ซ่างกวนซีรู้สึกโมโหจริง ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหามือสังหารที่ลอบสังหารเยี่ยนเว่ยฉือพบเลยเยี่ยนเว่ยฉือรู้ดีว่าซ่างกวนซีมีเจตนาดีแต่นางซ่อนตัวอยู่ในจวนองค์รัชทายาทตลอด แล้วจะตามหามือสังหารเจอได้อย่างไรเยี่ยนเว่ยฉือใช้แขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคล้องแขนของซ่างกวานซีซ่างกวนซีจะผละออกตามสัญชาตญาณเยี่ยนเว่ยฉือเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูด “โอ๊ย ๆ องค์รัชทายาทอย่าขยับสิ คนเขายังเจ็บมืออยู่เลยนะ”ซ่างกวนซีตกใจเล็กน้อย และรีบมองไ

DMCA.com Protection Status