Share

บทที่ 13 สละชีวิตช่วยผู้อื่น

เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าอันกั๋วกงนั้นหยิ่งผยอง

แต่คาดไม่ถึงว่าคนที่เป็นเพียงขุนนางจะหยิ่งผยองได้ถึงเพียงนี้

ฮ่องเต้ทรงยืนอยู่ตรงนี้แท้ ๆ เขากล้าฆ่าคนต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร?

ทันใดนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็พลิกฝ่ามือ เข็มเงินสองเล่มปรากฏอยู่ที่ปลายนิ้วของนาง

ทว่าในขณะที่นางกำลังจะสู้กลับ จู่ ๆ ร่างที่ไม่สมประกอบก็ร่วงลงมาจากฟ้า และดึงเยี่ยนเว่ยฉือมาไว้ข้างหลัง

เขาผู้นั้นปกป้องเยี่ยนเว่ยฉือพลางถอยหลังไปสองก้าว แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็ยังคงได้ยินเสียงดัง!

เป็นเสียงดาบคมเฉือนผ่านผิวหนัง!

“ชูจิ่ง?!”

“องค์รัชทายาท?!”

“เสด็จพี่ใหญ่?!”

จากนั้นก็มีเสียงอุทานจากทุกคน

ใช่แล้ว คนที่มารับการโจมตีแทนเยี่ยนเว่ยฉือไม่ใช่ใครอื่น นอกจากองค์รัชทายาทซ่างกวนซีที่บาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่าง!

อันกั๋วกงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ ปลายดาบสยบพยัคฆ์ของเขาแทงทะลุไหล่ของซ่างกวนซี

ซ่างกวนซีเช็ดเลือดตรงมุมปากพลางแค่นเสียงเย็น “อันกั๋วกง บังอาจนักนะที่กล้าลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท!”

อันกั๋วกงหายใจเฮือกใหญ่อย่างหวาดกลัวและรีบดึงดาบออกมา จากนั้นก็ทำมือคำนับแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”

หากฆ่าเยี่ยนเว่ยฉือไปก็คงจะไม่เป็นอะไร เพราะนางยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อีกทั้งฮ่องเต้คังอู่คงทรงไม่กล้าแตกหักกับเขา เพียงเพราะเด็กสาวที่ไม่มีที่มาแน่ชัดคนหนึ่ง

แต่การสังหารซ่างกวนซีนั้นจะกลับตาลปัตรเป็นอีกเรื่อง

เพราะนั่นคือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นจิ่วหลี ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า

หากเขาตายด้วยน้ำมือของตนจริง ๆ กองทหารหลายแสนคนของซ่างกวนซีจะพากันมาล้อมตระกูลอันของพวกเขาเป็นแน่!

ดังนั้น การลอบสังหารองค์รัชทายาทจึงต้องลงมืออย่างลับ ๆ จะเปิดเผยออกมาไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อดาบสยบพยัคฆ์ถูกดึงออก ก็มีเลือดพุ่งจากบาดแผลทันที

ซ่างกวนซีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ขาสั่นจนแทบจะยืนไม่มั่น

เยี่ยนเว่ยฉือรีบยื่นมือไปประคองอีกฝ่าย ด้านฮ่องเต้คังอู่เองก็ทรงวิ่งไปตรัสถามด้วยอารมณ์ที่ทั้งยินดีและเป็นกังวล “ชูจิ่ง เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ? เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือ?!”

ซ่างกวนซียิ้มอย่างขมขื่นพลางพูดว่า “ลูกช่างแย่นักที่ทำให้เสด็จพ่อทรงเป็นกังวล ตอนนั้นลูกใกล้จะตายแล้วจริง ๆ อีกทั้งลมหายใจยังขาดห้วงไป ทำให้หมอหลวงวินิจฉัยพลาด”

“ใครก็ได้รีบมาที ไปเรียกหมอหลวงมา! รีบไปเรียกหมอหลวงมาเร็วเข้า!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงตะโกน

ซ่างกวนซีดูเหมือนจะไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง เพียงถามว่า “เสด็จพ่อ เรื่องคดีได้รับการสืบสวนแน่ชัดแล้วหรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงพยักพระพักตร์อย่างเคร่งขรึม “แน่ชัดแล้ว! แน่ชัดแล้ว! คดีได้ข้อสรุปเป็นที่แน่ชัดแล้ว ลูกของข้าถูกใส่ความ ถูกใส่ความ!”

ซ่างกวนซียิ้มและหันไปมองฮองเฮากับซ่างกวนหลี

ดวงตาเย็นชาของเขาทำให้สองแม่ลูกหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว

ซ่างกวนซีหรี่ตามองไปยังอันกั๋วกงที่หน้าดำคร่ำเครียด จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะ “กั๋วกง ไม่ต้องกังวลหรอก ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้มีเจตนา ข้าไม่เก็บมาใส่ใจหรอก แค่หวังว่าต่อไปกั๋วกงจะไม่นำดาบสยบพยัคฆ์เข้าวังมาอีก ทำข้าบาดเจ็บนั้นถือเป็นเรื่องเล็ก แต่หากทำให้เสด็จพ่อทรงบาดเจ็บล่ะก็ ท่ายจะเสียใจไปจนวันตาย”

แม้อันกั๋วกงจะมีข้อสงสัย แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าโต้แย้ง

เมื่อฮ่องเต้คังอู่ทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้นก็ตรัสเสริมทันที “ใช่แล้ว ดาบสยบพยัคฆ์เป็นของขวัญจากราชสำนัก ควรเก็บไว้ในจวนกั๋วกงเพื่อบูชากราบไหว้ ต่อไปอย่านำออกมาโอ้อวดอีก”

หลังจากที่ฮ่องเต้คังอู่ตรัสจบ ก็ทรงไม่ได้ทอดพระเนตรสีหน้าไม่สู้ดีของอันกั๋วกง แต่กลับตรัสรับสั่งออกมา “ใครก็ได้ พาองค์รัชทายาทไปส่งที่สวนเถาชิงที”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงต้องการส่งกวนซีไปรักษาตัว แต่ซ่างกวนซีรู้ว่าพวกเขาไม่อาจอยู่ต่อได้

วังหลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ ร่างกายของเขาในตอนนี้สามารถปกป้องได้เพียงตัวเองเท่านั้น และไม่เพียงพอที่จะปกป้องเยี่ยนเว่ยฉือ

เขาจึงพยายามควบคุมสติพลางพูดว่า “เสด็จพ่อ ลูกไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ ลูกอยาก…”

ขณะที่ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาลืมชื่อของนาง

เยี่ยนเว่ยฉือไม่ถือสา และพูดอย่างสุภาพ “องค์รัชทายาททรงเรียกหม่อมฉันว่าชายาที่รักก็พอเพคะ!”

ซ่างกวนซีเป็นใบ้ไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อ “ลูกอยากพานางกลับไปยังจวนองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้คังอู่เองก็ทรงทราบถึงความกังวลของซ่างกวนซี หลังจากทรงครุ่นคิดไปมา ก็ทรงพยักพระพักตร์แล้วตรัสว่า “ตกลง ข้าจะให้คนพาเจ้ากลับไปส่งยังจวนองค์รัชทายาท”

บรรดาองครักษ์ที่ฝ่าบาททรงส่งมาอาจไม่ได้ภักดีต่อฝ่าบาททั้งหมด ดังนั้นซ่างกวนซีจึงปฏิเสธอีกครั้ง

“เสด็จพ่อแค่พระราชทานรถม้าให้ลูกก็พอพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นซ่างกวนซีระมัดระวังมากเช่นนี้

พระองค์ทรงตบไหล่กวนซีและตรัสด้วยน้ำเสียงจนพระทัย “ได้ เช่นนี้ก็กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บ ข้า...จะรอเจ้า!”

ประโยคนี้มีความหมายลึกซึ้ง

ดวงตาของเยี่ยนเว่ยฉือกวาดไปมาระหว่างสองพ่อลูก มักจะรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังสื่อสารอะไรบางอย่างอย่างในใจ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status