Beranda / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 17 กลยุทธ์ลักขื่อเปลี่ยนเสา

Share

บทที่ 17 กลยุทธ์ลักขื่อเปลี่ยนเสา

Penulis: โม่เชียนซาง
“อา...อาการต้านยาของท่านมัน...รุนแรงเกินไปแล้ว” สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองรวดเร็วขนาดนี้เชียว

ซ่างกวนซีพูดเสียงเย็น “ทำไม? ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”

“ข้า...ข้าจะกลัวทำไม ข้าไม่ได้ทำร้ายท่านเสียหน่อย!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเบือนหน้าหนี และรู้สึกร้อนตัวเกินกว่าจะกล้าสบตาซ่างกวนซี

ซ่างกวนซีมองขวดโหลที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็แอบมองกระเบื้องหลังคาที่หายไปพลางคิดกับตัวเองว่า ‘วันนี้นางทำตัวเปิดเผยมากเกินไป จะปล่อยให้นางทำการรักษาต่อไปไม่ได้ หากนางสามารถล้างพิษเย็นได้ต้องกลายเป็นหนามยอกอกของอันกั๋วกงอย่างแน่นอน’

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องมารักษาข้า ตอนนี้เจ้าออกไปหาห้องพักเถอะ”

เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีตาโต “ยังทายาไม่เสร็จเลยนะ!”

ซ่างกวนซีกระชับวงแขนกอดเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่น

ซ่างกวนซีกัดฟันพูดขู่ว่า “หากเจ้าไม่อยากพักผ่อนคนเดียว เช่นนั้นพวกเราก็จะพักผ่อนด้วยกัน!”

เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหายใจลำบากในขณะที่ถูกกอดไว้แน่น

นางพยักหน้าอย่างร้อนรนและพูดว่า “ได้ ได้ ได้ ข้าจะออกไป ข้าจะออกไปแล้วพอใจรึยัง!”

ซ่างกวนซีผลักนางออกไปด้วยความโกรธ จนเกือบจะทำให้เยี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 18 ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

    ทันทีที่อันกั๋วกงพูดสิ่งที่อยากจะทำออกมา เขาก็รีบพาคนกลับไปทันทีจนไม่ได้สนใจเสียงเรียกของฮองเฮาที่อยู่ด้านหลังด้วยซ้ำ“ท่านพี่ใหญ่ ท่านพี่ใหญ่!” ฮองเฮาเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถรั้งอันกั๋วกงไว้ได้เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังโกรธมาก และแทบรอไม่ไหวที่จะไปปลิดชีพเยี่ยนเว่ยฉือเพราะไม่มีใครเคยกล้าชี้หน้าด่าเขามาก่อนเมื่อเห็นอันกั๋วกงจากไปด้วยความโกรธ ฮองเฮาจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ลุงของเจ้าก็ยังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิม”องค์ชายสองซ่างกวนหลียิ้มและกล่าวว่า “เสด็จแม่อย่าทรงกังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ผิงอี้โหวไม่มีอำนาจทางทหารอีกต่อไปแล้ว หากท่านลุงจะลงโทษเขาก็เหมือนการขยี้มดให้ตายคามือ”ฮองเฮามองไปที่ซ่างกวนหลีพลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ข้ากลัวว่ามดมันจะไม่ตาย แต่จะกัดตอบน่ะสิ”ซ่างกวนหลีถามอย่างสงสัย “เสด็จแม่ทรงกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะตอบโต้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮองเฮาพูดอย่างจนใจ “ข้ากังวลว่าการฆ่าคนของท่านลุงเจ้าอาจไม่สำเร็จหากทำไปเพราะต้องการระบายความโกรธ”“จะเป็นไปได้อย่างไร? ท่านลุงเป็นถึงกั๋วกงผู้สูงส่ง และเยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นเพียงบุตรีอนุจวนโหว เหตุใดถึงลงโทษนางไม่ได้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ซ่างกวนหลี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 19 กำไลประหลาด

    นางเป็นหมอผู้มีความสามารถรอบด้านจากโลกอนาคต ซึ่งที่นั่นทรัพยากรเริ่มขาดแคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ก็ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน และทุกคนปรารถนาที่จะเป็นผู้มีความสามารถที่ทำได้ทุกอย่างเช่นนั้นจึงจะสามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองและได้รับทรัพยากรมากขึ้นแม้แต่นางก็ไม่มีข้อยกเว้นดังนั้นนางจึงหมกมุ่นอยู่ในวงการแพทย์มาเกือบสามสิบปี ก่อนตายแม้แต่มือบุรุษนางก็ไม่เคยได้สัมผัสอ้อ ยกเว้นมือของบุรุษที่ตายไปแล้วน่ะนะคาดไม่ถึงว่าเดินข้ามเวลามายังไม่ทันครบวัน ก็เกือบจะมาเสียคนเอาตอนแก่อ้อ แต่ก็ยังไม่ถือว่าแก่หรอก เพราะร่างนี้อายุแค่สิบหกปีเท่านั้นแม้สถานการณ์ปัจจุบันจะไม่ดีนัก แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็มีความสุขมากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางใส่กำไลห้วงอนันต์มาด้วยในโลกอนาคต ทุกคนจะมีกำไลห้วงอนันต์ที่ทำจากโลหะ ใช้สำหรับเก็บวัตถุที่ไม่มีชีวิตได้ทุกชนิดพื้นที่เก็บของนั้นไม่ใหญ่มาก เพียงสองสามตารางเมตรเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ใช้เก็บของใช้ทั่วไปหลังจากที่เยี่ยนเว่ยฉือเดินทางข้ามเวลามา แวบแรกนางก็อยากรู้ทันทีว่าได้นำกำไลห้วงอนันต์ติดตัวมาด้วยหรือไม่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 20 ทายาทของขุนนางชั่ว

    อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและพูดต่อ “บิดาของนางคือผิงอี้โหว เยี่ยนหานซาน ส่วนมารดาของนางเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเสนาธิการทหารเยวี่ยฉงกังที่คอยปกป้องเมืองเป่ยติ้งในเวลานั้น นามว่าเยวี่ยฉงหรง”“หา?” เย่เทียนซูถามด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่สิ นางเป็นลูกอนุไม่ใช่หรือ? หากมารดาของนางเป็นถึงน้องสาวของแม่ทัพชายแดน เหตุใดกลายมาเป็นอนุได้?”อวี๋เฟยเหยียนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ข้าเองก็ไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่ชัด รู้เพียงว่ามารดาของนางเสียชีวิตเมื่อนางอายุได้หกขวบ หลังจากนั้นมารดาเลี้ยงก็ไม่ต้อนรับนาง จึงส่งนางไปยังโรงเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่นั้นมา เด็กคนนี้ก็มีชีวิตที่ยากลำบากมาโดยตลอด”เย่เทียนซูพยักหน้าและกล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องปกติ หัวหน้าหมู่บ้านตามชายแดนมักจะมองคนไม่เท่าเทียมกัน หากนายหญิงไม่ชอบลูกอนุ พวกเขาก็ย่อมปฏิบัติกับนางอย่างโหดร้ายเป็นธรรมดา”“นางนอนในเล้าหมูมาตลอดเลยหรือ?” ซ่างกวนซีถามแทรกอวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเล็กน้อยและตอบโดยไม่รู้ตัว “ศิษย์พี่ใหญ่รู้ได้อย่างไร?”ซ่างกวนซีเม้มริมฝีปาก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือที่มีท่าทางเลื่อนลอยไร้แก่นสารจะไม่ได้พูดโกหกชีวิตของนางยากลำบากและเจออุปสรรคมามาก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 21 สำรวจห้องของสตรีในยามค่ำคืน

    เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เทียนซูพูด อวี๋เฟยเหยียนก็เอ่ยอย่างร้อนใจ “หากนางสามารถช่วยศิษย์พี่ใหญ่กำจัดพิษกู่เย็นได้จริง ๆ ข้าก็จะไม่ถือสาเรื่องที่นางเคยทำลายแผนของพวกเรา”ซ่างกวนซียังคงนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “เฟยเหยียน พรุ่งนี้เจ้าจงเข้าเมืองหลวงมาอย่างเปิดเผย แล้วป่าวประกาศว่าเจ้ามาเมืองหลวงก็เพราะข้า ข้าต้องการให้เจ้ากดดันอันกั๋วกงต่อหน้าธารกำนัล”อวี๋เฟยเหยียนเป็นบุตรของอ๋องเซียวเหยา และที่ดินศักดินาของตระกูลอ๋องเซียวเหยาก็คือเมืองกูซูตามกฎหมาย ตระกูลอ๋องเซียวเหยาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองหลวงโดยปราศจากราชโองการ ดังนั้นอวี๋เฟยเหยียนจึงติดตามซ่างกวนซีมายังเมืองหลวงและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดตอนนี้ซ่างกวนซีสั่งให้เขาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย เขาย่อมรู้สึกยินดีมาก ตอบตกลงทันทีจากนั้นซ่างกวนซีก็มองไปที่เย่เทียนซูอีกครั้งและพูดต่อ “ส่วนเจ้ากลับไปที่หอหงซิ่ว ต่อหน้าก็อย่าทำตัวเกี่ยวข้องกับข้า คอย...คอยปกป้องเยี่ยนเว่ยฉืออย่างลับ ๆ ด้วย”หอหงซิ่วเป็นหอนางโลมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงเพราะในราชสำนักล้วนถูกอันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นค

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 22 นางไม่ได้ตั้งใจ

    ซ่างกวนซีรีบนำผ้าห่มไปคลุมไว้แล้วหันหลังจากไปทันทีเขาเดินกลับมาที่เรือนพลางสูดหายใจเฮือกใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “ยัยเด็กบ้าสมควรตายเอ๊ย เหตุใดถึงไม่ใส่เสื้อผ้านอนเล่า?”นั่นเกือบจะทำลาย ‘วิชาถงจื่อกง’ ที่เขาฝึกฝนมาหลายปีซ่างกวนซีกุมหน้าอกของตัวเอง พยายามระงับจังหวะหัวใจที่เต้นรัว แต่เขาไม่สามารถระงับความรู้สึกร้อนรุ่มคันยุบยิบที่กระจายไปทั่วร่างกายได้ไม่รู้ว่ามันเป็นอาการคันจากแผลที่กำลังจะหาย หรือเป็นเพราะความรู้สึกภายในหัวใจที่ไม่สามารถควบคุมได้ซู่ซู่ซู่!ฝนฤดูใบไม้ผลิที่ตกลงมาค่อย ๆ ดับไฟราคะในหัวใจของซ่างกวนซีเขามองกลับไปที่ห้องของเยี่ยนเว่ยฉือ และพยายามพูดหลอกตัวเองว่า “แม้ข้าจะเห็นเรือนร่างของเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็เห็นของข้าไปแล้วเช่นกัน ก็ถือว่า...เจ้าไม่ได้เสียเปรียบ!”ซ่างกวนซีเดินจากไป แต่ความคิดของเขายังคงอยู่ที่ใต้ผ้าห่มผืนนั้น……เช้าวันรุ่งขึ้นเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าคราวนี้ตนนอนหลับสบายเป็นพิเศษอาจเป็นเพราะนางเคยนอนในเล้าหมูมาก่อน ยากนักที่จะได้นอนบนเตียงใหญ่ ๆ ที่ไม่มีกลิ่นมูลหมูหรือเสียงหมูรบกวนนางลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย และผ้าห่มบนตัวของนางก็ร่วงลง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 23 ปลอมตัวเป็นชายารัชทายาท

    เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาปริบ ๆ พลางมองทุกคนด้วยความสับสน จากนั้นก็มองไปทางประตูใหญ่ด้านนอก นางขมวดคิ้วและพูดว่า “ตาแก่เช่นท่านนี่ช่างไร้เหตุผลจริง ๆ ท่านพาคนมากมายบุกเข้ามาในจวนองค์รัชทายาทของข้า ซ้ำยังบอกว่าข้าทำตัวสามหาว? ข้าว่าท่านทำตัวสามหาวยิ่งกว่าเสียอีก!”ตาแก่?นางเรียกเขาว่าตาแก่อย่างนั้นรึ?!อันกั๋วกงกัดฟันพลางพูดว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าสวมรอยแอบอ้างเป็นชายารัชทายาทแทนน้องสาวของเจ้าเยี่ยนชิงซู ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่?”“สวมรอยแอบอ้าง?” เยี่ยนเว่ยฉือเข้าใจจุดประสงค์ในการมาเยือนของอันกั๋วกงแล้วใครมันจะไปอยากปลอมตัวเป็นคนอื่นแล้วเข้าคุกไปมีสัมพันธ์สืบทายาทกันนี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการเลยด้วยซ้ำ จบไหม?เยี่ยนเว่ยฉือกลอกตาใส่อันกั๋วกงและพูดด้วยความโกรธ “อันกั๋วกง การจะใช้คำว่าสวมรอยแอบอ้างได้นั้น ก่อนอื่นก็ต้อง ‘สวมรอย’ ก่อนสิ ข้าไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าข้าคือเยี่ยนชิงซู”“เถียงข้าให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ วันนี้เจ้าไม่มีทางรอดพ้นจากความผิดฐานสวมรอยแอบอ้างเป็นชายารัชทายาทไปได้แน่ ใครก็ได้ไปคุมตัวนางมา ข้าจะจับนางส่งเข้าคุก!”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจอย่างเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 24 เป็นลิขิตจากสวรรค์ที่ยากจะเกิดขึ้นได้

    เยี่ยนเว่ยฉือถอยหลังไปทีละก้าวจนหลังชนบานประตูเสียงดังกึกอันกั๋วกงรู้ว่าซ่างกวนซีอยู่ในห้อง แต่เขาไม่ยอมปรากฏตัว และไม่แม้แต่จะออกมาปกป้องนางเลยหรือซ่างกวนซีอาจจะเกลียดนางไปแล้วเพราะรู้ว่านางไม่ใช่เยี่ยนชิงซู?เมื่อคิดได้เช่นนั้น อันกั๋วกงก็ยิ้มเยาะพลางก้าวเข้าไปหาเยี่ยนเว่ยฉือดูท่าเขาต้องการจะจับนางด้วยตัวเองหรือ?เย่เทียนซูที่อยู่ในความมืดกลอกตาแล้วพูดว่า “ตาแก่ผู้นี้ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริง ถึงกับยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อที่จะได้ระบายความโกรธและลงมือทำร้ายสาวน้อยไร้ทางสู้!”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ก็ไม่ยอมออกมาไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด พวกเราควรทำอย่างไรดี?”เย่เทียนซูเองก็คำนึงปัญหานี้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ครุ่นคิดถึงต้นสายปลายเหตุ ก็มีคนมาเยือนที่จวนองค์รัชทายาทแห่งนี้เพิ่มอีก“ท่านพ่อ ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป!” เสียงของเด็กสาวพูดขึ้น“ซูเอ๋อร์ อย่าดื้อ พวกเราต้องยอมรับผิดและขอโทษ ตอนนี้เรื่องเลยเถิดไปไกลแล้ว องค์รัชทายาทคงไม่ยอมข้องเกี่ยวกับเจ้าอีกแน่!” คนที่พูดประโยคนั้นเป็นชายวัยกลางคนดูเหมือนทั้งสองคนจะคิดว่าไม่มีใครอยู่ในจวนองค์รัชทายาท ถึงได้พูดจาไม่ม

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 25 ต้องทะเลาะวิวาทอีกแล้ว?

    อีกด้านหนึ่ง เมื่อเยี่ยนชิงซูเห็นท่านหญิงหมิงหยางเดินเข้ามา นางก็รีบกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของมารดาแล้วพูดอย่างเอาแต่ใจ “ท่านแม่ ท่านมาก็ดีแล้ว พวกเขาบอกว่าท่านพ่อมีความผิดฐานหลอกลวงฮ่องเต้เจ้าค่ะ!”หมิงหยางลูบเรือนผมยาวของลูกสาวด้วยความรัก จากนั้นก็มองไปที่อันกั๋วกงพลางขมวดคิ้วและพูดว่า “ท่านใต้เท้าอันกั๋วกง นั่นอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า? เหตุใดท่านไม่เชิญพี่ชายของข้ามาพูดคุยรายละเอียดกันเล่า?”อันกั๋วกงแค่นเสียงเย็น ท่านหญิงหมิงหยางใช้ชื่อพี่ชายใหญ่อ๋องจ่างซิ่นมาอ้างเช่นนี้ เพื่อต้องการจะกดดันเขาอย่างนั้นน่ะหรือ?ทุกวันนี้ จะเป็นคนจากในหรือนอกราชสำนักก็ไม่มีใครไม่รู้ว่า บรรดาขุนนางบุ๊นจะเชื่อฟังอันกั๋วกง และเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊จะภักดีกับอ๋องจ่างซิ่นคนหนึ่งเป็นฝ่ายบุ๋นและอีกคนเป็นฝ่ายบู๊ ทั้งสองต่างต่อสู้ขับเคี่ยวกันในราชสำนัก จนเกือบจะทำให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันหมดบทบาทไปเลยนี่คือเหตุผลที่เยี่ยนหานซานกล้าที่จะให้บุตรีอนุมาแทนที่บุตรีภรรยาเอกเพราะมีจวนอ๋องจ่างซิ่นคอยหนุนหลังเขาอยู่อย่างไรเล่า!แน่นอนว่าเมื่ออันกั๋วกงได้ยินสิ่งที่ท่านหญิงหมิงหยางพูด เขาก็พยายามสงบเสงี่ยมเจียมต

Bab terbaru

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status