Share

บทที่ 14 หยุดได้แล้ว!

Author: โม่เชียนซาง
ณ จวนองค์รัชทายาท

หลังจากที่เยี่ยนเว่ยฉือประคองซ่างกวนซีลงจากรถม้า นางก็คิดว่าตัวเองกำลังฝันไป

ที่นี่ที่ทั้งรกร้าง วัชพืชขึ้นรกชัฏ แม้แต่ป้ายชื่อด้านหน้าก็เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว นี่คือจวนองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?

คงไม่ใช่นรกหรอกกระมัง?

เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองซ่างกวนซีที่ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนเป็นโรคที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่…ไม่ได้มาผิดที่ใช่ไหม?”

ซ่างกวนซีเมินนางพลางตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “หากจะดูถูกกัน ก็ไม่ต้องตามเข้ามา!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็เดินไปที่ส่วนลึกของเรือนด้านในแล้ว

มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก นางก็รู้สึกดูถูกเขาจริง ๆ เพราะนางนึกว่าตามเขามาแล้วจะได้อยู่ดีกินดี

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่กินน้ำซาวข้าวก็ยังไม่มีปัญญา

แต่หากนางไม่เข้าไปแล้วนางจะไปที่ไหนได้?

ตอนนี้ตำแหน่งชายารัชทายาทคือเครื่องรางช่วยชีวิตของนาง และไม่อาจคาดหวังให้บิดาผู้ให้กำเนิดมาปกป้องนางได้อีกต่อไปแล้ว

นอกจากองค์รัชทายาท นางก็ไม่มีใครให้พึ่งพิงเลย

เยี่ยนเว่ยฉือรีบเดินตามองค์รัชทายาทพลางเอื้อมมือไปประคองเขาแล้วพูดว่า “โถ่ ข้าไม่ได้ดูถูกท่านเสียหน่อย ข้าคิดว่าที่นี่ก็ไม่เลวเลย อีกทั้งสภาพแวดล้อมเดิมก็ดูดีอยู่แล้วเพียงแต่อาจจะดูเก่าทรุดโทรมไปหน่อย ดูสิ หญ้าขึ้นสูง แต่ดอกไม้บานสะพรั่ง ไหนจะห้องนี้ที่ถึงแม้ผุพังก็ยังรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิต! อืม ไม่เสียชื่อที่เป็นจวนองค์รัชทายาท ช่างสุดยอดอะไรเช่นนี้!”

‘สุดยอดด้านความเก่านั่นแหละ!’ ช่วงท้ายของประโยค นางทำได้เพียงบ่นในใจ ไม่กล้าพูดออกมา

ซ่างกวนซีขมวดคิ้วพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือที่กำลังพูดจาเลอะเทอะ รู้สึกอยากจะดึงแขนกลับเหลือเกิน

แต่ตอนนี้เขาไม่มีแรงแล้วจริง ๆ ไม่รู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือกินอะไรมา ถึงได้กอดประคองแน่นจนเขาไร้แรงต้านทานเช่นนี้

สตรีผู้นี้...ช่างกล้าหาญบ้าบิ่น ไร้ยางอาย พูดแต่เรื่องเหลวไหล ชวนให้คนโมโห!

ซ่างกวนซีแทบรอที่จะสลัดเยี่ยนเว่ยฉือไม่ไหว

แต่เมื่อเขาเห็นอวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาก็เปลี่ยนใจ

สตรีผู้นี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างลึกลับ อีกทั้งยังได้บังเอิญช่วยล้างมลทินให้เขา

ดูแล้วเขาคงรีบไล่นางไปไม่ได้แน่

ในเมื่อยังไล่นางไปไม่ได้ ก็คงต้องรอดูว่านางมีเจตนาอะไรกันแน่ เป็นมิตรหรือศัตรู

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ส่ายหัวเล็กน้อยให้กับทั้งสองคนในที่มืด

ทั้งสองเข้าใจและไม่ได้ปรากฏตัวออกมา

เมื่อเห็นซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือประคองกันเดินเข้าไปในเรือนนอน เย่เทียนซูที่อยู่ในความมืดก็พูดพลางยิ้มมีเลศนัย “แหม แหม แหม พิธีไหว้ฟ้าดินไม่ต้องมีแล้ว รีบตรงเข้าห้องหอกันไปแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่นี่ช่างใจร้อนเสียจริง! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

อวี๋เฟยเหยียนกลอกตาใส่เขาพลางพูดอย่างอารมณ์เสีย “ศิษย์พี่ใหญ่ไม่เหมือนคนเช่นเจ้าเสียหน่อย!”

“อ๊ะ? เจ้าหมายความว่ายังไง? คนอย่างข้ามันเป็นคนเช่นไร? เป็นอย่างไร?” เย่เทียนซูถามพร้อมเอามือเท้าเอว

อวี๋เฟยเหยียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา “คนเหยาะแหยะ ไร้ยางอาย!”

“หึ คนหนุ่มสาวอย่างเรา ๆ ก็ต้องอภิรมย์ในความรักบ้างสิ ใครจะไปทำตัวหยาบคายเหมือนเจ้าล่ะ!” เย่เทียนซูเองก็แค่นเสียงโต้กลับเช่นกัน

ขณะที่อวี๋เฟยเหยียนกำลังจะเถียงต่อ จู่ ๆ เขาก็หูกระดิกเพราะได้ยินเสียงแปลก ๆ

เขากระซิบ “ชู่ว! มีคนมา!”

ทั้งสองรีบซ่อนตัวในความมืด ตามที่คาดไว้ พวกเขาเห็นชายชุดดำสองคนเดินไปทางห้องนอนที่ซ่างกวนซีเพิ่งเข้าไป

อวี๋เฟยเหยียนรีบพูดขึ้น “พวกเขามาลอบสังหารศิษย์พี่ใหญ่” ทันทีที่พูดจบ อวี๋เฟยเหยียนก็จะออกไปขวาง ทว่าเย่เทียนซูกลับคว้าแขนของเขาไว้

“เดี๋ยว เจ้าจะรีบร้อนอะไร ดูท่าแล้วสองคนนี้คงตามมาจากวัง ศิษย์พี่ใหญ่น่าจะมีแผนในใจแล้ว ทั้งเจ้าและข้าจะทำตัววู่วามไม่ได้!” เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนซูนิ่งสงบกว่าอวี๋เฟยเหยียนมาก

เมื่ออวี๋เฟยเหยียนคิดถึงตัวตนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตน เขาก็ถอนหายใจก่อนพยักหน้าเห็นด้วย

ทว่าอวี๋เฟยเหยียนเดาผิด คนสองคนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อลอบสังหาร แต่เพียงเพื่อมาสอดแนม

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของซ่างกวนซี

สองคนนั้นนอนราบอยู่บนหลังคาพลางเปิดกระเบื้องอย่างเงียบ ๆ พวกเขาคิดว่าจะได้เห็นองค์รัชทายาทวางแผนลับกับใครสักคน ทว่าคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นองค์รัชทายาทอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนแทน!

“เยี่ยนเว่ยฉือ! หยุดได้แล้ว! ปล่อยมือจากกางเกงชั้นในข้าเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของซ่างกวนซีเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ!

Related chapters

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 15 ชิงลงมือก่อน

    เยี่ยนเว่ยฉือดึงขากางเกงของซ่างกวนซีพลางพูดอย่างจนใจ “องค์รัชทายาท ดูบาดแผลตามตัวของท่าน หากไม่รีบรักษา ท่านอาจตายได้เลยนะ”ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ต้องยุ่ง!”“ไม่ให้ข้ายุ่งแล้วจะให้ใครยุ่งเล่า? หากท่านตายไป ข้าจะใช้อำนาจของใครเล่า?” เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ปิดบังความคิดของตัวเองแม้แต่น้อยซ่างกวนซีจนใจ การเสียเลือดจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบาดแผลอักเสบทำให้เขาเริ่มมีไข้สูงขึ้นเรื่อย ๆเขาต้องการการรักษาบาดแผลโดยด่วนแต่ไม่มีใครในวังที่สามารถไว้ใจได้ หมอในสำนักหมอหลวงยิ่งแล้วใหญ่ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ พลางคิดว่าสตรีผู้นี้รู้วิธีใช้พิษ หรือนางอาจมีทักษะทางการแพทย์จริง ๆ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงพูดว่า “เจ้ารักษาแค่บาดแผลที่ร่างกายช่วงบนก็พอ ส่วนช่วงล่าง...เจ้าไม่ต้องยุ่ง”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “นี่พี่ชาย ให้ข้าหากระจกทองเหลืองให้ท่านไปส่องก้นดูไหมเล่า? ถูกตีจนเป็นแผลช้ำเลือดขนาดนั้น ไม่รู้ว่าท่านทนเจ็บได้อย่างไร ไหนจะดันทุรังนั่งรถม้ามาอีก ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลตรงร่างกายส่วนบนหรือส่วนล่างก็ต้องรักษาให้หมด ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้แผลจะเน่าจนมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มตัว ถึงตอนนั้นคง…”

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 16 จิตใจของคนแก่ ๆ เช่นข้าว้าวุ่นไปหมด

    เยี่ยนเว่ยฉือเบนสายตาหนีพร้อมกับเกาจมูกและพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “อะแฮ่ม ความเป็นชายของนี้แตกต่างไปจากหนังโป๊ชายรักชายที่ข้าเคยดูอย่างสิ้นเชิง ทำเอาจิตใจของคนแก่ ๆ เช่นข้าว้าวุ่นไปหมด!”พูดจาเลอะเทอะอะไรเนี่ย??เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปหยิบน้ำสะอาดมาล้างคราบสกปรกบนร่างกายของซ่างกวนซีเสียก่อนหลังจากทำความสะอาดเสร็จ นางก็เดินไปหยิบยาวิเศษที่ฮ่องเต้ทรงประทานมาให้ เพื่อนำมาดูว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ทว่าทันทีที่นางเปิดกล่องผ้าที่บรรจุยา ซ่างกวนซีก็พูดด้วยอารมณ์รุนแรง “อย่าแตะต้องมัน ห้ามใช้ของทุกสิ่งที่มาจากวัง!”เยี่ยนเว่ยฉือหยิบกระปุกขี้ผึ้งขึ้นมาแล้วหันไปมองซ่างกวนซีพลางถามอย่างสงสัย “เหตุใดถึงใช้ไม่ได้? ข้าดูหมดแล้ว ของเหล่านี้ล้วนเป็นสมุนไพรชั้นยอด ไม่สามารถหาซื้อจากข้างนอกได้ อ้อ ต่อให้หาซื้อได้ แต่ข้าก็คงไม่มีปัญญาซื้อ”ซ่างกวนซีหลับตาพลางพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกกว่าเดิม “เดี๋ยวเวลาผ่านไปบาดแผลก็จะหายเอง เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก!”แม้เขาไม่ปรารถนาจะอธิบายไปมากกว่านี้ แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็เข้าใจดีแล้วนางเดินกลับไปที่ขอบเตียงแล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนเตียง พลางทำท่าเหมือนนักเลงเจ้าถิ่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 17 กลยุทธ์ลักขื่อเปลี่ยนเสา

    “อา...อาการต้านยาของท่านมัน...รุนแรงเกินไปแล้ว” สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองรวดเร็วขนาดนี้เชียวซ่างกวนซีพูดเสียงเย็น “ทำไม? ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”“ข้า...ข้าจะกลัวทำไม ข้าไม่ได้ทำร้ายท่านเสียหน่อย!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเบือนหน้าหนี และรู้สึกร้อนตัวเกินกว่าจะกล้าสบตาซ่างกวนซีซ่างกวนซีมองขวดโหลที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็แอบมองกระเบื้องหลังคาที่หายไปพลางคิดกับตัวเองว่า ‘วันนี้นางทำตัวเปิดเผยมากเกินไป จะปล่อยให้นางทำการรักษาต่อไปไม่ได้ หากนางสามารถล้างพิษเย็นได้ต้องกลายเป็นหนามยอกอกของอันกั๋วกงอย่างแน่นอน’เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องมารักษาข้า ตอนนี้เจ้าออกไปหาห้องพักเถอะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีตาโต “ยังทายาไม่เสร็จเลยนะ!”ซ่างกวนซีกระชับวงแขนกอดเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่นซ่างกวนซีกัดฟันพูดขู่ว่า “หากเจ้าไม่อยากพักผ่อนคนเดียว เช่นนั้นพวกเราก็จะพักผ่อนด้วยกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหายใจลำบากในขณะที่ถูกกอดไว้แน่นนางพยักหน้าอย่างร้อนรนและพูดว่า “ได้ ได้ ได้ ข้าจะออกไป ข้าจะออกไปแล้วพอใจรึยัง!”ซ่างกวนซีผลักนางออกไปด้วยความโกรธ จนเกือบจะทำให้เยี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 18 ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

    ทันทีที่อันกั๋วกงพูดสิ่งที่อยากจะทำออกมา เขาก็รีบพาคนกลับไปทันทีจนไม่ได้สนใจเสียงเรียกของฮองเฮาที่อยู่ด้านหลังด้วยซ้ำ“ท่านพี่ใหญ่ ท่านพี่ใหญ่!” ฮองเฮาเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถรั้งอันกั๋วกงไว้ได้เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังโกรธมาก และแทบรอไม่ไหวที่จะไปปลิดชีพเยี่ยนเว่ยฉือเพราะไม่มีใครเคยกล้าชี้หน้าด่าเขามาก่อนเมื่อเห็นอันกั๋วกงจากไปด้วยความโกรธ ฮองเฮาจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ลุงของเจ้าก็ยังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิม”องค์ชายสองซ่างกวนหลียิ้มและกล่าวว่า “เสด็จแม่อย่าทรงกังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ผิงอี้โหวไม่มีอำนาจทางทหารอีกต่อไปแล้ว หากท่านลุงจะลงโทษเขาก็เหมือนการขยี้มดให้ตายคามือ”ฮองเฮามองไปที่ซ่างกวนหลีพลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ข้ากลัวว่ามดมันจะไม่ตาย แต่จะกัดตอบน่ะสิ”ซ่างกวนหลีถามอย่างสงสัย “เสด็จแม่ทรงกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะตอบโต้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮองเฮาพูดอย่างจนใจ “ข้ากังวลว่าการฆ่าคนของท่านลุงเจ้าอาจไม่สำเร็จหากทำไปเพราะต้องการระบายความโกรธ”“จะเป็นไปได้อย่างไร? ท่านลุงเป็นถึงกั๋วกงผู้สูงส่ง และเยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นเพียงบุตรีอนุจวนโหว เหตุใดถึงลงโทษนางไม่ได้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ซ่างกวนหลี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 19 กำไลประหลาด

    นางเป็นหมอผู้มีความสามารถรอบด้านจากโลกอนาคต ซึ่งที่นั่นทรัพยากรเริ่มขาดแคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ก็ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน และทุกคนปรารถนาที่จะเป็นผู้มีความสามารถที่ทำได้ทุกอย่างเช่นนั้นจึงจะสามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองและได้รับทรัพยากรมากขึ้นแม้แต่นางก็ไม่มีข้อยกเว้นดังนั้นนางจึงหมกมุ่นอยู่ในวงการแพทย์มาเกือบสามสิบปี ก่อนตายแม้แต่มือบุรุษนางก็ไม่เคยได้สัมผัสอ้อ ยกเว้นมือของบุรุษที่ตายไปแล้วน่ะนะคาดไม่ถึงว่าเดินข้ามเวลามายังไม่ทันครบวัน ก็เกือบจะมาเสียคนเอาตอนแก่อ้อ แต่ก็ยังไม่ถือว่าแก่หรอก เพราะร่างนี้อายุแค่สิบหกปีเท่านั้นแม้สถานการณ์ปัจจุบันจะไม่ดีนัก แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็มีความสุขมากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางใส่กำไลห้วงอนันต์มาด้วยในโลกอนาคต ทุกคนจะมีกำไลห้วงอนันต์ที่ทำจากโลหะ ใช้สำหรับเก็บวัตถุที่ไม่มีชีวิตได้ทุกชนิดพื้นที่เก็บของนั้นไม่ใหญ่มาก เพียงสองสามตารางเมตรเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ใช้เก็บของใช้ทั่วไปหลังจากที่เยี่ยนเว่ยฉือเดินทางข้ามเวลามา แวบแรกนางก็อยากรู้ทันทีว่าได้นำกำไลห้วงอนันต์ติดตัวมาด้วยหรือไม่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 20 ทายาทของขุนนางชั่ว

    อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและพูดต่อ “บิดาของนางคือผิงอี้โหว เยี่ยนหานซาน ส่วนมารดาของนางเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเสนาธิการทหารเยวี่ยฉงกังที่คอยปกป้องเมืองเป่ยติ้งในเวลานั้น นามว่าเยวี่ยฉงหรง”“หา?” เย่เทียนซูถามด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่สิ นางเป็นลูกอนุไม่ใช่หรือ? หากมารดาของนางเป็นถึงน้องสาวของแม่ทัพชายแดน เหตุใดกลายมาเป็นอนุได้?”อวี๋เฟยเหยียนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ข้าเองก็ไม่รู้เหตุการณ์ที่แน่ชัด รู้เพียงว่ามารดาของนางเสียชีวิตเมื่อนางอายุได้หกขวบ หลังจากนั้นมารดาเลี้ยงก็ไม่ต้อนรับนาง จึงส่งนางไปยังโรงเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่นั้นมา เด็กคนนี้ก็มีชีวิตที่ยากลำบากมาโดยตลอด”เย่เทียนซูพยักหน้าและกล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องปกติ หัวหน้าหมู่บ้านตามชายแดนมักจะมองคนไม่เท่าเทียมกัน หากนายหญิงไม่ชอบลูกอนุ พวกเขาก็ย่อมปฏิบัติกับนางอย่างโหดร้ายเป็นธรรมดา”“นางนอนในเล้าหมูมาตลอดเลยหรือ?” ซ่างกวนซีถามแทรกอวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเล็กน้อยและตอบโดยไม่รู้ตัว “ศิษย์พี่ใหญ่รู้ได้อย่างไร?”ซ่างกวนซีเม้มริมฝีปาก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือที่มีท่าทางเลื่อนลอยไร้แก่นสารจะไม่ได้พูดโกหกชีวิตของนางยากลำบากและเจออุปสรรคมามาก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 21 สำรวจห้องของสตรีในยามค่ำคืน

    เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เทียนซูพูด อวี๋เฟยเหยียนก็เอ่ยอย่างร้อนใจ “หากนางสามารถช่วยศิษย์พี่ใหญ่กำจัดพิษกู่เย็นได้จริง ๆ ข้าก็จะไม่ถือสาเรื่องที่นางเคยทำลายแผนของพวกเรา”ซ่างกวนซียังคงนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “เฟยเหยียน พรุ่งนี้เจ้าจงเข้าเมืองหลวงมาอย่างเปิดเผย แล้วป่าวประกาศว่าเจ้ามาเมืองหลวงก็เพราะข้า ข้าต้องการให้เจ้ากดดันอันกั๋วกงต่อหน้าธารกำนัล”อวี๋เฟยเหยียนเป็นบุตรของอ๋องเซียวเหยา และที่ดินศักดินาของตระกูลอ๋องเซียวเหยาก็คือเมืองกูซูตามกฎหมาย ตระกูลอ๋องเซียวเหยาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองหลวงโดยปราศจากราชโองการ ดังนั้นอวี๋เฟยเหยียนจึงติดตามซ่างกวนซีมายังเมืองหลวงและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดตอนนี้ซ่างกวนซีสั่งให้เขาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย เขาย่อมรู้สึกยินดีมาก ตอบตกลงทันทีจากนั้นซ่างกวนซีก็มองไปที่เย่เทียนซูอีกครั้งและพูดต่อ “ส่วนเจ้ากลับไปที่หอหงซิ่ว ต่อหน้าก็อย่าทำตัวเกี่ยวข้องกับข้า คอย...คอยปกป้องเยี่ยนเว่ยฉืออย่างลับ ๆ ด้วย”หอหงซิ่วเป็นหอนางโลมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงเพราะในราชสำนักล้วนถูกอันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นค

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 22 นางไม่ได้ตั้งใจ

    ซ่างกวนซีรีบนำผ้าห่มไปคลุมไว้แล้วหันหลังจากไปทันทีเขาเดินกลับมาที่เรือนพลางสูดหายใจเฮือกใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “ยัยเด็กบ้าสมควรตายเอ๊ย เหตุใดถึงไม่ใส่เสื้อผ้านอนเล่า?”นั่นเกือบจะทำลาย ‘วิชาถงจื่อกง’ ที่เขาฝึกฝนมาหลายปีซ่างกวนซีกุมหน้าอกของตัวเอง พยายามระงับจังหวะหัวใจที่เต้นรัว แต่เขาไม่สามารถระงับความรู้สึกร้อนรุ่มคันยุบยิบที่กระจายไปทั่วร่างกายได้ไม่รู้ว่ามันเป็นอาการคันจากแผลที่กำลังจะหาย หรือเป็นเพราะความรู้สึกภายในหัวใจที่ไม่สามารถควบคุมได้ซู่ซู่ซู่!ฝนฤดูใบไม้ผลิที่ตกลงมาค่อย ๆ ดับไฟราคะในหัวใจของซ่างกวนซีเขามองกลับไปที่ห้องของเยี่ยนเว่ยฉือ และพยายามพูดหลอกตัวเองว่า “แม้ข้าจะเห็นเรือนร่างของเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็เห็นของข้าไปแล้วเช่นกัน ก็ถือว่า...เจ้าไม่ได้เสียเปรียบ!”ซ่างกวนซีเดินจากไป แต่ความคิดของเขายังคงอยู่ที่ใต้ผ้าห่มผืนนั้น……เช้าวันรุ่งขึ้นเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าคราวนี้ตนนอนหลับสบายเป็นพิเศษอาจเป็นเพราะนางเคยนอนในเล้าหมูมาก่อน ยากนักที่จะได้นอนบนเตียงใหญ่ ๆ ที่ไม่มีกลิ่นมูลหมูหรือเสียงหมูรบกวนนางลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย และผ้าห่มบนตัวของนางก็ร่วงลง

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 421 นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!

    เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างมองซ่างกวนซี จากนั้นก็เบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย"ข้า... นี่... เอ่อ ถึงแม้... ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าจะรัดรูป แต่หน้าอกข้าเล็ก ดังนั้นก็ยัง... ก็ยังมีที่ว่าง"นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน พูดจบแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็อยากจะทุบหัวตัวเองซ่างกวนซีถอดเสื้อตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อตัวในสีขาว ทอดสายตามองไปยัง... หน้าอกของเยี่ยนเว่ยฉือ!"หน้าอกเล็กหรือ? หึ เจ้าช่างแก้ตัวเก่งฯํฏ แต่ตัวข้ากลับรู้สึกว่า หน้าอกของเจ้าเล็กตรงไหนกัน? หรือว่าวิชามือเบาของเจ้า ยังสามารถขโมยหน้าอกของตนเองแล้วซ่อนเอาไว้ได้ด้วย?"ซ่างกวนซียื่นนิ้วชี้เรียวยาวออกมา แตะเบา ๆ ที่ตำแหน่งหัวใจของเยี่ยนเว่ยฉือ สองครั้งเมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือหน้าแดงก่ำขึ้นมาในทันทีซ่างกวนซีก็ตระหนักได้ว่า ตนเองเพิ่งทำอะไรลงไปความตั้งใจเดิมที่อยากจะซักถาม ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปบรรยากาศเริ่มผิดปกติ ทั้งสองคนต่างก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว"ฝ่าบาท!" เยี่ยนเว่ยฉือเอามือปิดหน้าอกโดยสัญชาตญาณ น้ำเสียงออดอ้อนปนตำหนิเล็กน้อยซ่างกวนซีก็รู้สึกว่าการกระทำเมื่อครู่ของตนเองนั้นค่อนข้างจะหุนหันพลันแล่นแต่ใครใช้ให้เด็ก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 420 กระโปรงของเจ้าแนบเนื้อยิ่งนัก

    คำพูดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปลอบใจราชทูตจากเป่ยอิ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการข่มขู่ซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉืออีกด้วยความหมายของเขาก็คือ จะต้องสืบสวนให้แน่ชัดว่าจวนรัชทายาทได้คัมภีร์ลับสวรรค์ไร้อักษรมาได้อย่างไร เกี่ยวข้องกับฮวาอวี๋หรือไม่…… จวนรัชทายาทหลังจากเรื่องวุ่นวายจบลง ทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับจวนตลอดทาง อวี๋เฟยเหยียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก "ผิงอี้โหวเยี่ยนหานซานผู้นี้ ช่างเป็นคนที่ร้ายกาจจริง ๆ เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ก็ยังทนได้ ถูกสวมเขาเช่นนี้ก็ยังทนได้ น่าชื่นชม น่าชื่นชม!"ซ่างกวนซีตอบอย่างเรียบเฉย "หากจะพูดให้ฟังดูดี นี่เรียกว่ารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา หากจะพูดให้ฟังดูแย่ นั่นก็คืออ่อนแอไร้ความสามารถ"เยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียง "เขาไม่ได้อ่อนแอไร้ความสามารถ เขาเพียงแต่กลัวคนดีรังแกคนชั่ว ทั้งยังละโมบในอำนาจ อยากจะประจบประแจงจวนอ๋องจ่างซิ่น จึงไม่กล้าทำให้ท่านหญิงหมิงหยางขุ่นเคืองใจ""เอ๊ะ? ว่าแต่ พี่สะใภ้ ท่านมอบคัมภีร์ลับสวรรค์ไร้อักษรไปแล้วจริง ๆ หรือ?" อวี๋เฟยเหยียนเอ่ยถามด้วยสีหน้าเสียดายเยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะอย่างขัดเขิน "มิใช่ มิใช่ รัฐทายาทอวี๋วางใจได้ ของที่อยู่ในมือฝ่าบาทเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 419 ฆ่าตัวตายต่อหน้าธารกำนัล?

    เยี่ยนเว่ยฉือได้ยินคำพูดของซ่างกวนซีก็พยักหน้า "องค์รัชทายาทตรัสได้ถูกต้อง เช่นนั้นข้าจะเมตตา ปล่อยนางไปสักครั้งก็แล้วกัน!"เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มแย้มมองท่านหญิงหมิงหยาง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอกน้อยนั้น ทำให้ซ่างกวนซีรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องดูเหมือนนางจะไม่ยอมปล่อยท่านหญิงหมิงหยางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือว่านางยังมีแผนอื่นอีก?ซ่างกวนซีเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไปในเวลานี้ เยี่ยนหานซานเหมือนคนใบ้กินบอระเพ็ด กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเขาก้มหน้าคอตก ไม่พูดอะไรสักคำส่วนท่านหญิงหมิงหยางก็ร้องไห้โวยวายราวกับหญิงบ้า"เยี่ยนหานซาน เจ้าพูดเองเถอะ ตลอดหลายปีมานี้ ข้ามีอะไรที่ไม่ดีต่อเจ้า? ข้ามีอะไรที่ไม่ดีพอ? เจ้าถึงได้อกตัญญู ใจดำ ไร้ความรู้สึกเช่นนี้ จิตใจของเจ้าจะไม่เจ็บปวดบ้างหรือ? ฮือ ๆ ๆ ๆ!""ตอนที่แต่งงานกับเจ้า เจ้าก็ปล่อยให้เมียน้อยเยวี่ยฉงหรงนั่นเหยียบย่ำข้า ตอนนี้เยวี่ยฉงหรงไม่อยู่แล้ว เจ้าก็ยังปล่อยให้บุตรสาวนอกสมรสคนนี้มาใส่ร้ายป้ายสีข้า ข้าหมิงหยางมอบความรักความจริงใจให้ไป สุดท้ายกลับสูญเปล่า! ฮือ ๆ ๆ ๆ!""ช่างเถอะ ชายชาตินักรบมักจะใจดำ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา หากใครพูดอะไร เจ้าก็

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status