Share

บทที่ 3 ลิขิตของสวรรค์

เยี่ยนเว่ยฉือตื่นตระหนกในทันที!

นางไม่รู้เลยว่าองค์รัชทายาทตกอับที่ป่วยและไร้ประโยชน์ผู้นี้จะมีพิษกู่อยู่ในร่างกาย

“อย่า...อย่าทำเช่นนี้เลย มีเรื่องอะไรก็พูดกันดี ๆ เถอะ ถึงอย่างไรข้าก็ช่วยท่านไว้นะ!”

ซ่างกวนซีถอดเสื้อผ้าของเขาที่มีอยู่บนตัวชิ้นเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งแต่ไม่แน่นเกินไป

แม้ตอนนี้ตามเนื้อตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน แต่กลับเจือความเย้ายวนอันวิปริตที่อธิบายไม่ถูกเอาไว้

ใบหน้าของเยี่ยนเว่ยฉือเปลี่ยนเป็นสีแดง และเริ่มเขินอายโดยไม่รู้ตัว

ซ่างกวนซีโน้มลงบีบคางของเยี่ยนเว่ยฉือเพื่อบังคับให้นางมองเขา แล้วพูดต่อ “ใช่ เจ้าช่วยข้าไว้ ดังนั้นข้าก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน ข้าทำให้เจ้ามีลูกได้อย่างแน่นอน”

ทันทีที่เขาพูดจบ ซ่างกวนซีก็ยื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือ

หากผ้าชิ้นนี้ถูกฉีกออก องค์รัชทายาทผู้ไร้ค่าก็จะตกอยู่ในห้วงเสน่หา... แม้กำลังจะตายเป็นผีแต่ก็คงยังอยากเสพกามารมณ์

“ชั่วช้าสามานย์รึ? เหอะ ในเมื่อทุกคนต่างด่าทอข้าเช่นนี้ ไหน ๆ จะตายอยู่แล้วก็ขอทำเรื่องนั้นให้เป็นจริงเสียเลย! ทำให้นางตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็นการช่วยชีวิตนางไปด้วย” เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ไม่ลังเลที่จะดึงเสื้อผ้าชิ้นน้อย ๆ นั่น

ในช่วงเวลาวิกฤติ เยี่ยนเว่ยฉือได้ตะโกนขึ้น “ข้าจะช่วยท่านหนีออกไป!”

อะไรนะ?

มือของซ่างกวนซีหยุดอยู่บนหน้าอกของเยี่ยนเว่ยฉือ เขามองนางด้วยความเหลือเชื่อ พลางถามว่า “เจ้าว่าอะไรนะ?”

ดวงตาของเยี่ยนเว่ยฉือแดงก่ำ เสียงของนางสั่นเทา แต่กระนั้นก็พูดอย่างร้อนรนว่า “ข้าจะช่วยพาท่านออกไป ข้ารู้ว่าท่านถูกใส่ความ เชื่อข้าสิ ข้าช่วยพาท่านออกไปได้แน่!”

“เชื่อเจ้า? เหตุใด?” ซ่างกวนซีถาม

หัวใจของเยี่ยนเว่ยฉือเต้นระรัว

นางกัดฟันพลางพูดว่า “เอามือออกไปก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง”

ซ่างกวนซีแสยะยิ้ม “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ข้าได้สัมผัสหัวใจของเจ้าก่อน ข้าจะรู้ได้ว่าเจ้าโกหกรึไม่”

“ไร้ยางอายนัก!” ยามนี้ใบหน้าของเยี่ยนเว่ยฉือแดงก่ำกว่าดวงตาเสียอีก

ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “ทีเมื่อครู่ที่เจ้าลูบไล้ข้า เหตุใดถึงไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ยางอาย?”

“ข้าทำไปเพราะข้าต้องการช่วยท่านอย่างไรเล่า!” เยี่ยนเว่ยฉือโต้กลับเสียงแข็ง

“ตอนนี้ข้าก็กำลังช่วยเจ้าอยู่เหมือนกัน ไม่อยากมีลูกรึ ข้าเชี่ยวชาญเรื่องเช่นนี้ดี” ซ่างกวนซียกยิ้มเย้ยหยัน แลดูมืดมนและชั่วร้าย

เยี่ยนเว่ยฉืออยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก ทว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนต่อความอัปยศอดสูพลางพูดต่อไปว่า “ท่านรูปโฉมงดงามยิ่ง เป็นบุรุษอันดับหนึ่งในแคว้นจิ่วหลี ทั้งยังถูกรายล้อมไปด้วยสตรีงามคอยเยินยอเอาใจไม่เคยขาด ไยต้องเสน่หากับสตรีที่เป็นเพียงลูกอนุด้วยล่ะ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ค่อย ๆ คลายมือออก ทว่าไม่ได้ขยับมือออกไป พลางมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างพินิจ

เมื่อเห็นว่าเขาสงบลงแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบตีเหล็กตอนกำลังร้อนประโคมคำพูดเอาใจเข้าไปอีก “เท่าที่ข้ารู้ สาเหตุที่องค์รัชทายาทถูกปลดจากตำแหน่งก็เพราะเทศกาลฮัวเฉา*ในวันนั้น มีคนเห็นว่าท่านขืนใจสวีเหม่ยเหริน** ทั้งยังสังหารนางและทารกน้อยที่อายุยังไม่ถึงขวบปี ซึ่งเป็นน้องต่างพระมารดาของท่าน ภายในตำหนักของนาง”

เรื่องนี้ได้ถูกป่าวประกาศไปทั่วแคว้น รู้กันทั้วทุกตัวคน

เมื่อได้ยินเยี่ยนเว่ยฉือพูดถึงมันอีกครั้ง ซ่างกวนซีก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ “ข้าไม่ได้ทำ!”

“เพคะ ๆ ๆ ข้าเชื่อท่าน ข้าเชื่อท่าน!” เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างรีบร้อน

“เจ้าเชื่อแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ลูกอนุเช่นเจ้าจะพลิกคดีใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไร เลิกมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นได้แล้ว ข้าไม่ต้องการความเห็นใจจากเจ้า!” ซ่างกวนซีพูดลอดไรฟัน

เมื่อเห็นเช่นนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบตะโกน “ข้าทำได้! ข้าทำได้จริง ๆ!”

“เอาอะไรมามั่นใจ?!”

“เพราะข้ารู้วิธีชันสูตรศพ! ทักษะการชันสูตรศพของข้าไม่มีใครเทียบได้ในห้าแคว้น! ขอเพียงเจ้าเชื่อในตัวข้า ข้าจะช่วยเจ้าออกไปให้ได้” ด้วยความกลัวว่าข้อต่อรองจะไม่เพียงพอ เยี่ยนเว่ยฉือจึงเสริมอีกว่า “ข้าสามารถหาฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังให้ท่านได้ด้วย เพื่อที่จะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์และคืนตำแหน่งองค์รัชทายาทให้กับท่าน!”

ซ่างกวนซีมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เขาเชื่อว่าในโลกนี้มีคนที่ไม่กลัวความตาย แต่เขาไม่เชื่อว่าเด็กสาวคนหนึ่งที่ยังไม่ออกเรือนจะไม่กลัวความอัปยศอดสู

ตอนนี้เขากำจุดอ่อนของนางเอาไว้ หากนางมีความสามารถโน้มน้าวคนอย่างมีวาทศิลป์เช่นนี้ได้ คงเป็นลิขิตของสวรรค์ ที่ต้องการให้เขาซ่างกวนซีทวงบัลลังก์กลับคืน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ดึงมือกลับแล้วถามอย่างเย็นชา “เจ้าจะทำอย่างไร?”

*เทศกาลฮัวเฉา หรือเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้

**เหม่ยเหริน เป็นหนึ่งในตำแหน่งพระสนมขององค์จักรพรรดิ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status