Share

บทที่ 2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน

อะไรนะ...ที่ว่าเชี่ยวชาญเรื่องนี้ดีหมายความว่าอย่างไร?

หรือสตรีนางนี้เป็นสตรีจากหอนางโลม? ซ่างกวนซีมองคนตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ

ถึงอย่างไร เยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นคนรักษาสัจจะ นางจึงไปปลดผ้ารัดเอวของซ่างกวนซี

แม้ใบหน้าของซ่างกวนซีจะถูกปกคลุมไปด้วยเส้นผมที่ยุ่งเหยิง ทว่าเขาก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา

เขาคว้าข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือสุดกำลัง และตะโกนด้วยความโกรธ “นางสารเลว อย่ามาแตะ…”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ซ่างกวนซีก็รู้สึกว่าตนขยับตัวไม่ได้แล้ว

ขณะที่เขาหลุบตาลงมามอง ก็เห็นว่าในมือของเยี่ยนเว่ยฉือกำลังถือเข็มเงินเจาะร่างกายของเขา ซึ่งไม่รู้ว่านางทำเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“เจ้ามาเพื่อสังหารข้ารึ?” ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ว่าใครกันที่ทำเรื่องที่เกินความจำเป็น ส่งมือสังหารมาปลิดชีพเขาเช่นนี้

เยี่ยนเว่ยฉือถอยห่างจากซ่างกวนซี ขณะที่ถอดเสื้อผ้าของเขาออก แล้วพูดว่า “ถึงฆ่าท่านไป ข้าก็คงไม่รอดอยู่ดี ตอนนี้ท่านคือความหวังสุดท้ายของข้า”

ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าไม่ใช่คุณหนูรองจวนติ้งหย่วนโหว*แน่!”

เยี่ยนเว่ยฉือหยุดชะงัก จากนั้นก็หยิบห่อเข็มออกมาจากแขนเสื้อ รวมไปถึงขวดโหลจำนวนมากที่ซ่างกวนซีไม่รู้จัก

นางเทน้ำจากกาน้ำชาที่อยู่ด้านข้างและทำความสะอาดบาดแผลของซ่างกวนซี ขณะนั้นก็ตอบว่า “โชคร้ายที่ข้าไม่ใช่เยี่ยนชิงซูคุณหนูรองผู้สูงศักดิ์แห่งจวนโหว ข้าคือพี่สาวของนาง เป็นลูกอนุชื่อเยี่ยนเว่ยฉือ”

พูดเพียงเท่านั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็หยิบเข็มเงินขึ้นมา เข็มนั้นส่องแสงแวววาว นางขยิบตาให้ซ่างกวนซีแล้วพูดว่า “แต่ท่านน่ะโชคดีมาก ประจวบเหมาะกับที่ท่านกำลังจะตาย และบังเอิญว่าข้าสามารถช่วยชีวิตคนได้”

ทันทีที่พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็จิ้มเข็มลงไปที่ตัวซ่างกวนซีหลายครั้ง

ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าพลังชี่แต่กำเนิดที่ถูกปิดกั้น เริ่มไหลเวียนได้สะดวกขึ้นแล้ว

ความรู้สึกแสบร้อนภายในค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย

เขามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความเหลือเชื่อและถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้า?”

เยี่ยนเว่ยฉือไม่หยุดจิ้มเข็มในมือ ทว่าก็พูดอย่างจนใจว่า “หากพูดอย่างสวยหรู ข้าก็เป็นหมอคนหนึ่ง และการปฏิเสธที่จะช่วยชีวิตคนไข้ถือว่าผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ แต่หากพูดอย่างเห็นแก่ตัว การหลับนอนด้วยกันเพียงครั้งเดียวก็ยากที่จะตั้งครรภ์ได้ ข้าจึงต้องใช้เวลากับท่านทั้งคืน เพื่อให้แน่ใจว่าจะตั้งครรภ์ลูกของท่าน มีเด็กในท้อง ข้าก็จะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้”

พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ขยิบตาให้ซ่างกวนซีแ ละพูดหยอกล้อ “เป็นอย่างไร ท่านตั้งตารออยู่ล่ะสิ?”

“ไร้ยางอายนัก!” ซ่างกวนซีจ้องมองนางด้วยความรังเกียจ

เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มมุมปาก พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ว่ากันว่า ยามที่คนเราใกล้ตายมักจะพูดแต่สิ่งดี ๆ ทว่าตอนนี้ท่านยังมีแรงด่าข้า แสดงว่าคงจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่เป็นไร พวกเรายังมีเวลาเหลือเฟือ ไม่แน่ว่าพอนานไป เราอาจจะเกิดความพึงใจต่อกันก็ได้”

“ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” ซ่างกวนซีเกลียดการถูกสตรีเช่นนี้ล้อเลียน

เยี่ยนเว่ยฉือดึงเข็มเงินกลับมาทีละเล่ม จากนั้นจึงเริ่มใส่ยาและพันแผลให้เขา ในขณะที่ทำเช่นนั้น นางก็พูดต่อ “โอ้ ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า และไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน!”

ทันทีที่เยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ เสียงของขันทีก็ดังมาจากด้านนอก “เหตุใดถึงเงียบเช่นนี้ หรือว่าองค์รัชทายาทสิ้นพระชมน์ไปแล้ว? เช่นนั้นจะมีทายาทได้อย่างไรกัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบนอนลงบนตัวซ่างกวนซี สวมกอดพลางออกแรงกลิ้งพาเขาเข้าไปในกองฟาง

เส้นฟางที่รกรุงรังปกคลุมร่างของทั้งสองคน แต่ไม่สามารถกลบเสียงของพวกเขาได้

เยี่ยนเว่ยฉือเริ่มสวมบทนักแสดงและเริ่มร้องตะโกนว่า “องค์รัชทายาท อย่านะเพคะ โปรดเบาแรงหน่อยสิเพคะ”

ซ่างกวนซีรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงทำได้เพียงส่งเสียงออกไปเท่านั้น

ทว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็ปิดปากของเขาเอาไว้ ทำให้เขาพูดไม่ได้

“องค์รัชทายาททรงมีกำลังวังชาล้นเหลือ ดูไม่เหมือนคนป่วยแม้แต่น้อย หลายวันต่อจากนี้หม่อมฉันจะใช้เวลากับพระองค์ หม่อมฉันเชื่อว่าจะสามารถมีทายาทให้พระองค์ได้อย่างแน่นอน โอ๊ย..องค์รัชทายาท ท่านร้ายกาจเหลือเกิน!”

เยี่ยนเว่ยฉือส่งเรียงร่ำร้องอย่างรัญจวนใจจนขันทีที่หน้าประตูอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ “องค์รัชทายาทตกกระป๋องนั่นช่างชั่วช้าสามานย์สิ้นดี ก่อนตายก็ยังจะมีอารมณ์ทำตัวมักมาก! ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปแจ้งข่าวที่จวนท่านมหาเสนาบดี”

เมื่อได้ยินว่าคนที่อยู่ด้านนอกเดินจากไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้นจากกองฟาง จู่ ๆ นางก็ถูกซ่างกวนซีกอดรัดเอวไว้แน่น

“เป็นไปได้อย่างไร…”

“ข้าขยับได้อย่างไรน่ะรึ?” ซ่างกวนซียยิ้มเยาะและพูดว่า “ในตัวของข้ามีพิษกู่เย็น พิษชนิดอื่น ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายก็เปรียบเสมือนเป็นการป้อนอาหารให้มัน เจ้าคิดว่าพิษของเจ้าจะสามารถควบคุมข้าได้นานแค่ไหนกัน?”

เยี่ยนเว่ยฉือสูดหายใจเฮือก และเริ่มเสียใจกับสิ่งที่ตนเพิ่งพูดไป

ทว่าซ่างกวนซีก็ไม่เปิดโอกาสให้นางได้เสียใจ

เขาพลิกตัวเยี่ยนเว่ยฉือทันที พลางกดนางไว้ใต้ร่าง

“ปล่อยข้านะ!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามผลักคนบนร่างของนางออกไป แต่ซ่างกวนซีก็ใช้เวลาชั่วพริบตากดจุดฝังเข็มของนาง

จากนั้นก็มีเสียงผ้าฉีกขาด

เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหนาวเย็นบริเวณหน้าอก เสื้อผ้าของนางกลายเป็นเศษผ้าไปแล้ว

ซ่างกวนซีมองผิวขาวเนียนราวเนื้อหยกและกระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเยี่ยนเว่ยฉือ เขายิ้มมุมปากพลางพูดว่า “ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับข้าแล้ว!”

*โหว เป็นฐานันดรศักดิ์เทียบได้กับเจ้าพระยา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status