หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน

แชร์

บทที่ 2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน

ผู้เขียน: โม่เชียนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-19 17:48:04
อะไรนะ...ที่ว่าเชี่ยวชาญเรื่องนี้ดีหมายความว่าอย่างไร?

หรือสตรีนางนี้เป็นสตรีจากหอนางโลม? ซ่างกวนซีมองคนตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ

ถึงอย่างไร เยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นคนรักษาสัจจะ นางจึงไปปลดผ้ารัดเอวของซ่างกวนซี

แม้ใบหน้าของซ่างกวนซีจะถูกปกคลุมไปด้วยเส้นผมที่ยุ่งเหยิง ทว่าเขาก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา

เขาคว้าข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือสุดกำลัง และตะโกนด้วยความโกรธ “นางสารเลว อย่ามาแตะ…”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ซ่างกวนซีก็รู้สึกว่าตนขยับตัวไม่ได้แล้ว

ขณะที่เขาหลุบตาลงมามอง ก็เห็นว่าในมือของเยี่ยนเว่ยฉือกำลังถือเข็มเงินเจาะร่างกายของเขา ซึ่งไม่รู้ว่านางทำเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“เจ้ามาเพื่อสังหารข้ารึ?” ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ว่าใครกันที่ทำเรื่องที่เกินความจำเป็น ส่งมือสังหารมาปลิดชีพเขาเช่นนี้

เยี่ยนเว่ยฉือถอยห่างจากซ่างกวนซี ขณะที่ถอดเสื้อผ้าของเขาออก แล้วพูดว่า “ถึงฆ่าท่านไป ข้าก็คงไม่รอดอยู่ดี ตอนนี้ท่านคือความหวังสุดท้ายของข้า”

ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าไม่ใช่คุณหนูรองจวนติ้งหย่วนโหว*แน่!”

เยี่ยนเว่ยฉือหยุดชะงัก จากนั้นก็หยิบห่อเข็มออกมาจากแขนเสื้อ รวมไปถึงขวดโหลจำนวนมากที่ซ่างกวนซีไม่รู้จัก

นางเทน้ำจากกาน้ำชาที่อยู่ด้านข้างและทำความสะอาดบาดแผลของซ่างกวนซี ขณะนั้นก็ตอบว่า “โชคร้ายที่ข้าไม่ใช่เยี่ยนชิงซูคุณหนูรองผู้สูงศักดิ์แห่งจวนโหว ข้าคือพี่สาวของนาง เป็นลูกอนุชื่อเยี่ยนเว่ยฉือ”

พูดเพียงเท่านั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็หยิบเข็มเงินขึ้นมา เข็มนั้นส่องแสงแวววาว นางขยิบตาให้ซ่างกวนซีแล้วพูดว่า “แต่ท่านน่ะโชคดีมาก ประจวบเหมาะกับที่ท่านกำลังจะตาย และบังเอิญว่าข้าสามารถช่วยชีวิตคนได้”

ทันทีที่พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็จิ้มเข็มลงไปที่ตัวซ่างกวนซีหลายครั้ง

ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าพลังชี่แต่กำเนิดที่ถูกปิดกั้น เริ่มไหลเวียนได้สะดวกขึ้นแล้ว

ความรู้สึกแสบร้อนภายในค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย

เขามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความเหลือเชื่อและถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้า?”

เยี่ยนเว่ยฉือไม่หยุดจิ้มเข็มในมือ ทว่าก็พูดอย่างจนใจว่า “หากพูดอย่างสวยหรู ข้าก็เป็นหมอคนหนึ่ง และการปฏิเสธที่จะช่วยชีวิตคนไข้ถือว่าผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ แต่หากพูดอย่างเห็นแก่ตัว การหลับนอนด้วยกันเพียงครั้งเดียวก็ยากที่จะตั้งครรภ์ได้ ข้าจึงต้องใช้เวลากับท่านทั้งคืน เพื่อให้แน่ใจว่าจะตั้งครรภ์ลูกของท่าน มีเด็กในท้อง ข้าก็จะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้”

พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ขยิบตาให้ซ่างกวนซีแ ละพูดหยอกล้อ “เป็นอย่างไร ท่านตั้งตารออยู่ล่ะสิ?”

“ไร้ยางอายนัก!” ซ่างกวนซีจ้องมองนางด้วยความรังเกียจ

เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มมุมปาก พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ว่ากันว่า ยามที่คนเราใกล้ตายมักจะพูดแต่สิ่งดี ๆ ทว่าตอนนี้ท่านยังมีแรงด่าข้า แสดงว่าคงจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่เป็นไร พวกเรายังมีเวลาเหลือเฟือ ไม่แน่ว่าพอนานไป เราอาจจะเกิดความพึงใจต่อกันก็ได้”

“ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” ซ่างกวนซีเกลียดการถูกสตรีเช่นนี้ล้อเลียน

เยี่ยนเว่ยฉือดึงเข็มเงินกลับมาทีละเล่ม จากนั้นจึงเริ่มใส่ยาและพันแผลให้เขา ในขณะที่ทำเช่นนั้น นางก็พูดต่อ “โอ้ ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า และไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน!”

ทันทีที่เยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ เสียงของขันทีก็ดังมาจากด้านนอก “เหตุใดถึงเงียบเช่นนี้ หรือว่าองค์รัชทายาทสิ้นพระชมน์ไปแล้ว? เช่นนั้นจะมีทายาทได้อย่างไรกัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบนอนลงบนตัวซ่างกวนซี สวมกอดพลางออกแรงกลิ้งพาเขาเข้าไปในกองฟาง

เส้นฟางที่รกรุงรังปกคลุมร่างของทั้งสองคน แต่ไม่สามารถกลบเสียงของพวกเขาได้

เยี่ยนเว่ยฉือเริ่มสวมบทนักแสดงและเริ่มร้องตะโกนว่า “องค์รัชทายาท อย่านะเพคะ โปรดเบาแรงหน่อยสิเพคะ”

ซ่างกวนซีรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงทำได้เพียงส่งเสียงออกไปเท่านั้น

ทว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็ปิดปากของเขาเอาไว้ ทำให้เขาพูดไม่ได้

“องค์รัชทายาททรงมีกำลังวังชาล้นเหลือ ดูไม่เหมือนคนป่วยแม้แต่น้อย หลายวันต่อจากนี้หม่อมฉันจะใช้เวลากับพระองค์ หม่อมฉันเชื่อว่าจะสามารถมีทายาทให้พระองค์ได้อย่างแน่นอน โอ๊ย..องค์รัชทายาท ท่านร้ายกาจเหลือเกิน!”

เยี่ยนเว่ยฉือส่งเรียงร่ำร้องอย่างรัญจวนใจจนขันทีที่หน้าประตูอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ “องค์รัชทายาทตกกระป๋องนั่นช่างชั่วช้าสามานย์สิ้นดี ก่อนตายก็ยังจะมีอารมณ์ทำตัวมักมาก! ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปแจ้งข่าวที่จวนท่านมหาเสนาบดี”

เมื่อได้ยินว่าคนที่อยู่ด้านนอกเดินจากไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้นจากกองฟาง จู่ ๆ นางก็ถูกซ่างกวนซีกอดรัดเอวไว้แน่น

“เป็นไปได้อย่างไร…”

“ข้าขยับได้อย่างไรน่ะรึ?” ซ่างกวนซียยิ้มเยาะและพูดว่า “ในตัวของข้ามีพิษกู่เย็น พิษชนิดอื่น ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายก็เปรียบเสมือนเป็นการป้อนอาหารให้มัน เจ้าคิดว่าพิษของเจ้าจะสามารถควบคุมข้าได้นานแค่ไหนกัน?”

เยี่ยนเว่ยฉือสูดหายใจเฮือก และเริ่มเสียใจกับสิ่งที่ตนเพิ่งพูดไป

ทว่าซ่างกวนซีก็ไม่เปิดโอกาสให้นางได้เสียใจ

เขาพลิกตัวเยี่ยนเว่ยฉือทันที พลางกดนางไว้ใต้ร่าง

“ปล่อยข้านะ!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามผลักคนบนร่างของนางออกไป แต่ซ่างกวนซีก็ใช้เวลาชั่วพริบตากดจุดฝังเข็มของนาง

จากนั้นก็มีเสียงผ้าฉีกขาด

เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหนาวเย็นบริเวณหน้าอก เสื้อผ้าของนางกลายเป็นเศษผ้าไปแล้ว

ซ่างกวนซีมองผิวขาวเนียนราวเนื้อหยกและกระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเยี่ยนเว่ยฉือ เขายิ้มมุมปากพลางพูดว่า “ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับข้าแล้ว!”

*โหว เป็นฐานันดรศักดิ์เทียบได้กับเจ้าพระยา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 3 ลิขิตของสวรรค์

    เยี่ยนเว่ยฉือตื่นตระหนกในทันที!นางไม่รู้เลยว่าองค์รัชทายาทตกอับที่ป่วยและไร้ประโยชน์ผู้นี้จะมีพิษกู่อยู่ในร่างกาย“อย่า...อย่าทำเช่นนี้เลย มีเรื่องอะไรก็พูดกันดี ๆ เถอะ ถึงอย่างไรข้าก็ช่วยท่านไว้นะ!”ซ่างกวนซีถอดเสื้อผ้าของเขาที่มีอยู่บนตัวชิ้นเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งแต่ไม่แน่นเกินไปแม้ตอนนี้ตามเนื้อตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน แต่กลับเจือความเย้ายวนอันวิปริตที่อธิบายไม่ถูกเอาไว้ใบหน้าของเยี่ยนเว่ยฉือเปลี่ยนเป็นสีแดง และเริ่มเขินอายโดยไม่รู้ตัวซ่างกวนซีโน้มลงบีบคางของเยี่ยนเว่ยฉือเพื่อบังคับให้นางมองเขา แล้วพูดต่อ “ใช่ เจ้าช่วยข้าไว้ ดังนั้นข้าก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน ข้าทำให้เจ้ามีลูกได้อย่างแน่นอน”ทันทีที่เขาพูดจบ ซ่างกวนซีก็ยื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือหากผ้าชิ้นนี้ถูกฉีกออก องค์รัชทายาทผู้ไร้ค่าก็จะตกอยู่ในห้วงเสน่หา... แม้กำลังจะตายเป็นผีแต่ก็คงยังอยากเสพกามารมณ์“ชั่วช้าสามานย์รึ? เหอะ ในเมื่อทุกคนต่างด่าทอข้าเช่นนี้ ไหน ๆ จะตายอยู่แล้วก็ขอทำเรื่องนั้นให้เป็นจริงเสียเลย! ทำให้นางตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็นการช่วยชีวิตนางไปด้วย” เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ไม่ล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 4 องค์รัชทายาทนกเขาไม่ขัน?

    เยี่ยนเว่ยฉือขมวดคิ้วมองเขา “กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งอย่างไรเล่า!”ซ่างกวนซีไม่เข้าใจ “หมายความว่าอย่างไร?”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ท่านคลายจุดชีพจรให้ข้าก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง”ขณะนี้ชะตาชีวิตของทั้งสองคนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ถือว่าคนทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน ซ่างกวนซีจึงไม่กลัวว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะพูดโกหกหากเขาตาย นางก็ต้องถูกฝังตามเขาไปด้วยดังนั้นซ่างกวนซีจึงคลายจุดชีพจรของเยี่ยนเว่ยฉือทันทีทว่าเยี่ยนเว่ยฉือที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ กลับใช้เข็มแทงเข้าที่ต้นขาของซ่างกวนซี อาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซ่างกวนซีมองนางอย่างเหลือเชื่อ พลางพูดอย่างยากลำบาก “จะ...เจ้าหลอกข้า เจ้าเป็นมือสังหารจริง ๆ!”เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นนั่งและผลักซ่างกวนซีให้ล้มไปที่พื้นขณะที่สวมเสื้อผ้า นางก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าจะฆ่าท่านกับผีน่ะสิ! ก็พูดอยู่ว่าจะใช้กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่ หากท่านไม่ตายแล้วจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? ในเมื่อร่างกายท่านมีพิษกู่เย็น ก็อย่าโทษข้าที่ลงมือหนักหน่อยแล้วกัน!”ซ่างกวนซีไม่ได้ยินประโยคหลังที่เยี่ยนเว่ยฉือพูด เพราะเขาได้เข้าสู่สภาวะเสม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 5 จุดไฟเผาตัวเอง

    “บังอาจ!” ฮองเฮาก้าวมาข้างหน้าพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาเย็นชา และตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินลงโทษซ่างกวนซี และฝ่าบาทก็เป็นผู้ปลดซ่างกวนซีออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วยการบอกว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ความ จะไม่ถือเป็นการตั้งคำถามกับคำตัดสินของฝ่าบาทหรือ?ดูเผิน ๆ คำพูดของฮองเฮานั้นก็นับว่าไม่ผิดอะไรแต่เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่ามีคำว่า “น้ำท่วมปาก” ถูกเขียนบนพระพักตร์ของฮ่องเต้เอาไว้ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง นางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พูด ดังนั้นนางจึงต้องบอกเรื่องสำคัญก่อนที่ฮองเฮาจะสั่งประหารนางเยี่ยนเว่ยฉือจึงตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล “ฝ่าบาททรงพิจารณาเถิดเพคะ องค์รัชทายาททรงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน หม่อมฉันขอทูลถามว่าคนที่นกเขาไม่ขันจะขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้อย่างไร? องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!”คำพูดเหล่านั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจทุกคนต่างอ้าปากค้างจากความตกใจ!“จะ...เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจเยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะเพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 6 พระชายาองค์รัชทายาท

    แม้สถานการณ์จะค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังจัดการได้เยี่ยนเว่ยฉือรีบตะโกนเสียงดัง “ไม่ได้ ท่านฆ่าข้าไม่ได้นะ!”“ไม่ได้?!” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ เกือบจะคิดว่าตัวเองฟังผิดไปนางคิดว่านางเป็นใคร ถึงได้กล้าที่พูดจาเช่นนี้กับเจ้าแห่งหกตำหนักฝ่ายใน ทั้งยังพูดคำว่าไม่ได้ออกมาอีก?ในขณะที่ฮองเฮากำลังตกตะลึง เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบมองไปที่ฮ่องเต้คังอู่และพูดต่อ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าองค์รัชทายาททรงนกเขาไม่ขัน ดังนั้นจึงถือว่าหม่อมฉันเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้ด้วย คดีนี้ยังต้องมีการพิจารณาคดีใหม่ ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนเลย หากมาฆ่าพยานเสียก่อนคงไม่เหมาะนักใช่หรือไม่เพคะ?”ฮ่องเต้คังอู่ทรงขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ ครู่หนึ่งพระองค์สับสนไม่รู้ว่านางเป็นสตรีตระกูลใดแต่สตรีนางนี้กลับกล้าปฏิเสธฮองเฮาต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งนั่นทำให้พระองค์ชอบพระทัยเป็นอย่างมากเมื่อทอดพระเนตรผ่านร่างเล็ก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือไป พระองค์ก็ทรงเห็นร่างไร้ชีวิตที่มีบาดแผลทั่วร่างกายซ่างกวนซีอยู่ข้างหลังนาง ทำให้ความโศกเศร้าและความเกรี้ยวโกรธของฮ่องเต้คังอู่ถึงจุดสูงสุดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 7 ชันสูตรศพ

    เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ชันสูตรศพ ท่านทำไม่เป็นหรือ? ไม่เป็นไร ข้าทำเอง!”เยี่ยนเว่ยฉือมองผางเหออวี้พร้อมรอยยิ้ม ทำท่าทางกระตือรือร้นที่จะได้ทำหน้าที่ผางเหออวี้ขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้า...เจ้าบ้าไปแล้วรึ? สวีเหม่ยเหรินกับองค์ชายน้อยสิ้นพระชมน์ไปหลายวันแล้ว อีกทั้งศพก็อยู่ในโลง กำลังรอทำพิธีฝัง เจ้าจะไปรบกวนวิญญาณคนที่ตายไปอย่างสงบแล้วทำไม?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างไม่เห็นด้วย “ท่านใต้เท้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ในมุมมองของข้า มีเพียงการหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและคืนความยุติธรรมแก่ผู้ตายเท่านั้น นั่นถึงจะทำให้ผู้ตายจะได้พบความสงบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ตามกฎของวังหลวง พระสนมที่มีบุตรจะต้องมีการตั้งศพไว้ในห้องนอนเป็นเวลาเจ็ดวันจึงจะทำการฝังได้ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่เจ็ดพอดี!”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชันสูตรศพฮองเฮานั่งอยู่บนที่ประทับสูงสบสายตากับซ่างกวนหลี โอรสของนางซ่างกวนหลีพยักหน้าเล็กน้อย เป็นการบอกว่าเยี่ยนเว่ยฉือพูดถูก ร่างของสวีเหม่ยเหรินยังไม่ถูกฝังฮองเฮาขมวดคิ้วพลางคิดว่าจะขวางอีกฝ่ายอย่างไร ขณะนั้นฮ่องเต้คังอู่ก็ตรัสอย่างจริงจัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 8 ถูกวางยาพิษ

    “อะไรนะ? เจ้าพูดว่าอะไร?!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงเดินอย่างรวดเร็วไปหาเยี่ยนเว่ยฉือเยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่บาดแผลบริเวณลำคอของสวีเหม่ยเหริน พลางตอบอย่างสงบว่า “บาดแผลทั้งหมดบนร่างนี้แบ่งออกเป็นบาดแผลก่อนเสียชีวิตและบาดแผลหลังเสียชีวิต สำหรับบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ผิวหนังจะมีการหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รอบ ๆ บาดแผลจะมีก้อนเลือดสีดำคล้ำ และหากเลือดไหลออกมากก็อาจมีรอยห้อเลือดด้วย ซึ่งนั่นเป็นกลไลตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นหลังเสียชีวิต ผิวหนังบริเวณบาดแผลจะเรียบเนียน เนื่องจากร่างกายไม่มีกระบวนการแข็งตัวของเลือดแล้ว ดังนั้นบริเวณบาดแผลก็จะไม่มีลิ่มเลือดหรือรอยห้อเลือด เช่นเดียวกับที่เห็นในตอนนี้เพคะ”ฮ่องเต้คังอู่และผางเหออวี้ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ต่างก็เข้ามาจับตาดูอย่างใกล้ชิด เห็นว่าลักษณะของร่างตรงหน้าตรงกับที่เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวไว้ไม่มีผิดเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ความจริงที่เรียบง่ายเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ชันสูตรศพที่มีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยก็สามารถตรวจพบเบาะแสนี้ได้ แต่เหตุถึงไม่มีใครพูดออกมาเลยเล่า?”ผางเหออวี้สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าหลบตาเยี่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 9 ทุกการสัมผัสย่อมทิ้งร่องรอยเอาไว้

    คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สงสัยเช่นกันสาวน้อยที่เสื้อผ้าผมเผ้ารุงรังผู้นี้เป็นใครกันแน่?เหตุใดถึงได้รู้มากเช่นนี้?ฮองเฮาพูดเสียงแข็งว่า “เหลวไหล เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยจะไปรู้อะไร? อย่าคาดเดาอะไรเรื่อยเปื่อย!”เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากพูดว่า “การกล้าตั้งสมมติฐานและตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ใช่วิธีการพื้นฐานในการคลี่คลายคดีหรือเพคะ? อีกอย่าง สิ่งที่พวกท่านพบในร่างของสวีเหม่ยเหรินไม่มีใครเคยเห็นว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทนี่เพคะ!”ทันทีที่พูดจบ บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่อยู่ในเหตุการณ์ บ้างก็งุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกบ้างก็ก้มหน้าก้มตา เยี่ยนเว่ยฉือผู้นี้ช่างพูดได้อย่างไม่อายปากเอาเสียเลย!เมื่อเห็นจากสายตาของฮองเฮาเหมือนต้องการจะโต้เถียง เยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเพคะ ในเมื่อตอนนี้ก็ได้รู้สาเหตุการเสียชีวิตของสวีเหม่ยเหรินแล้ว หม่อมฉันแค่ต้องตามหาฆาตกรตัวจริงเท่านั้น ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้องค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่าเพคะ!”ฮ่องเต้คังอู่ตรัสถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าสามารถตามหาฆาตกรตัวจริงได้หรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าและพูดต่อ “ทูลฝ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 10 ไม่เปลี่ยนสีเลยหรือ?

    ทุกคนยืนชูคอมองอ่างทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งส่วนฮองเฮานั้นถึงกับบีบมือเข้าหากัน แลดูค่อนข้างกังวลทว่าหลังจากที่ทดสอบนางกำนัลและขันทีไปกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีมือของใครเปลี่ยนสีเลยบุรุษชุดสีชมพูที่อยู่ในความมืดขมวดคิ้วพลางพูดว่า “เฮ้อ วิธีการของนางไม่ได้ผล!”บุรุษชุดสีทองแค่นเสียงเบา ๆ “ข้าคิดว่านางจะฉลาดหลักแหลมเสียอีก ไม่เพียงนางทำลายแผนของศิษย์พี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้นางได้เอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย”เป็นดังที่คาดไว้ ทันทีที่ทางนี้เอ่ยจบฮองเฮาที่อยู่ทางนั้นก็เริ่มโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือ“เจ้าช่างบังอาจที่กล้าหลอกใช้ฝ่าบาทกับข้า เจ้าลองใช้สองตามองดูสิ มีฝ่ามือของใครเปลี่ยนสีหรือไม่ พูดจาเหลวไหลยิ่งนัก! ใครก็ได้มาลากนาง…”ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็แคะหูแล้วพูดด้วยความรำคาญ “ฮองเฮาเพคะ พวกเรายืนใกล้กันมากเช่นนี้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนหูหนวก”หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ให้โอกาสให้ฮองเฮาได้ตำหนิตนต่อ พลางชี้ไปยังเฟินเอ๋อร์ที่ยืนหลบมุมอยู่ในกลุ่มคนรับใช้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท นางคือฆาตกรเพคะ”อะไรนะ?!เฟินเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 313 สตรีที่ทุกคนหมายหัว

    “จริงหรือเท็จ? อัศจรรย์อะไรเยี่ยงนี้?” อ๋องจ่างซิ่นแสดงความไม่เชื่ออันกั๋วกงก็เอ่ยปาก “ปิ่นหางหงส์ถูกฝังอยู่ใต้ดินมาหลายปี ยังจะมีสรรพคุณนี้เหลืออยู่หรือ? อีกอย่าง เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ แล้วคนผู้นั้นกลับไปก็ต้องอาบน้ำชำระร่างกาย จะยังคงหลงเหลือสรรพคุณของดอกหางหงส์อยู่ได้อย่างไร?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นพยักหน้า “เดิมทีพวกเราก็สงสัยเงื่อนงำนี้ว่าจะสามารถใช้พิสูจน์ได้หรือไม่ จึงได้ซื้อเถาเหลยกงมาเล็กน้อย แล้วลองทดสอบ”เมื่อพูดถึงตรงนี้ อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นก็หันไปพยักหน้าให้นางกำนัลที่อยู่ข้างกายทุกคนจำนางกำนัลคนนั้นได้ ก็คือนางกำนัลที่เพิ่งถือปิ่นนั้นทุกคนเห็นนางหยิบถ้วยชาต่อหน้าอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น จากนั้นหยิบผงบางอย่างออกมาแล้วเทลงในถ้วยชาอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นอธิบาย “นี่คือเถาเหลยกงตากแห้ง จากนั้นนำมาบดเป็นผง”นางกำนัลเทผงลงในน้ำชาแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใช้นิ้วจุ่ม แล้วทาลงบนฝ่ามือสุดท้ายก็กางฝ่ามือออก ให้ทุกคนดูแน่นอนว่ามีผื่นแดงปรากฏบนฝ่ามือขาวซีดแต่เดิมด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านางกำนัลขมวดคิ้วเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะคันจนทนไม่ไหวอันกั๋วกงตกใจจนยืดตัวตรง จ้องมองมือของตน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 312 จับนาง! มีร่องรอยให้ติดตาม!

    อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวและอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นพยักหน้าพร้อมกันอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเอ่ยปาก “ใช่แล้วเพคะ วันนั้นปิ่นปักผมทั้งสองอันสวมอยู่บนศีรษะของนาง แต่ระหว่างการต่อสู้ ทำร่วงหล่นไปหนึ่งอัน”“สารเลว สมบัติของอดีตฮองเฮา พวกมันมีสิทธิ์ใช้ได้อย่างไร? จับพวกมันมาให้ข้า! จับทั้งสองคนมาแล้วลงโทษประหารห้าม้าแยกร่าง!”ลำคอของเยี่ยนเว่ยฉือตึงแน่น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากทันใดนั้นนางก็เข้าใจจุดประสงค์ของชาวเป่ยอิ้นพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมอบคัมภีร์ลับสวรรค์ไร้อักษรให้เป็นของกำนัลแก่แคว้นหลีพวกเขาเพียงต้องการใช้ประโยชน์จากอำนาจของแคว้นหลี่ เพื่อค้นหาฮวาอวี๋ในเมืองหลวงแต่พวกเขาก็กังวลว่าแคว้นแคว้นหลีทุ่มเทไม่เต็มที่ ดังนั้นจึงนำปิ่นหงส์ออกมา เพื่อให้ฮ่องเต้คังอู่ทราบว่าฮวาอวี๋ไม่เพียงแต่ปล้นสุสานหลวงของเป่ยอิ้น แต่ยังปล้นสุสานหลวงของแคว้นหลีด้วยด้วยวิธีนี้ ฮ่องเต้คังอู่จะทรงพิโรธ และจะสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่เหตุผลนั้นถูกต้อง แต่ชาวเป่ยอิ้นมีปิ่นอยู่ในมือได้อย่างไร?ปิ่นปักผมคู่เล็ก ๆ ที่นางซื้อมา เห็นชัดว่าเลือกซื้อจากโรงรับจำนำหรือว่าผู้บงการเบื้องหลังโรงรับจำนำ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 311 ประหารพวกมันให้หมด!

    “จะให้ข้าระงับโทสะได้อย่างไร? แม้แต่สุสานหลวงก็ดูแลไม่ได้ เช่นนั้นจงประหารองครักษ์ที่ดูแลสุสานหลวงทั้งหมด!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงพระพิโรธยิ่งนัก!ยิ่งพระองค์ทรงพระพิโรธ ฮองเฮาองค์ปัจจุบันก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดเพราะทุกคนรู้ดีว่า ฮ่องเต้คังอู่ทรงพระพิโรธเช่นนี้ ย่อมเป็นเพราะทรงอาลัยรักอดีตฮองเฮาอย่างแน่นอนเมื่อซ่างกวนซีเห็นดังนั้นจึงกราบทูลว่า “เสด็จพ่อ โปรดอนุญาตให้ลูกนำทหารไปตรวจสอบสุสานหลวงด้วยตนเองเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”นั่นเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระมารดา เขาไม่ไปดู จะวางใจได้อย่างไรเรื่องนี้มอบหมายให้ซ่างกวนซี ย่อมเหมาะสมที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้ซ่างกวนซีประหลาดใจก็คือ ฮ่องเต้คังอู่ไม่อนุมัติฮ่องเต้คังอู่ทรงปฏิเสธ “มิได้ ให้กงไห่ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทหารหลงฉี นำทหารม้าสามพันนายไปยังสุสานหลวง”ทหารม้าสามพันนาย?นี่เพียงพอที่จะสังหารองครักษ์ที่ดูแลสุสานหลวงทั้งหมดลงได้เชียวนะทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเอ่ย ทุกคนรู้ดีว่า ฮ่องเต้คังอู่ทรงพระพิโรธจริง ๆ!หลังจากทรงมีพระราชโองการ ฮ่องเต้คังอู่ก็ทรงสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงทรงหยิบปิ่นปักผมหงส์ทองคำขึ้นมาอย่างระมัดระวังทรงวางปิ่นปักผมไว้ตรงหน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 310 ของขวัญชิ้นที่สามที่น่าตกตะลึง

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นส่ายหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “มิใช่ ของล้ำค่าชิ้นที่สามนี้ หากจะกล่าวโดยละเอียด ถือได้ว่าเป็นการยืมดอกไม้สักการะไต้ซือ เพราะสิ่งนี้มิได้เป็นของเป่ยอิ้น”มิใช่ของเป่ยอิ้น?เมื่ออวี้ฉืออวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็เปิดผ้าแดงทางขวามือทุกคนเห็นว่าบนถาดนั้นมีเพียงปิ่นปักผมที่ไม่แวววาวนัก ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องประดับศีรษะในขณะที่ทุกคนสงสัยฮ่องเต้คังอู่และซ่างกวนซีกล่าวพร้อมกัน “ปิ่นหางหงส์!”สองพ่อลูกสบตากัน เห็นได้ชัดว่าต่างก็ประหลาดใจที่อีกฝ่ายจำสิ่งนี้ได้อันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นก็สบตากัน ทั้งสองมีสีหน้างุนงงอ๋องจ่างซิ่นพึมพำ “ปิ่นหางหงส์…นี่คือ…นี่คือของรักของฮองเฮาองค์ก่อนมิใช่หรือ?”อ๋องจ่างซิ่นจำเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ได้ แต่เขาจำชื่อนี้ได้อันกั๋วกงก็จำชื่อนี้ได้เช่นกัน นี่เป็นของรักของฮองเฮาองค์ก่อนจริง และเป็นสมบัติติดตัวของนางแต่เครื่องประดับปิ่นหางหงส์ชุดนั้นไม่ได้ฝังไปพร้อมกับพระศพของฮองเฮาองค์ก่อนหรอกหรือ?ฮ่องเต้คังอู่ตื่นเต้นจนก้าวลงจากบัลลังก์มังกร เมื่อซ่างกวนซีเห็นเช่นนั้นก็รีบตามไปสองพ่อลูกมองไปที่ปิ่นปักผม สามารถยืนยันได้ว่าเป็นปิ่นหางห

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 309 ของขวัญชิ้นที่สองคืออะไร

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นมองไปที่ซ่างกวนหลี ยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “ของขวัญชิ้นที่สองและชิ้นที่สามมีความเกี่ยวข้องกัน”“โอ้? ข้าอยากฟังรายละเอียด!” ซ่างกวนหลีก็ยิ้มอย่างสดใสคนดูรอบข้างมองออกว่าเป้าหมายของอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น ส่วนใหญ่แล้วคือซ่างกวนหลีมิฉะนั้นคงไม่ยิ้มเอาใจเช่นนี้แต่ซ่างกวนหลีจะแต่งงานกับอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นหรือไม่นั้นก็บอกไม่ได้อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นตบมือ นางกำนัลชาวเป่ยอิ้นสองคนเดินเข้ามานางเปิดผ้าแดงทางซ้ายมือก่อน ทุกคนยื่นคอดู พบว่าถาดนั้นว่างเปล่าฮ่องเต้คังอู่บนที่สูงขมวดพระขนงด้วยความสงสัยฮองเฮาก็เอ่ยถาม “นี่…คือสิ่งใด? หรือว่าของขวัญคือถาดนี้?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นถอนหายใจกล่าว “ขอทูลตามตรง สมบัติล้ำค่าชิ้นที่สองนี้คือสมบัติประจำชาติเป่ยอิ้นของเรา คัมภีร์ลับสวรรค์ไร้อักษร!”“อะไรนะ? คัมภีร์ลับสวรรค์ไร้อักษร?!” อันกั๋วกงตื่นเต้นจนเกือบจะลุกขึ้นยืนเห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้คังอู่ก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถามว่า “คือคัมภีร์ที่สามารถหยั่งรู้อดีตและอนาคตได้ใช่หรือไม่?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว”“แล้วหนังสือเล่มนั้นอยู่ที่ใด?” อ๋องจ่างซิ่นก็ถามอย่างใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 308 โกรธเกรี้ยวอย่างคนไร้ความสามารถ

    เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเล็กน้อย “มีความสามารถหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะมองอย่างไร ในสายตาข้า คนมีความสามารถย่อมใจกว้างอ่อนน้อม ฉลาดอย่างลึกซึ้งไม่โอ้อวด รู้โลกแต่ไม่ฉ้อฉล มีเสน่ห์แต่ไม่ต่ำช้า ส่วนคนไร้ความสามารถ…ทำได้เพียงแค่โกรธเกรี้ยว! โกรธเกรี้ยวเยี่ยงคนไร้ความสามารถ!”โกรธเกรี้ยวอย่างคนไร้ความสามารถ นี่ไม่ได้หมายถึงหานอวี่เฟยและอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นที่อยู่ตรงหน้าหรอกหรือ?“เจ้า บังอาจนัก!” หานอวี่เฟยโกรธจนหน้าแดงคอแดงท่าทีที่ฉุนเฉียวนั้นยิ่งเหมือนอ๋องจ่างซิ่นเข้าไปทุกที“ใครกันแน่ที่บังอาจ?” ซ่างกวนซีกล่าวเบา ๆ ประโยคเดียวกลับหยุดยั้งเสียงคำรามของหานอวี่เฟยได้ทันทีเขากล่าวต่อ “ต่อหน้าคณะทูต ทำเสียงดังโวยวาย ดูเหมือนว่าท่านหญิงอิ๋นตางจะมีความสามารถในการแก้หมากกระดานนี้ เช่นนั้นเชิญเจ้าลองดูเถิด อย่าให้ผู้อื่นมองข้ามความสามารถของเจ้าไป!”เยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้ว “ใช่แล้ว หากเจ้าเก่งเจ้าก็เล่นเองสิ!”หานอวี่เฟยไม่มีไหวพริบ จึงทนการยั่วยุเช่นนี้ไม่ได้ นางออดอ้อนซ่างกวนซีทันที “เสด็จพี่องค์รัชทายาท ท่านก็รู้แต่จะช่วยนาง ลองก็ลอง ข้าไม่กลัวหรอก!”โอ๊ย ๆ ๆ…เมื่อเห็นหญิงอ้วนน้ำหนักสองร้อ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 307 ทำให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตา

    ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือเติบโตมาในเล้าหมู!อย่าว่าแต่เล่นหมากเลย เยี่ยนเว่ยฉือสามารถเขียนชื่อตัวเองได้หรือไม่นับว่ายังยากที่จะบอกให้แก้หมาก นั่นไม่ใช่การจงใจดูถูกนางหรอกหรือ?อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้ว “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะให้ฝ่าบาททรงแก้หมากนี่นา เหตุใดยามนี้จึงหันเหมาสนใจพระชายาองค์รัชทายาทเล่า? หรือว่าจงใจหาเรื่อง?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นยิ้ม “เหตุใดรัฐทายาทอวี๋ต้องตื่นเต้นเช่นนี้ด้วย ที่จริงเสด็จพ่อเคยตรัสไว้ ไม่ว่าผู้ใดจะแก้หมาก ขอเพียงแต่เป็นชาวต้าหลี่ หากสามารถแก้หมากกระดานนี้ได้ก็ถือว่าเป็นฝีมือของฮ่องเต้แห่งต้าหลี่ เราก็ยินดีจะมอบหมากหยกเย็นและหยกอุ่นให้ด้วยความเต็มใจ”ขอเพียงแต่เป็นชาวต้าหลี่ก็พอหรือ?ทั้งต้าหลี่มีประชากรมากมาย อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นกล้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าหมากกระดานนี้คงแก้ยากยิ่งอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นมองไปยังเยี่ยนเว่ยฉือ ก่อนกล่าวต่อ “เป็นอย่างไร พระชายา จะลองดูหรือไม่? ท่าน…คงไม่กลัวหรอกกระมัง?”เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก “ข้าไม่ได้กลัว!”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นหัวเราะเยาะ “เช่นนั้นก็เชิญ!”เยี่ยนเว่ยฉือแบมือ “แต่ข้าเล่นไม่เป็น!”เล่นไม่เป็น?เมื่อได้ยินเช่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 306 หมากหยกเย็นและหยกอุ่น

    เยี่ยนเว่ยฉือแบมือกล่าว “องค์หญิงห้าตรัสเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? หม่อมฉันอยู่ในที่ของหม่อมฉัน ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน มันฆ่าตัวตายเอง เกี่ยวอะไรกับหม่อมฉัน?”ใช่แล้ว ทุกคนเห็นว่าเป็นปลาตัวนั้นกระโดดออกมาเอง เกี่ยวอะไรกับเยี่ยนเว่ยฉือ?ซ่างกวนซีสะบัดแขนเสื้อ กล่าวอย่างเฉยเมย “ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีวาสนาได้รับความหวังดีจากท่านทั้งสอง”เมื่อซ่างกวนซีกล่าวจบ ก็กลับไปยังที่นั่งของตน สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆฮ่องเต้คังอู่บนที่สูงกลับทรงผิดหวัง ตรัสถามอย่างอดไม่ได้ “นี่…เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ น่าเสียดายจริง ๆ ไม่ทราบว่าปลาที่ตายแล้วยังมีประโยชน์หรือไม่?”สองพี่น้องชาวเป่ยอิ้นสบตากัน อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ที่จริงแล้ว มัจฉาทองคำจิ่วหยางต้องรับประทานเข้าไป เพียงแต่หากองค์รัชทายาทไม่ได้ป่วยด้วยพิษกู่เย็น หากรับประทานเข้าไปโดยพลการ เกรงว่าจะทำร้ายตนเอง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต้องทดลองก่อนจึงจะตัดสินใจได้ว่าจะใช้ได้หรือไม่ เมื่อไม่ได้ทดลอง ตอนนี้ปลาตายแล้ว ก็ไม่สามารถรับประทานโดยพลการได้ฮ่องเต้คังอู่ถอนหายใจ ทอดพระเนตรพระโอรสด้วยความสงสารซ่างกวนซีสงบนิ่งเช่นเคย แย้มพระสรวลให้พระบิดาเล

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 305 ปลาหงายท้อง

    เมื่อคิดได้ดังนั้น ซ่างกวนซีก็เอ่ยปากทันที “เสด็จพ่อ กระหม่อม…”“องค์รัชทายาท สิ่งที่ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้ว รีบสัมผัสเถิด อย่าให้ฝ่าบาททรงกังวลไปเลย” เยี่ยนเว่ยฉือจับมือของซ่างกวนซีแล้วลูบเบา ๆทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน การกระทำที่ใกล้ชิดเช่นนี้จึงดูไม่แปลกแต่ซ่างกวนซีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเยี่ยนเว่ยฉือทาบางสิ่งบางอย่างลงบนมือของเขาเขาหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ ใช้สายตาเอ่ยถามเยี่ยนเว่ยฉือกลับยิ้มตาหยี กล่าวต่อไป “ไปเถอะ ไปเถอะ หม่อมฉันก็อยากจะเห็นปลาที่เก่งกาจตัวนี้เช่นกัน”เมื่อซ่างกวนซีเห็นท่าทีที่มั่นใจของเยี่ยนเว่ยฉือ ก็รู้ว่าการที่เขาไปสัมผัสปลาคงไม่มีปัญหาอะไรจึงลุกขึ้นกล่าวว่า “เสด็จพ่อ กระหม่อมจะไปทดลองดูพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้คังอู่พยักหน้า สายตาจับจ้องไปที่ซ่างกวนซีคนอื่น ๆ ก็จับจ้องไปที่ซ่างกวนซีเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง ฝ่ามือมีเหงื่อออกซ่างกวนซีมาถึงข้างอ่างปลา พบว่าน้ำในอ่างมีไอน้ำระอุขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอุณหภูมิน้ำค่อนข้างอุ่นเมื่อมองดูปลาในอ่าง จึงพบว่ามันตัวใหญ่มาก อย่างน้อยก็สองฉื่อเข้าไปแล้วปลาทั้งตัวเป็นสีทอง เกล็ดเป็นประกายดูสวยงา

DMCA.com Protection Status