Home / โรแมนติก / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน

Share

บทที่ 2 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน

Author: โม่เชียนซาง
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
อะไรนะ...ที่ว่าเชี่ยวชาญเรื่องนี้ดีหมายความว่าอย่างไร?

หรือสตรีนางนี้เป็นสตรีจากหอนางโลม? ซ่างกวนซีมองคนตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ

ถึงอย่างไร เยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นคนรักษาสัจจะ นางจึงไปปลดผ้ารัดเอวของซ่างกวนซี

แม้ใบหน้าของซ่างกวนซีจะถูกปกคลุมไปด้วยเส้นผมที่ยุ่งเหยิง ทว่าเขาก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา

เขาคว้าข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือสุดกำลัง และตะโกนด้วยความโกรธ “นางสารเลว อย่ามาแตะ…”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ซ่างกวนซีก็รู้สึกว่าตนขยับตัวไม่ได้แล้ว

ขณะที่เขาหลุบตาลงมามอง ก็เห็นว่าในมือของเยี่ยนเว่ยฉือกำลังถือเข็มเงินเจาะร่างกายของเขา ซึ่งไม่รู้ว่านางทำเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“เจ้ามาเพื่อสังหารข้ารึ?” ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ว่าใครกันที่ทำเรื่องที่เกินความจำเป็น ส่งมือสังหารมาปลิดชีพเขาเช่นนี้

เยี่ยนเว่ยฉือถอยห่างจากซ่างกวนซี ขณะที่ถอดเสื้อผ้าของเขาออก แล้วพูดว่า “ถึงฆ่าท่านไป ข้าก็คงไม่รอดอยู่ดี ตอนนี้ท่านคือความหวังสุดท้ายของข้า”

ซ่างกวนซีกัดฟันแล้วพูดว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าไม่ใช่คุณหนูรองจวนติ้งหย่วนโหว*แน่!”

เยี่ยนเว่ยฉือหยุดชะงัก จากนั้นก็หยิบห่อเข็มออกมาจากแขนเสื้อ รวมไปถึงขวดโหลจำนวนมากที่ซ่างกวนซีไม่รู้จัก

นางเทน้ำจากกาน้ำชาที่อยู่ด้านข้างและทำความสะอาดบาดแผลของซ่างกวนซี ขณะนั้นก็ตอบว่า “โชคร้ายที่ข้าไม่ใช่เยี่ยนชิงซูคุณหนูรองผู้สูงศักดิ์แห่งจวนโหว ข้าคือพี่สาวของนาง เป็นลูกอนุชื่อเยี่ยนเว่ยฉือ”

พูดเพียงเท่านั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็หยิบเข็มเงินขึ้นมา เข็มนั้นส่องแสงแวววาว นางขยิบตาให้ซ่างกวนซีแล้วพูดว่า “แต่ท่านน่ะโชคดีมาก ประจวบเหมาะกับที่ท่านกำลังจะตาย และบังเอิญว่าข้าสามารถช่วยชีวิตคนได้”

ทันทีที่พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็จิ้มเข็มลงไปที่ตัวซ่างกวนซีหลายครั้ง

ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าพลังชี่แต่กำเนิดที่ถูกปิดกั้น เริ่มไหลเวียนได้สะดวกขึ้นแล้ว

ความรู้สึกแสบร้อนภายในค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย

เขามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความเหลือเชื่อและถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้า?”

เยี่ยนเว่ยฉือไม่หยุดจิ้มเข็มในมือ ทว่าก็พูดอย่างจนใจว่า “หากพูดอย่างสวยหรู ข้าก็เป็นหมอคนหนึ่ง และการปฏิเสธที่จะช่วยชีวิตคนไข้ถือว่าผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ แต่หากพูดอย่างเห็นแก่ตัว การหลับนอนด้วยกันเพียงครั้งเดียวก็ยากที่จะตั้งครรภ์ได้ ข้าจึงต้องใช้เวลากับท่านทั้งคืน เพื่อให้แน่ใจว่าจะตั้งครรภ์ลูกของท่าน มีเด็กในท้อง ข้าก็จะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้”

พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ขยิบตาให้ซ่างกวนซีแ ละพูดหยอกล้อ “เป็นอย่างไร ท่านตั้งตารออยู่ล่ะสิ?”

“ไร้ยางอายนัก!” ซ่างกวนซีจ้องมองนางด้วยความรังเกียจ

เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มมุมปาก พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ว่ากันว่า ยามที่คนเราใกล้ตายมักจะพูดแต่สิ่งดี ๆ ทว่าตอนนี้ท่านยังมีแรงด่าข้า แสดงว่าคงจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่เป็นไร พวกเรายังมีเวลาเหลือเฟือ ไม่แน่ว่าพอนานไป เราอาจจะเกิดความพึงใจต่อกันก็ได้”

“ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” ซ่างกวนซีเกลียดการถูกสตรีเช่นนี้ล้อเลียน

เยี่ยนเว่ยฉือดึงเข็มเงินกลับมาทีละเล่ม จากนั้นจึงเริ่มใส่ยาและพันแผลให้เขา ในขณะที่ทำเช่นนั้น นางก็พูดต่อ “โอ้ ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า และไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าน!”

ทันทีที่เยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ เสียงของขันทีก็ดังมาจากด้านนอก “เหตุใดถึงเงียบเช่นนี้ หรือว่าองค์รัชทายาทสิ้นพระชมน์ไปแล้ว? เช่นนั้นจะมีทายาทได้อย่างไรกัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบนอนลงบนตัวซ่างกวนซี สวมกอดพลางออกแรงกลิ้งพาเขาเข้าไปในกองฟาง

เส้นฟางที่รกรุงรังปกคลุมร่างของทั้งสองคน แต่ไม่สามารถกลบเสียงของพวกเขาได้

เยี่ยนเว่ยฉือเริ่มสวมบทนักแสดงและเริ่มร้องตะโกนว่า “องค์รัชทายาท อย่านะเพคะ โปรดเบาแรงหน่อยสิเพคะ”

ซ่างกวนซีรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงทำได้เพียงส่งเสียงออกไปเท่านั้น

ทว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็ปิดปากของเขาเอาไว้ ทำให้เขาพูดไม่ได้

“องค์รัชทายาททรงมีกำลังวังชาล้นเหลือ ดูไม่เหมือนคนป่วยแม้แต่น้อย หลายวันต่อจากนี้หม่อมฉันจะใช้เวลากับพระองค์ หม่อมฉันเชื่อว่าจะสามารถมีทายาทให้พระองค์ได้อย่างแน่นอน โอ๊ย..องค์รัชทายาท ท่านร้ายกาจเหลือเกิน!”

เยี่ยนเว่ยฉือส่งเรียงร่ำร้องอย่างรัญจวนใจจนขันทีที่หน้าประตูอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ “องค์รัชทายาทตกกระป๋องนั่นช่างชั่วช้าสามานย์สิ้นดี ก่อนตายก็ยังจะมีอารมณ์ทำตัวมักมาก! ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปแจ้งข่าวที่จวนท่านมหาเสนาบดี”

เมื่อได้ยินว่าคนที่อยู่ด้านนอกเดินจากไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้นจากกองฟาง จู่ ๆ นางก็ถูกซ่างกวนซีกอดรัดเอวไว้แน่น

“เป็นไปได้อย่างไร…”

“ข้าขยับได้อย่างไรน่ะรึ?” ซ่างกวนซียยิ้มเยาะและพูดว่า “ในตัวของข้ามีพิษกู่เย็น พิษชนิดอื่น ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายก็เปรียบเสมือนเป็นการป้อนอาหารให้มัน เจ้าคิดว่าพิษของเจ้าจะสามารถควบคุมข้าได้นานแค่ไหนกัน?”

เยี่ยนเว่ยฉือสูดหายใจเฮือก และเริ่มเสียใจกับสิ่งที่ตนเพิ่งพูดไป

ทว่าซ่างกวนซีก็ไม่เปิดโอกาสให้นางได้เสียใจ

เขาพลิกตัวเยี่ยนเว่ยฉือทันที พลางกดนางไว้ใต้ร่าง

“ปล่อยข้านะ!” เยี่ยนเว่ยฉือพยายามผลักคนบนร่างของนางออกไป แต่ซ่างกวนซีก็ใช้เวลาชั่วพริบตากดจุดฝังเข็มของนาง

จากนั้นก็มีเสียงผ้าฉีกขาด

เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกหนาวเย็นบริเวณหน้าอก เสื้อผ้าของนางกลายเป็นเศษผ้าไปแล้ว

ซ่างกวนซีมองผิวขาวเนียนราวเนื้อหยกและกระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเยี่ยนเว่ยฉือ เขายิ้มมุมปากพลางพูดว่า “ไม่ว่าเด็กที่กำเนิดออกมาจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับข้าแล้ว!”

*โหว เป็นฐานันดรศักดิ์เทียบได้กับเจ้าพระยา

Related chapters

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 3 ลิขิตของสวรรค์

    เยี่ยนเว่ยฉือตื่นตระหนกในทันที!นางไม่รู้เลยว่าองค์รัชทายาทตกอับที่ป่วยและไร้ประโยชน์ผู้นี้จะมีพิษกู่อยู่ในร่างกาย“อย่า...อย่าทำเช่นนี้เลย มีเรื่องอะไรก็พูดกันดี ๆ เถอะ ถึงอย่างไรข้าก็ช่วยท่านไว้นะ!”ซ่างกวนซีถอดเสื้อผ้าของเขาที่มีอยู่บนตัวชิ้นเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งแต่ไม่แน่นเกินไปแม้ตอนนี้ตามเนื้อตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน แต่กลับเจือความเย้ายวนอันวิปริตที่อธิบายไม่ถูกเอาไว้ใบหน้าของเยี่ยนเว่ยฉือเปลี่ยนเป็นสีแดง และเริ่มเขินอายโดยไม่รู้ตัวซ่างกวนซีโน้มลงบีบคางของเยี่ยนเว่ยฉือเพื่อบังคับให้นางมองเขา แล้วพูดต่อ “ใช่ เจ้าช่วยข้าไว้ ดังนั้นข้าก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน ข้าทำให้เจ้ามีลูกได้อย่างแน่นอน”ทันทีที่เขาพูดจบ ซ่างกวนซีก็ยื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือหากผ้าชิ้นนี้ถูกฉีกออก องค์รัชทายาทผู้ไร้ค่าก็จะตกอยู่ในห้วงเสน่หา... แม้กำลังจะตายเป็นผีแต่ก็คงยังอยากเสพกามารมณ์“ชั่วช้าสามานย์รึ? เหอะ ในเมื่อทุกคนต่างด่าทอข้าเช่นนี้ ไหน ๆ จะตายอยู่แล้วก็ขอทำเรื่องนั้นให้เป็นจริงเสียเลย! ทำให้นางตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็นการช่วยชีวิตนางไปด้วย” เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็ไม่ล

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 4 องค์รัชทายาทนกเขาไม่ขัน?

    เยี่ยนเว่ยฉือขมวดคิ้วมองเขา “กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งอย่างไรเล่า!”ซ่างกวนซีไม่เข้าใจ “หมายความว่าอย่างไร?”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ท่านคลายจุดชีพจรให้ข้าก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง”ขณะนี้ชะตาชีวิตของทั้งสองคนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ถือว่าคนทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างกัน ซ่างกวนซีจึงไม่กลัวว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะพูดโกหกหากเขาตาย นางก็ต้องถูกฝังตามเขาไปด้วยดังนั้นซ่างกวนซีจึงคลายจุดชีพจรของเยี่ยนเว่ยฉือทันทีทว่าเยี่ยนเว่ยฉือที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ กลับใช้เข็มแทงเข้าที่ต้นขาของซ่างกวนซี อาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซ่างกวนซีมองนางอย่างเหลือเชื่อ พลางพูดอย่างยากลำบาก “จะ...เจ้าหลอกข้า เจ้าเป็นมือสังหารจริง ๆ!”เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นนั่งและผลักซ่างกวนซีให้ล้มไปที่พื้นขณะที่สวมเสื้อผ้า นางก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าจะฆ่าท่านกับผีน่ะสิ! ก็พูดอยู่ว่าจะใช้กลยุทธ์ตายแล้วเกิดใหม่ หากท่านไม่ตายแล้วจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? ในเมื่อร่างกายท่านมีพิษกู่เย็น ก็อย่าโทษข้าที่ลงมือหนักหน่อยแล้วกัน!”ซ่างกวนซีไม่ได้ยินประโยคหลังที่เยี่ยนเว่ยฉือพูด เพราะเขาได้เข้าสู่สภาวะเสม

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 5 จุดไฟเผาตัวเอง

    “บังอาจ!” ฮองเฮาก้าวมาข้างหน้าพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาเย็นชา และตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินลงโทษซ่างกวนซี และฝ่าบาทก็เป็นผู้ปลดซ่างกวนซีออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วยการบอกว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ความ จะไม่ถือเป็นการตั้งคำถามกับคำตัดสินของฝ่าบาทหรือ?ดูเผิน ๆ คำพูดของฮองเฮานั้นก็นับว่าไม่ผิดอะไรแต่เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่ามีคำว่า “น้ำท่วมปาก” ถูกเขียนบนพระพักตร์ของฮ่องเต้เอาไว้ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง นางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พูด ดังนั้นนางจึงต้องบอกเรื่องสำคัญก่อนที่ฮองเฮาจะสั่งประหารนางเยี่ยนเว่ยฉือจึงตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล “ฝ่าบาททรงพิจารณาเถิดเพคะ องค์รัชทายาททรงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน หม่อมฉันขอทูลถามว่าคนที่นกเขาไม่ขันจะขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้อย่างไร? องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!”คำพูดเหล่านั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจทุกคนต่างอ้าปากค้างจากความตกใจ!“จะ...เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจเยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะเพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 6 พระชายาองค์รัชทายาท

    แม้สถานการณ์จะค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังจัดการได้เยี่ยนเว่ยฉือรีบตะโกนเสียงดัง “ไม่ได้ ท่านฆ่าข้าไม่ได้นะ!”“ไม่ได้?!” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ เกือบจะคิดว่าตัวเองฟังผิดไปนางคิดว่านางเป็นใคร ถึงได้กล้าที่พูดจาเช่นนี้กับเจ้าแห่งหกตำหนักฝ่ายใน ทั้งยังพูดคำว่าไม่ได้ออกมาอีก?ในขณะที่ฮองเฮากำลังตกตะลึง เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบมองไปที่ฮ่องเต้คังอู่และพูดต่อ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าองค์รัชทายาททรงนกเขาไม่ขัน ดังนั้นจึงถือว่าหม่อมฉันเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้ด้วย คดีนี้ยังต้องมีการพิจารณาคดีใหม่ ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนเลย หากมาฆ่าพยานเสียก่อนคงไม่เหมาะนักใช่หรือไม่เพคะ?”ฮ่องเต้คังอู่ทรงขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ ครู่หนึ่งพระองค์สับสนไม่รู้ว่านางเป็นสตรีตระกูลใดแต่สตรีนางนี้กลับกล้าปฏิเสธฮองเฮาต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งนั่นทำให้พระองค์ชอบพระทัยเป็นอย่างมากเมื่อทอดพระเนตรผ่านร่างเล็ก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือไป พระองค์ก็ทรงเห็นร่างไร้ชีวิตที่มีบาดแผลทั่วร่างกายซ่างกวนซีอยู่ข้างหลังนาง ทำให้ความโศกเศร้าและความเกรี้ยวโกรธของฮ่องเต้คังอู่ถึงจุดสูงสุดเ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 7 ชันสูตรศพ

    เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ชันสูตรศพ ท่านทำไม่เป็นหรือ? ไม่เป็นไร ข้าทำเอง!”เยี่ยนเว่ยฉือมองผางเหออวี้พร้อมรอยยิ้ม ทำท่าทางกระตือรือร้นที่จะได้ทำหน้าที่ผางเหออวี้ขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้า...เจ้าบ้าไปแล้วรึ? สวีเหม่ยเหรินกับองค์ชายน้อยสิ้นพระชมน์ไปหลายวันแล้ว อีกทั้งศพก็อยู่ในโลง กำลังรอทำพิธีฝัง เจ้าจะไปรบกวนวิญญาณคนที่ตายไปอย่างสงบแล้วทำไม?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างไม่เห็นด้วย “ท่านใต้เท้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ในมุมมองของข้า มีเพียงการหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและคืนความยุติธรรมแก่ผู้ตายเท่านั้น นั่นถึงจะทำให้ผู้ตายจะได้พบความสงบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ตามกฎของวังหลวง พระสนมที่มีบุตรจะต้องมีการตั้งศพไว้ในห้องนอนเป็นเวลาเจ็ดวันจึงจะทำการฝังได้ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่เจ็ดพอดี!”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชันสูตรศพฮองเฮานั่งอยู่บนที่ประทับสูงสบสายตากับซ่างกวนหลี โอรสของนางซ่างกวนหลีพยักหน้าเล็กน้อย เป็นการบอกว่าเยี่ยนเว่ยฉือพูดถูก ร่างของสวีเหม่ยเหรินยังไม่ถูกฝังฮองเฮาขมวดคิ้วพลางคิดว่าจะขวางอีกฝ่ายอย่างไร ขณะนั้นฮ่องเต้คังอู่ก็ตรัสอย่างจริงจัง

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 8 ถูกวางยาพิษ

    “อะไรนะ? เจ้าพูดว่าอะไร?!” ฮ่องเต้คังอู่ทรงเดินอย่างรวดเร็วไปหาเยี่ยนเว่ยฉือเยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่บาดแผลบริเวณลำคอของสวีเหม่ยเหริน พลางตอบอย่างสงบว่า “บาดแผลทั้งหมดบนร่างนี้แบ่งออกเป็นบาดแผลก่อนเสียชีวิตและบาดแผลหลังเสียชีวิต สำหรับบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ผิวหนังจะมีการหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รอบ ๆ บาดแผลจะมีก้อนเลือดสีดำคล้ำ และหากเลือดไหลออกมากก็อาจมีรอยห้อเลือดด้วย ซึ่งนั่นเป็นกลไลตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นหลังเสียชีวิต ผิวหนังบริเวณบาดแผลจะเรียบเนียน เนื่องจากร่างกายไม่มีกระบวนการแข็งตัวของเลือดแล้ว ดังนั้นบริเวณบาดแผลก็จะไม่มีลิ่มเลือดหรือรอยห้อเลือด เช่นเดียวกับที่เห็นในตอนนี้เพคะ”ฮ่องเต้คังอู่และผางเหออวี้ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ต่างก็เข้ามาจับตาดูอย่างใกล้ชิด เห็นว่าลักษณะของร่างตรงหน้าตรงกับที่เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวไว้ไม่มีผิดเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ความจริงที่เรียบง่ายเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ชันสูตรศพที่มีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยก็สามารถตรวจพบเบาะแสนี้ได้ แต่เหตุถึงไม่มีใครพูดออกมาเลยเล่า?”ผางเหออวี้สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าหลบตาเยี่ย

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 9 ทุกการสัมผัสย่อมทิ้งร่องรอยเอาไว้

    คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สงสัยเช่นกันสาวน้อยที่เสื้อผ้าผมเผ้ารุงรังผู้นี้เป็นใครกันแน่?เหตุใดถึงได้รู้มากเช่นนี้?ฮองเฮาพูดเสียงแข็งว่า “เหลวไหล เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยจะไปรู้อะไร? อย่าคาดเดาอะไรเรื่อยเปื่อย!”เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากพูดว่า “การกล้าตั้งสมมติฐานและตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ใช่วิธีการพื้นฐานในการคลี่คลายคดีหรือเพคะ? อีกอย่าง สิ่งที่พวกท่านพบในร่างของสวีเหม่ยเหรินไม่มีใครเคยเห็นว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทนี่เพคะ!”ทันทีที่พูดจบ บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่อยู่ในเหตุการณ์ บ้างก็งุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกบ้างก็ก้มหน้าก้มตา เยี่ยนเว่ยฉือผู้นี้ช่างพูดได้อย่างไม่อายปากเอาเสียเลย!เมื่อเห็นจากสายตาของฮองเฮาเหมือนต้องการจะโต้เถียง เยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเพคะ ในเมื่อตอนนี้ก็ได้รู้สาเหตุการเสียชีวิตของสวีเหม่ยเหรินแล้ว หม่อมฉันแค่ต้องตามหาฆาตกรตัวจริงเท่านั้น ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้องค์รัชทายาทได้อย่างไรเล่าเพคะ!”ฮ่องเต้คังอู่ตรัสถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าสามารถตามหาฆาตกรตัวจริงได้หรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าและพูดต่อ “ทูลฝ่

    Last Updated : 2024-10-29
  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 10 ไม่เปลี่ยนสีเลยหรือ?

    ทุกคนยืนชูคอมองอ่างทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งส่วนฮองเฮานั้นถึงกับบีบมือเข้าหากัน แลดูค่อนข้างกังวลทว่าหลังจากที่ทดสอบนางกำนัลและขันทีไปกลุ่มหนึ่ง ก็ไม่มีมือของใครเปลี่ยนสีเลยบุรุษชุดสีชมพูที่อยู่ในความมืดขมวดคิ้วพลางพูดว่า “เฮ้อ วิธีการของนางไม่ได้ผล!”บุรุษชุดสีทองแค่นเสียงเบา ๆ “ข้าคิดว่านางจะฉลาดหลักแหลมเสียอีก ไม่เพียงนางทำลายแผนของศิษย์พี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้นางได้เอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย”เป็นดังที่คาดไว้ ทันทีที่ทางนี้เอ่ยจบฮองเฮาที่อยู่ทางนั้นก็เริ่มโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือ“เจ้าช่างบังอาจที่กล้าหลอกใช้ฝ่าบาทกับข้า เจ้าลองใช้สองตามองดูสิ มีฝ่ามือของใครเปลี่ยนสีหรือไม่ พูดจาเหลวไหลยิ่งนัก! ใครก็ได้มาลากนาง…”ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็แคะหูแล้วพูดด้วยความรำคาญ “ฮองเฮาเพคะ พวกเรายืนใกล้กันมากเช่นนี้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนหูหนวก”หลังจากพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ให้โอกาสให้ฮองเฮาได้ตำหนิตนต่อ พลางชี้ไปยังเฟินเอ๋อร์ที่ยืนหลบมุมอยู่ในกลุ่มคนรับใช้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท นางคือฆาตกรเพคะ”อะไรนะ?!เฟินเ

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 247 บุตรสาวยังเล็กเกินไป

    ด้วยเหตุนี้อันกั๋วกงจึงกลับไปยังจวนกั๋วกงด้วยใบหน้าที่ยับย่นเป็นรอยริ้วอันกั๋วกงเพิ่งก้าวเข้าประตูบ้าน บุตรสาวคนเล็กอันหยวนจูก็วิ่งเข้ามาหา“ท่านพ่อ ท่านพ่อ! ท่านพ่อกลับมาแล้ว!”อันกั๋วกงอมยิ้มพลางลูบหัวบุตรสาว กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “จูเอ๋อร์ตัวสูงขึ้นแล้ว น่าเสียดาย กระนั้นก็ยังช้าเกินไป”อันหยวนจูอายุเพียงสิบสองปี จึงไม่เข้าใจถ้อยคำของอันกั๋วกงนักนางเอียงคอมองอันกั๋วกง กล่าวด้วยความสงสัยว่า “ท่านพ่อว่าจูเอ๋อร์ตัวเตี้ยหรือ พี่ชายกล่าวว่า จูเอ๋อร์ต้องอายุสิบห้าปีขึ้นไปจึงจะตัวสูงขึ้น”พี่ชายที่นางกล่าวถึง คือบุตรชายคนโตของอันกั๋วกง อันหยวนชิงอันหยวนชิงได้ยินบทสนทนาของพ่อลูก จึงเดินออกมาจากห้อง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “น้องสาว รีบไปบอกให้ห้องครัวเตรียมอาหารเถิด ท่านพ่อเข้าเฝ้ามาเป็นเวลานาน ย่อมต้องหิวแล้ว”อันหยวนจูพยักหน้า แล้วก็วิ่งออกไปอย่างร่าเริงอันกั๋วกงมองบุตรชายรูปงามของตน พลางถามด้วยใบหน้าย่นว่า “เจ้ากลับมาจากสำนักบัณฑิตแล้วหรือ การสอบจอหงวนในฤดูใบไม้ร่วงใกล้เข้ามา เจ้าควรตั้งใจเตรียมตัวสอบเสีย”อันหยวนชิงช่วยอันกั๋วกงถอดเครื่องแต่งกายขุนนาง พลางกล่าวว่า “ท่านพ่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 246 ให้องค์ชายสามอภิเษกสมรส

    “ไม่อาจอภิเษกได้ แต่ไม่ใช่เพราะองค์หญิงนั้นรูปโฉมไม่งดงาม หากแต่เพราะหลังจากอภิเษกแล้ว ท่านก็จะ… หมดสิ้นโอกาสในราชบัลลังก์!” อันกั๋วกงสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนักซ่างกวนหลีไม่เข้าใจความหมาย จึงปรายตามองด้วยความสงสัยท่าทางที่ดูราวกับไม่รู้เรื่องราวใดๆ ทำให้อันกั๋วกงรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าส่วนองค์ชายสี่ซ่างกวนเจวี๋ยลูบจมูกพลางเงียบงัน ชัดเจนว่าเข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้แล้วอันกั๋วกงอมยิ้มพลางหันไปทางซ่างกวนเจวี๋ย แล้วกล่าวว่า “องค์ชายสี่ พวกท่านทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องอันแนบแน่น หากว่าเรื่องนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตให้แก่เป่ยอิ้นแล้ว ก็จำเป็นต้องทรงขอความช่วยเหลือจากองค์ชายสี่แทน”ซ่างกวนเจวี๋ยถึงกับตกตะลึงเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า “อันกั๋วกง ใช่ว่าท่านกำลังทำลายข้าอยู่หรือ เสด็จพี่รองไม่อภิเษก ท่านกลับให้ข้าอภิเษกแทนรึ?”อันกั๋วกงถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย องค์ชายสี่ผู้นี้ฉลาดหลักแหลมนัก เขายังไม่ได้กล่าวสิ่งใดเลย ซ่างกวนเจวี๋ยกลับคาดเดาเจตนาของเขาออกแล้วอันกั๋วกงกล่าวต่อว่า “ไม่ใช่ชนชาติเดียวกัน ใจย่อมไม่ใช่หนึ่งเดียวกัน องค์หญิงเป่ยอิ้นนั้นจะขึ้นเป็นฮ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 245 สูงแปดฉื่อ เอวใหญ่ดุจถังน้ำ

    อันกั๋วกงได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ท่านอ๋องกล่าวเช่นนี้ผิดแล้ว ทหารองครักษ์เมืองหลวงทั้งกองทัพเสินอู่ เสินเช่อ หลงอู่ และหลงฉี ล้วนเป็นขุนพลที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านอ๋อง ข่าวสารของท่านอ๋องจะช้ากว่าข้าได้อย่างไร!""เจ้าหมายความว่าอย่างไร? จะบอกว่าข้าสมคบคิดกับชาวเป่ยอิ้นรึ?" อ๋องจ่างซิ่นโกรธจนหนวดเคราขยับอันกั๋วกงยิ้ม "นั่นคงไม่ใช่ ท่านอ๋องจงรักภักดีต่อแผ่นดินมาโดยตลอด เพียงแต่เกรงว่า… อาจมีคนปิดบังเบื้องบนพ่ะย่ะค่ะ"น้ำเสียงประชดประชัน ทำให้อ๋องจ่างซิ่นอดไม่ได้ที่จะมองค้อนเขาฮ่องเต้คังอู่ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์เห็นทั้งสองโต้เถียงกันก็ไม่ได้ขัดจังหวะ เพียงแต่กล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ว่า "พอแล้ว พอแล้ว อย่าทะเลาะกันเลย ในเมื่อเป่ยอิ้นมาเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ไม่ได้มาประกาศสงคราม พวกเราก็ต้อนรับเขาด้วยไมตรีจิตก็พอ"เอ่ยจบ สายตาของฮ่องเต้คังอู่ก็กวาดมองเหล่าขุนนาง สุดท้ายก็มาหยุดที่ซ่างกวนซี "ชูจิ่ง งานราชการในท้องพระโรงด้านอื่นๆ เจ้าคงไม่ถนัด เช่นนั้นเรื่องต้อนรับคณะทูตจากเป่ยอิ้นก็มอบให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน"สิ้นสุรเสียง ทุกคนก็ยืดตัวตรงโดยไม่รู้ตัว ยืดคอมองซ่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 244 แต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี?

    พั่วจวินกราบทูล "เรื่องราวโดยละเอียด กระหม่อมยังสืบเสาะได้ไม่ชัดเจนพ่ะย่ะค่ะ แต่เมื่อคืนวาน นางน่าจะไปล้างแค้นลู่อู๋ พระชายาผู้นั้นมีรูปโฉมงดงามและฝีมือร้ายกาจ เล่นงานลู่อู๋จนไม่อาจตอบโต้ได้ เกือบจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว!"อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อเขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า "ข้าได้ยินมาว่าซ่างกวนซีกลับเมืองหลวงก็แต่งงานกับหญิงเลี้ยงหมูอย่างลับ ๆ แต่ไม่เคยได้ยินว่านางผู้นี้เก่งกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่ลู่อู๋ที่อยู่ในอันดับสี่ของบัญชีอู๋ซินยังมิอาจเป็นคู่มือของนาง?"พั่วจวินครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน เมื่อคืนเขาไม่ได้เห็นเยี่ยนเว่ยฉีลงมือกับตาเยี่ยนเว่ยฉีปราบลู่อู๋ได้อย่างไร เขาก็ไม่อาจทราบได้แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้ชัดเจน"ฝ่าบาท พระชายาผู้นั้น นางชำนาญด้านพิษพ่ะย่ะค่ะ! เมื่อคืนวาน..." พูดถึงตรงนี้ พั่วจวินก็มีสีหน้าละอายใจ"เจ้าพลาดท่าเสียทีแก่นางเช่นกันรึ?" อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวเอ่ยถามพั่วจวินพยักหน้า กราบทูลเรื่องราวการต่อสู้ที่บ้านร้างเมื่อคืนวานตามความเป็นจริงอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวสูดหายใจเข้าลึก ๆ "ซ่างกวนซีคนเดียวก็รับมือได้ยากอยู่แล้ว ไม่นึกเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 243 ประหลาดใจ

    จวนองค์รัชทายาทปูด้วยอิฐสีเขียว ไม่อาจมีรอยเท้าโคลนได้รอยเท้าเช่นนี้ แสดงว่ามีผู้ไปยังสถานที่ที่เปื้อนโคลนแล้วกลับมาและบุคคลนั้น… ก็คือเยี่ยนเว่ยฉือที่อ้างว่าตนนอนเปลือยเปล่าซ่างกวนซีมองประตูห้องที่ปิดสนิทอย่างลึกซึ้ง ไม่ได้เปิดโปงคำโกหกที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่องของนาง แต่ก้าวเดินไปเข้าเฝ้า…… เมืองหลวง โรงเตี๊ยมที่ห่างไกลหลังเที่ยงวัน พิษในร่างกายของพั่วจวินก็สลายไป เขากลับมายังโรงเตี๊ยมที่พี่น้องจากเป่ยอิ้นพักอาศัยอยู่เมื่อเข้าประตู ก็ได้ยินเสียงถามขององค์หญิงแห่งเป่ยอิ้น อวี้ฉืออวิ๋นจิ่น“ตลอดทั้งเช้า เจ้าหายไปไหนมา?”พั่วจวินตอบด้วยความเคารพ “ทูลองค์หญิง เมื่อคืนนี้กระหม่อมพบปัญหาเล็กน้อย เฉี่ยงหวู่ถูกสังหาร กระหม่อมไล่ตามฆาตกร ต่อสู้กับเขาตลอดคืน”“อะไรนะ?” อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นผุดลุกขึ้น “เฉี่ยงหวู่ตายแล้วหรือ?”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ใครฆ่าเฉี่ยงหวู่?”พั่วจวินกล่าวต่อ “เป็นฝูกวงแห่งศาลาจิ่วโยวพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝูกวง?” สองพี่น้องต่างส่งเสียงด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าต่างประหลาดใจอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวกล่าว “ฝูกวงไม่ได้ปรากฏตัวมาสามปีแล้ว ในยุทธภพต่างกล่าวกั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 242 นอนเปลือยเปล่า

    ฉับพลัน! เยี่ยนเว่ยฉือหยิบตะเกียงไฟขึ้นจุดตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะ แสงสว่างวาบขึ้น ทว่าทันใดนั้น เสียงของซ่างกวนซีก็ดังมาจากนอกห้อง“เว่ยฉือ เจ้าตื่นแล้วหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบปีนขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วขอให้รอดพ้นเถิด! ชุดแฝงตัวของนางยังไม่ได้เปลี่ยนเลย!เหตุใดซ่างกวนซีจึงมาหาขณะนี้?เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทุกที เยี่ยนเว่ยฉือไม่อาจคิดมากได้ จึงรีบคลุมผ้าห่มทั้งผืนห่อตัวไว้เสียงไม้กระทบกันดังเอี๊ยดอ๊าด ประตูห้องถูกเปิดออกซ่างกวนซีในชุดประจำตำแหน่งก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม“ฝะ… ฝ่าบาท...” เยี่ยนเว่ยฉือตัวสั่น เหงื่อเย็นไหลอาบกายซ่างกวนซีมองนางด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยถาม“ข้ากำลังจะไปเข้าเฝ้า เห็นว่าห้องเจ้าสว่างจึงแวะมาดู วันนี้เจ้าตื่นเช้าเช่นนี้ ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”ซ่างกวนซีถามด้วยความห่วงใย เดินไปที่เตียง ยื่นมือไปวัดไข้ที่หน้าผากนางเยี่ยนเว่ยฉือหลบอย่างรวดเร็ว นางไม่อยากให้ซ่างกวนซีสัมผัสถูกเหงื่อเย็นบนหน้าผากเยี่ยนเว่ยฉือตอบด้วยความประหม่าและอึดอัด “ไม่ได้ ไม่ได้เป็นอะไร ข้าเพียงแต่กระหายน้ำ จึงลุกขึ้นมาดื่มน้ำเท่านั้น”ซ่างกวนซีหันไปมองโต๊ะ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 241 จัดการเรียบร้อย

    ฝูกวงเห็นดังนั้นจึงเตะหมิงตาวจนกระเด็น ก่อนจะสะบัดกระบี่โหรวฉางพันรอบข้อเท้าของพั่วจวิน พั่วจวินเห็นดังนั้นจึงรีบหมุนตัวกลางอากาศ แก้พันธนาการจากกระบี่โหรวฉาง หากเขาแกะกระบี่โหรวฉางไม่ออก ขาของเขาคงถูกตัดขาดเป็นชิ้นๆ เป็นแน่ ทว่าเมื่อเขาแกะกระบี่โหรวฉางออกได้ ร่างกายของเขากลับร่วงลงสู่พื้นอย่างแรง ไม่อาจลุกขึ้น “ข้า... เหตุใดข้าจึงระบายลมปราณไม่ได้”พั่วจวินไม่พูดก็ไม่เป็นไร แต่พอเขาพูดจบ หมิงตาวก็ทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง ยันกระบี่กับพื้นจึงประคองร่างกายเอาไว้ได้ ส่วนฝูกวงก็ถอยหลังไปพิงต้นไม้ใหญ่ มือข้างหนึ่งจับลำต้นเอาไว้ ในชั่วพริบตา กำลังภายในของทั้งสามก็หายไปราวกับโดนดูดออก หมิงตาวเอ่ยอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา?”เยี่ยนเว่ยฉือกลอกตาแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ขยับตัวไม่ได้แล้วยังจะถามอีก โดนพิษน่ะสิ เจ้าโง่เอ๊ย!”โดนพิษหรือ?ฝูกวงเหลือบมองไปที่กระถางธูปที่เยี่ยนเว่ยฉือเพิ่งจุด จากนั้นจึงเอ่ยเสียงเย็น “แยบยลยิ่งนัก”พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นว่ากระถางธูปมีพิษ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ไม่มีใครเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือถือกระถางธูปอยู่ และไม่มีใครทันเห็นนางจุดธูป แน่นอนว่าพว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 240 รสนิยมพิสดารยิ่งนัก

    ลู่อู๋เบิกตากว้าง ร้องเสียงหลงอย่างอดไม่ได้ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ” ให้เขาไปปลุกปล้ำท่านหญิงหมิงหยาง นั่นมันน้องสาวแท้ ๆ ของอ๋องจ่างซิ่นเชียวนะ! เยี่ยนเว่ยฉือแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ “โอ๊ะ ไม่ดีหรือ เช่นนั้นข้าเปลี่ยนเป็นเอายาแก้พิษใส่ไว้ในร่างกายบุรุษดีหรือไม่ กระตุ้นสัญชาตญาณดิบในตัวเจ้า หรือว่า... เจ้าชอบร่วมรักกับสัตว์ ช่างเป็นรสนิยมที่พิสดารยิ่งนัก”“พรืด!” คราวนี้คนที่อดหลุดขำไม่ได้คือเพี่ยจวิน เสียงหัวเราะทำให้เขาเสียสมาธิ เกือบถูกฝูกวงฉวยโอกาสโจมตีเข้าอีกครา โชคดีที่หมิงตาวช่วยเขาปัดป้องเอาไว้ได้ทัน ทั้งสองสบตากัน แววตาฉายแววหวาดหวั่น พวกเขาร่วมมือกันต่อสู้ แต่กลับยังคงได้รับบาดเจ็บ ไม่อาจทำอันใดฝูกวงได้เลยแม้แต่น้อย คนผู้นี้ช่างลึกล้ำเกินคาดเดา! ลู่อู๋ทำหน้าละห้อย วิงวอนขอชีวิต “ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ขอพระชายาองค์รัชทายาทเมตตาไว้ชีวิตด้วย ขอโปรดเมตตาด้วยเถิด! เจ้าจะให้ข้าทำอันใดก็ยอม”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มน้อย ๆ “โธ่ ข้าผู้นี้มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือใจอ่อน เจ้าเป็นบุรุษฃร่างกายกำยำ แถมยังเป็นถึงมือสังหารอันดับสี่แห่งบัญชีอู๋ซิน เห็นเจ้าร้องไห้เช่นนี้ ข้าก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 239 บ้าคลั่งและโหดเหี้ยม

    เสียงของเยี่ยนเว่ยฉือเงียบลง นางยังคงแทงลู่อู๋ต่อไปเสียงร้องโหยหวนของลู่อู๋ดังก้องไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจกลบเสียงการต่อสู้ได้จนกระทั่งเยี่ยนเว่ยฉือแทงลู่อู๋จนครบสิบแผล นางก็หยุดมือลง แล้วใช้เสื้อผ้าของลู่อู๋เช็ดคราบเลือดบนธนูขณะนี้ลู่อู๋หน้าซีดเผือด หายใจเข้าออกลำบากเยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “วันนี้… ขอจบไว้เพียงเท่านี้แล้วกัน...”ลู่อู๋เงยหน้าขึ้นมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความหวาดกลัว “อะไร… อะไรคือวันนี้?” ‘หรือว่าต่อไปยังจะมีอีก?’เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มอ่อนหวานอธิบาย “เจ้าเดาถูกแล้ว ต่อไปก็ยังมีอีก ข้าบอกแล้วว่าจะไม่เอาชีวิตเจ้า แต่หากแทงต่อไปเรื่อย ๆ แม้จะไม่ใช่จุดสำคัญ เจ้าก็จะเสียเลือดจนตาย ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจให้เจ้าชำระหนี้เป็นงวด ๆ… ไม่ใช่สิ ชำระแค้นเป็นงวด ๆ ไป เป็นอย่างไร เจ้าว่าข้าเอาใจใส่ดีหรือไม่?”ลู่อู๋หน้าเสียมองเยี่ยนเว่ยฉือ น้ำตาไหลพรากออกมา ไม่รู้ว่าเพราะเจ็บปวดหรือหวาดกลัวบุรุษทั้งสามที่กำลังต่อสู้กันอยู่ก็หันมามองเยี่ยนเว่ยฉือ พวกเขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้บ้าคลั่งและโหดเหี้ยมทั้งยังโง่ด้วย นางคิดว่าวันนี้ปล่อยเสือเข้าป่า วันหน้าจะจับลู่อู๋ได้อีกหรือ?แน่นอนเยี่ยนเว่ยฉือว่า

DMCA.com Protection Status