Share

บทที่ 6 พระชายาองค์รัชทายาท

แม้สถานการณ์จะค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังจัดการได้

เยี่ยนเว่ยฉือรีบตะโกนเสียงดัง “ไม่ได้ ท่านฆ่าข้าไม่ได้นะ!”

“ไม่ได้?!” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ เกือบจะคิดว่าตัวเองฟังผิดไป

นางคิดว่านางเป็นใคร ถึงได้กล้าที่พูดจาเช่นนี้กับเจ้าแห่งหกตำหนักฝ่ายใน ทั้งยังพูดคำว่าไม่ได้ออกมาอีก?

ในขณะที่ฮองเฮากำลังตกตะลึง เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบมองไปที่ฮ่องเต้คังอู่และพูดต่อ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าองค์รัชทายาททรงนกเขาไม่ขัน ดังนั้นจึงถือว่าหม่อมฉันเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้ด้วย คดีนี้ยังต้องมีการพิจารณาคดีใหม่ ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนเลย หากมาฆ่าพยานเสียก่อนคงไม่เหมาะนักใช่หรือไม่เพคะ?”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ ครู่หนึ่งพระองค์สับสนไม่รู้ว่านางเป็นสตรีตระกูลใด

แต่สตรีนางนี้กลับกล้าปฏิเสธฮองเฮาต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งนั่นทำให้พระองค์ชอบพระทัยเป็นอย่างมาก

เมื่อทอดพระเนตรผ่านร่างเล็ก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือไป พระองค์ก็ทรงเห็นร่างไร้ชีวิตที่มีบาดแผลทั่วร่างกายซ่างกวนซีอยู่ข้างหลังนาง ทำให้ความโศกเศร้าและความเกรี้ยวโกรธของฮ่องเต้คังอู่ถึงจุดสูงสุด

เขาตรัสด้วยความกริ้ว “พานางไปช่วยสืบสวน คดีนี้ข้าต้องให้ความยุติธรรมกับชูจิ่ง!”

เยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้วพลางคิดว่าเรื่องนี้สำเร็จไปครึ่งทางแล้ว

ฝ่าบาทตรัสแล้วว่าจะทรงคืนความยุติธรรมให้แก่องค์รัชทายาท นั่นไม่ใช่แค่การนำคดีกลับไปให้ศาลต้าหลี่พิจารณาใหม่ แต่ผลลัพธ์จากการพิจารณาคดีจะต้องเป็นที่น่าพอพระทัยแก่ฝ่าบาทด้วย

องครักษ์ก้าวมาประกบเยี่ยนเว่ยฉือทั้งซ้ายขวาก่อนที่จะคุมตัวนางออกไป

ก่อนไป เยี่ยนเว่ยฉือหันกลับมามองซ่างกวนซีพลางพูดกับตัวเองว่า ‘ท่านจะฟื้นขึ้นมาเองภายในหนึ่งชั่วยาม เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้!’

เยี่ยนเว่ยฉือตามองครักษ์ไปยังศาลต้าหลี่ แต่สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือทันทีที่นางจากไป ซ่างกวนซีก็ลืมตามองตามหลังนางไปทันที

ซ่างกวนซีเหลือบมองไปยังทิศทางที่เยี่ยนเว่ยฉือจากไปโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นพลางพูดในใจ ‘ยัยบื้อ ก็บอกแล้วว่าร่างกายข้ามีพิษเย็น จะถูกเล่นงานด้วยยาแกล้งตายได้อย่างไร’

แม้พิษที่เยี่ยนเว่ยฉือใช้จะส่งผลต่อซ่างกวนซีไม่นานเท่าไหร่นัก แต่ผลลัพธ์ที่ดีที่เยี่ยนเว่ยฉือต่อสู้เพื่อให้ได้มานั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อกับซ่างกวนซี

เขาจึงกลั้นหายใจและนอนนิ่งปล่อยให้ขันทีหนุ่มแบกตัวเขาไป

……

ณ พระตำหนักจิ่วหลง

หลังจากออกจากห้องขังแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือกลับไม่ได้ถูกพาไปที่ศาลต้าหลี่ แต่ถูกพาไปที่พระตำหนักจิ่วหลง

นี่คือสถานที่ว่าราชการ แต่ตอนนี้กลายเป็นโถงพิจารณาคดีชั่วคราว

ผางเหออวี้ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ที่ถูกเรียกตัวมา เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้านข้าง เขาก็อดไม่ได้ที่จะสับสนเล็กน้อย

“ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้คังอู่พูดเสียงทุ้ม “ลุกขึ้นเถิด”

ผางเหออวี้ลุกขึ้นยืนพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือที่เสื้อผ้ายับยู่และผมเผ้ารุงรังอีกครั้ง

เมื่อเห็นเช่นนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็กระตุกมุมปาก แสร้งยิ้มออกมา

รอยยิ้มนั้นทำเอาผางเหออวี้ตัวสั่น ไม่รู้เหตุใดถึงได้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เป็นดังคาด คำพูดต่อไปของฮ่องเต้คังอู่คือ “ผางเหออวี้ เจ้ารู้ความผิดของตัวเองหรือไม่?!”

รู้ความผิด?

ผางเหออวี้ตัวสั่นและรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง “ฝ่าบาทโปรดทรงสงบสติอารมณ์ก่อนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม... กระหม่อมตกใจยิ่ง ไม่ทราบว่ากระหม่อมทำผิดเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?

ฮ่องเต้คังอู่ทรงแค่นเสียงอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบดูแลคดีที่องค์รัชทายาททำการฆาตกรรมสวีเหม่ยเหรินและน้องชายของเขาด้วยตัวเองใช่หรือไม่ ทว่าตอนนี้เอ่อ…”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงไม่รู้จะอธิบายตัวตนของเยี่ยนเว่ยฉืออย่างไร

เยี่ยนเว่ยฉือกลับโพล่งตอบออกไปอย่างไม่สุภาพ “ชายาเอก ชายาเอกเพคะ! ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นสตรีคนแรกขององค์รัชทายาทเพคะ”

ฮ่องเต้คังอู่ทรงครุ่นคิด ในเมื่อซ่างกวนซีตายแล้ว ก็ไม่ควรจะให้เขาตายไปอย่างโดดเดี่ยวเช่นนั้น

ดังนั้นฮ่องเต้คังอู่จึงตรัสยืนยันตัวตนของเยี่ยนเว่ยฉือ “ตอนนี้ชายาองค์รัชทายาทได้ยอมรับด้วยตัวเองว่าองค์รัชทายาทป่วยเป็นโรคที่ไม่อาจบอกใครได้ และไม่สามารถ…” ฮ่องเต้คังอู่ทรงตรัสไม่ออก

“ไม่สามารถมีทายาทได้!” เยี่ยนเว่ยฉือขัดจังหวะอีกครั้ง!

ฮองเฮาที่ประทับบนตำแหน่งสูงสุดตะโกนด้วยความโกรธ “หุบปาก ฝ่าบาททรงตรัสอยู่ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ขัดจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า? เสียมารยาทนัก!”

เยี่ยนเว่ยฉือเบ้ปากแล้วพูดว่า “ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาททรงเป็นผู้มีเกียรติ คำบางคำก็ยากที่จะตรัสออกมา แต่หลังจากที่สามีของหม่อมฉันเสียชีวิต เนื่องจากไม่มีอะไรจะเสียแล้ว คำพูดเหล่านั้นหม่อมฉันย่อมต้องเป็นคนพูดเองเพคะ”

ฮ่องเต้คังอู่ตรัสอย่างตรงไปตรงมาและฉุนเฉียว “เจ้าพูดมา!”

เยี่ยนเว่ยฉือรีบกราบทูล “ท่านใต้เท้าผาง พูดง่าย ๆ ก็คือเพราะองค์รัชทายาททรงนกเขาไม่ขัน จึงไม่มีทางที่จะทรงขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้ ดังนั้นคดีนี้จึงมีปัญหา ตอนนี้ข้าขอให้มีการสืบพยานหลักฐานและพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง ก่อนอื่นต้องทำการชันสูตรศพสวีเหม่ยเหรินและองค์ชายน้อยก่อนเป็นลำดับแรก!”

“อะ...อะไรนะ ชันสูตรศพ?” ผางเหออวี้มองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความเหลือเชื่อ คิดว่าตัวเองอาจได้ยินผิดไป

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status