หลิวเยี่ยนฟางรถคว่ำตายแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของเสิ่นเยี่ยนฟาง เด็กสาวที่ตายเพราะพิษไข้ นางถูกสั่งให้แต่งงานกับบัณฑิตป่วยออดแอดคนนึง ด้วยสินสอดข้าวสาลีหนึ่งถุงกับเงินหนึ่งตำลึง "เอ้อ ได้เกิดใหม่ทั้งทีก็โคตรจน ฉันควรดีใจไหมวะคือนี่บ้านเหรอเนี่ย แล้วยังมีญาติผัวประสาทเห็นแก่ตัวชอบเอาเปรียบ อีกเวรของกรรมจริงๆ" หลิวเยี่ยนฟางที่ตอนนี้อยู่ในร่างของเสิ่นเยี่ยนฟางสาวน้อยวัยสิบเจ็ดกำลังด่าทอชะตาชีวิตที่ได้เกิดใหม่ ก่อนจะเข้าไปดูสามีหมาดๆที่เพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อวาน อืมหล่อมาก เสียดายขี้โรคไปหน่อย ก่อนจะเรียกคนที่หลับอยู่ "นี่เมิ่งหย่งชวน มาคุยกันหน่อยข้ามีเรื่องต้องคุยกับท่าน" เมิ่งหย่งชวนตื่นนานแล้วตั้งแต่เห็นนางยืนเท้าเอวเป่าปอยผมตนเองทำท่าเหมือนลูกแมวน้อยขู่ฟ่อๆ ชี้ท้องฟ้าด่าสายลมอยู่หน้าบ้านก็อมยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าจริงจัง "อืมภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ" "น้องสาวเจ้าอยากเก็บไว้ไหม ปิ่นปักผมนั่นของมารดาข้า นางหน้าด้านยื้อแย่งเจ้าตอบมาคำเดียวยังต้องการนางไหม" เมิ่งหย่งชวนไม่เข้าใจที่นางพูดจึงส่ายหน้า แต่คนตัวเล็กเข้าใจผิดว่าเขาบอกว่าไม่ต้องการจึงพยักหน้าให้เขา "อืมดีมาก เมิ่งลู่เจินเจ้ามาดูพี่ชายเจ้าหน่อยเข้าจะไปทวงของๆข้าคืน"
View Moreคนเมาทั้งสองจ้องหน้าและสบตากัน คนตัวเล็กอึดอัดจึงร้องขอเขาให้ช่วยปลดปล่อยนาง"อ๊า..ท่านช่วยข้าที อึดอัดเหลือเกิน""อ๊า เจ้าแน่นมาก มาเถอะคนงาม ข้าจะช่วยเจ้าปลดปล่อย"หวังเฉิงขยับเอวหนาใส่คนใต้ร่างไม่หยุด เหลียนฝางหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า นางใช้แขนเรียวโอบท้ายทอยหนาของเขาเอาไว้ หวังเฉิงยิ่งหนักหน่วงเมื่อคนใต้ร่างครางชื่อออกมา"อ๊า คะ ใต้เท้าหวัง ไม่ไหวแล้ว ข้าจะเสร็จ อ๊ายยยย"ร่างงามกระตุกสุขสม แขนเรียวกอดแผ่นหลังหนาเอาไอ้แน่น หวังเฉิงคำรมออกมาเพราะความนั่มแน่นที่โอบแก่นกายของเขากำลังตอดรัดจนเขาต้องกัดฟัน เอ่ยเสียงกระเส่า"เจ้าช่างนุ่ม ข้าก็จะเสร็จ อ่าห์ เสี่ยวฝาง เด็กดี อ่าห์"หวังเฉิงขยับเอวรัวๆ เหลียนฝางรู้สึกถึงตัวตนของเขาที่กำลังขยายในตัวนางหวังเฉิงคำรามออกมาก่อนจะเงยหน้าแล้วสาวเอวยาวๆเร่งจังหวะรักลงไปสามสี่ที กระทั่งสายธารรักของเขาถูกปลดปล่อยหลั่งไหลเข้าไปยังความอ่อนนุ่มของเหลียนฝางทุกหยาดหยด คนตัวเล็กนอนหมดแรง กระทั่งร่างหนายังไม่อิ่มเอม เขาจับนางนอนหันหลังให้แล้วเข้าไปทักทายนางอีกครั้ง เหลียนฝางครางออกมาเรียกร้องหาแต่เขา"อื้อ ใต้เท้าหวังได้โป
เหลียนซิ่วเอ๋อร์กลับเหลียนซิ่วซิ่วกำลังประคองอาหญิงเพื่อกลับบ้าน พวกนางเองก็ดื่มไปเล็กน้อย เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินเซไปชนบางคนเข้า นางไม่ล้มลงไปเพราะมีวงแขนแข็งแรงมารับตัวนางไว้"แม่นางเหลียน เจ้าไหวหรือไม่""ทะ ท่านเจ้าเมือง ขะ ขอบคุณเจ้าค่ะ""อืม เดี๋ยวให้คนของข้าไปส่ง หรือว่าเจ้าค้างที่จวนดี จะได้ไม่ต้องเดินทาง นี่ก็ดึกมากแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์ พยายามยืนให้มั่นก่อนจะเอ่ยอ้อแอ้กับร่างสูง"ท่านอ๋องกับพระชายากลับไปแล้ว ข้าน้อยไม่กลับได้อย่างไร ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นห่วง อีกอย่างอาหญิงของข้าน้อย นางไม่เคยดื่มสุรามาก่อน นางดื่มเสียเป็นน้ำหวานเลยเจ้าค่ะ"จ้าวเหมิ่นมองคนตัวเล็กที่กำลังต่อปากต่อคำกับเขาอยู่อย่างเอ็นดู ใบหน้างามแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์สุรา ส่วนเหลียนซิ่วซิ่วนั้นปีนขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้ว จางเหมิ่อนเอ่ยขอบคุณนางอีกครั้ง"ขอบคุณเจ้ามากแม่นางเหลียน งานเรียบร้อยดีเพราะเจ้าเลยเชียว เห็นพระชายาบอกว่าเจ้าเป็นคนดูแลจัดหาคนงานและแม่ครัว""ท่านเจ้าเมือง ท่านชมข้าน้อยเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เอ่อ...ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ดึกแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์เซนิดๆจางเหมิ่นจึงประคองนางให้ขึ้นรถม
ทั้งคู่มองหน้ากัน เมิ่งลู่เจินที่ได้ยินก็เรียกคนของตนมากระซิบเบาๆ ไม่นานคนของเขาก็ไปส่งข่าวที่จวนเจ้าเมือง ซิ่วซิ่วมองหน้าพี่สาวสลับกับอาหญิงของนาง น้ำตาเริ่มคลอหน่วยเอ่ยถามพี่สาวปากสั่น"อะไรนะ...พวกเราแยกบ้านมาแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้ พะ พะ พี่ใหญ่ทำอย่างไรดี ฮือๆๆ ข้ากลัว"ซิ่วซิ่วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ท่านปู่ท่านย่าร้ายกาจเพียงใดนางรู้ดี กระทั่งมีเสียงดังมาซิ่วซิ่วจึงหยุดร้อง"ซิ่วเอ๋อร์ ไปพาพ่อกับแม่เจ้าไปพักที่เรือนคนงานที่เพิ่งสร้างเสร็จก่อน ส่วนอาหญิงของเจ้ามีห้องว่างที่เรือนหลังเก่าอยู่หนึ่งห้องให้นางไปพักที่นั่นชั่วคราว จัดการปัญหาเสร็จค่อยว่ากัน รองานแต่งอาลี่ผ่านไปก่อน"เสิ่นเยี่ยนฟางที่เพิ่งเดินมาได้ยินเรื่องราวก็รับเหลียนฝางเอาไว้ก่อน มีอย่างที่ไหนขายบุตรสาวเพื่อเอาเงินไปเป็นสินสอดให้หลานชาย ช่างสารเลวจริงๆ ทั้งสามคุกเขาให้นางเพื่อขอบคุณ"ขอบพระทัยพระชายาเพคะ พวกหม่อมฉันมิรู้จะตอบแทนอย่างไรได้หมด""ลุกขึ้นเถอะ ต่อไปตั้งใจทำงานก็พอ ว่าแต่ท่านอาหวังเฉิงใบหน้าท่านไปโดนอันใดมาเล่านั่น" เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยกับสามสาวจบก็หันไปหาองครักษ์ของอาเจินทัน
ใกล้วันงานแต่งงานของจางลี่กับเมิ่งเสี่ยวหว่านแล้ว ทางด้านตำหนักอ๋องจัดห้องหับสำหรับเจ้าสาว เพราะว่าบ้านท่านปู่ใหญ่กำลังสร้างใหม่จึงไม่สะดวก เหลียนซิ่วเอ๋อร์อายุสิบเก้าส่วนซิ่วซิ่วอายุสิบเจ็ดเท่ากับเสี่ยวหว่าน จางลี่แกกว่านางหนึ่งปี ทั้งคู่อยู่ในวัยเยาว์ จางหมิ่นเฝ้าฝันเมื่อไหร่จะได้มีหลานกับเขา แม้ว่าคนที่แต่งจะเป็นคนน้องแต่ก็ยังดี ไม่รู้บุตรชายคนโตจะมีภรรยาเมื่อไหร่ ด้านหน้าตำหนักอ๋องสตรีวัยยี่สิบกว่า โพกผ้าลายดอกบนศีรษะ เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ใหม่ไม่เก่า ในมือของนางถือห่อผ้าเอาไว้ สอดส่ายสายตาไปมา กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่กำลังเดินมากับหวังจิ่วเห็นเข้าจึงเดินมาถาม"แม่นางท่านนี้..ท่านเป็นใครมาที่นี่ต้องการพบผู้ใดหรือ""เอ่อ...คุณชายข้ามาหาเหลียนซิ่วเอ๋อ์กับเหลียนซิ่วซิ่วเจ้าค่ะ""อ้อ..เช่นนั้นท่านอาจิ่วพาไปนางไปพบสักหน่อยเถอะ ท่านเองก็อยากไปหาพี่ซิ่วซิ่วมิใช่หรือ"หวังจิ่วเกาท้ายทอยตนเองก่อนจะยิ้มๆแล้วพยักหน้า"ขอรับนายน้อย เอ่อ แม่นางท่านนี้เชิญทางนี้ขอรับ มิทราบว่าท่านคือ...""ข้าน้อยชื่อเหลียนฝางเจ้าค่ะใต้เท้า เป็นอาหญิงของพวกนาง"หวังจิ่วพยักหน้า เหลียน
สองพี่น้องไปทำงานตามคำสั่งแล้ว หวังจิ่วหยิบลูกพลับที่ปอกแล้วเข้าปาก อืมหวานจริงๆหวานเหมือนหน้าคนปอกเลย นางงามนักเหลียนซิ่วซิ่ว หวังเฉิงที่เพิ่งเสร็จจากงานมาเห็นน้องชายนั่งยิ้มคนเดียวก็แปลกใจ ปกติเป็นเสือยิ้มยากวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านี่กันนะ"อาจิ่ว...มีเรื่องดีๆอันใดหรือ""พี่ใหญ่..ข้า คือว่าข้า เอ่อ ข้า ข้าอยากมีเมียน่ะ""แค่กๆๆ.. จะ จะ เจ้าว่าอะไรนะ ไหนเมื่อก่อนเจ้าเคยพูดว่าสตรีคืองูพิษ เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่สุด นอกจากอาเหยียนแล้วเจ้าก็ไม่เอาใครทั้งนั้น""อาเหยียนเป็นหลานสา่วพวกเรา ไม่รักนางจะไปรักใครเล่าขอรับ""ว่าแต่เจ้าไปถูกใจสตรีคนใดกัน""เอาไว้ข้าจะบอกท่านทีหลัง ตอนนี้ขอข้าทำความรู้จักกับนางมากกว่านี้ก่อน"น้องชายไปแล้ว หวังเฉิงยืนงง กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่อ่านตำราอยู่ที่ม้านั่ง อมยิ้มก่อนจะส่ายหน้า"ท่านอาจิ่วเขาชอบพี่ซิ่วซิ่วน่ะท่านอาเฉิง""ซิ่วซิ่ว..นายน้อยหมายถึงแม่นางเหลียนซิ่วซิ่ว น้องสาวเหลียนซิ่วเอ๋อร์หรือขอรับ""อืม.." เมิ่งลู่เจินพยักหน้าก่อนก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ เดิมทีจะกลับเมืองหลวงในอีกหนึ่งเดือน ใครจะรู้ว่าคนก่อเรื่องจะอยากมาเที่ยวกัน ต
ทั้งสามคนพยักหน้า ชาวบ้านที่มามุงดูได้ยินว่าเมิ่งหย่งชวนเป็นถึงท่านอ๋องต่างก็ตกใจปนดีใจ ที่ดีใจคือคนสกุลเมิ่ง หมู่บ้านสี่สิบลี้มีคนต่างแซ่ไม่กี่ครอบครัวนอกนั้นก็แซ่เมิ่ง"นี่ๆ อาชวนๆเขาเป็นท่านอ๋องแล้ว""ใช่ๆๆ วาสนาตระกูลเมิ่งของพวกเราจริงๆเลย""น่านสิ นี่ท่านลุงซุนลูกหลานของท่านมีวาสนาทำสกุลเมิ่งในเมืองเถิงของพวกเราไม่น้อยหน้าคนอื่น ต้องขอบคุณท่านแล้ว ขอบคุณท่านด้วยท่าอาหย่งชุน"ทุกคนยินดีกับผู้นำหมู่บ้านและน้องชาย พวกเขาได้แต่พยักหน้าน้อมรับคำเยินยอและอวยพร เมิ่งหย่งชวนรีบมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางทันที เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเมียนอนหลับอยู่กับเมิ่งหานเซียง คู่แฝดนอนในเปลอู่ เมิ่งหย่งชวนอุ้มหานเซียงมาวางอีกด้านก่อนตนเองจะเข้าไปนอนซ้อนด้านหลังแล้วกอดนางเอาไว้เสิ่นเยี่ยนฟางรู้สึกตัว กลิ่นกายนี้มีเพียงเขาเท่านั้น นางหันหน้ากลับมาซุกกับอกกว้าง แขนเรียวยกกอดเอวหนาเอาไว้ เมิ่งหย่งชวนรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่หน้าอกก็กอดนางแน่บแน่น"เด็กดี อย่าร้องพี่กลับมาแล้ว""ฮึกๆๆ ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงทุกวันเลยฮือๆๆ""พี่กลับมาแล้ว และจะไม่ไปที่ไหนอีก เสี่ยวฟางคนดีของพี่เงียบนะ"
ยามซื่อจางลี่ก็มาหาอาจารย์หญิงของตนเพื่อพูดคุยเรื่องการค้า แต่เดิมห้องอยู่เดือนมิให้บุรุษเข้ามา ที่สำคัญตอนนี้นางเป็นภรรยาท่านแม่ทัพยิ่งต้องระวังตัว มิอาจทำอันใดให้สามีเสียหายได้ จางลี่จึงนั่งอยู่ที่หน้าประตูรายงานเรื่องต่างๆ"อาจารย์หญิงขอรับ กิจการเดือนนี้ได้กำไรหกหมื่นตำลึงขอรับ นี่เป็นกำไรจากที่แบ่งสันปันส่วนให้แก่กลุ่มก้อนต่างๆ และหักต้นทุนแล้วขอรับ เขาเรียกว่า เอ่อ""เขาเรียกว่ากำไรสุทธิ..อาลี่ลองเอาหกหมื่นตำลึงไปทำให้เติบโตงแกเงยสิ อาจารย์หญิงเชื่อว่าเจ้าทำได้""อ้อ...ขอรับหากอาจารย์หญิงไว้ใจ อาลี่จะทำเต็มที่ขอรับ เอ่อ งานแต่งของศิษย์กับเสี่ยวหว่านเดิมทีจะจัดเดือนหน้า แต่ว่าศิษย์อยากรอให้ท่านออกเดือน และท่านแม่ทัพกลับมาก่อนน่ะขอรับ""เจ้านี่นะอาลี่ เอาล่ะๆขอบใจที่ให้ความสำคัญแก่อาจารย์กับท่านแม่ทัพ แต่หากเสี่ยวหว่านรอเจ้าไม่ไหว อย่ามาโทษข้าสองผัวเมียเล่า ไปเถอะไปทำงานได้แล้ว"จางลี่เก็บสมุดบัญชีก่อนจะไปหาคนของใจที่บ้านท่านปู่ของนาง คนงานเริ่มทำงานจวนแม่ทัพไม่อนุญาตให้คนนอกมาวุ่นวาย ตอนนี้เมิ่งหย่งชุนกำลังฝึกคนขึ้นมาใหม่ มีเด็กมาเรียนวรยุทธกับเขามากมาย
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องพักของตน ฝ่าบาทพระราชทานที่ดินศักดินาให้อีกทั้งพระราชทานจวนอ๋องในเมืองหลวงให้เขาด้วย เมิ่งหย่งชวนรู้ว่าน้องชายต้องใช้ชีวิตที่นี่ในฐานะราชครูคนต่อไปของแคว้น เมิ่งหย่งชวนจึงรับพระมหากรุณาธิคุณเอาไว้ ในภายภาคหน้าเขาอาจจะพาเมียกับลูกมาอยู่ที่เมืองหลวง เพราะบิดามั่นคงแล้วเมิ่งหย่งชวนหลับไปแล้ว หน้าต่างเปิดเอาไว้ลมพัดเบาๆเจ้าตัวดีหนีมารดามานอนกับท่านพ่อจนได้ เมิ่งหย่งชวนขยับตัวเล็กน้อย เขากำลังจะไปสุขาเพื่อปลดทุกข์ แต่กลับเห็นบุตรชายนอนอยู่เคียงข้าง เขาคิดถึงเด็กๆจนเก็บมาฝันหรือ เสี่ยวอิงเพิ่งจะสามขวบที่สำคัญที่นี่กับหมู่บ้านสี่สิบลี้ไกลไม่น้อย เมิ่งหย่งชวนขยี้ตาอีกที แต่เทพวิหคตื่นแล้วเขาจึงแวบหายไป เมิ่งหย่งชวนสะบัดศีรษะไปมา ทันทีที่ลืมตาก็ไม่เห็นบุตรชายเสียแล้ว"ฝันก็ไม่ใช่ ละเมอก็ไม่น่าใช้แต่ทำไมเหมือนความจริงนัก เหมือนเสี่ยวอิงมานอนข้างๆจริงๆ"เมิ่งหย่งชวนไปสุขาเพราะเขาปวดเบา ก็เจอกับเมิ่งลู่เจินที่ยังไม่นอน เขายืนมองท้องฟ้าหลับตาอยู่อย่างนั้น เมิ่งหย่งชวนเดินไปหาน้องชายก่อนจะเอ่ยเรียก"อาเจิน....ช่วงนี้เจ้า
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฮ่องเต้ก็สั่งเลิกประชุม ขุนนางที่มีความดีความชอบต่างแสดงความยินดีลดหลั่นกันไป พวกเขาจะมีขันทีไปประกาศราชโองการที่บ้านส่วนรายละเอียดของกำนัลต่างๆที่ได้รับจะมีขันทีมารายงานแก่พวกเขาอีกที เลิกประชุมแล้วจึงตรงกลับจวน หวงหย่งเหนียนคิดถึงลุกเมีย พรุ่งนี้พวกเขาจะคุมนักโทษไปด้วยกัน จนกระทั่งไปแยกกันที่เมืองซีอาน เพื่อที่หวงหย่งเหนียนเมิ่งลู่เจินและพี่น้องสกุลโจวกับจางเหมิ่นต้องกลับหมู่บ้านสี่สิบลี้แต่เมิ่งหย่งชวนต้องคุมนักโทษเดินทางไปยังดินแดนท้ายด่าน บนรถม้าต่างไม่มีผู้ใดเอ่ยอันใดออกมา กระทั่งหวงหย่งเหนียนเป็นฝ่ายเริ่ม"จวิ้นอ๋อง...จะว่าไปเรื่องครั้งนี้มารดาของพระองค์คือตัวแปรสำคัญจริงๆ หากมิได้นางนำรายชื่อและวันที่พวกเขาจะลงมือมาให้ก่อน ปราบกบฏครั้งนี้อาจไม่ง่ายถึงเพียงนั้น" "อืม....ตอนนี้บุตรชายบุตรสาวของท่านได้หกเดือนแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้ว เดินทางไปรับครั้งนี้ได้ยินว่าเว่ยอ๋องจะไปด้วยกระนั้นหรือ""พ่ะย่ะค่ะ....ท่านอ๋องบางทีหากเด็กๆโต กระหม่อมอาจมาลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านสี่สิบลี้ก็ได้ อยู่มานานหลายเดือนรู้สึกชอบที่นั่นไม่น้อย""หลังจากไปส่งนักโทษ
Rrrr. Rrrr.Rrrrเสียงเรียกเข้าจากมือถือราคาแพงดังไม่หยุด หลิวเยี่ยนฟางกำลังขับรถอยู่ไม่อยากกดรับจึงปล่อยให้สายตัดไปRrrrr.Rrrrr.Rrrrr."อะไรนักหนา ก็ไม่รับสายตอนขับรถไงไม่รู้หรือ นี่มันเฮ้อเบอร์ผู้การนี่ ตาแก่หวังนี่มันช่วงพักร้อนฉันนะ" ก่อนจะเอื้อมมือกดรับสาย" ฮัลโหลคะผู้การ ฉันขับรถอยู่เดี๋ยวหาที่จอดก่อนจะโทรกลับนะคะ"หลิวเยี่ยนฟางกดวางสายทันที ไม่รอให้อีกฝั่งตอบกลับมา เธออยู่ในช่วงลาพักร้อนกำลังรอไฟท์บินไปมัลดีฟในอีกสามวัน อยากหาบรรยากาศชิวๆผ่อนคลายบ้างหลิวเยี่ยนฟางเป็นครูฝึกหน่วยรบพิเศษมาเกือบสิบปีแล้ว ปีนี้อายุ35 ตั้งแต่คนรักนอกใจเมื่อ7ปีก่อนก็ไม่คบหาใครอีกเลยเสียงมือถือดังติดๆกันหลายรอบ สุดท้ายก็ตัดสินใจหาที่จอดเพื่อรับสาย ตอนนี้5ทุ่มแล้วต้องหาที่ปลอดภัยก่อนจะจอด จากนั้นก็ตบไฟเลี้ยว ขณะที่เธอกำลังจะเลี้ยวก็มีรถตู้ขับมาอย่างไว ประสานงากับรถของเธออย่างจัง หลิวเยี่ยนฟางรู้สึกว่ารถของเธอหมุนหลายตลบ จากนั้นสติที่มีอยู่ก็ค่อยๆดับไปแคว้นซ่งร่างบางในชุดสีซีดนอนอยู่บนเตียงที่ทำจากการเอากระดานไม้มาวางต่อๆกัน ห้องข้างๆมีเสียงทุ้มมีเสน่ห์บุรุษคนหนึ่งเอ่ยเรียกหาน้องชาย"อาเจิน ไปไปดูพี่...
Comments