เมิ่งซุนที่ตอนนี้เลือดกลบปาก พร้อมกับขี้ฝุ่นเข้าปากก็เอ่ยโวยวาย ไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านเมิ่งหลงก็มาถึง เห็นสภาพคนบ้านเมิ่งแล้วก็ถอนหายใจ นี่แหละนะเขาว่ากระต่ายหากจนตรอกก็ยังกัดคนได้ ดูเหมือนสะใภ้เมิ่งคนนี้จะไม่ใช่ลูกพลับนิ่มเสียแล้ว
"ภรรยาอาชวน เจ้าทุบตีพวกเขาเช่นนี้ไม่ถูกนักนะ เหตุใดกันถึงต้องทำร้ายกันเพียงนีเ ตอบข้ามาหน่อย" เสียงร้องไห้ของเมิ่งจื่อดังขึ้นมานางชิงฟ้องก่อน
"ฮือๆๆๆ ท่านปู่หลง นางโสเภณีนี่แย่งปิ่นเงินของข้าเจ้าค่ะ พอข้าไม่ให้นางก็ลงมือทบตีคน นางช่างเป็นสตรีแพศยาเสียงจริงๆ"
เสิ่นเยี่ยนฟางจึงคุกเข่าลงแล้วร้องไห้บ้างสองมือกุมปิ่นเงินไว้แน่นแนบกับหน้าอกตัวเอง สะอื้นตัวโยนร้องไห้จะขาดใจ ชางบ้านที่เพิ่งมาถึง ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าก็สงสาร ส่วนคนที่มาก่อนกำลังปรับอารมณ์อยู่ เมื่อกี้นางเพิ่งจขะทุบตีไล่เตะคนเองนะ ตอนนี้ร้องไห้เสียงดัง จนเมิ่งหลงหัวหน้าหมู่บ้านต้องเอ่ยถาม
"ภรรยาอาชวน เจ้าอย่าร้องไห้ มีอะไรก็พูดมาเถอะข้ารอฟังเจ้าอยู่ ข้าจะไม่ฟังความข้างเดียวแน่นอน"
"ฮึก ฮึก ท่านผู้นำท่านช่างใจร้ายนัก ฮือๆๆท่านไปสู่ขอข้ามาทำไมกัน ไหนท่านบอกว่าจะหาสามีที่ดีให้ข้าไง ท่านใจร้ายหลอกลวง ฮือๆๆๆ"
กระซิกๆๆฮึกๆๆ เสิ่นเยี่ยนฟางร้องไห้จนตัวโยน เมิ่งหลงกับชาวบ้านถึงกับงงไปเลย หัวหน้าหมู่บ้านหลอกลวงหรือ เขาหลอกลวงอันใดนางกัน
"เจ้าๆๆ นี่ภรรยาอาชวน ข้าไปหลอกลวงอันใดเจ้ากันหึ อย่ามาใส่ความข้านะ พูดมาให้รู้เรื่อง ข้าไปสู่ขอจ้าตามประเพณี สินสอดก็มี ตรงไหนที่ข้าหลอกลวงเจ้า"
"ฮือๆๆ ท่านบอกให้ข้าแต่งงานกับเมิ่งหย่งชวนข้าก็แต่งแล้ว ท่านบอกว่าสามีภรรยาดวงเกื้อหนุนสมพงษ์กันข้าก็เชื่อ แล้วตอนนี้เล่า สามีที่น่าสงสารของข้าไอจนกระอักเลือดออกมากองโต ข้าไร้เงินรักษาข้ามีเพียงปิ่นเงินที่เป็นสินเดิมมารดาแค่อันเดียว ข้าจะเอาไปขายเพื่อพาสามีไปหาหมอ แล้วอย่างไรกันฮือๆๆ เมิ่งจื่อกับสหายของนางกลับยื้อแย่งข้ามา ปิ่นเงินนั่นไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่มันคือสิ่งที่จะช่วยชีวิตสามีข้าได้ แต่พวกเขากลับบอกว่าจะฝังข้ากับสามีไปพร้อมกัน ฮือๆๆๆ ตอนท่านไปสู่ขอข้าไม่ได้บอกว่าจะให้เราถูกคนรังแกจนตายนี่ ถ้าวันนี้ขายปิ่นไม่ได้พรุ่งนี้คงต้องฝังพวกข้าผัวเมียแล้ว สวรรค์ท่านใจร้ายนัก ท่านพ่อก็ทอดทิ้ง อาหญิงก็ไม่อยากเลี้ยงดู ใส่ความข้าแย่งสามีของนาง สุดท้ายถูกหลอกมาแต่งงานเป็นเพื่อนศพหรือ ท่านโหดร้ายเพียงนี้จริงๆ หากพรุ่งนี้ข้าถูกฝัง ข้าขอสาปแช่งคนที่ทำให้ข้าต้องพบเจอชะตาเช่นนี้จงโชคร้ายอัปมงคลทั้งชีวิต ฮือๆๆๆๆๆๆ"
ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตกใจ นางสาปแช่งแบบนี้ได้อย่างไร ทุกคนจึงหันมามองหน้าคนบ้านเมิ่งเป็นตาเดียว จนกระทั่งมีสตรีคนนึงก้าวออกมา
"หัวหน้าหมู่บ้าน ปิ่นเงินนี้เป็นของนางจริงๆ เมื่อวานข้าเป็นคนไปรับนางจากหมู่บ้านของนาง อีกทั้งข้าเป็นคนหวีผมให้นางเอง แปลว่าเมิ่งจื่อแย่งของนางมาจริงๆ"
"ป้าหลี่ถ้าเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าพวกเขาอยากให้อาชวนตายจริงๆงั้นสิ จึงแย่งของที่สามารถช่วยชีวิตคนได้"
"แหม่ที่ดินอาชวนตั้งสามสิบหมู่ใครกันไม่โลภ"
ชาวบ้านเริ่มวิจารย์สนุกปาก เมิ่งอี้ที่เพิ่งกลับมาถึงก็กำหมัดแน่น ไอ้ขี้โรคนั่นยังไม่ตายอีกหรือ
มีมันอยู่เขาก็ไม่มีทางได้เงยหน้า ที่สำนักศึกษาอาจารย์ชื่นชมแต่มัน ขนาดมันเข้าเรียนเมื่อสองปีก่อนเท่านั้น ตามหลังเขาตั้งสี่ปีแต่กลับสอบซิ่วไฉได้ อีกทั้งยังได้อันดับหนึ่งอีกด้วย เมิ่งหลงที่ตอนนี้ปวดหัวยิ่งนักถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก
"พวกเจ้าเมื่อไหร่จะเลิกก่อปัญหา อาชวนป่วยก็ไม่ใส่ใจ ข้าแต่งภรรยามาให้เขาพวกเจ้าก็กลั่นแกล้งนาง อยากให้ข้าใช้กฎสกุลลงโทษหรือไม่ห๊ะ เมิ่งซูนเจ้ามันตัวดี อายุปูนนี้ไม่สั่งสอนบุตรหลาย ปล่อยให้ทำแต่เรื่องเลวๆ เมิ่งอี้บ้านเจ้าดีหนักหนา เข้าเรียนมาหกปียังสอบผ่านแค่ถงเซิ่ง วันนี้นอกจากคืนปิ่นปักผมให้นางแล้ว พวกเจ้าต้องจ่ายนางเป็นค่ายาอาชวนอีกสิบตำลึง"
สิ้นเสียงของหัวหน้าหมู่บ้าน แม่เฒ่าเมิ่งก็ร้องไห้ฟูมฟายทุบตีตบหน้าขาตนเองทันที"เจ้าๆๆ นางแพศยาเจ้าอยากฆ่าข้าหรือ เจ้ามาเลยมาเอาชีวิตข้าเลย" เสิ่นเยียนฟางเห็นยายแก่เสแสร้งก็ไม่ยอมนางร้องกลับซ้ำยังร้องดังกว่าอีก"ฮือๆๆๆ ท่านพี่ท่านมีญาติเช่นนี้ได้อย่าไร ฮือๆๆท่านหัวหน้าหมู่บ้านพวกเขาต้องการบีบให้พวกข้าผัวเมีมยตายจริงๆ เขาต้องการที่ดินขอดีๆก็ได้ ทำไมต้องวางแผนมากมายขนาดนี้ จนสามีข้าทรงตัวจะไม่อยู่แล้ว ฮือๆๆๆ ท่านแต่งข้ามาเพื่อฝังรวมเขาจริงๆใช่ๆหม ท่านโกหกเมิ่งหลงท่านเป็นคนหลอกลวงฮือๆๆๆๆๆ"เมิ่งหลงหน้าดำเป็นก้นหม้อแล้ว เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านต่อจากบิดามาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกด่าต่อหน้าคนมากมาย เมิ่งซุนตัวดีเจ้าทำให้เด็กมาถอนหงอกข้าหรือ"เจ้าพวกเจ้า ชดใช้ให้นางสิบตำลึง ไม่เช่นนั้นลงโทษตามกฎตระกูลกับกฎหมู่บ้านหรือจะไปศาลาว่าการ"เมิ่งอี้ที่ได้ยินรีบรีบมาทันที เขาจะสอบอยู่แล้วจะให้ชื่อเสียงตนด่างพร้อยไม่ได้เขาจึงกระซิบกับท่านปูท่านย่า"ท่านปู่ท่านพ่อจ่ายเถอะขอรับ ข้าจะสอบแล้วชื่อเสียงจำเป็นนัก อีกอย่างข้ากำลังคบหากับบุตรสาวขุนนางท่านนึง ไม่อยากให้ชาวบ้านเอาไปนินทาเสียหายขอรับ นังอัปลัก
สุยกว่างโจวพูดคุยสักพักก็กลับไป เสิ่นเยี่ยนฟางตั้งท่าจะพาเขาไปในเมือง ก่อนจะเรียกหาน้องสามี“ลู่เจิน มาช่วยพี่ชายเจ้าสักหน่อยข้าจะพาเขาไปหาหมอในเมือง มีเงินก็ต้องรีบใช้ เดี๋ยวปลิงดูดเลือดบ้านเจ้ามาก่อเรื่องอีก ข้าเพิ่งจะหายป่วยกระทืบพวกเขาเอ้ย เจรจากับพวกเขาไม่ไหว”เมิ่งหย่งชวนลุกจากเตียงเดินมาหานางก่อนจะลากไปยังลำธารหลังบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางขัดขืนเขาพร้อมกับโวยวาย“นี่เมิ่งหย่งชวน เจ้าจะทำอะไรข้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไงวะ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้าแกล้งป่วย เดี๋ยวแม่จับทุ่มเลยนี่”“พูดจาอะไรของเจ้าฟังไม่รู้เรื่อง เจ้าจะไปในเมืองใครจะขายของให้เจ้ากัน อัปลักษณ์เพียงนี้ น้ำก็ไม่อาบเมิ่งหว่านให้เสื้อผ้ามาสองชุด เจ้าควรอาบน้ำได้แล้ว สกปรกเหลือเกิน เหม็นสาบยิ่งนักจะให้ข้านอนกับเจ้าได้อย่างไรกันไ” โอ๊ย บ้านเจ้ามีตั้งสี่ห้องแยกกันนอนก็ได้แล้ว เจ้าจะทำอะไร ไอ้เด็กบ้านี่ปล่อยข้านะ เฮ้ย”ตูม!!!!เมิ่งหย่งชวนรำคาญเสียงโวยวายเลยจับนางโยนลงน้ำ เขาตามลงมาใช้ใยบวบขัดตามแขนนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางแสบไปหมด จากผิวกระดำกระด่างพอถูกจับขาดก็ขาวนวลเนียน แต่คนตัวโตไม่พอใจจับนางกดน้ำขยี้ศรีษะแรงๆ“ผมนี่ไม่
เสิ่นเยี่ยนฟางสังเกตุบริเวณรอบๆ ตามสไตล์ของหน่วยสอดแนมทุกอย่างต้องประมวลผลฉับไว เดินไปตามตรอกต่างๆ สังเกตุทุกอย่าง ก่อนจะมองหาอาชีพที่ต้องทำหากินยังโลกที่โหดร้ายนี่เฮ้อกำลังจะไปที่โรงหมอก็เจอเข้ากับอาเขยพอดีกับที่อาเขยหันมาเจอนาง สวยผิดหูผิดตาจริงๆ ขนาดตอนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มอมแมมนางยังงามนัก ตอนนี้นางยิ่งงาม ปากชมพูอวบอิ่มนั่น หน้าอกที่เขาเคยได้สัมผัสมันครั้งหนึ่งก่อนที่นางจะเอาหมอนไม้ฟาดหัวเขาจนแตก แล้วเมียเขากลับมาพอดี อยากจับไว้ใต้ร่างจริงๆ แต่งให้ไอ้ขี้โรคนั่นน่าเสียดาย“หืมใครเนี่ย เสี่ยวฟางของอานี่นามาเดินตลาดหรือ วันนี้แต่ตัวงดงามมากนัก เจ้าอยากกินอะไรหรือไม่อาเลี้ยงเจ้าเองดีไหม สามีขี้โรคของเจ้าเล่า คงไม่ได้มาซื้อของเซ่นไหว้หรอกนะ เสียดายความสาวเจ้าจริงๆ อยากให้อาเขยคนนี้ช่วยคลายความเหงาดีหรือไม่”เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสายเขาที่มองนางด้วยสายตาลามกโลมเลีย อีกทั้งสหายของเขาอีกสองคนก็ใช้สายตาเช่นเดียวกัน ดูท่าคงนิสัยอุบาทว์เหมือนกัน จึงไม่ตอบแต่เดินหนีแทน หวังซูอาเขยของนางเดินมาดักหน้า ก่อนจะกางแขนกั้น ส่งสายตาโลมเลียเสิ่นเยี่ยนฟางนับหนึ่งในใจ ชาวบ้านกำลังจะไปช่วยแต่หนึ่งในนั้นคื
เมิ่งหย่งชวนสังเกตุภรรยาของเขาคนนี้ดูมีกาลเทศะและมีความรู้มากกว่าข่าวที่เขาได้รับเสียอีก ข่าวที่ได้ยินคือนางหยาบคายไร้มารยาทสกปรกไม่ชอบอาบน้ำ ดูเหมือนเรื่องที่ไม่ชอบอาบน้ำจะเป็นเรื่องจริง สกปรกเหลือทนเมื่อจ่ายเงินก็รับยาเรียบร้อย เมิ่งลู่เจินนั่งรอทั้งสองคนอยู่เงียบๆ เป็นเด็กรู้ความยิ่งนัก เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นเขามองไปยังกลุ่มเด็กวัยเดียวกันที่ใส่ชุดของสำนักศึกษาจึงเดินเข้าไปหาก่อนจะแตะบ่าผอมแห้งนั่น"อาเจิน อย่าห่วงเลยพี่สะใภ้จะหาเงินส่งให้เจ้าได้เข้าเรียน ตอนนี้เจ้าก็ฝึกกับพี่ชายเจ้าไปก่อนนะ""ข้าไม่เรียนหรอกขอรับพี่สะใภ้ พี่ใหญ่ตั้งใจเรียนเพื่อสอบเป็นขุนนางยอมลำบากเพื่อให้พวกเรามีกิน เงินเดือนซิ่วไฉนั่นท่านปู่กับท่านย่าก็อ้างความกตัญญูยึดไปหมด พี่ชายข้าได้กินเพียงน้ำข้าวใสๆ ตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ยังอยู่พวกเรามีชีวิตที่ดีกว่านี้ขอรับ"เด็กชายเอ่ยไปพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วย เขาไม่อยากเรียนหรอก เขาจะรับจ้างทำงานส่งให้พี่ใหญ่ได้เรียนสูงๆเพื่อสอบขุนนาง จะได้ไม่ถูกคนรังแกเช่นทุกวันนี้ เสิ่นเยี่ยนฟางถอนหายใจ เวลานี้พูดไปก็เท่านั้น ต้องทำให้เห็นว่านางทำได้ก่อนสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ต้องไปหาซื้อเ
คนงานที่เห็นนางแต่งตัวมอซอก็ไม่ต้อนรับ แต่พอหันไปเห็นเมิ่งหย่งชวนก็ส่งสายตาทอดสะพานทันที แหม่เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้ระริกระรี้เชียวแม่คุณหึ"คุณชายเจ้าคะ ท่านต้องการสิ่งใดหรือเจ้าคะ บอกเสี่ยวหงมาเถอะเจ้าค่ะข้าสมารถหาให้ท่านได้"คนงานหญิงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานจนเสิ่นเยี่ยนฟางหมันใส้ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนเมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานซึ้งแม้แต่ตัวเองยังเลี่ยน"ท่านพี่ ชุดเก่าหมดแล้วเลือกสักสามสี่ชุดนะเจ้าคะ พี่สาวท่านนี้ข้าอยากได้ชุดบุรุษสีฟ้า สีเทา สีน้ำเงิน สีดำอย่างละชุดและสีขาวสองชุด ขนาดสามีของข้ากับน้องชายของเขา เอาผ้าเนื้อดีนะ แล้วก็ข้าต้องการชุดสตรีห้าชุด สีเขียว ชมพู ฟ้า ขาว ม่วง อย่างละชุดเจ้าค่ะ"คนงานหญิงที่ต้อนรับเมิ่งหย่งชวนถึงกับอ้าปากค้าง ภถรรยาหรือหน้าตาก็ดี แต่เมียมอมแมมเหลือเกิน ยากจนเหมือนขอทานเช่นนี้มีเงินหรือ ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะจ่ายไหวจึงพูดดจาดุถูก"นี่แม่นาง ชุดบุรุษนั้นชุดละสามร้อยห้าสิบอีแปะนะเพราะเจ้าสั่งผ้าเนื้อดี ชุดขนาดของน้องสามีเจ้าก็ชุดละสองร้อยห้าสิบอีแะ ชุดสตรีสามร้อยห้าสิบอีแปะ เจ้ามีเงินแน่หรือ""เสิ่นเยี่ยนฟางเกลียดจริงๆอีพวกดูคนที่เปลือกเนี่ย นี่ขน
เมื่อได้ของเรียบร้อยเสิ่นเยี่ยนฟางก็ให้สองพี่น้องพาคนงานขนาดไปส่งที่เกวียน แล้วรอที่นั่นนางจะไปซื้อข้าวสารกับธัญพืช แต่ทั้งสองคนอยากไปช่วยนางมากกว่า เมิ่งหย่งชงนอยากรู้ด้วยว่านางเอาเงินมาจากที่ใดกัน จึงต้องตามไปดูให้รู้ชัด"เถ้าแก่เนี้ย ข้าขอฝากสินค้าไว้ก่อนนะเจ้าคะ อาเจินอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามารับ"ขอรับพี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่"จากนั้นทั้งสองคนก็ตรงไปตรอกขายอาหารแห้งทันที เมื่อเดินมาพ้นจากผู้คนเมิ่งหย่งชวนก็เอ่ยปากทันที"เจ้าไปเอาเงินมาจากที่ใดกัน เมื่อเช้าเจ้าได้มาเพียงสิบตำลึงมิใช่หรือ ปิ่นปักผมมารดาเจ้าขายอย่างไรก็ไม่น่าเกินสามตำลึง เสิ่นเยี่ยนฟางบอกข้ามานะ""จะอยากรู้ไปทำไม ข้าหาเงินได้ก็แล้วกันน่า เจ้าอย่าโวยวายเหมือนข้าไปฆ่าคนตายได้หรือไม่ นั่นร้านข้าวสารอยู่ตรงนั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวกว่าจะถึงบ้านจำมืดค่ำเสียก่อน"เสิ่นเยี่ยนฟางซื้อข้าวสารห้าสิบชั่ง แป้งสาลียี่สิบชั่ง เกลือสามชั่ง น้ำตาลห้าชั่ง น้ำตาลแดงสามชั่ง น้ำมันห้าไห นางชอบกินของทอดกับอาหารจานผัด ให้มาต้มผักป่าหรือไม่มีทางย่ะ ก่อนจะถามเมิ่งหย่งชวน"ท่านพี่ เราจะหาโม่หินได้จากที่ใดเจ้าคะ ข้าอยากได้สักอัน""
"หลานเมียเจ้ายอมรับมาเถอะว่าเจ้าทำร้ายพวกข้า อีกทั้งยังขโมยเงินของข้ามาอีก"เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นชาวบบ้านมาเริ่มมุงกัน มีชาวบ้านที่ตั้งแผงอยู่เมื่อเช้าด้วย ไหล่สั่นไหวน้ำตาแหมะแรกมาแล้ว ใครว่าหน่วยซิลต้องเข้มแข็งคะพวกฉันเล่นละครเก่งนะไอ้หนู ไม่งั้นจะแฝงตัวทำภารกิจได้หรือสองมือปิดหน้าร้องไห้เสียงดังจนคนที่เดินผ่านต้องหยุดแล้วเดินเข้ามาดูเหตุการณ์ เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจ นางจะทำอะไรอีก"ฮือๆๆๆๆ ใต้เท้ามือปราบข้าเปล่านะเจ้าคะ""แม่นางน้อย ไปที่ศาลาว่าการเถอะ หากเจ้าไม่ผิดข้าจิ้งเหยียนรับรองว่าไม่มีใครทำอันใดเจ้าได้""ฮือๆๆๆๆใต้เท้า ท่านจับข้าไปแล้วสามีของข้าจะทำเช่นไร เขาใกล้ไม่ไหวเต็มทีแล้วข้ามารับยาให้เขาหากกลับไม่ทันเล่า ท่านจะไม่ให้ข้าได้ส่งเขาเป็นครั้งสุดท้ายหรอกหรือ ข้าไม่ได้ขโมยเงินไม่ได้ทำร้ายผู้ใดจริงๆเจ้าค่ะ ท่านถามชาวบบ้านดูก็ได้ หรือว่าคุณชายจางจะข่มขู่ชาวบ้านมิให้กล่าวความจริง ฮือๆๆๆ ว่ากันว่าเศรษฐีจางท่านใจบุญสุนทานเขาทำเพื่อสิ่งใด เพื่อไถ่บาปที่บุตรชายของท่านก่อขึ้นหรือ ฮือๆๆๆ"เมิ่งหย่งชวนตกใจ นางกล้าแช่งเขาอีกทั้งบอกจะส่งเขาเป้นครั้งสุดท้าย แม้แต่คนงานร้านเหล็กกับร้านข้าวสารก
จากนั้นข้าวของที่ซื้อมาได้ก้อยู่บนเกวียนเรียบร้อย เมิ่งลู่เจินแม้จะอายุไม่มาก แต่เพราะต้องพาพี่ชายไปหาหมอบ่อยๆ จึงสามารถขับเกวียนได้ พ้นจากประตูเมืองมาถึงกลางทางเมิ่งหย่งชวนก็เอ่ยปากทันที"เจ้าเป็นสตรีแบบใดถึงยืนแช่งสามีตนเองห๊ะเสิ่นเยี่ยนฟาง แต่งมาให้ข้าหายป่วยหรือมาให้ข้าตายไวขึ้นกันแน่""ข้าเป็นนสตรีจิตใจดี รูปร่างหน้าตางดงาม แหม่เจ้าก็ยังอยู่ดีนี่ ข้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า คนบางคนยิ่งแช่งยิ่งอายุยืนนะ เจ้ารียนมาเยอะมิเคยได้ยินบ้างหรอกหรือ เฮ้อดวงเจ้าต่างหากที่อัปมงคล แต่งมาวันแรกก้ไปแม่น้ำเหลืองเสียแล้ว"เยียนฟางเอ่ยเบาๆในตอนท้าย อย่างไว้อาลัยเสิ่นเยี่ยนฟางคนเดิม"เจ้าๆๆ เหอะ แล้วข้าวของนี่ไม่ซื้อเยอะเกินไปหรือ อีกอย่างเหตุใดไม่เก็บเงินไว้บ้างใช้จ่ายจนหมด""มีเงินก็ต้องใช้สิ ขืนเก็บเอาไว้บ้านใหญ่เจ้าก็มารุมทึ้งไม่เลิก ปลิงยังไม่น่ารังเกียจเท่ากับปู่ย่าเจ้าเลย นี่เมิ่งหย่งชวนหากเจ้าจะกตัญญูข้าไม่ว่านะ แต่อย่าเอาคำว่าผู้อาวุโสและกตัญญูมาใช้กับข้า ปู่กับย่าเจ้า และลุงใหญ่กับป้าสะใภ้เจ้าไม่ได้คลอดข้าออกมา อย่ามารำเริบข้าจะตอกให้หงายหลังเลย"จากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรอีก เมิ่งหย่งชวนเผล
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ