เมิ่งซุนที่ตอนนี้เลือดกลบปาก พร้อมกับขี้ฝุ่นเข้าปากก็เอ่ยโวยวาย ไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านเมิ่งหลงก็มาถึง เห็นสภาพคนบ้านเมิ่งแล้วก็ถอนหายใจ นี่แหละนะเขาว่ากระต่ายหากจนตรอกก็ยังกัดคนได้ ดูเหมือนสะใภ้เมิ่งคนนี้จะไม่ใช่ลูกพลับนิ่มเสียแล้ว
"ภรรยาอาชวน เจ้าทุบตีพวกเขาเช่นนี้ไม่ถูกนักนะ เหตุใดกันถึงต้องทำร้ายกันเพียงนีเ ตอบข้ามาหน่อย" เสียงร้องไห้ของเมิ่งจื่อดังขึ้นมานางชิงฟ้องก่อน
"ฮือๆๆๆ ท่านปู่หลง นางโสเภณีนี่แย่งปิ่นเงินของข้าเจ้าค่ะ พอข้าไม่ให้นางก็ลงมือทบตีคน นางช่างเป็นสตรีแพศยาเสียงจริงๆ"
เสิ่นเยี่ยนฟางจึงคุกเข่าลงแล้วร้องไห้บ้างสองมือกุมปิ่นเงินไว้แน่นแนบกับหน้าอกตัวเอง สะอื้นตัวโยนร้องไห้จะขาดใจ ชางบ้านที่เพิ่งมาถึง ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าก็สงสาร ส่วนคนที่มาก่อนกำลังปรับอารมณ์อยู่ เมื่อกี้นางเพิ่งจขะทุบตีไล่เตะคนเองนะ ตอนนี้ร้องไห้เสียงดัง จนเมิ่งหลงหัวหน้าหมู่บ้านต้องเอ่ยถาม
"ภรรยาอาชวน เจ้าอย่าร้องไห้ มีอะไรก็พูดมาเถอะข้ารอฟังเจ้าอยู่ ข้าจะไม่ฟังความข้างเดียวแน่นอน"
"ฮึก ฮึก ท่านผู้นำท่านช่างใจร้ายนัก ฮือๆๆท่านไปสู่ขอข้ามาทำไมกัน ไหนท่านบอกว่าจะหาสามีที่ดีให้ข้าไง ท่านใจร้ายหลอกลวง ฮือๆๆๆ"
กระซิกๆๆฮึกๆๆ เสิ่นเยี่ยนฟางร้องไห้จนตัวโยน เมิ่งหลงกับชาวบ้านถึงกับงงไปเลย หัวหน้าหมู่บ้านหลอกลวงหรือ เขาหลอกลวงอันใดนางกัน
"เจ้าๆๆ นี่ภรรยาอาชวน ข้าไปหลอกลวงอันใดเจ้ากันหึ อย่ามาใส่ความข้านะ พูดมาให้รู้เรื่อง ข้าไปสู่ขอจ้าตามประเพณี สินสอดก็มี ตรงไหนที่ข้าหลอกลวงเจ้า"
"ฮือๆๆ ท่านบอกให้ข้าแต่งงานกับเมิ่งหย่งชวนข้าก็แต่งแล้ว ท่านบอกว่าสามีภรรยาดวงเกื้อหนุนสมพงษ์กันข้าก็เชื่อ แล้วตอนนี้เล่า สามีที่น่าสงสารของข้าไอจนกระอักเลือดออกมากองโต ข้าไร้เงินรักษาข้ามีเพียงปิ่นเงินที่เป็นสินเดิมมารดาแค่อันเดียว ข้าจะเอาไปขายเพื่อพาสามีไปหาหมอ แล้วอย่างไรกันฮือๆๆ เมิ่งจื่อกับสหายของนางกลับยื้อแย่งข้ามา ปิ่นเงินนั่นไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่มันคือสิ่งที่จะช่วยชีวิตสามีข้าได้ แต่พวกเขากลับบอกว่าจะฝังข้ากับสามีไปพร้อมกัน ฮือๆๆๆ ตอนท่านไปสู่ขอข้าไม่ได้บอกว่าจะให้เราถูกคนรังแกจนตายนี่ ถ้าวันนี้ขายปิ่นไม่ได้พรุ่งนี้คงต้องฝังพวกข้าผัวเมียแล้ว สวรรค์ท่านใจร้ายนัก ท่านพ่อก็ทอดทิ้ง อาหญิงก็ไม่อยากเลี้ยงดู ใส่ความข้าแย่งสามีของนาง สุดท้ายถูกหลอกมาแต่งงานเป็นเพื่อนศพหรือ ท่านโหดร้ายเพียงนี้จริงๆ หากพรุ่งนี้ข้าถูกฝัง ข้าขอสาปแช่งคนที่ทำให้ข้าต้องพบเจอชะตาเช่นนี้จงโชคร้ายอัปมงคลทั้งชีวิต ฮือๆๆๆๆๆๆ"
ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตกใจ นางสาปแช่งแบบนี้ได้อย่างไร ทุกคนจึงหันมามองหน้าคนบ้านเมิ่งเป็นตาเดียว จนกระทั่งมีสตรีคนนึงก้าวออกมา
"หัวหน้าหมู่บ้าน ปิ่นเงินนี้เป็นของนางจริงๆ เมื่อวานข้าเป็นคนไปรับนางจากหมู่บ้านของนาง อีกทั้งข้าเป็นคนหวีผมให้นางเอง แปลว่าเมิ่งจื่อแย่งของนางมาจริงๆ"
"ป้าหลี่ถ้าเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าพวกเขาอยากให้อาชวนตายจริงๆงั้นสิ จึงแย่งของที่สามารถช่วยชีวิตคนได้"
"แหม่ที่ดินอาชวนตั้งสามสิบหมู่ใครกันไม่โลภ"
ชาวบ้านเริ่มวิจารย์สนุกปาก เมิ่งอี้ที่เพิ่งกลับมาถึงก็กำหมัดแน่น ไอ้ขี้โรคนั่นยังไม่ตายอีกหรือ
มีมันอยู่เขาก็ไม่มีทางได้เงยหน้า ที่สำนักศึกษาอาจารย์ชื่นชมแต่มัน ขนาดมันเข้าเรียนเมื่อสองปีก่อนเท่านั้น ตามหลังเขาตั้งสี่ปีแต่กลับสอบซิ่วไฉได้ อีกทั้งยังได้อันดับหนึ่งอีกด้วย เมิ่งหลงที่ตอนนี้ปวดหัวยิ่งนักถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก
"พวกเจ้าเมื่อไหร่จะเลิกก่อปัญหา อาชวนป่วยก็ไม่ใส่ใจ ข้าแต่งภรรยามาให้เขาพวกเจ้าก็กลั่นแกล้งนาง อยากให้ข้าใช้กฎสกุลลงโทษหรือไม่ห๊ะ เมิ่งซูนเจ้ามันตัวดี อายุปูนนี้ไม่สั่งสอนบุตรหลาย ปล่อยให้ทำแต่เรื่องเลวๆ เมิ่งอี้บ้านเจ้าดีหนักหนา เข้าเรียนมาหกปียังสอบผ่านแค่ถงเซิ่ง วันนี้นอกจากคืนปิ่นปักผมให้นางแล้ว พวกเจ้าต้องจ่ายนางเป็นค่ายาอาชวนอีกสิบตำลึง"
สิ้นเสียงของหัวหน้าหมู่บ้าน แม่เฒ่าเมิ่งก็ร้องไห้ฟูมฟายทุบตีตบหน้าขาตนเองทันที"เจ้าๆๆ นางแพศยาเจ้าอยากฆ่าข้าหรือ เจ้ามาเลยมาเอาชีวิตข้าเลย" เสิ่นเยียนฟางเห็นยายแก่เสแสร้งก็ไม่ยอมนางร้องกลับซ้ำยังร้องดังกว่าอีก"ฮือๆๆๆ ท่านพี่ท่านมีญาติเช่นนี้ได้อย่าไร ฮือๆๆท่านหัวหน้าหมู่บ้านพวกเขาต้องการบีบให้พวกข้าผัวเมีมยตายจริงๆ เขาต้องการที่ดินขอดีๆก็ได้ ทำไมต้องวางแผนมากมายขนาดนี้ จนสามีข้าทรงตัวจะไม่อยู่แล้ว ฮือๆๆๆ ท่านแต่งข้ามาเพื่อฝังรวมเขาจริงๆใช่ๆหม ท่านโกหกเมิ่งหลงท่านเป็นคนหลอกลวงฮือๆๆๆๆๆ"เมิ่งหลงหน้าดำเป็นก้นหม้อแล้ว เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านต่อจากบิดามาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกด่าต่อหน้าคนมากมาย เมิ่งซุนตัวดีเจ้าทำให้เด็กมาถอนหงอกข้าหรือ"เจ้าพวกเจ้า ชดใช้ให้นางสิบตำลึง ไม่เช่นนั้นลงโทษตามกฎตระกูลกับกฎหมู่บ้านหรือจะไปศาลาว่าการ"เมิ่งอี้ที่ได้ยินรีบรีบมาทันที เขาจะสอบอยู่แล้วจะให้ชื่อเสียงตนด่างพร้อยไม่ได้เขาจึงกระซิบกับท่านปูท่านย่า"ท่านปู่ท่านพ่อจ่ายเถอะขอรับ ข้าจะสอบแล้วชื่อเสียงจำเป็นนัก อีกอย่างข้ากำลังคบหากับบุตรสาวขุนนางท่านนึง ไม่อยากให้ชาวบ้านเอาไปนินทาเสียหายขอรับ นังอัปลัก
สุยกว่างโจวพูดคุยสักพักก็กลับไป เสิ่นเยี่ยนฟางตั้งท่าจะพาเขาไปในเมือง ก่อนจะเรียกหาน้องสามี“ลู่เจิน มาช่วยพี่ชายเจ้าสักหน่อยข้าจะพาเขาไปหาหมอในเมือง มีเงินก็ต้องรีบใช้ เดี๋ยวปลิงดูดเลือดบ้านเจ้ามาก่อเรื่องอีก ข้าเพิ่งจะหายป่วยกระทืบพวกเขาเอ้ย เจรจากับพวกเขาไม่ไหว”เมิ่งหย่งชวนลุกจากเตียงเดินมาหานางก่อนจะลากไปยังลำธารหลังบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางขัดขืนเขาพร้อมกับโวยวาย“นี่เมิ่งหย่งชวน เจ้าจะทำอะไรข้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไงวะ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้าแกล้งป่วย เดี๋ยวแม่จับทุ่มเลยนี่”“พูดจาอะไรของเจ้าฟังไม่รู้เรื่อง เจ้าจะไปในเมืองใครจะขายของให้เจ้ากัน อัปลักษณ์เพียงนี้ น้ำก็ไม่อาบเมิ่งหว่านให้เสื้อผ้ามาสองชุด เจ้าควรอาบน้ำได้แล้ว สกปรกเหลือเกิน เหม็นสาบยิ่งนักจะให้ข้านอนกับเจ้าได้อย่างไรกันไ” โอ๊ย บ้านเจ้ามีตั้งสี่ห้องแยกกันนอนก็ได้แล้ว เจ้าจะทำอะไร ไอ้เด็กบ้านี่ปล่อยข้านะ เฮ้ย”ตูม!!!!เมิ่งหย่งชวนรำคาญเสียงโวยวายเลยจับนางโยนลงน้ำ เขาตามลงมาใช้ใยบวบขัดตามแขนนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางแสบไปหมด จากผิวกระดำกระด่างพอถูกจับขาดก็ขาวนวลเนียน แต่คนตัวโตไม่พอใจจับนางกดน้ำขยี้ศรีษะแรงๆ“ผมนี่ไม่
เสิ่นเยี่ยนฟางสังเกตุบริเวณรอบๆ ตามสไตล์ของหน่วยสอดแนมทุกอย่างต้องประมวลผลฉับไว เดินไปตามตรอกต่างๆ สังเกตุทุกอย่าง ก่อนจะมองหาอาชีพที่ต้องทำหากินยังโลกที่โหดร้ายนี่เฮ้อกำลังจะไปที่โรงหมอก็เจอเข้ากับอาเขยพอดีกับที่อาเขยหันมาเจอนาง สวยผิดหูผิดตาจริงๆ ขนาดตอนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มอมแมมนางยังงามนัก ตอนนี้นางยิ่งงาม ปากชมพูอวบอิ่มนั่น หน้าอกที่เขาเคยได้สัมผัสมันครั้งหนึ่งก่อนที่นางจะเอาหมอนไม้ฟาดหัวเขาจนแตก แล้วเมียเขากลับมาพอดี อยากจับไว้ใต้ร่างจริงๆ แต่งให้ไอ้ขี้โรคนั่นน่าเสียดาย“หืมใครเนี่ย เสี่ยวฟางของอานี่นามาเดินตลาดหรือ วันนี้แต่ตัวงดงามมากนัก เจ้าอยากกินอะไรหรือไม่อาเลี้ยงเจ้าเองดีไหม สามีขี้โรคของเจ้าเล่า คงไม่ได้มาซื้อของเซ่นไหว้หรอกนะ เสียดายความสาวเจ้าจริงๆ อยากให้อาเขยคนนี้ช่วยคลายความเหงาดีหรือไม่”เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสายเขาที่มองนางด้วยสายตาลามกโลมเลีย อีกทั้งสหายของเขาอีกสองคนก็ใช้สายตาเช่นเดียวกัน ดูท่าคงนิสัยอุบาทว์เหมือนกัน จึงไม่ตอบแต่เดินหนีแทน หวังซูอาเขยของนางเดินมาดักหน้า ก่อนจะกางแขนกั้น ส่งสายตาโลมเลียเสิ่นเยี่ยนฟางนับหนึ่งในใจ ชาวบ้านกำลังจะไปช่วยแต่หนึ่งในนั้นคื
เมิ่งหย่งชวนสังเกตุภรรยาของเขาคนนี้ดูมีกาลเทศะและมีความรู้มากกว่าข่าวที่เขาได้รับเสียอีก ข่าวที่ได้ยินคือนางหยาบคายไร้มารยาทสกปรกไม่ชอบอาบน้ำ ดูเหมือนเรื่องที่ไม่ชอบอาบน้ำจะเป็นเรื่องจริง สกปรกเหลือทนเมื่อจ่ายเงินก็รับยาเรียบร้อย เมิ่งลู่เจินนั่งรอทั้งสองคนอยู่เงียบๆ เป็นเด็กรู้ความยิ่งนัก เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นเขามองไปยังกลุ่มเด็กวัยเดียวกันที่ใส่ชุดของสำนักศึกษาจึงเดินเข้าไปหาก่อนจะแตะบ่าผอมแห้งนั่น"อาเจิน อย่าห่วงเลยพี่สะใภ้จะหาเงินส่งให้เจ้าได้เข้าเรียน ตอนนี้เจ้าก็ฝึกกับพี่ชายเจ้าไปก่อนนะ""ข้าไม่เรียนหรอกขอรับพี่สะใภ้ พี่ใหญ่ตั้งใจเรียนเพื่อสอบเป็นขุนนางยอมลำบากเพื่อให้พวกเรามีกิน เงินเดือนซิ่วไฉนั่นท่านปู่กับท่านย่าก็อ้างความกตัญญูยึดไปหมด พี่ชายข้าได้กินเพียงน้ำข้าวใสๆ ตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ยังอยู่พวกเรามีชีวิตที่ดีกว่านี้ขอรับ"เด็กชายเอ่ยไปพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วย เขาไม่อยากเรียนหรอก เขาจะรับจ้างทำงานส่งให้พี่ใหญ่ได้เรียนสูงๆเพื่อสอบขุนนาง จะได้ไม่ถูกคนรังแกเช่นทุกวันนี้ เสิ่นเยี่ยนฟางถอนหายใจ เวลานี้พูดไปก็เท่านั้น ต้องทำให้เห็นว่านางทำได้ก่อนสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ต้องไปหาซื้อเ
คนงานที่เห็นนางแต่งตัวมอซอก็ไม่ต้อนรับ แต่พอหันไปเห็นเมิ่งหย่งชวนก็ส่งสายตาทอดสะพานทันที แหม่เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้ระริกระรี้เชียวแม่คุณหึ"คุณชายเจ้าคะ ท่านต้องการสิ่งใดหรือเจ้าคะ บอกเสี่ยวหงมาเถอะเจ้าค่ะข้าสมารถหาให้ท่านได้"คนงานหญิงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานจนเสิ่นเยี่ยนฟางหมันใส้ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนเมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานซึ้งแม้แต่ตัวเองยังเลี่ยน"ท่านพี่ ชุดเก่าหมดแล้วเลือกสักสามสี่ชุดนะเจ้าคะ พี่สาวท่านนี้ข้าอยากได้ชุดบุรุษสีฟ้า สีเทา สีน้ำเงิน สีดำอย่างละชุดและสีขาวสองชุด ขนาดสามีของข้ากับน้องชายของเขา เอาผ้าเนื้อดีนะ แล้วก็ข้าต้องการชุดสตรีห้าชุด สีเขียว ชมพู ฟ้า ขาว ม่วง อย่างละชุดเจ้าค่ะ"คนงานหญิงที่ต้อนรับเมิ่งหย่งชวนถึงกับอ้าปากค้าง ภถรรยาหรือหน้าตาก็ดี แต่เมียมอมแมมเหลือเกิน ยากจนเหมือนขอทานเช่นนี้มีเงินหรือ ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะจ่ายไหวจึงพูดดจาดุถูก"นี่แม่นาง ชุดบุรุษนั้นชุดละสามร้อยห้าสิบอีแปะนะเพราะเจ้าสั่งผ้าเนื้อดี ชุดขนาดของน้องสามีเจ้าก็ชุดละสองร้อยห้าสิบอีแะ ชุดสตรีสามร้อยห้าสิบอีแปะ เจ้ามีเงินแน่หรือ""เสิ่นเยี่ยนฟางเกลียดจริงๆอีพวกดูคนที่เปลือกเนี่ย นี่ขน
เมื่อได้ของเรียบร้อยเสิ่นเยี่ยนฟางก็ให้สองพี่น้องพาคนงานขนาดไปส่งที่เกวียน แล้วรอที่นั่นนางจะไปซื้อข้าวสารกับธัญพืช แต่ทั้งสองคนอยากไปช่วยนางมากกว่า เมิ่งหย่งชงนอยากรู้ด้วยว่านางเอาเงินมาจากที่ใดกัน จึงต้องตามไปดูให้รู้ชัด"เถ้าแก่เนี้ย ข้าขอฝากสินค้าไว้ก่อนนะเจ้าคะ อาเจินอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามารับ"ขอรับพี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่"จากนั้นทั้งสองคนก็ตรงไปตรอกขายอาหารแห้งทันที เมื่อเดินมาพ้นจากผู้คนเมิ่งหย่งชวนก็เอ่ยปากทันที"เจ้าไปเอาเงินมาจากที่ใดกัน เมื่อเช้าเจ้าได้มาเพียงสิบตำลึงมิใช่หรือ ปิ่นปักผมมารดาเจ้าขายอย่างไรก็ไม่น่าเกินสามตำลึง เสิ่นเยี่ยนฟางบอกข้ามานะ""จะอยากรู้ไปทำไม ข้าหาเงินได้ก็แล้วกันน่า เจ้าอย่าโวยวายเหมือนข้าไปฆ่าคนตายได้หรือไม่ นั่นร้านข้าวสารอยู่ตรงนั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวกว่าจะถึงบ้านจำมืดค่ำเสียก่อน"เสิ่นเยี่ยนฟางซื้อข้าวสารห้าสิบชั่ง แป้งสาลียี่สิบชั่ง เกลือสามชั่ง น้ำตาลห้าชั่ง น้ำตาลแดงสามชั่ง น้ำมันห้าไห นางชอบกินของทอดกับอาหารจานผัด ให้มาต้มผักป่าหรือไม่มีทางย่ะ ก่อนจะถามเมิ่งหย่งชวน"ท่านพี่ เราจะหาโม่หินได้จากที่ใดเจ้าคะ ข้าอยากได้สักอัน""
"หลานเมียเจ้ายอมรับมาเถอะว่าเจ้าทำร้ายพวกข้า อีกทั้งยังขโมยเงินของข้ามาอีก"เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นชาวบบ้านมาเริ่มมุงกัน มีชาวบ้านที่ตั้งแผงอยู่เมื่อเช้าด้วย ไหล่สั่นไหวน้ำตาแหมะแรกมาแล้ว ใครว่าหน่วยซิลต้องเข้มแข็งคะพวกฉันเล่นละครเก่งนะไอ้หนู ไม่งั้นจะแฝงตัวทำภารกิจได้หรือสองมือปิดหน้าร้องไห้เสียงดังจนคนที่เดินผ่านต้องหยุดแล้วเดินเข้ามาดูเหตุการณ์ เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจ นางจะทำอะไรอีก"ฮือๆๆๆๆ ใต้เท้ามือปราบข้าเปล่านะเจ้าคะ""แม่นางน้อย ไปที่ศาลาว่าการเถอะ หากเจ้าไม่ผิดข้าจิ้งเหยียนรับรองว่าไม่มีใครทำอันใดเจ้าได้""ฮือๆๆๆๆใต้เท้า ท่านจับข้าไปแล้วสามีของข้าจะทำเช่นไร เขาใกล้ไม่ไหวเต็มทีแล้วข้ามารับยาให้เขาหากกลับไม่ทันเล่า ท่านจะไม่ให้ข้าได้ส่งเขาเป็นครั้งสุดท้ายหรอกหรือ ข้าไม่ได้ขโมยเงินไม่ได้ทำร้ายผู้ใดจริงๆเจ้าค่ะ ท่านถามชาวบบ้านดูก็ได้ หรือว่าคุณชายจางจะข่มขู่ชาวบ้านมิให้กล่าวความจริง ฮือๆๆๆ ว่ากันว่าเศรษฐีจางท่านใจบุญสุนทานเขาทำเพื่อสิ่งใด เพื่อไถ่บาปที่บุตรชายของท่านก่อขึ้นหรือ ฮือๆๆๆ"เมิ่งหย่งชวนตกใจ นางกล้าแช่งเขาอีกทั้งบอกจะส่งเขาเป้นครั้งสุดท้าย แม้แต่คนงานร้านเหล็กกับร้านข้าวสารก
จากนั้นข้าวของที่ซื้อมาได้ก้อยู่บนเกวียนเรียบร้อย เมิ่งลู่เจินแม้จะอายุไม่มาก แต่เพราะต้องพาพี่ชายไปหาหมอบ่อยๆ จึงสามารถขับเกวียนได้ พ้นจากประตูเมืองมาถึงกลางทางเมิ่งหย่งชวนก็เอ่ยปากทันที"เจ้าเป็นสตรีแบบใดถึงยืนแช่งสามีตนเองห๊ะเสิ่นเยี่ยนฟาง แต่งมาให้ข้าหายป่วยหรือมาให้ข้าตายไวขึ้นกันแน่""ข้าเป็นนสตรีจิตใจดี รูปร่างหน้าตางดงาม แหม่เจ้าก็ยังอยู่ดีนี่ ข้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า คนบางคนยิ่งแช่งยิ่งอายุยืนนะ เจ้ารียนมาเยอะมิเคยได้ยินบ้างหรอกหรือ เฮ้อดวงเจ้าต่างหากที่อัปมงคล แต่งมาวันแรกก้ไปแม่น้ำเหลืองเสียแล้ว"เยียนฟางเอ่ยเบาๆในตอนท้าย อย่างไว้อาลัยเสิ่นเยี่ยนฟางคนเดิม"เจ้าๆๆ เหอะ แล้วข้าวของนี่ไม่ซื้อเยอะเกินไปหรือ อีกอย่างเหตุใดไม่เก็บเงินไว้บ้างใช้จ่ายจนหมด""มีเงินก็ต้องใช้สิ ขืนเก็บเอาไว้บ้านใหญ่เจ้าก็มารุมทึ้งไม่เลิก ปลิงยังไม่น่ารังเกียจเท่ากับปู่ย่าเจ้าเลย นี่เมิ่งหย่งชวนหากเจ้าจะกตัญญูข้าไม่ว่านะ แต่อย่าเอาคำว่าผู้อาวุโสและกตัญญูมาใช้กับข้า ปู่กับย่าเจ้า และลุงใหญ่กับป้าสะใภ้เจ้าไม่ได้คลอดข้าออกมา อย่ามารำเริบข้าจะตอกให้หงายหลังเลย"จากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรอีก เมิ่งหย่งชวนเผล
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ