Share

ตอนที่14

“แม่บ้านฉันพึ่งลาออกเห็นว่าจะไปเลี้ยงหลานฉันลองหาแล้วแต่ไม่มีใครมาสมัครก็ต้องทำเองไปก่อน”

ภูผาพยายามอยู่ที่จะหาคนมาทำงานแต่ที่นี่ค่อนข้างหายากนิดนึงเพราะเป็นต่างจังหวัดส่วนมากคนพื้นที่ก็จะทำไร่ทำนาหรือทำกิจการของตนเองกันหมด

13.00 น.

“หัวหน้าเรียกป้ามามีอะไรหรือเปล่าคะ”

น้ำทิพย์แม่บ้านวัยห้าสิบเข้ามาในห้องของภูผาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเรียกพบ

“ช่วงเย็นป้าทิพย์พอจะว่างไหมครับพอดีผมอยากให้ป้าไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยผมมีเงินค่าจ้างให้ครั้งละ500ครับ”

ภูผาเห็นว่าหาแม่บ้านประจำมันยากเหลือเกินเขาก็จะลองถามจากคนที่ทำงานดูว่าอยากจะทำงานพิเศษหรือเปล่าเรื่องเงินเขาให้เต็มวันเลยเพราะจะให้เขามาทำงานบ้านเองคงไม่เรียบร้อยเท่าผู้หญิงทำอีกอย่างบางวันที่เขาไม่ได้กลับก็ไม่มีคนดูแลบ้านด้วย

“ป้าก็อยากไปนะคะ...แต่ช่วงเย็นป้าก็ต้องกลับไปดูแลบ้านทำกับข้าวให้ผัวกับลูกอีก”

น้ำทิพย์เองก็อยากจะได้เงินพิเศษอยู่หรอกแต่ภาระที่บ้านเธอก็ต้องกลับไปดูแลนี่น่ะสิ

“อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรครับ”

ภูผาพยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้ำทิพย์ทำงานดีมาก

“เอ่อ...หัวหน้าหาแม่บ้านอยู่เหรอคะลองถามหนูพระพายที่อยู่แผนกธุรการดูสิคะเห็นว่าเธอก็รับงานพิเศษหลังเลิกงานอยู่เหมือนกันเธอขยันนะคะเห็นว่างานอะไรเธอก็ทำได้หมดเลย”

น้ำทิพย์เห็นว่ามีอีกคนที่น่าจะรับงานนี้ได้เลยเสนอให้ชายหนุ่มได้ลองไปถามดู

“พระพายเหรอครับ”

ภูผาไม่ค่อยคุ้นชินกับชื่อนี้เท่าไรจึงทำหน้าสงสัยครุ่นคิดว่าที่นี่มีคนชื่อนี้ทำงานด้วยหรือ

“ค่ะ...หัวหน้าน่าจะไม่ค่อยเจอเธอเพราะออกแต่ข้างนอกเธอพึ่งมาทำงานได้ประมาณสามเดือนเองค่ะเด็กคนนี้ขยันมากเลยนะคะ”

น้ำทิพย์รู้ว่าทำไมชายหนุ่มทำหน้าแบบนั้นเพราะส่วนมากหัวหน้าของเธอจะไม่ค่อยได้เข้ากรมเท่าไรส่วนมากก็จะสำรวจอะไรต่ออะไรด้านนอกมากกว่า

“เดี๋ยวผมจะลองคุยกับเธอดูนะครับ....ขอบคุณครับป้าทิพย์”

ภูผาพยักหน้ารับปากน้ำทิพย์อีกเดี๋ยวเขาคิดว่าจะลองเรียกหญิงสาวที่ชื่อพระพายมาคุยดู

ชั่วโมงต่อมา

ก็อกๆๆ

“เข้ามาได้ครับ”

ภูผาได้ยินเสียงเคาะประตูก็รู้ว่าคนที่เขาเรียกให้มาพบน่าจะมาแล้วจึงอนุญาตให้เปิดประตูเข้ามาได้

“หัวหน้าเรียกพายมีเรื่องอะไรเหรอคะ”

พระพายร้อนๆหนาวๆเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็มีคนไปบอกเธอว่าหัวหน้าเรียกพบเธอพึ่งจะเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่เท่าไรเองหวังว่าจะไม่โดนตำหนิเรื่องอะไรนะ

พระพายเคยเห็นชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากรมที่นี่ไม่กี่ครั้งตั้งแต่ทำงานมาเพราะเธอรู้ว่าส่วนมากหัวหน้ากรมที่นี่ชอบลุยงานข้างนอกมากกว่าแต่เธอก็รู้ว่าเขาค่อนข้างสุขุมและเป็นที่ยำเกรงของคนที่นี่

“คุณรับงานพิเศษหลังเลิกงานได้ใช่ไหม”

ภูผาเงยหน้ามองสาวน้อยตรงหน้าพร้อมยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรพร้อมถามถึงเรื่องที่เขาจะให้เธอไปทำงานพิเศษทันทีเพราะหากเธอตอบตกลงเขาก็จะให้เธอเริ่มงานเย็นนี้เลย

“รับค่ะแต่ว่าไอ้งานพิเศษที่หัวหน้าว่ามันคืออะไรเหรอคะ”

พระพายอยากได้งานพิเศษอยู่แล้วเพราะเธอออกจากผับนั่นเธอก็ยังหางานพิเศษไม่ได้แต่เธอก็ต้องถามก่อนว่าไอ้งานพิเศษที่ว่านั่นมันคืออะไร

“อ๋อ...ป้าทิพย์บอกผมว่าคุณรับงานพิเศษหลังเลิกงานคือผมจะให้คุณไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยพอดีแม่บ้านผมลาออกกะทันหันผมให้ครั้งละ500”

“โห...รับค่ะ”

พระพายถึงกับตาโตเรื่องงานบ้านเธอไม่เกี่ยงเลยสักนิดแถมทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงินเหมือนทำงานทั้งวันอีกต่างหากแบบนี้เธอไม่รับก็บ้าแล้ว

“ดีครับ...งั้นเริ่มเย็นนี้เลยนะเดี๋ยวคุณกลับพร้อมผมทำงานเสร็จแล้วผมจะไปส่งที่บ้าน”

ภูผาโล่งอกที่เขาได้คนไปทำงานบ้านเสียทีไม่อย่างนั้นเขาคงจะเหนื่อยงานพอแล้วไหนยังต้องเหนื่อยกับการจัดการงานบ้านอีก

“ได้ค่ะหัวหน้าขอบคุณนะครับ”

พระพายรีบยกมือขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าเธอยกใหญ่ที่ให้เอได้งานได้เงินพิเศษเพิ่มมาอีก

“ครับ...ขอบคุณเช่นกันที่รับงานผม”

ภูผาอมยิ้มให้กับอาการดีใจของเธอเขาต่างหากที่ควรขอบคุณเธอที่ยอมมาทำงานให้เขา

15.00 น.

Rrrrrrrrr

“ว่าไง”

ภูผากำลังนั่งตรวจงานอยู่ในห้องของเขาอย่างเพลินๆเมื่อเพื่อนของเขาโทรมาจึงละจากงานไปรับสายทันที

“ฉันต้องกลับบ้านด่วนคุณพ่อเข้าโรงพยาบาล”

เหนือเมฆได้รับข่าวมาจากแม่เลียงของเขาก็ต้องีบเตรียมตัวกลับอย่างกะทันหัน

“ท่านเป็นยังไงบ้าง”

น้ำเสียงของเพื่อนเขาดูท่าไม่ค่อยดีเท่าไรเขาจึงอยากรู้อาการของพ่อเพื่อนว่าเป็นยังไงบ้าง

“อาการยังไม่ดีขึ้นฉันต้องรีบไป”

“ขอให้โชคดีนะ”

ภูผาทำได้แต่อวยพรให้เพื่อนของเขาโชคดีเรื่องที่กลังกังวลใจอยู่ในขณะนี้

เหนือเมฆร้อนใจอย่างมากเรื่องพ่อของเขาชายหนุ่มรีบนั่งเครื่องกลับมาที่กรุงเทพอย่างรวดเร็วแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

โรงพยาบาล

“คุณพ่อเป็นแบบนี้ได้ยังไง”

เหนือเมฆมาถึงโรงพยาบาลก็หันมาถามแขไขอย่างหัวเสียว่าพ่อเขาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

“คุณอิทเครียดที่ตอนนี้การตามหาหลานยังไม่ได้เรื่องเสียทีเลยโรคหัวใจกำเริบน่ะค่ะ”

แขไขเห็นเหนือเมฆเดินมาก็รีบทำหน้าเศร้าพร้อมบอกชายหนุ่มทั้งน้ำตาว่าอิทธิวัฒน์เครียดเรื่องอะไร

“โรคหัวใจ...คุณพ่อเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เมื่อไร”

เหนือเมฆไม่รู้มาก่อนว่าพ่อเขาเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เมื่อไรเพราะไม่เห็นมีใครบอกเขาสักคน

“ได้พักใหญ่แล้วค่ะแต่คุณอิทไม่ให้บอกใคร”

แขไขเองไม่อยากให้อิทธิวัฒน์บอกใครมากกว่าเพราะหากรู้ตั้งแต่แรกก็จะหาทางช่วยกันรักษาและก็คงจะไม่เป็นไปตามแผนของเธอ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status