“เฮ้อ...”
เหนือเมฆถึงกับกุมขมับนี่เขาจะไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเขาเลยหรือเขาคิดว่าพ่อของเขายังเห็นเขาสำคัญอยู่หรือไม่ในเมื่อเป็นอะไรก็ไม่ยอมที่จะบอกกันจะได้ช่วยกันหาทางแก้ตั้งแต่เนิ่นๆ
วันต่อมา
โรงพยาบาล
“คุณพ่อเป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกผม”
เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาฟื้นตัวแล้วจากเมื่อวานที่อาการไม่ค่อยดีเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อของเขาด้วยความเป็นห่วง
“ฉันบอกแกแล้วมันจะหายหรือไงวะ”
อิทธิวัฒน์มีเหตุผลที่เขาไม่อยากจะบอกเรื่องอาการป่วยของเขากับใครเพราะในใจของเขาไม่อยากจะให้ใครมาห่วงโดยเฉพาะลูกๆของเขาแต่คำพูดของเขามันยิ่งทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รู้เรื่องนี้
“แล้วนี่ดูแลตัวเองยังไงครับถึงได้อาการหนักแบบนี้”
เหนือเมฆรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับคำพูดของคนเป็นพ่อถึงบอกเขาแล้วมันไม่หายแต่พ่อของเขาดูแลตัวเองยังไงถึงได้เป็นหนักแบบนี้แล้วที่เขาอยากรู้คือพ่อของเขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือเปล่า
“ฉันก็หาหมอนี่แหละแล้วก็แขเค้าก็มียาบำรุงให้ฉันกินอยู่เรื่อยๆแกไม่ต้องห่วงหรอกฉันแค่เครียดหนักเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“ต่อไปนี้ผมจะหาหมอดูเรื่องสุขภาพของคุณพ่อเอง”
เหนือเมฆตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะดูแลเรื่องสุขภาพของพ่อเขาเอง
“หื้มม...แกไม่ต้องมาสนใจฉันหรอกฉันดูแลตัวเองได้...แกเอาเวลาไปทำงานแกเถอะบริษัทแกเข้าไปบ้างหรือเปล่าลูกน้องจำหน้าไม่ได้แล้วมั้ง”
อิทธิวัฒน์ไม่อยากให้ลูกชายของเขาต้องมาลำบากดูแลอะไรเขาพร้อมทั้งยังพูดให้ลูกของเขาสนใจบริษัทที่เขาให้ดูแลต่อมากกว่า
“เรื่องงานผมจัดการได้แต่ที่ผมพูดคือผมห่วงคุณพ่อจริงๆถ้าเห็นว่ามีคนดูแลดีอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับผมขอตัว”
เหนือเมฆเห็นว่าพ่อของเขาก็ยังไม่อยากที่จะให้เขามายุ่งกับเรื่องนี้อยู่ดีในเมื่อไม่อยากให้เขายุ่งเขาก็จะไม่ยุ่งและเดินออกจากห้องไปทันทีน้ำตาลูกผู้ชายเอ่อคลอออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่เขาเข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาจึงไม่อยากจะให้เขายุ่งกับชีวิตนัก
บ้านภูผา
17.00 น.
“หัวหน้าคะขวดพวกนี้เยอะมากหัวหน้าดื่มหนักเหมือนกันนะคะเนี่ย”
พระพายเห็นขวดเครื่องดื่มราคาแพงพวกนี้หลายขวดกองอยู่ตามมุมของบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วเธอว่าจะเก็บวันนี้เพราะเมื่อวานเก็บไม่ทันเธออดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มอยู่คนเดียวจะดื่มเยอะขนาดนี้เชียวหรือ
“ไม่ใช่ของผมหรอกของเพื่อนผมน่ะ...พอดีเพื่อนผมมาเที่ยวพึ่งกลับไปกะทันหัน”
ภูผาต้องรีบปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ของเขาเพราะหากหญิงสาวคิดว่าเขาดื่มหนักมันจะดูไม่ดีอีกอย่างเขาก็เป็นถึงหัวหน้ากรมที่นี่ด้วย
“เพื่อน...ผู้ชายเหรอคะ??”
พระพายอยากจะรู้เหมือนกันว่าเพื่อนที่มาบ้านชายหนุ่มจะเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชายเพราะได้ข่าวแว่วๆจากที่ทำงานมาว่าหัวหน้ากรมป่าไม้ที่นี่โสดอยู่เหมือนกัน
“ครับ”
ภูผาพยักหน้าตอบหญิงสาวอย่างไม่คิดอะไร
“0-0...เพื่อนผู้ชาย??”
//หรือว่าหัวหน้าเราจะเป็น......//
พระพายถึงกับเบิกตาโพรงเมื่อได้ยินว่าคนที่มากินนอนอยู่กับหัวหน้าของเธอคือผู้ชายเธออดคิดไม่ได้ว่าชายหนุ่มที่หน้าตาหน้าที่การงานดีแบบนี้ที่ยังไม่มีภรรยาเสียทีอาจจะเป็นพวกที่ชอบไม้ป่าเดียวกันก็เป็นได้
“อ.เอ่อ...เพื่อนครับ...ผมชอบผู้หญิง”
ภูผาชะงักที่จะเดินเข้าห้องของเขาไปเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวเขารู้ได้ในทันทีว่าเธอต้องคิดในเรื่องที่เขาไม่อยากให้คิดอยู่เป็นแน่เพราะเขานั้นชอบโดนจับจ้องเรื่องนี้อยู่เป็นประจำ
“อ๋อ...แฮร่...พายก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ...อิๆ.”
พระพายรีบทำอาการของเธอให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่แต่ท่าทางของเธอเมื่อครู่คงปิดไม่มิดแล้วหละ
บ้านพาขวัญ
20.00 น.
“เป็นไงบ้างขวัญหน้าตาสดชื่นขึ้นเยอะเลยนะ”
พระพายกลับจากทำงานก็เดินมาที่บ้านของเพื่อนสาวเธอว่าจะมาเยี่ยมเพื่อนเธอสักหน่อยว่าสภาพจิตใจดีขึ้นบ้างหรือยังเพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้มาหาเพื่อนเธอเลยแต่เมื่อเห็นเพื่อนเธอยิ้มแย้มทักทายเธอได้ก็ดีใจ
“อ้าวพายมาซะมืดเลย”
พาขวัญกำลังนั่งพับเสื้อผ้าของจันทร์เจ้าอยู่เมื่อเห็นเพื่อนเธอมาที่บ้านจึงละมือจากการพับผ้าเสียก่อนแปลกใจที่เพื่อนเธอมาเสียมืดค่ำ
“ก็ฉันไปรับจ๊อบทำงานบ้านให้หัวหน้าที่กรมมาน่ะสิเค้าให้วันละตั้ง500แน่ะทำไม่กี่ชั่วโมงเอง”
“เค้าก็ใจดีเหมือนกันนะ”
พาขวัญคิดว่าหัวหน้างานที่ทำงานประจำของเพื่อนเธอก็ดีเหมือนกันที่ไม่เอาเปรียบลูกน้องเรียกไปใช้งานฟรีๆ
“จริง...500นี่เทียบกับฉันทำงานทั้งวันเลยนะ”
พระพายรู้สึกโอเคกับงานนี้มากเพราะว่ามันก็ไม่ได้หนักจนเธอทำไม่ได้แถมเงินก็โอเคอีกด้วย
“นี่ทีหลังมืดแล้วก็ล็อคบ้านด้วย”
พระพายเห็นว่าเวลานี้เธอยังเปิดประตูบ้านเพื่อนเอเข้ามาได้เลยจึงเตือนให้เพื่อนเธอระวังเวลามืดแล้วก็ให้ปิดล็อคประตูให้เรียบร้อย
“พอดียุ่งๆจันทร์เจ้าพึ่งจะกินนมหลับไปเมื่อสักพักฉันก็มานั่งพับผ้านี่แหละ”
พาขวัญเองก็ลืมไปเลยเพราะเธอพึ่งละมือจากจันทร์เจ้าและมานั่งพับผ้าอยู่เลย
“เหนื่อยไหมเลี้ยงเด็กอ่อนน่ะ”
พระพายรู้ว่าเลี้ยงเด็กอ่อนมันต้องมีอะไรหลายอย่างให้ทำให้ดูแลไหนจะงานบ้านอีกเพราะขนาดแม่เธอเลี้ยงแค่ช่วงกลางวันยังดูยุ่งเลย
“อืม...ฉันมีความสุขมากกว่านะ”
พาขวัญยอมรับว่ามีหลายอย่างที่เธอต้องทำแต่เธอมีความสุขมากกว่าจนลืมมองเรื่องว่าเธอเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยไปเลย
“ดีแล้วหละฉันเห็นแกยิ้มได้ก็ดีใจ”
พระพายเห็นเพื่อนเธอยิ้มได้เธอก็สบายใจเธอรู้สึกว่าเพื่อนเธอมีความเป็นแม่อยู่ในตัวมากเธอยังชื่นชมเลยถ้าหากเป็นเธอก็คงจะบ่นเหนื่อยไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่
บ้านภูผา“เจ้าของเบอนั้นอยู่บ้านหลังนี้เหรอ”ภูผาดูรูปที่เพื่อนของขาถ่ายมาอย่างสงสัย“อืม...เธอมีเด็กอ่อนเลี้ยงด้วย”นาวาเพื่อนของภูผาที่เป็นตำรวจสืบเรื่องนี้จนได้รูปมายืนยันกับภูผาแล้วจึงมาปรึกษากันต่อที่บ้านอย่างลับๆ“แล้วใช่ลูกของเธอหรือเปล่า”“เห็นคนแถวนั้นบอกว่าเธอพึ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วก็มีลูกติดกลับมาด้วยแต่มีบางอย่างที่น่าสงสัย...คือเธอไม่มีสามี”“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับเธอเอง”ภูผาคิดว่ายังไงเขาก็ต้องเข้าไปคุยกับผู้หญิงในรูปด้วยตัวเองอย่างเร็วที่สุดเพราะมันมีเรื่องที่น่าสงสัยหลายอย่างทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะได้พบคำตอบที่ต้องการหากเขาเข้าไปหาเธอวันต่อมา15.00 น.กรุงเทพมหานครสนามบินRrrrrr“ว่าไง”เหนือเมฆกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินแล้วเพราะคิดว่าอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรพ่อของเขาก็อาการดีขึ้นแล้วอีกทังยังไม่ให้เขาไปยุ่งเรื่องการดูแลอีก“แกกลับมาวันนี้ทันไหม”ภูผาอยากให้เพื่อนของเขากลับมาที่บ้านขอเขาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาได้หลักฐานสำคัญมาแล้ว“อืมฉันกำลังจะกลับไปพอดี”“ดีงั้นเจอกันที่บ้าน”16.30 น.บ้านพาขวัญ“
“เพื่อนพายไม่โกหกหรอกค่ะหัวหน้าไม่อย่างนั้นจะมาลำบากนั่งเลี้ยงเด็กคนนี้อยู่ทำไมไม่ส่งตัวให้ครอบครัวแล้วขอเงินไม่ดีกว่าเหรอคะ”พระพายเห็นชายหนุ่มถามเพื่อนของเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อเธอจึงต้องยืนยันอีกแรง“อืม...แล้วเพียงฟ้าบอกอะไรคุณอีกหรือเปล่า”ภูผาอยากรู้ว่าพาขวัญนั้นได้คุยอะไรกับเพียงฟ้าอีกหรือเปล่าเผื่อเขาจะมีหลักฐานอะไรสาวถึงตัวคนทำผิดได้“ไม่ค่ะไม่ทันได้บอกเธอรีบให้ฉันพาลูกเธอหนีมา...แต่ฉันเห็นมีผู้ชายสองคนขับรถมอเตอร์ไซต์ปิดใบหน้าทั้งหมดวนดูตรงนั้นอยู่สักครู่แล้วก็ขับออกไปหลังจากนั้นฉันก็รีบพาลูกพี่เพียงฟ้ามาที่บ้าน”“แสดงว่าเพียงฟ้ากับอรรณพก็ต้องรู้ว่ามีคนจ้องทำร้าย”จากคำบอกเล่าของพาขวัญภูผาก็รู้ว่าทั้งอรรณพและเพียงฟ้าน่าจะรู้ว่าเป็นคนในครอบครัวที่คิดทำร้ายแต่เพียงไม่รู้ว่าใครเท่านั้นจึงเลือกที่จะฝากลูกของเธอกับคนอื่นเช่นนี้“ฉันคิดแบบนั้นแต่ฉันไม่กล้าบอกตำรวจเพราะฉันไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า”“ผมเชื่อ”ภูผาดูท่าทางของหญิงสาวแล้วเธอตอบอย่างจริงใจตรงไปตรงมาสายตาของเธอก็ดูอ่อนโยนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรแถมเธอก็ยังดูแลหนูน้อยคนนี้อย่างดีอีกด้วยดูจากของใช้แต่ละอย่างที่เธอซื้อมาและจ
“คือว่า...ตอนนั้น..........”พาขวัญเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนั้นให้ชายหนุ่มได้ฟังทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมเธอจึงต้องพาตัวหลานของเขาไปดูแลและบอกคนอื่นว่าเป็นลูกของเธอเอง“อืม...อย่างนี้นี่เอง...ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ดูแลหลานฉันอย่างดีแถมยังดิ้นรนเพื่อจะหาเงินเลี้ยงหลานฉันอีกแต่ตอนนี้ฉันขอหลานฉันคืน”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจ....สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากไม่ต่างกับหญิงสาวในตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณเธอที่เสียสละให้หลานของเขามากมายขนาดทั้งอีกทั้งยังเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะมีเงินมาซื้อนมกับของใช้เด็กอ่อนเพื่อหลานของเขาอีกเขารู้สึกว่าเขาทำผิดกับเธอจริงๆกับเรื่องในวันนั้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วเธอไม่อยากพูดถึงเขาเองก็ไม่ขอพูดถึงก็แล้วกันในเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุมันไม่ผิดและเขาก็ได้เจอหลานแล้วต่อไปนี้เขาจะขอดูแลหลานของเขาเองหญิงสาวจะได้ไม่ต้องลำบากดูแลหลานของเขาอีกต่อไป“แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะไม่ใช่คนที่จะทำร้ายลูกของฉัน”พาขวัญมองหน้าหนูน้อยที่เธออุ้มอยู่ด้วยน้ำตาคลอเบ้านี่คือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในที่สุดมันก็มาถึงเธอจะต้องเสียจันทร์เจ้า
“คะ??”พาขวัญถึงกับตกใจอีกรอบคราแรกเธอคิดว่าเขาจะให้เธอไปอยู่แบบฐานะพี่เลี้ยงเด็กอะไรแบบนี้เสียอีก“แต่เธอไม่ต้องกังวลเราเป็นแค่พ่อกับแม่ให้กับหลานฉันเท่านั้นเรื่องอื่นเธอไว้ใจฉันได้”เหนือเมฆคิดว่าการที่เขาเล่นบทเป็นพ่อให้จันทร์เจ้าแล้วเอาจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยพร้อมหญิงสาวจะได้ไม่มีคนสงสัยว่าเขาเอาเด็กมาจากไหนและพ่อของเขาเองก็จะได้ยกเลิกเรื่องจับคู่เขากับเอมิกาอีกด้วยพาขวัญยังคิดไม่ตกว่าจะตอบรับหรือยังไงดีเหมือนเธอจะโดนบีบให้มีทางเลือกทางเดียวเลยตอนนี้“ฉันให้เวลาเธอคิดก่อนเดี๋ยวฉันขอปรึกษาอะไรกับภูผาสักหน่อย”เหนือเมฆมีเวลาให้หญิงสาวคิดนิดหน่อยแต่เขาก็รู้ว่ายังไงเธอก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอกอยู่ดีพร้อมทั้งเขาจะหารือกับภูผาเรื่องนี้อีกที“แอ้...แง้...แง้งง”“ส่งจันทร์เจ้ามาค่ะเธอน่าจะไม่คุ้นมือคุณ”“อืมม”เหนือเมฆจำต้องปล่อยหลานของเขาคืนให้กับหญิงสาวเพราะดูท่าหลานของเขาคงจะไม่ชอบอ้อมแขนของเขาเท่าไรนัก10 นาทีต่อมา“ฉันคิดว่าถ้าฉันมีครอบครัวอาจจะหาตัวคนร้ายเร็วขึ้นก็ได้...ฉันคิดว่าถ้าหากเพียงฟ้าคิดว่าครอบครัวเป็นอันตรายถ้าหากฉันมีครอบครัวแล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับฉันฉันเองก็มั่นใจว่ามันจ
“สวัสดีค่ะคุณเหนือ”แม่บ้านวัยห้าสิบต้นๆมายืนรอรับคนเป็นเจ้านายที่นานๆจะกลับมาที่บ้านทีนึงทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เจ้าของบ้านจะพาใครมาอยู่เพราะเขาสั่งให้พวกเธอเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงเด็กอ่อนไว้ล่วงหน้าแล้ว“นี่ภรรยาฉันชื่อพาขวัญเรียกเธอว่าคุณขวัญส่วนนี่ลูกสาวของฉันชื่อจันทร์เจ้าทุกคนช่วยกันดูแลเธอเหมือนที่ดูแลฉันด้วย”เหนือเมฆเดินเขามาถึงหน้าบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านสองคนที่ดูแลบ้านของเขาก็รีบนะน้ำคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขาให้พวกเธอได้รู้จัก“ค่ะ/ค่ะ.คุณเหนือ”แม่บ้านทั้งสองยินดีต้อนรับคนที่จะมาอยู่ที่นี่เสมอและยิ่งรู้ว่ามีคุณหนูตัวน้อยมาอยู่ด้วยพวกเธอก็ยิ่งยินดี“สวัสดีค่ะทุกคนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”พาขวัญยิ้มทักทายทั้งสองอย่างเป็นมิตรและเดินตามาชายหนุ่มเข้าบ้านไปเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าเริ่มรู้สึกตัวตื่นแล้วเธอจะต้องรีบเตรียมนมและเตรียมเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกสาวตัวน้อยของเธอ“คุณห้องฉันกับจันทร์เจ้าอยู่ไหนฉันจะเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้า”พาขวัญต้องรีบถามชายหนุ่มว่าห้องเธออยู่ที่ไหนเพราะเธอต้องรีบจัดเตรียมที่จะชงนมและเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้าก่อนที่จะงอแง“ตามผมมา”เหนือเมฆเดิ่นดิ่
“อ๋อ...เปล่านี่”เหนือเมฆรู้ตัวว่าทำให้หญิงสาวรู้ตัวจึงรีบหันกลับไปมองจันทร์เจ้าทันทีคราวนี้หนูน้อยไม่มีอาการขมวดคิ้วแล้วแต่ยื่นมือมาเล่นนิ้วก้อยของเขาที่จับขวดนมอยู่แทนด้วยสายตาที่ยังสงสัยเช่นเดิม“คุณเหนือคะ...ในบ้านของคุณทุกห้องจะมีรูปคุณตั้งทุกห้องแบบนี้เลยเหรอคะ”พาขวัญมองไปรอบๆห้องเธอเห็นมีแต่รูปของชายหนุ่มวางตั้งอยู่เต็มไปหมดน่าจะเป็นรูปของเขากับพี่ชายเป็นแน่เธอคิดว่าหากห้องนี้มีรูปเขาอยู่ห้องอื่นๆก็น่าจะมีด้วย“เปล่าหรอกผมพึ่งให้คนย้ายห้องนอนผมลงมาที่นี่”เหนือเมฆส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมบอกกับหญิงสาวว่ามันมีแค่ห้องของเขาเท่านั้นที่จะมีรูปเขาอยู่“ที่นี่ห้องนอนคุณเหรอคะ”พาขวัญทำหน้างงเล็กน้อยคราแรกเขาบอกว่าที่นี่ห้องของเธอกับจันทร์เจ้าไหนที่พูดเมื่อครู่มันหมายความว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาเต็มๆเลยล่ะหรือว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปจึงถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกที“ใช่เราจะนอนด้วยกัน”เหนือเมฆคิดว่าถ้าตกลงจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้จันทร์เจ้าและคนอื่นๆก็รับรู้แบบนั้นเขาและเธอก็จะต้องอยู่ห้องเดียวกันอยู่แล้วคนในบ้านจะได้ไม่สงสัยและจะไม่มีอะไรผิดสังเกตด้วยอีกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาวและจันทร์เจ
“บอกให้เรียกยังไง.”ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะลืมอะไรเร็วขนาดนี้เขาบอกให้เธอเรียกเขาให้ชินปากแต่ก็ต้องเตือนกันอยู่เรื่อย“เอ่อ...พี่เหนือ”พาขวัญเองก็ลืมตัวเธอเองยังไม่ชินเพราะนี่ก็พึ่งจะวันแรกที่เธอต้องเรียกเขาแบบนี้“นี่ที่นอนพี่เดี๋ยวขวัญกับลูกนอนบนเตียงก็แล้วกัน”เหนือเมฆไปขนฟูกนอนจากในห้องของเขามาเพื่อที่หญิงสาวจะได้นอนอย่างสบายใจและไม่อึดอัดด้วย“ค่ะ”พาขวัญคิดว่าชายหนุ่มยังใจดีกับเธอบ้างที่จะไม่ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้“ขวัญ...”“คะ??...”“คือพี่อยากจะรู้เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของขวัญเผื่อใครถามจะได้ตอบตรงกันไง”เหนือเมฆคิดว่าเขาและเธอจะต้องมาทำความรู้จักกันให้เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยเพราะแม่เลี้ยงของเขายิ่งชอบจับผิดเก่งอยู่ด้วย“อืมค่ะ...คือขวัญเกิดที่ลำปางพอพ่อเสียแม่ก็พาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตอนที่จบม.6 แล้วตอนนี้ขวัญอายุ25เรียนจบบริหารธุรกิจการตลาดแล้วพอแม่เสียขวัญก็ทำงานที่ภูเก็ตจนตกงานแล้วก็กลับมาอยู่ที่ลำปางได้ประมาณเดือนนึงค่ะ”พาขวัญเล่าประวัติคร่าวๆของเธอให้เขาฟังว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร“อ๋อ...แล้วไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ”หากพ่อแม่เสียหมดเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวมีญาติที่ไหนอีกหรือ
“โอ้โห...หลานปู่แก้มย้วยอย่างนี้ล่ะคงจะกินเก่งน่าดู”“ค่ะ”อิทธิวัฒน์ก้มมองหน้าหลานของเขาในอ้อมแขนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เห็นแก้มย้วยๆของหนูน้อยก็รู้สึกเอ็นดูอย่างมากได้ข่าวว่าพึ่งคลอดแต่ดูหนูน้อยจะเจ้าเนื้อเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะอุ้มฟัดเล่นติดอยู่ที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นเขาจึงไม่อยากปลุก“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ...น้าว่าเข้ามาด้านในกันก่อนเถอะ”แขไขทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญทุกคนเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน“คุณพ่อไม่โกรธผมเหรอครับที่ผมไม่ได้บอก”เหนือเมฆไม่เห็นพ่อเขาจะมีอาการต่อว่าอะไรเขาสักนิดเขาจึงนึกแปลกใจเพราะปกติอย่างน้อยก็ต้องมีคำว่าสักคำเมื่อเจอหน้าของเขา“ฉันจะโกรธแกเรื่องอะไรดีใจเสียอีกที่แกมีเมียมีลูกเสียทีนึกว่าจะทำตัวเสเพลกู่ไม่กลับเสียแล้ว”อิทธิวัฒน์ไม่อยากทำลายบรรยากาศครอบครัวแค่ลูกชายของเขามีเมียมีลูกเสียทีเขาก็หายห่วงแล้ว“แล้วนี่อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ”เหนือเมฆเห็นคุณพ่อของเขาหน้าตาสดใสขึ้นก็อยากจะรู้เรื่องออาการป่วยว่าพ่อของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างถึงแม้อาการภายนอกจะดูปกติแต่ภายในมันป่วยอยู่ขั้นไหนเขาก็อยากจะรู้“ก็อย่างที่เห็นฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...อ้าว...หลานปู่ตื