Share

ตอนที่15

“เฮ้อ...”

เหนือเมฆถึงกับกุมขมับนี่เขาจะไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเขาเลยหรือเขาคิดว่าพ่อของเขายังเห็นเขาสำคัญอยู่หรือไม่ในเมื่อเป็นอะไรก็ไม่ยอมที่จะบอกกันจะได้ช่วยกันหาทางแก้ตั้งแต่เนิ่นๆ

วันต่อมา

โรงพยาบาล

“คุณพ่อเป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกผม”

เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาฟื้นตัวแล้วจากเมื่อวานที่อาการไม่ค่อยดีเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อของเขาด้วยความเป็นห่วง

“ฉันบอกแกแล้วมันจะหายหรือไงวะ”

อิทธิวัฒน์มีเหตุผลที่เขาไม่อยากจะบอกเรื่องอาการป่วยของเขากับใครเพราะในใจของเขาไม่อยากจะให้ใครมาห่วงโดยเฉพาะลูกๆของเขาแต่คำพูดของเขามันยิ่งทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รู้เรื่องนี้

“แล้วนี่ดูแลตัวเองยังไงครับถึงได้อาการหนักแบบนี้”

เหนือเมฆรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับคำพูดของคนเป็นพ่อถึงบอกเขาแล้วมันไม่หายแต่พ่อของเขาดูแลตัวเองยังไงถึงได้เป็นหนักแบบนี้แล้วที่เขาอยากรู้คือพ่อของเขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือเปล่า

“ฉันก็หาหมอนี่แหละแล้วก็แขเค้าก็มียาบำรุงให้ฉันกินอยู่เรื่อยๆแกไม่ต้องห่วงหรอกฉันแค่เครียดหนักเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“ต่อไปนี้ผมจะหาหมอดูเรื่องสุขภาพของคุณพ่อเอง”

เหนือเมฆตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะดูแลเรื่องสุขภาพของพ่อเขาเอง

“หื้มม...แกไม่ต้องมาสนใจฉันหรอกฉันดูแลตัวเองได้...แกเอาเวลาไปทำงานแกเถอะบริษัทแกเข้าไปบ้างหรือเปล่าลูกน้องจำหน้าไม่ได้แล้วมั้ง”

อิทธิวัฒน์ไม่อยากให้ลูกชายของเขาต้องมาลำบากดูแลอะไรเขาพร้อมทั้งยังพูดให้ลูกของเขาสนใจบริษัทที่เขาให้ดูแลต่อมากกว่า

“เรื่องงานผมจัดการได้แต่ที่ผมพูดคือผมห่วงคุณพ่อจริงๆถ้าเห็นว่ามีคนดูแลดีอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับผมขอตัว”

เหนือเมฆเห็นว่าพ่อของเขาก็ยังไม่อยากที่จะให้เขามายุ่งกับเรื่องนี้อยู่ดีในเมื่อไม่อยากให้เขายุ่งเขาก็จะไม่ยุ่งและเดินออกจากห้องไปทันทีน้ำตาลูกผู้ชายเอ่อคลอออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่เขาเข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาจึงไม่อยากจะให้เขายุ่งกับชีวิตนัก

บ้านภูผา

17.00 น.

“หัวหน้าคะขวดพวกนี้เยอะมากหัวหน้าดื่มหนักเหมือนกันนะคะเนี่ย”

พระพายเห็นขวดเครื่องดื่มราคาแพงพวกนี้หลายขวดกองอยู่ตามมุมของบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วเธอว่าจะเก็บวันนี้เพราะเมื่อวานเก็บไม่ทันเธออดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มอยู่คนเดียวจะดื่มเยอะขนาดนี้เชียวหรือ

“ไม่ใช่ของผมหรอกของเพื่อนผมน่ะ...พอดีเพื่อนผมมาเที่ยวพึ่งกลับไปกะทันหัน”

ภูผาต้องรีบปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ของเขาเพราะหากหญิงสาวคิดว่าเขาดื่มหนักมันจะดูไม่ดีอีกอย่างเขาก็เป็นถึงหัวหน้ากรมที่นี่ด้วย

“เพื่อน...ผู้ชายเหรอคะ??”

พระพายอยากจะรู้เหมือนกันว่าเพื่อนที่มาบ้านชายหนุ่มจะเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชายเพราะได้ข่าวแว่วๆจากที่ทำงานมาว่าหัวหน้ากรมป่าไม้ที่นี่โสดอยู่เหมือนกัน

“ครับ”

ภูผาพยักหน้าตอบหญิงสาวอย่างไม่คิดอะไร

“0-0...เพื่อนผู้ชาย??”

//หรือว่าหัวหน้าเราจะเป็น......//

พระพายถึงกับเบิกตาโพรงเมื่อได้ยินว่าคนที่มากินนอนอยู่กับหัวหน้าของเธอคือผู้ชายเธออดคิดไม่ได้ว่าชายหนุ่มที่หน้าตาหน้าที่การงานดีแบบนี้ที่ยังไม่มีภรรยาเสียทีอาจจะเป็นพวกที่ชอบไม้ป่าเดียวกันก็เป็นได้

“อ.เอ่อ...เพื่อนครับ...ผมชอบผู้หญิง”

ภูผาชะงักที่จะเดินเข้าห้องของเขาไปเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวเขารู้ได้ในทันทีว่าเธอต้องคิดในเรื่องที่เขาไม่อยากให้คิดอยู่เป็นแน่เพราะเขานั้นชอบโดนจับจ้องเรื่องนี้อยู่เป็นประจำ

“อ๋อ...แฮร่...พายก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ...อิๆ.”

พระพายรีบทำอาการของเธอให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่แต่ท่าทางของเธอเมื่อครู่คงปิดไม่มิดแล้วหละ

บ้านพาขวัญ

20.00 น.

“เป็นไงบ้างขวัญหน้าตาสดชื่นขึ้นเยอะเลยนะ”

พระพายกลับจากทำงานก็เดินมาที่บ้านของเพื่อนสาวเธอว่าจะมาเยี่ยมเพื่อนเธอสักหน่อยว่าสภาพจิตใจดีขึ้นบ้างหรือยังเพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้มาหาเพื่อนเธอเลยแต่เมื่อเห็นเพื่อนเธอยิ้มแย้มทักทายเธอได้ก็ดีใจ

“อ้าวพายมาซะมืดเลย”

พาขวัญกำลังนั่งพับเสื้อผ้าของจันทร์เจ้าอยู่เมื่อเห็นเพื่อนเธอมาที่บ้านจึงละมือจากการพับผ้าเสียก่อนแปลกใจที่เพื่อนเธอมาเสียมืดค่ำ

“ก็ฉันไปรับจ๊อบทำงานบ้านให้หัวหน้าที่กรมมาน่ะสิเค้าให้วันละตั้ง500แน่ะทำไม่กี่ชั่วโมงเอง”

“เค้าก็ใจดีเหมือนกันนะ”

พาขวัญคิดว่าหัวหน้างานที่ทำงานประจำของเพื่อนเธอก็ดีเหมือนกันที่ไม่เอาเปรียบลูกน้องเรียกไปใช้งานฟรีๆ

“จริง...500นี่เทียบกับฉันทำงานทั้งวันเลยนะ”

พระพายรู้สึกโอเคกับงานนี้มากเพราะว่ามันก็ไม่ได้หนักจนเธอทำไม่ได้แถมเงินก็โอเคอีกด้วย

“นี่ทีหลังมืดแล้วก็ล็อคบ้านด้วย”

พระพายเห็นว่าเวลานี้เธอยังเปิดประตูบ้านเพื่อนเอเข้ามาได้เลยจึงเตือนให้เพื่อนเธอระวังเวลามืดแล้วก็ให้ปิดล็อคประตูให้เรียบร้อย

“พอดียุ่งๆจันทร์เจ้าพึ่งจะกินนมหลับไปเมื่อสักพักฉันก็มานั่งพับผ้านี่แหละ”

พาขวัญเองก็ลืมไปเลยเพราะเธอพึ่งละมือจากจันทร์เจ้าและมานั่งพับผ้าอยู่เลย

“เหนื่อยไหมเลี้ยงเด็กอ่อนน่ะ”

พระพายรู้ว่าเลี้ยงเด็กอ่อนมันต้องมีอะไรหลายอย่างให้ทำให้ดูแลไหนจะงานบ้านอีกเพราะขนาดแม่เธอเลี้ยงแค่ช่วงกลางวันยังดูยุ่งเลย

“อืม...ฉันมีความสุขมากกว่านะ”

พาขวัญยอมรับว่ามีหลายอย่างที่เธอต้องทำแต่เธอมีความสุขมากกว่าจนลืมมองเรื่องว่าเธอเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยไปเลย

“ดีแล้วหละฉันเห็นแกยิ้มได้ก็ดีใจ”

พระพายเห็นเพื่อนเธอยิ้มได้เธอก็สบายใจเธอรู้สึกว่าเพื่อนเธอมีความเป็นแม่อยู่ในตัวมากเธอยังชื่นชมเลยถ้าหากเป็นเธอก็คงจะบ่นเหนื่อยไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status