“คือว่า...ตอนนั้น..........”
พาขวัญเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนั้นให้ชายหนุ่มได้ฟังทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมเธอจึงต้องพาตัวหลานของเขาไปดูแลและบอกคนอื่นว่าเป็นลูกของเธอเอง
“อืม...อย่างนี้นี่เอง...ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ดูแลหลานฉันอย่างดีแถมยังดิ้นรนเพื่อจะหาเงินเลี้ยงหลานฉันอีกแต่ตอนนี้ฉันขอหลานฉันคืน”
เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจ....สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากไม่ต่างกับหญิงสาวในตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณเธอที่เสียสละให้หลานของเขามากมายขนาดทั้งอีกทั้งยังเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะมีเงินมาซื้อนมกับของใช้เด็กอ่อนเพื่อหลานของเขาอีกเขารู้สึกว่าเขาทำผิดกับเธอจริงๆกับเรื่องในวันนั้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วเธอไม่อยากพูดถึงเขาเองก็ไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน
ในเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุมันไม่ผิดและเขาก็ได้เจอหลานแล้วต่อไปนี้เขาจะขอดูแลหลานของเขาเองหญิงสาวจะได้ไม่ต้องลำบากดูแลหลานของเขาอีกต่อไป
“แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะไม่ใช่คนที่จะทำร้ายลูกของฉัน”
พาขวัญมองหน้าหนูน้อยที่เธออุ้มอยู่ด้วยน้ำตาคลอเบ้านี่คือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในที่สุดมันก็มาถึงเธอจะต้องเสียจันทร์เจ้าส่งคืนครอบครัวจริงๆหรือหญิงสาวถามตัวเองในใจ
แต่เธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าถ้าหากจันทร์เจ้าอยู่กับชายหนุ่มแล้วจะปลอดภัยในเมื่อคนร้ายก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครแถมยังฆ่าคนด้วยแผนการที่แนบเนียนอีกด้วย
“ลูกเธอ??....”
เหนือเมฆตกใจกับคำที่หญิงสาวพูดเล็กน้อยถ้าเขาคิดผิดหญิงสาวคงจะตกหลุมรักหลานของเขาให้แล้ว
“ฉันรักจันทร์เจ้าฉันปล่อยลูกฉันไปไม่ได้ให้เค้าอยู่กับฉันเถอะนะฉันเชื่อว่าจันทร์เจ้าจะปลอดภัย”
พาขวัญขอร้องชายหนุ่มทั้งน้ำตาเธอตัดใจปล่อยจันทร์เจ้าให้ห่างอกเธอไม่ได้จริงๆเธอไม่รู้ว่าถ้าหากจันทร์เจ้าไปอยู่กับคนอื่นแล้วคนอื่นจะรู้ใจจันทร์เจ้าเหมือนที่เธอรู้หรือเปล่าเธอสัญญากับชายหนุ่มให้เชื่อมั่นว่าหากหลานของเขาอยู่กับเธอจันทร์เจ้าจะต้องปลอดภัยแน่นอน
“ตั้งสติหน่อยนี่มันหลานของฉันลูกของพี่ชายฉัน...ตอนนี้ฉันก็เป็นอาของเค้าฉันจะปล่อยให้เค้าเป็นอันตรายได้ยังไงล่ะฉันยืนยันว่าฉันจะไม่มีวันทำร้ายเค้าแน่นอน”
เหนือเมฆคิดว่าหญิงสาวคงจะไม่ยอมปล่อยหลานเขาคืนมาง่ายๆเพราะคิดว่าจะไม่ปลอดภัยและเธอก็น่าจะคิดว่าหลานของเขาเป็นลูกเธอจริงๆแล้วด้วยเขาจึงต้องเรียกสติของเธอคืนมาเพราะตอนนี้เธอดูจะกลัวๆอะไรบางอย่าง
“แล้วถ้าคุณพาจันทร์เจ้ากลับไปทั้งที่ยังไม่รู้ตัวคนร้ายฉันไม่เชื่อหรอกค่ะว่าจันทร์เจ้าจะปลอดภัย”
พาขวัญถึงแม้เธอจะเป็นคนไม่ค่อยทันคนเท่าไรแต่เธอก็คิดได้ว่าถ้าหากมีคนในครอบครัวของจันทร์เจ้าจ้องที่จะทำลายครอบครัวจันทร์เจ้าและถ้าหากชายหนุ่มพาจันทร์เจ้ากลับไปยังไงคนที่จ้องทำร้ายก็ต้องหาทางทำลายจันทร์เจ้าอยู่ดีเธอปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เธอจะปกป้องจันทร์เจ้าด้วยชีวิตของเธอ
“จริงสิ...เอายังไงดีล่ะ...งั้นฉันก็ต้องพาจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยในฐานะอื่น”
เหนือเมฆคิดตามที่หญิงสาวพูดมันก็น่าจะจริง....เขาเองก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทคิดก็แต่ว่าทำอย่างไรจะให้ได้หลานคืนมา
“แอ้...แอ้...”
หนูน้อยที่อยู่ในอกพาขวัญส่งเสียงอ้อแอ้ของเธอเล่นปกติเพราะพึ่งตื่นนอนส่งยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้ารอยยิ้มไร้เดียงสานั้นทำให้พาขวัญรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจไปอีกเมื่อรู้ว่าไม่มีทางรั้งจันทร์เจ้าให้ห่างจากอกเธอได้
“...ฉันขอร้องฉันขอเลี้ยงจันทร์เจ้าเองนะคะ...”
พาขวัญยังกลั้นใจขอร้องชายหนุ่มอีกครั้งเผื่อว่าเขาจะเห็นใจเธอบ้าง
“ถ้าเธออยากจะเลี้ยงเธอก็ต้องไปอยู่กับฉันแล้วล่ะ....”
เหนือเมฆคิดอะไรบางอย่างออกแล้วเขาคิดว่ามันดีต่อทั้งตัวเขาและก็เธอด้วยคือต้องให้เธอไปอยู่กับเขานั่นเองแบบนั้นเขาและเธอก็ได้อยู่กับหลานทั้งสองฝ่าย
“อยู่กับคุณ??”
พาขวัญอึ้งกับความคิดของชายหนุ่มเล็กน้อยจะให้เธอไปอยู่กับเขาทั้งที่พึ่งรู้จักกันเธอค่อนข้างทำใจลำบากเหมือนกัน
“เลือกเอาจะไปอยู่กับฉันได้ดูแลหลานฉันและฉันจะมีเงินค่าเลี้ยงให้เธอหรือจะปล่อยให้หลานไปอยู่กับฉันคนเดียว”
“ค...คือ.ฉัน”
พาขวัญคิดไม่ตกเมื่อจู่ๆเรื่องคืนนั้นมันก็เข้ามาในหัวเสียนี่เธอยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่
“ฉันบอกเธอให้สบายใจได้นะว่าฉันไม่ชอบใช้อะไรเดิมๆแล้วเรื่องเก่าๆฉันก็ไม่เก็บมาคิดด้วย...ฉันขออุ้มหลานหน่อยได้ไหม”
เหนือเมฆคิดว่าพาขวัญคงจะกลัวเขาเพราะเรื่องเก่าจึงพยายามพูดให้หญิงสาวตัดเรื่องนี้ออกไปได้เลยพร้อมขออุ้มหลานของเขาบ้าง
“ได้สิคะ...อุ้มแบบนี้นะคะ..."
“อืม”
พาขวัญไม่ได้หวงที่ชายหนุ่มจะอุ้มจันทร์เจ้าเธอส่งให้เขาพร้อมจัดให้ชายหนุ่มอุ้มให้ถูกเพราะเธอเห็นท่าแล้วเขาคงจะไม่เคยอุ้มเด็กเล็กเลย
“ขอแค่ฉันได้ดูแลจันทร์เจ้าฉันอยู่ที่ไหนก็ได้”
พาขวัญได้รับคำยืนยันจากชายหนุ่มแล้วว่าเขาจะไม่เอาเรื่องเดิมมาพูดเธอก็ค่อยสบายใจและเธอก็ตั้งใจไว้แล้วว่าหากจันทร์เจ้าอยู่ที่ไหนเธอก็จะอยู่ด้วย
“เธออยากให้จันทร์เจ้าไม่รู้สึกขาดอะไรไหมเมื่อเค้าโตขึ้น”
เหนือเมฆมองไปที่หน้าของหลานตัวน้อยของเขามันช่างเหมือนกับพี่ชายของเขาเสียจริงความรู้สึกที่ตื้นตันอยู่ในใจตอนนี้มันเรียกว่าอะไรเขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันหนูน้อยในอ้อมกอดของเขาช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน
“อืม...อยากสิคะ”
“งั้นเธอก็มาเป็นแม่ให้จันทร์เจ้าส่วนฉันเป็นพ่อเธอจะได้อยู่ดูแลจันทร์เจ้าได้ตามสบายไง”
“คะ??”พาขวัญถึงกับตกใจอีกรอบคราแรกเธอคิดว่าเขาจะให้เธอไปอยู่แบบฐานะพี่เลี้ยงเด็กอะไรแบบนี้เสียอีก“แต่เธอไม่ต้องกังวลเราเป็นแค่พ่อกับแม่ให้กับหลานฉันเท่านั้นเรื่องอื่นเธอไว้ใจฉันได้”เหนือเมฆคิดว่าการที่เขาเล่นบทเป็นพ่อให้จันทร์เจ้าแล้วเอาจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยพร้อมหญิงสาวจะได้ไม่มีคนสงสัยว่าเขาเอาเด็กมาจากไหนและพ่อของเขาเองก็จะได้ยกเลิกเรื่องจับคู่เขากับเอมิกาอีกด้วยพาขวัญยังคิดไม่ตกว่าจะตอบรับหรือยังไงดีเหมือนเธอจะโดนบีบให้มีทางเลือกทางเดียวเลยตอนนี้“ฉันให้เวลาเธอคิดก่อนเดี๋ยวฉันขอปรึกษาอะไรกับภูผาสักหน่อย”เหนือเมฆมีเวลาให้หญิงสาวคิดนิดหน่อยแต่เขาก็รู้ว่ายังไงเธอก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอกอยู่ดีพร้อมทั้งเขาจะหารือกับภูผาเรื่องนี้อีกที“แอ้...แง้...แง้งง”“ส่งจันทร์เจ้ามาค่ะเธอน่าจะไม่คุ้นมือคุณ”“อืมม”เหนือเมฆจำต้องปล่อยหลานของเขาคืนให้กับหญิงสาวเพราะดูท่าหลานของเขาคงจะไม่ชอบอ้อมแขนของเขาเท่าไรนัก10 นาทีต่อมา“ฉันคิดว่าถ้าฉันมีครอบครัวอาจจะหาตัวคนร้ายเร็วขึ้นก็ได้...ฉันคิดว่าถ้าหากเพียงฟ้าคิดว่าครอบครัวเป็นอันตรายถ้าหากฉันมีครอบครัวแล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับฉันฉันเองก็มั่นใจว่ามันจ
“สวัสดีค่ะคุณเหนือ”แม่บ้านวัยห้าสิบต้นๆมายืนรอรับคนเป็นเจ้านายที่นานๆจะกลับมาที่บ้านทีนึงทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เจ้าของบ้านจะพาใครมาอยู่เพราะเขาสั่งให้พวกเธอเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงเด็กอ่อนไว้ล่วงหน้าแล้ว“นี่ภรรยาฉันชื่อพาขวัญเรียกเธอว่าคุณขวัญส่วนนี่ลูกสาวของฉันชื่อจันทร์เจ้าทุกคนช่วยกันดูแลเธอเหมือนที่ดูแลฉันด้วย”เหนือเมฆเดินเขามาถึงหน้าบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านสองคนที่ดูแลบ้านของเขาก็รีบนะน้ำคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขาให้พวกเธอได้รู้จัก“ค่ะ/ค่ะ.คุณเหนือ”แม่บ้านทั้งสองยินดีต้อนรับคนที่จะมาอยู่ที่นี่เสมอและยิ่งรู้ว่ามีคุณหนูตัวน้อยมาอยู่ด้วยพวกเธอก็ยิ่งยินดี“สวัสดีค่ะทุกคนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”พาขวัญยิ้มทักทายทั้งสองอย่างเป็นมิตรและเดินตามาชายหนุ่มเข้าบ้านไปเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าเริ่มรู้สึกตัวตื่นแล้วเธอจะต้องรีบเตรียมนมและเตรียมเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกสาวตัวน้อยของเธอ“คุณห้องฉันกับจันทร์เจ้าอยู่ไหนฉันจะเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้า”พาขวัญต้องรีบถามชายหนุ่มว่าห้องเธออยู่ที่ไหนเพราะเธอต้องรีบจัดเตรียมที่จะชงนมและเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้าก่อนที่จะงอแง“ตามผมมา”เหนือเมฆเดิ่นดิ่
“อ๋อ...เปล่านี่”เหนือเมฆรู้ตัวว่าทำให้หญิงสาวรู้ตัวจึงรีบหันกลับไปมองจันทร์เจ้าทันทีคราวนี้หนูน้อยไม่มีอาการขมวดคิ้วแล้วแต่ยื่นมือมาเล่นนิ้วก้อยของเขาที่จับขวดนมอยู่แทนด้วยสายตาที่ยังสงสัยเช่นเดิม“คุณเหนือคะ...ในบ้านของคุณทุกห้องจะมีรูปคุณตั้งทุกห้องแบบนี้เลยเหรอคะ”พาขวัญมองไปรอบๆห้องเธอเห็นมีแต่รูปของชายหนุ่มวางตั้งอยู่เต็มไปหมดน่าจะเป็นรูปของเขากับพี่ชายเป็นแน่เธอคิดว่าหากห้องนี้มีรูปเขาอยู่ห้องอื่นๆก็น่าจะมีด้วย“เปล่าหรอกผมพึ่งให้คนย้ายห้องนอนผมลงมาที่นี่”เหนือเมฆส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมบอกกับหญิงสาวว่ามันมีแค่ห้องของเขาเท่านั้นที่จะมีรูปเขาอยู่“ที่นี่ห้องนอนคุณเหรอคะ”พาขวัญทำหน้างงเล็กน้อยคราแรกเขาบอกว่าที่นี่ห้องของเธอกับจันทร์เจ้าไหนที่พูดเมื่อครู่มันหมายความว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาเต็มๆเลยล่ะหรือว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปจึงถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกที“ใช่เราจะนอนด้วยกัน”เหนือเมฆคิดว่าถ้าตกลงจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้จันทร์เจ้าและคนอื่นๆก็รับรู้แบบนั้นเขาและเธอก็จะต้องอยู่ห้องเดียวกันอยู่แล้วคนในบ้านจะได้ไม่สงสัยและจะไม่มีอะไรผิดสังเกตด้วยอีกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาวและจันทร์เจ
“บอกให้เรียกยังไง.”ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะลืมอะไรเร็วขนาดนี้เขาบอกให้เธอเรียกเขาให้ชินปากแต่ก็ต้องเตือนกันอยู่เรื่อย“เอ่อ...พี่เหนือ”พาขวัญเองก็ลืมตัวเธอเองยังไม่ชินเพราะนี่ก็พึ่งจะวันแรกที่เธอต้องเรียกเขาแบบนี้“นี่ที่นอนพี่เดี๋ยวขวัญกับลูกนอนบนเตียงก็แล้วกัน”เหนือเมฆไปขนฟูกนอนจากในห้องของเขามาเพื่อที่หญิงสาวจะได้นอนอย่างสบายใจและไม่อึดอัดด้วย“ค่ะ”พาขวัญคิดว่าชายหนุ่มยังใจดีกับเธอบ้างที่จะไม่ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้“ขวัญ...”“คะ??...”“คือพี่อยากจะรู้เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของขวัญเผื่อใครถามจะได้ตอบตรงกันไง”เหนือเมฆคิดว่าเขาและเธอจะต้องมาทำความรู้จักกันให้เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยเพราะแม่เลี้ยงของเขายิ่งชอบจับผิดเก่งอยู่ด้วย“อืมค่ะ...คือขวัญเกิดที่ลำปางพอพ่อเสียแม่ก็พาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตอนที่จบม.6 แล้วตอนนี้ขวัญอายุ25เรียนจบบริหารธุรกิจการตลาดแล้วพอแม่เสียขวัญก็ทำงานที่ภูเก็ตจนตกงานแล้วก็กลับมาอยู่ที่ลำปางได้ประมาณเดือนนึงค่ะ”พาขวัญเล่าประวัติคร่าวๆของเธอให้เขาฟังว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร“อ๋อ...แล้วไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ”หากพ่อแม่เสียหมดเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวมีญาติที่ไหนอีกหรือ
“โอ้โห...หลานปู่แก้มย้วยอย่างนี้ล่ะคงจะกินเก่งน่าดู”“ค่ะ”อิทธิวัฒน์ก้มมองหน้าหลานของเขาในอ้อมแขนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เห็นแก้มย้วยๆของหนูน้อยก็รู้สึกเอ็นดูอย่างมากได้ข่าวว่าพึ่งคลอดแต่ดูหนูน้อยจะเจ้าเนื้อเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะอุ้มฟัดเล่นติดอยู่ที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นเขาจึงไม่อยากปลุก“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ...น้าว่าเข้ามาด้านในกันก่อนเถอะ”แขไขทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญทุกคนเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน“คุณพ่อไม่โกรธผมเหรอครับที่ผมไม่ได้บอก”เหนือเมฆไม่เห็นพ่อเขาจะมีอาการต่อว่าอะไรเขาสักนิดเขาจึงนึกแปลกใจเพราะปกติอย่างน้อยก็ต้องมีคำว่าสักคำเมื่อเจอหน้าของเขา“ฉันจะโกรธแกเรื่องอะไรดีใจเสียอีกที่แกมีเมียมีลูกเสียทีนึกว่าจะทำตัวเสเพลกู่ไม่กลับเสียแล้ว”อิทธิวัฒน์ไม่อยากทำลายบรรยากาศครอบครัวแค่ลูกชายของเขามีเมียมีลูกเสียทีเขาก็หายห่วงแล้ว“แล้วนี่อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ”เหนือเมฆเห็นคุณพ่อของเขาหน้าตาสดใสขึ้นก็อยากจะรู้เรื่องออาการป่วยว่าพ่อของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างถึงแม้อาการภายนอกจะดูปกติแต่ภายในมันป่วยอยู่ขั้นไหนเขาก็อยากจะรู้“ก็อย่างที่เห็นฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...อ้าว...หลานปู่ตื
“เอ่อ...ในครัวมีผลไม้เต็มเลยเดี๋ยวน้าไปเตรียมมาให้หนูขวัญดีกว่านะจ๊ะพึ่งคลอดต้องกินของที่มีประโยชน์เยอะ”แขไขเห็นว่าเธอต้องหลบไปสงบสติสักพักเพราะใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมดกลัวว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำมามันจะพัง“ขอบคุณนะคะ”“ไปยัยเอมไปช่วยแม่”“เอ่อ...ค่ะ”เอมิกาเห็นแม่ของเธอส่งสายตาแปลกๆมาให้เธอก็พอจะรู้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอจึงเดินตามแม่ของเธอออกไปแต่โดยดี“หึ้ย...หมั่นไส้มันจริงๆ”เมื่อมาถึงห้องครัวเอมิกาก็มือไม้สั่นเพราะต้องปั้นหน้ายิ้มให้พาขวัญอยู่นานพอควร“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไปแน่”แขไขเองก็เช่นกันเธอโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่“แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะในเมื่อคุณเหนือก็จะแต่งงานอยู่แล้ว”“ดีที่ฉันขัดไว้ก่อนได้ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องทำให้คุณอิทยกทุกอย่างให้พวกมันดูแลให้ช้าที่สุด”ตอนนี้แขไขขอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะเป็นยังไงแต่เธอก็จะทำให้มันช้าที่สุดเท่าที่ช้าได้เพราะเธอต้องหาวิธีจัดการก่อนไม่คิดว่าจู่ๆเหนือเมฆจะมีลูกมีเมียแล้วคิดแต่งงานเสียรวดเร็วขนาดนี้ทางด้านอิทธิวัฒน์“แล้วทางบ้านหนูขวัญรู้เรื่องนี้หรือยัง”อิทธิวัฒน์ก็อยากจะรู้ว่าทางบ้านพาขวัญรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเ
“ท่าทางเธอจะอยากกินมันมากเลยสินะ”เหนือเมฆไม่อยากจะให้มันเสียบรรยากาศเพราะเห็นหญิงสาวหน้าหงอยไปแล้วจึงหันไปหาเรื่องคุยถึงเรื่องอาหารที่เธอทำแทน“ค่ะขวัญไม่ได้กินของแซ่บๆพวกนี้นานแล้ว”พาขวัญเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะสนใจอาหารที่เธอพึ่งเทลงจานจึงยื่นให้เขานั้นได้ดูว่ามันน่ากินแค่ไหน“ดูท่าจะเผ็ดน่าดู”เหนือเมฆเห็นสีของมันเขาก็มีอาการแสบท้องแล้วเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กอาหารรสจัดเขาจึงไม่คุ้นชินเท่าไร“อร่อยนะคะลองชิมสิคะ”พาขวัญยังอยากให้ชายหนุ่มลองชิมฝีมือของเธอเผื่อเขาจะชอบวันหลังเธอนั้นจะได้ทำอีก“อืม...ก็อร่อยดีนะแต่รสชาติมันเผ็ดไปหน่อย”เหนือเมฆใช้ส้อมจิ้มกุ้งชิ้นโตที่ปกคลุมไปด้วยพริกที่อยู่ในจานใส่ปากพร้อมเคี้ยวเขาว่ารสชาติมันก็อร่อยดีแต่ติดตรงที่มันเริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เหงื่อของเขาผุดอออกมาเต็มไปหมดหน้าก็เริ่มแดงขึ้นจนเขาต้องพ่นลมปากออกมาเพื่อระบายความเผ็ด“ท่าทางพี่เหนือจะกินเผ็ดไม่ได้เลยใช่ไหมคะเนี่ย”พาขวัญเห็นอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่ทานอาหารเผ็ด“ก็นิดหน่อย”ชายหนุ่มตอบอย่างรักษาฟรอมตัวเองทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ทานอาหารที่มีพริกเลยต่างหาก
“อ๋อ...อืมงั้นพักเถอะเดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูจันทร์เจ้าเอง”“ขอบคุณนะคะ”เหนือเมฆก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการข้างเคียงวันนั้นของเดือนของหญิงสาวมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงคืนนี้เขาก็อยากจะให้เธอพักเรื่องจันทร์เจ้าเขาคิดว่าเขาดูแลเองได้เช้าวันต่อมาบริษัทXXเครืออธิษฐ์เวหาบริษัทที่ที่เหนือเมฆดูแลอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่ขายอุปกรณ์กีฬาส่งให้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดส่วนมากลูกค้าเองเสียมากกว่าที่จะเดินเข้ามาขอซื้อของจากบริษัทที่นี่เพราะของคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมานาน“ท่านประธานคะตอนช่วงเช้าคุณมีนัดคุยกับคุณนิสาลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ”รตีทำหน้าที่รายงานงานสำคัญในวันนี้ให้เหนือเมฆดีรู้เขาจะได้เตรียมตัว“คุณนิสา”เหนือเมฆไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไรเพราะลูกค้าของเขาก็มากมายเสียเหลือเกินส่วนมากคนที่ติดต่อก็จะเป็นนภัสคนสนิทของเขาเสียมากกว่า“เจ้าของโรงเรียนนานาชาติค่ะ”รตีรู้ว่าเจ้านายของเธอคงจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครจึงย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกค้าประจำที่เป็นเจ้าของโรงเรียน“อ๋อ...ครับ”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจเขาพอจะนึกออกแล้วว่าเธอคนนี้เป็นใครวันนี้เขาต้องคุยกับเธอเองสินะเพราะทุ