“ขวัญ”
พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที
“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”
หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที
“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”
พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน
“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”
พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย
“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”
พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย
“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”
พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่
“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มีเงินไว้ซื้อของใช้ให้จันทร์เจ้า”
เรื่องขู่หรือไม่ขู่พาขวัญไม่อยากเอามันมาเป็นประเด็นแล้วเพราะเธอได้เสียตัวของเธอไปแล้วอีกอย่างเธอเองก็ได้เงินมาซื้อของให้ลูกเธอหญิงสาวยังพยายามคิดว่านี่เป็นข้อดีของเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะไหนๆเธอก็เรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว
“ขวัญ!!...ทำไมเสียสละตัวเองขนาดนี้”
พระพายน้ำตาไหลพรากอย่างบังคับไม่ได้เธอกอดเพื่อนเธอไว้แน่นไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะต้องตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้
“ขอให้เรื่องนี้มันผ่านไปนะพาย...ฉันจะพยายามลืม”
พาขวัญเองก็มีน้ำตาออกมาเหมือนกันหญิงสาวอยากให้เรื่องนี้มันผ่านไปและให้คนรู้น้อยที่สุดเท่าที่จะรู้ได้และเธอเองก็จะพยายามลืมมันไปด้วย
“ฮึก...ฮือๆๆๆ...ฉันขอโทษ...ขอโทษที่พาแกไปที่นั่นขอโทษจริงๆ”
พระพายสะอื้นตัวโยนถ้าหากเธอไม่ยอมให้พาขวัญไปทำงานที่นั่นเรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้เธอเองก็รู้ว่าพาขวัญค่อนข้างหัวอ่อนแต่ก็ไม่ได้ดูแลเพื่อนเธอให้ดีหญิงสาวเอาแต่โทษตัวเองอยู่ในใจ
“แกไม่ผิดเลยพายอย่าโทษตัวเอง....เดี๋ยวฉันเตรียมตัวไปรับจันทร์เจ้าก่อนนะ”
พาขวัญไม่อยากให้พระพายคิดโทษตัวเองเพราะเรื่องทั้งหมดมันก็น่าจะเป็นเพราะโชคชะตาของเธอพร้อมทั้งรีบปาดน้ำตาเตรียมตัวที่จะไปรับจันทร์เจ้ากลับบ้านเพราะเธอฝากมานีไว้ทั้งคืนแล้ว
“ไม่ต้องวันนี้แกพักเถอะฉันบอกแม่ไว้แล้วว่าวันนี้แกไม่สบาย....ไว้ร่างกายแกพร้อมค่อยไปหาลูกนอนพักเถอะฉันจะดูแลแกเองเดี๋ยวฉันไปทำข้าวต้มให้นะ”
พระพายรู้ว่าเพื่อนเธอกลับมาจะเป็นสภาพไหนเธอจึงโทรบอกกับแม่ของเธอไปก่อนแล้วและวันนี้เธอก็จะดูแลเพื่อนเธอเองเพราะเพื่อนเธอคงจะดูแลตัวเองไม่ไหวเรี่ยวแรงจะเดินยังจะไม่มีเลย
“ขอบใจนะพาย”
พาขวัญขอบคุณเพื่อนสาวของเธอพร้อมซุกตัวนอนบนเตียงนอนน้อยของเธอด้วยความเพลีย
“อืม...ฮึก...ฮือๆๆ”
พระพายพยายามกลั้นเสียงร้องให้สะอื้นของเธอไม่ให้พาขวัญได้ยินเพราะความรู้สึกผิดในใจจนล้นจึงไม่สามารถที่จะหยุดร้องตอนนี้ได้พร้อมเดินไปเข้าครัวทำกับข้าวไว้ให้เพื่อนของเธอเพราะคิดว่าจะให้เพื่อนเธอกินยาด้วยไม่อย่างนั้นจะเป็นไข้เอาได้
ทางด้านเหนือเมฆ
“บ้านของเธอก็เข้ามาลึกเหมือนกันนะครับ”
นภัสพูดกับคนเป็นเจ้านายในขณะที่ขับรถกลับแถมแถวที่หญิงสาวอยู่ยังเป็นหมู่บ้านที่ใกล้กับที่ๆอรรณพเกิดอุบัติเหตุด้วย
“อืม...จัดการโอนเข้าบัญชีให้เธอด้วยล้านนึง”
เหนือเมฆไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะโกหกเรื่องมีลูกเพราะอะไรแต่เขารู้ตัวว่าเป็นคนแรกของเธอและเมื่อคืนหญิงสาวเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรเมื่อมาเห็นความเป็นอยู่ของเธอก็อยากจะให้เธอได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้นเขาหวังว่าเงินก้อนนี้คงทำให้หญิงสาวไม่คิดไปทำงานที่นั่นอีก
“ที่คุณเหนือตกลงกับเธอไว้คือแสนนึงไม่ใช่เหรอครับ”
นภัสถึงกับต้องหันหน้ามามองคนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ในรถทันทีเพราะตัวเลขที่เขารู้ว่าเจ้านายของเขาตกลงกับผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่ตัวเลขนี้
“ฉันให้จัดการก็จัดการเถอะน่า”
“ครับๆ”
เหนือเมฆขี้เกียจอธิบายอะไรมากมายนักคำสั่งของเขาก็คือคำสั่ง
บ้านภูผา
“ไง...หายไปทั้งคืนเลยนะ”
ภูผาเห็นเพื่อนของเขากลับมาเสียเช้ารู้อยู่แก่ใจว่าไปทำอะไรมาก็อดที่จะแซวไม่ได้
“อืม...ก็หาความสุขนิดหน่อย”
เหนือเมฆเข้ามาในบ้านก็ทิ้งตัวนั่งพักบนโซฟา
“ฉันพอจะได้เรื่องอะไรมาบ้างแล้วหละ”
“ว่ามาตอนนี้เลย”
จากอาการของคนอยากนอนต่ออีกนิดกลับต้องเบิกตาโพรงเพราะเรื่องที่เพื่อนของเขาเอ่ยมาเมื่อครู่
“จุดที่เกิดอุบัติเหตุของรถพี่แกมันตรงกับเส้นท้ายหมู่บ้านเพราะฉะนั้นเส้นทางอีกเส้นทางที่น่าจะตรวจว่ามีคนที่เข้าข่ายสัญจรเข้าออกตรงนั้นน่าจะเป็นคนท้ายหมู่บ้านเพราะมันสามารถเดินลัดป่าออกมาที่ถนนได้....แถวนั้นก็น่าจะมีบ้านไม่กี่หลังนะแต่ฉันต้องรอคนของฉันเข้าไปสืบอีกทีว่าคนตรงนั้นใครเข้าออกทางนี้บ่อยสุด
“อืม....แล้วเรื่องสัญญาณมือถือที่มีคนโทรแจ้งความในวันเกิดเหตุล่ะ”
ทั้งสองปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ตอนนี้มีหลายคนมากเพราะตอนนั้นคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ทยอยกันโทรแจ้งเลยต้องค่อยๆดูทีละบ้าน”
“แต่คนที่ไปเจอเค้าคาดการณ์ว่าเหตุมันเกิดมาได้เป็นชั่วโมงแล้วแกคิดว่าจะมีคนมาเจอก่อนหน้านั้นไหมลองเชคสัญญาณที่เข้าก่อนหน้านั้นสักชั่วโมงจะได้ไหม”
“อืม....ก็น่าคิดนะเดี๋ยวฉันจะให้เพื่อนฉันลองดู”
ภูผาเห็นว่าความคิดของเพื่อนเขามันก็มีส่วนเป็นไปได้เขาจะลองให้เพื่อนของเขาที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานตำรวจตรวจสองให้อีกที
12.00 น.“ขวัญ...ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว”“อือ...อืมม”พระพายปล่อยให้เพื่อนสาวเธอนอนจนถึงเที่ยงเมื่อเห็นเพื่อนเธอยังไม่ตื่นเสียทีก็ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาเสียก่อน“อะนี่กระเป๋ากับมือถือ”พระพายว่าจะให้เพื่อนเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นกันอยู่“อืม....เอ่อ...พาย!!”พาขวัญกดดูมือถือของเธอตามปกติแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือข้อความที่เด้งเตือนเงินเข้าบัญชีของเธอ“มีอะไรเหรอแก”พระพายทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอมีน้ำเสียงตกใจตอนเปิดดูมือถือ“นี่”“ห.ห้ะ...ล...ล้านนึง”พระพายเกือบเป็นลมเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพื่อนสาวของเธอชูให้ดู“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”พาขวัญยังถามเพื่อนเธอว่าเห็นเหมือนที่เธอเห็นหรือไม่เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นี่มีข้อความด้วยนี่นา....//ฉันให้เธอหนึ่งล้านไม่ต้องตกใจและหวังว่าเธอจะไม่ไปทำงานที่นั่นอีก//”พระพายเห็นข้อความที่มันเด้งเตือนเธอจึงอ่านให้เพื่อนเธอหายคาใจที่คิดว่าตัวเองตาฝาด“แก....”พาขวัญกอดพระพายตัวกลมเมื่อเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เงินเธอมากมายขนาดนี้แค่แสนเดียวเธอก็ถือว่าเยอะมากแล้วแต่ยังไงเธอก็แอบคิดในใจว่าถ้าหากเธอเลือกไ
“แม่บ้านฉันพึ่งลาออกเห็นว่าจะไปเลี้ยงหลานฉันลองหาแล้วแต่ไม่มีใครมาสมัครก็ต้องทำเองไปก่อน”ภูผาพยายามอยู่ที่จะหาคนมาทำงานแต่ที่นี่ค่อนข้างหายากนิดนึงเพราะเป็นต่างจังหวัดส่วนมากคนพื้นที่ก็จะทำไร่ทำนาหรือทำกิจการของตนเองกันหมด13.00 น.“หัวหน้าเรียกป้ามามีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำทิพย์แม่บ้านวัยห้าสิบเข้ามาในห้องของภูผาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเรียกพบ“ช่วงเย็นป้าทิพย์พอจะว่างไหมครับพอดีผมอยากให้ป้าไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยผมมีเงินค่าจ้างให้ครั้งละ500ครับ”ภูผาเห็นว่าหาแม่บ้านประจำมันยากเหลือเกินเขาก็จะลองถามจากคนที่ทำงานดูว่าอยากจะทำงานพิเศษหรือเปล่าเรื่องเงินเขาให้เต็มวันเลยเพราะจะให้เขามาทำงานบ้านเองคงไม่เรียบร้อยเท่าผู้หญิงทำอีกอย่างบางวันที่เขาไม่ได้กลับก็ไม่มีคนดูแลบ้านด้วย“ป้าก็อยากไปนะคะ...แต่ช่วงเย็นป้าก็ต้องกลับไปดูแลบ้านทำกับข้าวให้ผัวกับลูกอีก”น้ำทิพย์เองก็อยากจะได้เงินพิเศษอยู่หรอกแต่ภาระที่บ้านเธอก็ต้องกลับไปดูแลนี่น่ะสิ“อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรครับ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้ำทิพย์ทำงานดีมาก“เอ่อ...หัวหน้าหาแม่บ้านอยู่เหรอคะลองถามหนูพระพายที่อยู่แผนกธุรการดูสิคะเห็น
“เฮ้อ...”เหนือเมฆถึงกับกุมขมับนี่เขาจะไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเขาเลยหรือเขาคิดว่าพ่อของเขายังเห็นเขาสำคัญอยู่หรือไม่ในเมื่อเป็นอะไรก็ไม่ยอมที่จะบอกกันจะได้ช่วยกันหาทางแก้ตั้งแต่เนิ่นๆวันต่อมาโรงพยาบาล“คุณพ่อเป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกผม”เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาฟื้นตัวแล้วจากเมื่อวานที่อาการไม่ค่อยดีเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อของเขาด้วยความเป็นห่วง“ฉันบอกแกแล้วมันจะหายหรือไงวะ”อิทธิวัฒน์มีเหตุผลที่เขาไม่อยากจะบอกเรื่องอาการป่วยของเขากับใครเพราะในใจของเขาไม่อยากจะให้ใครมาห่วงโดยเฉพาะลูกๆของเขาแต่คำพูดของเขามันยิ่งทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รู้เรื่องนี้“แล้วนี่ดูแลตัวเองยังไงครับถึงได้อาการหนักแบบนี้”เหนือเมฆรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับคำพูดของคนเป็นพ่อถึงบอกเขาแล้วมันไม่หายแต่พ่อของเขาดูแลตัวเองยังไงถึงได้เป็นหนักแบบนี้แล้วที่เขาอยากรู้คือพ่อของเขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือเปล่า“ฉันก็หาหมอนี่แหละแล้วก็แขเค้าก็มียาบำรุงให้ฉันกินอยู่เรื่อยๆแกไม่ต้องห่วงหรอกฉันแค่เครียดหนักเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ต่อไปนี้ผมจะหาหมอดูเรื่องสุขภาพของคุณพ่อเอง”เ
บ้านภูผา“เจ้าของเบอนั้นอยู่บ้านหลังนี้เหรอ”ภูผาดูรูปที่เพื่อนของขาถ่ายมาอย่างสงสัย“อืม...เธอมีเด็กอ่อนเลี้ยงด้วย”นาวาเพื่อนของภูผาที่เป็นตำรวจสืบเรื่องนี้จนได้รูปมายืนยันกับภูผาแล้วจึงมาปรึกษากันต่อที่บ้านอย่างลับๆ“แล้วใช่ลูกของเธอหรือเปล่า”“เห็นคนแถวนั้นบอกว่าเธอพึ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วก็มีลูกติดกลับมาด้วยแต่มีบางอย่างที่น่าสงสัย...คือเธอไม่มีสามี”“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับเธอเอง”ภูผาคิดว่ายังไงเขาก็ต้องเข้าไปคุยกับผู้หญิงในรูปด้วยตัวเองอย่างเร็วที่สุดเพราะมันมีเรื่องที่น่าสงสัยหลายอย่างทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะได้พบคำตอบที่ต้องการหากเขาเข้าไปหาเธอวันต่อมา15.00 น.กรุงเทพมหานครสนามบินRrrrrr“ว่าไง”เหนือเมฆกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินแล้วเพราะคิดว่าอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรพ่อของเขาก็อาการดีขึ้นแล้วอีกทังยังไม่ให้เขาไปยุ่งเรื่องการดูแลอีก“แกกลับมาวันนี้ทันไหม”ภูผาอยากให้เพื่อนของเขากลับมาที่บ้านขอเขาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาได้หลักฐานสำคัญมาแล้ว“อืมฉันกำลังจะกลับไปพอดี”“ดีงั้นเจอกันที่บ้าน”16.30 น.บ้านพาขวัญ“
“เพื่อนพายไม่โกหกหรอกค่ะหัวหน้าไม่อย่างนั้นจะมาลำบากนั่งเลี้ยงเด็กคนนี้อยู่ทำไมไม่ส่งตัวให้ครอบครัวแล้วขอเงินไม่ดีกว่าเหรอคะ”พระพายเห็นชายหนุ่มถามเพื่อนของเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อเธอจึงต้องยืนยันอีกแรง“อืม...แล้วเพียงฟ้าบอกอะไรคุณอีกหรือเปล่า”ภูผาอยากรู้ว่าพาขวัญนั้นได้คุยอะไรกับเพียงฟ้าอีกหรือเปล่าเผื่อเขาจะมีหลักฐานอะไรสาวถึงตัวคนทำผิดได้“ไม่ค่ะไม่ทันได้บอกเธอรีบให้ฉันพาลูกเธอหนีมา...แต่ฉันเห็นมีผู้ชายสองคนขับรถมอเตอร์ไซต์ปิดใบหน้าทั้งหมดวนดูตรงนั้นอยู่สักครู่แล้วก็ขับออกไปหลังจากนั้นฉันก็รีบพาลูกพี่เพียงฟ้ามาที่บ้าน”“แสดงว่าเพียงฟ้ากับอรรณพก็ต้องรู้ว่ามีคนจ้องทำร้าย”จากคำบอกเล่าของพาขวัญภูผาก็รู้ว่าทั้งอรรณพและเพียงฟ้าน่าจะรู้ว่าเป็นคนในครอบครัวที่คิดทำร้ายแต่เพียงไม่รู้ว่าใครเท่านั้นจึงเลือกที่จะฝากลูกของเธอกับคนอื่นเช่นนี้“ฉันคิดแบบนั้นแต่ฉันไม่กล้าบอกตำรวจเพราะฉันไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า”“ผมเชื่อ”ภูผาดูท่าทางของหญิงสาวแล้วเธอตอบอย่างจริงใจตรงไปตรงมาสายตาของเธอก็ดูอ่อนโยนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรแถมเธอก็ยังดูแลหนูน้อยคนนี้อย่างดีอีกด้วยดูจากของใช้แต่ละอย่างที่เธอซื้อมาและจ
“คือว่า...ตอนนั้น..........”พาขวัญเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนั้นให้ชายหนุ่มได้ฟังทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมเธอจึงต้องพาตัวหลานของเขาไปดูแลและบอกคนอื่นว่าเป็นลูกของเธอเอง“อืม...อย่างนี้นี่เอง...ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ดูแลหลานฉันอย่างดีแถมยังดิ้นรนเพื่อจะหาเงินเลี้ยงหลานฉันอีกแต่ตอนนี้ฉันขอหลานฉันคืน”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจ....สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากไม่ต่างกับหญิงสาวในตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณเธอที่เสียสละให้หลานของเขามากมายขนาดทั้งอีกทั้งยังเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะมีเงินมาซื้อนมกับของใช้เด็กอ่อนเพื่อหลานของเขาอีกเขารู้สึกว่าเขาทำผิดกับเธอจริงๆกับเรื่องในวันนั้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วเธอไม่อยากพูดถึงเขาเองก็ไม่ขอพูดถึงก็แล้วกันในเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุมันไม่ผิดและเขาก็ได้เจอหลานแล้วต่อไปนี้เขาจะขอดูแลหลานของเขาเองหญิงสาวจะได้ไม่ต้องลำบากดูแลหลานของเขาอีกต่อไป“แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะไม่ใช่คนที่จะทำร้ายลูกของฉัน”พาขวัญมองหน้าหนูน้อยที่เธออุ้มอยู่ด้วยน้ำตาคลอเบ้านี่คือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในที่สุดมันก็มาถึงเธอจะต้องเสียจันทร์เจ้า
“คะ??”พาขวัญถึงกับตกใจอีกรอบคราแรกเธอคิดว่าเขาจะให้เธอไปอยู่แบบฐานะพี่เลี้ยงเด็กอะไรแบบนี้เสียอีก“แต่เธอไม่ต้องกังวลเราเป็นแค่พ่อกับแม่ให้กับหลานฉันเท่านั้นเรื่องอื่นเธอไว้ใจฉันได้”เหนือเมฆคิดว่าการที่เขาเล่นบทเป็นพ่อให้จันทร์เจ้าแล้วเอาจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยพร้อมหญิงสาวจะได้ไม่มีคนสงสัยว่าเขาเอาเด็กมาจากไหนและพ่อของเขาเองก็จะได้ยกเลิกเรื่องจับคู่เขากับเอมิกาอีกด้วยพาขวัญยังคิดไม่ตกว่าจะตอบรับหรือยังไงดีเหมือนเธอจะโดนบีบให้มีทางเลือกทางเดียวเลยตอนนี้“ฉันให้เวลาเธอคิดก่อนเดี๋ยวฉันขอปรึกษาอะไรกับภูผาสักหน่อย”เหนือเมฆมีเวลาให้หญิงสาวคิดนิดหน่อยแต่เขาก็รู้ว่ายังไงเธอก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอกอยู่ดีพร้อมทั้งเขาจะหารือกับภูผาเรื่องนี้อีกที“แอ้...แง้...แง้งง”“ส่งจันทร์เจ้ามาค่ะเธอน่าจะไม่คุ้นมือคุณ”“อืมม”เหนือเมฆจำต้องปล่อยหลานของเขาคืนให้กับหญิงสาวเพราะดูท่าหลานของเขาคงจะไม่ชอบอ้อมแขนของเขาเท่าไรนัก10 นาทีต่อมา“ฉันคิดว่าถ้าฉันมีครอบครัวอาจจะหาตัวคนร้ายเร็วขึ้นก็ได้...ฉันคิดว่าถ้าหากเพียงฟ้าคิดว่าครอบครัวเป็นอันตรายถ้าหากฉันมีครอบครัวแล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับฉันฉันเองก็มั่นใจว่ามันจ
“สวัสดีค่ะคุณเหนือ”แม่บ้านวัยห้าสิบต้นๆมายืนรอรับคนเป็นเจ้านายที่นานๆจะกลับมาที่บ้านทีนึงทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เจ้าของบ้านจะพาใครมาอยู่เพราะเขาสั่งให้พวกเธอเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงเด็กอ่อนไว้ล่วงหน้าแล้ว“นี่ภรรยาฉันชื่อพาขวัญเรียกเธอว่าคุณขวัญส่วนนี่ลูกสาวของฉันชื่อจันทร์เจ้าทุกคนช่วยกันดูแลเธอเหมือนที่ดูแลฉันด้วย”เหนือเมฆเดินเขามาถึงหน้าบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านสองคนที่ดูแลบ้านของเขาก็รีบนะน้ำคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขาให้พวกเธอได้รู้จัก“ค่ะ/ค่ะ.คุณเหนือ”แม่บ้านทั้งสองยินดีต้อนรับคนที่จะมาอยู่ที่นี่เสมอและยิ่งรู้ว่ามีคุณหนูตัวน้อยมาอยู่ด้วยพวกเธอก็ยิ่งยินดี“สวัสดีค่ะทุกคนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”พาขวัญยิ้มทักทายทั้งสองอย่างเป็นมิตรและเดินตามาชายหนุ่มเข้าบ้านไปเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าเริ่มรู้สึกตัวตื่นแล้วเธอจะต้องรีบเตรียมนมและเตรียมเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกสาวตัวน้อยของเธอ“คุณห้องฉันกับจันทร์เจ้าอยู่ไหนฉันจะเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้า”พาขวัญต้องรีบถามชายหนุ่มว่าห้องเธออยู่ที่ไหนเพราะเธอต้องรีบจัดเตรียมที่จะชงนมและเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้าก่อนที่จะงอแง“ตามผมมา”เหนือเมฆเดิ่นดิ่