Share

ตอนที่12

“ขวัญ”

พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที

“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”

หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที

“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”

พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน

“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”

พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย

“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”

พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย

“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”

พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่

“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มีเงินไว้ซื้อของใช้ให้จันทร์เจ้า”

เรื่องขู่หรือไม่ขู่พาขวัญไม่อยากเอามันมาเป็นประเด็นแล้วเพราะเธอได้เสียตัวของเธอไปแล้วอีกอย่างเธอเองก็ได้เงินมาซื้อของให้ลูกเธอหญิงสาวยังพยายามคิดว่านี่เป็นข้อดีของเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะไหนๆเธอก็เรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว

“ขวัญ!!...ทำไมเสียสละตัวเองขนาดนี้”

พระพายน้ำตาไหลพรากอย่างบังคับไม่ได้เธอกอดเพื่อนเธอไว้แน่นไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะต้องตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้

“ขอให้เรื่องนี้มันผ่านไปนะพาย...ฉันจะพยายามลืม”

พาขวัญเองก็มีน้ำตาออกมาเหมือนกันหญิงสาวอยากให้เรื่องนี้มันผ่านไปและให้คนรู้น้อยที่สุดเท่าที่จะรู้ได้และเธอเองก็จะพยายามลืมมันไปด้วย

“ฮึก...ฮือๆๆๆ...ฉันขอโทษ...ขอโทษที่พาแกไปที่นั่นขอโทษจริงๆ”

พระพายสะอื้นตัวโยนถ้าหากเธอไม่ยอมให้พาขวัญไปทำงานที่นั่นเรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้เธอเองก็รู้ว่าพาขวัญค่อนข้างหัวอ่อนแต่ก็ไม่ได้ดูแลเพื่อนเธอให้ดีหญิงสาวเอาแต่โทษตัวเองอยู่ในใจ

“แกไม่ผิดเลยพายอย่าโทษตัวเอง....เดี๋ยวฉันเตรียมตัวไปรับจันทร์เจ้าก่อนนะ”

พาขวัญไม่อยากให้พระพายคิดโทษตัวเองเพราะเรื่องทั้งหมดมันก็น่าจะเป็นเพราะโชคชะตาของเธอพร้อมทั้งรีบปาดน้ำตาเตรียมตัวที่จะไปรับจันทร์เจ้ากลับบ้านเพราะเธอฝากมานีไว้ทั้งคืนแล้ว

“ไม่ต้องวันนี้แกพักเถอะฉันบอกแม่ไว้แล้วว่าวันนี้แกไม่สบาย....ไว้ร่างกายแกพร้อมค่อยไปหาลูกนอนพักเถอะฉันจะดูแลแกเองเดี๋ยวฉันไปทำข้าวต้มให้นะ”

พระพายรู้ว่าเพื่อนเธอกลับมาจะเป็นสภาพไหนเธอจึงโทรบอกกับแม่ของเธอไปก่อนแล้วและวันนี้เธอก็จะดูแลเพื่อนเธอเองเพราะเพื่อนเธอคงจะดูแลตัวเองไม่ไหวเรี่ยวแรงจะเดินยังจะไม่มีเลย

“ขอบใจนะพาย”

พาขวัญขอบคุณเพื่อนสาวของเธอพร้อมซุกตัวนอนบนเตียงนอนน้อยของเธอด้วยความเพลีย

“อืม...ฮึก...ฮือๆๆ”

พระพายพยายามกลั้นเสียงร้องให้สะอื้นของเธอไม่ให้พาขวัญได้ยินเพราะความรู้สึกผิดในใจจนล้นจึงไม่สามารถที่จะหยุดร้องตอนนี้ได้พร้อมเดินไปเข้าครัวทำกับข้าวไว้ให้เพื่อนของเธอเพราะคิดว่าจะให้เพื่อนเธอกินยาด้วยไม่อย่างนั้นจะเป็นไข้เอาได้

ทางด้านเหนือเมฆ

“บ้านของเธอก็เข้ามาลึกเหมือนกันนะครับ”

นภัสพูดกับคนเป็นเจ้านายในขณะที่ขับรถกลับแถมแถวที่หญิงสาวอยู่ยังเป็นหมู่บ้านที่ใกล้กับที่ๆอรรณพเกิดอุบัติเหตุด้วย

“อืม...จัดการโอนเข้าบัญชีให้เธอด้วยล้านนึง”

เหนือเมฆไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะโกหกเรื่องมีลูกเพราะอะไรแต่เขารู้ตัวว่าเป็นคนแรกของเธอและเมื่อคืนหญิงสาวเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรเมื่อมาเห็นความเป็นอยู่ของเธอก็อยากจะให้เธอได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้นเขาหวังว่าเงินก้อนนี้คงทำให้หญิงสาวไม่คิดไปทำงานที่นั่นอีก

“ที่คุณเหนือตกลงกับเธอไว้คือแสนนึงไม่ใช่เหรอครับ”

นภัสถึงกับต้องหันหน้ามามองคนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ในรถทันทีเพราะตัวเลขที่เขารู้ว่าเจ้านายของเขาตกลงกับผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่ตัวเลขนี้

“ฉันให้จัดการก็จัดการเถอะน่า”

“ครับๆ”

เหนือเมฆขี้เกียจอธิบายอะไรมากมายนักคำสั่งของเขาก็คือคำสั่ง

บ้านภูผา

“ไง...หายไปทั้งคืนเลยนะ”

ภูผาเห็นเพื่อนของเขากลับมาเสียเช้ารู้อยู่แก่ใจว่าไปทำอะไรมาก็อดที่จะแซวไม่ได้

“อืม...ก็หาความสุขนิดหน่อย”

เหนือเมฆเข้ามาในบ้านก็ทิ้งตัวนั่งพักบนโซฟา

“ฉันพอจะได้เรื่องอะไรมาบ้างแล้วหละ”

“ว่ามาตอนนี้เลย”

จากอาการของคนอยากนอนต่ออีกนิดกลับต้องเบิกตาโพรงเพราะเรื่องที่เพื่อนของเขาเอ่ยมาเมื่อครู่

“จุดที่เกิดอุบัติเหตุของรถพี่แกมันตรงกับเส้นท้ายหมู่บ้านเพราะฉะนั้นเส้นทางอีกเส้นทางที่น่าจะตรวจว่ามีคนที่เข้าข่ายสัญจรเข้าออกตรงนั้นน่าจะเป็นคนท้ายหมู่บ้านเพราะมันสามารถเดินลัดป่าออกมาที่ถนนได้....แถวนั้นก็น่าจะมีบ้านไม่กี่หลังนะแต่ฉันต้องรอคนของฉันเข้าไปสืบอีกทีว่าคนตรงนั้นใครเข้าออกทางนี้บ่อยสุด

“อืม....แล้วเรื่องสัญญาณมือถือที่มีคนโทรแจ้งความในวันเกิดเหตุล่ะ”

ทั้งสองปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ตอนนี้มีหลายคนมากเพราะตอนนั้นคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ทยอยกันโทรแจ้งเลยต้องค่อยๆดูทีละบ้าน”

“แต่คนที่ไปเจอเค้าคาดการณ์ว่าเหตุมันเกิดมาได้เป็นชั่วโมงแล้วแกคิดว่าจะมีคนมาเจอก่อนหน้านั้นไหมลองเชคสัญญาณที่เข้าก่อนหน้านั้นสักชั่วโมงจะได้ไหม”

“อืม....ก็น่าคิดนะเดี๋ยวฉันจะให้เพื่อนฉันลองดู”

ภูผาเห็นว่าความคิดของเพื่อนเขามันก็มีส่วนเป็นไปได้เขาจะลองให้เพื่อนของเขาที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานตำรวจตรวจสองให้อีกที

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status