ครูหนุ่มที่ฐานะต่างกันกับอาสาวของลูกศิษย์ ที่หัวใจผูกรักใคร่ วาดฝันถึงทางรักที่สวยงาม แต่ทางรักมีอุปสรรค เมื่อเขาโบยบินไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาด้วยใจที่บอบช้ำ ดั่งพรหมลิขิตกลั่นแกล้ง รอคอยเพียงเธอ จะตามมาสมทบหัวใจ เหมือนไปให้สุดทางสุดเสน่หา ธันยวีร์
View Moreหล่อนอายเขาเรื่องแตะเนื้อแตะตัวหล่อนไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ชิดตัวเองมาก่อนยกเว้นนอกจากน้องชาย“ไม่ต้องค่ะรบกวนคุณนั่งพักก่อนเถอะอรพอไหว”“เอแต่คุณเจ็บอยู่นะยังทำหน้านิ่วอย่างนี้อีกผมรู้ว่าคุณเจ็บ ทนอีกหน่อยผมอาจมีส่วนช่วยคลายอาการเจ็บของคุณให้ดีขึ้น” เขาแย้งและเถียงจนศรีบังอรไม่รู้ที่จะพูดอะไรในเมื่อเขาดื้ออย่างนี้เลยปล่อยให้หยิบยานวดคลายกล้ามเนื้อที่หมอให้มานวดคลึงเบาๆนุ่มนวลที่บริเวณข้อเท้าซึ่งเจ็บอาการปวดหนึบๆเกิดและรุนแรงขึ้น “พอแล้วค่ะภุมมินทร์อรรู้สึกเจ็บ” “ถ้ามันไม่เจ็บก็ไม่หายนะสิสักพักก็ค่อยยังชั่วล่ะต้องหมั่นนวดบ่อยเส้นจะได้คลายยืด”ภุมมินทร์ปฏิบัติให้แก่หล่อนอย่างไม่นึกรังเกียจสักนิดชั่วครู่เขาจึงละตัวออกจากข้อเท้าของหล่อนเมื่อนวดจนเขาเห็นว่าพอสมควรแล้วแต่เขาก็ยังไม่กลับบ้านยังเดินวนเวียนอยู่แถวระเบียงที่มีเถาดอกไม้หลากสีพาดพันทั้งมะลิวัลย์กุหลาบมอญ“คุณพักอยู่กับน้องชายของคุณไม่ใช่หรือป่านนี้ทำไมเขายังไม่กลับมาอีกผมไม่กล้าทิ้งคุณไว้คนเดียวหรอกอร”เขาบอกหล่อน และพูดต่อไปว่า “ให้ผมอยู่ก่อนเถอะนะ จนถึงเวลาที่น้องชายคุณกลับมา ถึงค่อยกลับ เพราะคุณอยู่ในสภาพที่ช่วยเ
ดูเหมือนพี่สาวช่างพูดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงตัวเขาเลยแต่ก็ไม่อยากจะเถียงเพราะพี่สาวของเขาก็คิดแบบคนที่กำลังจะรู้ตัวเองว่าเริ่มแก่เข้าไปทุกทีเลยแทบไม่คิดเรื่องมีคู่ครองเสียที กัลย์นิ่งฟังพี่สาวพูดอย่างเดียวสิ่งที่พี่สาวแนะนำเขาเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเหมาะควรด้วยทุกครั้งกัลย์ณพในฐานะน้องชายจะรับฟังด้วยดีและเห็นคล้อยตามด้วย ศรีบังอรพูดต่อไปอีก“เธอเรียนจบแล้วพี่ก็หมดห่วงเสียทีต่อไปมีงานทำมีเงินเก็บ ภาระของพี่จะได้เบาบางลงเรามีกันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้นเองส่งเธอให้ไปได้ถึงฝั่งแค่นี้พี่ก็พอใจแล้วต่อไปสุดแท้แต่ชีวิตของเธอจะตัดสินใจพี่ขอเอาใจช่วยคิดว่าเธอน่าจะทำได้ทำให้พี่ได้ภาคภูมิใจสักครั้ง”เขาให้คำมั่นสัญญาแก่พี่สาวด้วยการรับปากหล่อน “ครับพี่อร”“เอาล่ะนี่ก็ดึกแล้วเธอควรไปนอนพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไม่ใช่หรือ พี่เองก็ต้องตื่นเช้า”“ไม่ครับพรุ่งนี้ผมตื่นสายก็ได้แค่แวะไปมหาวิทยาลัยสอบถามอาจารย์ไม่ได้ไปฝึกสอนเขาไม่ฝึกสอนทุกวันหรอกครับแล้วแต่อาจารย์จะนัดไปพรุ่งนี้ผมค่อนข้างว่างถ้าผมไม่ขลุกอยู่ที่มหาวิทยาลัยก็ขลุกอยู่ที่บ้านแทน” กัลย์ณพชี้แจงให้พี่สาวเข้าใจ“ตามใจเธอแต่ว่าพี่ข
สำหรับพ่อรูปหล่อคนนี้แต่เขาไม่เคยมีเรื่องเพื่อนผู้หญิงมาแผ้วกวนใจศรีบังอรทำให้ศรีบังอรหนักใจเพราะน้องชายของหล่อนยังไม่มีเรื่องความรักเข้ามาปะปนในชีวิตนั่นเพราะศรีบังอรเลี้ยงน้องมากับมือจึงรู้ว่าอุปนิสัยของกัลย์ ณพเป็นอย่างไร และโชคดีที่เขาไม่ทำตัวให้เหนื่อยหน่ายใจเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่มักชอบออกนอกลู่นอกเสมอทำให้พ่อแม่ปวดหัวไม่จบสิ้นในแนวทางเสเพลรักเที่ยวเป็นอันธพาลไปโน่นแต่สำหรับกัลย์แล้วไม่มีเลยหล่อนถึงสบายใจอุ่นใจและสุขใจส่วนที่เป็นเค้าโครงดวงหน้าบนใบหน้าของกัลย์เขาได้รับส่วนนี้มาจากพ่อและแม่เพราะแม่เป็นคนตาสวยส่วนพ่อก็เป็นคนคิ้วเข้มและคิ้วดก ดังนั้นคิ้วของเขาจึงดกดำยิ่งนักสีดำสนิทเหมือนขนกาน้ำและพาดเฉียงขอบเหมือนกับปีกนก ในปัจจุบันนี้ เพราะศรีบังอรแก่ไปมาก ดังนั้นความสวยของเธอจึงดูลดหย่อนลงไปบ้างไม่เหมือนสมัยสาวๆที่หล่อนเป็นคนสวยน่าจับตาคนหนึ่งสวยผุดผาดและอ่อนหวานเนื่องจากตอนนี้เป็นสาวใหญ่ใกล้วันทึนทึกเข้าแล้วสำหรับกัลย์ที่จมูกโด่งเป็นสันตรง ตัวเขาช่างเอนเอียงไปทางแม่และพ่อ ส่วนศรีบังอรนั้นแม่บอกหล่อนว่าค่อนไปทางยายและอีกนานทีเดียวที่หล่อนเอ่ยเรียกอีกครั้งเป็นเชิงตำหนิดุเบาๆ
เรือนไม้ครึ่งปูนทาด้วยสีขาวและสีน้ำเงินหลังคากระเบื้องสีน้ำตาลหน้าบ้านประกอบด้วยไม้เถาพาดพันเลื้อยระไปตามโครงเหล็กดัด ดอกสีม่วงสีเหลืองแดงหากแต่ตรงกลางแบ่งเป็นถนนให้รถแล่นเข้ามาภายในโรงรถอยู่ชิดขวาติดกับกำแพงรั้วเพราะครอบครัวนี้เป็นครอบครัวชั้นกลางเมื่อหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของมารดาแล้ว ทั้งสองไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนในละแวกนี้นอกจากลุงที่อยู่แถวธัญบุรีแต่ก็ขาดการติดต่อมานานหลายปี ศรีบังอรนั้นก็เพิ่งกลับมาจาก ที่ทำงาน และหล่อนรู้สึกเหนื่อย แม้ว่าน้องชายที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายซึ่งกำลังจะจบการศึกษาสมดังที่เขาปรารถนาจะเพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน “แหม กลับเสียค่ำเชียวนะกัลย์ ”“เอ้อ มีธุระเรื่องเรียน ครับพี่อร”เด็กหนุ่มที่ตอบนั้นเขารีบก้มหน้าเพื่อจัดการถอดดึงสายรองเท้าผ้าใบแล้วนำไปวางบนชั้นตามเดิม “เอ้อแล้วนี่กัลย์หิวมั๊ยพี่จะเข้าไปในครัวทำกับข้าวให้ทาน” เมื่อฟังแล้วทำให้กัลย์นพส่ายหน้าพลางตบเข้าที่ท้องเบาๆ“เอ้อไม่ต้องครับกัลย์ อิ่มมาจากข้างนอกแล้ววันนี้ มีเพื่อนเลี้ยงนะครับ”กัลย์ณพรู้ว่าพี่สาวนั้นห่วงใยเขายิ่งนักเปรียบเสมือนมารดาบังเกิดเกล้าของเขาอีกคน แม้จะมีวัยห่
เรือนไม้ครึ่งปูนทาด้วยสีขาวและสีน้ำเงินหลังคากระเบื้องสีน้ำตาลหน้าบ้านประกอบด้วยไม้เถาพาดพันเลื้อยระไปตามโครงเหล็กดัด ดอกสีม่วงสีเหลืองแดงหากแต่ตรงกลางแบ่งเป็นถนนให้รถแล่นเข้ามาภายในโรงรถอยู่ชิดขวาติดกับกำแพงรั้วเพราะครอบครัวนี้เป็นครอบครัวชั้นกลางเมื่อหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของมารดาแล้ว ทั้งสองไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนในละแวกนี้นอกจากลุงที่อยู่แถวธัญบุรีแต่ก็ขาดการติดต่อมานานหลายปี ศรีบังอรนั้นก็เพิ่งกลับมาจาก ที่ทำงาน และหล่อนรู้สึกเหนื่อย แม้ว่าน้องชายที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายซึ่งกำลังจะจบการศึกษาสมดังที่เขาปรารถนาจะเพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน “แหม กลับเสียค่ำเชียวนะกัลย์ ”“เอ้อ มีธุระเรื่องเรียน ครับพี่อร”เด็กหนุ่มที่ตอบนั้นเขารีบก้มหน้าเพื่อจัดการถอดดึงสายรองเท้าผ้าใบแล้วนำไปวางบนชั้นตามเดิม “เอ้อแล้วนี่กัลย์หิวมั๊ยพี่จะเข้าไปในครัวทำกับข้าวให้ทาน” เมื่อฟังแล้วทำให้กัลย์นพส่ายหน้าพลางตบเข้าที่ท้องเบาๆ“เอ้อไม่ต้องครับกัลย์ อิ่มมาจากข้างนอกแล้ววันนี้ มีเพื่อนเลี้ยงนะครับ”กัลย์ณพรู้ว่าพี่สาวนั้นห่วงใยเขายิ่งนักเปรียบเสมือนมารดาบังเกิดเกล้าของเขาอีกคน แม้จะมีวัยห่...
Comments