“โถ่...โว้ยยก็ได้วะ”
เหนือเมฆจำต้องทำตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาขี้เกียจฟังคำพูดอะไรของหญิงสาวอีกแล้วถ้าทำตามที่เธอขอแล้วเธอยังไม่ยอมอีกล่ะก็เขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับแล้วหละ
“อื้อ...อื้มมม”
พาขวัญรู้สึกแปลกๆเมื่อมีอะไรนุ่มนิ่มเลื้อยไหลอยู่บนเรือนร่างของเธออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมันก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องร้องออกมาจากลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกที่พึ่งเคยได้สัมผัส
“ตัวเธอนี่ทั้งนิ่มทั้งเด้งจริงๆเลยแฮะ”
เหนือเมฆพรมจูบไปทั่วร่างกายของหญิงสาวขบเม้มไปเสียทุกส่วนเขาชอบเนื้อตัวของเธอทั้งหมดทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอพึ่งจะอาบน้ำมาอีกน้ำหอมยี่ห้อไหนก็แพ้กลิ่นของเธอตอนนี้อยู่ดี
“อื้อ...ค...คุณ...อื้มมม”
พาขวัญเริ่มรู้สึกเครียดเกร็งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็ใช้ทังสองมือแร่งของเขาบีบเค้นสิ่งที่อวบตูมของเธอเล่นอย่างมันมือพร้อมทั้งประกบจูบดูดคลึงริมฝีปากของเธอเล่นอย่างสบายอารมณ์แถมลมหายใจของเขาก็ยังพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆต่างจากเธอตอนนี้ที่แทบจะหยุดหายใจ
“อยู่เฉยๆ”
ชายหนุ่มค่อยๆแรกตัวมาตรงกลางระหว่างตัวขงหญิงสาวพร้อมหยิบสิ่งที่ป้องกันใส่อย่างชำนาญแม้ในความมืดพร้อมทั้งสั่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ไม่สุขให้เธออยู่นิ่งๆเพื่อที่เขาจะได้ดำเนินกิจกรรมของเขาต่อไปอย่างไม่ยากลำบาก
“อ...อร๊ายยยยย...”
พาขวัญร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาทำให้เธอทั้งเจ็บและจุกไปในคราเดียวกันเธอถึงกับหยุดหายใจไปชั่วครู่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
“นี่เธอ!!”
เหนือเมฆรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันคับแน่นจนเกินไปและเขาก็รู้ว่าพึ่งผ่านอะไรในตัวของเธอไปจึงรีบเปิดไฟและมองสิ่งที่อยากรู้ในทันทีหยดเลือดที่ไหลออกมาทำให้เขาได้รู้ในทันทีว่าเธอยังบริสุทธิ์และสิ่งที่เขารู้มาว่าเธอมีลูกแล้วคืออะไร
“ฮือ...อือ...จ...เจ็บ....จะเปิดไฟทำไม”
พาขวัญเจ็บก็เจ็บแต่เธอก็ยังอายที่ชายหนุ่มเปิดไฟแล้วมองไปที่ของสงวนของเธออยู่ดี
“แล้วไหนเธอบอกมีลูกแล้วไงเล่า...อะ...อื้มม”
เหนือเมฆถอดสิ่งป้องกันทิ้งเมื่อรู้ว่าเธอยังไม่เคยเรื่องแบบนี้เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไรพร้อมทั้งยังส่งตัวตนของเขากลับไปที่ช่องทางรักของเธอต่อเขาส่งเสียงคำรามในลำคอเล็กน้อยเพราะตัวตนของเขามันถูกบีบรัดแน่นจนเขากลั้นเสียงเอาไว้ไม่ไหว
“ฮือ...อือ...พอได้ไหมฉันไม่ไหว...ฮือๆๆ...”
พาขวัญไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มเห็นเธอเจ็บขนาดนี้ยังไม่คิดจะพออีกหรือไงเพราะเธอคิดว่าร่างกายของเธอคงจะไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้ว
“ใครจะบ้าหยุดตอนนี้ล่ะ...ทนหน่อยก็แล้วกันฉันจะเบามือ”
คนอย่างเหนือเมฆหรือจะมาหยุดกลางคันกับเรื่องแบบนี้เขารู้ว่าครั้งแรกของเธอหญิงสาวจะรู้สึกอย่างไรชายหนุ่มใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลมาของเธอพร้อมทั้งบอกกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยนให้เธอได้มั่นใจว่าเขาจะเบามือกับเธอพร้อมพรมจูบเรียกอารมณ์สวาทให้เธอทุเลาความเจ็บลงแล้วเขาก็ดำเนินกิจกรรมสวาทของเขาต่อจนพอใจ
02.00 น.
“ฮึก...ฮือๆๆ...”
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมสวาทของทั้งสองเหนือเมฆก็นอนกอดหญิงสาวไม่ยอมปล่อยแต่หญิงสาวเองนั้นก็ยังหลับไม่ลงทั้งที่ยังเจ็บและเพลียอย่างมาก
“เป็นอะไรของเธอนักหนา”
เหนือเมฆงัวเงียตื่นขึ้นมาอารมณ์เสียเล็กน้อยที่ยังได้ยินเสียงร้องให้กระซิกๆของหญิงสาวอยู่ข้างหู
“ฉัน...อยาก...ก...กลับ...บ้าน...ฮือๆ”
พาขวัญตอบไปสะอื้นไปน้ำเสียงเธอแผ่วลงมากเพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะพูด
“เดี๋ยวเช้าแล้วฉันจะไปส่ง”
เหนือเมฆตัดรำคาญว่าเช้าแล้วเขาจะไปส่งเธอถึงบ้านเองเพราะตอนนี้เขายังอยากพักผ่อนอยู่
“ไม่...จะไปตอนนี้”
พาขวัญยังยืนยันว่าเธอจะกลับตอนนี้ถึงเขาจะไม่ไปส่งเธอขอแค่เขาปล่อยเธอให้ออกไปจากห้องนี้ก็พอแล้วเธอจะหาทางกลับเอง
“ถ้าเธอยังพูดไม่รู้เรื่องและยังสะอึกสะอื้นฉันจะไม่ปล่อยให้เธอนอนรู้เอาไว้ด้วย”
เหนือเมฆพ่นคำขู่ที่ข้างๆหูของหญิงสาวเพราะตอนนี้เขาต้องการพักผ่อน
“ฮึก...อือ...ฮึบ”
พาขวัญถึงกับต้องรีบกลั้นเสียงสะอื้นพร้อมนอนนิ่งอยู่ข้างๆเขาอย่างว่าง่ายเธอไม่อยากให้เหตุการณ์เมื่อครู่มันเกิดขึ้นซ้ำสองอีกเพราะร่างเธอคงพังแน่นอน
เช้าวันต่อมา
“นี่ของเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะเดี๋ยวฉันจะไปส่ง”
เหนือเมฆสั่งให้คนของเขาไปซื้อเสื้อผ้าให้เธอตั้งแต่เช้าเมื่อของมาถึงเขาก็สั่งเธอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเห็นเธอตื่นรอกลับบ้านมานานแล้ว
“อืมม”
พาขวัญเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างทุลักทุเลเพราะเธอยังรู้สึกระบมไปทั้งตัวแต่เธอก็ต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วที่สุดเพราะเธอสิ่งที่เธออยากกลับที่สุดคือบ้านและคิดถึงจันทร์เจ้าลูกน้อยของเธอด้วย
ทางด้านพระพาย
“ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะขวัญ”
เมื่อคืนก่อที่พระพายจกลับบ้านเธอเองไม่เห็นพาขวัญเพื่อนเธอจะมาเตรียมตัวกลับเสียทีเพราะเธอรอที่ห้องแต่งตัวนานแล้วกระเป๋ากับมือถือของเพื่อนเธอก็อยู่ที่นี่จึงถามคนในร้านว่าเห็นเพื่อนเธอบ้างหรือไม่
แล้วเธอก็ได้รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นถูกหนูนกหลอกให้ไปทำอะไรหญิงสาวโกรธมากพร้อมต่อว่าอีกฝ่ายต่างๆนาๆแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกผิดเธอจึงโวยวายอาละวาดและขอไม่กลับไปทำงานที่นั่นอีก
เธอกลับมารอเพื่อนเธอที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนเพราะไม่อยากลับบ้านคนเดียวให้แม่เธอสงสัยแต่นี่มันก็สายแล้วเธอไม่ยักจะเห็นพาขวัญจะกลับมาเสียทีจึงค่อนข้างที่จะร้อนใจและโทษตัวเองที่ไม่ดูแลเพื่อนเธอให้ดี
“ขวัญ”พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มี
12.00 น.“ขวัญ...ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว”“อือ...อืมม”พระพายปล่อยให้เพื่อนสาวเธอนอนจนถึงเที่ยงเมื่อเห็นเพื่อนเธอยังไม่ตื่นเสียทีก็ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาเสียก่อน“อะนี่กระเป๋ากับมือถือ”พระพายว่าจะให้เพื่อนเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นกันอยู่“อืม....เอ่อ...พาย!!”พาขวัญกดดูมือถือของเธอตามปกติแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือข้อความที่เด้งเตือนเงินเข้าบัญชีของเธอ“มีอะไรเหรอแก”พระพายทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอมีน้ำเสียงตกใจตอนเปิดดูมือถือ“นี่”“ห.ห้ะ...ล...ล้านนึง”พระพายเกือบเป็นลมเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพื่อนสาวของเธอชูให้ดู“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”พาขวัญยังถามเพื่อนเธอว่าเห็นเหมือนที่เธอเห็นหรือไม่เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นี่มีข้อความด้วยนี่นา....//ฉันให้เธอหนึ่งล้านไม่ต้องตกใจและหวังว่าเธอจะไม่ไปทำงานที่นั่นอีก//”พระพายเห็นข้อความที่มันเด้งเตือนเธอจึงอ่านให้เพื่อนเธอหายคาใจที่คิดว่าตัวเองตาฝาด“แก....”พาขวัญกอดพระพายตัวกลมเมื่อเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เงินเธอมากมายขนาดนี้แค่แสนเดียวเธอก็ถือว่าเยอะมากแล้วแต่ยังไงเธอก็แอบคิดในใจว่าถ้าหากเธอเลือกไ
“แม่บ้านฉันพึ่งลาออกเห็นว่าจะไปเลี้ยงหลานฉันลองหาแล้วแต่ไม่มีใครมาสมัครก็ต้องทำเองไปก่อน”ภูผาพยายามอยู่ที่จะหาคนมาทำงานแต่ที่นี่ค่อนข้างหายากนิดนึงเพราะเป็นต่างจังหวัดส่วนมากคนพื้นที่ก็จะทำไร่ทำนาหรือทำกิจการของตนเองกันหมด13.00 น.“หัวหน้าเรียกป้ามามีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำทิพย์แม่บ้านวัยห้าสิบเข้ามาในห้องของภูผาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเรียกพบ“ช่วงเย็นป้าทิพย์พอจะว่างไหมครับพอดีผมอยากให้ป้าไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยผมมีเงินค่าจ้างให้ครั้งละ500ครับ”ภูผาเห็นว่าหาแม่บ้านประจำมันยากเหลือเกินเขาก็จะลองถามจากคนที่ทำงานดูว่าอยากจะทำงานพิเศษหรือเปล่าเรื่องเงินเขาให้เต็มวันเลยเพราะจะให้เขามาทำงานบ้านเองคงไม่เรียบร้อยเท่าผู้หญิงทำอีกอย่างบางวันที่เขาไม่ได้กลับก็ไม่มีคนดูแลบ้านด้วย“ป้าก็อยากไปนะคะ...แต่ช่วงเย็นป้าก็ต้องกลับไปดูแลบ้านทำกับข้าวให้ผัวกับลูกอีก”น้ำทิพย์เองก็อยากจะได้เงินพิเศษอยู่หรอกแต่ภาระที่บ้านเธอก็ต้องกลับไปดูแลนี่น่ะสิ“อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรครับ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้ำทิพย์ทำงานดีมาก“เอ่อ...หัวหน้าหาแม่บ้านอยู่เหรอคะลองถามหนูพระพายที่อยู่แผนกธุรการดูสิคะเห็น
“เฮ้อ...”เหนือเมฆถึงกับกุมขมับนี่เขาจะไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเขาเลยหรือเขาคิดว่าพ่อของเขายังเห็นเขาสำคัญอยู่หรือไม่ในเมื่อเป็นอะไรก็ไม่ยอมที่จะบอกกันจะได้ช่วยกันหาทางแก้ตั้งแต่เนิ่นๆวันต่อมาโรงพยาบาล“คุณพ่อเป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกผม”เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาฟื้นตัวแล้วจากเมื่อวานที่อาการไม่ค่อยดีเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อของเขาด้วยความเป็นห่วง“ฉันบอกแกแล้วมันจะหายหรือไงวะ”อิทธิวัฒน์มีเหตุผลที่เขาไม่อยากจะบอกเรื่องอาการป่วยของเขากับใครเพราะในใจของเขาไม่อยากจะให้ใครมาห่วงโดยเฉพาะลูกๆของเขาแต่คำพูดของเขามันยิ่งทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รู้เรื่องนี้“แล้วนี่ดูแลตัวเองยังไงครับถึงได้อาการหนักแบบนี้”เหนือเมฆรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับคำพูดของคนเป็นพ่อถึงบอกเขาแล้วมันไม่หายแต่พ่อของเขาดูแลตัวเองยังไงถึงได้เป็นหนักแบบนี้แล้วที่เขาอยากรู้คือพ่อของเขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือเปล่า“ฉันก็หาหมอนี่แหละแล้วก็แขเค้าก็มียาบำรุงให้ฉันกินอยู่เรื่อยๆแกไม่ต้องห่วงหรอกฉันแค่เครียดหนักเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ต่อไปนี้ผมจะหาหมอดูเรื่องสุขภาพของคุณพ่อเอง”เ
บ้านภูผา“เจ้าของเบอนั้นอยู่บ้านหลังนี้เหรอ”ภูผาดูรูปที่เพื่อนของขาถ่ายมาอย่างสงสัย“อืม...เธอมีเด็กอ่อนเลี้ยงด้วย”นาวาเพื่อนของภูผาที่เป็นตำรวจสืบเรื่องนี้จนได้รูปมายืนยันกับภูผาแล้วจึงมาปรึกษากันต่อที่บ้านอย่างลับๆ“แล้วใช่ลูกของเธอหรือเปล่า”“เห็นคนแถวนั้นบอกว่าเธอพึ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วก็มีลูกติดกลับมาด้วยแต่มีบางอย่างที่น่าสงสัย...คือเธอไม่มีสามี”“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับเธอเอง”ภูผาคิดว่ายังไงเขาก็ต้องเข้าไปคุยกับผู้หญิงในรูปด้วยตัวเองอย่างเร็วที่สุดเพราะมันมีเรื่องที่น่าสงสัยหลายอย่างทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะได้พบคำตอบที่ต้องการหากเขาเข้าไปหาเธอวันต่อมา15.00 น.กรุงเทพมหานครสนามบินRrrrrr“ว่าไง”เหนือเมฆกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินแล้วเพราะคิดว่าอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรพ่อของเขาก็อาการดีขึ้นแล้วอีกทังยังไม่ให้เขาไปยุ่งเรื่องการดูแลอีก“แกกลับมาวันนี้ทันไหม”ภูผาอยากให้เพื่อนของเขากลับมาที่บ้านขอเขาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาได้หลักฐานสำคัญมาแล้ว“อืมฉันกำลังจะกลับไปพอดี”“ดีงั้นเจอกันที่บ้าน”16.30 น.บ้านพาขวัญ“
“เพื่อนพายไม่โกหกหรอกค่ะหัวหน้าไม่อย่างนั้นจะมาลำบากนั่งเลี้ยงเด็กคนนี้อยู่ทำไมไม่ส่งตัวให้ครอบครัวแล้วขอเงินไม่ดีกว่าเหรอคะ”พระพายเห็นชายหนุ่มถามเพื่อนของเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อเธอจึงต้องยืนยันอีกแรง“อืม...แล้วเพียงฟ้าบอกอะไรคุณอีกหรือเปล่า”ภูผาอยากรู้ว่าพาขวัญนั้นได้คุยอะไรกับเพียงฟ้าอีกหรือเปล่าเผื่อเขาจะมีหลักฐานอะไรสาวถึงตัวคนทำผิดได้“ไม่ค่ะไม่ทันได้บอกเธอรีบให้ฉันพาลูกเธอหนีมา...แต่ฉันเห็นมีผู้ชายสองคนขับรถมอเตอร์ไซต์ปิดใบหน้าทั้งหมดวนดูตรงนั้นอยู่สักครู่แล้วก็ขับออกไปหลังจากนั้นฉันก็รีบพาลูกพี่เพียงฟ้ามาที่บ้าน”“แสดงว่าเพียงฟ้ากับอรรณพก็ต้องรู้ว่ามีคนจ้องทำร้าย”จากคำบอกเล่าของพาขวัญภูผาก็รู้ว่าทั้งอรรณพและเพียงฟ้าน่าจะรู้ว่าเป็นคนในครอบครัวที่คิดทำร้ายแต่เพียงไม่รู้ว่าใครเท่านั้นจึงเลือกที่จะฝากลูกของเธอกับคนอื่นเช่นนี้“ฉันคิดแบบนั้นแต่ฉันไม่กล้าบอกตำรวจเพราะฉันไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า”“ผมเชื่อ”ภูผาดูท่าทางของหญิงสาวแล้วเธอตอบอย่างจริงใจตรงไปตรงมาสายตาของเธอก็ดูอ่อนโยนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรแถมเธอก็ยังดูแลหนูน้อยคนนี้อย่างดีอีกด้วยดูจากของใช้แต่ละอย่างที่เธอซื้อมาและจ
“คือว่า...ตอนนั้น..........”พาขวัญเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนั้นให้ชายหนุ่มได้ฟังทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมเธอจึงต้องพาตัวหลานของเขาไปดูแลและบอกคนอื่นว่าเป็นลูกของเธอเอง“อืม...อย่างนี้นี่เอง...ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ดูแลหลานฉันอย่างดีแถมยังดิ้นรนเพื่อจะหาเงินเลี้ยงหลานฉันอีกแต่ตอนนี้ฉันขอหลานฉันคืน”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจ....สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากไม่ต่างกับหญิงสาวในตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณเธอที่เสียสละให้หลานของเขามากมายขนาดทั้งอีกทั้งยังเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะมีเงินมาซื้อนมกับของใช้เด็กอ่อนเพื่อหลานของเขาอีกเขารู้สึกว่าเขาทำผิดกับเธอจริงๆกับเรื่องในวันนั้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วเธอไม่อยากพูดถึงเขาเองก็ไม่ขอพูดถึงก็แล้วกันในเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุมันไม่ผิดและเขาก็ได้เจอหลานแล้วต่อไปนี้เขาจะขอดูแลหลานของเขาเองหญิงสาวจะได้ไม่ต้องลำบากดูแลหลานของเขาอีกต่อไป“แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะไม่ใช่คนที่จะทำร้ายลูกของฉัน”พาขวัญมองหน้าหนูน้อยที่เธออุ้มอยู่ด้วยน้ำตาคลอเบ้านี่คือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในที่สุดมันก็มาถึงเธอจะต้องเสียจันทร์เจ้า
“คะ??”พาขวัญถึงกับตกใจอีกรอบคราแรกเธอคิดว่าเขาจะให้เธอไปอยู่แบบฐานะพี่เลี้ยงเด็กอะไรแบบนี้เสียอีก“แต่เธอไม่ต้องกังวลเราเป็นแค่พ่อกับแม่ให้กับหลานฉันเท่านั้นเรื่องอื่นเธอไว้ใจฉันได้”เหนือเมฆคิดว่าการที่เขาเล่นบทเป็นพ่อให้จันทร์เจ้าแล้วเอาจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยพร้อมหญิงสาวจะได้ไม่มีคนสงสัยว่าเขาเอาเด็กมาจากไหนและพ่อของเขาเองก็จะได้ยกเลิกเรื่องจับคู่เขากับเอมิกาอีกด้วยพาขวัญยังคิดไม่ตกว่าจะตอบรับหรือยังไงดีเหมือนเธอจะโดนบีบให้มีทางเลือกทางเดียวเลยตอนนี้“ฉันให้เวลาเธอคิดก่อนเดี๋ยวฉันขอปรึกษาอะไรกับภูผาสักหน่อย”เหนือเมฆมีเวลาให้หญิงสาวคิดนิดหน่อยแต่เขาก็รู้ว่ายังไงเธอก็ต้องยอมทำตามที่เขาบอกอยู่ดีพร้อมทั้งเขาจะหารือกับภูผาเรื่องนี้อีกที“แอ้...แง้...แง้งง”“ส่งจันทร์เจ้ามาค่ะเธอน่าจะไม่คุ้นมือคุณ”“อืมม”เหนือเมฆจำต้องปล่อยหลานของเขาคืนให้กับหญิงสาวเพราะดูท่าหลานของเขาคงจะไม่ชอบอ้อมแขนของเขาเท่าไรนัก10 นาทีต่อมา“ฉันคิดว่าถ้าฉันมีครอบครัวอาจจะหาตัวคนร้ายเร็วขึ้นก็ได้...ฉันคิดว่าถ้าหากเพียงฟ้าคิดว่าครอบครัวเป็นอันตรายถ้าหากฉันมีครอบครัวแล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับฉันฉันเองก็มั่นใจว่ามันจ