สาวการตลาดศตวรรษที่ 21 จับพลัดจับผลูมาเข้าร่างสาวบ้านนาที่มีย่าใจร้าย วันดีคืนดีไปเจอหนุ่มหล่อบาดเจ็บจึงเก็บกลับบ้านอย่างไม่เต็มใจ สาวน้อยจะช่วยครอบครัวอย่างไรมาดูกัน
View Moreก่อนออกเดินทางไปค้าขายยังต่างเมืองหนึ่งวัน หลินฉิงอันบอกแผนการเดินทางของนางให้ทุกคนทราบ แต่เหิงอันโหวกลับแนะนำเส้นทางใหม่ให้นางแทน“ปู่ว่าเจ้าควรเดินทางไปเมืองเจิ้นเป่ย เมืองอันหรงและเมืองสงหยา เพียงแค่สามเมืองนี้ก็เพียงพอจะทำกำไรให้กับเจ้าได้แล้วนะฉิงอัน”“เหตุใดท่านปู่จึงคิดว่าเมืองเหล่านี้จะทำให้ข้าได้กำไรเล่าเจ้าคะ”“เพราะสามเมืองนี้เป็นหัวเมืองใหญ่กว่าเมืองไห่ตงของเจ้าถึงสามเท่าอย่างไรเล่า เมืองพวกนี้เล็กกว่าเทศมณฑลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”“เมืองเหล่านี้ระยะทางห่างไกลจากที่นี่มากไหมเจ้าคะท่านปู่”“หากเจ้าออกจากไห่ตงไปทางตะวันออกเฉียงใต้สัก 10 วัน เจ้าก็จะไปถึงเมืองเจิ้นเป่ย จากเมืองเจิ้นเป่ยเดินทางไปยังตะวันตกอีก 15 วัน เจ้าจะไปถึงเมืองอันหรง และจากเมืองอันหรงไปยังเมืองสงหยาทางเหนือ ใช้เวลาเพียง 10 วันเท่านั้น”“เหตุใดระยะทางระหว่
หลังจากได้ที่ดินมารวมถึงทำรั้วและปรับพื้นที่แล้ว หลินฉางหยูยังจ้างนายช่างหวังมาควบคุมการก่อสร้างที่พักสองชั้นเพิ่มอีกสองหลังโดยเกณฑ์คนในหมู่บ้านมารับจ้างทำงานครั้งนี้แทบจะหมดทั้งหมู่บ้าน ทำให้การสร้างที่พักทั้งสองหลังรวมถึงห้องน้ำอีกนับสิบห้องสร้างเสร็จในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนเมื่อที่พักเสร็จเรียบร้อย หลินฉิงอันกับหลินฉางหยูก็ไปซื้อทาสพร้อมกับโจวซานในอำเภอมาเพิ่มอีก 20 คน เป็นชาย 10 คนและหญิง 10 คน พวกเขามีหน้าที่ดูแลโกดังเก็บผลไม้ใหม่ที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่พักเสร็จสิ้น โรงงานของหลินฉิงอันก็สร้างเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน ต้องขอบคุณชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างในครั้งนี้ ทำให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร็วกลางเดือนก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จ หลินฉิงอันก็ได้รับจดหมายและตั๋วแลกเงินหนึ่งพันตำลึงจากทหารส่งสาร นางจึงต้องเร่งทำทุกอย่างเพื่อจะส่งผลไม้แช่อิ่มจำนวนมากไปยังชายแดนให้กับเหิงจิ้งกั๋ว ด้านเหิงอันโหวที่ได้รับจดหมายตอบรับจากหลานชายก็ยิ่งเอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาหมายมั่นปั้นมือว
หลังอาหารเช้าวันต่อมา หลินฉิงอันเรียกเฉินกังมาคุยเรื่องการสร้างอุปกรณ์สำหรับเคี่ยวผลไม้แช่อิ่มแทนการใช้แรงงานคน เพราะการเคี่ยวนั้นต้องใช้เวลาและเสียแรงกายไปมาก นางต้องการให้เครื่องมือนี้ช่วยผ่อนแรงเพื่อให้คนทำสามารถใช้กำลังของตนเองน้อยที่สุด“คุณหนูต้องการให้ข้าสร้างเป็นถังขนาดใหญ่พร้อมไม้พายลดแรงในการเคี่ยวหรือไม่ขอรับ”“อ่า… เจ้าสามารถทำเช่นนั้นได้หรือ?”“ได้ขอรับ เพียงแต่ข้าน้อยไม่มีฝีมือในการตีเหล็ก เรื่องนี้คุณหนูไม่ลองคุยกับพี่ชายเฉียนซื่อดูเล่าขอรับ เขาเก่งทางด้านการตีเหล็กมากเลยนะขอรับ”“โอ้ ข้าลืมนึกถึงเขาไปเลย เช่นนั้นเจ้าไปเรียกเขามาสักหน่อยเถอะ เราจะได้สรุปกันว่าการสร้างเครื่องเช่นนี้จะต้องใช้เงินมากเพียงใด”“คุณหนูรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปตามเขามาให้ขอรับ”ระหว่างที่รอทั้งสองคนกลับมา หลินฉิงอันก็นึกถึงเครื่องกวนในภพก่อนขึ้น
หมู่บ้านทางตะวันออกนั้นอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านก่อนหน้ามากนัก พวกเขาไปถึงก่อนเวลาอาหารเที่ยงเกือบครึ่งชั่วยาม หลินฉางหยูถามทางไปบ้านผู้ใหญ่เช่นก่อนหน้านี้ เมื่อไปถึงแล้วจึงได้เข้าไปสอบถามจนได้ความว่าที่หมู่บ้านนี้มีผลไม้บางชนิดในสี่ชนิดที่พวกเขานำมาเท่านั้น แต่ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนัก ทั้งสองจึงทำสัญญาซื้อขายและจ่ายเงินมัดจำ 3 ตำลึงเช่นเดียวกับหมู่บ้านเย่หยา โดยพวกเขานัดรับสินค้าในอีก 4 วันถัดไป เนื่องจากกลัวว่าหากผลไม้จากหมู่บ้านเย่หยามีจำนวนมากเกินไป พวกเขาคงขนกลับไม่ไหวเป็นแน่หลินฉางหยูเห็นว่าตอนนี้เลยเวลาเที่ยงไปนิดหน่อยแล้ว เขาจึงชวนลูกสาวกลับไปยังหมู่บ้านต้าไห่ก่อน เพราะวันนี้พวกเขาลืมนำเสบียงอาหารขึ้นรถม้ามาด้วย พรุ่งนี้พวกเขายังสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านอื่นได้อีกหลินฉิงอันไม่คัดค้านความคิดพ่อของนาง ทั้งที่จริงแล้วนางยังไม่รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่อย่างไรพวกเขาก็รับซื้อผลไม้ได้สองหมู่บ้านแล้ว หลินฉิงอันจึงไม่กังวลเรื่องผลไม้มากนักเมื่อกลับถึงหมู่บ้านต้าไห่ในเวลาปลายย
เมื่อกลับไปถึงบ้าน หลินฉิงอันไปปรึกษากับหลินฉางหยูว่านางจะหาผลไม้เพิ่มได้จากที่ใดก่อนจะถึงหน้าหนาว เพราะอย่างน้อยหากหาได้ทัน นางก็สามารถเตรียมผลไม้แช่อิ่มเป็นเสบียงหน้าหนาวได้จำนวนมาก เหิงอันโหวที่ได้ยินเข้าก็ไปนั่งฟังว่าหลินฉางหยูจะแก้ปัญหานี้อย่างไร“ลูกต้องการผลไม้แบบใดบ้างเล่า อันเออร์”“อืม… ข้าอยากได้ผลไม้รสเปรี้ยวที่ชาวบ้านไม่กินกันเหมือนที่เราเก็บมาได้เจ้าค่ะ เพราะหากนำผลไม้รสหวานมาทำก็คงได้ไม่คุ้มเสียเป็นแน่”“เช่นนั้นเราคงต้องไปสอบถามตามหมู่บ้านอื่นกระมังลูก พ่อไม่แน่ใจว่าจะมีชาวบ้านคนไหนเคยพบผลไม้แบบนี้บ้างหรือเปล่า”“เหตุใดพวกเจ้าไม่ลองเดินทางไปทางใต้สักหน่อยเล่า แถวนั้นข้าคิดว่าน่าจะมีผลไม้พวกนี้อยู่เป็นจำนวนมาก”“ท่านปู่รู้หรือเจ้าคะ ว่าผลไม้พวกนี้มีมากแถบใด”“ก็พอรู้อยู่บ้างล่ะนะ เพียงแต่ว่าจะมีคนเก็บมาขายพวกเจ้
หนึ่งชั่วยามต่อมา จ้าวหลงพาหลินฉิงเฉิงกับหลินฉิงหยางกลับมาจากอำเภอ พวกเขารีบเข้าไปกินข้าวเที่ยงที่เลยเวลามามากแล้ว เหิงอันโหวที่ไม่รู้จะทำสิ่งใดพอเห็นลูกศิษย์ตัวน้อยทั้งสองมาถึงก็ดีใจนัก หลังอาหารเขาจึงชวนเด็ก ๆ ขึ้นเขาไปหาของป่าเพื่อผ่อนคลายหลังการสอบหลินฉิงอันเป็นห่วงน้อง ๆ นางจึงชวนจ้าวหลงขึ้นเขาไปด้วยกัน หลินอ้ายเห็นว่ามีผู้ใหญ่ไปด้วยนางจึงไม่คิดมากอันใด ส่วนหลินฉางหยูก็ไปช่วยงานภรรยาทำผลไม้แช่อิ่มกับเหล่าบ่าวไพร่ที่เหลือระหว่างทางขึ้นเขา เหิงอันโหวยังสอนวิธีดูสมุนไพรมีค่าต่าง ๆ ให้กับลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาพร้อมรอยยิ้ม พวกเขาไม่ได้เดินทางเร็วนักแต่คอยมองหาของป่าและสมุนไพรไปพลาง ๆ หลินฉิงอันมองเหิงอันโหวอย่างสงสัยในใจ นางพอจะรู้ว่าเฒ่าชราคนนี้มีความรู้ในตำราและวรยุทธ์สูงส่ง แต่คราวนี้เขากลับยังมีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและของป่าไม่น้อยด้วย หลินฉิงอันได้แต่คิดว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เหตุใดจึงรอบรู้ยิ่งกว่าใครที่นางเคยรู้จักมาก่อนในภพนี้เสียอีกทั้งห้าคนเดินไปจนกระทั่งถึงป่าผลไม้ซึ
หลินฉิงเฉิงกับหลินฉางหยูจำต้องลงจากรถม้าไปเข้าร่วมกับรุ่นพี่ที่สอบผ่านตามธรรมเนียม เพราะเมืองไห่ตงเป็นเมืองเล็ก ๆ เจ้าเมืองจึงจัดให้มีการฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเชิดชูบัณฑิตของเมืองที่สอบผ่านได้เป็นจวี่เหรินขบวนรถม้าบ้านหลินเดินทางไปยังจวนในอำเภอเพื่อนำของฝากไปให้กับบ่าวทั้งสี่คน ก่อนที่จะนำของฝากอีกส่วนหนึ่งไปให้กับหวังไห่และคนอื่น ๆ ที่ร้านค้าต่อ วันนี้ลูกค้าก็ยังคงมีจำนวนมากเหมือนเช่นทุกครั้ง พวกเขาจึงเข้าประตูด้านข้างร้านแทนที่จะเข้าด้านหน้า หลังจากส่งของฝากให้และสั่งความกับหวังไห่เสร็จ จ้าวหลงขับรถม้าไปยังจวนเพื่อรอนายน้อยทั้งสอง ส่วนเหิงอันโหวเปลี่ยนไปนั่งรถม้าที่ชุนจินขับเพื่อกลับไปรอหลินฉิงเฉิงกับหลินฉิงหยางที่หมู่บ้านต้าไห่ก่อนเข้าบ้านที่ต้าไห่ หลินฉางหยูแวะส่งข่าวดีให้ผู้ใหญ่บ้านหลี่ทราบว่าลูกชายทั้งสองของเขาสอบผ่านได้เป็นจวี่เหรินแล้ว พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงพรุ่งนี้ช่วงเย็น เขาจึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยประกาศให้ชาวบ้านทราบเพื่อมาร่วมสนุกกันเหิงอันโหวมองดูหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เ
บ้านหลินกลับถึงจวนแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง หลินอ้ายกับหลินฉิงอันช่วยกันทำอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองให้หลินฉิงเฉิงและหลินฉิงหยาง เด็กทั้งสองวิ่งไปที่จวนอาจารย์เพื่อบอกข่าวดีและเชิญมาร่วมฉลองด้วย หลินฉางหยูไปบอกข่าวดีกับเหิงอันโหวพร้อมกับเชิญมาร่วมทานอาหารในตอนเที่ยงอาจารย์เผยกับอาจารย์คนอื่น ๆ พอรู้ว่าลูกศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดของโรงเรียนสอบผ่านด้วยอันดับที่สูงที่สุดเท่าที่โรงเรียนเคยส่งศิษย์เข้าสอบก็ดีใจมาก พวกเขาให้คนขับรถม้าพาศิษย์คนอื่นไปดูผลการสอบทันที จากที่คิดจะให้ออกไปสายกว่านี้หน่อย“อาจารย์ดีใจกับพวกเจ้าด้วย มื้อเที่ยงพวกเจ้าก็ฉลองกันในครอบครัวเถอะ อาจารย์ต้องรอผลสอบของพี่ ๆ พวกเจ้าทั้งหมดเสียก่อนน่ะ”“ตกลงขอรับอาจารย์ ถ้าท่านมีสิ่งใดจะเรียกใช้ ท่านบอกพวกข้าได้นะขอรับ”“อืม… ตกลง พวกเจ้าอย่าลืมไปรับใบรับรองที่ศาลาว่าการเมืองด้วยเล่า”“ขอรับอาจารย์ พรุ่งนี
เมื่อครอบครัวหลินกลับมาถึงจวน พวกเขาปล่อยให้หลินฉิงเฉิงกับหลินฉิงหยางเข้าไปนอนพักผ่อนให้สบายหลังจากกินอาหารบนรถม้าเสร็จ เหิงอันโหวได้รับคำยืนยันจากเด็ก ๆ ก่อนไปพักผ่อนว่าพวกเขาทำข้อสอบได้เป็นอย่างดีก็รู้สึกโล่งใจที่ความพยายามของเขาไม่เสียเปล่ามื้อเย็นวันนี้เด็กชายทั้งสองยังคงนอนพักผ่อนอยู่ คนอื่น ๆ จึงไม่มีใครไปรบกวนพวกเขา อย่างไรพรุ่งนี้เด็ก ๆ ก็คงตื่นขึ้นมาเองหลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว หลินฉิงอันยังกล่าวระหว่างมื้อเย็นถึงกำหนดการเดินทางกลับอำเภอไห่ตงให้เหิงอันโหวทราบด้วย“อ่า… คนของข้ายังตามหาข้าไม่พบเลย แล้วข้าจะทำอย่างไรดีเล่า?”“ถ้าท่านปู่ไม่รังเกียจ ท่านไปพักกับเราที่ไห่ตงได้นะเจ้าคะ เพียงแต่ที่นั่นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ข้ากลัวว่าท่านปู่จะไม่ได้อยู่ในจวนใหญ่ ๆ เช่นนี้”“เพ้ย! ข้ามีหรือจะรังเกียจอันใด แค่พวกเจ้ามีน้ำใจดูแลข้ามาตลอด ข้าก็เกรงใจมากแล้ว ข้าแค่กลัวพวกเจ้าจะรังเกียจข้าต่างหากเล่า”
จูฉิงอันเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เธอจำความได้ หลังจากอายุครบเกณฑ์ที่ต้องออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุ 18 เธอก็หางานทำและเรียนไปด้วยจนกระทั่งจบปริญญาตรีด้านการตลาด ทุกปีจูฉิงอันจะนำเงินเก็บส่วนหนึ่งส่งกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อเลี้ยงดูน้อง ๆ เหมือนกับรุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่ออกไปจากที่นี่เช่นเดียวกับเธอหลังจากเรียนจบและทำงานพาร์ทไทม์ต่อมาอีก 3 ปี จูฉิงอันก็มีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทนำเข้าและส่งออกผลไม้รายใหญ่ของประเทศจากความสามารถของเธอเอง ทำให้จูฉิงอันสามารถซื้อคอนโดและรถยนต์ส่วนตัวได้จากเงินเดือนที่ได้รับในบริษัทใหญ่บริษัทนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปี นับว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมทำงานประจำกับบริษัทนี้หลังจากที่เปรียบเทียบรายได้จากการทำงานพาร์ทไทม์หลายงานมานานหลายปี2 ปี ต่อมา ตำแหน่งของจูฉิงอันก็ได้เป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการตลาดตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เธอต้องรับผิดชอบงานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่านัก ยิ่งเธอขยันทำงานมากเท่าไหร่ เงินรายได้ของเธอก็ยิ่งได้รับจากการทำงานมากขึ้นเท่านั้น หัวหน้าแผนกยังไว้วางใจให้เธอเข้าร่วมงานสัมนาและการประชุมต่...
Comments