แชร์

ลุงใหญ่กับอาเล็ก

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-25 12:52:35

“ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก!! ข้าบอกว่าไม่ให้พานังตัวขาดทุนไปหาหมอยังกล้าขัด ถ้าวันนี้ข้าไม่เอาเลือดหัวพวกเจ้าออก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่เฒ่าจูเลย”

“ท่านแม่ตีพวกมันให้ตายเลย ข้าคิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเสบียงในบ้านหายไปบ่อย ๆ นี่พวกมันคงแอบขโมยทุกวันกระมังเจ้าค่ะ”

แม่เฒ่าจูไม่สนใจว่าจูฉางหยูจะกำลังอุ้มจูฉิงอันอยู่ นางพุ่งเข้าไปพร้อมไม้ท่อนยาวที่ไม่รู้ว่าไปนำมาจากไหนหวดเข้าใส่กลุ่มจูฉางหยูอย่างไม่ออมแรง

จูฉางหยูเห็นแม่ตนเองพุ่งเข้ามาเช่นนี้ก็รีบหันหลังบังร่างของทุกคนในบ้านเอาไว้จนถูกไม้หวดเข้าเต็มแรงจนเขาเกือบเสียหลักล้มลงไปกองที่พื้น

“ฮือ… ท่านแม่ ท่านอย่าตีท่านพี่”

“ฮือ… ท่านย่า อย่าตีท่านพ่อขอรับ” สองแฝดรีบเข้าไปเกาะขาแม่เฒ่าจู

“หลีกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าโหดร้าย”

พลั่ก! ตุ้บ! โอ๊ย!!!

จูฉางหยูได้ยินเสียงร้องของลูกชายก็รีบหันกลับไปมอง เขาเห็นแม่เฒ่าจูเงื้อไม้ตีเด็กทั้งสองอย่างรุนแรง ภรรยาของเขาพยายามเอาตัวบังลูกไว้ก็พลอยถูกทำร้ายไปด้วย จูฉางหยูทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาวิ่งเข้าชนแม่เฒ่าจูจนนางล้มลง

ตุ้บ! กรี๊ด!!!

“ไอ้ลูกอกตัญญู! เจ้ากล้าทำร้ายข้าหรือ? อาฮวา ไปเอามีดในครัวมา วันนี้ข้าจะสับพวกมันเป็นชิ้น ๆ”

“เอ่อ.. ท่านแม่เจ้าคะ ถ้าท่านทำเช่นนั้นจริง ๆ มีหวังท่านต้องติดคุกแน่เจ้าค่ะ”

“บัดซบ! เจ้ามาช่วยข้าลุกขึ้นก่อน ข้าไม่ยอมให้พวกมันลอยนวลไปง่าย ๆ แน่”

จูฉางฮวารีบเข้าไปช่วยแม่ลุกขึ้น เธอไม่กล้าลงมือลงไม้กับพวกเขาเพราะกลัวว่าจูฉางหยูจะทำร้ายนางกลับ แม่เฒ่าจูพอลุกขึ้นได้ก็คิดจะพุ่งเข้าไปตีพวกมันอีก เสียดายที่มีอีกเสียงหนึ่งดังออกมาจากหน้าบ้านเสียก่อน

“หยุดนะ!!! มันจะมากเกินไปแล้วนะแม่เฒ่าจู ข้าเคยเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าทำร้ายพวกเขา นี่เจ้าคิดว่าคำพูดข้าไม่มีความหมายใช่หรือไม่?”

ผู้ใหญ่บ้านตะวาดแม่เฒ่าจูเสียงดังจนนางสะดุ้งโหยง นางหันไปมองตามที่เสียงดังมาก็เห็นผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้านหลายคนอยู่ที่หน้าประตูรั้ว ไม่นานแม่เฒ่าจูก็ปลุกปลอบใจตัวเองก่อนจะตอบโต้ผู้ใหญ่บ้านอย่างเผ็ดร้อน

“อะไรกันผู้ใหญ่ นี่มันในบ้านของข้านะเจ้าคะ พวกท่านจะเข้ามาโดยพละการไม่ได้ แล้วเรื่องนี้มันก็เรื่องของคนในบ้านข้า ข้าสั่งสอนพวกหัวขโมยจะเป็นไรไป”

“เพ้ย!!! เจ้ายังกล้าอ้างว่าพวกเขาเป็นขโมยอีกหรือ? ในเมื่อบ้านรองแค่พาลูกสาวไปหาหมอแล้วเพิ่งกลับมา พวกเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปขโมยของของเจ้ากัน”

“ไม่รู้ล่ะ ในเมื่อเสบียงบ้านข้าหายไป ยังไงก็มีแค่พวกมันนั่นแหละที่จะขโมยได้”

“ฮือ… ท่านแม่อย่าใส่ร้ายพวกข้านะเจ้าคะ เหตุใดท่านไม่ถามบุตรสาวท่านเล่า ทุกทีที่นางมาที่นี่ เสบียงอาหารก็หายไปทุกครั้ง ท่านจะมาหาว่าพวกข้าขโมยได้ยังไง”

“หุบปาก!!! ลูกสาวข้ามีหรือจะเป็นคนเช่นนั้น ข้าเลี้ยงนางมากับมือ ไม่เหมือนพวกเจ้าที่จ้องแต่จะขโมยของในบ้านข้า”

“เจ้านั่นแหละต้องหุบปาก! ข้าเคยเตือนเจ้าว่าอย่าทำร้ายคนบ้านรอง แต่เจ้าก็ยังทำอยู่ ถ้าชาวบ้านไม่นำเรื่องมาบอกข้า ป่านนี้พวกเขาไม่บาดเจ็บล้มตายกันไปแล้วหรือ”

“ท่านผู้ใหญ่ก็กล่าวเกินไปนะขอรับ ท่านแม่ข้าแก่ชรามากแล้ว จะมีเรี่ยวแรงที่ไหนตีคนพวกนี้จนตายกันเล่า ท่านแม่ข้าก็แค่สั่งสอนพวกมันเท่านั้น”

จูฉางไห่ที่กลับมาจากโรงเตี๊ยมรีบเข้ามาสอดเรื่องในครั้งนี้ หากแม่เขาเสียท่าเข้าล่ะก็ เงินที่เขาคอยขอท่านแม่คงจะไม่ได้อีกเป็นแน่

“ฮึ พวกเจ้ามันก็เข้าข้างกันทำร้ายบ้านรองมาตลอด คำพูดเจ้าเชื่อถือได้ที่ไหนกัน”

“ท่านลำเอียงเกินไปแล้วนะเจ้าคะ แม่สามีข้าก็บอกแล้วยังไงเล่าว่าแค่ตีสั่งสอนน่ะ”

“ใช่ ๆ ท่านผู้ใหญ่ลำเอียงเกินไปจริง ๆ พี่สะใภ้ใหญ่พูดถูก”

“พูดกับพวกเจ้าไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง ตกลงว่าเจ้าจะยังตีบ้านรองอยู่อีกหรือไม่ แม่เฒ่าจู”

“ท่านถามทำไมผู้ใหญ่ นี่มันเรื่องในบ้านของข้า”

“ถ้าเจ้ายังไม่หยุดทำร้ายพวกเขาอีกล่ะก็ ข้าจะให้พวกเขาแยกบ้านไปเสีย เจ้าอย่าลืมว่าเคยสัญญากับข้าไว้อย่างไร ถ้าสามีเจ้าไม่สิ้นบุญไปเสียก่อน พวกเขาคงไม่ต้องมาคอยรองมือรองเท้าเจ้าเช่นนี้ อย่าให้ข้าต้องนำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งทางการเลย เจ้าก็รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”

“นี่ท่านขู่ข้าหรือ?”

“ข้าไม่ได้ขู่เจ้า ข้าจะทำเช่นนั้นจริง ๆ ว่าอย่างไร เจ้ายังจะทำร้ายพวกเขาต่อไหม”

“ฮึ่ย ในเมื่อท่านพูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะกล้ายุ่งกับพวกมันได้อย่างไร พวกเจ้าไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!”

จูฉางหยูรีบคำนับขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่ช่วยครอบครัวพวกเขาเอาไว้ในวันนี้ หากพวกเขาไม่เข้ามา ป่านนี้เขาก็ไม่รู้ว่าลูกเมียจะบาดเจ็บขนาดไหน

ผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าครอบครัวรองกลับเข้าไปในกระท่อมแล้ว เขาจึงหันหลังกลับออกไปพร้อมชาวบ้านที่มามุงดู

จูฉางไห่รีบเดินเข้าไปประคองแม่เฒ่าจูเพื่อกลับเข้าบ้าน ป่านนี้ภรรยาเขาน่าจะเตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้แล้วกระมัง ระหว่างทางแม่เฒ่าจูยังก่นด่าจูฉางหยูต่อ

“พวกเจ้าดูเอาเถอะ นับวันพวกมันจะยิ่งปีกกล้าขาแข็ง ต่อไปมันคงไม่เชื่อฟังข้าอีก”

“ท่านแม่ใจเย็นก่อน ท่านอย่าลืมว่าเรายังต้องใช้จูฉางหยูหาเงินอยู่นะขอรับ ถ้าท่านใจร้อนจนมันแยกบ้านเข้าจะทำอย่างไร”

“มันจะกล้ารึ! ลองมันมาขอแยกบ้านดูสิ ข้าจะไม่ให้สิ่งใดติดตัวพวกมันไปสักอย่าง”

“นั่นสิพี่ใหญ่ ท่านคิดมากเกินไปหรือเปล่า พี่รองโง่จะตาย เขาหรือจะกล้าแยกบ้าน”

“เจ้าจะไปรู้อะไร แล้ววันนี้เจ้ากลับมาบ้านทำไมกัน สามีเจ้าไม่ว่าเอาหรือ”

“เอ้า ข้าแค่คิดถึงท่านแม่เลยอยากกลับมานอนบ้านสักคืนจะเป็นอะไรไป หรือว่าพี่ใหญ่ไม่อยากต้อนรับข้าแล้ว?”

“หยุด ๆ พวกเจ้าจะทะเลาะกันทำไม มีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง แทนที่จะช่วยกัน”

“เอ่อ ท่านแม่เจ้าคะ เหตุใดท่านไม่นับจูฉางหยูด้วยเล่าเจ้าคะ”

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า! อย่าสอดรู้สอดเห็นให้มันมากนัก แล้วนี่เจ้าตั้งโต๊ะเสร็จหรือยัง”

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ ๆ” ฮั่วหลิวรีบกระวีกระวาดไปดูโต๊ะอาหารก่อนจะถูกดุด่าอีก

สองพี่น้องได้แต่มองตามหลังฮั่วหลิวไปอย่างระแวง พวกเขากลัวว่านางจะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง แต่พวกเขาก็ยังเชื่อว่านางคงกลัวพวกเขามากกว่า

“เอาล่ะ ๆ รีบไปกินข้าวกันก่อน แล้วลูกชายเจ้าไม่กลับบ้านหรือยังไงอาไห่”

“เขาบอกว่ามีเรียนขอรับ ข้าไม่อยากขัดใจเขา เลยปล่อยให้อยู่ในอำเภอขอรับ”

“อืม รอให้ลูกชายเจ้าสอบได้ก่อน นี่เขาเรียนมาหลายปีแล้ว เหตุใดไม่มีกำหนดการเข้าสอบออกมาเสียทีเล่า ข้าเสียเงินให้เขามามากแล้วนะ”

“ท่านแม่นั่งลงก่อนขอรับ เรื่องนี้ลูกชายข้าบอกว่าอาจารย์รอให้เขามีความรู้มากกว่านี้เสียก่อนจึงจะพาเขาไปสอบขอรับ”

“ฮึ ให้มันจริงเถอะ ถ้าข้ารู้ว่าพวกเจ้าโกหกข้าล่ะก็ พวกเจ้าเจ็บตัวแน่”

“ข้าไม่กล้า ๆ ท่านแม่กินข้าวก่อนเถอะขอรับ”

จูฉางไห่รีบเอาใจแม่เฒ่าจูก่อนที่นางจะสงสัยเขากับลูกชาย ความจริงลูกเขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาหลายปีแล้ว บ้านเช่าในอำเภอเขาจึงต้องขอเงินท่านแม่มาคอยจ่ายอยู่ทุกเดือน จนใจที่ตอนนี้ไม่มีอาจารย์คนไหนจะรับลูกชายเขาไปเรียนอีก เขาจึงต้องโกหกไปก่อน ไม่เช่นนั้นน้องสาวเขาต้องเยาะเย้ยครอบครัวเขาแน่

แม่เฒ่าจูที่เสียแรงไปไม่น้อยตั้งแต่เช้า นางกินข้าวเย็นมูมมามจนจูฉางฮวานึกรังเกียจ นางถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนู จึงไม่ชอบกิริยามารยาทของท่านแม่นางนัก ดีที่นางได้แต่งเข้าครอบครัวบัณฑิต ทำให้นางไม่ต้องทำงานบ้านเหมือนพี่สะใภ้ทั้งสอง แต่ที่นางชอบกลับบ้านมาบ่อย ๆ ก็เพราะอยากได้คำชมจากแม่สามี ทุกครั้งที่นางมาที่นี่ นางจะแอบนำเสบียงอาหารจำนวนหนึ่งกลับไปด้วย หากวันไหนนางไม่ถือเสบียงกลับไป แม่สามีของนางมักจะไม่ค่อยมีความสุข นางจึงต้องหาเวลามาที่นี่บ่อย ๆ อย่างที่ทุกคนเห็น

ฮั่วหลิวได้แต่มองภาพสามีคอยเอาอกเอาใจแม่สามี ตั้งแต่แต่งกับเขามา นางไม่เคยได้รับการเอาอกเอาใจเช่นนี้เลย ขนาดนางคลอดลูกชายให้เขาคนหนึ่ง เขาก็ยังไม่คิดจะดูดำดูดีนางสักเท่าไหร่ เสียดายที่นางแอบรักเขามานานจนยอมลำบากปักผ้าหาเงินมาแต่งงานกับเขา แต่พอเขาได้นางเป็นเมียแล้วกลับไม่สนใจนาง ทำให้นางรู้ว่าสามีนางคนนี้เป็นคนเห็นแก่เงินเท่านั้น ขนาดเขาทำงานในโรงเตี๊ยมมานาน เงินที่เขาได้รับกลับไม่เคยนำมาจุนเจือครอบครัวเลย เป็นนางที่ยังต้องปักผ้าแล้วฝากเขาไปขายในอำเภอมาตลอดหลายปี

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ท่านพ่อบาดเจ็บ

    เช้าตรู่ในฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศหนาวเย็น ป่าเขาล้อมรอบหมู่บ้านด้วยหมอกขาวที่ลอยอ้อยอิ่ง จูฉางหยูสะพายธนูและกระบอกน้ำไว้บนหลัง เดินลึกเข้าไปในป่าด้วยความมุ่งมั่น เขาต้องการล่าสัตว์เพื่อหาอาหารมาจุนเจือครอบครัวในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงเสียงใบไม้กรอบแกรบใต้ฝ่าเท้าของเขาและเสียงนกที่ร้องอยู่ในไพรพงทำให้ป่าดูเหมือนมีชีวิต แต่จูฉางหยูไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เขาจดจ่อกับรอยเท้ากวางที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน มันเป็นรอยเท้าสดใหม่ที่นำเขาลึกเข้าไปในป่าที่ไม่คุ้นเคยเมื่อเขาพบร่างกวางตัวใหญ่ยืนอยู่ไม่ไกล ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ จูฉางหยูหยุดเดิน หัวใจของเขาเต้นแรงขณะที่เขาประเมินระยะและความแม่นยำของลูกธนู เขาค่อยๆ ยกธนูขึ้นเล็ง แต่ในขณะนั้นเอง เสียงแตกของกิ่งไม้บางเบาใต้เท้าของเขาทำให้กวางสะดุ้งและวิ่งหนีไปจูฉางหยูรีบวิ่งตาม แต่ด้วยความเร่งรีบ เขากลับไม่ทันระวัง พื้นดินใต้เท้าของเขาเป็นทางลาดชันที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง เขาพลัดตกลงไปในเหวเล็กๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้ร่างของเขากระแทกกับก้อนหินและกิ่งไม้ระหว่างทาง จนกระทั่งเขาหยุดลงที่พื้นดินด้านล่าง เขารู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แขนและขา รอยแผลเปิดและรอยฟกช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ทรมานครอบครัวรอง

    ที่บ้านหมอซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล หมอประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นชายชราที่มากประสบการณ์ตรวจดูบาดแผลของจูฉางหยูอย่างละเอียด เขาพบว่ามีแผลลึกที่แขนและรอยฟกช้ำหลายแห่ง“เจ้านี่รอดมาได้อย่างมหัศจรรย์” หมอเอ่ยพร้อมถอนหายใจ เขาเริ่มทำแผล ใช้สมุนไพรจากป่ารักษาบาดแผล และพันผ้าสะอาดให้หลินอ้ายที่ตามมาด้วยน้ำตานองหน้าเอ่ยขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคน “ขอบคุณพวกท่านมาก หากไม่มีพวกท่าน ข้าคงไม่รู้จะทำอย่างไร”ผู้ใหญ่บ้านตบเบาๆ บนไหล่ของหลินอ้าย“ไม่ต้องห่วง ทุกคนในหมู่บ้านคือพี่น้องกัน พวกเจ้าต้องพักฟื้นและฟื้นตัวให้แข็งแรง”ชาวบ้านช่วยกันให้กำลังใจครอบครัวของจูฉางหยู หลายคนเสนอจะช่วยแบ่งอาหารหรือช่วยดูแลพวกเขาในช่วงที่ยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์หลินอ้ายและลูกๆ มองหน้ากันด้วยความซาบซึ้ง แม้จะยังต้องเผชิญอุปสรรคอีกมาก แต่หัวใจของพวกเขาเริ่มเต็มไปด้วยความหวังค่ำคืนมาเยือนพร้อมลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านบ้านเก่าซึ่งทรุดโทรมมากแล้ว ครอบครัวรองกลับมาถึงบ้านพร้อมร่างกายที่เหนื่อยล้าและหัวใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์ หลินอ้ายช่วยประคองจูฉางหยูที่ยังบาดเจ็บหนักเข้าไปนอนพักบนเตียง ขณะที่จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางพยายามจัดที่ทางให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ขึ้นเขาครั้งแรก

    หลังจากลำบากขึ้นเขาหลายวัน หลินอ้าย จูฉิงเฉิง และจูฉิงหยางกลับมาที่บ้านพร้อมกับของป่าที่รวบรวมได้ ตะกร้าหนักที่บรรจุเห็ด สมุนไพร และผลไม้ป่าเต็มจนแทบล้น พวกเขาพากันตรงไปที่ตลาดในหมู่บ้านเพื่อขายของแม้จะเหน็ดเหนื่อยจนแทบขยับตัวไม่ไหว แต่หลินอ้ายยังพยายามยิ้มให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ด้วยความหวังว่าจะได้เงินมากพอสำหรับซื้อข้าวสารและยาสมุนไพรให้จูฉางหยูและจูฉิงอันหลังจากทั้งวันอันยาวนาน หลินอ้ายได้เงินมาเพียงไม่กี่อีแปะเล็กๆ น้อยๆ แต่นางก็ยังรู้สึกยินดีที่มีเงินพอจะซื้ออาหารและของจำเป็นบางอย่างเมื่อหลินอ้ายและลูกๆ กลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็พบว่าแม่เฒ่าจูและจูฉางไห่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู“นั่นอะไร?” แม่เฒ่าจูถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางชี้ไปที่ถุงเงินเล็กๆ ในมือของหลินอ้าย“ข้า...ข้าได้เงินจากการขายของป่า” หลินอ้ายตอบด้วยความระมัดระวัง แต่แววตาของแม่เฒ่าจูกลับเต็มไปด้วยความโลภ“เงินนี่เป็นของข้า!” แม่เฒ่าจูยื่นมือออกมาทันที จูฉางไห่ก้าวเข้ามาประกบ“ของท่าน? ข้าเป็นคนขึ้นเขา! ข้าเป็นคนเก็บมา! ท่านแม่อย่าทำแบบนี้เลย” หลินอ้ายพยายามอ้อนวอน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“บ้านนี้ ข้าเป็นคนดูแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ป่าที่อุดมสมบูรณ์

    แสงจันทร์ที่เลือนลางเป็นเพียงแสงเดียวที่นำทาง นางเดินเท้าตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผ่านป่าและทุ่งนา บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนได้ยินเสียงแมลงร้องความทรงจำจากร่างเดิมช่วยให้นางมั่นใจในเส้นทาง แม้จะมีบางจุดที่รกชัฏและดูน่ากลัว แต่นางกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่น“ข้าต้องถึงอำเภอให้ทันตลาดเช้า” นางคิดในใจ พลางเร่งฝีเท้าด้วยพลังใจที่แน่วแน่เมื่อฟ้าเริ่มสาง แสงแรกของวันค่อยๆ ส่องให้เห็นอำเภอไห่ตงที่อยู่เบื้องหน้า จูฉิงอันเดินเข้าสู่ตลาดเช้าที่เริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดเตรียมสินค้าของตนและเรียกลูกค้าเสียงดังจูฉิงอันเลือกจุดเงียบสงบในมุมหนึ่งของตลาด นางจัดของป่าที่นำมาวางขายอย่างเป็นระเบียบ ด้วยหน้าตาที่อ่อนโยนและการจัดวางอย่างคล่องแคล่ว นางดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา“เห็ดนี้สดมาก! สมุนไพรพวกนี้ก็หายากในแถบนี้” เสียงพ่อค้าคนหนึ่งทักขณะหยิบสมุนไพรขึ้นมาดูลูกค้าหลายคนแวะมาซื้อของจากนาง ด้วยความรู้ในภพก่อนเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรและเห็ด นางสามารถอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้สินค้าของนางขายหมดอย่างรวดเร็วเมื่อได้เงินมาเพียงพอ นางรีบไปซื้อของจำเป็นสำหรับครอบครัว ทั้งเนื้อ ผักสด ข้าวสาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

    หลายวันต่อมา จูฉิงอันตื่นแต่เช้ามืดก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง นางเตรียมตะกร้า เชือก และมีดเล็กๆ อย่างเงียบเชียบที่สุด ร่างบางก้าวออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่ระมัดระวัง นางไม่อยากให้แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ที่อยู่เรือนใหญ่รับรู้ถึงสิ่งที่นางทำ“ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าหาเงินได้...ทุกอย่างที่ข้าเหนื่อยยากคงต้องตกเป็นของพวกเขา” นางคิดในใจ ขณะเดินลัดเลาะเส้นทางเล็กๆ ที่นำไปสู่ป่าลึกในป่าที่เงียบสงบ จูฉิงอันยังคงใช้ความรู้ในภพก่อนอย่างชำนาญ เก็บสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ครั้งนี้นางไม่เก็บมามากจนเกินไป“หากข้าเก็บของกลับไปมากเกิน อาจเป็นที่สงสัยได้” นางพึมพำกับตัวเอง นางเลือกเก็บเฉพาะของที่สามารถนำไปขายได้ราคาและมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตบางครั้ง นางแวะริมลำธารเพื่อดื่มน้ำจากแหล่งน้ำใสสะอาด และใช้เวลาสั้นๆ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นไม้และพื้นที่ใกล้เคียงหลังจากเก็บของป่าจนพอใจ นางมุ่งหน้าไปอำเภอไห่ตงด้วยเส้นทางที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน นางเลือกเดินตามทางที่ร่างเดิมของนางเคยจำได้ เพื่อลดโอกาสพบเจอผู้คนเมื่อถึงตลาดในอำเภอ นางขายของป่าเหล่านั้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เคยพบกันก่อนหน้า ด้วยท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   จูฉิงอันในศตวรรษที่ 21

    จูฉิงอันเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เธอจำความได้ หลังจากอายุครบเกณฑ์ที่ต้องออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุ 18 เธอก็หางานทำและเรียนไปด้วยจนกระทั่งจบปริญญาตรีด้านการตลาด ทุกปีจูฉิงอันจะนำเงินเก็บส่วนหนึ่งส่งกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อเลี้ยงดูน้อง ๆ เหมือนกับรุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่ออกไปจากที่นี่เช่นเดียวกับเธอหลังจากเรียนจบและทำงานพาร์ทไทม์ต่อมาอีก 3 ปี จูฉิงอันก็มีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทนำเข้าและส่งออกผลไม้รายใหญ่ของประเทศจากความสามารถของเธอเอง ทำให้จูฉิงอันสามารถซื้อคอนโดและรถยนต์ส่วนตัวได้จากเงินเดือนที่ได้รับในบริษัทใหญ่บริษัทนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปี นับว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมทำงานประจำกับบริษัทนี้หลังจากที่เปรียบเทียบรายได้จากการทำงานพาร์ทไทม์หลายงานมานานหลายปี2 ปี ต่อมา ตำแหน่งของจูฉิงอันก็ได้เป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการตลาดตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เธอต้องรับผิดชอบงานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่านัก ยิ่งเธอขยันทำงานมากเท่าไหร่ เงินรายได้ของเธอก็ยิ่งได้รับจากการทำงานมากขึ้นเท่านั้น หัวหน้าแผนกยังไว้วางใจให้เธอเข้าร่วมงานสัมนาและการประชุมต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   เอ๊ะ! ทำไมเพลีย

    กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจะมาถึงที่เกิดเหตุ เวลาก็ผ่านไปกว่า 30 นาที เนื่องจากสายฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าปกติ เจ้าของรถสามคันที่รอเจ้าหน้าที่อยู่ก่อนหน้านี้รีบถือร่มลงจากรถไปเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังตามความจริงว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุน่าจะไม่ชินเส้นทางและมาด้วยความเร็วเมื่อตำรวจฟังคำให้การของพลเมืองดีทั้งสามคนเสร็จ ตำรวจก็ปล่อยให้พวกเขาออกจากที่เกิดเหตุหลังขอเบอร์โทรของพวกเขาเอาไว้เผื่อจะขอคำให้การเพิ่มเติม ไม่นานนักเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็นำร่างของจูฉิงอันออกจากรถได้ เจ้าหน้าที่หลายคนตรวจสอบภายในรถจนพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายยังคงใช้งานได้ เพียงแต่หน้าจอแตกร้าวเท่านั้น เขาจึงหาเบอร์โทรล่าสุดเพื่อแจ้งให้ญาติทราบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว[ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติเจ้าของโทรศัพท์หรือเปล่าครับ ][ ไม่ใช่ครับ ผมเป็นหัวหน้าของเธอครับ ไม่ทราบใครโทรมาครับ ][ ผมเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเมืองเหลียงเฮ่อครับ เจ้าของโทรศัพท์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วครับ รบกวนคุณช่วยติดต่อญาติเพื่อมารับศพด้วยนะครับ ][ อะไรนะครับ!!! ][ ผมบอกว่าเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วครับ รบกวนคุณติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ย่าที่น่ารังเกียจ

    หลังจากน้องชายคนโตออกจากห้องไป จูฉิงอันได้ยินเสียงคุยของแม่และน้องชายคนรองกำลังกังวลเรื่องอาการป่วยของนาง“ท่านแม่ เราจะทำยังไงกันดีเล่าขอรับ ฮึก.. ท่านพ่อยังไม่กลับจากล่าสัตว์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราจะหาเงินที่ไหนช่วยพี่ใหญ่ขอรับ ฮือ..”“โธ่ ลูกรัก อาหยางอย่าร้องไห้ลูก เดี๋ยวแม่จะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นคอยเช็ดตัวให้พี่สาวเจ้าก่อน เมื่อครู่อาเฉิงบอกแล้วว่าพี่สาวเจ้ารู้สึกตัวแล้ว หากนางได้กินข้าวต้มร้อน ๆ กับเช็ดตัวลดไข้สักหน่อยอาการน่าจะดีขึ้น เจ้าไปช่วยอาเฉิงป้อนข้าวพี่ใหญ่ก่อนเถอะ แม่จะไปเตรียมน้ำร้อน”“ฮึก.. ขอรับท่านแม่”จูฉิงหยางปาดน้ำตาที่ไหลรินออกก่อนจะเดินไปหาพี่ชายในห้องครัว หลินอ้ายมองตามหลังลูกชายคนรองทั้งน้ำตา ใช่ว่านางจะไม่ห่วงลูกสาว เพียงแต่นางไม่สามารถทำสิ่งใดรุนแรงกับแม่สามีได้ เพราะสามีของนางเป็นคนกตัญญูมากเกินไปจนเขาไม่กล้าว่ากล่าวครอบครัวตัวเอง ทั้งที่นางกับลูกถูกรังแกมาตลอด เขากลับทำเพียงปลอบโยนพวกนางและทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น โดยที่พวกนางไม่เคยได้แตะต้องเงินที่สามีหามาเลยแม้แต่น้อย อาหารการกินก็เป็นพวกนางช่วยกันหาของป่าบนเขาไปแลกกับชาวบ้านมาตลอด เขายังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

    หลายวันต่อมา จูฉิงอันตื่นแต่เช้ามืดก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง นางเตรียมตะกร้า เชือก และมีดเล็กๆ อย่างเงียบเชียบที่สุด ร่างบางก้าวออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่ระมัดระวัง นางไม่อยากให้แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ที่อยู่เรือนใหญ่รับรู้ถึงสิ่งที่นางทำ“ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าหาเงินได้...ทุกอย่างที่ข้าเหนื่อยยากคงต้องตกเป็นของพวกเขา” นางคิดในใจ ขณะเดินลัดเลาะเส้นทางเล็กๆ ที่นำไปสู่ป่าลึกในป่าที่เงียบสงบ จูฉิงอันยังคงใช้ความรู้ในภพก่อนอย่างชำนาญ เก็บสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ครั้งนี้นางไม่เก็บมามากจนเกินไป“หากข้าเก็บของกลับไปมากเกิน อาจเป็นที่สงสัยได้” นางพึมพำกับตัวเอง นางเลือกเก็บเฉพาะของที่สามารถนำไปขายได้ราคาและมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตบางครั้ง นางแวะริมลำธารเพื่อดื่มน้ำจากแหล่งน้ำใสสะอาด และใช้เวลาสั้นๆ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นไม้และพื้นที่ใกล้เคียงหลังจากเก็บของป่าจนพอใจ นางมุ่งหน้าไปอำเภอไห่ตงด้วยเส้นทางที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน นางเลือกเดินตามทางที่ร่างเดิมของนางเคยจำได้ เพื่อลดโอกาสพบเจอผู้คนเมื่อถึงตลาดในอำเภอ นางขายของป่าเหล่านั้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เคยพบกันก่อนหน้า ด้วยท่า

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ป่าที่อุดมสมบูรณ์

    แสงจันทร์ที่เลือนลางเป็นเพียงแสงเดียวที่นำทาง นางเดินเท้าตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผ่านป่าและทุ่งนา บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนได้ยินเสียงแมลงร้องความทรงจำจากร่างเดิมช่วยให้นางมั่นใจในเส้นทาง แม้จะมีบางจุดที่รกชัฏและดูน่ากลัว แต่นางกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่น“ข้าต้องถึงอำเภอให้ทันตลาดเช้า” นางคิดในใจ พลางเร่งฝีเท้าด้วยพลังใจที่แน่วแน่เมื่อฟ้าเริ่มสาง แสงแรกของวันค่อยๆ ส่องให้เห็นอำเภอไห่ตงที่อยู่เบื้องหน้า จูฉิงอันเดินเข้าสู่ตลาดเช้าที่เริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดเตรียมสินค้าของตนและเรียกลูกค้าเสียงดังจูฉิงอันเลือกจุดเงียบสงบในมุมหนึ่งของตลาด นางจัดของป่าที่นำมาวางขายอย่างเป็นระเบียบ ด้วยหน้าตาที่อ่อนโยนและการจัดวางอย่างคล่องแคล่ว นางดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา“เห็ดนี้สดมาก! สมุนไพรพวกนี้ก็หายากในแถบนี้” เสียงพ่อค้าคนหนึ่งทักขณะหยิบสมุนไพรขึ้นมาดูลูกค้าหลายคนแวะมาซื้อของจากนาง ด้วยความรู้ในภพก่อนเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรและเห็ด นางสามารถอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้สินค้าของนางขายหมดอย่างรวดเร็วเมื่อได้เงินมาเพียงพอ นางรีบไปซื้อของจำเป็นสำหรับครอบครัว ทั้งเนื้อ ผักสด ข้าวสาร

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ขึ้นเขาครั้งแรก

    หลังจากลำบากขึ้นเขาหลายวัน หลินอ้าย จูฉิงเฉิง และจูฉิงหยางกลับมาที่บ้านพร้อมกับของป่าที่รวบรวมได้ ตะกร้าหนักที่บรรจุเห็ด สมุนไพร และผลไม้ป่าเต็มจนแทบล้น พวกเขาพากันตรงไปที่ตลาดในหมู่บ้านเพื่อขายของแม้จะเหน็ดเหนื่อยจนแทบขยับตัวไม่ไหว แต่หลินอ้ายยังพยายามยิ้มให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ด้วยความหวังว่าจะได้เงินมากพอสำหรับซื้อข้าวสารและยาสมุนไพรให้จูฉางหยูและจูฉิงอันหลังจากทั้งวันอันยาวนาน หลินอ้ายได้เงินมาเพียงไม่กี่อีแปะเล็กๆ น้อยๆ แต่นางก็ยังรู้สึกยินดีที่มีเงินพอจะซื้ออาหารและของจำเป็นบางอย่างเมื่อหลินอ้ายและลูกๆ กลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็พบว่าแม่เฒ่าจูและจูฉางไห่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู“นั่นอะไร?” แม่เฒ่าจูถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางชี้ไปที่ถุงเงินเล็กๆ ในมือของหลินอ้าย“ข้า...ข้าได้เงินจากการขายของป่า” หลินอ้ายตอบด้วยความระมัดระวัง แต่แววตาของแม่เฒ่าจูกลับเต็มไปด้วยความโลภ“เงินนี่เป็นของข้า!” แม่เฒ่าจูยื่นมือออกมาทันที จูฉางไห่ก้าวเข้ามาประกบ“ของท่าน? ข้าเป็นคนขึ้นเขา! ข้าเป็นคนเก็บมา! ท่านแม่อย่าทำแบบนี้เลย” หลินอ้ายพยายามอ้อนวอน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“บ้านนี้ ข้าเป็นคนดูแล

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ทรมานครอบครัวรอง

    ที่บ้านหมอซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล หมอประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นชายชราที่มากประสบการณ์ตรวจดูบาดแผลของจูฉางหยูอย่างละเอียด เขาพบว่ามีแผลลึกที่แขนและรอยฟกช้ำหลายแห่ง“เจ้านี่รอดมาได้อย่างมหัศจรรย์” หมอเอ่ยพร้อมถอนหายใจ เขาเริ่มทำแผล ใช้สมุนไพรจากป่ารักษาบาดแผล และพันผ้าสะอาดให้หลินอ้ายที่ตามมาด้วยน้ำตานองหน้าเอ่ยขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคน “ขอบคุณพวกท่านมาก หากไม่มีพวกท่าน ข้าคงไม่รู้จะทำอย่างไร”ผู้ใหญ่บ้านตบเบาๆ บนไหล่ของหลินอ้าย“ไม่ต้องห่วง ทุกคนในหมู่บ้านคือพี่น้องกัน พวกเจ้าต้องพักฟื้นและฟื้นตัวให้แข็งแรง”ชาวบ้านช่วยกันให้กำลังใจครอบครัวของจูฉางหยู หลายคนเสนอจะช่วยแบ่งอาหารหรือช่วยดูแลพวกเขาในช่วงที่ยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์หลินอ้ายและลูกๆ มองหน้ากันด้วยความซาบซึ้ง แม้จะยังต้องเผชิญอุปสรรคอีกมาก แต่หัวใจของพวกเขาเริ่มเต็มไปด้วยความหวังค่ำคืนมาเยือนพร้อมลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านบ้านเก่าซึ่งทรุดโทรมมากแล้ว ครอบครัวรองกลับมาถึงบ้านพร้อมร่างกายที่เหนื่อยล้าและหัวใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์ หลินอ้ายช่วยประคองจูฉางหยูที่ยังบาดเจ็บหนักเข้าไปนอนพักบนเตียง ขณะที่จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางพยายามจัดที่ทางให

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ท่านพ่อบาดเจ็บ

    เช้าตรู่ในฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศหนาวเย็น ป่าเขาล้อมรอบหมู่บ้านด้วยหมอกขาวที่ลอยอ้อยอิ่ง จูฉางหยูสะพายธนูและกระบอกน้ำไว้บนหลัง เดินลึกเข้าไปในป่าด้วยความมุ่งมั่น เขาต้องการล่าสัตว์เพื่อหาอาหารมาจุนเจือครอบครัวในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงเสียงใบไม้กรอบแกรบใต้ฝ่าเท้าของเขาและเสียงนกที่ร้องอยู่ในไพรพงทำให้ป่าดูเหมือนมีชีวิต แต่จูฉางหยูไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เขาจดจ่อกับรอยเท้ากวางที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน มันเป็นรอยเท้าสดใหม่ที่นำเขาลึกเข้าไปในป่าที่ไม่คุ้นเคยเมื่อเขาพบร่างกวางตัวใหญ่ยืนอยู่ไม่ไกล ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ จูฉางหยูหยุดเดิน หัวใจของเขาเต้นแรงขณะที่เขาประเมินระยะและความแม่นยำของลูกธนู เขาค่อยๆ ยกธนูขึ้นเล็ง แต่ในขณะนั้นเอง เสียงแตกของกิ่งไม้บางเบาใต้เท้าของเขาทำให้กวางสะดุ้งและวิ่งหนีไปจูฉางหยูรีบวิ่งตาม แต่ด้วยความเร่งรีบ เขากลับไม่ทันระวัง พื้นดินใต้เท้าของเขาเป็นทางลาดชันที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง เขาพลัดตกลงไปในเหวเล็กๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้ร่างของเขากระแทกกับก้อนหินและกิ่งไม้ระหว่างทาง จนกระทั่งเขาหยุดลงที่พื้นดินด้านล่าง เขารู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แขนและขา รอยแผลเปิดและรอยฟกช

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ลุงใหญ่กับอาเล็ก

    “ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก!! ข้าบอกว่าไม่ให้พานังตัวขาดทุนไปหาหมอยังกล้าขัด ถ้าวันนี้ข้าไม่เอาเลือดหัวพวกเจ้าออก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่เฒ่าจูเลย”“ท่านแม่ตีพวกมันให้ตายเลย ข้าคิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเสบียงในบ้านหายไปบ่อย ๆ นี่พวกมันคงแอบขโมยทุกวันกระมังเจ้าค่ะ”แม่เฒ่าจูไม่สนใจว่าจูฉางหยูจะกำลังอุ้มจูฉิงอันอยู่ นางพุ่งเข้าไปพร้อมไม้ท่อนยาวที่ไม่รู้ว่าไปนำมาจากไหนหวดเข้าใส่กลุ่มจูฉางหยูอย่างไม่ออมแรงจูฉางหยูเห็นแม่ตนเองพุ่งเข้ามาเช่นนี้ก็รีบหันหลังบังร่างของทุกคนในบ้านเอาไว้จนถูกไม้หวดเข้าเต็มแรงจนเขาเกือบเสียหลักล้มลงไปกองที่พื้น“ฮือ… ท่านแม่ ท่านอย่าตีท่านพี่”“ฮือ… ท่านย่า อย่าตีท่านพ่อขอรับ” สองแฝดรีบเข้าไปเกาะขาแม่เฒ่าจู“หลีกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าโหดร้าย”พลั่ก! ตุ้บ! โอ๊ย!!!จูฉางหยูได้ยินเสียงร้องของลูกชายก็รีบหันกลับไปมอง เขาเห็นแม่เฒ่าจูเงื้อไม้ตีเด็กทั้งสองอย่างรุนแรง ภรรยาของเขาพยายามเอาตัวบังลูกไว้ก็พลอยถูกทำร้ายไปด้วย จูฉางหยูทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาวิ่งเข้าชนแม่เฒ่าจูจนนางล้มลงตุ้บ! กรี๊ด!!!“ไอ้ลูกอกตัญญู! เจ้ากล้าทำร้ายข้าหรือ? อาฮวา ไปเอามีดในครัวมา วันนี้ข้าจะสับพวกมั

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   อาเล็กกลับบ้าน

    แม่เฒ่าจูได้แต่กระฟัดกระเฟียดที่จูฉางหยูขัดคำสั่งนาง ครั้นจะให้นางวิ่งไปที่บ้านท่านหมอก็ดูจะไม่เหมาะสมนัก นางกลัวว่าหากผู้ใหญ่บ้านรู้เข้าจะมาลงโทษนางอีก ก่อนหน้านี้เขาปล่อยผ่านเพราะเรื่องราวยังไม่ร้ายแรง แต่ตอนนี้นางไม่แน่ใจว่าเขาจะปล่อยผ่านอีกหรือไม่จึงไม่กล้าเสี่ยง ด้วยความโมโห แม่เฒ่าจูไม่อยู่นินทาชาวบ้านต่อ นางใช้ไม้เท้าพาตัวเองกลับไปบ้านตระกูลจูเพื่อรอจัดการเจ้าพวกบ้านรองที่บังอาจขัดคำสั่งนางหลินอ้ายกับลูกชายไปถึงบ้านท่านหมอก็ร้องเรียกท่านเสียงดังด้วยกลัวว่าท่านหมอชราจะไม่ได้ยินพวกนาง ไม่นานนักหมอกวงก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วให้พวกเขา ก่อนจะถามนางว่าเหตุใดจึงดูเร่งร้อนเพียงนี้“ฮึก.. ท่านหมอช่วยลูกสาวข้าด้วยเจ้าค่ะ นางป่วยมาหลายวันแล้วจนอาการทรุดลง สามีข้ากำลังพานางมาที่นี่เจ้าค่ะ”“อ้าว ถึงว่าสิ ข้าไม่เห็นนังหนูฉิงอันนำสมุนไพรมาฝากข้านานแล้ว พวกเจ้าเข้ามาก่อน ข้าจะไปดูว่ามียาอะไรเหลืออยู่บ้าง”หมอกวงพูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้านไป หลินอ้ายกับลูกชายได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จูฉางหยูจะพาจูฉิงอันมาถึง หลังจากกังวลอยู่ไม่นาน นางก็เห็นสามีวิ่งมาเกือบถึงบ้านท่านหมอแล้ว“ท่านพี่ รีบพาลูกเข้า

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ย่าที่น่ารังเกียจ

    หลังจากน้องชายคนโตออกจากห้องไป จูฉิงอันได้ยินเสียงคุยของแม่และน้องชายคนรองกำลังกังวลเรื่องอาการป่วยของนาง“ท่านแม่ เราจะทำยังไงกันดีเล่าขอรับ ฮึก.. ท่านพ่อยังไม่กลับจากล่าสัตว์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราจะหาเงินที่ไหนช่วยพี่ใหญ่ขอรับ ฮือ..”“โธ่ ลูกรัก อาหยางอย่าร้องไห้ลูก เดี๋ยวแม่จะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นคอยเช็ดตัวให้พี่สาวเจ้าก่อน เมื่อครู่อาเฉิงบอกแล้วว่าพี่สาวเจ้ารู้สึกตัวแล้ว หากนางได้กินข้าวต้มร้อน ๆ กับเช็ดตัวลดไข้สักหน่อยอาการน่าจะดีขึ้น เจ้าไปช่วยอาเฉิงป้อนข้าวพี่ใหญ่ก่อนเถอะ แม่จะไปเตรียมน้ำร้อน”“ฮึก.. ขอรับท่านแม่”จูฉิงหยางปาดน้ำตาที่ไหลรินออกก่อนจะเดินไปหาพี่ชายในห้องครัว หลินอ้ายมองตามหลังลูกชายคนรองทั้งน้ำตา ใช่ว่านางจะไม่ห่วงลูกสาว เพียงแต่นางไม่สามารถทำสิ่งใดรุนแรงกับแม่สามีได้ เพราะสามีของนางเป็นคนกตัญญูมากเกินไปจนเขาไม่กล้าว่ากล่าวครอบครัวตัวเอง ทั้งที่นางกับลูกถูกรังแกมาตลอด เขากลับทำเพียงปลอบโยนพวกนางและทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น โดยที่พวกนางไม่เคยได้แตะต้องเงินที่สามีหามาเลยแม้แต่น้อย อาหารการกินก็เป็นพวกนางช่วยกันหาของป่าบนเขาไปแลกกับชาวบ้านมาตลอด เขายังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   เอ๊ะ! ทำไมเพลีย

    กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจะมาถึงที่เกิดเหตุ เวลาก็ผ่านไปกว่า 30 นาที เนื่องจากสายฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าปกติ เจ้าของรถสามคันที่รอเจ้าหน้าที่อยู่ก่อนหน้านี้รีบถือร่มลงจากรถไปเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังตามความจริงว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุน่าจะไม่ชินเส้นทางและมาด้วยความเร็วเมื่อตำรวจฟังคำให้การของพลเมืองดีทั้งสามคนเสร็จ ตำรวจก็ปล่อยให้พวกเขาออกจากที่เกิดเหตุหลังขอเบอร์โทรของพวกเขาเอาไว้เผื่อจะขอคำให้การเพิ่มเติม ไม่นานนักเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็นำร่างของจูฉิงอันออกจากรถได้ เจ้าหน้าที่หลายคนตรวจสอบภายในรถจนพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายยังคงใช้งานได้ เพียงแต่หน้าจอแตกร้าวเท่านั้น เขาจึงหาเบอร์โทรล่าสุดเพื่อแจ้งให้ญาติทราบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว[ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติเจ้าของโทรศัพท์หรือเปล่าครับ ][ ไม่ใช่ครับ ผมเป็นหัวหน้าของเธอครับ ไม่ทราบใครโทรมาครับ ][ ผมเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเมืองเหลียงเฮ่อครับ เจ้าของโทรศัพท์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วครับ รบกวนคุณช่วยติดต่อญาติเพื่อมารับศพด้วยนะครับ ][ อะไรนะครับ!!! ][ ผมบอกว่าเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วครับ รบกวนคุณติ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status