Share

ป่าที่อุดมสมบูรณ์

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-02-25 13:44:00

แสงจันทร์ที่เลือนลางเป็นเพียงแสงเดียวที่นำทาง นางเดินเท้าตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผ่านป่าและทุ่งนา บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนได้ยินเสียงแมลงร้อง

ความทรงจำจากร่างเดิมช่วยให้นางมั่นใจในเส้นทาง แม้จะมีบางจุดที่รกชัฏและดูน่ากลัว แต่นางกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่น

“ข้าต้องถึงอำเภอให้ทันตลาดเช้า” นางคิดในใจ พลางเร่งฝีเท้าด้วยพลังใจที่แน่วแน่

เมื่อฟ้าเริ่มสาง แสงแรกของวันค่อยๆ ส่องให้เห็นอำเภอไห่ตงที่อยู่เบื้องหน้า จูฉิงอันเดินเข้าสู่ตลาดเช้าที่เริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดเตรียมสินค้าของตนและเรียกลูกค้าเสียงดัง

จูฉิงอันเลือกจุดเงียบสงบในมุมหนึ่งของตลาด นางจัดของป่าที่นำมาวางขายอย่างเป็นระเบียบ ด้วยหน้าตาที่อ่อนโยนและการจัดวางอย่างคล่องแคล่ว นางดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา

“เห็ดนี้สดมาก! สมุนไพรพวกนี้ก็หายากในแถบนี้” เสียงพ่อค้าคนหนึ่งทักขณะหยิบสมุนไพรขึ้นมาดู

ลูกค้าหลายคนแวะมาซื้อของจากนาง ด้วยความรู้ในภพก่อนเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรและเห็ด นางสามารถอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้สินค้าของนางขายหมดอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้เงินมาเพียงพอ นางรีบไปซื้อของจำเป็นสำหรับครอบครัว ทั้งเนื้อ ผักสด ข้าวสาร และเครื่องปรุงเล็กๆ น้อยๆ

หลังจากซื้อของครบแล้ว จูฉิงอันรีบออกจากอำเภอโดยไม่รั้งรอ นางไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าเป็นเพียงเด็กสาวที่เดินทางลำพัง

ตะกร้าของนางเต็มไปด้วยสิ่งของที่จำเป็น แม้จะหนักอึ้ง แต่นางก็กัดฟันเดินกลับบ้านโดยไม่หยุดพัก

ตลอดทาง นางคิดถึงครอบครัวที่ยังคงนอนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายไปเมื่อจินตนาการถึงรอยยิ้มของทุกคนที่ได้เห็นของเหล่านี้

เมื่อถึงบ้านในยามสาย จูฉิงอันพบว่าหลินอ้ายและน้องชายทั้งสองกำลังเตรียมจะออกไปหาอาหารอีกครั้ง พวกเขาหยุดชะงักเมื่อเห็นนางเดินเข้ามาพร้อมตะกร้าใส่ของมากมายจนเกือบล้น

“อันเอ๋อร์! เจ้าไปไหนมา?” หลินอ้ายถามด้วยความตกใจ

“ข้าไปขายของป่าที่อำเภอไห่ตงมา” จูฉิงอันตอบพลางยิ้ม 

“ข้าซื้อเนื้อ ผัก และข้าวสารมาให้พวกเรา เพื่อให้ทุกคนได้กินอาหารดีๆ และพักฟื้นร่างกาย”

หลินอ้ายมองลูกสาวด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งห่วงใยและภูมิใจ น้ำตาเอ่อคลอในดวงตาของนาง 

“เจ้าเพิ่งหายดีแท้ๆ ทำไมถึงฝืนตัวเองแบบนี้?”

“เพราะข้ารู้ว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ พวกเราจะไม่มีเรี่ยวแรงไปสู้ต่อ” จูฉิงอันตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางรีบเข้ามาช่วยถือของ ทุกคนในครอบครัวเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จูฉิงอันไม่ได้เป็นเพียงเด็กสาวที่อ่อนแออีกต่อไป นางกลายเป็นแสงสว่างที่เริ่มนำทางครอบครัวออกจากความมืดมน

ในมื้ออาหารเย็นวันนั้น ทุกคนได้นั่งล้อมวงกินอาหารอย่างอบอุ่น หลินอ้ายต้มซุปเนื้อหอมกรุ่น ส่วนจูฉิงเฉิงช่วยย่างปลาอย่างขยันขันแข็ง

“ข้าสัญญา...ข้าจะทำให้พวกเรามีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้” จูฉิงอันคิดในใจ ขณะที่มองทุกคนกินอาหารด้วยรอยยิ้ม

แสงไฟจากตะเกียงในบ้านซอมซ่อส่องให้เห็นถึงความอบอุ่นที่เริ่มก่อตัว แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวที่เต็มไปด้วยความหวังและกำลังใจ

เมื่อจูฉิงอันเดินลึกเข้าไปในป่า ความเงียบสงัดของยามเช้าถูกแทนที่ด้วยเสียงกระซิบของธรรมชาติ ใบไม้สั่นไหวเบาๆ ตามแรงลมอ่อน เสียงน้ำไหลของลำธารใกล้ๆ กังวานชัดเจนในความเงียบ ต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าขึ้นเรียงรายเป็นแนวยาว ใบไม้เขียวสดชุ่มน้ำค้างสะท้อนแสงอ่อนของดวงอาทิตย์ที่เพิ่งพ้นขอบฟ้า

พื้นดินใต้เท้านางนุ่มเพราะถูกปกคลุมด้วยชั้นดินและใบไม้ที่ร่วงหล่นมานานปี รากไม้ใหญ่โผล่พ้นพื้นดินในบางจุดเหมือนกับอุโมงค์ธรรมชาติ กลิ่นหอมชื้นของดินและไม้ป่ากระจายอยู่ในอากาศ เติมเต็มความรู้สึกสดชื่น

เสียงนกร้องระงมก้องไปทั่ว บางครั้งเสียงนกร้องแหลมต่ำสลับกันไปเหมือนบทเพลงธรรมชาติที่ไม่มีวันจบสิ้น นกนานาชนิดบินโฉบไปมา บางตัวมีขนหลากสีสัน สะท้อนแสงแดดจนดูเหมือนอัญมณีมีชีวิต

ขณะเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ นางมองเห็นกระรอกตัวเล็กๆ ไต่ตามกิ่งไม้ รวดเร็วและคล่องแคล่ว เสียงกิ่งไม้แห้งแตกดังขึ้นเป็นระยะ เมื่อสัตว์เล็กๆ อย่างกระต่ายป่าและกวางตัวน้อยแอบหลบอยู่ในพุ่มไม้หนา

เหนือศีรษะ เถาวัลย์ที่เลื้อยพันกันไปมาห้อยลงเหมือนม่านธรรมชาติ บางเส้นมีดอกไม้ป่าสีสดใสเบ่งบาน ดอกสีม่วง กลิ่นหอมจางๆ ของมันลอยอบอวลในอากาศ

เมื่อเดินตามเสียงน้ำไหล นางพบลำธารใสสะอาดที่ไหลลดเลี้ยวผ่านหินใหญ่เล็ก เสียงน้ำกระทบหินดังเบาๆ ชวนให้รู้สึกสงบ ปลาเล็กปลาน้อยว่ายวนในน้ำใสราวกระจก เห็นได้ชัดเจนจนแทบจะเอื้อมมือจับได้

บริเวณริมธารเต็มไปด้วยเฟิร์นและมอสที่เขียวชอุ่ม บางจุดมีต้นไม้ขนาดเล็กที่โค้งเอนมาปกคลุมลำธารเหมือนกับจะโอบอุ้มมันไว้

ในป่านี้มีของล้ำค่าเต็มไปหมด เห็ดป่าหลากสีที่ขึ้นใต้ร่มไม้ใหญ่ดูสดใหม่และมีกลิ่นเฉพาะตัว บางจุดมีพุ่มผลไม้ป่า เช่น ผลไม้สีแดงเล็กๆ ที่ขึ้นซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มใบไม้สีเขียวเข้ม

จูฉิงอันเจอสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ริมทางเดิน ต้นของมันสูงประมาณข้อเข่าพร้อมดอกสีขาวเล็กๆ นางจำได้ทันทีว่าสมุนไพรนี้มีคุณค่ามาก ทั้งใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยและนำไปขายได้ราคาดี

นางหยุดเก็บสมุนไพรเหล่านี้ด้วยความชำนาญ สังเกตตำแหน่งที่มันเจริญเติบโตเพื่อจะกลับมาอีกในวันหน้า

“ป่าแห่งนี้...เหมือนขุมทรัพย์ที่ไร้จุดสิ้นสุด” นางคิดในใจ ขณะที่กวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกครั้งที่นางพบของป่าชิ้นใหม่ หัวใจของนางก็เต้นด้วยความตื่นเต้น

“ในภพก่อน ไม่มีอะไรแบบนี้เลย...” นางพึมพำกับตัวเอง ภาพในอดีตของเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงและควันพิษแตกต่างจากความงดงามที่นางเห็นตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง

การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทำให้นางรู้สึกมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนสิ่งที่พบในป่านี้ให้กลายเป็นโอกาสสำหรับครอบครัว

ก่อนออกจากป่า นางหยุดยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มองไปรอบๆ ด้วยความชื่นชม ใบไม้ที่ปลิวร่วงลงมาช้าๆ จากลมอ่อนเหมือนการอำลาของธรรมชาติ

“ข้าจะกลับมาอีกแน่นอน” นางพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินจากไปพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่าและหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง

เมื่อจูฉิงอันกลับถึงบ้าน หลินอ้ายที่กำลังจัดของอยู่หน้าบ้านเงยหน้าขึ้นและเห็นลูกสาวเดินเข้ามาพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า

“อันเอ๋อร์ เจ้าเก็บของป่าได้เยอะมากเลยวันนี้!” หลินอ้ายพูดด้วยความตื่นเต้น นางรีบเดินเข้ามาช่วยลูกสาวยกตะกร้าลง

จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางที่กำลังตัดไม้ฟืนรีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความสนใจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นสิ่งที่จูฉิงอันนำกลับมา

“ข้าเจอป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก ของพวกนี้ข้าจะนำไปขายในตลาดพรุ่งนี้อีกครั้ง แล้วเราจะมีเงินพอซื้อของจำเป็นเพิ่ม” จูฉิงอันบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

หลินอ้ายมองลูกสาวด้วยความภูมิใจ ขณะที่จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางช่วยกันนำของป่ามาจัดวางในบ้าน

ในยามค่ำคืน จูฉิงอันมองดูครอบครัวที่เริ่มมีกำลังใจจากความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่นางช่วยสร้าง ทุกคนเริ่มเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถก้าวผ่านความลำบากนี้ไปได้

นางคิดถึงวันข้างหน้าที่จะได้พาท่านพ่อขึ้นเขาไปด้วยกัน การร่วมมือกันของครอบครัวจะยิ่งทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ข้าจะทำให้ครอบครัวเราออกจากขุมนรกนี้ให้ได้” จูฉิงอันสาบานกับตัวเอง ขณะมองดวงดาวบนฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

    หลายวันต่อมา จูฉิงอันตื่นแต่เช้ามืดก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง นางเตรียมตะกร้า เชือก และมีดเล็กๆ อย่างเงียบเชียบที่สุด ร่างบางก้าวออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่ระมัดระวัง นางไม่อยากให้แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ที่อยู่เรือนใหญ่รับรู้ถึงสิ่งที่นางทำ“ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าหาเงินได้...ทุกอย่างที่ข้าเหนื่อยยากคงต้องตกเป็นของพวกเขา” นางคิดในใจ ขณะเดินลัดเลาะเส้นทางเล็กๆ ที่นำไปสู่ป่าลึกในป่าที่เงียบสงบ จูฉิงอันยังคงใช้ความรู้ในภพก่อนอย่างชำนาญ เก็บสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ครั้งนี้นางไม่เก็บมามากจนเกินไป“หากข้าเก็บของกลับไปมากเกิน อาจเป็นที่สงสัยได้” นางพึมพำกับตัวเอง นางเลือกเก็บเฉพาะของที่สามารถนำไปขายได้ราคาและมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตบางครั้ง นางแวะริมลำธารเพื่อดื่มน้ำจากแหล่งน้ำใสสะอาด และใช้เวลาสั้นๆ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นไม้และพื้นที่ใกล้เคียงหลังจากเก็บของป่าจนพอใจ นางมุ่งหน้าไปอำเภอไห่ตงด้วยเส้นทางที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน นางเลือกเดินตามทางที่ร่างเดิมของนางเคยจำได้ เพื่อลดโอกาสพบเจอผู้คนเมื่อถึงตลาดในอำเภอ นางขายของป่าเหล่านั้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เคยพบกันก่อนหน้า ด้วยท่า

    Last Updated : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   กล่อมพ่อแยกบ้าน

    เมื่อผ่านไปหลายสัปดาห์ จูฉางหยูเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เขาสามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยความช่วยเหลือเล็กน้อยจากหลินอ้าย และเริ่มฝึกเดินช้าๆ ภายในบ้าน“ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง” เขาพูดขึ้นในวันหนึ่ง ขณะลองเดินเองเป็นครั้งแรก“นี่เป็นเพราะลูกสาวของท่าน ท่านต้องขอบคุณฉิงอันให้มาก” หลินอ้ายกล่าวพลางมองดูสามีที่ค่อยๆ ฟื้นคืนความแข็งแรงจูฉางหยูหันไปมองจูฉิงอันที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก นางเพียงยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“นี่เป็นสิ่งที่ลูกควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อพักผ่อนมากๆ ก่อนเถิด ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าในอนาคต”อาการของจูฉางหยูที่ดีขึ้นทำให้ทุกคนในบ้านรองมีกำลังใจมากขึ้น แม้พวกเขายังคงต้องระมัดระวังและอดทนกับการกดขี่จากแม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ แต่ก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายทางจูฉิงอันรู้ดีว่า การฟื้นตัวของบิดาคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของพวกเขา“ท่านพ่

    Last Updated : 2025-02-26
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ป่วยเป็นโรคระบาด

    หลังจากแม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่กลับไปพร้อมถุงอาหารและเงินที่พวกเขารีดไถมาได้ หลินอ้ายรีบคว้าลูกชายทั้งสองเข้ามาในบ้าน นางปิดประตูแน่นหนาอย่างระแวดระวัง ก่อนจะเลื่อนกลอนประตูเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครบุกเข้ามาอีก“ท่านแม่ ท่านเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” จูฉิงหยางรีบถามพลางประคองแขนแม่อย่างเป็นห่วง หลินอ้ายส่ายหน้าและลูบศีรษะลูกชายเบาๆ แต่แววตาของนางยังคงเต็มไปด้วยความวิตก“แม่ไม่เป็นไรหรอก แต่พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี” นางกล่าว ก่อนจะมองไปยังจูฉิงเฉิง ผู้ที่เพิ่งลุกขึ้นมาจากพื้นหลังจากถูกผลักล้มเมื่อครู่“ข้าไม่เป็นไรขอรับท่านแม่” จูฉิงเฉิงตอบอย่างกล้าหาญ แม้สีหน้าและท่าทางของเขาจะยังเจ็บปวดอยู่จูฉิงอันเดินออกมาจากห้องของบิดา หลังจากดูแลอาการของเขาจนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดน่ากังวลในตอนนี้ นางเรียกทุกคนมารวมตัวในห้องพ่อ พลางปิดประตูห้องไว้เพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปจูฉิงอันนั่งลงบนพื้นข้างเตียงของพ่อ

    Last Updated : 2025-02-26
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ไล่ออก

    หลายวันผ่านไป แม่เฒ่าจูยังคงเดินเทียวไปมาระหว่างเรือนหลักและบ้านรองเพื่อสอดส่อง แต่ทุกครั้งที่นางมองเห็นหลินอ้ายและลูกๆ ที่ดูซูบเซียวกว่าเดิม นางก็ยิ่งโมโหจนแทบขบฟันแตก นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนพวกนี้ถึงไม่ยอมตายไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว และยิ่งคิดถึงจูไฮ่เฟิง หลานชายคนโตที่นางรักดั่งดวงใจ ซึ่งต้องหยุดเรียนเพราะไม่มีเงินส่งให้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นางยิ่งรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังโถมทับร่างกายของนาง“เฮอะ! แค่คนพวกนี้ตายไป ข้าก็คงได้หายใจสะดวกขึ้น” แม่เฒ่าจูพึมพำพลางปัดมือที่เต็มไปด้วยฝุ่นจากการกวาดลานบ้านในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่จูฉางไห่กลับมาจากทำงานที่โรงเตี๊ยมด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วง“ท่านแม่ ข้าว่ามันไม่ไหวแล้ว” เขาเริ่มพูดขณะยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ“พวกมันทำให้บ้านรองดูเป็นเหมือนรังโรค นี่ข้าเองยังต้องอดทนทำงานทั้งวัน กลับมาบ้านยังต้องมากลัวว่าจะติดโรคระบาดจากพวกมันอีก!”

    Last Updated : 2025-02-27
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ชาวบ้านก่นด่า

    จูฉางหยูรู้สึกถึงมือเล็ก ๆ ของลูกสาวที่วางลงบนแขนเขาเบา ๆ นางไม่พูดอะไร แต่ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมานั้นทำให้เขาพอจะบรรเทาความเจ็บปวดในใจได้บ้าง“ท่านพ่อ...” จูฉิงอันกระซิบ“ท่านไม่ได้ไร้ค่า ท่านยังมีข้ากับท่านแม่และน้อง ๆ พวกเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”คำพูดของจูฉิงอันทำให้จูฉางหยูนิ่งไป ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ พยักหน้า แม้ในใจยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกถึงพลังใจที่ลูกสาวพยายามส่งมอบให้เขาผู้ใหญ่บ้านมองแม่เฒ่าจูด้วยสายตาเรียบนิ่ง“แม่เฒ่าจู ท่านพูดออกมาได้เช่นนี้ ท่านได้ตรวจสอบแล้วหรือว่าบ้านรองเป็นโรคระบาดจริง ๆ หรือไม่?”แม่เฒ่าจูยกมือขึ้นเท้าสะเอว“ข้าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น! ข้าเห็นมากับตาว่ามันอาการแย่กันขนาดไหน ยังจะต้องการหลักฐานอะไรอีกหรือ?”คำพูด

    Last Updated : 2025-02-27
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ตัดสัมพันธ์

    เมื่อเห็นแผ่นหลังแม่เฒ่าจูสะบัดจากไปและได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยอคติและความโกรธของนาง จูฉางหยูที่เงียบมาตลอดสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเริ่มรู้สึกว่าอดทนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ใดอีกแล้ว ร่างผอมซูบยืดตัวขึ้นช้า ๆ แม้จะยังไม่หายดีเต็มที่ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววตาแน่วแน่“ท่านแม่! ท่านฟังข้าดี ๆ” เสียงของจูฉางหยูดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุกสายตาหันมามองเขาอย่างตกตะลึงแม่เฒ่าจูหยุดเดิน หันกลับมาด้วยความไม่พอใจ“เจ้ามีอะไรอีก? อยากพูดแก้ตัวอะไรรึ?”จูฉางหยูมองตรงไปยังมารดาของตน เขาพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจนและหนักแน่น“ข้าจะขอแยกบ้าน! ข้าไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลจูอีกต่อไป!”คำพูดนี้ทำให้ทั้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่มุงดูอยู่ตกตะลึงกันถ้วนหน้า เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันที“แยกบ้าน? เขาพูดจริงหรือ?”“นี่เป็นเรื่องใหญ่นะ!”“แต่จะว่าไป ถ้าเขาแยกออกไป ก็น่าจะดีกว่าถูก

    Last Updated : 2025-02-28
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ใจจืดใจดำ

    ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจยาว ดวงตาฝ้าฟางของเขามองตรงไปยังแม่เฒ่าจูด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความจริงจัง“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอบอกให้ชัดเจนเลย จูฉางหยูไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเจ้า ทรัพย์สินบางอย่างที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เด็ก เช่น หยกพกนั่น เจ้าไม่มีสิทธิ์เก็บไว้ มันต้องคืนให้เขา!”คำพูดนี้ทำให้ทั้งลานบ้านตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนที่ได้ยินต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขณะที่แม่เฒ่าจูถึงกับหน้าซีด แต่เพียงเสี้ยววินาที ความโกรธก็พุ่งขึ้นมาแทนที่“หยกพกนั่นเป็นของข้า! ข้าเลี้ยงดูมันมาทั้งชีวิต ข้าจะเก็บไว้! ใครก็เอาไปไม่ได้!”นางตะโกนเสียงแหลม มือสองข้างกำชายเสื้อแน่นราวกับจะปกป้องสมบัตินั้นด้วยชีวิต“แม่เฒ่าจู” ผู้ใหญ่บ้านพูดเสียงเข้ม“ถ้าเจ้ายังดื้อดึง ข้าจะส่งเรื่องนี้ไปถึงทางการ เจ้าอยากถูกลงโทษเพราะยักยอกทรัพย์สินส่วนตัวของจูฉางหยูหรือ?”

    Last Updated : 2025-02-28
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   เก็บข้าวของ

    จูฉางหยูยื่นมือออกมารับหยกพกนั้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ทั้งเศร้าใจ อ่อนล้า และขอบคุณ เขาจ้องมองหยกนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำเบา ๆ “นี่เป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงข้ากับพ่อแม่แท้ ๆ ของข้า...”เขาเก็บหยกพกไว้ในอกเสื้ออย่างระมัดระวัง เสียงหัวใจเขาเต้นแรงขึ้นด้วยความกังวลว่าสิ่งนี้อาจถูกขโมยไปอีก เขากำอกเสื้อแน่นขณะยืนตัวตรง ดวงตาที่เคยอ่อนแอกลับเปล่งประกายความแน่วแน่ออกมาเมื่อผู้ใหญ่บ้านเริ่มกล่าวถึงข้อตกลงการแบ่งที่นาและเงินเก็บจำนวนหนึ่งให้แก่บ้านรอง แม่เฒ่าจูรีบตะโกนสวนทันที“ไม่มีทาง! ที่นานั่นข้ากับฉางไห่ทำงานหนักเพื่อได้มันมา! ส่วนเงินเก็บ ข้าก็เก็บออมมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของพวกข้า! พวกมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทำไมข้าต้องแบ่งให้ด้วย!”เสียงตะโกนของนางทำให้ชาวบ้านเริ่มกระซิบกระซาบถึงความงกและใจร้ายของแม่เฒ่าจู ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา“แต่ไหนแต่ไรบ้านรองก็ทำงานหนักหาเลี้ยงทั้งบ้าน

    Last Updated : 2025-03-01

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   เสนาบดีเซี่ยเดินทางกลับ

    สิบวันต่อมา เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่ที่เตรียมฎีกาต่าง ๆ เพื่อถวายให้กับฮ่องเต้เกี่ยวกับความรู้ทั้งหมดที่พวกเขาได้รับจากหลินฉิงอันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ไปบอกลาเหิงอันโหวก่อนจะเดินทางกลับในเวลาต่อมาก่อนที่พวกเขาจะกลับไป หลินฉิงอันยังมอบผลไม้แช่อิ่มให้พวกเขานำกลับไปด้วยถึงสิบกระสอบเพื่อกินระหว่างทางและนำไปฝากครอบครัวด้วย ชาวบ้านในหมู่บ้านเองก็นำเกาลัดคั่วที่พวกเขาทำมอบให้ไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน เสนาบดีหลี่รู้ว่าพวกชาวบ้านนำสิ่งของเหล่านี้ไปขายในเมืองกันนานแล้ว ท่านจึงมอบเงินให้กับผู้ใหญ่บ้านหลี่นำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านเป็นการตอบแทนเจ้าเมืองเติ้งที่ทราบข่าวว่าเสนาบดีเซี่ยกำลังจะเดินทางกลับก็มาส่งพวกเขาออกจากหมู่บ้านต้าไห่เช่นเดียวกัน เสนาบดีเซี่ยยังกล่าวอีกว่าหากมีเรื่องใดที่ต้องการคำแนะนำจากหลินฉิงอัน เขาจะส่งม้าเร็วมาส่งข่าวให้ถึงหมู่บ้านต้าไห่หลินฉิงอันที่วันนี้แต่งตัวด้วยชุดขุนนางเต็มยศรับปากว่านางจะรอและยังส่งมอบเอกสารเรื่องการปรับปรุงน้ำเพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   การปรับปรุงดิน

    สายวันต่อมา หลินฉิงอันนำเอกสารทั้งหมดที่เขียนเอาไว้เมื่อคืนไปให้กับเสนาบดีเซี่ยตรวจสอบดู เนื้อหาภายในอธิบายถึงวิธีการปรับปรุงดินแบบต่าง ๆ ตามลักษณะดินที่เสนาบดีเซี่ยบอกหลินฉิงอันเอาไว้เมื่อวานนี้ โดยนางได้แบ่งเนื้อหาให้แยกออกเป็นส่วน ๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ดินเหนียวนั้นนางให้ข้อแนะนำในการปรับปรุงโดยให้เติมทราย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือเศษใบไม้เพื่อทำให้ดินมีการระบายน้ำได้ดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการปลูกพืชหมุนเวียนเช่นพืชตระกูลถั่วสลับกับพืชหลักเพื่อปรับปรุง ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าวิธีการแรกที่นางแนะนำดินทราย หลินฉิงอันแนะนำให้ปรับปรุงดินโดยการเติมดินเหนียว ปุ๋ยหรือเศษใบไม้เพื่อให้ดินมีความหนาแน่นมากขึ้นและอุ้มน้ำได้ รวมถึงการปลูกพืชคลุมดินเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของดินทรายได้อีกด้วยดินกรด ให้ปรับปรุงดินโดยการเติมปูนขาวหรือปุ๋ยเพื่อให้ดินมีธาตุอาหารสำหรับพืชผักได้ ซึ่งปูนขาวจะช่วยปรับค่าความเป็นกรดในดินให้ลดลงดินเค็ม ให้ปรับปรุงดินโดยการล้างดินให้สะอา

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ภาระบนบ่าน้อย ๆ

    ช่วงบ่าย หลินฉิงอันปล่อยให้เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่อยู่ในโรงงานผลิตตามที่พวกเขาต้องการ ส่วนนางแยกตัวออกมาและไปยังเรือนพักเพื่อคิดเรื่องที่จะทำอย่างไรให้การเกษตรในแคว้นพัฒนาไปมากกว่านี้หลินฉิงอันนำกระดาษและพู่กันมานั่งเขียนแผนผังการพัฒนาที่ดินในรูปแบบต่างๆ โดยคำนึงถึงลักษณะของดินเป็นหลัก นางอยากให้ชาวบ้านรู้จักใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่พวกเขายังมีความคิดล้าหลังและไม่คิดที่จะพัฒนาที่ดินรกร้างเพื่อทำการเกษตรเลยแม้แต่นิดเดียวช่วงสายของวันต่อมา หลินฉิงอันพาเสนาบดีเซี่ยและพวกขึ้นเขาไปดูว่าเตาเผาถ่านที่ปล่อยเอาไว้เป็นอย่างไรบ้าง ครั้งนี้ยังคงเป็นหัวหน้าองครักษ์เหลียงกับจ้าวหลงที่เดินทางตามไปด้วย เมื่อพวกเขาไปถึงเตาเผาถ่านก็เห็นว่าควันที่เคยมีมากมายตอนเริ่มเผานั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงไอร้อนที่ยังคงแผ่ออกมาตามช่องทางที่ทำเอาไว้สำหรับระบายควันเท่านั้น“ข้าคิดว่าเตาเผาน่าจะได้ที่แล้วเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวให้จ้าวหลงเป็นคนเปิดหน้าเตาเพื่อความปลอดภัยก็แล้วกันนะเจ้าคะ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   สอนการทำผลไม้แช่อิ่ม

    กว่าที่คนทั้งหมดจะลงจากเขา ก็เป็นเวลาก่อนอาหารเย็นเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว หลินฉิงอันขอตัวไปเข้าครัวตามที่นางตั้งใจ โดยมีจ้าวหลงสะพายตะกร้าปลาที่จับมาได้จนเต็มตามหลังไปติด ๆ ส่วนเสนาบดีเซี่ยกับคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะออกก่อนจะมานั่งสนทนากับเหิงอันโหวที่ลานหน้าบ้านรอทานอาหารเย็นที่หลินฉิงอันกับบ่าวกำลังทำกันอยู่“พวกเจ้าขึ้นเขาไปเป็นอย่างไรบ้างเล่า”“เรียนท่านโหว วันนี้พวกเราได้ทดลองทำเตาเผาถ่านด้วยตัวเองขอรับ นับว่าการมาครั้งนี้พวกเราได้รับความรู้เพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว”“นั่นก็ดีแล้ว แม่หนูฉิงอันของข้ามีความสามารถมากใช่ไหมเล่า พวกเข้าก็เรียนรู้จากนางให้มาก ๆ ต่อไปจะได้นำไปพัฒนาบ้านเมืองช่วยฝ่าบาท”“ขอรับ ท่านโหว” ทั้งห้าตอบรับเสียงดังจนเหิงอันโหวได้แต่ทำตาเขียวใส่“พวกเจ้าจะเสียงดังให้คนอื่นได้ยินหรืออย่างไร ฮึ่ย!”&ldqu

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   สอนการเผาถ่าน

    เย็นวันนั้นหลินฉิงอันร่วมโต๊ะกับเสนาบดีเซี่ยและขุนนางทั้งสี่พร้อมกับคนในครอบครัวเช่นเคย ส่วนทหารทั้งหมดที่กำลังสร้างที่พักอยู่ก็ได้รับการดูแลจากบ่าวในเรือนพักฝั่งตรงข้าม ตอนนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วจนสามารถสร้างเรือนพักไปได้ถึงห้าหลังแล้ว เหลือเรือนพักอีกหนึ่งหลังก็สามารถให้ทุกคนที่มาพักผ่อนกันได้โดยไม่แออัด เพราะเรือนพักหลังหนึ่งสามารถเข้าพักได้ถึงยี่สิบคน ห้องน้ำต่าง ๆ ก็ถูกสร้างขึ้นมาประจำเรือนพักทั้งห้าหลังด้วยเช่นกัน นางต้องขอบคุณการควบคุมการก่อสร้างของนายช่างหวังจึงทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งทหารที่มายังมีวรยุทธ์สูงส่ง การทำงานที่ชาวบ้านธรรมดาต้องใช้เวลานานจึงแตกต่างจากทหารเหล่านี้ที่สามารถลดเวลาการทำงานได้มากกว่าครึ่งหลังอาหารเย็นสองชั่วยาม เสนาบดีเซี่ยกับขุนนางทั้งสี่ที่ยังคุยกันอยู่ที่ห้องโถงรับแขกเรือนหลักก็ขอตัวลาไปพักผ่อนยังเรือนพักของที่ดินอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเครื่องนอนต่าง ๆ ทหารที่มาจำนวนหนึ่งนำเกวียนลาของบ้านหลินไปซื้อมาจากในเมืองไห่ตงก่อนเวลาอาหารเย็นแล้ว อีกทั้งทางร้านยังจัดส่งตามมาให้จนครบจำนวน

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   สวนผลไม้

    หลังจากทานอาหารเที่ยงกันเสร็จแล้ว เสนาบดีเซี่ยที่อยากพักที่หมู่บ้านแห่งนี้มากกว่าจะกลับไปพักในเมืองไห่ตง เขาจึงลองสอบถามหลินฉิงอันที่เป็นผู้ตัดสินใจแทนครอบครัวหลินจากที่เขาสังเกตมาตลอดก่อนหน้านี้“หากพวกข้าอยากพักที่นี่ เจ้าจะรังเกียจหรือไม่คุณหนูหลิน”“ท่านเสนาบดีแน่ใจหรือเจ้าคะ บ้านข้าคับแคบ อาจไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากที่มาในครั้งนี้ได้น่ะเจ้าค่ะ”“เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะให้ทหารไปตัดไม้บนเขามาสร้างที่พักชั่วคราวเพิ่มเติม เพียงแต่ว่าเจ้าพอจะมีที่ว่างให้พวกเขาสร้างที่พักหรือไม่”“ที่ว่างมีอยู่เจ้าค่ะ หากท่านต้องการเช่นนี้จริง ๆ ก็สามารถสร้างที่พักชั่วคราวในที่ดินฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นโรงงานผลิตผลไม้แช่อิ่มได้เจ้าค่ะ ที่นั่นยังมีพี่ว่าอยู่อีกมาก”“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ เรื่องอาหารการกิน เดี๋ยวข้าจะให้ทหารไปซื้อวัตถุดิบมาให้พวกเจ้าเอง อย่างไรฝ่าบาทก็มอบเงินจำนวนหนึ่ง

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ครอบครัวนี้น่าสนใจ

    ขบวนของเสนาบดีเซี่ยหยุดลงที่หน้าบ้านตระกูลหลิน เขาลงมาพร้อมกับราชโองการในมือ ส่วนขุนนางอีกสี่คนก็ถือถาดสิ่งของต่าง ๆ สำหรับรับตำแหน่งที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้หลินฉิงอันเป็นพิเศษเจ้าเมืองเติ้งเห็นดังนั้นก็รีบประกาศเสียงดังให้ทุกคนคุกเข่าเตรียมรับราชโองการที่เสนาบดีเซี่ยกำลังจะประกาศเสนาบดีเซี่ยเดินมายังด้านหน้าขบวนที่ตอนนี้คนในตระกูลหลินกำลังคุกเข่าอยู่พร้อมกับขุนนางทั้งสี่ที่เดินตามหลังมาพร้อมรอยยิ้มบาง“หลินฉิงอัน รับราชโองการ ด้วยพรจากสวรรค์ทำให้แคว้นหมิงได้รับผู้มีความสามารถในการทำผลไม้แช่อิ่มดั่งเจ้า เพื่อให้เจ้าสามารถทำงานช่วยเหลือแคว้นและราษฎรได้อย่างราบรื่น ข้าหมิงอู่ ฮ่องเต้ในรัชกาลปัจจุบัน ขอแต่งตั้งให้หลินฉิงอันเป็นที่ปรึกษาพิเศษกรมเกษตร รั้งตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ มีหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำผลไม้แช่อิ่มและความรู้อื่น ๆ เพื่อพัฒนาแคว้นสืบไป จบราชโองการ”หลินฉิงอันไม่คิดว่าตนเองจู่ ๆ จะได้รับเกียรติเช่นนี้ นางรีบขานรับราชโองการแ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   คนจากเมืองหลวง

    ขบวนเดินทางของเสนาบดีเซี่ยเดินทางถึงเมืองไห่ตงในหนึ่งเดือนต่อมา เจ้าเมืองเติ้งที่ทราบข่าวจากม้าเร็วของขบวนรีบออกมารอต้อนรับยังหน้าประตูเมือง ชาวบ้านทั่วไปไม่เคยเห็นขบวนขุนนางใหญ่มาก่อน พวกเขาต่างมามุงดูกันว่าเป็นคนใหญ่คนโตมาจากที่ใด ยิ่งเห็นเจ้าเมืองเติ้งพินอบพิเทาตั้งแต่คนบนรถม้ายังไม่ลงมาเสียด้วยซ้ำ ชาวบ้านก็ยิ่งให้ความสนใจเสนาบดีเซี่ยไม่ได้ลงจากรถม้าจนกระทั่งเข้าไปถึงจวนเจ้าเมืองที่เตรียมห้องพักสำหรับขบวนคนที่มาจำนวนมากในครั้งนี้“เชิญท่านเสนาบดีและขุนนางทั้งหลายเข้าพักที่จวนซอมซ่อของข้าน้อยก่อนขอรับ”“เจ้านำทางไปเถอะ ตอนนี้เวลาไม่เช้าแล้ว พรุ่งนี้เจ้านำทางพวกข้าไปยังหมู่บ้านต้าไห่ด้วยก็แล้วกัน พวกข้ายังมีงานต้องทำอีกมาก”“ขอรับ ๆ เชิญทางนี้เลยขอรับ”องครักษ์ทั้ง 100 คนที่เดินทางมากับขบวนเสนาบดีต่างแยกกันไปพักยังอีกจวนหนึ่งที่ว่างอยู่ในเมือง โดยมีพ่อบ้านในจวนเจ้าเมืองเป็นผู้ต้อนรับ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ฮ่องเต้เผยความจริง

    ฮองเฮาที่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น พระนางรู้ดีว่าพระสนมกุ้ยเฟยมีอิทธิพลมากแค่ไหน ยิ่งฝ่าบาทไม่โอนอ่อนผ่อนตาม พระนางก็หวาดเกรงว่าพระสนมกุ้ยเฟยจะสร้างเรื่องจนทำให้วังหลังปั่นป่วนฮ่องเต้เห็นฮองเฮาสีหน้าผิดปกติไป พระองค์จึงโอบฮองเฮาเข้ามากอดเอาไว้อย่างต้องการปกป้อง พร้อมกับกระซิบบอกพระนางให้อย่าคิดมาก“เสด็จพี่จะไม่ให้น้องคิดมาได้อย่างไรเพคะ หากกุ้ยเฟยก่อเรื่องหนักกว่านี้จนวังหลังระส่ำระสาย น้องจะทำเช่นไร? เสด็จพี่ก็ทรงทราบว่านางเป็นเช่นไร”“หากนางสร้างเรื่องทำให้เจ้าหนักใจ เจ้าก็เพียงแค่ลงโทษนางตามกฎของวังหลังเสีย เรื่องอื่นหลังจากนั้นเจ้าอย่าได้กังวล พี่จะให้คนของพี่มาคอยปกป้องพวกเจ้าอย่างลับ ๆ”“เสด็จพี่ก็ทราบว่าพ่อของนางมีหรือจะยอมจบเรื่องง่าย ๆ หากข้าลงโทษนาง”“เฮ้อ น้องหญิง เจ้าเชื่อใจพี่ได้หรือไม่ ถึงแม้เสนาบดีควนจะมีอิทธิพลมากก็ตาม แต่เจ้าก็อย่าลืมว่าสามีของเจ้าเป็นถ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status