Share

ย่าที่น่ารังเกียจ

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-25 12:51:47

หลังจากน้องชายคนโตออกจากห้องไป จูฉิงอันได้ยินเสียงคุยของแม่และน้องชายคนรองกำลังกังวลเรื่องอาการป่วยของนาง

“ท่านแม่ เราจะทำยังไงกันดีเล่าขอรับ ฮึก.. ท่านพ่อยังไม่กลับจากล่าสัตว์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราจะหาเงินที่ไหนช่วยพี่ใหญ่ขอรับ ฮือ..”

“โธ่ ลูกรัก อาหยางอย่าร้องไห้ลูก เดี๋ยวแม่จะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นคอยเช็ดตัวให้พี่สาวเจ้าก่อน เมื่อครู่อาเฉิงบอกแล้วว่าพี่สาวเจ้ารู้สึกตัวแล้ว หากนางได้กินข้าวต้มร้อน ๆ กับเช็ดตัวลดไข้สักหน่อยอาการน่าจะดีขึ้น เจ้าไปช่วยอาเฉิงป้อนข้าวพี่ใหญ่ก่อนเถอะ แม่จะไปเตรียมน้ำร้อน”

“ฮึก.. ขอรับท่านแม่”

จูฉิงหยางปาดน้ำตาที่ไหลรินออกก่อนจะเดินไปหาพี่ชายในห้องครัว หลินอ้ายมองตามหลังลูกชายคนรองทั้งน้ำตา ใช่ว่านางจะไม่ห่วงลูกสาว เพียงแต่นางไม่สามารถทำสิ่งใดรุนแรงกับแม่สามีได้ เพราะสามีของนางเป็นคนกตัญญูมากเกินไปจนเขาไม่กล้าว่ากล่าวครอบครัวตัวเอง ทั้งที่นางกับลูกถูกรังแกมาตลอด เขากลับทำเพียงปลอบโยนพวกนางและทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น โดยที่พวกนางไม่เคยได้แตะต้องเงินที่สามีหามาเลยแม้แต่น้อย อาหารการกินก็เป็นพวกนางช่วยกันหาของป่าบนเขาไปแลกกับชาวบ้านมาตลอด เขายังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นจนลูกสาวนางต้องป่วยหนักถึงขนาดนี้ ครั้งนี้หากสามีกลับมา หลินอ้ายคิดที่จะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าต่อไปจะทำอย่างไรในเมื่อลูก ๆ นางก็เติบโตขึ้นทุกวัน อาหารการกินตอนนี้แทบไม่พอให้ทั้งห้าคนประทังชีวิต

หลินอ้ายทอดถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปหาฟืนที่เก็บเอาไว้ด้านหลังบ้านดินผสมฟางหลังเก่าซึ่งสามีนางลงมือสร้างด้วยตัวเอง นางไม่คิดมาก่อนว่าหลังแต่งงานจะต้องมาอยู่ในที่ซอมซ่อเช่นนี้ ทั้งที่แม่สามี พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของนางต่างได้นอนในบ้านไม้หลังใหญ่ เงินทั้งหมดก็มาจากน้ำพักน้ำแรงสามีของนาง เรื่องนี้มีชาวบ้านเล่าให้นางฟังเองว่าสามีนางทำงานตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยมีเงินเก็บมาก่อนนอกจากตอนที่ต้องการขอนางแต่งงาน เขาแอบเก็บเงินส่วนตัวเอาไว้จนแม่เฒ่าจูโกรธมาก จนใจที่จูฉางหยูถึงวัยออกเรือน แม่เฒ่าจูจึงไม่อาจยึดเงินก้อนนั้นกลับมาได้ตามที่นางต้องการ ขนาดคนที่ไปสู่ขอนางยังเป็นผู้ใหญ่บ้านแทนที่จะเป็นแม่สามี หากตอนนั้นครอบครัวนางไม่ลำบากล่ะก็ นางคงไม่ตกลงแต่งงานกับเขาแน่

ระหว่างที่หลินอ้ายกำลังเก็บฟืนไปเติมไฟในห้องครัว จูฉางหยูก็กลับจากไปล่าสัตว์เมื่อคืนนี้พอดี เขารีบเข้าไปช่วยภรรยาเพราะรู้ว่านางร่างกายอ่อนแอหลังจากคลอดลูกชายฝาแฝดให้เขาเมื่อหลายปีก่อน

“ภรรยา เจ้าไม่ต้องยกของพวกนี้ ให้พี่จัดการเอง เจ้าไปรอที่ห้องครัวเถิด”

“ฮึก.. ท่านพี่ วันนี้ข้าไปขอเงินท่านแม่เพื่อจะพาฉิงอันไปหาหมอ แต่นางกลับไม่ให้แถมยังทุบตีข้ากับลูก ๆ จนสะบักสะบอมไปหมด ข้าขอถามท่าน ท่านยังรักข้ากับลูก ๆ อยู่หรือไม่เจ้าคะ ฮือ…”

จูฉางหยูพอได้ยินเสียงร้องไห้พร้อมกับประโยคตัดพ้อของภรรยาเข้าก็ได้แต่รีบวางฟืนลงแล้วเข้าไปกอดภรรยา เขาคิดไม่ถึงว่าท่านแม่จะใจร้ายกับครอบครัวเขามากถึงขนาดนี้ หลังจากกอดปลอบหลินอ้ายไม่นาน จูฉางหยูจึงตอบกลับภรรยาไปตามความรู้สึกของเขา

“เหตุใดข้าจะไม่รักพวกเจ้าเล่า เจ้าอย่าร้องไห้อีกเลยนะภรรยา วันนี้ข้าจะไม่มอบเงินให้ท่านแม่ ตกลงหรือไม่? ข้าจะให้เจ้าเก็บเงินพาลูกไปหาหมอนะ”

“ท่านพี่พูดจริงหรือเจ้าคะ?”

“จริงสิ ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกันเล่า เอาล่ะ ๆ เจ้าเลิกร้องไห้ได้แล้ว”

หลินอ้ายปาดน้ำตาออกก่อนจะพยักหน้ารับคำสามี จูฉางหยูเห็นนางหยุดร้องไห้แล้วจึงรีบเก็บท่อนฟืนขึ้นมาใหม่และเดินนำนางเข้าไปยังห้องครัว หลังวางท่อนฟืนใส่ในเตาให้นางแล้ว จูฉางหยูส่งเงิน 100 อีแปะจากการขายสัตว์ป่าให้กับนางเก็บเอาไว้

หลินอ้ายรับเงินมาเก็บเอาไว้ในอกเสื้ออย่างดี พรุ่งนี้นางจะหายืมรถเข็นพาลูกสาวไปบ้านท่านหมอในหมู่บ้าน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มีกะจิตกะใจขึ้นเขาไปหาของป่ามาแลกอาหารกับชาวบ้านแน่ จูฉางหยูเห็นภรรยาเก็บเงินเอาไว้อย่างดีก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่คิดเลยว่าเงินทั้งหมดที่หามาได้ ท่านแม่จะไม่ยอมให้ครอบครัวเขาแม้แต่อีแปะเดียว ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จากชาวบ้านว่าภรรยากับลูก ๆ ต้องขึ้นเขาไปหาของป่ามาแลกอาหาร เพียงแต่เขาไม่รู้จะพูดกับท่านแม่อย่างไรเพื่อขอเงินคืน ตั้งแต่จำความได้ เขาก็ทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว พี่ใหญ่ของเขาไม่เคยให้เงินท่านแม่แม้แต่อีแปะเดียว ทั้งที่พี่ใหญ่ทำงานเป็นเสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมใหญ่ในอำเภอแท้ ๆ ส่วนน้องสาวของเขาก็ชอบกลับมาขโมยเสบียงอาหารของท่านแม่มาตลอดหลายปี แต่ท่านแม่กลับตบตีภรรยาเขาและหาว่าเป็นขโมยแทนเสียนี่ กว่าที่เขาจะรู้เรื่องก็มักจะเป็นหลังกลับจากการล่าสัตว์ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านแม่จึงได้ทำเช่นนี้ ทั้งที่เขาเองก็เป็นลูกชายนางเช่นเดียวกับพี่ใหญ่และน้องสาว ตอนนี้เขาชักจะสงสัยแล้วว่าตนเองเป็นลูกของนางจริงหรือไม่ เพราะหน้าตาและผิวพรรณของเขาต่างจากทั้งคู่ราวฟ้ากับเหว

ขณะที่จูฉางหยูกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงไอในห้องทำให้เขาต้องรีบตั้งสติก่อนจะเดินเร็ว ๆ เข้าไปดูลูกสาวที่กำลังป่วยหนัก

“พี่ใหญ่!!! ท่านเป็นอะไรมากหรือไม่ขอรับ อย่าทำให้ข้าตกใจสิขอรับ”

“แค่ก ๆ ข้า.. ไม่เป็นอะไร แฮ่ก..” จูฉิงอันพูดอย่างเหนื่อยหอบ

นางเพียงแค่กินข้าวต้มซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมากกว่าเม็ดข้าวได้ไม่กี่คำ อาการไอจากพิษไข้ก็กำเริบขึ้นมาเสียแล้ว

“ฉิงอัน! เป็นยังไงบ้างลูก มาให้พ่อดูเจ้าก่อน”

จูฉิงเฉิงกับจูฉิงหยางรีบหลบทางให้ท่านพ่อเข้าไปดูพี่สาวพวกเขาบนเตียง จูฉางหยูวางมือบนหน้าผากของนางก็พบว่าลูกสาวของเขาตัวร้อนมากจนมือแทบไหม้ หากเขามาช้ากว่านี้ล่ะก็ ลูกสาวของเขาคงตายแน่แล้ว

“พวกเจ้าไปตามท่านแม่ก่อน พ่อจะอุ้มพี่สาวเจ้าไปบ้านท่านหมอ”

พูดจบจูฉางหยูก็ไม่รอคำตอบจากลูกชาย เขากลัวว่าถ้าช้าไปกว่านี้อาจเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวของเขาขึ้นจริง ๆ จูฉางหยูอุ้มจูฉิงอันที่ตัวเบาราวกับนุ่นวิ่งออกจากกระท่อมซอมซ่อไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเขาเอาแต่เรียกไม่ให้จูฉิงอันหลับไปอีกครั้งก่อนถึงมือหมอ เพราะเขากลัวว่าหากลูกสาวหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาพบเขากับทุกคนอีก

ก่อนจูฉางหยูจะพาจูฉิงอันไปถึงบ้านหมอชรา แม่เฒ่าจูที่นั่งนินทาชาวบ้านกับบรรดาแม่เฒ่าบ้านอื่นเห็นเขาเข้าพอดี นางรีบหยิบไม้เท้าแล้วเดินไปขวางทางเขาพร้อมกับด่าทอเสียงดัง

“เจ้าลูกบ้า!!! นี่เจ้าจะพานังตัวขาดทุนไปไหนอีก เหตุใดกลับมาจากล่าสัตว์แล้วไม่นำเงินมาให้ข้า เอาเงินที่เจ้าขายสัตว์ป่าออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

“ท่านแม่ ข้าจะพาลูกไปหาหมอ เงินล่าสัตว์ข้าไม่มีหรอกขอรับ ท่านแม่โปรดอย่าขวางทาง!”

คราวนี้จูฉางหยูไม่ยอมแม่ของเขาอีกแล้ว ในเมื่ออาการของจูฉิงอันจำเป็นต้องพบหมอเป็นการด่วน

“บังอาจนัก! ข้าเป็นแม่ของเจ้านะ เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ? ข้าจะตีเจ้ากับนังตัวขาดทุนนี่ให้ตาย นี่แน่ะ ๆ”

เพี๊ยะ! ปั่ก!

จูฉางหยูได้แต่เอาร่างที่สูงใหญ่บังลูกสาวเอาไว้ ก่อนที่หลินอ้ายกับลูกชายของเขาจะมาถึงพอดี เขาจึงบอกภรรยาให้วิ่งไปบอกท่านหมอไว้ก่อน เขาจะพาลูกตามไปทีหลัง

“เพ้ย! พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นหัวหลักหัวตอหรืออย่างไร ข้าบอกว่าไม่ให้พามันไปหาหมอ เจ้าหูหนวกหรือ?”

“ท่านแม่!!! ท่านทำเกินไปแล้วนะขอรับ ลูกสาวข้าป่วยหนักขนาดนี้ เงินทั้งหมดที่ข้าทำงานมาเหตุใดท่านไม่เอาให้ภรรยาข้าพาลูกไปหาหมอเล่า ถ้าข้ามาไม่ทันแล้วลูกสาวข้าเป็นอะไรไปจะทำเช่นไร”

“บ๊ะ! นี่เจ้ากล้าขึ้นเสียงใส่ข้าหรือ? ลูกเจ้าป่วยตายแล้วอย่างไร? นางเป็นแค่ตัวขาดทุนของบ้าน จะดูแลอะไรดีนักหนา”

“เหตุใดท่านแม่จึงได้ใจร้ายยิ่งนัก? ตอนนี้ข้าไม่มีเวลามาเถียงกับท่าน ถ้าท่านยังไม่ถอยไป ข้าคงต้องล่วงเกินท่านแล้วขอรับ”

จูฉางหยูรีบหลบไม้เท้าแม่เฒ่าจู ก่อนจะวิ่งผ่านนางไปยังบ้านท่านหมอโดยไม่เหลียวหลังกลับ มีเพียงเสียงก่นด่าของแม่เฒ่าจูที่ลอยอยู่ด้านหลังเขาเท่านั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   อาเล็กกลับบ้าน

    แม่เฒ่าจูได้แต่กระฟัดกระเฟียดที่จูฉางหยูขัดคำสั่งนาง ครั้นจะให้นางวิ่งไปที่บ้านท่านหมอก็ดูจะไม่เหมาะสมนัก นางกลัวว่าหากผู้ใหญ่บ้านรู้เข้าจะมาลงโทษนางอีก ก่อนหน้านี้เขาปล่อยผ่านเพราะเรื่องราวยังไม่ร้ายแรง แต่ตอนนี้นางไม่แน่ใจว่าเขาจะปล่อยผ่านอีกหรือไม่จึงไม่กล้าเสี่ยง ด้วยความโมโห แม่เฒ่าจูไม่อยู่นินทาชาวบ้านต่อ นางใช้ไม้เท้าพาตัวเองกลับไปบ้านตระกูลจูเพื่อรอจัดการเจ้าพวกบ้านรองที่บังอาจขัดคำสั่งนางหลินอ้ายกับลูกชายไปถึงบ้านท่านหมอก็ร้องเรียกท่านเสียงดังด้วยกลัวว่าท่านหมอชราจะไม่ได้ยินพวกนาง ไม่นานนักหมอกวงก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วให้พวกเขา ก่อนจะถามนางว่าเหตุใดจึงดูเร่งร้อนเพียงนี้“ฮึก.. ท่านหมอช่วยลูกสาวข้าด้วยเจ้าค่ะ นางป่วยมาหลายวันแล้วจนอาการทรุดลง สามีข้ากำลังพานางมาที่นี่เจ้าค่ะ”“อ้าว ถึงว่าสิ ข้าไม่เห็นนังหนูฉิงอันนำสมุนไพรมาฝากข้านานแล้ว พวกเจ้าเข้ามาก่อน ข้าจะไปดูว่ามียาอะไรเหลืออยู่บ้าง”หมอกวงพูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้านไป หลินอ้ายกับลูกชายได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จูฉางหยูจะพาจูฉิงอันมาถึง หลังจากกังวลอยู่ไม่นาน นางก็เห็นสามีวิ่งมาเกือบถึงบ้านท่านหมอแล้ว“ท่านพี่ รีบพาลูกเข้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ลุงใหญ่กับอาเล็ก

    “ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก!! ข้าบอกว่าไม่ให้พานังตัวขาดทุนไปหาหมอยังกล้าขัด ถ้าวันนี้ข้าไม่เอาเลือดหัวพวกเจ้าออก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่เฒ่าจูเลย”“ท่านแม่ตีพวกมันให้ตายเลย ข้าคิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเสบียงในบ้านหายไปบ่อย ๆ นี่พวกมันคงแอบขโมยทุกวันกระมังเจ้าค่ะ”แม่เฒ่าจูไม่สนใจว่าจูฉางหยูจะกำลังอุ้มจูฉิงอันอยู่ นางพุ่งเข้าไปพร้อมไม้ท่อนยาวที่ไม่รู้ว่าไปนำมาจากไหนหวดเข้าใส่กลุ่มจูฉางหยูอย่างไม่ออมแรงจูฉางหยูเห็นแม่ตนเองพุ่งเข้ามาเช่นนี้ก็รีบหันหลังบังร่างของทุกคนในบ้านเอาไว้จนถูกไม้หวดเข้าเต็มแรงจนเขาเกือบเสียหลักล้มลงไปกองที่พื้น“ฮือ… ท่านแม่ ท่านอย่าตีท่านพี่”“ฮือ… ท่านย่า อย่าตีท่านพ่อขอรับ” สองแฝดรีบเข้าไปเกาะขาแม่เฒ่าจู“หลีกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าโหดร้าย”พลั่ก! ตุ้บ! โอ๊ย!!!จูฉางหยูได้ยินเสียงร้องของลูกชายก็รีบหันกลับไปมอง เขาเห็นแม่เฒ่าจูเงื้อไม้ตีเด็กทั้งสองอย่างรุนแรง ภรรยาของเขาพยายามเอาตัวบังลูกไว้ก็พลอยถูกทำร้ายไปด้วย จูฉางหยูทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาวิ่งเข้าชนแม่เฒ่าจูจนนางล้มลงตุ้บ! กรี๊ด!!!“ไอ้ลูกอกตัญญู! เจ้ากล้าทำร้ายข้าหรือ? อาฮวา ไปเอามีดในครัวมา วันนี้ข้าจะสับพวกมั

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ท่านพ่อบาดเจ็บ

    เช้าตรู่ในฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศหนาวเย็น ป่าเขาล้อมรอบหมู่บ้านด้วยหมอกขาวที่ลอยอ้อยอิ่ง จูฉางหยูสะพายธนูและกระบอกน้ำไว้บนหลัง เดินลึกเข้าไปในป่าด้วยความมุ่งมั่น เขาต้องการล่าสัตว์เพื่อหาอาหารมาจุนเจือครอบครัวในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงเสียงใบไม้กรอบแกรบใต้ฝ่าเท้าของเขาและเสียงนกที่ร้องอยู่ในไพรพงทำให้ป่าดูเหมือนมีชีวิต แต่จูฉางหยูไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เขาจดจ่อกับรอยเท้ากวางที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน มันเป็นรอยเท้าสดใหม่ที่นำเขาลึกเข้าไปในป่าที่ไม่คุ้นเคยเมื่อเขาพบร่างกวางตัวใหญ่ยืนอยู่ไม่ไกล ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ จูฉางหยูหยุดเดิน หัวใจของเขาเต้นแรงขณะที่เขาประเมินระยะและความแม่นยำของลูกธนู เขาค่อยๆ ยกธนูขึ้นเล็ง แต่ในขณะนั้นเอง เสียงแตกของกิ่งไม้บางเบาใต้เท้าของเขาทำให้กวางสะดุ้งและวิ่งหนีไปจูฉางหยูรีบวิ่งตาม แต่ด้วยความเร่งรีบ เขากลับไม่ทันระวัง พื้นดินใต้เท้าของเขาเป็นทางลาดชันที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง เขาพลัดตกลงไปในเหวเล็กๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้ร่างของเขากระแทกกับก้อนหินและกิ่งไม้ระหว่างทาง จนกระทั่งเขาหยุดลงที่พื้นดินด้านล่าง เขารู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แขนและขา รอยแผลเปิดและรอยฟกช

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ทรมานครอบครัวรอง

    ที่บ้านหมอซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล หมอประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นชายชราที่มากประสบการณ์ตรวจดูบาดแผลของจูฉางหยูอย่างละเอียด เขาพบว่ามีแผลลึกที่แขนและรอยฟกช้ำหลายแห่ง“เจ้านี่รอดมาได้อย่างมหัศจรรย์” หมอเอ่ยพร้อมถอนหายใจ เขาเริ่มทำแผล ใช้สมุนไพรจากป่ารักษาบาดแผล และพันผ้าสะอาดให้หลินอ้ายที่ตามมาด้วยน้ำตานองหน้าเอ่ยขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคน “ขอบคุณพวกท่านมาก หากไม่มีพวกท่าน ข้าคงไม่รู้จะทำอย่างไร”ผู้ใหญ่บ้านตบเบาๆ บนไหล่ของหลินอ้าย“ไม่ต้องห่วง ทุกคนในหมู่บ้านคือพี่น้องกัน พวกเจ้าต้องพักฟื้นและฟื้นตัวให้แข็งแรง”ชาวบ้านช่วยกันให้กำลังใจครอบครัวของจูฉางหยู หลายคนเสนอจะช่วยแบ่งอาหารหรือช่วยดูแลพวกเขาในช่วงที่ยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์หลินอ้ายและลูกๆ มองหน้ากันด้วยความซาบซึ้ง แม้จะยังต้องเผชิญอุปสรรคอีกมาก แต่หัวใจของพวกเขาเริ่มเต็มไปด้วยความหวังค่ำคืนมาเยือนพร้อมลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านบ้านเก่าซึ่งทรุดโทรมมากแล้ว ครอบครัวรองกลับมาถึงบ้านพร้อมร่างกายที่เหนื่อยล้าและหัวใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์ หลินอ้ายช่วยประคองจูฉางหยูที่ยังบาดเจ็บหนักเข้าไปนอนพักบนเตียง ขณะที่จูฉิงเฉิงและจูฉิงหยางพยายามจัดที่ทางให

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ขึ้นเขาครั้งแรก

    หลังจากลำบากขึ้นเขาหลายวัน หลินอ้าย จูฉิงเฉิง และจูฉิงหยางกลับมาที่บ้านพร้อมกับของป่าที่รวบรวมได้ ตะกร้าหนักที่บรรจุเห็ด สมุนไพร และผลไม้ป่าเต็มจนแทบล้น พวกเขาพากันตรงไปที่ตลาดในหมู่บ้านเพื่อขายของแม้จะเหน็ดเหนื่อยจนแทบขยับตัวไม่ไหว แต่หลินอ้ายยังพยายามยิ้มให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ด้วยความหวังว่าจะได้เงินมากพอสำหรับซื้อข้าวสารและยาสมุนไพรให้จูฉางหยูและจูฉิงอันหลังจากทั้งวันอันยาวนาน หลินอ้ายได้เงินมาเพียงไม่กี่อีแปะเล็กๆ น้อยๆ แต่นางก็ยังรู้สึกยินดีที่มีเงินพอจะซื้ออาหารและของจำเป็นบางอย่างเมื่อหลินอ้ายและลูกๆ กลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็พบว่าแม่เฒ่าจูและจูฉางไห่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู“นั่นอะไร?” แม่เฒ่าจูถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางชี้ไปที่ถุงเงินเล็กๆ ในมือของหลินอ้าย“ข้า...ข้าได้เงินจากการขายของป่า” หลินอ้ายตอบด้วยความระมัดระวัง แต่แววตาของแม่เฒ่าจูกลับเต็มไปด้วยความโลภ“เงินนี่เป็นของข้า!” แม่เฒ่าจูยื่นมือออกมาทันที จูฉางไห่ก้าวเข้ามาประกบ“ของท่าน? ข้าเป็นคนขึ้นเขา! ข้าเป็นคนเก็บมา! ท่านแม่อย่าทำแบบนี้เลย” หลินอ้ายพยายามอ้อนวอน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“บ้านนี้ ข้าเป็นคนดูแล

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ป่าที่อุดมสมบูรณ์

    แสงจันทร์ที่เลือนลางเป็นเพียงแสงเดียวที่นำทาง นางเดินเท้าตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผ่านป่าและทุ่งนา บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนได้ยินเสียงแมลงร้องความทรงจำจากร่างเดิมช่วยให้นางมั่นใจในเส้นทาง แม้จะมีบางจุดที่รกชัฏและดูน่ากลัว แต่นางกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่น“ข้าต้องถึงอำเภอให้ทันตลาดเช้า” นางคิดในใจ พลางเร่งฝีเท้าด้วยพลังใจที่แน่วแน่เมื่อฟ้าเริ่มสาง แสงแรกของวันค่อยๆ ส่องให้เห็นอำเภอไห่ตงที่อยู่เบื้องหน้า จูฉิงอันเดินเข้าสู่ตลาดเช้าที่เริ่มคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดเตรียมสินค้าของตนและเรียกลูกค้าเสียงดังจูฉิงอันเลือกจุดเงียบสงบในมุมหนึ่งของตลาด นางจัดของป่าที่นำมาวางขายอย่างเป็นระเบียบ ด้วยหน้าตาที่อ่อนโยนและการจัดวางอย่างคล่องแคล่ว นางดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา“เห็ดนี้สดมาก! สมุนไพรพวกนี้ก็หายากในแถบนี้” เสียงพ่อค้าคนหนึ่งทักขณะหยิบสมุนไพรขึ้นมาดูลูกค้าหลายคนแวะมาซื้อของจากนาง ด้วยความรู้ในภพก่อนเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรและเห็ด นางสามารถอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้สินค้าของนางขายหมดอย่างรวดเร็วเมื่อได้เงินมาเพียงพอ นางรีบไปซื้อของจำเป็นสำหรับครอบครัว ทั้งเนื้อ ผักสด ข้าวสาร

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

    หลายวันต่อมา จูฉิงอันตื่นแต่เช้ามืดก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง นางเตรียมตะกร้า เชือก และมีดเล็กๆ อย่างเงียบเชียบที่สุด ร่างบางก้าวออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่ระมัดระวัง นางไม่อยากให้แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ที่อยู่เรือนใหญ่รับรู้ถึงสิ่งที่นางทำ“ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าหาเงินได้...ทุกอย่างที่ข้าเหนื่อยยากคงต้องตกเป็นของพวกเขา” นางคิดในใจ ขณะเดินลัดเลาะเส้นทางเล็กๆ ที่นำไปสู่ป่าลึกในป่าที่เงียบสงบ จูฉิงอันยังคงใช้ความรู้ในภพก่อนอย่างชำนาญ เก็บสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ครั้งนี้นางไม่เก็บมามากจนเกินไป“หากข้าเก็บของกลับไปมากเกิน อาจเป็นที่สงสัยได้” นางพึมพำกับตัวเอง นางเลือกเก็บเฉพาะของที่สามารถนำไปขายได้ราคาและมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตบางครั้ง นางแวะริมลำธารเพื่อดื่มน้ำจากแหล่งน้ำใสสะอาด และใช้เวลาสั้นๆ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นไม้และพื้นที่ใกล้เคียงหลังจากเก็บของป่าจนพอใจ นางมุ่งหน้าไปอำเภอไห่ตงด้วยเส้นทางที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน นางเลือกเดินตามทางที่ร่างเดิมของนางเคยจำได้ เพื่อลดโอกาสพบเจอผู้คนเมื่อถึงตลาดในอำเภอ นางขายของป่าเหล่านั้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เคยพบกันก่อนหน้า ด้วยท่า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-25
  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   กล่อมพ่อแยกบ้าน

    เมื่อผ่านไปหลายสัปดาห์ จูฉางหยูเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เขาสามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยความช่วยเหลือเล็กน้อยจากหลินอ้าย และเริ่มฝึกเดินช้าๆ ภายในบ้าน“ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง” เขาพูดขึ้นในวันหนึ่ง ขณะลองเดินเองเป็นครั้งแรก“นี่เป็นเพราะลูกสาวของท่าน ท่านต้องขอบคุณฉิงอันให้มาก” หลินอ้ายกล่าวพลางมองดูสามีที่ค่อยๆ ฟื้นคืนความแข็งแรงจูฉางหยูหันไปมองจูฉิงอันที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก นางเพียงยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“นี่เป็นสิ่งที่ลูกควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อพักผ่อนมากๆ ก่อนเถิด ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าในอนาคต”อาการของจูฉางหยูที่ดีขึ้นทำให้ทุกคนในบ้านรองมีกำลังใจมากขึ้น แม้พวกเขายังคงต้องระมัดระวังและอดทนกับการกดขี่จากแม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ แต่ก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายทางจูฉิงอันรู้ดีว่า การฟื้นตัวของบิดาคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของพวกเขา“ท่านพ่

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-26

Bab terbaru

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   พบต้นพันธุ์ผลไม้

    “ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ คุณชายน้อยทั้งสองตั้งใจเรียนมาก และบ่าวคนอื่นๆ ก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี” เฉินหลงรายงานหลินฉางหยูพยักหน้าด้วยความพอใจที่ได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเฉินหลงจึงขอตัวออกไปซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมสำหรับทำอาหาร เนื่องจากตอนนี้มีคนอยู่ในจวนมากขึ้น เขาต้องการซื้ออาหารให้เพียงพอสำหรับทุกคนหลินอ้ายที่ได้ฟังรายงานของเฉินหลงก็รู้สึกสบายใจที่ลูกชายทั้งสองสบายดี แต่นางก็ยังคงมีความห่วงใยอยู่ในใจ นางจึงมอบเงินเพิ่มเติมให้เฉินหลงอีกห้าตำลึง“เฉินหลง นี่เป็นเงินอีกห้าตำลึง ข้าอยากให้เจ้าเอาไว้ซื้อวัตถุดิบดีๆ ทำอาหารให้ฉิงเฉิงกับฉิงหยาง พวกเขากำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต ต้องได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์” หลินอ้ายกล่าวพร้อมยื่นถุงเงินให้เฉินหลงเฉินหลงรับถุงเงินมาด้วยความเคารพและกล่าวขอบคุณ“ขอบคุณนายหญิงมากขอรับ ข้าจะดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี” เฉินหลงกล่าว

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   บ้านดูเงียบเหงา

    ก่อนที่หลินฉางหยูจะพาหลินอ้ายและหลินฉิงอันเดินทางกลับหมู่บ้านต้าไห่ หลินอ้ายได้พูดคุยกับหลินฉิงเฉิงและหลินฉิงหยางอีกครั้ง นางกำชับให้ลูกชายทั้งสองดูแลตัวเองให้ดี เชื่อฟังบ่าวที่จวน และตั้งใจเรียนหนังสือ“ฉิงเฉิง ฉิงหยาง เจ้าทั้งสองดูแลตัวเองด้วยนะ เชื่อฟังเฉินหลงและบ่าวคนอื่นๆ ตั้งใจเรียนหนังสือ และอย่าดื้อรั้น” หลินอ้ายกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเด็กชายทั้งสองรับปากผู้เป็นแม่ พวกเขารู้ว่าแม่เป็นห่วงพวกเขามาก และพวกเขาจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง“ขอรับ ท่านแม่ พวกเราจะดูแลตัวเองให้ดี” เด็กชายทั้งสองตอบพร้อมกันหลังจากนั้น หลินฉางหยูจึงพาหลินอ้ายและหลินฉิงอันขึ้นเกวียนลาเพื่อเดินทางกลับหมู่บ้านต้าไห่ ทิ้งให้หลินฉิงเฉิงและหลินฉิงหยางเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอำเภอหลังจากที่หลินฉางหยู หลินอ้าย และหลินฉิงอันกลับไปแล้ว หลินฉิงเฉิงและหลินฉิงหยางไม่ได้สั่งการอะไรกับเฉินหลงเพิ่มเติม พวกเขาเพียงแค่ขอบคุณเฉินหลงและบ่าวคนอื่นๆ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ส่งน้องชายเข้าเรียน

    หลังจากที่จัดการเรื่องบ้านและทาสเรียบร้อยแล้ว หลินฉางหยูได้พาหลินอ้ายไปยังตลาดในอำเภอเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเตรียมไว้ให้บ่าวที่ต้องดูแลจวนใหม่ พวกเขาซื้อข้าวสาร ผักสด เนื้อสัตว์ เครื่องปรุงรส และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับหลายวันหลินอ้ายเลือกซื้อของอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นของคุณภาพดีและราคาเหมาะสม นางคิดถึงบ่าวทั้งสี่คนที่ต้องดูแลจวนในอำเภอ และอยากให้พวกเขาได้รับประทานอาหารที่ดีเมื่อซื้อของเสร็จเรียบร้อย หลินอ้ายจึงเรียกเฉินหลงซึ่งเป็นหัวหน้าบ่าวที่จวนใหม่มาพบ นางได้มอบเงินให้เฉินหลงจำนวนห้าตำลึง เพื่อให้เขาใช้จ่ายซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ในระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่“เฉินหลง นี่เป็นเงินจำนวนห้าตำลึง เจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี และใช้จ่ายอย่างประหยัด ซื้ออาหารและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับทุกคนในจวน” หลินอ้ายกล่าวพร้อมยื่นถุงเงินให้เฉินหลงเฉินหลงรับถุงเงินมาด้วยความเคารพและกล่าวขอบคุณ“ขอบคุณ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   จัดการเหล่าทาส

    หลินฉางหยูเห็นท่าทีของทาสทั้งหมดแล้วก็หันหน้าไปหาหลินอ้ายด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ เขาพอใจมากที่ได้คนมีความสามารถหลากหลาย พวกเขาไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แต่เป็นเพียงชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ พวกเขาไม่คิดจะข่มเหงทาสพวกนี้สักนิด ขอเพียงพวกเขาตั้งใจทำงานให้ครอบครัวหลินก็เพียงพอแล้วเด็กชายทั้งสองได้แต่มองทาสทั้งแปดอย่างอยากรู้อยากเห็น ส่วนหลินฉิงอันที่เคยผ่านโลกมาตั้งแต่ภพก่อนไม่ได้รู้สึกอันใดมากนัก นางเพียงรอดูว่าคนเหล่านี้เหมาะที่จะใช้งานหรือไม่เท่านั้น เพราะนางยังมีวิธีการช่วยครอบครัวหาเงินได้อีกมาก ถ้าพวกเขาเชื่อใจได้และซื่อสัตย์จริง ๆ นางก็จะมอบงานที่ดีให้กับพวกเขาในอนาคตเองไม่นานนักผู้ดูแลก็นำสัญญาขายตัวและเงินทอน 15 ตำลึง มามอบให้หลินฉางหยู ระหว่างที่หลินฉางหยูพาทุกคนเดินออกจากโรงค้าทาส เขากระซิบกับภรรยาเสียงเบา“ฮูหยิน เจ้าว่าเราควรซื้อสิ่งใดให้พวกเขาก่อนดี”“ท่านพี่อย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ เราไปหาซื้อที่นอนกับเสื้อผ้าให้พวกเขาเสียก่อน ไหนจะพวกวัตถุดิบทำ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ซื้อทาส

    เมื่อทุกคนไปถึงอำเภอ หลินฉางหยูก็เข้าไปทำเรื่องซื้อขายโดยรับตั๋วแลกเงินจากหลินอ้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ต่างรอเขาที่ห้องโถงรับแขก ไม่นานนักหลินฉางหยูก็ถือโฉนดพร้อมกับกุญแจของจวนพวงใหญ่ออกมาพร้อมเจ้าหน้าที่หลินฉางหยูส่งโฉนดให้หลินอ้ายเก็บเอาไว้ ส่วนเขาถือกุญแจที่หนักไม่น้อยด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่บอกทางหลินฉางหยูให้ขับเกวียนไปยังถนนฝั่งตะวันตกซึ่งมีโรงค้าทาสของทางการอยู่เมื่อไปถึงด้านหน้า พวกเขาก็พบกับผู้คนจำนวนไม่น้อยที่นำทาสมาขายหรือซื้อทาสไปเดินผ่านไปมาไม่น้อย“เจ้านำเกวียนลาไปจอดด้านนั้นก่อน ข้าจะให้คนงานดูแลให้ แล้วเราค่อยเข้าไปด้านในด้วยกัน” เจ้าหน้าที่บอกกับหลินฉางหยู“ขอรับ”หลินอ้ายและเด็ก ๆ ต่างมองเห็นทาสที่ถูกนำมาขายและซื้อไปก็นึกเวทนาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ละคนสภาพไม่ต่างจากขอทานสักนิด ไม่รู้ว่าหากพวกเขาซื้อไปแล้วทาสเหล่านั้นจะสามารถทำงานให้ได้หรือไม่ ทั้งสี่คนได้แต่ถอนหายใจกับภาพที่เ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ซื้อบ้าน

    “ท่านพ่อ ท่านแม่ลองทบทวนดูอีกครั้งดีไหมเจ้าคะ ข้าคิดว่าการซื้อทาสเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วเจ้าค่ะ อย่างไรข้ากับท่านพ่อยังต้องทำงานหาเงิน ส่วนท่านแม่ก็ต้องดูแลบ้าน ตอนนี้น้อง ๆ อายุจะ 10 ขวบแล้ว หากพวกเขาสามารถดูแลตัวเองและดูแลทาสได้ ในอนาคตหากพวกเขาสอบได้ขุนนาง พวกเขาจะต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอีกมากมายนัก การฝึกฝนพวกเขาเสียแต่ตอนนี้ ข้าคิดว่าดีแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ข้ากับน้องดูแลตัวเองได้แล้วขอรับ หากพี่ใหญ่ซื้อทาสให้พวกเราก็ดีไม่น้อย อย่างไรข้ากับน้องก็ฝึกวรยุทธ์กับพี่ชายเหิงมาตลอด ข้าคิดว่าพวกข้าสองคนจะเอาตัวรอดได้ขอรับ” หลินฉิงเฉิงพูดด้วยแววตาจริงจัง“ข้าเห็นด้วยกับพี่รองขอรับ ท่านพ่อ ท่านแม่อย่าได้กังวลเลยนะขอรับ หากพวกท่านเป็นห่วงพวกเรา พวกท่านแค่แวะไปเยี่ยมเราที่อำเภอก็ได้แล้วขอรับ” หลินฉิงหยางพูดสนับสนุนพี่ชายและพี่สาวอีกแรงหนึ่งหลินฉางหยูกับหลินอ้ายหันมองกันอย่างจนใจ แต่ในเมื่อพวกเขาพี่น้องต่างเชื่อมั่นในกันและกันเช่นนี้ พ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   พาน้อง ๆ สมัครเรียน

    ชีวิตของตระกูลหลินกลับมาดำเนินไปตามปกติ หลินฉางหยูและหลินฉิงอันยังคงขึ้นเขาไปจับปลาและนำมาพักไว้ในบ่อก่อนที่จะนำไปส่งที่โรงเตี๊ยมไห่ถังเช่นเคย กิจวัตรประจำวันเหล่านี้ช่วยให้พวกเขามีรายได้เลี้ยงดูครอบครัววันหนึ่ง ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเตรียมปลาเพื่อนำไปส่งที่โรงเตี๊ยมไห่ถัง หลินฉิงอันก็เอ่ยขึ้นด้วยความคิดที่อยู่ในใจมาสักพัก“ท่านพ่อเจ้าคะ วันนี้ข้าอยากจะพาน้องชายทั้งสองไปอำเภอด้วย” หลินฉิงอันกล่าว“ไปอำเภอหรือ? มีธุระอันใดหรือ อันเออร์?” หลินฉางหยูถามด้วยความสงสัย“ข้าอยากจะพาน้องๆ ไปสมัครเรียนที่สำนักศึกษาในอำเภอเจ้าค่ะ พวกเขาโตพอที่จะเริ่มเรียนหนังสือได้แล้ว” หลินฉิงอันอธิบายหลินฉางหยูพยักหน้าเห็นด้วย เขาเห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกชายทั้งสอง และเขาก็อยากจะให้ลูกๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้เมื่อหลินอ้ายได้ยินว่าหลินฉิงอันจะพาน้องชายทั้งสองไปสมัครเรียนที่อำเภอ

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   หน้าที่

    ผู้ใหญ่บ้านหลี่กล่าวอวยพรให้ลูกหลานทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และประสบความสำเร็จในชีวิต ลูกหลานก็อวยพรให้ผู้ใหญ่บ้านหลี่และภรรยามีสุขภาพแข็งแรงและอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานไปนานๆเสียงหัวเราะและรอยยิ้มดังขึ้นเป็นระยะ บ่งบอกถึงความสุขและความอบอุ่นที่อยู่ในครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านหลี่ แม้ว่าผู้ใหญ่บ้านหลี่จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเขา แต่เขาก็ยังคงนึกถึงตระกูลหลินและสิ่งที่พวกเขาได้ทำเพื่อหมู่บ้าน เขาคิดถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของตระกูลหลินที่ได้ช่วยเหลือเหิงจิ้งกั๋วและองครักษ์ของเขา รวมถึงการสร้างห้องเก็บของและการสนับสนุนชาวบ้านในการขายเกาลัดคั่ว ผู้ใหญ่บ้านหลี่รู้สึกขอบคุณตระกูลหลินที่ได้นำความเจริญและความสุขมาสู่หมู่บ้านต้าไห่บรรยากาศในวันปีใหม่ของหมู่บ้านต้าไห่จึงเต็มไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และความหวัง ทุกคนต่างเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตใจที่เบิกบานและมีความหวังในอนาคตที่ดีเมื่อเทศกาลปีใหม่ผ่านพ้นไป ชีวิตในหมู่บ้านต้าไห่ก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง หิมะยังคงโปรยปรายลงมาเป็น

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ฉลองปีใหม่

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฤดูหนาวได้มาเยือนอย่างเต็มตัว หิมะเริ่มโปรยปรายลงมาปกคลุมทั่วผืนดิน บรรยากาศหนาวเย็นแผ่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง แต่ชีวิตในหมู่บ้านต้าไห่ยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าหนาวแล้ว แต่ตระกูลหลินยังคงต้องเดินทางไปส่งปลาและถั่วงอกที่โรงเตี๊ยมไห่ถังตามปกติ พวกเขายังเหลือปลาที่ต้องส่งอีกเจ็ดรอบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจฝ่าความหนาวเย็นเดินทางไปส่งสินค้าและรับเงินจากเถ้าแก่หลิวหลินฉางหยูและหลินฉิงอันเตรียมตัวสำหรับการเดินทางอย่างรอบคอบ พวกเขาสวมเสื้อผ้าหนาๆ หลายชั้น เพื่อป้องกันความหนาวเย็น หลินฉิงอันมีความกังวลเกี่ยวกับลาของพวกเขาที่ต้องเดินทางในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ นางกลัวว่าลาจะหนาวสั่นและเจ็บเท้า นางจึงขอให้หลินอ้ายช่วยเย็บถุงเท้าหนาๆ ให้กับลา โดยใช้วัสดุจากหนังสัตว์เก่าๆ ที่เก็บไว้ในบ้าน“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าอยากจะขอให้ท่านแม่ช่วยเย็บถุงเท้าให้กับลาหน่อยเจ้าค่ะ อากาศหนาวเช่นนี้ ข้ากลัวว่ามันจะเจ็บเท้า” หลินฉิงอันกล่าว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status