หนึ่งจอมมารถือกำเนิดจากโคลนตม ไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึก พร้อมทำลายทุกสิ่งอย่างเลือดเย็น กับอีกหนึ่งเมล็ดพันธุ์ถูกชะตากำหนดให้เป็นผู้กำจัดเภทภัยจึงตกเป็นเป้าหมาย ชีวิตมีอันตรายอย่างเลี่ยงไม่ได้
View Moreวันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น
นับตั้งแต่นั้นมากงจื่อเย่จึงไม่ออกไปที่ไหนอีกติดอยู่ในภพมารเพื่อกระทำบางอย่างด้วยความตั้งใจจนไม่รู้ตัวว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าใดแล้วเมื่อผู้ปกครองละเว้นหน้าที่ ความวุ่นวายในภพมารจึงเริ่มบังเกิดทีละส่วน หากแต่ลูกน้องทั้งสามยังคงใช้อำนาจของเขาคอยจัดการได้อยู่แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ตามครั้งนี้เช่นเดียวกัน ไอมารปีศาจชั่วร้ายก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีกงจื่อเย่จะคอยดูดซับพลังพวกนั้นมาเป็นอาหารของตนเองแต่เวลานี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด พวกปีศาจและสัตว์อสูรจึงได้ทีฉกฉวยมันมาเป็นของตัวเองจึงทำให้มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นแต่บางขณะ ไอมารปีศาจที่แข็งแกร่งย่อมปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเดียวกันและเป็นฝ่ายกัดกินมารปีศาจพวกนั้นแทนที่จนสามารถหล่อหลอมรูปลักษณ์สร้างตัวตนขึ้นมาได้&n
กาลเวลาผันผ่านจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปีเหมันตฤดูเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง กงจื่อเย่ยังคงเป็นดังเช่นวันวาน นัยน์ตาสีม่วงแดงของจอมมารเหม่อมองสรรพสิ่งรอบตัวถวิลหาคนที่จากไปอย่างไร้ร่องรอยแม้พยายามลบเลือนนางออกไปจากใจแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่คิดจึงได้รู้ซึ้งความทรมานที่ฝังลึกถึงแก่นวิญญาณ โหยหาอยากพบเจอนางอีกครั้งทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกลับมาพบกันในครานี้นางมีหน้าที่ต้องสังหารมารปีศาจอย่างเขาขณะปล่อยความทรงจำโลดแล่นราวกับยินดีติดอยู่ในอดีตของช่วงเวลาที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคือความสุขหนึ่งเดียว“เสด็จพี่ เทศกาลชมจันทร์ค่ำคืนนี้ เราสองคนออกไปนอกวังได้หรือไม่เพคะ”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบกงจื่อเย่หันไปมองทางด้านหลังแต่กลับไม่พบเจอใครเพราะที่แห่งนั้นมีเพียง
หลังจากอู๋เยว่ชิงผนึกเมล็ดพันธุ์ทั้งสามดวงได้แล้ว ร่างมนุษย์ของนางจึงแตกสลาย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ววิญญาณเทพดาราควรกลับแดนสวรรค์เพราะนางได้ผ่านด่านเคราะห์อันแสนสาหัสไปเรียบร้อยหากแต่เวลานี้ยังไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าวิญญาณของเทพดาราหายไปอยู่ที่ใดราวกับนางไม่มีตัวตนสิ่งที่นางหลงเหลือไว้มีเพียงความทรงจำและความเจ็บปวดที่ฝังลึกในเมล็ดพันธุ์ที่ปริแตกในแก่นวิญญาณของจอมมาร คนที่กำลังทรมานกับสิ่งที่ตนเองกระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมากงจื่อเย่เพิ่งสัมผัสได้ว่านางทุกข์ทน ผิดหวังและเศร้าโศกมากเพียงใด เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจึงไม่อาจกำจัดความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกไปได้“นายท่าน เหตุใดจึงไม่ทำลายมันทิ้งไป พลังของนายท่านยังไม่สมบูรณ์ดีหรือขอรับ” โจวเหวินหลงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้มีกำลังมากมายที่
หลังจากที่เมล็ดพันธุ์ถูกฝังในแก่นวิญญาณของจอมมารเรียบร้อยแล้ว ความทรงจำที่อู๋เยว่ชิงมีต่อเขาในฐานะคนรักของหลินซีเวยจึงพรั่งพรูเข้าหาสวีลู่ชิงใช้พลังเทพบรรพกาลทำให้เขารับความรู้สึกของนางแม้จะยืนยาวได้ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจแต่ก็พอทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบชั่วขณะความรักของนางที่เขาบอกว่าเป็นเรื่องลวงหลอก ดูเหมือนจอมมารจะสัมผัสได้ว่านางเอ่ยความจริงจากก้นบึ้งในใจ แต่มันกลับทำได้แค่เพียงสะกิดความรู้สึกแล้วจางหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยนางไม่ได้หวังอันใดไปมากกว่านี้ ขอแค่ให้เขาได้รับรู้บ้างเผื่อจอมมารจะรู้สำนึกว่าได้ทำอันใดลงไปแม้สวีลู่ชิงจะไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายที่แตกร้าวจะทำให้ดวงอื่น ๆ ที่เคยถูกฝังในร่างจอมมารปริแตกหยั่งรากลึกก่อนเวลาอันควรจนความรู้สึกทั้งปวงก่อตัวขึ้นใน
หากแต่ผลที่ได้ไม่เป็นอย่างคาดคิดเพราะพลังมารที่เขาส่งออกไปสะท้อนกลับเข้าหาตัวเหมือนอย่างเคยกงจื่อเย่ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เหตุใดจึงฆ่าเจ้าไม่ได้!!!”เขาเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ของชาตินี้ที่อยู่ในแก่นวิญญาณของนางต้องได้รับความเสียหายจนปริแตกแล้วจึงได้ลงมือ แต่กลับทำอันใดนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อยครั้นลองร่ายพลังมารใส่อู๋เยว่ชิงอีกครั้ง พลังรุนแรงนั้นยังคงสะท้อนกลับมาหาเขาไม่เคยเปลี่ยนกงจื่อเย่กระอักเลือดออกมากองใหญ่ คิ้วขมวดเป็นปม เอ่ยถามนางด้วยความสงสัย “ที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้รักข้าหรือ”นั่นเพราะเขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าความรักมักจะทำให้มนุษย์อ่อนแอ ยิ่งรักมากเท่าใดยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น หากถูกคนท
Trigger Warning (TW 18+) = มีเนื้อหาหรือเหตุการณ์ที่อาจทำให้สะเทือนใจห่างไปอีกเมืองหนึ่งไม่ไกลนักรถม้าของอู๋เยว่ชิงหยุดพักอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แถบชานเมือง นางพยายามรวบรวมสติของตนเองเอาไว้แล้วปกป้องอีนั่ว“เสด็จแม่ เราอยู่ที่ใดกันหรือ” อีนั่วเอ่ยปากถามทันทีที่ลืมตาหลังจากนอนหลับยาวนาน “เสด็จพ่อเล่า...”เมื่อถูกถามไถ่ถึงหลินซีเวย น้ำตาของนางก็เอ่อคลอแต่พยายามกลั้นใจเอาไว้ “พ่อของเจ้าจะรีบตามมา อีนั่วอย่าได้กังวลไปเลยนะ”มารน้อยพยักหน้าแล้วซบเข้าอ้อมกอดของมารดาสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของอู๋เยว่ชิง มือน้อย ๆ ลูบใบหน้าของนางราวกับต้องการปลอบประโลมพวกเขาหย
หลินซีเวยหมดท่าไม่อาจโต้กลับเหล่าเซียนสำนักหานหลิ่งได้อีกทั้งยังถูกตรึงด้วยผนึกเพื่อทำลายพลังมารปีศาจที่ควบคุมร่างเขาอยู่“ท่านเซียน ช่วยเขาไม่ได้หรือ” ฮ่องเต้เอ่ยปากถามเพราะยังมีความหวังว่าจะได้บุตรชายกลับคืน หากแต่เหล่าเซียนกลับตอบว่า “พลังมารปีศาจหลอมรวมเข้าแก่นวิญญาณของเขาแล้วมิอาจถอดถอนได้เฉกเช่นคนทั่วไป หนทางเดียวที่จะหยุดหายนะในเมืองไท่หยางคือสังหารเขาไปพร้อมกับมัน”“...” ทุกคนนิ่งเงียบ สายตามองปีศาจร้ายด้วยความหวาดกลัว เพียงแค่หนึ่งก้านธูป วังหลวงกลับนองเลือดราวกับมีสงครามครั้งใหญ่ หากคิดปล่อยไว้มีหวังทั้งเมืองไท่หยางคงกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คนเป็นแน่“ข้าไม่ได้ขอความเห็นพวกท่าน มาวันนี้เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง มารปีศาจตนนี้ร้ายกาจนักหากปล่อยให้หลุดรอดไปได้คงทำลายผู้คนในเมืองอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน&r
ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็...
Comments