หน้าหลัก / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

แชร์

ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-25 07:00:45

แดนมนุษย์

เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพ

ตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตา

เมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กัน

เหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเอง

ครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วน

เด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรากฏตัวขึ้นในตะกร้าหน้าสำนักเซียนดาราสวรรค์ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

ดอกจื่อเถิงสีม่วงอมชมพูบานสะพรั่ง สายลมพัดกลีบดอกไม้ปลิวไสวล่องลอยราวกับภาพวาด

เวลานั้นหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากตำหนักต้นหลิว สีหน้าของนางรับรู้ได้ว่าเด็กทารกผู้มีดวงชะตาอาภัพกำลังรอนางอยู่ใต้ต้นจื่อเถิง

นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำใจให้ชินกับความเป็นไปทางโลกและพร้อมโอบรับชะตากรรมของนางด้วยเช่นกัน

ครั้นได้เห็นใบหน้าน่ารักน่าชังของทารกตัวน้อย นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้งแล้วยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

“จื่อเถิง จนกว่าจะถึงวันนั้น เรามาใช้ชีวิตที่มีความสุขด้วยกันเถอะนะ” น้ำเสียงของนางแผ่วเบา เซียนผู้เป็นเจ้าสำนักดาราสวรรค์โอบอุ้มทารกน้อยพร้อมตั้งชื่อให้นางเหมือนกับดอกจื่อเถิงที่ผลิบานงดงามในเวลานี้

สวีลู่ชิงร่างใหม่ไร้ความทรงจำและพลังใด ๆ ยามเมื่อตนเป็นเทพดาราเพราะทุกสิ่งทุกอย่างถูกผนึกเอาไว้ในส่วนลึก นางจึงมองมนุษย์ที่พบเจอคนแรกด้วยรอยยิ้มไร้ความกังวล

หารู้ไม่ว่าการเผชิญด่านเคราะห์ครั้งนี้จะไม่เหมือนกับเมื่อครั้งก่อนเพราะมีตัวแปรอย่างจอมมารเข้ามายุ่งวุ่นวายกับโชคชะตาของนางด้วยตัวเอง

แทนที่จะเผชิญด่านเคราะห์ทั่วไปอย่างเคย ครานี้ชะตากรรมของนางจะเจ็บปวดแสนสาหัสเกินจะทนไหว

นอกจากสวีลู่ชิงแล้ว เหล่าเทพเซียนองค์อื่น ๆ ได้จุติลงมาในแดนมนุษย์ด้วยเช่นกัน โชคชะตาของแต่ละคนแตกต่างกันไปแต่ทุกคนล้วนต้องมาเกี่ยวข้องกับสวีลู่ชิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เจ้าสำนักดาราสวรรค์พาทารกน้อยจื่อเถิงเข้ามาในตำหนักพลางเรียกอาจารย์สำนักคนอื่น ๆ เข้ามาหา ประกาศเรื่องรับนางมาอุปถัมภ์ดูแลและให้เฉาหมิงเป็นอาจารย์สายตรงคอยอบรมสั่งสอนนาง

“หากเจ้าสำนักเซียวเห็นควรเป็นเช่นนั้น ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านอย่างสุดความสามารถ” เฉาหมิงรับปากพลางมองใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กน้อยผู้มาใหม่

เวลานั้นศิษย์น้องคนสุดท้ายของสำนักดาราสวรรค์เดินตรงเข้ามาหาจื่อเถิ่ง แม้ดวงตาของเขาจะบอดสนิททั้งสองข้างแต่ใจของเขากลับรับรู้สรรพสิ่งรอบกายได้เป็นอย่างดี

หยางซีอวิ๋นมองเห็นพลังที่แปลกจากที่เคยเห็นถูกผนึกอยู่ในร่างจื่อเถิงน้อย พลังบริสุทธิ์ที่เขาสัมผัสได้ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

“ท่านอาจารย์เจ้าสำนัก นางเป็นผู้ใดหรือ” หยางซีอวิ๋นวัยเจ็ดขวบถามนางด้วยความสงสัย

“อืม รู้ลึกถึงเพียงนี้เชียวหรือ” นางคล้ายได้คำตอบแล้วว่าทำไมเขาถึงมองเห็นพลังที่ซ่อนเร้นในกายของทารกน้อยพลางคิดในใจว่า หยางซีอวิ๋นผู้นี้คงจะมาจากที่เดียวกันกับจื่อเถิงกระมัง

“ข้าจะดูแลศิษย์น้องของข้าเป็นอย่างดีขอรับ” รอยยิ้มบางผุดขึ้นมา เขาเอื้อมมือข้างซ้ายแตะปลายนิ้วก้อยน้อย ๆ ของจื่อเถิงเพื่อทำความรู้จักกัน

พลันเสียงหัวเราะของจื่อเถิงดังขึ้นเพราะสัมผัสของเขา “น่ารักน่าชัง” หยางซีอวิ๋นเอ่ยพึมพำ

“เฮ้อ... เห็นเช่นนี้แล้วข้าคงห้ามเจ้าไม่ได้กระมังเสี่ยวอวิ๋น” เจ้าสำนักเซียวส่ายหน้าแล้วบอกให้อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ “ลองอุ้มนางดูเถิด”

เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของศิษย์พี่ จื่อเถิงยิ้มให้เขาหน้าระรื่น ยื่นมือกลม ๆ น้อย ๆ คิดจะแตะใบหน้าที่กำลังมองตนเองอย่างอ่อนโยน

“ข้ามีศิษย์เพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วสินะ” เฉาหมิงถอนหายใจ เดิมทีคิดว่าจะรับหยางซีอวิ๋นเป็นศิษย์สายตรงคนสุดท้ายแล้วแท้ ๆ แต่หากดูจากท่าทางของศิษย์พี่มือใหม่เวลานี้แล้วคงไม่แคล้วขอร้องให้เขารับนางเป็นศิษย์ไปอีกคนแน่ ๆ

“ข้าบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือว่าให้เจ้าเป็นอาจารย์ของนาง” เจ้าสำนักเซียวเลิกคิ้วคิดว่าคนตรงหน้าลืมเรื่องที่พูดคุยก่อนหน้านี้ไปแล้ว “เจ้าคงจะไปฝากจางเจี๋ยหลุนดูแลใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก” เสียงของเขาสูงปรี๊ดผิดปกติจนหยางซีอวิ๋นหัวเราะลั่น

“อาจารย์ขอรับ เรื่องดูแลศิษย์น้อง ศิษย์จะช่วยท่านเอง” เขาหลงรักเจ้าจื่อเถิงเต็มเปาจึงเอ็นดูน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก “ในที่สุดก็จะมีคนเรียกข้าว่าศิษย์พี่แล้ว”

“นึกแล้วเชียว” เฉาหมิงส่ายหน้าแล้วขยี้ผมยาวสีดำขลับของศิษย์รักตามประสา

กาลเวลาผันผ่านไปอย่างสงบเรียบง่าย ทารกน้อยจื่อเถิงในวันนั้นค่อย ๆ เติบโตอย่างงดงามราวกับดอกจื่อเถิงที่บานสะพรั่ง

เวลานี้จื่อเถิงอายุครบสิบแปดปี ชีวิตรายล้อมด้วยความสุขที่ศิษย์พี่และอาจารย์มอบให้ ไม่เคยต้องประสบพบความยากลำบากใด ๆ มาก่อน

บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกพเนจรช่วยเหลือชาวประชาที่ตกทุกข์ได้ยาก เรียนรู้ความลำบากและผ่านด่านเคราะห์ที่กำหนดให้นางเผชิญ

“ศิษย์น้องจื่อเถิง” เสียงเรียกของหยางซีอวิ๋นทำให้นางรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาถือดอกไม้กลิ่นหอมนานาชนิดมามอบให้นางเป็นของขวัญวันที่บรรลุคัมภีร์เซียนขั้นที่สามหลังจากฝึกฝนมานานหลายปี

“ศิษย์พี่จื่อเถิง” อิงฮวาผู้เป็นศิษย์คนสุดท้ายของสำนักดาราสวรรค์เรียกนางด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “อาจารย์บอกว่าศิษย์พี่จะออกเดินทางใช่หรือไม่”

“อืม” นางตอบสั้น ๆ รู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร

แม้อิงฮวาจะเป็นศิษย์สายตรงของจางเจี๋ยหลุน แต่อาจารย์อาไม่ได้เคร่งครัดห้ามปรามสิ่งใดกับอิงฮวาแม้แต่น้อย นางจึงมักจะมาเกาะติดจื่อเถิงและหยางซีอวิ๋นอยู่เป็นประจำ

หากจื่อเถิงต้องออกเดินทางไกล อิงฮวาจะต้องขอตามติดไปด้วยอย่างแน่นอน

“ศิษย์พี่จื่อเถิง คือว่าข้า... ข้า...” นางพูดตะกุกตะกักเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ “คือว่า ข้า..”

“เจ้าทำไมหรือ” จื่อเถิงเห็นท่าทางของนางจึงนึกอยากแกล้ง

“ข้า.. คือว่า..”

“เจ้าอยากร่วมเดินทางกับศิษย์พี่ใช่หรือไม่” หยางซีอวิ๋นเป็นคนถามนางตรง ๆ พลางมองหน้าจื่อเถิง

“เจ้าค่ะ” ศิษย์วัยสิบห้าพยักหน้ายอมรับ “ข้าอยากไปด้วย พวกท่านรอข้าอีกสักเจ็ดวันได้หรือไม่ ข้าจะรีบสอบคัมภีร์เซียนขั้นสองให้ผ่าน”

“หากเจ้ามุ่งมั่นถึงเพียงนั้น ศิษย์พี่จะใจร้ายไม่ให้เจ้าไปด้วยได้อย่างไร” จื่อเถิงลูบศีรษะของนางอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นรีบเตรียมตัวสอบให้ผ่านดีหรือไม่”

“เจ้าค่ะ” อิงฮวาพยักหน้าแล้วรีบวิ่งไปที่ตำหนักของอาจารย์ด้วยพลังเต็มเปี่ยม แววตามุ่งมั่นราวกับมีไฟลุกโชน

“ตามใจศิษย์น้องอีกแล้วจื่อเถิง” หยางซีอวิ๋นยิ้มให้นาง

“ศิษย์พี่เป็นคนอนุญาตนางแท้ ๆ” จื่อเถิงย้อนเพราะคนที่ตามใจศิษย์น้องมากที่สุดก็คือเขา

“เฮ้อ มีเด็กน้อยสองคนเดินทางอยู่ข้างกาย ข้าคงจะปวดหัวน่าดู” หยางซีอวิ๋นทำทีถอนหายใจ

“ศิษย์พี่ ข้าไม่ได้ดื้อถึงเพียงนั้นเสียหน่อย ท่านพูดเกินไปแล้ว” จื่อเถิงส่ายหน้าไม่ยอมรับว่านางคือคนที่ดื้อที่สุดในสำนักดาราสวรรค์

“จริงหรือ ถ้าศิษย์น้องยืนยันเช่นนั้น ข้าคงต้องเชื่อแล้วล่ะ” หยางซีอวิ๋นหัวเราะเบา ๆ

จากนั้นทั้งคู่จึงตั้งสมาธินั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นหลิวรอคอยอิงฮวาสอบคัมภีร์เซียนด้วยความสงบเตรียมพร้อมออกเดินทางผจญภัยในดินแดนนอกสำนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 5 ความโกลาหล

    โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งนอกเมืองหนานพ่อค้าจากต่างเมืองที่ผ่านมาแวะพักในโรงเตี๊ยมเล่าข่าวคราวที่บังเอิญได้ยินมาให้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นฟัง เสียงเล่าลือว่าคนในหมู่บ้านหงเหลียนทางตอนใต้แคว้นชิงตายด้วยอาการประหลาดคนที่เหลือรอดมาได้เล่าวกไปวนมาว่าสิ่งที่เข้าทำร้ายพวกเขาต้องไม่ใช่คน ดูไม่มีรูปร่างแต่แววตาแดงฉานฉายชัด ครั้นจะถามต่อว่าเป็นอย่างไรบ้างกลับไม่ได้อะไรเพิ่มเติม คนเหล่านั้นเหมือนสติหลุดพูดจาไม่รู้เรื่องไปเสียแล้วเจ้าเมืองจึงต้องส่งคนไปเชิญเซียนสำนักต่าง ๆ เข้ามาตรวจสอบข่าวลือที่ว่าผีปีศาจออกอาละวาดทำร้ายชาวเมืองเป็นเรื่องจริงหรือไม่กระนั้น หลายเดือนผ่านไปยังไม่มีใครเห็นเซียนที่เข้าไปในหมู่บ้านหงเหลียนออกมาข้างนอก บรรยากาศรอบหมู่บ้านราวกับมีผีสิง อึมครึม เย็นยะเยือก นานวันเข้าจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หมู่บ้านร้างอีกเลย“แค่เล่าให้พวกเจ้าฟังก็ขนหัวลุกแล้ว” หนึ่งในคาราวานพ่อค้าเอ่ยปากพลางทำท่าสั่นกลัว“ไม่ใช่แค่หมู่บ้านหงเหลียนหรอก” ชายคนหนึ่งกระดกแก้วเหล้าอึกใหญ่รำลึกถึงเหตุการณ์เฉียดตายที่พบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 6 ผจญภัย

    สำนักเซียนดาราสวรรค์“จื่อเถิง มาหาอาจารย์หน่อยเถิด” เสียงของเฉาหมิงเรียกนางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะของศิษย์ผู้นี้อย่างอ่อนโยน “อาจารย์เจ้าสำนักฝากข้าเอามาให้เจ้า”จื่อเถิงมองดูหยกสีชมพูอ่อน สีหน้างงงวยเพราะไม่รู้ว่าหยกหน้าตาสวยงามคืออะไร“อาจารย์เจ้าสำนักเป็นห่วงเจ้ามากจึงฝากข้านำมาให้” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าอาจารย์ของตนเองใช้พลังเซียนที่สั่งสมมานานหลายสิบปีหลอมหยกชิ้นนี้ขึ้นมาให้ศิษย์หลานโดยเฉพาะครั้นถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกลับได้คำตอบมาว่า “นางเดินทางออกนอกสำนักเป็นครั้งแรก ย่อมต้องห่วงเป็นธรรมดา”ทว่า เฉาหมิงกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ไม่อาจถามไถ่สิ่งใดได้อีกเพราะนางคงไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน“ขอบคุณเจ้าค่ะ” จื่อเถิงรับปากว่าจะปกป้องทุกคนและกลับมาสำนักดาราสวรรค์ก่อนเทศกาลโคมไฟแล้วรีบวิ่งไปหาศิษย์น้องอิงฮวาที่ยืนรออยู่ด้านหน้าสำนักคล้อยหลังจื่อเถิง เฉาหมิงเอ่ยปากบอกหยางซีอวิ๋นผู้เป็นศิษย์พี่ว่า &ld

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 7 มังกรดำ

    ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงหวีดร้องและเสียงปะทะพลังของทั้งสองฝ่ายกระหึ่มดังไปทั่วบริเวณเซียนหนุ่มหันไปมองสหายด้วยสายตากังวล“ไม่เป็นอันใดหรอก เลี่ยงหวง” เซียนสาวบอกศิษย์ร่วมสำนักด้วยท่าทีใจเย็นเพราะมีประสบการณ์เรื่องต่อสู้มามาก “จำที่อาจารย์สอนเจ้าได้หรือไม่”เลี่ยงหวงพยักหน้าแล้วรวบรวมพลังเซียนวิชาหนึ่งของสำนักตนเอง พลันแสงสีขาวก่อตัวพองโตเป็นลูกกลม ๆ ขึ้นทีละนิด เขาขมวดคิ้วกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”เฉินซือหยางมัวแต่วอกแวกเพื่อกวนประสาทเซียนทั้งสองจึงไม่ทันระวังตัวโดนพลังเซียนขั้นสูงสาดใส่ร่างปีศาจเข้าเต็มเหนี่ยวกระเด็นทะลุบ้านเรือนไปหลายหลังเขายันตัวลุกขึ้นเอียงคอจัดกระดูกที่หักไปหลายท่อนกลับมาดังเดิมแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปัดฝุ่นดินบนเสื้อผ้า แสยะยิ้มที่ไม่ได้เจอผู้ใดมีฤทธิ์เดชรุนแรงเท่าสองคนข้างหน้ามานานมากแล้ว“เฉินซือหยาง เจ้าอย่าลืมว่าพวกเขามิใช่เซียนธรรมดา”มังกรดำเอ่ยปากเตือนเพราะไม่อยากให้สหายเพลี่ยงพล้ำจนเสียการงาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 8 ตัวตนจื่อเถิง

    มังกรดำโผล่หน้าเหนือศีรษะของอิงฮวาอ้าปากรอเขมือบร่างบางที่มิอาจหลีกหนีได้ทัน หากแต่แสงจากกระบี่เซียนกำลังง้างปากของมังกรดำเอาไว้ไม่ยอมให้มันบดขยี้จื่อเถิงและหยางซีอวิ๋นยังไม่อาจผละจากกองทัพปีศาจที่อยู่รอบตัวได้ ครั้นกำจัดไปหนึ่งก็จะถูกอีกสองถ่วงแข้งขาเอาไว้อย่างรู้งานในเมื่อไม่อาจขย้ำเหยื่อตัวน้อยตรงหน้าได้ มังกรดำจึงเปลี่ยนวิธี ค่อย ๆ ดูดกลืนพลังชีวิตของอิงฮวาแทนเส้นสายสีขาวจาง ๆ ถูกดึงยืดออกจากร่างเซียนน้อยทีละนิดจนนางไม่อาจกลั้นเสียงร้องเจ็บปวดได้ค่อย ๆ หมดแรงต้านทานจนปากของสัตว์อสูรเริ่มปิดลงได้เรื่อย ๆ“ศิษย์พี่...” เสียงหอบเหนื่อยล้าของอิงฮวาพึมพำอยู่ลำพัง คิดในใจว่าวันนี้ตนเองอาจจะไม่รอดจึงร่ายพลังน้อยนิดที่เหลืออยู่ส่งสัญญาณให้พวกเขาดวงไฟสีขาวพุ่งเข้าหาจื่อเถิงกับหยางซีอวิ๋นในพริบตาจึงทันได้หันรอยยิ้มสุดท้ายของศิษย์น้องเล็กที่กำลังจะถูกมังกรดำเขมือบอยู่รอมร่อเหตุการณ์นี้กระตุ้นให้จื่อเถิงเปิดผนึกเทพดาราออกส่วนหนึ่งเกิดรอยอักขระโบราณขึ้นที่แขนของนางพลันพลังเทพดาราส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 9 หลบหนี

    เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์นั้นแล้ว จื่อเถิงจึงไม่รอช้านั่งสมาธิรวบรวมพลังเซียนของตนเองไว้ใจกลางจุดกำเนิดพลังเพื่อเก็บเกี่ยวสรรพสิ่งรอบตัวหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ให้สมบูรณ์เลี่ยงหวงมีสีหน้ากังวลที่เห็นนางทำเช่นนั้นจึงถามศิษย์พี่ของนาง “นางกดดันตนเองเกินไปหรือไม่ เดิมทีเมล็ดพันธุ์จะสมบูรณ์เมื่อครบกำหนดอายุขัยในชาตินั้น แต่นี่นางจะย่นเวลาเพื่อหลอมรวมมันเชียวหรือ”“พวกเรามีทางเลือกด้วยหรือ” หยางซีอวิ๋นกล่าวขึ้น “จอมมารที่ไม่ควรปรากฏตัวกลับอยู่แดนมนุษย์ในเวลานี้ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่ามันจะคร่าอีกกี่ชีวิตเพื่อตามหานาง”จื่อเถิงรู้ดีว่าตนเองมีขีดจำกัดเท่าใด หากมีความมุ่งมั่นแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดนางก็จะทำให้สำเร็จจงได้ ในเมื่อมีชีวิตของทุกคนเป็นเดิมพัน นางจึงไม่อาจอยู่เฉยปล่อยให้ใครต่อใครถูกทำลายทว่า พวกเขาไม่อาจหลบซ่อนอยู่ในเมืองจิวหรงได้นานเพราะสัตว์อสูรหลายตนผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 10 ตามหา

    ภพสวรรค์เทียนจวินและเทพอาวุโสถูกพลังมารกำบังตาชั่วขณะหนึ่งจึงไม่ทันสังเกตว่าจอมมารเล่นแร่แปรธาตุหลบหนีตามสังหารคนของตัวเองร่างมารของกงจื่อเย่ที่อยู่บนแดนมนุษย์ดูดกลืนพลังชีวิตผู้คนเป็นอาหารทำให้พลังความชั่วร้ายของเขาในร่างมารบนสวรรค์เพิ่มขึ้นด้วยแท่นเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดเขาเอาไว้ ถูกกงจื่อเย่สั่นสะเทือนเล็กน้อยให้อีกฝ่ายตกใจเล่น ในใจมองว่าพลังเทพเซียนเหล่านั้นช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิดเขาสั่งการหลิวอิงอิงค้นหาคำตอบว่าเทพสงครามเล่นกลอันใดกับตัวเขาก่อนที่ร่างจะสลาย พลางจ้องหน้าเทพวายุด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“ดวงตาสีฟ้า เรือนผมสีขาว เหมือนกันมากทีเดียว” กงจื่อเย่หัวเราะลั่น แม้จะยังไม่เคยพบหน้าเทพดาราตัวจริงมาก่อน แต่ภาพที่เห็นจากรายงานของโจวเหวินหลงก็ทำให้เข้าใจอย่างหนึ่งไม่ว่านางจะลงมาเกิดเป็นผู้ใด หากแต่รูปลักษณ์ของนางไม่เคยเปลี่ยน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 11 คลาดกันอีกครา

    แดนมนุษย์หยางซีอวิ๋นประคองร่างบางของอิงฮวาไว้ข้างกาย มืออีกข้างที่เหลือกำด้ามกระบี่กวัดไกวสู้กับปีศาจสองสามตนที่กำลังล้อมหน้าล้อมหลังพวกมันเอื้อมมือสาวปลายผมยาวของอิงฮวาติดไปด้วยพลางยื้อหยุดฉุดกระชากตามใจหมายจะได้ดูดกลืนพลังชีวิตเซียนแสนบริสุทธิ์“ศิษย์พี่ ปล่อยข้าไว้เถิด” อิงฮวาเอ่ยปากบอกเขา สีหน้าจริงจังเพราะรู้สึกว่ากำลังเป็นตัวถ่วงทำให้เขาเหาะเหินเดินไม่สะดวก“ไม่ได้!” หยางซีอวิ๋นปฏิเสธทันควัน “หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้เมื่อครู่ คงเป็นข้าที่ถูกพวกมันทำร้ายจนสาหัสเพียงนี้”เช้าวันนี้ ทั้งสองคนเพียงแค่ออกมาตรวจดูลาดเลาพื้นที่ภายนอกเท่านั้นเพราะเห็นว่ามารปีศาจไม่สามารถเข้ามายังป่าสนแดงฝั่งตะวันออกได้ทว่า ความสงบเงียบกลับกลายเป็นภาพลวงตาที่ปีศาจตนหนึ่งสร้างเอาไว้ ศิษย์สำนักดาราสวรรค์ถูกหลอกเข้าเต็มเปาจนเพลี่ยงพล้ำตกอยู่ในวงล้อมของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

    เมื่อได้ยินศิษย์น้องพูดเช่นนั้น หยางซีอวิ๋นได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าปลายทางของโชคชะตาจะเป็นอย่างไร จึงเอ่ยปลอบใจจื่อเถิงว่า “เช่นนั้นข้าจะพยายาม”“แล้วเจ้าเล่าอิงฮวา” จื่อเถิงถามศิษย์น้องบ้าง“ข้าก็จะพยายามเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับปากเป็นอย่างดีจู่ ๆ ท้องฟ้าโปร่งกลับมีเค้าเมฆฝนราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะพัดผ่านมาทางนี้ หยางซีอวิ๋นพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไกลจากที่นี่คงเป็นเมืองเป่ย พวกเรารีบไปหาที่พักก่อนฝนตกจะดีกว่า”หนึ่งก้านธูปต่อมาครั้นเข้ามายังใจกลางเมืองเป่ย ทหารอารักขาหลายสิบนายต่างกรูกันเข้ามาทำความเคารพพวกเขาราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน“เอ่อ... พวกท่าน...” จื่อเถิงทำตัวไม่ถูก มือไม้พันกันเป็นระวิง“ท่านเซียนสำนักดาราสวรรค์ใช่หรือไม่” หนึ่งในนั้นถามพวกเขาสีหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 21 หาโอกาส

    เจ็ดปีผ่านไปเมืองไท่หยางจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองประจำฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศระหว่างนี้จึงมีแต่ความสนุกสนานสดใส ใครต่อใครต่างรอคอยช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อที่จะชมดอกไม้ไฟด้วยใจจดจ่ออู๋เยว่ชิงวัยเจ็ดขวบวิ่งหน้ายิ้มแป้นมาแต่ไกลร้องเรียกสหายคนสนิทที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน “องค์ชายเจ็ด คืนนี้ทรงมารอดูดอกไม้ไฟด้วยกันหรือไม่เพคะ”หลินมู่หลง หรือองค์ชายเจ็ด น้องชายต่างมารดาของหลินซีเวยผู้ที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือนกลายมาเป็นเพื่อนรักรุ่นเดียวกันตั้งแต่แรกเกิดเพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน“แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารอเจ้ามาชวนอยู่พอดีเลย” เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นขนมหวานที่นางชอบให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแอบไปขอมาเพิ่มให้เจ้าเชียว รีบกินเร็วเข้า”“องค์ชายทรงเลี้ยงหม่อมฉันให้เป็นหมูอยู่หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงมองดวงตาสีน้ำตาล ท่าทีหยอกล้อทำให้เขาหัวเราะออกมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 20 ในที่สุด...

    นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หลินซีเวยพยายามตามหาวิญญาณของสวีลู่ชิงมาโดยตลอด แต่กลับไม่เจอร่องรอยที่สาวถึงนางได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรู้สึกนั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา หลินซีเวยรีบไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ในทันทีพลันได้ยินเสียงของหมอกำลังบอกอาการพะอืดพะอมของอู๋ฮูหยิน“นางกำลังตั้งท้องขอรับ” หมอผู้นั้นบอกแม่ทัพใหญ่ “ข้าจะต้มสมุนไพรบำรุงครรภ์ไว้ให้ หากนางไม่อยากอาหาร อย่างน้อยก็ให้นางค่อย ๆ จิบยาลดอาการคลื่นไส้เถิด”“เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ท่านพูดว่าอันใด” แม่ทัพใหญ่คิดว่าตนเองหูแว่ว “ฮูหยินของข้าท้องอย่างนั้นหรือ”“ขอรับ อู๋ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์” หมอยืนยันหนักแน่นว่าอาการที่นางกำลังประสบอยู่เป็นอาการของคนแพ้ท้องไม่มีผิด “แม่ทัพใหญ่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนดีหรือไม่ นางไม่เป็นอันใดมากหรอก แค่แพ้ท้องตามประสาเท่านั้นเอง”“

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 19 ชาติภพที่สอง

    ชีวิตในชาติที่สองของเทพดารากำลังเริ่มต้นใหม่ หากโชคชะตาของนางในครานี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น นางจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักของคนรอบตัว และเมื่อถึงวัยออกเรือนจะได้แต่งงานกับคนที่นางรักดังใจหมาย ครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่มีเรื่องใดให้เศร้าเสียใจอย่างในชาติก่อนเช้าสดใสวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิผู้คนในจวนของท่านแม่ทัพกำลังวุ่นวายเดินเข้าเดินออกขวักไขว่เพราะอู๋ฮูหยินเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาสีหน้าของเขากังวลเป็นห่วงฮูหยินของตนเองจนทำตัวไม่ถูก“แม่ทัพอู๋ใจเย็นก่อนเถิด” น้ำเสียงอบอุ่นของสตรีผู้หนึ่งกล่าวกับเขา นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวประหม่ากว่าผู้ใดเพราะนี่เป็นลูกคนแรกของเขากับสหายของนาง“ดูเข้าสิ สีหน้าท่าทาง ใครเห็นต้องไม่เชื่อแน่ว่าคนผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่เมืองไท่หยาง” บุรุษน่าเกรงขามอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาตบไหล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 16 บีบคั้น

    กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้นเจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้าหยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”“ไม่เห็นหรือว่าทำ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 15 บุกสำนักเซียน

    เขาซวนเหยาจื่อเถิงพยายามตั้งสติของตนเองไม่ให้วอกแวกคิดสิ่งใดเพราะเวลานี้นางจะต้องรวบรวมเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเดิมทีชีวิตที่ยืนยาวจะค่อย ๆ หล่อหลอมเมล็ดพันธุ์นั้นตามกาลเวลาที่ร่วงโรยผ่านไป ทว่า จื่อเถิงไม่อาจรอช้าได้ในเมื่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องกับนางกำลังเผชิญกับอันตรายนับไม่ถ้วนสำนักดาราสวรรค์ตกอยู่ในวงล้อมของทัพมารที่ค่อย ๆ บีบเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ให้เปิดเผยที่ซ่อนของจื่อเถิงโดยใช้ชีวิตของศิษย์ที่เหลืออยู่เป็นเครื่องต่อรองหากแต่ทุกคนรู้ดีว่าจอมมารโฉดร้ายและสัตว์อสูรที่กำลังหิวกระหายไม่เคยปล่อยผู้ใดให้รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังคิดทำลายทั้งสามภพตามอำเภอใจ พวกเขาทั้งหมดจึงปิดปากเงียบและยืนหยัดปกป้องสำนักของตัวเองและชาวเมืองที่หลบเข้ามาพึ่งพิงจื่อเถิงนั่งสมาธิรวบรวมพลังบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลอยู่ภายในหุบเขาซวนเหยาเพียงลำพัง ในใจร้อนรนจนอดทนเอาไว้ไม่ได้ทำให้สติแต

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    ความรู้สึกที่ถาโถมทำให้พลังเซียนที่ถูกจอมมารกดขี่เอาไว้แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนคิดในใจด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องพาพวกเขาหนีไปจากตรงนี้ให้ได้กงจื่อเย่สัมผัสได้ว่าพลังเซียนของนางกำลังต่อต้านเขาอย่างรุนแรงกว่าเดิมไม่อาจออมมือทำเป็นเล่นได้อีกต่อไปจึงหล่อหลอมพลังมารที่แท้จริงขึ้นมาเพื่อสังหารนางให้สิ้นซากทว่า จื่อเถิงคือผู้ที่เทพบรรพกาลเลือกเอาไว้ การทำลายนางจึงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด สายพลังบริสุทธิ์สะท้อนกลับมาทำลายตัวเขาเองจนนิ่งงันไปชั่วขณะไอมารที่ควบคุมจื่อเถิงและอิงฮวาอยู่จึงอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้พวกเขาได้โอกาสโต้กลับร่ายพลังเซียนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องจอมมารในพริบตาจนลอยกระเด็นไปคนละทางพลังกึ่งเทพของจื่อเถิงไม่อาจควบคุมได้เพราะจิตใจที่ไม่มั่นคงมันสะท้อนเข้าหาหยกสีชมพูที่อาจารย์เจ้าสำนักให้นางเอาไว้จื่อเถิงจึงรู้สึกตัวตั้งสติร่ายวิชาเคลื่อนย้ายโดยใช้พลังใ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 13 จงรักษาสัญญา

    ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วยามหยางซีอวิ๋นเดินตรวจตราดูรอบเรือนรับรองจึงรู้สึกว่าทหารอารักขาของเจ้าเมืองยืนอยู่รายรอบจนผิดสังเกต ไม่ใช่เพื่อดูแลปกป้องแต่ทำเหมือนต้องการกักขังไม่ให้พวกเขาหนีไปที่ใดแม้แต่อิงฮวาก็รู้สึกได้เช่นกันว่าบรรยากาศที่เป็นมิตรเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกน่ากลัวเข้ามาแทนที่ นางขยับเข้ามาใกล้ศิษย์พี่บอกเขาว่า “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าคนพวกนั้นแปลก ๆ เจ้าค่ะ"ผู้เป็นศิษย์พี่พยักหน้าบอกให้นางหาช่องทางหนีเตรียมเอาไว้อย่างเงียบ ๆ ส่วนเขาจะไปปลุกจื่อเถิงแล้วหนีออกไปพร้อมกันแม้ว่ายามนี้จะมีฝนกระหน่ำเทลงมา“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าทำตามคำสั่งครั้นจะแยกตัวออกไปกลับได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูที่พวกเขายืนอยู่จึงกระชับอาวุธในมือค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปตรวจสอบตุ๊บ!!!เด็กน้อยคนหนึ่งร่วงตกจากขอบหน้าต่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status