Share

ตอนที่ 10 ตามหา

last update Huling Na-update: 2025-01-06 07:00:21

ภพสวรรค์

เทียนจวินและเทพอาวุโสถูกพลังมารกำบังตาชั่วขณะหนึ่งจึงไม่ทันสังเกตว่าจอมมารเล่นแร่แปรธาตุหลบหนีตามสังหารคนของตัวเอง

ร่างมารของกงจื่อเย่ที่อยู่บนแดนมนุษย์ดูดกลืนพลังชีวิตผู้คนเป็นอาหารทำให้พลังความชั่วร้ายของเขาในร่างมารบนสวรรค์เพิ่มขึ้นด้วย

แท่นเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดเขาเอาไว้ ถูกกงจื่อเย่สั่นสะเทือนเล็กน้อยให้อีกฝ่ายตกใจเล่น ในใจมองว่าพลังเทพเซียนเหล่านั้นช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด

เขาสั่งการหลิวอิงอิงค้นหาคำตอบว่าเทพสงครามเล่นกลอันใดกับตัวเขาก่อนที่ร่างจะสลาย พลางจ้องหน้าเทพวายุด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ดวงตาสีฟ้า เรือนผมสีขาว เหมือนกันมากทีเดียว” กงจื่อเย่หัวเราะลั่น แม้จะยังไม่เคยพบหน้าเทพดาราตัวจริงมาก่อน แต่ภาพที่เห็นจากรายงานของโจวเหวินหลงก็ทำให้เข้าใจอย่างหนึ่ง 

ไม่ว่านางจะลงมาเกิดเป็นผู้ใด หากแต่รูปลักษณ์ของนางไม่เคยเปลี่ยน

จอมมารอยากโอ้อวดผู้เป็นพี่ชายของนางแทบใจจะขาดว่าเขาเข้าใกล้น้องสาวสุดที่รักของอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่กลับต้องอดใจไว้เพราะถ้าเทพสวรรค์รู้ตัวคงแห่กันลงไปในแดนมนุษย์เป็นแน่

ร่างมารในแดนมนุษย์ดูดกลืนพลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแข็งแกร่ง เวลานี้เขาเพียงแค่รอจังหวะที่เหมาะสม สังหารปรปักษ์ตนเองได้เมื่อได้ก็ไม่ต้องแสร้งเล่นละครอ่อนแอ ค่อยทำลายแท่นเสาศักดิ์สิทธิ์แล้วกำราบสรรพสิ่งบนภพสวรรค์

สวีต้าเฟิงยังคงมองไม่ออกว่าจอมมารมีแผนอันใดเพราะม่านศักดิ์สิทธิ์คุ้มกันต้นไม้แห่งโชคชะตายังคงอยู่ และหลิวอิงอิงก็รามือไปโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย 

ดวงตาสีฟ้าจ้องมองดวงตาสีม่วงแดงของคนตรงหน้าราวกับต้องการค้นหาสิ่งที่อยู่ในความคิดของเขาแต่กลับได้เห็นแค่รอยยิ้มยียวนกวนประสาท

แม้จะมีท่าทีทรมานเพราะพลังเทพกดทับ หากแต่กงจื่อเย่ยังมีหน้ามาถามสวีต้าเฟิงว่า “เล่าเรื่องน้องสาวของเจ้าให้ข้าฟังได้หรือไม่”

“...” เทพวายุเลิกคิ้วไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน

“เหตุใดนางจึงสามารถสังหารข้าได้” เขาไม่ยอมแพ้ พ่นคำถามอีกชุดใหญ่ 

“...” สวีต้าเฟิงไม่จำเป็นต้องบอกความลับสวรรค์ให้จอมมารล่วงรู้เพื่อความปลอดภัยของน้องสาวยามลืมสิ้นทุกความทรงจำและพลังเทพ

“เหตุใดเทพสวรรค์จึงไร้มารยาทเช่นนี้ เพราะข้าเป็นมาร พวกเจ้าจึงไม่อยากเสวนาด้วยอย่างนั้นหรือ” ดวงตาสีม่วงแดงจ้องเทพวายุไม่ลดละ

“...” ทุกคนต่างเงียบใจจดจ่อกับการต้านทานพลังมารปีศาจที่กงจื่อเย่แผ่ออกมาไม่หยุดหย่อน

“มารดามันเถอะ” เขาสบถพลางแสยะยิ้ม คันปากอยากเล่าสิ่งที่ตนเองเพิ่งพบเจอแทบทนไม่ไหวจึงปรายหางตามองรอบตัวหาที่ระบาย

สายตาหยุดลงตรงเซียนน้อยผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เสื้อผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่ดูแล้วคล้ายอยู่ในตำหนักเทพดาราก็ไม่ปาน กงจื่อเย่ง้างมือออก หากแต่ลำคอของนางกลับมีไอสีดำล้อมรอบ

เมื่อเขายกมือสูงขึ้น ร่างเซียนน้อยก็ลอยจากพื้นด้วยเช่นกัน

“ข้าอยากฟังเรื่องของเทพดารา จะบอกข้าสักนิดได้หรือไม่” น้ำเสียงราวขอร้องอ้อนวอนแต่การกระทำตรงกันข้าม แรงบีบรัดจำนวนมหาศาลทำให้นางหน้าถอดสี

สวีต้าเฟิงปากระบี่ประจำกายลอยลิ่วเพื่อช่วยเหลือนางแต่กลับถูกพลังของหลิวอิงอิงสะบัดหนี นางยิ้มให้คู่ปรับด้วยความเจ้าเล่ห์ก่อนจะตวัดแส้มาทางเขาพร้อมเข้าสู้รบตบมืออีกครั้ง

จอมมารไม่สนใจสิ่งอื่นใดมองเพียงแค่เซียนน้อยตรงหน้าที่กำลังจะแหลกสลายคามือ เจ็บปวดถึงเพียงนั้นนางกลับไม่ปริปากพูดเรื่องของเทพดาราสักคำ

ความอดทนของเขามีขีดจำกัด ยิ่งทุกคนตั้งใจเมินเฉยคำถามของเขาก็ยิ่งต้องหาที่ระบายก่อนจะอดทนแสดงละครต่อไปไม่ไหว

การเชือดเฉือนสังหารให้เหล่าเทพเซียนที่อยู่ตรงนั้นเห็นความสามารถของเขาจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พอจะทำได้

“ให้โอกาสพูดแล้วไม่พูด เช่นนั้นจงดับสูญไปเสีย” จอมมารแสยะยิ้มกำมือจนสุดแรงบีบร่างเซียนลึกร้าวถึงแก่นวิญญาณจนกลายเป็นเถ้าธุลี

ไร้ซึ่งแก่นวิญญาณ เซียนน้อยผู้นั้นไม่อาจฟื้นกลับคืนได้อีกต่อไป

อารมณ์คุกรุ่นยังคงไม่จางหาย เขาเลือกเหยื่อที่แสนอ่อนแอจากภพสวรรค์อีกหลายสิบในเวลาเดียวกัน ทำเช่นเดิมอย่างที่เคยทำกับเซียนน้อยเมื่อครู่

“ตอบคำถามข้า” จอมมารขู่พวกเขาให้หวาดกลัว “ชีวิตพวกเจ้า เลือกเอาเถิด” เขาทิ้งท้ายไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครเอ่ยตอบสิ่งที่เขาอยากรู้แม้แต่คนเดียว

จังหวะที่เขากำลังทำลายแก่นวิญญาณเซียน ห่าธนูจากคันศรเทพร่วงโรยลงมายังเบื้องล่าง บาดร่างมารของกงจื่อเย่จนได้เลือด ปวดแสบปวดร้อนไปทั่วร่างจนปล่อยเซียนตัวน้อยพวกนั้นหลุดมือไป

กงจื่อเย่หันขวับไปมองคนที่มาใหม่ เทพปฐพีห่าวอู๋ง้างคันศรรออยู่อีกฟากหนึ่ง สบตากันเพียงครู่แล้วปล่อยลูกศรยิงยาวข้ามกองทัพสวรรค์เสียดทะลุอกจอมมารทันที

“ลอบกัดเก่งเสียจริง” แววตาเดือดดาลปรากฏพร้อมพลังมารพลางคิดในใจว่า เห็นทีจะทนเล่นละครต่อไปไม่ได้แล้ว

จอมมารหงายฝ่ามือหลอมรวมพลังเปิดประตูข้ามแดนเรียกขุนพลมืดจากภพมาร กลิ่นอายปีศาจกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งเหม็นเน่า เยือกเย็น และชั่วร้าย

กองทัพเงาสีดำเคลื่อนขบวนตามคำสั่งเจ้านายไปทางเทพปฐพีซึ่งเป็นผู้นำกองทัพสวรรค์คนใหม่

ฝ่ายนั้นเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวและบรรยากาศดุเดือดของกงจื่อเย่แล้วยิ้มมุมปาก พลางหันไปมองเทพสายฟ้าหมิงเซียน “ระวังตัวด้วยเล่า มารน้อยนั่นฝีมือไม่เบา”

“ข้ารู้แล้วน่า” หมิงเซียนกำกระบี่สายฟ้าไว้ในมือ สั่งกองทัพสวรรค์แปรขบวนต้านทานขุนพลมืดล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่งให้ไกลเพื่อที่จอมมารจะไม่สามารถควบคุมได้ดังใจ

เสียงตะโกนของห่าวอู๋ดังขึ้นท่ามกลางความโกลาหล “เทียนจวิน ผู้อาวุโส พวกท่านอย่าเพิ่งหมดแรงไปเสียก่อนเล่า” 

อาวุธเทพบรรพกาลอยู่ในมือของเขา ห่าวอู๋ชูหอกสามง่ามขึ้นเหนือหัวแล้วฟาดลงมาเป็นทางยาว เสียงดังเปรี๊ยะลั่นเลื่อนจากตรงที่เขาอยู่ระเบิดตามทางจนมาถึงแท่นเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ผนึกจอมมารเอาไว้อย่างจัง

ร่างมารของกงจื่อเย่กระเด็นห่างไปสิบจั้ง แรงโจมตีเฉือนแขนข้างซ้ายจนหลุดห้อย 

“เฮอะ” จอมมารไม่คาดคิดว่าอาวุธเทพเล่มนี้จะทะลวงเกราะกำบังของเขาได้ 

ทว่า ผู้อาวุโสกลับโวยวายห่าวอู๋ทันทีที่เห็นแท่นเสาศักดิ์สิทธิ์แตกละเอียด “เจ้าทำอันใดลงไป!!!”

“กำจัดจอมมารอย่างไรเล่า” เจ้าตัวเลิกคิ้วตอบ ไม่แยแสสิ่งใด นิสัยกวนประสาทยียวนผู้อาวุโสยังคงเหมือนเดิม ถ้าไม่ติดที่พี่ชายเป็นเทียนจวินคงถูกเตะลงมาจากสวรรค์นานแล้ว

หากไม่ใช่เพราะว่าภพสวรรค์ถูกรุกราน ป่านนี้แล้วเทพเลือดร้อนชวนหาเรื่องจะยังคงถูกกักบริเวณอยู่ในเกาะเซียนอีกนับพันปี

“นี่ พวกท่านคงไม่ได้คิดว่าเสาเปราะบางนี่จะผนึกเจ้านั่นได้ใช่หรือไม่” ห่าวอู๋ทำสีหน้าไม่เชื่อตาตัวเองล้อเลียนผู้อาวุโสที่ส่งเขาไปลงเกาะ

“ห่าวอู๋!!!” เสียงเข้มเตือนให้น้องชายเพลา ๆ นิสัยเช่นนั้น อย่างไรเสียภพสวรรค์ก็อยู่ในสงคราม แม้ห่าวอู๋จะไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด ทั้งยังบ้าระห่ำคิดสะบั้นศัตรูแหลกหลาญ แต่จอมมารผู้นี้ก็ไม่ธรรมดา

แม้เทพปฐพีจะเป็นหนึ่งในสิบเทพสวรรค์ที่มีพละกำลังเหนือชั้นแต่ก็ไม่อาจประมาทได้

กงจื่อเย่มองศัตรูผู้มาใหม่ตาขวางเพราะประเมินกำลังพลาดไป ก่อนจะร่ายพลังมารรักษาร่างที่ฉีกขาดของตนเองแล้วเรียกดาบเขี้ยวอสูรกลับมา 

“เทียนจวิน อย่าเพิ่งดุข้านักเลย ดูสิ มารเด็กน้อยนั่นฟื้นแล้ว” ห่าวอู๋อายุมากกว่าจอมมารหลายพันปี ย่อมมองว่าคนตรงหน้าเหมือนเด็กแรกเกิด ไม่เก็บมาใส่ใจด้วยซ้ำ

“เฮอะ มารเด็กน้อยอย่างนั้นหรือ” จอมมารเบื่อหน่ายเต็มทนที่มีใครมาเรียกเขาเช่นนั้นจึงกัดฟันกรอด เลือดขึ้นหน้าเล็งปลายดาบเขี้ยวอสูรไปทางห่าวอู๋ “ชังน้ำหน้ายิ่งนัก”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 11 คลาดกันอีกครา

    แดนมนุษย์หยางซีอวิ๋นประคองร่างบางของอิงฮวาไว้ข้างกาย มืออีกข้างที่เหลือกำด้ามกระบี่กวัดไกวสู้กับปีศาจสองสามตนที่กำลังล้อมหน้าล้อมหลังพวกมันเอื้อมมือสาวปลายผมยาวของอิงฮวาติดไปด้วยพลางยื้อหยุดฉุดกระชากตามใจหมายจะได้ดูดกลืนพลังชีวิตเซียนแสนบริสุทธิ์“ศิษย์พี่ ปล่อยข้าไว้เถิด” อิงฮวาเอ่ยปากบอกเขา สีหน้าจริงจังเพราะรู้สึกว่ากำลังเป็นตัวถ่วงทำให้เขาเหาะเหินเดินไม่สะดวก“ไม่ได้!” หยางซีอวิ๋นปฏิเสธทันควัน “หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้เมื่อครู่ คงเป็นข้าที่ถูกพวกมันทำร้ายจนสาหัสเพียงนี้”เช้าวันนี้ ทั้งสองคนเพียงแค่ออกมาตรวจดูลาดเลาพื้นที่ภายนอกเท่านั้นเพราะเห็นว่ามารปีศาจไม่สามารถเข้ามายังป่าสนแดงฝั่งตะวันออกได้ทว่า ความสงบเงียบกลับกลายเป็นภาพลวงตาที่ปีศาจตนหนึ่งสร้างเอาไว้ ศิษย์สำนักดาราสวรรค์ถูกหลอกเข้าเต็มเปาจนเพลี่ยงพล้ำตกอยู่ในวงล้อมของ

    Huling Na-update : 2025-01-13
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

    เมื่อได้ยินศิษย์น้องพูดเช่นนั้น หยางซีอวิ๋นได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าปลายทางของโชคชะตาจะเป็นอย่างไร จึงเอ่ยปลอบใจจื่อเถิงว่า “เช่นนั้นข้าจะพยายาม”“แล้วเจ้าเล่าอิงฮวา” จื่อเถิงถามศิษย์น้องบ้าง“ข้าก็จะพยายามเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับปากเป็นอย่างดีจู่ ๆ ท้องฟ้าโปร่งกลับมีเค้าเมฆฝนราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะพัดผ่านมาทางนี้ หยางซีอวิ๋นพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไกลจากที่นี่คงเป็นเมืองเป่ย พวกเรารีบไปหาที่พักก่อนฝนตกจะดีกว่า”หนึ่งก้านธูปต่อมาครั้นเข้ามายังใจกลางเมืองเป่ย ทหารอารักขาหลายสิบนายต่างกรูกันเข้ามาทำความเคารพพวกเขาราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน“เอ่อ... พวกท่าน...” จื่อเถิงทำตัวไม่ถูก มือไม้พันกันเป็นระวิง“ท่านเซียนสำนักดาราสวรรค์ใช่หรือไม่” หนึ่งในนั้นถามพวกเขาสีหน้

    Huling Na-update : 2025-01-15
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 13 จงรักษาสัญญา

    ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วยามหยางซีอวิ๋นเดินตรวจตราดูรอบเรือนรับรองจึงรู้สึกว่าทหารอารักขาของเจ้าเมืองยืนอยู่รายรอบจนผิดสังเกต ไม่ใช่เพื่อดูแลปกป้องแต่ทำเหมือนต้องการกักขังไม่ให้พวกเขาหนีไปที่ใดแม้แต่อิงฮวาก็รู้สึกได้เช่นกันว่าบรรยากาศที่เป็นมิตรเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกน่ากลัวเข้ามาแทนที่ นางขยับเข้ามาใกล้ศิษย์พี่บอกเขาว่า “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าคนพวกนั้นแปลก ๆ เจ้าค่ะ"ผู้เป็นศิษย์พี่พยักหน้าบอกให้นางหาช่องทางหนีเตรียมเอาไว้อย่างเงียบ ๆ ส่วนเขาจะไปปลุกจื่อเถิงแล้วหนีออกไปพร้อมกันแม้ว่ายามนี้จะมีฝนกระหน่ำเทลงมา“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าทำตามคำสั่งครั้นจะแยกตัวออกไปกลับได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูที่พวกเขายืนอยู่จึงกระชับอาวุธในมือค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปตรวจสอบตุ๊บ!!!เด็กน้อยคนหนึ่งร่วงตกจากขอบหน้าต่

    Huling Na-update : 2025-01-17
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    ความรู้สึกที่ถาโถมทำให้พลังเซียนที่ถูกจอมมารกดขี่เอาไว้แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนคิดในใจด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องพาพวกเขาหนีไปจากตรงนี้ให้ได้กงจื่อเย่สัมผัสได้ว่าพลังเซียนของนางกำลังต่อต้านเขาอย่างรุนแรงกว่าเดิมไม่อาจออมมือทำเป็นเล่นได้อีกต่อไปจึงหล่อหลอมพลังมารที่แท้จริงขึ้นมาเพื่อสังหารนางให้สิ้นซากทว่า จื่อเถิงคือผู้ที่เทพบรรพกาลเลือกเอาไว้ การทำลายนางจึงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด สายพลังบริสุทธิ์สะท้อนกลับมาทำลายตัวเขาเองจนนิ่งงันไปชั่วขณะไอมารที่ควบคุมจื่อเถิงและอิงฮวาอยู่จึงอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้พวกเขาได้โอกาสโต้กลับร่ายพลังเซียนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องจอมมารในพริบตาจนลอยกระเด็นไปคนละทางพลังกึ่งเทพของจื่อเถิงไม่อาจควบคุมได้เพราะจิตใจที่ไม่มั่นคงมันสะท้อนเข้าหาหยกสีชมพูที่อาจารย์เจ้าสำนักให้นางเอาไว้จื่อเถิงจึงรู้สึกตัวตั้งสติร่ายวิชาเคลื่อนย้ายโดยใช้พลังใ

    Huling Na-update : 2025-01-19
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 15 บุกสำนักเซียน

    เขาซวนเหยาจื่อเถิงพยายามตั้งสติของตนเองไม่ให้วอกแวกคิดสิ่งใดเพราะเวลานี้นางจะต้องรวบรวมเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเดิมทีชีวิตที่ยืนยาวจะค่อย ๆ หล่อหลอมเมล็ดพันธุ์นั้นตามกาลเวลาที่ร่วงโรยผ่านไป ทว่า จื่อเถิงไม่อาจรอช้าได้ในเมื่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องกับนางกำลังเผชิญกับอันตรายนับไม่ถ้วนสำนักดาราสวรรค์ตกอยู่ในวงล้อมของทัพมารที่ค่อย ๆ บีบเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ให้เปิดเผยที่ซ่อนของจื่อเถิงโดยใช้ชีวิตของศิษย์ที่เหลืออยู่เป็นเครื่องต่อรองหากแต่ทุกคนรู้ดีว่าจอมมารโฉดร้ายและสัตว์อสูรที่กำลังหิวกระหายไม่เคยปล่อยผู้ใดให้รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังคิดทำลายทั้งสามภพตามอำเภอใจ พวกเขาทั้งหมดจึงปิดปากเงียบและยืนหยัดปกป้องสำนักของตัวเองและชาวเมืองที่หลบเข้ามาพึ่งพิงจื่อเถิงนั่งสมาธิรวบรวมพลังบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลอยู่ภายในหุบเขาซวนเหยาเพียงลำพัง ในใจร้อนรนจนอดทนเอาไว้ไม่ได้ทำให้สติแต

    Huling Na-update : 2025-01-21
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 16 บีบคั้น

    กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้นเจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้าหยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”“ไม่เห็นหรือว่าทำ

    Huling Na-update : 2025-01-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

    Huling Na-update : 2025-01-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

    Huling Na-update : 2025-01-27

Pinakabagong kabanata

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 40 โกลาหล

    หลินซีเวยสัมผัสได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเขาจึงปลุกให้อู๋เยว่ชิงตื่นจากหลับฝัน เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาถึงตำหนักจันทราจนทำให้นางอกสั่นขวัญแขวนไปด้วยดวงตาสีฟ้ามองอีนั่วที่กำลังหลับแล้วสบตากับหลินซีเวย “ไม่จริงใช่หรือไม่เพคะ ไม่ใช่ฝีมือของลูก”เขาส่ายหน้าปิดบังความจริง “อย่ากังวลไปเลย ลูกเราไม่มีทางทำอันใดเช่นนั้นได้หรอก เชื่อข้าเถอะนะเยว่ชิง”“เพคะ หม่อมฉันเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรอีนั่วก็เป็นลูกของเรา ไม่มีทางเป็นมารปีศาจอย่างแน่นอน”ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดเพราะพลังมารของอีนั่ว เขาจึงหลบหน้าชายาตนเองเพราะไม่อยากให้เป็นห่วงก่อนจะอุ้มอีนั่วขึ้นมา “เยว่ชิง วังหลวงคงไม่ปลอดภัยแล้ว เรารีบหนีออกไปหลบอยู่ที่จวนแม่ทัพใหญ่สักพักเถิด”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 39 มารปีศาจอาละวาด

    เช้าวันต่อมาองครักษ์ส่งข่าวให้ทุกคนในวังหลวงได้รับรู้ว่านักพรตชราผู้นั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ความสิ้นหวังจึงมาเยือนคนในตำหนักจันทรายิ่งนักอู๋เยว่ชิงกอดอีนั่วเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะนางสัมผัสได้ว่ายามที่อีนั่วอยู่กับนาง อาการทรมานจะไม่แสดงออกมา หากแต่เมื่อใดที่นางเผลอหลับใหล พลังมารของอีนั่วกลับปะทุขึ้นมาทีละนิดจนมิอาจกลั้นนับวันยิ่งควบคุมไม่ได้ อู๋เยว่ชิงอดนอนฝืนตัวเองดูแลอีนั่วจนหลินซีเวยรู้สึกเป็นห่วงนางไม่แพ้กัน แต่เขากลับโทษตัวเองที่ทำอันใดเพื่อช่วยคนที่เขารักทั้งสองคนไม่ได้เลย“หม่อมฉันไม่เป็นอันใดเพคะ” นางลูบใบหน้าซูบเซียวของหลินซีเวยทั้งที่มือของนางแทบไม่มีแรงเหลือเขาแนบใบหน้ากับฝ่ามืออบอุ่นนั้น สายตาห่วงใยฉายชัดแต่ก็จำต้องแอบให้นางดื่มสมุนไพรเพื่อพัก

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 38 ปีศาจน้อย

    “องค์ชายสาม ไม่ได้พบพระองค์มานานพระวรกายแข็งแรงดีแล้วใช่หรือไม่” นักพรตผู้นั้นถามไถ่แล้วมองมารน้อยที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มไร้เดียงสาหลินซีเวยท่าทางนอบน้อม “เรื่องครั้งนั้น ข้ารู้สึกขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก เวลานี้อาการเจ็บป่วยไม่รู้สาเหตุจึงหายเป็นปลิดทิ้ง”ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่พึมพำว่า “ดีแล้ว” จากนั้นจึงยื่นมือมาหามารน้อยบ้าง อีนั่วผู้เป็นมิตรกับทุกคนจึงวางมือลงบนฝ่ามือของนักพรตชราอย่างไม่คิดระแวงครั้นคนตรงหน้าสัมผัสได้ว่าพลังมารแฝงอยู่ในแก่นวิญญาณจึงคิดไปว่าอาจจะเป็นผลทำให้อีนั่วต้องเจ็บป่วยเหมือนอย่างที่หลินซีเวยเคยประสบพบเจอ แต่พอได้ยินเสียงหง่าวดังมาจากด้านล่างจึงเข้าใจได้ว่าครั้งนี้คงจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอย่างแน่นอน“แมวน้อยตัวนี้มาจากที่ใดหรือ” เขาเอ่ยถามอู๋เยว่ชิงเพราะสัมผัสไ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 37 เหตุใดไม่กอดข้าบ้าง

    หลายวันต่อมาบรรดาปู่ย่าตายายของอีนั่วมาหาหลานพร้อมของรับขวัญเต็มไม้เต็มมือ ทั้งกำไลหยก กำไลเงิน แผ่นทองคำ จี้ทองและอีกสารพัดจนกล่องของขวัญในตำหนักจันทรากองพะเนินญาติสนิทมิตรสหายหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย แม้กระทั่งคนที่อยู่ไกลอย่างหลินมู่หลงยังส่งจดหมายมาแสดงความยินดีกับอู๋เยว่ชิงเจ้าตัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยามที่อ่านจดหมายทางไกลนั้น เรียกความอิจฉาเล็กน้อยจากเจ้าของตำหนักอย่างยิ่ง อู๋เยว่ชิงพลันรู้สึกได้ว่าสายตาใครบางคนมองนางมาตั้งแต่เมื่อครู่จึงค่อย ๆ หันกลับไป คลี่ยิ้มบางเรียกอีกฝ่ายเสียงหวาน “เสด็จพี่เพคะ”หลินซีเวยได้ยินนางเรียกรีบเดินเข้ามาหา “เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือ”“ทรงก้มลงมาใกล้ ๆ หม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 36 ลูกพ่อ... อยากมีน้องสาวหรือไม่

    ผ่านไปสามเดือนอู๋เยว่ชิงรับรู้ได้ว่าลูกน้อยในท้องกำลังอารมณ์ดีเพราะได้ออกมาเดินเล่นในสวนดอกไม้ข้างนอกบ้างหลังจากต้องอุดอู้อยู่ในตำหนักหลายวันเพราะนางต้องคอยดูแลหลินซีเวยที่จู่ ๆ ก็เจ็บออดแอดขึ้นมา“เจ็บมากหรือไม่เพคะ” อู๋เยว่ชิงถามไถ่อาการของเขาด้วยความเป็นห่วง หลายวันมานี้ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดไปมากนัก นางนึกว่าอาการแพ้ท้องจะหายไปแล้วแต่เขากลับเป็นหนักกว่าเดิมจนได้“อย่ากังวลเลย ยิ่งเจ้าทำหน้าขมวดคิ้วชนกันอย่างนี้แล้วเดี๋ยวอีนั่วจะพลอยเป็นห่วงเจ้าไปอีกคน” องค์ชายสามลูบใบหน้านางแผ่วเบาพลางจิ้มนิ้วยืดคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกแล้วบอกคนตรงหน้าว่า “เจ้านั่งเล่นกับลูกอยู่ตรงนี้สักพักหนึ่งเถอะ ข้าขอไปนอนงีบรออยู่ข้างในตำหนัก”“หม่อมฉัน...” อู๋เยว่ชิงคิดจะตามไปดูแลเขาด้วยแต่อีนั่วน้อยคงไม่ยอม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 35 สุสานเทพเซียน

    วันต่อมาหลังจากฮ่องเต้ฟ่านเจียรุ่ยหารือกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรงร่วมกับองค์ชายและคณะทูตเกือบทั้งวันจึงได้เชิญชวนให้ทุกคนอยู่ร่วมงานต้อนรับในค่ำคืนนั้นด้วยการแสดงร่ายรำจากสตรีงามดึงดูดใจคณะทูตต่างเมืองจนพากันพูดเป็นเสียงเดียวว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก นางกำนัลหลายร้อยคนนำเหล้าสุรารสเลิศที่หมักบ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงอาหารพื้นเมืองประจำแคว้นทยอยออกมาวางบนโต๊ะยาวเพื่อรับรองแขกบรรยากาศรื่นเริงเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองเพราะคนในแคว้นอันซีต่างเป็นมิตรกันทั้งนั้นหลินมู่หลงมองไปยังฮ่องเต้และบรรดาชายาสนมเอกของเขาแล้วยิ้มออกมา “หากข้ามีสนมมากมายเช่นนั้น สือหลิวคงจะทุบหลังข้าหักเป็นสองท่อนแน่ ๆ เลยพี่สาม”“วันหนึ่งเจ้าต้องกลายเป็นฮ่องเต้เมืองหมิงเหวิน อย่าง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 34 ห่างไกลกัน

    หนึ่งเดือนต่อมา ณ ตำหนักจันทรา“เยว่ชิง เจ้าดูนี่สิ วันนี้ข้าสั่งให้คนนำดอกไม้ที่เจ้าชอบมาปลูกในสวน ถึงวันที่เจ้าคลอดเมื่อใด ดอกไม้พวกนี้คงจะบานสะพรั่งพอดี” หลินซีเวยเอ่ยปากบอกพลางกุมมืออู๋เยว่ชิงที่กำลังลูบท้องของตนเอง“พระวรกายดีขึ้นแล้วหรือเพคะ ไม่กี่วันก่อนยังทรงพระอาเจียนอยู่เลย” นางยังคงนึกเป็นห่วงอาการแพ้ท้องแทนของหลินซีเวยเหมือนทุกครั้ง แต่คนข้าง ๆ ก็ยังตื่นเต้นกับการจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรกจึงไม่สนใจร่างกายของตนเอง“เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนั้นเลย เห็นเจ้ากับลูกสบายดี ข้าก็โล่งใจมากแล้ว” มือหนาลูบเรือนผมของนางอย่างแผ่วเบา “ข้ามีของขวัญอีกหนึ่งชิ้นให้เจ้า”หลินซีเวยหยิบปิ่นหยกเขียวบริสุทธิ์ออกมาให้นางดู ตรงด้ามสลักคำว่า รักมั่นนิรันดร์ ก่อนจะปักปิ่นบนเรือนผมให้ชายาของตนเอง“ขอบพระทัยเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มกว้างและรู้สึกขอบคุณความเอาใจใส่ดูแลของหลินซีเวยยิ่งนัก หนึ่งเดือนมานี้เขาตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างให้นางจนนางแทบไม่ต้องแตะต้องอันใดเลย แม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทน

    คืนนั้น ข่าวคราวของชายาองค์ชายสามแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง ปีนี้นับว่ามีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาจนใครหลายคนพากันขอบคุณสวรรค์หลังจากหมอหลวงกลับออกไป หลินซีเวยยิ่งตัวติดกับอู๋เยว่ชิงไม่ห่างมากกว่าเดิม คอยประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน“หม่อมฉันดื่มเองได้เพคะ” นางรีบรับถ้วยยามาถือไว้เพราะเกรงใจคนตรงหน้าที่ไม่เคยต้องปรนนิบัติดูแลใครอย่างใกล้ชิดมาก่อน“ข้าอยากดูแลเจ้าเหมือนครานั้นที่เจ้าดูแลข้า ไม่ได้หรือ” หลินซีเวยไม่ยอมปล่อยถ้วยยานั้น อู๋เยว่ชิงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงได้แต่ทำตามโดยปริยายเช้าวันต่อมาฮ่องเต้และฮองเอาจึงมาแสดงความยินดีกับทั้งสองคนพร้อมอวยพรให้สุขภาพร่างกายของอู๋เยว่ชิงและเด็กน้อยในท้องแข็งแรง ไร้โรคภัยเบียดเบียนไท่จื่อกับชายารวมถึงหลินมู่หลงและองค์หญิงสือหลิวก็มาพร้อมหน้ากัน หากแต่ปฏิกิริยาของหลินซีเวยดูแตกต่างไปจากตอนที่บิดาของเขามาเยี่ยมนักบุรุษใดนอกเหนือจากที่เขาคิดอย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้นางเป็นอันขาด“พี่สาม ข้าจะขอพบนางสักครู่ไม่ได้หรือ” หลินม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 32 ท้อง

    เสด็จพี่ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามหลินซีเวยทันทีที่เห็นหน้า“นั่นสิพี่สาม วังหลวงออกจะกว้างใหญ่ บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นท่านที่นี่” หลินมู่หลงพูดเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า “บังเอิญอย่างยิ่งที่มืดค่ำป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่กลับตำหนักของตนแต่มาอยู่กับนาง”“พระพักตร์ไม่สบอารมณ์ พระสุรเสียงหงุดหงิด ท่าทางฉุนเฉียว” เสียงขององค์หญิงสือหลิวลอยมาแต่ไกลพลางมองคนของตนเองราวกับจะบอกว่า “เห็นไหมเล่า เป็นอย่างที่ข้าบอกจริง ๆ ด้วย”“เป็นอย่างไรหรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามนางบ้าง“การกระทำเช่นนี้ องค์ชายสามคงจะตกไหน้ำส้มกระมัง” องค์หญิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แล้วหันไปบอกกับหลินมู่หลงว่า “เราสองคนขอตัวกลับกันก่อนดีกว่า” แล้วคล้องแขนดึงคนข้าง ๆ ไปทันที“เอ่อ...” หลินมู่หลงกำลังจะเอ่ยปากแต่ทำได้แค่ยกมือโบกลาอู๋เยว่ชิงเท่านั้นดวงตาสีม่วงแดงของหลินซีเวยขุ่นเคืองไม่น้อยจนอู๋เยว่ชิงนึกถึงคำที่องค์หญิงบอกเมื่อครู่ “เสด็

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status