Beranda / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

Share

ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-18 07:00:34

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น คนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง

“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”

กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป

“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมารจะเป็นอย่างไรต่อ “ชีวิตของนางในชาตินั้นจบสิ้นลงไปแล้ว ตัวตนที่เจ้าเคยพบเจอย่อมไม่มีอีก มารร้ายอย่างเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่”

“ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วมิใช่หรือว่าข้าต้องการตัวนาง” เขายังยืนยันคำเดิม “แค่ส่งนางมาให้ข้า ถือว่าจบกัน”

เหล่าเทพเซียนที่อยู่บริเวณนั้นต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ แค่เขาได้ตัวเทพดาราทุกอย่างก็จะจบอย่างนั้นหรือ

ทว่า ภพสวรรค์คงไม่อาจส่งตัวนางให้กงจื่อเย่ได้ ในเมื่อนางคือความหวังหนึ่งที่จะทำลายจอมมาร

ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังโต้เถียงกันไปมาเพราะไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ข่าวคราวด้านล่างก็แพร่สะพัดไปถึงลานลงทัณฑ์ด้านบนยอดเขาอย่างเสียมิได้

สวีลู่ชิงถอนหายใจไม่คิดว่าเวลานั้นจะมาถึงเร็วเพียงนี้ เดิมทีคิดว่าจะค่อย ๆ รับอสนีบาตทีละครั้งสะสมเรื่อย ๆ แต่ในเมื่อจอมมารปรากฏตัวคงไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป

นางหันไปทางเทพสายฟ้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ประสานสายตาอย่างรู้กันว่าใครต้องทำเช่นไรพลันเมฆครึ้มเปลี่ยนสีหมุนวนราวกับพายุเหนือยอดเขา

เสียงคำรามและสายฟ้าทะลุเมฆหนาพุ่งผ่านร่างเทพดารา แม้จะเม้มปากกัดฟันไว้แน่นแต่ความเจ็บนั้นทำให้นางสั่นสะท้าน แก่นวิญญาณที่กำลังจะปริแตกทำให้ความทรมานเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ดวงตาสีม่วงแดงจ้องขึ้นไปยังด้านบน กระวนกระวายโดยไม่รู้สาเหตุเรียกอาวุธประจำกายออกมาถือ แววตาน่ากลัวระคนร้อนรนฉายออกมา

“ถอยไป!” เขาตวาดเสียงดังก้อง ทำทีจะพุ่งเข้ามายังเขตแดนสวรรค์ด้านในแต่ถูกเทพปฐพียิงธนูสกัดเอาไว้ห้ามไม่ให้เขาย่างกรายแม้แต่ก้าวเดียว

เวลานั้น เสียงกระหึ่มของฟ้าด้านบนยังคงไม่หยุดลงง่าย ๆ กงจื่อเย่มองเห็นแสงสว่างที่ใครบางคนกำลังปั่นป่วนเมฆหนาในวงพายุเพื่อเร่งให้ฟ้าพิโรธ

“ข้าบอกให้ถอยไป” เขาโพล่งออกมาราวกับย้ำเตือนเทพเซียนเหล่านั้นเป็นครั้งสุดท้าย ใจล่องลอยไปถึงที่หมายแต่กายยังอยู่ที่เดิมไปไหนไม่ได้

“ถ้าไม่อยากตายก็ถอยไป!”

“...” ทุกคนมองหน้ากันไม่รู้ว่าจอมมารเล่นเล่ห์อันใด “เจ้าน่ะหรือจะปล่อยให้ผู้ใดรอดชีวิต” หนึ่งในนั้นแสยะยิ้ม

“...” คิ้วหนาขมวดไม่สบอารมณ์ นึกอยากจะเปลี่ยนใจแล้วจัดการสิ่งกีดขวางให้สิ้นซาก

“เจ้าสังหารนางในชาติก่อน ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้” เทพวายุออกมายืนขวางทางเอาไว้

คำพูดของเขาทำให้กงจื่อเย่ชะงักไปครู่หนึ่งเพราะเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาเสมอมา อีกทั้งยังรู้ด้วยว่านางเจ็บปวดมากเพียงไร

เปรี้ยง!

อสนีบาตครั้งที่สองเพิ่งสาดลงมาจากเบื้องบนอย่างรุนแรง คราวนี้เสียงร้องของสวีลู่ชิงสะท้อนมาถึงข้างล่างเขตแดนศักดิ์สิทธิ์จนทำให้หัวใจของจอมมารสั่นระริกไปด้วย

สุดท้ายแล้ว เขาจึงร่ายอาคมเปิดภพมารพร้อมสั่งการปีศาจใต้อาณัติให้ถล่มใครก็ตามที่คิดขวางทางโดยไม่ไว้หน้า ในขณะที่สายตาเหลือบมองไปยังที่แห่งนั้นตลอดเวลา มือข้างหนึ่งร่ายอาคมสู้กับเทพปฐพี ส่วนอีกข้างตวัดดาบเขี้ยวอสูรบังคับให้มันทำลายม่านเขตแดนสวรรค์

เขาเร่งมือโดยไม่สนว่าจะต้องผลาญพลังมารปีศาจของตนไปเท่าไหร่เพราะทนรอไม่ไหว ท่าทางของเขาอยู่ในสายตาของเทพวายุที่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล

ครั้งแรกที่ปะทะกัน แววตาของจอมมารเย็นชาถึงขนาดที่ฆ่าผู้ใดไปก็ไม่รู้สึกอันใดจึงมักจะได้เห็นรอยยิ้มสนุกสนานของเขาเวลาที่เลือดของเหล่าเทพเซียนสาดกระเซ็น

ครั้งนี้เขาตั้งสมาธิจดจ่อกับการทำลายม่านเขตแดนเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจว่าคมหอกสามง่ามของเทพปฐพีจะบาดร่างกายของเขามากเท่าใด

เปรี๊ยะ!

ครั้นได้ยินเสียงม่านเขตแดนปริร้าว จอมมารยิ้มกว้างแล้วรวบรวมพลังไว้ในมือทั้งสองข้างเล็งเป้าหมายไว้เป็นอย่างดีแล้วปล่อยพลังมารออกมา

ทำลายปราการที่กั้นไม่ให้เขาเข้าไปข้างในจนราบในคราวเดียวแล้วใช้ช่วงเวลาชุลมุนนั้นหายตัวไป เหลือทิ้งไว้ก็เพียงแต่ลูกสมุนปีศาจที่กำลังกรูเข้ามาปะทะกับกองทัพสวรรค์อย่างหิวกระหาย

ก่อนที่อสนีบาตครั้งที่สามจะถล่มลงมา กงจื่อเย่ฝืนแทรกร่างมารปีศาจเข้าไปอยู่ใจกลางลานลงทัณฑ์โดยไม่สนสายตาของผู้ใดที่กำลังตกตะลึงไม่คิดว่ามารอย่างเขาจะเข้ามาถึงที่แห่งนี้ได้ มิหนำซ้ำยังกล้านำพาตัวเองเข้าสู่แดนประหารราวกับคนโง่เขลา

เทพวายุตามหลังมาทันทีจึงได้เห็นว่าจอมมารไร้ใจกำลังกอดร่างของสวีลู่ชิงเอาไว้ไม่ยอมปล่อย อีกทั้งยังใช้พลังมารห่อล้อมตัวนางเอาไว้ สายตาลึกล้ำที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้เทพวายุแทบไม่เชื่อเลยว่า “เขาเป็นห่วงนางอย่างนั้นหรือ”

สวีต้าเฟิงพยายามฝ่าเข้าไปใจกลางลานแต่กลับถูกเหล่าเทพอื่น ๆ ห้ามเอาไว้ก่อนเพราะอสนีบาตไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม หากไม่ใช่เวลาผ่านด่านเคราะห์ สุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไปเวลานี้มีแต่จะเร่งเวลาตายมากขึ้น

ไม่ทันที่จะได้ทำอันใด ฟ้าร้องคำรามลั่นก่อนจะเกิดแสงแปลบปลาบและสายฟ้าครั้งที่สามฟาดลงมาอย่างแรง

เปรี้ยง!

สีหน้าจอมมารยังคงนิ่งเฉยราวกับไม่ได้รับผลกระทบอันใดแต่แววตากลับไม่อาจปิดบังได้ น้ำเสียงเอ่ยถามคนในอ้อมกอดที่เพิ่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งในรอบหนึ่งร้อยปี

“เยว่ชิง เจ็บที่ใดหรือไม่” เสียงกระซิบแผ่วเบาด้วยความห่วงใยทำให้สวีลู่ชิงงงงวยว่าเขาคือผู้ใด แต่เพราะเห็นพลังมารมืดดำแผ่ออกมารอบตัวจึงเข้าใจได้ในทันทีว่าเจ้าของดวงตาสีม่วงแดงตรงหน้าคือมารผู้นั้นอย่างแน่นอน

“ปล่อยข้า!” นางผลักอกเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี สีหน้าและแววตายามนี้ทำราวกับเขาคือศัตรูของนาง

“เยว่ชิง” กงจื่อเย่เรียกนางเหมือนอย่างเคยพลางจับมือที่พยายามดันตัวเขาเอาไว้ “เหตุใดจึงมีท่าทีห่างเหินเพียงนี้”

“...” นางขมวดคิ้วเรียวดิ้นรนจะหนีจากอ้อมแขนจอมมารแต่ทำไม่ได้เพราะเรี่ยวแรงถูกสายฟ้ากลืนกินไปหลายส่วน

กงจื่อเย่ยังกอดรัดร่างบางเอาไว้เหมือนอย่างเดิม ในใจคิดแต่เพียงว่าเทพดาราคงจะกลับมายังลานลงทัณฑ์อีกครั้งเพื่อรับอสนีบาตให้ครบ

ดังนั้นแล้ว เขาจึงไม่อาจปล่อยให้นางหนีไปได้และถ้าเป้าหมายของนางคือการกำจัดมารปีศาจอย่างเขา เห็นทีวิธีที่เขาตัดสินใจคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมล็ดพันธุ์หยั่งรากลึกกว่าเดิมหรืออย่างไร กงจื่อเย่จึงสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของนางกำลังจะสลายหายไปก่อนที่จะรับสายฟ้าครบสิบเก้าครั้ง

หากเป็นเช่นนั้น จอมมารคงจะยอมไม่ได้ ร้อยปีที่ผ่านมาไม่อาจสัมผัสได้ว่านางอยู่แห่งหนใดก็ทรมานแทบขาดใจ ถ้าแก่นวิญญาณนางแหลกสลายไป เขาจะอยู่ได้อย่างไร

“เยว่ชิง หน้าที่อันยิ่งใหญ่ของเจ้า ข้าจะทำให้มันสำเร็จเองเพราะฉะนั้นแล้ว เจ้าอย่าเพิ่งผลักไสข้าเลยนะ อย่างน้อยให้ข้าได้กอดเจ้านานกว่านี้ก็ยังดี อสนีบาตพาดผ่านร่างข้าครบเมื่อใด ข้าจะไม่มาก่อกวนเจ้าอีก” เขาหยุดพูดฝืนยิ้มออกมาเพราะรู้ดีแก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น “หากข้าจะต้องหายไปก็ขอให้เจ้ายังคงอยู่”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-20
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-24
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-25

Bab terbaru

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 48 ตามหาทุกหนแห่ง

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 47 โกรธ

    นับตั้งแต่นั้นมากงจื่อเย่จึงไม่ออกไปที่ไหนอีกติดอยู่ในภพมารเพื่อกระทำบางอย่างด้วยความตั้งใจจนไม่รู้ตัวว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าใดแล้วเมื่อผู้ปกครองละเว้นหน้าที่ ความวุ่นวายในภพมารจึงเริ่มบังเกิดทีละส่วน หากแต่ลูกน้องทั้งสามยังคงใช้อำนาจของเขาคอยจัดการได้อยู่แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ตามครั้งนี้เช่นเดียวกัน ไอมารปีศาจชั่วร้ายก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีกงจื่อเย่จะคอยดูดซับพลังพวกนั้นมาเป็นอาหารของตนเองแต่เวลานี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด พวกปีศาจและสัตว์อสูรจึงได้ทีฉกฉวยมันมาเป็นของตัวเองจึงทำให้มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นแต่บางขณะ ไอมารปีศาจที่แข็งแกร่งย่อมปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเดียวกันและเป็นฝ่ายกัดกินมารปีศาจพวกนั้นแทนที่จนสามารถหล่อหลอมรูปลักษณ์สร้างตัวตนขึ้นมาได้&n

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 46 รักและคิดถึง

    กาลเวลาผันผ่านจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปีเหมันตฤดูเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง กงจื่อเย่ยังคงเป็นดังเช่นวันวาน นัยน์ตาสีม่วงแดงของจอมมารเหม่อมองสรรพสิ่งรอบตัวถวิลหาคนที่จากไปอย่างไร้ร่องรอยแม้พยายามลบเลือนนางออกไปจากใจแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่คิดจึงได้รู้ซึ้งความทรมานที่ฝังลึกถึงแก่นวิญญาณ โหยหาอยากพบเจอนางอีกครั้งทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกลับมาพบกันในครานี้นางมีหน้าที่ต้องสังหารมารปีศาจอย่างเขาขณะปล่อยความทรงจำโลดแล่นราวกับยินดีติดอยู่ในอดีตของช่วงเวลาที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคือความสุขหนึ่งเดียว“เสด็จพี่ เทศกาลชมจันทร์ค่ำคืนนี้ เราสองคนออกไปนอกวังได้หรือไม่เพคะ”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบกงจื่อเย่หันไปมองทางด้านหลังแต่กลับไม่พบเจอใครเพราะที่แห่งนั้นมีเพียง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status