แชร์

ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-14 07:00:05

วันหนึ่งในฤดูฝน

เสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง

ทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำ

แม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลง

โดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิด

สายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

เสียงพึมพำกังวลแต่คิดว่ายังพอรับมือได้บ้าง “ท่านแม่ อย่าสงสัยเรื่องพวกนั้นเลย อยู่กับข้า ท่านแม่ไม่มีความสุขหรือ”

อู๋เยว่ชิงส่ายหน้าเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว “อีนั่ว วันครบรอบอายุเจ็ดขวบของเจ้า อยากกินอะไรหรือ ข้าจะเตรียมเอาไว้ให้”

“ข้าอยากกินซุปซี่โครงตุ๋นน้ำแกงขอรับ” เด็กชายรีบบอกทันทีขณะวิ่งฝ่าสายฝนกลับมาหานาง “ท่านแม่ เล่นน้ำฝนกับข้าได้หรือไม่”

ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าคลี่ยิ้มบางเอ็นดูความซุกซนเป็นเด็กของเขาแต่สุดท้ายก็ยอมตากฝนวิ่งเล่นกันสองคนด้วยความสนุกสนาน

เวลานี้ชีวิตของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีผู้ใดเข้ามาฉกฉวยความสุขนั้นได้

เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิดของเขา อู๋เยว่ชิงตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น เตรียมของทำอาหารอย่างที่เขาชอบแล้วจัดการทำงานบ้านเหมือนอย่างเคยก่อนจะนั่งรับลมอยู่นอกชานบ้านรอเด็กน้อยตื่นจากหลับฝัน

“ท่านแม่ขอรับ” น้ำเสียงสดใสเอ่ยเรียกนางจากในห้อง “ทำไมถึงได้ตื่นตั้งแต่เช้าขนาดนี้เล่า”

นางกางแขนออกแล้วบอกเขาว่า “วันนี้วันเกิดเจ้าไม่ใช่หรือ มาให้ข้ากอดหน่อยได้หรือไม่”

เด็กน้อยขยี้ตาพยายามเรียกสติของตนเองเพราะยังไม่ตื่นดีก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้สำคัญอย่างไร จมูกน้อย ๆ สูดกลิ่นหอมที่โชยมาจากข้างบ้านพลันยิ้มกว้างถามนางว่า “ท่านแม่ ข้ากินได้เลยหรือไม่”

เขาไม่พูดเปล่า เสียงท้องร้องโครกครากยังดังอย่างรู้งาน อีนั่วชื่นชอบฝีมือทำอาหารของนางมากนัก ถึงอย่างไรก็ดีกว่ากินอย่างอื่นเป็นไหน ๆ

แม้ตัวจะเป็นครึ่งมารปีศาจกับมนุษย์ แต่เขากลับไม่อยากยอมรับตัวเองเพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวของตนต้องแตกแยกเหมือนอย่างทุกวันนี้

อู๋เยว่ชิงนั่งมองดูลูกชายทานอาหารเช้าอยู่เงียบ ๆ แล้วถามเขาว่า “เมื่อวานฝนตกไปแล้ว วันนี้อากาศคงจะดีตลอดทั้งวัน เจ้าอยากไปเที่ยวในหมู่บ้านหรือไม่”

“ข้าไม่อยากไปขอรับ” เขาส่ายหน้าแล้วหยิบซี่โครงขึ้นมาแทะด้วยความเอร็ดอร่อย “ท่านแม่อยากไปหรือ”

เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดมากนักถ้าไม่จำเป็นเพราะยิ่งรู้จักผู้คนก็จะยิ่งผูกพันกันไปเปล่า ๆ

มนุษย์อายุขัยสั้นปานนั้น อีนั่วไม่ชอบการสูญเสียเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนเขารู้จักแทบทุกคนในหมู่บ้านแห่งนั้นแต่พอตัวเองอายุยืนกว่าใครก็ทำได้แค่เพียงมองคนเหล่านั้นค่อย ๆ จากไปตามกาลเวลา

“ไม่หรอก ข้าถามเพราะคิดว่าเจ้าอาจจะอยากกินลูกกวาด ขนมหวาน และเที่ยวเล่นกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน” อู๋เยว่ชิงแค่เป็นห่วงที่ลูกชายอยู่ติดบ้านเกรงว่าโตขึ้นมาแล้วจะไม่มีสหาย

“ข้ามีท่านแม่แล้ว ไม่ต้องการผู้ใดขอรับ” อีนั่วยังคงยืนยันคำเดิมและอู๋เยว่ชิงก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มให้เขา

หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่เดินเล่นไปเรื่อย ๆ แวะดูดอกไม้ตรงโน้นทีตรงนี้ทีกว่าจะถึงลำธารที่มีน้ำไหลมาจากภูเขา สีน้ำยังคงขุ่นมัวเป็นดินแดงเพราะฝนตกหนักเมื่อวันก่อนแต่อีนั่วกลับเลิกคิ้วมองสิ่งที่ไหลมากับน้ำเชี่ยว

ก้อนหินหลากสีกลิ้งอยู่ข้างล่างนั้นตามแรงกระแสน้ำ เขาพุ่งตัวลงไปทันทีเพราะอยากเก็บมันขึ้นมา

“อีนั่ว น้ำเชี่ยวขนาดนั้น อย่าลงไปนะ” อู๋เยว่ชิงร้องห้ามเอาไว้แต่ไม่ทันการ นางรู้ว่าลูกชายของตนซุกซนมากแค่ไหน ทั้งยังดื้อดึงบอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟังกันสักที

“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับ” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับมาเช่นนี้ทุกครั้งจนนางได้แต่ยืนมองดูเพราะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งเกินกว่าเด็กทั่วไป

แม้รู้ว่ากระแสน้ำเท่านี้ไม่อาจทำอันใดแต่ยังสงสัยว่าเขากระโจนลงไปทำไมทั้ง ๆ ที่น้ำในตอนนี้ขุ่นมัวจนมองไม่เห็นอะไร

ราวกับรู้ว่ามารดาคิดสิ่งใดอยู่ อีนั่วจึงยกแขนขวาขึ้น ในมือมีก้อนหินสีฟ้า ม่วง แดง ประกายของมันแวววาวแม้ว่าจะมีโคลนเปรอะเปื้อนบางส่วน

“ตาดีถึงเพียงนี้เลยหรือ” อู๋เยว่ชิงเผลอพูดตามที่คิดเรียกเสียงหัวเราะจากเขาได้เป็นอย่างดี

ครั้นเล่นสนุกจนพอใจแล้ว อีนั่วขึ้นฝั่งด้วยสีหน้าภาคภูมิใจทำทีปกปิดไม่ให้มารดารู้ว่าเขามีแผนอะไรก่อนจะใช้เวลาว่างขัดถูแกะสลักก้อนหินเหล่านั้นเป็นก้อนกลมเหมือนลูกปัด ค่อย ๆ ร้อยทีละเม็ดแล้วผูกปมเอาไว้สองเส้น

กว่าจะทำได้สวยงามดั่งใจคิด อีนั่วใช้เวลาเกือบสิบวัน แอบทำเครื่องประดับอยู่เงียบ ๆ จนดึกดื่น คอยหลบไม่ให้มารดาเห็น หากนางถามมักบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องเพราะอยากให้นางดีใจตอนที่ได้เห็นของสิ่งนี้

เขายื่นสร้อยข้อมือให้นางด้วยสีหน้าคาดหวัง รอดูท่าทีของอู๋เยว่ชิงไม่วางตา แม้จะเกลียดที่มีพลังมารแต่กลับจำใจฝังพลังนั้นเอาไว้ในสร้อยข้อมือเพื่อใช้ปกป้องนางจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง

นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็นเครื่องมือกักเก็บความทรงจำทั้งหมดในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้นางจะไม่มีทางลืมว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนางอย่างเด็ดขาด

“สวยยิ่งนัก” หญิงสาวเอ่ยปากชมสิ่งล้ำค่าที่ได้มาเป็นของขวัญ “ลูกแม่คงจะมีฝีมือด้านนี้มาตั้งแต่เกิดสินะ ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย”

“ท่านแม่ สัญญากับข้าได้หรือไม่ว่าจะไม่ลืมข้าอีก” เด็กน้อยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าครั้งนี้จะไม่มีอะไรมาพรากมารดาไปจากเขาได้อีก ไม่เว้นแม้แต่บิดาของเขา

“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร” นางเม้มปากไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงพูดเรื่องนี้ “มาให้ข้ากอดเจ้าหน่อยเถิด”

อีนั่วไม่รู้เลยว่าเวลาที่พวกเขาต้องแยกจากกันจะมาถึงในวันหนึ่ง เทพดาราที่ยังคงทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ถูกกระแสพลังเทพบรรพกาลเรียกสติให้กลับมา

พลังเทพที่ถูกซ่อนไว้ค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิดรวมถึงความทรงจำตอนเป็นสวีลู่ชิง

นางเก็บงำสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ไม่ให้อีนั่วรู้เพราะกำลังสับสนว่าตัวเองเป็นผู้ใดกันแน่ ยิ่งสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีพลังมารปีศาจเหลือล้น นางจึงเริ่มระวังตัวมากกว่าเดิมความรู้สึกค่อย ๆ แปลกไปจนในที่สุดจึงแยกแยะได้ว่าอู๋เยว่ชิงคงจะเป็นด่านเคราะห์ในชาติที่นางต้องเผชิญ

เทพดาราคงจะใช้ชีวิตร่วมกับมารปีศาจสักตนแล้วให้กำเนิดอีนั่ว เมื่อพลังตื่นขึ้น นางจึงรู้สึกหนักใจยิ่งนักว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้

ทว่า ไม่ทันจะได้คำตอบ จู่ ๆ พลังเทพบรรพกาลดึงนางกลับสวรรค์โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่แม้จะให้นางได้ร่ำลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายหรืออธิบายความจริงกับเขา

ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลาที่ความทรงจำเทพดารากลับมาสมบูรณ์ เรื่องราวที่อยู่กับอีนั่วค่อย ๆ เลือนหายไปโดยปริยายเหลือเพียงความรู้สึกที่อยู่ลึก ๆ ในใจว่านางกำลังหลงลืมใครบางคน

อีนั่วงัวเงียตื่นขึ้นมาไม่เห็นใคร กระวนกระวายทำตัวไม่ถูก แม้นั่งรอนางตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ ผ่านไปสองสามวันไม่เห็นนางกลับมา ในใจห่อเหี่ยวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

ใบหน้าเหม่อมองท้องฟ้าไม่อยากให้สิ่งที่รู้สึกในเวลานี้เป็นเรื่องจริง พึมพำอยู่คนเดียว “ท่านแม่ทิ้งข้าไปอีกแล้วหรือ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 5 ความโกลาหล

    โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งนอกเมืองหนานพ่อค้าจากต่างเมืองที่ผ่านมาแวะพักในโรงเตี๊ยมเล่าข่าวคราวที่บังเอิญได้ยินมาให้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นฟัง เสียงเล่าลือว่าคนในหมู่บ้านหงเหลียนทางตอนใต้แคว้นชิงตายด้วยอาการประหลาดคนที่เหลือรอดมาได้เล่าวกไปวนมาว่าสิ่งที่เข้าทำร้ายพวกเขาต้องไม่ใช่คน ดูไม่มีรูปร่างแต่แววตาแดงฉานฉายชัด ครั้นจะถามต่อว่าเป็นอย่างไรบ้างกลับไม่ได้อะไรเพิ่มเติม คนเหล่านั้นเหมือนสติหลุดพูดจาไม่รู้เรื่องไปเสียแล้วเจ้าเมืองจึงต้องส่งคนไปเชิญเซียนสำนักต่าง ๆ เข้ามาตรวจสอบข่าวลือที่ว่าผีปีศาจออกอาละวาดทำร้ายชาวเมืองเป็นเรื่องจริงหรือไม่กระนั้น หลายเดือนผ่านไปยังไม่มีใครเห็นเซียนที่เข้าไปในหมู่บ้านหงเหลียนออกมาข้างนอก บรรยากาศรอบหมู่บ้านราวกับมีผีสิง อึมครึม เย็นยะเยือก นานวันเข้าจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หมู่บ้านร้างอีกเลย“แค่เล่าให้พวกเจ้าฟังก็ขนหัวลุกแล้ว” หนึ่งในคาราวานพ่อค้าเอ่ยปากพลางทำท่าสั่นกลัว“ไม่ใช่แค่หมู่บ้านหงเหลียนหรอก” ชายคนหนึ่งกระดกแก้วเหล้าอึกใหญ่รำลึกถึงเหตุการณ์เฉียดตายที่พบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 6 ผจญภัย

    สำนักเซียนดาราสวรรค์“จื่อเถิง มาหาอาจารย์หน่อยเถิด” เสียงของเฉาหมิงเรียกนางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะของศิษย์ผู้นี้อย่างอ่อนโยน “อาจารย์เจ้าสำนักฝากข้าเอามาให้เจ้า”จื่อเถิงมองดูหยกสีชมพูอ่อน สีหน้างงงวยเพราะไม่รู้ว่าหยกหน้าตาสวยงามคืออะไร“อาจารย์เจ้าสำนักเป็นห่วงเจ้ามากจึงฝากข้านำมาให้” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าอาจารย์ของตนเองใช้พลังเซียนที่สั่งสมมานานหลายสิบปีหลอมหยกชิ้นนี้ขึ้นมาให้ศิษย์หลานโดยเฉพาะครั้นถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกลับได้คำตอบมาว่า “นางเดินทางออกนอกสำนักเป็นครั้งแรก ย่อมต้องห่วงเป็นธรรมดา”ทว่า เฉาหมิงกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ไม่อาจถามไถ่สิ่งใดได้อีกเพราะนางคงไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน“ขอบคุณเจ้าค่ะ” จื่อเถิงรับปากว่าจะปกป้องทุกคนและกลับมาสำนักดาราสวรรค์ก่อนเทศกาลโคมไฟแล้วรีบวิ่งไปหาศิษย์น้องอิงฮวาที่ยืนรออยู่ด้านหน้าสำนักคล้อยหลังจื่อเถิง เฉาหมิงเอ่ยปากบอกหยางซีอวิ๋นผู้เป็นศิษย์พี่ว่า &ld

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 7 มังกรดำ

    ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงหวีดร้องและเสียงปะทะพลังของทั้งสองฝ่ายกระหึ่มดังไปทั่วบริเวณเซียนหนุ่มหันไปมองสหายด้วยสายตากังวล“ไม่เป็นอันใดหรอก เลี่ยงหวง” เซียนสาวบอกศิษย์ร่วมสำนักด้วยท่าทีใจเย็นเพราะมีประสบการณ์เรื่องต่อสู้มามาก “จำที่อาจารย์สอนเจ้าได้หรือไม่”เลี่ยงหวงพยักหน้าแล้วรวบรวมพลังเซียนวิชาหนึ่งของสำนักตนเอง พลันแสงสีขาวก่อตัวพองโตเป็นลูกกลม ๆ ขึ้นทีละนิด เขาขมวดคิ้วกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”เฉินซือหยางมัวแต่วอกแวกเพื่อกวนประสาทเซียนทั้งสองจึงไม่ทันระวังตัวโดนพลังเซียนขั้นสูงสาดใส่ร่างปีศาจเข้าเต็มเหนี่ยวกระเด็นทะลุบ้านเรือนไปหลายหลังเขายันตัวลุกขึ้นเอียงคอจัดกระดูกที่หักไปหลายท่อนกลับมาดังเดิมแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปัดฝุ่นดินบนเสื้อผ้า แสยะยิ้มที่ไม่ได้เจอผู้ใดมีฤทธิ์เดชรุนแรงเท่าสองคนข้างหน้ามานานมากแล้ว“เฉินซือหยาง เจ้าอย่าลืมว่าพวกเขามิใช่เซียนธรรมดา”มังกรดำเอ่ยปากเตือนเพราะไม่อยากให้สหายเพลี่ยงพล้ำจนเสียการงาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 48 ตามหาทุกหนแห่ง

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 47 โกรธ

    นับตั้งแต่นั้นมากงจื่อเย่จึงไม่ออกไปที่ไหนอีกติดอยู่ในภพมารเพื่อกระทำบางอย่างด้วยความตั้งใจจนไม่รู้ตัวว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าใดแล้วเมื่อผู้ปกครองละเว้นหน้าที่ ความวุ่นวายในภพมารจึงเริ่มบังเกิดทีละส่วน หากแต่ลูกน้องทั้งสามยังคงใช้อำนาจของเขาคอยจัดการได้อยู่แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ตามครั้งนี้เช่นเดียวกัน ไอมารปีศาจชั่วร้ายก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีกงจื่อเย่จะคอยดูดซับพลังพวกนั้นมาเป็นอาหารของตนเองแต่เวลานี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด พวกปีศาจและสัตว์อสูรจึงได้ทีฉกฉวยมันมาเป็นของตัวเองจึงทำให้มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นแต่บางขณะ ไอมารปีศาจที่แข็งแกร่งย่อมปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเดียวกันและเป็นฝ่ายกัดกินมารปีศาจพวกนั้นแทนที่จนสามารถหล่อหลอมรูปลักษณ์สร้างตัวตนขึ้นมาได้&n

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 46 รักและคิดถึง

    กาลเวลาผันผ่านจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปีเหมันตฤดูเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง กงจื่อเย่ยังคงเป็นดังเช่นวันวาน นัยน์ตาสีม่วงแดงของจอมมารเหม่อมองสรรพสิ่งรอบตัวถวิลหาคนที่จากไปอย่างไร้ร่องรอยแม้พยายามลบเลือนนางออกไปจากใจแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่คิดจึงได้รู้ซึ้งความทรมานที่ฝังลึกถึงแก่นวิญญาณ โหยหาอยากพบเจอนางอีกครั้งทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกลับมาพบกันในครานี้นางมีหน้าที่ต้องสังหารมารปีศาจอย่างเขาขณะปล่อยความทรงจำโลดแล่นราวกับยินดีติดอยู่ในอดีตของช่วงเวลาที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคือความสุขหนึ่งเดียว“เสด็จพี่ เทศกาลชมจันทร์ค่ำคืนนี้ เราสองคนออกไปนอกวังได้หรือไม่เพคะ”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบกงจื่อเย่หันไปมองทางด้านหลังแต่กลับไม่พบเจอใครเพราะที่แห่งนั้นมีเพียง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 45 บาดแผล

    หลังจากอู๋เยว่ชิงผนึกเมล็ดพันธุ์ทั้งสามดวงได้แล้ว ร่างมนุษย์ของนางจึงแตกสลาย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ววิญญาณเทพดาราควรกลับแดนสวรรค์เพราะนางได้ผ่านด่านเคราะห์อันแสนสาหัสไปเรียบร้อยหากแต่เวลานี้ยังไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าวิญญาณของเทพดาราหายไปอยู่ที่ใดราวกับนางไม่มีตัวตนสิ่งที่นางหลงเหลือไว้มีเพียงความทรงจำและความเจ็บปวดที่ฝังลึกในเมล็ดพันธุ์ที่ปริแตกในแก่นวิญญาณของจอมมาร คนที่กำลังทรมานกับสิ่งที่ตนเองกระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมากงจื่อเย่เพิ่งสัมผัสได้ว่านางทุกข์ทน ผิดหวังและเศร้าโศกมากเพียงใด เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจึงไม่อาจกำจัดความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกไปได้“นายท่าน เหตุใดจึงไม่ทำลายมันทิ้งไป พลังของนายท่านยังไม่สมบูรณ์ดีหรือขอรับ” โจวเหวินหลงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้มีกำลังมากมายที่

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 44 เมล็ดพันธุ์หยั่งรากในใจ(จบเล่ม1)

    หลังจากที่เมล็ดพันธุ์ถูกฝังในแก่นวิญญาณของจอมมารเรียบร้อยแล้ว ความทรงจำที่อู๋เยว่ชิงมีต่อเขาในฐานะคนรักของหลินซีเวยจึงพรั่งพรูเข้าหาสวีลู่ชิงใช้พลังเทพบรรพกาลทำให้เขารับความรู้สึกของนางแม้จะยืนยาวได้ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจแต่ก็พอทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบชั่วขณะความรักของนางที่เขาบอกว่าเป็นเรื่องลวงหลอก ดูเหมือนจอมมารจะสัมผัสได้ว่านางเอ่ยความจริงจากก้นบึ้งในใจ แต่มันกลับทำได้แค่เพียงสะกิดความรู้สึกแล้วจางหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยนางไม่ได้หวังอันใดไปมากกว่านี้ ขอแค่ให้เขาได้รับรู้บ้างเผื่อจอมมารจะรู้สำนึกว่าได้ทำอันใดลงไปแม้สวีลู่ชิงจะไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายที่แตกร้าวจะทำให้ดวงอื่น ๆ ที่เคยถูกฝังในร่างจอมมารปริแตกหยั่งรากลึกก่อนเวลาอันควรจนความรู้สึกทั้งปวงก่อตัวขึ้นใน

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 43 ความทรงจำหวนกลับ

    หากแต่ผลที่ได้ไม่เป็นอย่างคาดคิดเพราะพลังมารที่เขาส่งออกไปสะท้อนกลับเข้าหาตัวเหมือนอย่างเคยกงจื่อเย่ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เหตุใดจึงฆ่าเจ้าไม่ได้!!!”เขาเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ของชาตินี้ที่อยู่ในแก่นวิญญาณของนางต้องได้รับความเสียหายจนปริแตกแล้วจึงได้ลงมือ แต่กลับทำอันใดนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อยครั้นลองร่ายพลังมารใส่อู๋เยว่ชิงอีกครั้ง พลังรุนแรงนั้นยังคงสะท้อนกลับมาหาเขาไม่เคยเปลี่ยนกงจื่อเย่กระอักเลือดออกมากองใหญ่ คิ้วขมวดเป็นปม เอ่ยถามนางด้วยความสงสัย “ที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้รักข้าหรือ”นั่นเพราะเขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าความรักมักจะทำให้มนุษย์อ่อนแอ ยิ่งรักมากเท่าใดยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น หากถูกคนท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 42 แตกสลาย(TW18+)

    Trigger Warning (TW 18+) = มีเนื้อหาหรือเหตุการณ์ที่อาจทำให้สะเทือนใจห่างไปอีกเมืองหนึ่งไม่ไกลนักรถม้าของอู๋เยว่ชิงหยุดพักอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แถบชานเมือง นางพยายามรวบรวมสติของตนเองเอาไว้แล้วปกป้องอีนั่ว“เสด็จแม่ เราอยู่ที่ใดกันหรือ” อีนั่วเอ่ยปากถามทันทีที่ลืมตาหลังจากนอนหลับยาวนาน “เสด็จพ่อเล่า...”เมื่อถูกถามไถ่ถึงหลินซีเวย น้ำตาของนางก็เอ่อคลอแต่พยายามกลั้นใจเอาไว้ “พ่อของเจ้าจะรีบตามมา อีนั่วอย่าได้กังวลไปเลยนะ”มารน้อยพยักหน้าแล้วซบเข้าอ้อมกอดของมารดาสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของอู๋เยว่ชิง มือน้อย ๆ ลูบใบหน้าของนางราวกับต้องการปลอบประโลมพวกเขาหย

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 41 กำจัดเขาเสีย

    หลินซีเวยหมดท่าไม่อาจโต้กลับเหล่าเซียนสำนักหานหลิ่งได้อีกทั้งยังถูกตรึงด้วยผนึกเพื่อทำลายพลังมารปีศาจที่ควบคุมร่างเขาอยู่“ท่านเซียน ช่วยเขาไม่ได้หรือ” ฮ่องเต้เอ่ยปากถามเพราะยังมีความหวังว่าจะได้บุตรชายกลับคืน หากแต่เหล่าเซียนกลับตอบว่า “พลังมารปีศาจหลอมรวมเข้าแก่นวิญญาณของเขาแล้วมิอาจถอดถอนได้เฉกเช่นคนทั่วไป หนทางเดียวที่จะหยุดหายนะในเมืองไท่หยางคือสังหารเขาไปพร้อมกับมัน”“...” ทุกคนนิ่งเงียบ สายตามองปีศาจร้ายด้วยความหวาดกลัว เพียงแค่หนึ่งก้านธูป วังหลวงกลับนองเลือดราวกับมีสงครามครั้งใหญ่ หากคิดปล่อยไว้มีหวังทั้งเมืองไท่หยางคงกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คนเป็นแน่“ข้าไม่ได้ขอความเห็นพวกท่าน มาวันนี้เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง มารปีศาจตนนี้ร้ายกาจนักหากปล่อยให้หลุดรอดไปได้คงทำลายผู้คนในเมืองอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน&r

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status