แชร์

ตอนที่ 13 จงรักษาสัญญา

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 07:00:40

ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วยาม

หยางซีอวิ๋นเดินตรวจตราดูรอบเรือนรับรองจึงรู้สึกว่าทหารอารักขาของเจ้าเมืองยืนอยู่รายรอบจนผิดสังเกต ไม่ใช่เพื่อดูแลปกป้องแต่ทำเหมือนต้องการกักขังไม่ให้พวกเขาหนีไปที่ใด

แม้แต่อิงฮวาก็รู้สึกได้เช่นกันว่าบรรยากาศที่เป็นมิตรเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกน่ากลัวเข้ามาแทนที่ นางขยับเข้ามาใกล้ศิษย์พี่บอกเขาว่า “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าคนพวกนั้นแปลก ๆ เจ้าค่ะ"

ผู้เป็นศิษย์พี่พยักหน้าบอกให้นางหาช่องทางหนีเตรียมเอาไว้อย่างเงียบ ๆ ส่วนเขาจะไปปลุกจื่อเถิงแล้วหนีออกไปพร้อมกันแม้ว่ายามนี้จะมีฝนกระหน่ำเทลงมา

“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าทำตามคำสั่ง

ครั้นจะแยกตัวออกไปกลับได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูที่พวกเขายืนอยู่จึงกระชับอาวุธในมือค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปตรวจสอบ

ตุ๊บ!!!

เด็กน้อยคนหนึ่งร่วงตกจากขอบหน้าต่างข้อศอกกระแทกพื้นจนเขียวช้ำ

ปลายกระบี่ของเซียนทั้งสองชี้ไปที่ร่างของเขาเพื่อป้องกันภัยเพราะไม่รู้ว่าเด็กที่ปรากฏกายลับ ๆ ล่อ ๆ ต้องการอันใดจากพวกเขา

“ช้าก่อน” เด็กน้อยวัยเก้าขวบร้องห้ามเสียงหลงเพราะกระบี่จ่อคอถึงสองทาง “ข้าจะพาพวกท่านหนีไปจากที่นี่”

“...” อิงฮวามองหน้าหยางซีอวิ๋นไม่รู้ว่าเจ้าเด็กตรงหน้ามาไม้ไหน นางตรวจสอบพลังในตัวของอีกฝ่ายแล้วบอกศิษย์พี่ว่า “ไม่มีไอมารแฝงอยู่เจ้าค่ะ แต่ว่าในตัวเขาคล้ายมีผนึกบางอย่างที่เหมือนศิษย์พี่ทั้งสอง”

หยางซีอวิ๋นได้ยินดังนั้นจึงร่ายพลังเซียนสำรวจแก่นวิญญาณของเด็กน้อยพลันยิ้มมุมปาก “เทพจุติอย่างนั้นหรือ”

“...” ครานี้เด็กน้อยเป็นฝ่ายงุนงงบ้าง ไม่รู้ว่าเซียนทั้งสองพูดถึงเรื่องใด “พวกท่านอย่าเพิ่งสนใจข้าเลย รีบหนีไปดีกว่า”

เขาเห็นเซียนทั้งสามตั้งแต่อยู่ข้างนอกเมืองเป่ยแล้ว ครั้นจะห้ามไม่ให้ตามทหารอารักขาเข้ามาข้างในก็ไม่ทันการเพราะมัวแต่หลบซ่อนตัวจากพวกปีศาจ

เด็กน้อยคนนี้เดิมทีเป็นคนของสำนักเซียนที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง เดินทางมาที่แห่งนี้ราวกับรู้สึกว่ามีภารกิจบางอย่างที่ต้องทำ แต่เพราะพลังเซียนที่ต่ำกว่ากำหนดจึงไม่อาจต่อกรกับพวกมารปีศาจได้โดยตรง

กระนั้นยังมีใจอยากช่วยเหลือพวกเขาจึงไม่ย่อท้อแอบเข้ามาจนถึงจวนแห่งนี้ได้

“กว่าข้าจะมาที่นี่ได้ต้องตากฝนแอบทำทางหลบหนี” เขาบ่นพึมพำสูดน้ำมูกเพราะไม่สบาย “เจ้าเมืองเป่ยเป็นคนไม่ดี อาจารย์บอกว่าเขานับถือมารปีศาจจึงไหว้วานให้ข้ามาดักรอดูสถานการณ์”

เสียงฟ้าร้องกระหึ่มก้อง หยางซีอวิ๋นและอิงฮวาสัมผัสได้ว่าพลังชั่วร้ายหลั่งไหลเข้ามายังจวนแห่งนี้ ทั้งคู่จึงรีบไปปลุกจื่อเถิงจากภวังค์ก่อนที่ความวุ่นวายจะก่อตัว

เด็กน้อยยืนรอทั้งสามอยู่ที่ด้านหลังพลางโบกมือให้สัญญาณยามที่ทหารอารักขาเผลอตัว

เพียงหนึ่งก้านธูปพวกเขาก็หลบพ้นออกมานอกเมืองเป่ยด้วยความช่วยเหลือของเด็กน้อย

สายฟ้าฟาดผ่าลงในเมืองเป่ยดังเปรี้ยง ไอมารสีดำลอยฟุ้งเหนือจวนเจ้าเมืองจึงทำให้เซียนสำนักรู้ว่าพวกเขาเพิ่งจะหนีจากจอมมารได้อย่างหวุดหวิด

“ขอบใจเจ้ามาก แต่ว่าพวกเราแยกจากกันตรงนี้ดีกว่า พบกันครั้งหน้าข้าจะตอบแทนความช่วยเหลือของเจ้า” หยางซีอวิ๋นเอ่ยปากบอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เจ้าเด็กน้อยยิ้มแป้นรู้สึกว่าทำตามคำสั่งของอาจารย์ได้สำเร็จจึงกล่าวอำลาเซียนทั้งสามแล้วแยกตัวกลับสำนักของตนเอง

จากนั้นจื่อเถิงและคนที่เหลือจึงร่ายพลังเซียนขี่กระบี่หนีไปให้ไกลจากเมืองเป่ยโดยไม่รีรอ

หากแต่คนที่อยู่ในจวนเจ้าเมืองกำลังบ้าคลั่งเพราะนาง แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกได้ถึงพลังเทพที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในเรือนรับรอง กงจื่อเย่ยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์

เขาร่ายพลังมารเสาะหาจื่อเถิงด้วยความตื่นเต้น ค่อย ๆ เกี่ยวใยบาง ๆ ที่นางหลงเหลือเอาไว้แล้วกระชากอย่างแรง

จื่อเถิงพลันรู้สึกได้ว่าร่างของนางถูกมือที่มองไม่เห็นฉุดรั้งเอาไว้จึงพยายามสะบัดหนี

เขาหัวเราะลั่นเพราะรู้ว่านางติดกับเข้าแล้ว “โจวเหวินหลง เฉินซือหยาง จัดการนางเสีย” เขาสั่งลูกน้องทั้งสองคนให้ตามสายใยที่เขาเกี่ยวเอาไว้

ไม่นานนัก จอมมารและลูกน้องก็โผล่มาขวางทางเซียนทั้งสามทันเวลา

หยางซีอวิ๋นเข้ามายืนขวางศิษย์น้องเอาไว้ สีหน้าจริงจังเคร่งเครียดเพราะจำได้ว่าเคยสู้กับพวกเขามาก่อน

ดวงตาของอิงฮวาเบิกโต นางถือกระบี่เซียนไว้แน่นชี้ไปทางมังกรดำ ครานี้จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออย่างแน่นอน

ด้านหลังสัตว์อสูรมีเงาของคนผู้หนึ่งขยับออกมา สุดท้ายแล้วจื่อเถิงจึงได้เผชิญหน้ากับจอมมารผู้นี้เสียที

“ดวงตาสีฟ้า เรือนผมสีขาว” กงจื่อเย่ทวนสิ่งที่เคยได้เห็นในภาพนิมิต “ในที่สุดก็ได้เจอเจ้า”

“ศิษย์พี่...” นางเรียกหยางซีอวิ๋น ท่าทีหนักใจมองหาทางหนีทีไล่

“รักษาสัญญาได้หรือไม่จื่อเถิง” จู่ ๆ หยางซีอวิ๋นก็พูดถึงสิ่งที่เคยบอกก่อนออกเดินทาง “ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น อย่าผิดสัญญา”

เขารู้ตัวดีว่าหน้าที่ของตนเองคงจบสิ้นลงแต่เพียงเท่านี้ เขาจะปกป้องจื่อเถิงและอิงฮวาให้ได้ ยอมเป็นเหยื่อล่อเพื่อถ่วงเวลาให้ศิษย์น้องทั้งสองคนหนีอีกครา

“ไม่ได้นะเจ้าคะ” จื่อเถิงส่ายหน้าปฏิเสธ

“ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” อิงฮวาบอกกับหยางซีอวิ๋นเสียงสั่นเครือ ในใจหวาดกลัวไม่น้อยที่ต้องเผชิญหน้ากับจอมมาร

“คำขอของข้า ให้กันไม่ได้เลยหรือ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน อ้อนวอนให้ศิษย์น้องทำตามความปรารถนาสุดท้าย

เซียนสำนักดาราสวรรค์ต่างอาลัยอาวรณ์ไม่มีใครยอมปล่อยใคร ในขณะที่จอมมารยืนกอดอกมองดูสถานการณ์ตรงหน้า “เหตุใดพวกเจ้าถึงชอบเมินข้านัก”

กงจื่อเย่สังเกตได้ว่านอกจากพวกเทพเซียนภพสวรรค์แล้ว มนุษย์ตรงหน้าก็กล้าเมินตัวตนของเขาด้วยหรือ

จอมมารไม่สบอารมณ์จึงสั่งให้ลูกน้องโจมตีศัตรูโดยไม่ต้องออมมือ

เฉินซือหยางปะทะกับหยางซีอวิ๋น พลังมารปีศาจและกระบี่เซียนกวัดแกว่งสู้กันด้วยความเคร่งเครียด ส่วนโจวเหวินหลงแปลงกายเป็นมังกรดำเผชิญหน้ากับจื่อเถิงและอิงฮวาด้วยฝีมือที่เป็นต่อ

ยามนี้จื่อเถิงไม่อาจใช้พลังเซียนได้เต็มที่เพราะกงจื่อเย่ฝังพลังมารไว้ในสายใยแก่นวิญญาณของนาง ยิ่งจื่อเถิงฝืนใช้พลังเซียนมากเท่าใด นางจะยิ่งทรมานมากขึ้นเพราะพลังมารที่เล็ดลอดเข้าไปในแก่นวิญญาณ

สีหน้าของจอมมารพึงพอใจในผลงานของตนเองจึงยืนดูทั้งสองฝ่ายสู้กันด้วยท่าทีสบาย ๆ “เจ้าน่ะหรือปรปักษ์ของข้า” เขาพึมพำอยู่คนเดียว “ตัวเล็ก ๆ อย่างเจ้าน่ะหรือเป็นผู้สังหารข้า”

ครั้นเวลาผันผ่านล่วงเลยมาหนึ่งชั่วยาม ลูกน้องทั้งสองยังไม่อาจโค่นล้มมนุษย์ธรรมดาได้ เขาจึงคิดจะลงมือด้วยตัวเอง

กงจื่อเย่ร่ายพลังมารปีศาจหมายจะกำจัดจื่อเถิงทีเผลอจะได้จบงานที่ค้างคาใจมานานเสียที

ไอมารจำนวนมหาศาลก่อตัวขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย กงจื่อเย่แสยะยิ้มแล้วสะบัดข้อมือสั่งให้มันพุ่งโจมตีจื่อเถิงในพริบตา

หากแต่หยางซีอวิ๋นเห็นเข้าจึงรุดป้องกันจื่อเถิงโดยไม่คิดชีวิต ไฉนเลยจะสู้กับพลังมารที่ถาโถมเข้ามาได้จึงถูกความชั่วร้ายทะลวงร่างจนกระอักเลือดสูญสิ้นพลังเซียนที่สั่งสมมาในทันที

“ศิษย์พี่!!!” ศิษย์น้องทั้งสองร้องลั่น

“หนีไป!!!” หยางซีอวิ๋นใช้พลังเฮือกสุดท้ายตะโกนก้อง

ฝ่ายจอมมารหัวเสียที่พลาดเป้าไปแต่กลับนึกเล่นสนุก ในเมื่อพลังมารทะลุร่างเซียนผู้นั้นแล้วล่ะก็ เขาควรจะแสดงให้เทพดาราผู้นี้ได้เห็นอะไรน่าตื่นเต้นเสียหน่อยจึงรั้งทั้งสามคนเอาไว้ในไอมารของตนเอง ก่อนจะกำมือราวกับบีบบังคับบางอย่างเหมือนเคย

“...” หยางซีอวิ๋นพยายามพูดกับศิษย์น้องทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ดวงตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าแสนอ่อนโยนของเขา

“ศิษย์พี่!!!” จื่อเถิงเรียกสติคนตรงหน้า นางไม่อาจขยับตัวได้เพราะถูกไอมารของกงจื่อเย่

เวลานี้หยางซีอวิ๋นถูกจอมมารควบคุมทุกอณู ไม่อาจต่อต้านพลังชั่วร้ายได้อีกต่อไป

กงจื่อเย่ไม่ได้ควบคุมให้เขาสังหารศิษย์น้องของตนเอง แต่กลับใช้พลังมารกัดกินพลังชีวิตของหยางซีอวิ๋นทีละนิด ให้เซียนอย่างเขาสัมผัสได้ถึงความทรมานจากภายใน

ร่างของหยางซีอวิ๋นกระตุกด้วยความเจ็บปวดเหลือคณา ดวงตามืดดำมีน้ำตาเอ่อไหลจนกลายเป็นสายเลือด

“ศิษย์พี่!!!” จื่อเถิงร้องลั่นด้วยความกลัว

กลัวว่าจะต้องเสียเขาไปตลอดกาล

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    ความรู้สึกที่ถาโถมทำให้พลังเซียนที่ถูกจอมมารกดขี่เอาไว้แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนคิดในใจด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องพาพวกเขาหนีไปจากตรงนี้ให้ได้กงจื่อเย่สัมผัสได้ว่าพลังเซียนของนางกำลังต่อต้านเขาอย่างรุนแรงกว่าเดิมไม่อาจออมมือทำเป็นเล่นได้อีกต่อไปจึงหล่อหลอมพลังมารที่แท้จริงขึ้นมาเพื่อสังหารนางให้สิ้นซากทว่า จื่อเถิงคือผู้ที่เทพบรรพกาลเลือกเอาไว้ การทำลายนางจึงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด สายพลังบริสุทธิ์สะท้อนกลับมาทำลายตัวเขาเองจนนิ่งงันไปชั่วขณะไอมารที่ควบคุมจื่อเถิงและอิงฮวาอยู่จึงอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้พวกเขาได้โอกาสโต้กลับร่ายพลังเซียนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องจอมมารในพริบตาจนลอยกระเด็นไปคนละทางพลังกึ่งเทพของจื่อเถิงไม่อาจควบคุมได้เพราะจิตใจที่ไม่มั่นคงมันสะท้อนเข้าหาหยกสีชมพูที่อาจารย์เจ้าสำนักให้นางเอาไว้จื่อเถิงจึงรู้สึกตัวตั้งสติร่ายวิชาเคลื่อนย้ายโดยใช้พลังใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 15 บุกสำนักเซียน

    เขาซวนเหยาจื่อเถิงพยายามตั้งสติของตนเองไม่ให้วอกแวกคิดสิ่งใดเพราะเวลานี้นางจะต้องรวบรวมเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเดิมทีชีวิตที่ยืนยาวจะค่อย ๆ หล่อหลอมเมล็ดพันธุ์นั้นตามกาลเวลาที่ร่วงโรยผ่านไป ทว่า จื่อเถิงไม่อาจรอช้าได้ในเมื่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องกับนางกำลังเผชิญกับอันตรายนับไม่ถ้วนสำนักดาราสวรรค์ตกอยู่ในวงล้อมของทัพมารที่ค่อย ๆ บีบเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ให้เปิดเผยที่ซ่อนของจื่อเถิงโดยใช้ชีวิตของศิษย์ที่เหลืออยู่เป็นเครื่องต่อรองหากแต่ทุกคนรู้ดีว่าจอมมารโฉดร้ายและสัตว์อสูรที่กำลังหิวกระหายไม่เคยปล่อยผู้ใดให้รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังคิดทำลายทั้งสามภพตามอำเภอใจ พวกเขาทั้งหมดจึงปิดปากเงียบและยืนหยัดปกป้องสำนักของตัวเองและชาวเมืองที่หลบเข้ามาพึ่งพิงจื่อเถิงนั่งสมาธิรวบรวมพลังบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลอยู่ภายในหุบเขาซวนเหยาเพียงลำพัง ในใจร้อนรนจนอดทนเอาไว้ไม่ได้ทำให้สติแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 16 บีบคั้น

    กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้นเจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้าหยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”“ไม่เห็นหรือว่าทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-27
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 19 ชาติภพที่สอง

    ชีวิตในชาติที่สองของเทพดารากำลังเริ่มต้นใหม่ หากโชคชะตาของนางในครานี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น นางจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักของคนรอบตัว และเมื่อถึงวัยออกเรือนจะได้แต่งงานกับคนที่นางรักดังใจหมาย ครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่มีเรื่องใดให้เศร้าเสียใจอย่างในชาติก่อนเช้าสดใสวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิผู้คนในจวนของท่านแม่ทัพกำลังวุ่นวายเดินเข้าเดินออกขวักไขว่เพราะอู๋ฮูหยินเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาสีหน้าของเขากังวลเป็นห่วงฮูหยินของตนเองจนทำตัวไม่ถูก“แม่ทัพอู๋ใจเย็นก่อนเถิด” น้ำเสียงอบอุ่นของสตรีผู้หนึ่งกล่าวกับเขา นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวประหม่ากว่าผู้ใดเพราะนี่เป็นลูกคนแรกของเขากับสหายของนาง“ดูเข้าสิ สีหน้าท่าทาง ใครเห็นต้องไม่เชื่อแน่ว่าคนผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่เมืองไท่หยาง” บุรุษน่าเกรงขามอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาตบไหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-29
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 20 ในที่สุด...

    นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หลินซีเวยพยายามตามหาวิญญาณของสวีลู่ชิงมาโดยตลอด แต่กลับไม่เจอร่องรอยที่สาวถึงนางได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรู้สึกนั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา หลินซีเวยรีบไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ในทันทีพลันได้ยินเสียงของหมอกำลังบอกอาการพะอืดพะอมของอู๋ฮูหยิน“นางกำลังตั้งท้องขอรับ” หมอผู้นั้นบอกแม่ทัพใหญ่ “ข้าจะต้มสมุนไพรบำรุงครรภ์ไว้ให้ หากนางไม่อยากอาหาร อย่างน้อยก็ให้นางค่อย ๆ จิบยาลดอาการคลื่นไส้เถิด”“เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ท่านพูดว่าอันใด” แม่ทัพใหญ่คิดว่าตนเองหูแว่ว “ฮูหยินของข้าท้องอย่างนั้นหรือ”“ขอรับ อู๋ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์” หมอยืนยันหนักแน่นว่าอาการที่นางกำลังประสบอยู่เป็นอาการของคนแพ้ท้องไม่มีผิด “แม่ทัพใหญ่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนดีหรือไม่ นางไม่เป็นอันใดมากหรอก แค่แพ้ท้องตามประสาเท่านั้นเอง”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-31
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 21 หาโอกาส

    เจ็ดปีผ่านไปเมืองไท่หยางจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองประจำฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศระหว่างนี้จึงมีแต่ความสนุกสนานสดใส ใครต่อใครต่างรอคอยช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อที่จะชมดอกไม้ไฟด้วยใจจดจ่ออู๋เยว่ชิงวัยเจ็ดขวบวิ่งหน้ายิ้มแป้นมาแต่ไกลร้องเรียกสหายคนสนิทที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน “องค์ชายเจ็ด คืนนี้ทรงมารอดูดอกไม้ไฟด้วยกันหรือไม่เพคะ”หลินมู่หลง หรือองค์ชายเจ็ด น้องชายต่างมารดาของหลินซีเวยผู้ที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือนกลายมาเป็นเพื่อนรักรุ่นเดียวกันตั้งแต่แรกเกิดเพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน“แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารอเจ้ามาชวนอยู่พอดีเลย” เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นขนมหวานที่นางชอบให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแอบไปขอมาเพิ่มให้เจ้าเชียว รีบกินเร็วเข้า”“องค์ชายทรงเลี้ยงหม่อมฉันให้เป็นหมูอยู่หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงมองดวงตาสีน้ำตาล ท่าทีหยอกล้อทำให้เขาหัวเราะออกมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 48 ตามหาทุกหนแห่ง

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status