Share

ตอนที่ 16 บีบคั้น

last update Last Updated: 2025-01-23 07:00:59

กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้น

เจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว

“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้า

หยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก

“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”

“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”

“ไม่เห็นหรือว่าทำลายแก่นวิญญาณของเทพตนหนึ่งทิ้ง” เขาพูดถึงหยางซีอวิ๋นสีหน้าเรียบเฉย พลางเล่นไอมารกลม ๆ ในกำมือแล้วบีบให้แตกกระจาย พูดต่อว่า “อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้เชียวล่ะ”

เฉาหมิงที่เพิ่งรู้ว่ากงจื่อเย่หมายถึงสิ่งใดแทบอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ร่ายพลังเซียนเพื่อโจมตีเขา หากแต่อีกฝ่ายเพียงแค่เอียงคอหลบไม่รู้สึกรู้สา

“นางอยู่ที่ใด” เขาเอ่ยปากถามศิษย์สำนักดาราสวรรค์ที่เหลืออยู่เพราะจับไม่ได้เลยว่าจื่อเถิงแอบซ่อนตัวอยู่ตรงไหน ทั้ง ๆ ที่คิดไว้แล้วว่าคงหนีไปไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

ทว่า กลับไม่รู้สึกถึงพลังกึ่งเทพของนางเหมือนอย่างที่ผ่านมา ราวกับอีกฝ่ายรู้ตัวว่าถูกตามทันได้เพราะเหตุใดจึงป้องกันเอาไว้ก่อน

“...” แม้เวลานั้นทุกคนจะรู้แล้วว่าจอมมารโหดเหี้ยมจนถึงขั้นทำลายแก่นวิญญาณเทพได้ กลับไม่มีใครปริปากบอกที่ซ่อนของศิษย์ร่วมสำนัก

“มนุษย์ช่างโง่เขลา ข้าตั้งใจจะปล่อยพวกเจ้าไปแท้ ๆ แต่กลับไม่มีผู้ใดรับโอกาสที่ข้าหยิบยื่นให้” สีหน้าจอมมารไม่สบอารมณ์จึงหันไปสั่งโจวเหวินหลงในร่างมังกรดำว่า “ตามหานางให้พบ”

“ขอรับ” มังกรดำรับคำจากไปพร้อมกับเฉินซือหยาง

“ข้าไม่ชอบถามอันใดซ้ำสอง แต่ไม่มีผู้ใดอยากตอบจริงหรือ” เขาร่ายพลังมารในมือทั้งสองข้าง ไอมารค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นครอบคลุมเกราะป้องกันสำนักเซียนโดยรอบ

พลังรุนแรงบีบอัดเกราะนั้นจนสั่นสะเทือนเกิดรอยร้าวเล็ก ๆ หลายจุด

ศิษย์สำนักดาราสวรรค์จึงช่วยกันร่ายพลังเซียนต้านทานเอาไว้ไม่ให้รอยร้าวขยายวงกว้างมากขึ้น

ยิ่งผลาญพลังเซียนไปมากเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งอ่อนแอลง ในขณะที่พละกำลังของกงจื่อเย่ไม่มีถดถอยเพราะคอยดูดกลืนความชั่วร้ายและพลังชีวิตของมนุษย์อยู่ตลอดเวลา

ครั้นเกราะกำบังร้าวจนเกิดรอยปริรูเล็ก ๆ กงจื่อเย่จึงแทรกไอมารเข้าไปข้างในทีละนิด

พลังสีดำวิ่งว่อนไปทั่วสำนักดาราสวรรค์ก่อนจะพุ่งเข้าหาศิษย์ที่อ่อนแอที่สุด

ผู้ใดที่ปัดเป่าปกป้องตัวเองไม่ทันก็จะถูกมันจัดการในพริบตาเดียว

อ๊าก!!! อ๊าก!!! อ๊าก!!!

พวกเขาตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวดเพราะอวัยวะภายในถูกกัดกิน ไอมารทะลวงเข้าออกร่างราวเข็มนับหมื่นทิ่มแทงไม่มีปรานี

ศิษย์และอาจารย์ที่อยู่ข้างกันพยายามช่วยคนของตัวเองแต่กงจื่อเย่ไม่รอช้าต่อรองให้มากความพลันแสดงให้พวกเขาได้เห็นว่าพวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานจนลมหายใจสุดท้ายที่ไม่เลือกเส้นทางที่เขามอบให้

เขาร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของศิษย์สำนักเหล่านั้นออกมาบีบให้แหลกสลายจนเป็นผุยผงต่อหน้าต่อตาอาจารย์แต่ละคน

“...!!!”

เฉาหมิงและจางเจี๋ยหลุนหน้าซีดเผือดที่เห็นศิษย์ของตนไม่อาจเวียนว่ายตายเกิดบรรลุเซียนได้อีกต่อไป

ทว่า ไม่อาจยอมแพ้บอกเรื่องจื่อเถิงให้จอมมารตรงหน้ารับรู้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแดนมนุษย์คงล่มสลายไปด้วย

ไอมารบินโฉบหาเหยื่อรายต่อไปด้วยความกระหาย กงจื่อเย่ดูดพลังชีวิตของศิษย์สำนักที่เพิ่งสิ้นไป สีหน้าเอร็ดอร่อยพร้อมพูดว่า “รสชาติดียิ่งนักและข้ายังไม่อิ่มเสียด้วย” พลางเลียริมฝีปากเยาะเย้ยพวกเขาสีหน้าระรื่น

เซียนเยว่ฉีหลับตาลงตรวจสอบอะไรบางอย่างอยู่เพียงลำพังก่อนจะส่งสัญญาณให้เจ้าสำนักเซียวและอาจารย์คนอื่นได้รับรู้

ทุกคนกระชับอาวุธเซียนประจำกายไว้แน่น สายตาเด็ดเดี่ยวไม่เกรงกลัวแม้จะถูกขู่อย่างเหี้ยมโหด

“สู้รบกันมาตั้งนาน ยังไม่รู้อีกหรือว่าพลังเซียนชั้นต่ำทำอันใดข้ามิได้” จอมมารพูดด้วยน้ำเสียงเหนือกว่า “อืม... บางทีเสียงร้องโหยหวนของพวกเจ้าอาจจะทำให้นางรู้สึกตัวก็เป็นได้”

“คิดจะล้มล้างสำนักดาราสวรรค์ ไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดนักหรอก ถึงวันนี้จะสังหารเจ้าไม่ได้แต่สักวันเจ้าจะต้องถูกกำจัดอยู่ดี” เซียนเยว่ฉียิ้มมุมปาก “เพราะอย่างนั้นเจ้าถึงได้กลัวนางถึงเพียงนั้น ใช่หรือไม่”

“เฮอะ” เขาแสยะยิ้ม “ข้าจะส่งนางไปพบพวกเจ้าอย่างแน่นอน”

เวลานั้นพลังทั้งสองฝ่ายพุ่งโจมตีกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เซียนสำนักทุกคนพร้อมใจกันลดทอนพละกำลังของจอมมารให้ได้มากที่สุด

ท้องฟ้าบริเวณนั้นจึงแปรปรวนจนเกิดฝนสีแดงกระหน่ำลงมาเบื้องล่าง บรรยากาศเยือกเย็นแผ่ขยายไปจนถึงเมืองที่อยู่รายรอบเทือกเขายาวนับร้อยลี้

เฉินซือหยางหยุดมองดูผลงานอลังการของเจ้านายด้วยความตื่นเต้น “พลังของนายท่านแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

มังกรดำพยักหน้าแม้จะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก “รีบตามหานางต่อดีกว่า ข้าไม่อยากถูกนายท่านป่นขยี้จนเละเหมือนมนุษย์พวกนั้นหรอกนะ”

เขาซวนเหยา

การจากไปของหยางซีอวิ๋นทำให้จื่อเถิงเข้าถึงอารมณ์ทั้งเจ็ดในเพียงชั่วยาม เมล็ดพันธุ์ที่นางตั้งใจหล่อหลอมขึ้นมาจึงเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

นอกจากนั้นจื่อเถิงยังค่อย ๆ เปิดผนึกได้ทีละส่วนจึงรับรู้ความเป็นความตายของสรรพสิ่งในบริเวณนั้นได้มากขึ้น น้ำตาของนางไหลเอ่อสัมผัสความเจ็บปวดที่ศิษย์และอาจารย์ร่วมสำนักต้องเผชิญในเวลานี้

ไม่รวมถึงชาวเมืองในเขตร้อยลี้ที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุนเพราะกองทัพมาร

ทุกครั้งที่แก่นวิญญาณของศิษย์สำนักแตกหัก หัวใจของจื่อเถิงเจ็บแปลบราวจะแหลกสลายไปด้วย หากแต่นางต้องตั้งสติหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ขั้นสุดท้ายให้เสร็จสิ้นเพราะอย่างน้อยหลังจากผนึกเมล็ดพันธุ์ในแก่นวิญญาณของจอมมารแล้วจะทำให้เขาอ่อนแอลงไปชั่วขณะหนึ่ง

เปรี้ยง!!!

ท้องฟ้าคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว สายฟ้าสาดลงมายังสำนักเซียน จื่อเถิงสะดุ้งจากภวังค์รีบวิ่งออกมาหาอิงฮวาในทันใด

“ศิษย์พี่...” นางปาดน้ำตาพลางชี้ไปยังจุดที่พลังมารพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย “ที่นั่น สำนักของเรา...”

“ข้ารู้” จื่อเถิงกอดนางเอาไว้พลันสายตาเหลือบเห็นมังกรดำบินวนเวียนอยู่รอบนอกจึงรีบดึงอิงฮวาเข้ามาหลบด้านในก่อน

จื่อเถิงไม่ต้องการปะทะกับลูกน้องปีศาจเพื่อออมแรงเอาไว้ ทั้งยังต้องแอบแทรกแซงเข้าไปโดยที่จอมมารไม่รู้ตัวจึงให้อิงฮวาร่ายพลังเซียนเบี่ยงเบนความสนใจอีกฝ่าย

นางปล่อยลูกไฟสีขาวให้ล่องลอยไปตามทางคดเคี้ยวในถ้ำหลอกล่อลูกน้องกงจื่อเย่ตามไป

จังหวะที่อิงฮวาเผลอหันหลังให้ จื่อเถิงจึงร่ายพลังกักขังนางเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้ศิษย์น้องต้องมาเสี่ยงชีวิตไปด้วยคน

อย่างน้อยหากจะช่วยผู้ใดไม่ได้เลยก็ขอให้อิงฮวารอดชีวิต

“ศิษย์พี่!!!” อิงฮวารีบวิ่งกลับมาคว้าแขนเสื้อนางเอาไว้แต่ไม่ทัน “ให้ข้าไปด้วย”

จื่อเถิงหันกลับมายิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน รู้ตัวดีว่าการออกไปเผชิญหน้ากับจอมมารครั้งนี้คือการเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อผนึกเมล็ดพันธุ์และเมื่อกลับไปที่สำนักเซียนอาจไม่มีผู้ใดเหลือรอดแล้วเป็นได้ เพราะเหตุนั้น อิงฮวาจึงไม่ควรข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้อีก

“ศิษย์พี่ อย่าบอกนะว่าจะทิ้งข้าไปอีกคน” อิงฮวาร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าขอร้อง พาข้าไปด้วย”

“สำนักเซียนของเราต้องมีผู้สืบทอด เจ้าคือผู้ที่ได้รับหน้าที่นั้น” จื่อเถิงอธิบายให้นางฟัง “เราทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง จำได้หรือไม่”

แม้นางจะเคยเอ่ยปากว่าทำไม่ได้ตอนที่หยางซีอวิ๋นขอร้องให้ทิ้งเขาแล้วหนีไป แต่ครั้งนี้จื่อเถิงเข้าใจแล้วว่าทุกคนมีสิ่งที่ต้องทำแตกต่างกันไป

เรื่องระหว่างนางกับจอมมารก็ควรจะสิ้นสุดโดยไม่จำเป็นต้องสูญเสียใครอีก

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

    Last Updated : 2025-01-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

    Last Updated : 2025-01-27
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 19 ชาติภพที่สอง

    ชีวิตในชาติที่สองของเทพดารากำลังเริ่มต้นใหม่ หากโชคชะตาของนางในครานี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น นางจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักของคนรอบตัว และเมื่อถึงวัยออกเรือนจะได้แต่งงานกับคนที่นางรักดังใจหมาย ครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่มีเรื่องใดให้เศร้าเสียใจอย่างในชาติก่อนเช้าสดใสวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิผู้คนในจวนของท่านแม่ทัพกำลังวุ่นวายเดินเข้าเดินออกขวักไขว่เพราะอู๋ฮูหยินเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาสีหน้าของเขากังวลเป็นห่วงฮูหยินของตนเองจนทำตัวไม่ถูก“แม่ทัพอู๋ใจเย็นก่อนเถิด” น้ำเสียงอบอุ่นของสตรีผู้หนึ่งกล่าวกับเขา นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวประหม่ากว่าผู้ใดเพราะนี่เป็นลูกคนแรกของเขากับสหายของนาง“ดูเข้าสิ สีหน้าท่าทาง ใครเห็นต้องไม่เชื่อแน่ว่าคนผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่เมืองไท่หยาง” บุรุษน่าเกรงขามอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาตบไหล

    Last Updated : 2025-01-29
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 20 ในที่สุด...

    นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หลินซีเวยพยายามตามหาวิญญาณของสวีลู่ชิงมาโดยตลอด แต่กลับไม่เจอร่องรอยที่สาวถึงนางได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรู้สึกนั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา หลินซีเวยรีบไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ในทันทีพลันได้ยินเสียงของหมอกำลังบอกอาการพะอืดพะอมของอู๋ฮูหยิน“นางกำลังตั้งท้องขอรับ” หมอผู้นั้นบอกแม่ทัพใหญ่ “ข้าจะต้มสมุนไพรบำรุงครรภ์ไว้ให้ หากนางไม่อยากอาหาร อย่างน้อยก็ให้นางค่อย ๆ จิบยาลดอาการคลื่นไส้เถิด”“เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ท่านพูดว่าอันใด” แม่ทัพใหญ่คิดว่าตนเองหูแว่ว “ฮูหยินของข้าท้องอย่างนั้นหรือ”“ขอรับ อู๋ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์” หมอยืนยันหนักแน่นว่าอาการที่นางกำลังประสบอยู่เป็นอาการของคนแพ้ท้องไม่มีผิด “แม่ทัพใหญ่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนดีหรือไม่ นางไม่เป็นอันใดมากหรอก แค่แพ้ท้องตามประสาเท่านั้นเอง”“

    Last Updated : 2025-01-31
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 21 หาโอกาส

    เจ็ดปีผ่านไปเมืองไท่หยางจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองประจำฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศระหว่างนี้จึงมีแต่ความสนุกสนานสดใส ใครต่อใครต่างรอคอยช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อที่จะชมดอกไม้ไฟด้วยใจจดจ่ออู๋เยว่ชิงวัยเจ็ดขวบวิ่งหน้ายิ้มแป้นมาแต่ไกลร้องเรียกสหายคนสนิทที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน “องค์ชายเจ็ด คืนนี้ทรงมารอดูดอกไม้ไฟด้วยกันหรือไม่เพคะ”หลินมู่หลง หรือองค์ชายเจ็ด น้องชายต่างมารดาของหลินซีเวยผู้ที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือนกลายมาเป็นเพื่อนรักรุ่นเดียวกันตั้งแต่แรกเกิดเพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน“แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารอเจ้ามาชวนอยู่พอดีเลย” เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นขนมหวานที่นางชอบให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแอบไปขอมาเพิ่มให้เจ้าเชียว รีบกินเร็วเข้า”“องค์ชายทรงเลี้ยงหม่อมฉันให้เป็นหมูอยู่หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงมองดวงตาสีน้ำตาล ท่าทีหยอกล้อทำให้เขาหัวเราะออกมา

    Last Updated : 2025-02-02
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 22 พลังมารย้อนกลับ

    ความหวังดีของอู๋เยว่ชิงยิ่งทำให้จอมมารน้อยรำคาญมากขึ้น เขาใช้แรงที่มีอยู่ผลักนางออกจนมือข้างซ้ายกระแทกกับก้อนหินแหลมทว่า อู๋เยว่ชิงไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยแต่มือข้างซ้ายของหลินซีเวยกลับมีรอยบาดจากคมหินแหลมเป็นทางยาวจนได้เลือดเพิ่มขึ้นมาอีก“องค์ชายทรงมีประชวรอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” เสียงตื่นตกใจของขันทีเอ่ยปากถามพลางสั่งให้นางกำนัลไปตามหมอหลวงแม้ว่าทุกวันนี้พวกเขาจะเห็นว่าองค์ชายสามมักจะมีอาการเช่นนี้บ่อย ๆ แต่ก็กังวลทุกครั้งเพราะเป็นอาการที่หมอหลวงไม่อาจหาสาเหตุได้เคราะห์ยังดีที่ดื่มยาสมุนไพรชั้นดีไปสองสามวัน ร่างกายขององค์ชายสามก็กลับมาเป็นปกติราวกับไม่เคยเจ็บป่วยใด ๆ มาก่อนหลินซีเวยถอนหายใจอีกครั้งแล้วนั่งนิ่งบนเสลียงกลับตำหนักของตน บ่นพึมพำ “ทำไม่สำเร็จอีกแล้ว”อู๋เยว่ชิงมองตามหลังด้วยความเป็นห่วงแล้วถามองค์ชายเจ็ดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ &ldq

    Last Updated : 2025-02-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 23 สาสน์แต่งงาน

    สิบเหมันต์ผันผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างอู๋เยว่ชิงและองค์ชายเจ็ดแน่นแฟ้นขึ้น สายตาของคนนอกต่างมองว่าพวกเขาเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก“บุตรสาวเจ้าถึงวัยออกเรือนแล้ว ข้าเห็นว่านางสนิทสนมกับองค์ชายเจ็ดพอสมควร วันนี้จึงมาปรึกษา” ฮองเฮารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งอู๋ฮูหยินขมวดคิ้วมีสีหน้าครุ่นคิดแล้วตอบสหายสนิทไปว่า “เรื่องของหัวใจ หม่อมฉันว่าปล่อยให้เด็ก ๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนจะดีกว่า”“กังวลเรื่องใดอยู่หรือ ข้านึกว่าเจ้าจะตอบตกลงทันทีที่ข้าเอ่ยปากเสียอีก” นางนึกสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด“หม่อมฉันไม่แน่ใจนัก” สายตาของนางมองไปที่บุตรสาว เวลานี้อู๋เยว่ชิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาอีกฝั่งหนึ่งอยู่เพียงลำพังครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อู๋เยว่ชิงจึงออกไปเดินเล่นทางสวนดอกไม้ฝั่งวังหลวงบ้างเหมือนเช่นเคย โดยไม่ลืมถือของฝากไปให้องค์ชายเจ็ดที่ตำหนักของเขาบ่อยครั้งจึงมักสวนทางกับหลินซีเวย แม้นางจะยิ้มให้อีกฝ่ายหรือทำท่าเอ่ยปากทักทายแต่องค์ชายสามผู้เคร่งขรึมก็มักจะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใยดีทำให้นางรู้สึกเศร้าใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อมาถึงตำหนักของหลินมู่หลง เขาจึงปลอบใจนางยกใหญ่ ไม่นานนักรอยยิ้มสดใสข

    Last Updated : 2025-02-07
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    Last Updated : 2024-10-28

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 23 สาสน์แต่งงาน

    สิบเหมันต์ผันผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างอู๋เยว่ชิงและองค์ชายเจ็ดแน่นแฟ้นขึ้น สายตาของคนนอกต่างมองว่าพวกเขาเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก“บุตรสาวเจ้าถึงวัยออกเรือนแล้ว ข้าเห็นว่านางสนิทสนมกับองค์ชายเจ็ดพอสมควร วันนี้จึงมาปรึกษา” ฮองเฮารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งอู๋ฮูหยินขมวดคิ้วมีสีหน้าครุ่นคิดแล้วตอบสหายสนิทไปว่า “เรื่องของหัวใจ หม่อมฉันว่าปล่อยให้เด็ก ๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนจะดีกว่า”“กังวลเรื่องใดอยู่หรือ ข้านึกว่าเจ้าจะตอบตกลงทันทีที่ข้าเอ่ยปากเสียอีก” นางนึกสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด“หม่อมฉันไม่แน่ใจนัก” สายตาของนางมองไปที่บุตรสาว เวลานี้อู๋เยว่ชิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาอีกฝั่งหนึ่งอยู่เพียงลำพังครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อู๋เยว่ชิงจึงออกไปเดินเล่นทางสวนดอกไม้ฝั่งวังหลวงบ้างเหมือนเช่นเคย โดยไม่ลืมถือของฝากไปให้องค์ชายเจ็ดที่ตำหนักของเขาบ่อยครั้งจึงมักสวนทางกับหลินซีเวย แม้นางจะยิ้มให้อีกฝ่ายหรือทำท่าเอ่ยปากทักทายแต่องค์ชายสามผู้เคร่งขรึมก็มักจะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใยดีทำให้นางรู้สึกเศร้าใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อมาถึงตำหนักของหลินมู่หลง เขาจึงปลอบใจนางยกใหญ่ ไม่นานนักรอยยิ้มสดใสข

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 22 พลังมารย้อนกลับ

    ความหวังดีของอู๋เยว่ชิงยิ่งทำให้จอมมารน้อยรำคาญมากขึ้น เขาใช้แรงที่มีอยู่ผลักนางออกจนมือข้างซ้ายกระแทกกับก้อนหินแหลมทว่า อู๋เยว่ชิงไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยแต่มือข้างซ้ายของหลินซีเวยกลับมีรอยบาดจากคมหินแหลมเป็นทางยาวจนได้เลือดเพิ่มขึ้นมาอีก“องค์ชายทรงมีประชวรอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” เสียงตื่นตกใจของขันทีเอ่ยปากถามพลางสั่งให้นางกำนัลไปตามหมอหลวงแม้ว่าทุกวันนี้พวกเขาจะเห็นว่าองค์ชายสามมักจะมีอาการเช่นนี้บ่อย ๆ แต่ก็กังวลทุกครั้งเพราะเป็นอาการที่หมอหลวงไม่อาจหาสาเหตุได้เคราะห์ยังดีที่ดื่มยาสมุนไพรชั้นดีไปสองสามวัน ร่างกายขององค์ชายสามก็กลับมาเป็นปกติราวกับไม่เคยเจ็บป่วยใด ๆ มาก่อนหลินซีเวยถอนหายใจอีกครั้งแล้วนั่งนิ่งบนเสลียงกลับตำหนักของตน บ่นพึมพำ “ทำไม่สำเร็จอีกแล้ว”อู๋เยว่ชิงมองตามหลังด้วยความเป็นห่วงแล้วถามองค์ชายเจ็ดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ &ldq

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 21 หาโอกาส

    เจ็ดปีผ่านไปเมืองไท่หยางจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองประจำฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศระหว่างนี้จึงมีแต่ความสนุกสนานสดใส ใครต่อใครต่างรอคอยช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อที่จะชมดอกไม้ไฟด้วยใจจดจ่ออู๋เยว่ชิงวัยเจ็ดขวบวิ่งหน้ายิ้มแป้นมาแต่ไกลร้องเรียกสหายคนสนิทที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน “องค์ชายเจ็ด คืนนี้ทรงมารอดูดอกไม้ไฟด้วยกันหรือไม่เพคะ”หลินมู่หลง หรือองค์ชายเจ็ด น้องชายต่างมารดาของหลินซีเวยผู้ที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือนกลายมาเป็นเพื่อนรักรุ่นเดียวกันตั้งแต่แรกเกิดเพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน“แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารอเจ้ามาชวนอยู่พอดีเลย” เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นขนมหวานที่นางชอบให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแอบไปขอมาเพิ่มให้เจ้าเชียว รีบกินเร็วเข้า”“องค์ชายทรงเลี้ยงหม่อมฉันให้เป็นหมูอยู่หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงมองดวงตาสีน้ำตาล ท่าทีหยอกล้อทำให้เขาหัวเราะออกมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 20 ในที่สุด...

    นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หลินซีเวยพยายามตามหาวิญญาณของสวีลู่ชิงมาโดยตลอด แต่กลับไม่เจอร่องรอยที่สาวถึงนางได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรู้สึกนั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา หลินซีเวยรีบไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ในทันทีพลันได้ยินเสียงของหมอกำลังบอกอาการพะอืดพะอมของอู๋ฮูหยิน“นางกำลังตั้งท้องขอรับ” หมอผู้นั้นบอกแม่ทัพใหญ่ “ข้าจะต้มสมุนไพรบำรุงครรภ์ไว้ให้ หากนางไม่อยากอาหาร อย่างน้อยก็ให้นางค่อย ๆ จิบยาลดอาการคลื่นไส้เถิด”“เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ท่านพูดว่าอันใด” แม่ทัพใหญ่คิดว่าตนเองหูแว่ว “ฮูหยินของข้าท้องอย่างนั้นหรือ”“ขอรับ อู๋ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์” หมอยืนยันหนักแน่นว่าอาการที่นางกำลังประสบอยู่เป็นอาการของคนแพ้ท้องไม่มีผิด “แม่ทัพใหญ่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนดีหรือไม่ นางไม่เป็นอันใดมากหรอก แค่แพ้ท้องตามประสาเท่านั้นเอง”“

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 19 ชาติภพที่สอง

    ชีวิตในชาติที่สองของเทพดารากำลังเริ่มต้นใหม่ หากโชคชะตาของนางในครานี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น นางจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักของคนรอบตัว และเมื่อถึงวัยออกเรือนจะได้แต่งงานกับคนที่นางรักดังใจหมาย ครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่มีเรื่องใดให้เศร้าเสียใจอย่างในชาติก่อนเช้าสดใสวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิผู้คนในจวนของท่านแม่ทัพกำลังวุ่นวายเดินเข้าเดินออกขวักไขว่เพราะอู๋ฮูหยินเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาสีหน้าของเขากังวลเป็นห่วงฮูหยินของตนเองจนทำตัวไม่ถูก“แม่ทัพอู๋ใจเย็นก่อนเถิด” น้ำเสียงอบอุ่นของสตรีผู้หนึ่งกล่าวกับเขา นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวประหม่ากว่าผู้ใดเพราะนี่เป็นลูกคนแรกของเขากับสหายของนาง“ดูเข้าสิ สีหน้าท่าทาง ใครเห็นต้องไม่เชื่อแน่ว่าคนผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่เมืองไท่หยาง” บุรุษน่าเกรงขามอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาตบไหล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 16 บีบคั้น

    กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้นเจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้าหยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”“ไม่เห็นหรือว่าทำ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 15 บุกสำนักเซียน

    เขาซวนเหยาจื่อเถิงพยายามตั้งสติของตนเองไม่ให้วอกแวกคิดสิ่งใดเพราะเวลานี้นางจะต้องรวบรวมเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเดิมทีชีวิตที่ยืนยาวจะค่อย ๆ หล่อหลอมเมล็ดพันธุ์นั้นตามกาลเวลาที่ร่วงโรยผ่านไป ทว่า จื่อเถิงไม่อาจรอช้าได้ในเมื่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องกับนางกำลังเผชิญกับอันตรายนับไม่ถ้วนสำนักดาราสวรรค์ตกอยู่ในวงล้อมของทัพมารที่ค่อย ๆ บีบเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ให้เปิดเผยที่ซ่อนของจื่อเถิงโดยใช้ชีวิตของศิษย์ที่เหลืออยู่เป็นเครื่องต่อรองหากแต่ทุกคนรู้ดีว่าจอมมารโฉดร้ายและสัตว์อสูรที่กำลังหิวกระหายไม่เคยปล่อยผู้ใดให้รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังคิดทำลายทั้งสามภพตามอำเภอใจ พวกเขาทั้งหมดจึงปิดปากเงียบและยืนหยัดปกป้องสำนักของตัวเองและชาวเมืองที่หลบเข้ามาพึ่งพิงจื่อเถิงนั่งสมาธิรวบรวมพลังบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลอยู่ภายในหุบเขาซวนเหยาเพียงลำพัง ในใจร้อนรนจนอดทนเอาไว้ไม่ได้ทำให้สติแต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status