หวังชิงเยี่ยนบุปผาแรกแย้มแห่งหอสราญรมย์ แต่งเข้าเป็นสะใภ้รองสกุลหรานเพื่อส่งวิญญาณคุณชายรองไปปรโลกอย่างสงบสุข ทว่าสองปีต่อมานางกลับถูกรสรักของพี่สามีแม่ทัพทำให้ชีวิตปั่นปวนจนจวนตระกูลหรานสั่นสะเทือน .................................... เหลียงซินเหยียน แต่งเข้าตระกูลเซี่ย ทว่าไม่ทันเข้าพิธีเซี่ยเฉินอวี้ ผู้เป็นเจ้าบ่าวก็ถูกเรียกตัวเข้ากองทัพ เจ้าสาวเช่นนางทำได้เพียงมองว่าที่สามีขึ้นม้าศึก ส่งสายตาห่วงใยผ่านผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ก่อนจะเข้าพิธีแต่งงานโดยมี เซี่ยเฉินซวี่ สวมชุดเจ้าบ่าวแทนพี่ชาย เพียงแต่ไม่คิดว่าต่อมาน้องสามีบัณฑิตผู้นี้จะทำหน้าที่แทนพี่ชายทุกอย่าง แม้แต่เรื่อง "เข้าหอ"
ดูเพิ่มเติมบทสุดท้ายความลับของพี่สะใภ้ NC 18+“เหยียนเอ๋อร์ไม่ว่าภายหน้าจะเป็นเช่นไร ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ว่ายังมีพี่ชายหลี่คนนี้ยืนอยู่ข้างเจ้า”เรื่องของเหลียงซินเหยียนกับเซี่ยเฉินซวี่ในวันงานเลี้ยงตระกูลฉินนั้นเป็นที่เล่าลือไปทั้งต้าซางถึงความสัมพันธ์ของพี่สะใภ้น้องสามีตระกูลเซี่ยและสร้างความเสื่อมเสียให้เซี่ยเฉินซวี่ไม่น้อย เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงและรักษาเกียรติของตน เซี่ยเฉินซวี่อาจต้องใช้วิธีไล่เหลียงซินเหยียนออกจากจวน และนี่เป็นเรื่องที่เหลียงเหวินหลี่กังวลไม่น้อยทีเดียว“ขอบคุณชายหลี่มากเจ้าค่ะ เหยียนเอ๋อร์จะจดจำไว้”เหลียงเหวินหลี่ส่งยิ้มอบอุ่นให้น้องสาวตรงหน้า ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กส่งกำลังใจให้นาง หากแต่ฝ่ามือไม่ทันสัมผัสผิวกายนาง มือเล็กบนโต๊ะก็ถูกผู้อื่นกอบกุมเอาไว้เสียก่อน“น่าเสียดายที่ข้างกายเหยียนเหยียน ไม่มีที่ว่างให้พี่ชายเช่นคุณชายเหลียงแล้ว”น้ำเสียงเข้มงวดดุดันเช่นนี้ไม่ต้องหันไปมองเหลียงซินเหยียนก็รับรู้ได้ในทันทีว่าเป็นผู้ใด ร่างสูงโปร่งนั่งลงบนเก้าอี้หินข้างนาง ขณะที่มือบางถูกเขาจับกุมเอาไว้แน่น เอวเล็กก็ถูกมือหนาโอบกอดกระชับ“คุณชายเซี่ย ท่านควรระวังเรื่องการวางตัวร
บทที่ 5.2สมรสพระราชทานเหลียงซินเหยียนรู้สึกตัวตื่นในยามบ่าย ข้างกายของนางว่างเปล่า สัมผัสบนผ้าปูเตียงนอนที่ไร้ไออุ่นบ่งบอกว่าคนข้างกายจากนางไปนานแล้ว แม้จะรู้ดีว่าเซี่ยเฉินซวี่เป็นที่ปรึกษาขององค์ฮ่องเต้รัชกาลปัจจุบัน ในเจ็ดวันเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างกายพระองค์ถึงห้าวัน แต่ยามที่ตื่นมาพบความเดียวดายตัวนางกลับรู้สึกอ้างว้างและผิดหวังอยู่ลึกๆ ในใจ“ชิงชิง มาช่วยข้าแต่งกายที”สาวใช้คนสนิทเข้ามาประคองผู้เป็นนายลงจากเตียงด้วยสองแก้มที่ร้อนผ่าว นางยังคงจดจำภาพเมื่อยามฟ้าสางที่คุณชายเล็กโอบอุ้มเหลียงซินเหยียนลงจากรถม้าด้วยสภาพไร้สติ บนกายของฮูหยินใหญ่ห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมตัวนอกของคุณชายเล็ก รอยรักมากมายบนลำคอระหงเด่นชัดต่อสายตาผู้คนยามนี้แม้ทั้งสองไม่ป่าวประกาศ แต่ผู้คนทั้งจวนตระกูลเซี่ยต่างก็รับรู้ถึงสถานะความสัมพันธ์ของผู้เป็นนายทั้งสอง“ฮูหยินเจ้าคะ เรื่องของท่านกับคุณชายเล็ก”“ข้าคือพี่สะใภ้ ส่วนเขาคือน้องสามี เจ้ารู้แค่นี้ก็พอ”ตราบในที่เซี่ยเฉินซวี่ไม่เอ่ยปากประกาศสถานะของนางเหลียงซินเหยียนก็ไม่ควรป่าวประกาศเช่นกัน ดังนั้นแม้จะถูกสายตาบ่าวไพร่มองด้วยความสงสัย แต่นางก็ยังคงวางตัวปกติไม่
บทที่ 5.1สมรสพระราชทาน (NC18+)“เหยียนเหยียนเจ้าอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตของข้า ไม่ใช่อำนาจ ชื่อเสียงเงินทอง แต่เป็นเจ้า... เหลียงซินเหยียน!”เซี่ยเฉินซวี่เอ่ยจบก็จับคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนรถม้าอันคับแคบ เปิดกระโปรงปลดกางเกงแล้วยกเรียวขาเล็กขึ้นพาดบ่าทั้งสองข้าง แนบริมฝีปากจรดลงบนกลีบบุปผานุ่ม ขยับตวัดลิ้นสากลิ้มเลียระเริงบทรักปลุกเร้าจนเหลียงซินเหยียนต้องขบกรามแน่น สอดส่ายสายตามองไปยังหน้าต่างรถม้า นับว่าโชคดีที่รถม้าของเซี่ยเฉินซวี่ค่อนข้างมิดชิด บดบังสายตาผู้คนด้านนอกได้เป็นอย่างดี“อาซวี่... หยุดก่อน อ่ะ...ซี๊ด!”“เจ้าอยากให้ข้าหยุดจริงหรือ... เหยียนเหยียน”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขณะที่ลิ้นร้อนยังคงตวัดตักตวงดื่มด่ำกับน้ำหวานกลางบุปผาของนางอย่างเร่าร้อน“อ่าส์... อื้ม... อาซวี่”“ว่าอย่างไร อยากให้ข้าหยุดหรือไม่”“ไม่! เจ้าเร็วอีกหน่อย อ่ะ... อื้ม...”เหลียงซินเหยียนร้องครวญเสียงสั่น มือที่ถูกเขาผูกมัดเอาไว้กับโครงรถม้าหมุนจับยึดเศษผ้า ยกตัวแอ่นสะโพกโต้ตอบเมื่อถูกปลายลิ้นร้อนสอดรุกถี่กระชั้นเข้ามาในกายสาวเซี่ยเฉินซวี่ใช้นิ้วยาวขยับช่วยสอดปลุกเร้า กระตุ้นให้นางปลดปล่อยสายน้ำ
บทที่ 4.2สิ่งที่สำคัญ (NC เบาๆ)เซี่ยเฉินซวี่ประคองเหลียงซินเหยียนที่ตัวสั่นสะท้านออกมาจากเรือนเล็ก หางตามองเห็นหญิงชั่วโจวหมิงอวี้พาคุณชายรองฉินและคุณชายใหญ่เกาเข้าไปในเรือนก็ขบกรามแน่น ทว่ายามที่คิดจะก้าวเท้าไปเอาเรื่องคน มือบางก็จับชายเสื้อเขาเอาไว้มั่น“รีบพาข้ากลับจวนที”ท่าทีที่ผิดปกติของเหลียงซินเหยียนทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนจะขบกรามจนแก้มขึ้นสันเมื่อคาดเดาได้ว่าอาการผิดปกติของเหลียงซินเหยียนเกิดจากอะไร“สตรีต่ำช้า นางกล้าวางยาเจ้าหรือ”“เป็นข้าที่ทำตัวเอง”เสียงหวานเอ่ยอย่างแหบพร่า ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าเดินเสียงทุ้มต่ำของสองบุรุษก็เล็ดลอดออกมาจากเรือนเล็ก อีกทั้งถ้อยคำหยาบโลนต่างๆ ที่สอดประสานกับเสียงครวญต่ำ ก็ทำให้สองขาเรียวสั่นสะท้านก้าวเดินอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะทรุดลงที่โคนไม้ใหญ่“เหยียนเหยียนเจ้าไหวหรือไม่”“อาซวี่ข้าทนไม่ไหวแล้ว เจ้าหาบุรุษให้ข้าสักคน”“พูดเช่นนี้เจ้าอยากให้ข้าสังหารคนหรือไง”เซี่ยเฉินซวี่ได้ยินนางเรียกหาบุรุษอื่นในใจก็เดือดดาลขึ้นมา ทว่าเหลียงซินเหยียนกลับไม่ได้ใส่ใจความขุ่นเคืองของเขาเลยแม้แต่น้อย มือบางกำสาบเสื้อของเขาแน่น เอ่ยเสียงสั่น
คำเตือน เนื้อหามีฉาก3P , เนื้อหามีการกระทำรุนแรง/ใช้กำลัง/บังคับบทที่ 4.1สิ่งสำคัญ“คุณหนูใหญ่โจว คุณหนูเหลียงคนงามของพวกข้าอยู่ที่ใดกัน”คุณชายรองฉินเอ่ยถามเสียงอ้อแอ้พรางถอดเสื้อผ้าของตนเองออก ขณะที่คุณชายใหญ่เกาหันไปจับแขนเล็กของโจวหมิงอวี้กระชากแล้วเอ่ยถามเสียงขุ่น“คิดเล่นตลกกับพวกข้าหรือไง”“โอ๊ย! คุณชายใหญ่เกาข้าเจ็บนะ”โจวหมิงอวี้เอ่ยร้องเสียงสั่น พรางกวาดสายตามองรอบห้องด้วยความตื่นกลัว คุณชายใหญ่เกานั้นมีรสนิยมชื่นชอบความรุนแรงยามเสพสวาท ดังนั้นเมื่อเห็นโจวหมิงอวี้แสดงท่าทางเจ็บปวดกับการกระทำของตนร่างกายของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาในทันที“หรือความจริงแล้วเป็นเจ้าที่อยากเล่นสนุกกับพวกเรา”โจวหมิงอวี้เบิกตากว้างสลัดแขนขยับตัววิ่งหนีไปที่ประตูในทันที หากแต่คุณชายใหญ่เกากลับไม่ยอมให้นางหลุดมือ มือหนาจับเส้นผมยาวของนางดึงรั้งจนร่างเพรียวบางเซถลากลับมาซบอกแกร่ง มือหนาข้างหนึ่งของคุณชายใหญ่เกาดึงรั้งเส้นผมนุ่ม อีกข้างบีบปลายคางเล็กให้นางเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเอ่ยเสียงแหบพร่าที่ข้างใบหูเล็ก“จะทำเป็นตื่นกลัวไปทำไมกัน ไม่ใช่ว่าเจ้าก็เคยสนุกกับพวกเราสองมาแล้ว”โจวหมิงอวี้กลืนน้ำลายฝืด เพราะนา
บทที่ 3.2คืนพิรุณโปรยเซี่ยเฉินซวี่กลับเข้าวังไปเพียงเจ็ดวันเทียบเชิญร่วมงานจิบน้ำชาจากตระกูลฉินก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลเซี่ย เหลียงซินเหยียนที่ยามนี้มีสถานะเป็นฮูหยินใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของจวนตระกูลเซี่ยจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงจำต้องไปร่วมงาน หากแต่ยามที่กำลังจะออกจากเรือนนอน ประตูเรือนก็ถูกเปิดออก“ชิงชิง เจ้าอย่าได้ลืมของขวัญที่...”เสียงหวานกลืนหายไปในลำคอเมื่อหันมาสบดวงตาคมที่มองมายังนางด้วยความขุ่นเคืองใจ เหลียงซินเหยียนก้มมองเครื่องแต่งกายของตนเองด้วยอาการประหม่าขึ้นมา“เอ่อ... น้อง... อาซวี่ชุดนี้ของข้ามีปัญหาหรือ”เหลียงซินเหยียนย่อมจดจำได้ดีว่าเซี่ยเฉินซวี่ไม่ชื่นชอบให้นางเรียกเขาด้วยสรรพนามว่า น้องเล็ก ดังนั้นยามที่อยู่ลำพังนางจึงเรียกขานอีกฝ่ายด้วยชื่อของเขาตามที่เซี่ยเฉินซวี่ต้องการ“ดูดีเกินไป”คิ้วเรียวพลันขมวดเข้าหากันแน่น นางไปร่วมงานเลี้ยงย่อมสมควรแต่งกายให้ดูดีมิใช่หรือ“ช่างเถิด วันนี้ห้ามเจ้าห่างจากข้าแม้เพียงก้าวเดียว...”เสียงดุเอ่ยบอกอย่างไม่พอใจนักก่อนจะแบมือยื่นมาเบื้องหน้าเหลียงซินเหยียนมองการกระทำของเขาด้วยความไม่เข้าใจ จนเซี่ยเฉินซวี่ถอนหายใจยาว“พี่สะใภ้ของข้าร่
บทที่ 3.1คืนพิรุณโปรย“เฉินซวี่ เจ้าจะทำอะไรข้า!”มุมปากของเซี่ยเฉินซวี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขยับตัวแทรกเข้ากลางกายสาว แล้วม้วนกระโปรงตัวยาวของนางขึ้นไปกองไว้ที่เอวบาง กำยึดเรียวขาขาวขนาบเอวหนาทั้งสองข้าง มองบุปผาที่ฉ่ำวาวแล้วเอ่ยเสียงแหบพร่า ขยับเอวหนา“ทำให้เจ้าเป็นภรรยาข้าอย่างไรเล่า”เหลียงซินเหยียนไม่ทันได้ตั้งสติเอ่ยถามต่อร่างกายก็สั่นสะท้านปวดร้าวไปทั้งตัว กลางกายสาวคล้ายฉีกขาดริมฝีปากบางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด“บัดซบ!”เซี่ยเฉินซวี่สบถเสียงกร้าวลอดไรฟันเมื่อไม่สามารถแทรกตัวเข้าประสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเหลียงซินเหยียนได้อย่างสุดทาง ทั้งที่เขาเตรียมความพร้อมให้กับนางแล้วแท้ๆ นับเป็นครั้งแรกที่เขาหงุดหงิดกับขนาดความเป็นบุรุษที่เกินตัวของตนเอง“น้องเล็กข้าเจ็บ เจ้าเอาออกก่อนได้หรือไม่”เมื่อได้ยินเหลียงซินเหยียนเรียกขานตนเองว่าน้องเล็กในใจของเซี่ยเฉินซวี่ก็เกิดคลื่นความขุ่นเคืองขึ้นมาในทันที มือหนาจับเรียวขาขาวแน่นจนเป็นรอยมือ พร้อมกับขยับแยกขานางจนสุดเพื่อให้เขาได้สอดแทรกประสานกายเข้าฝังตัวตน ก่อนจะกดเอวหนาจู่โจมประสานเป็นหนึ่งเดียวกับคนใต้ร่างครั้งเดียวสุดทางรัก“อร๊าย!... เจ็บ น้อ
บทที่ 2.3การกลับมาของน้องสามี“เหลียงซินเหยียน หากเจ้ายังไม่หยุดมือก็อย่าหาว่าข้าเป็นบุรุษต่ำช้า”เซี่ยเฉินซวี่เอ่ยเสียงลอดไรฟัน มือหนายังคงกำข้อมือเล็กเอาไว้มั่นเหลียงซินเหยียนถอนหายใจยาวก่อนจะใช้ฝ่ามืออีกข้างตีลงบนหลังมือหนาแล้วเอ่ยเสียงดุ“พอมีตำแหน่งใหญ่โตก็ดุพี่สะใภ้เช่นข้าแล้วหรือ ผู้ใดกันเคยบอกจะไม่ดื้อกับข้า จะเชื่อฟังข้า”พี่สะใภ้ ยามที่ได้ยินนางเอ่ยคำนี้ในใจของเซี่ยเฉินซวี่ก็คล้ายมีไฟกองหนึ่งรุกโชน โทสะในใจพุ่งทะยานจนเผลอจับยึดข้อมือเล็กทั้งสองข้าง ออกแรงดันกดตัวเหลียงซินเหยียนลงนอนแนบกับพื้นเรือน“น้องเล็กเจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นพี่สะใภ้เจ้านะ”“เจ้าไม่เคยแต่งกับพี่ใหญ่ จะเป็นพี่สะใภ้ข้าได้อย่างไร”คิ้วเรียวของเหลียงซินเหยียนขมวดเข้าหากันแน่น ในวันแต่งงานของนางกับเซี่ยเฉินอวี้แม้เขาจะถูกเรียกตัวเข้ากองทัพกะทันหัน ทว่าเซี่ยเฉินซวี่ในฐานะน้องชายก็สวมชุดเจ้าบ่าวเข้าพิธีแทนมิใช่หรือ เช่นนี้ย่อมนับว่านางแต่งเข้าตระกูลเซี่ยอย่างถูกต้องแล้วมิใช่หรือไร“ข้าแต่งเข้าจวนตระกูลเซี่ยอย่างถูกต้อง ย่อมต้องเป็นพี่สะใภ้เจ้า”“วันนั้นผู้สวมชุดเจ้าบ่าวคือข้า ดังนั้นเจ้าไม่ใช่พี่สะใภ้ข้าแต่เป็นภร
บทที่ 2.2การกลับมาของน้องสามียามตะวันคล้อยต่ำ ท้องฟ้าไม่ทันมืดมิดสายฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างหนักหน่วง เซี่ยเฉินซวี่เดินเข้ามาที่เรือนเล็กข้างสระบัว ดวงตาคมกวาดมองรอบห้องอย่างคุ้นเคย หยิบตำราเล่มเก่าของเขาออกมาจากชั้นแล้วนั่งลงที่เบาะนุ่ม ยามที่ใช้ปลายนิ้วเปิดหน้าตำรามุมปากของเขาก็ยกขึ้น นึกถึงช่วงชีวิตเมื่อหลายปีก่อน แล้วยกมือของตนเองขึ้นมองด้วยความคะนึงหาสัมผัสอันอ่อนโยนของใครบางคน ใครบางคนที่ครั้งหนึ่งเคยฉุดรั้งเขาขึ้นมาจากโคลนตมอันต่ำต้อยหากแต่ในขณะที่กำลังคิดถึงวันเวลาในอดีตแสงเทียนด้านข้างโต๊ะเตี้ยก็ไหววูบ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น นับจากที่เขาสอบได้ระดับจอหงวนและเป็นบัณฑิตหนุ่มผู้ที่ฝ่าบาทโปรดปราน ชีวิตที่เคยไร้คนเหลียวแลก็ถูกผู้คนใส่ใจในทันที ยามกลางวันมีบุรุษมากมายเข้ามาตีสนิทหวังคบหา ยามกลางคืนมีสตรีมากหน้าเข้ามาแนบชิดหวังเคียงคู่ ทว่าไม่ว่าสตรีใดเขาก็ไม่ปรารถนาให้เคียงข้าง ไม่แม้แต่จะยินดีให้ผู้ใดจับมือ เว้นเพียง...“น้องเล็ก”เสียงหวานคุ้นเคยทำให้ใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าขุ่นเคืองแปลเปลี่ยนเป็นสงสัย เงยขึ้นมองไปยังประตูเรือน ภาพสตรีในชุดไว้ทุกข์สีขาวเนื้อตัวเปียกปอนพลันปรากฏอยู่
บทนำคืนบุปผาแรกแย้มคืนบุปผาแรกแย้มหอสราญรมย์ หอนางโลมอันดับหนึ่งแห่งต้าซาง ในช่วงเวลาทุกสามเดือนจะเปิดประมูลบุปผางามแรกแย้ม โดยแบ่งเป็นการประมูลซื้อขาดกับประมูลเพียงค่ำคืนแรกแย้มแห่งวสันต์สารทของหญิงงามหวังชิงเยี่ยน คือหญิงสาววัยสิบห้าปี หนึ่งในบุปผางามที่จะถูกนำขึ้นประมูลในค่ำคืนนี้ แม้จะมีความกังวลและหวาดกลัว ทว่าดวงหน้าเรียวคมกลับซุกซ่อนความหวาดหวั่นนั้นไว้ได้อย่างแนบเนียน แววตาฉ่ำวาวทอดมองผ่านม่านโปร่งสีแดงสด ทุกการเคลื่อนไหวขยับทรวดทรงที่เย้ายวนเกินวัยล้วนสามารถปลุกเร้าบุรุษให้ตื่นตัว แม้จะมองเห็นได้เพียงเลือนรางเช่นนี้“ห้าตำลึงเงินคืนวสันต์สารท”“แปดตำลึงเงินคืนวสันต์สารท”“สิบตำลึงเงินคืนวสันต์สารท”เสียงบุรุษแหบพร่าเริ่มประมูลราคาดังก้องกังวานไปทั้งหอสราญรมย์ เรียกรอยยิ้มพึงพอใจให้หม่าชิงหลันผู้เป็นแม่เล้าได้เป็นอย่างดี เด็กสาวผู้นี้นางเลี้ยงดูมาอย่างดีร่วมสิบปีวันนี้นับว่าสามารถเรียกคืนกำไรได้คุ้มค่าจริงๆ“ร้อยตำลึงเงินซื้อขาด”สิ้นเสียงของบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งดังก้อง พัดในมือของหม่าชิงหลันก็หลุดหล่นลงพื้นด้วยอาการตื่นตกตะลึงระคนยินดีในคราวเดียวกัน แม้ส่วนลึกในใจนางจะเสี...
ความคิดเห็น