Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

Share

ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

last update Last Updated: 2025-01-15 07:00:07

เมื่อได้ยินศิษย์น้องพูดเช่นนั้น หยางซีอวิ๋นได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าปลายทางของโชคชะตาจะเป็นอย่างไร จึงเอ่ยปลอบใจจื่อเถิงว่า “เช่นนั้นข้าจะพยายาม”

“แล้วเจ้าเล่าอิงฮวา” จื่อเถิงถามศิษย์น้องบ้าง

“ข้าก็จะพยายามเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับปากเป็นอย่างดี

จู่ ๆ ท้องฟ้าโปร่งกลับมีเค้าเมฆฝนราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะพัดผ่านมาทางนี้ หยางซีอวิ๋นพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไกลจากที่นี่คงเป็นเมืองเป่ย พวกเรารีบไปหาที่พักก่อนฝนตกจะดีกว่า”

หนึ่งก้านธูปต่อมา

ครั้นเข้ามายังใจกลางเมืองเป่ย ทหารอารักขาหลายสิบนายต่างกรูกันเข้ามาทำความเคารพพวกเขาราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน

“เอ่อ... พวกท่าน...” จื่อเถิงทำตัวไม่ถูก มือไม้พันกันเป็นระวิง

“ท่านเซียนสำนักดาราสวรรค์ใช่หรือไม่” หนึ่งในนั้นถามพวกเขาสีหน้าจริงจัง

“พวกท่านรู้ได้อย่างไรหรือ” หยางซีอวิ๋นรู้สึกไม่ไว้ใจอยู่ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาทั้งสามเดินทางโดยไม่เปิดเผยตัวตนมานานแล้วจึงเกรงว่าอาจมีกับดักรออยู่

“ท่านเซียนอย่าได้กังวลไปเลย” เขาผ่อนคลายน้ำเสียงให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น “พวกมารปีศาจอาละวาดไปทุกหนแห่ง ท่านเจ้าเมืองเองก็พอจะได้รับข่าวสารจากเมืองอื่น ๆ มาบ้างจึงรู้มาว่าท่านเซียนต้องการที่พักพิงจึงสั่งพวกข้าเอาไว้ขอรับ”

“เราสามคนไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานนักหรอก ขอเพียงแค่หลบพายุก็จะออกเดินทางต่อแล้ว” หยางซีอวิ๋นปฏิเสธความช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะนำภัยมาสู่ชาวเมือง

“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ขอเชิญพวกท่านเข้าพักที่จวนเจ้าเมืองก่อนเถิด เมฆตั้งเค้าลอยมาทางนี้แล้ว อีกไม่นานพายุฝนคงกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา”

จื่อเถิงมองหน้าศิษย์ร่วมสำนักแล้วบอกคนตรงหน้าว่า “รบกวนท่านนำทางไปเถิด”

ทหารอารักขาผู้นั้นจึงพาพวกเขาทั้งสามคนมาที่จวนเจ้าเมืองเป่ย

ชายวัยฉกรรจ์สวมอาภรณ์สีดำประดับลายทองเดินออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ข้าน้อยมีนามว่าเสิ่นฉือเป็นผู้ปกครองเมืองเป่ยแห่งนี้ ยินดีต้อนรับท่านเซียนทั้งสามเป็นอย่างยิ่งขอรับ”

น้ำเสียงและท่าทางสุภาพของคนตรงหน้าดูไม่มีพิษภัยอันใด หากแต่ศิษย์สำนักเซียนยังคงเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง

“เชิญนั่งก่อนเถิด” เขาผายมือไปที่เก้าอี้ทางด้านซ้ายมือแล้วสั่งให้บ่าวรับใช้นำชุดน้ำชาออกมาต้อนรับแขก

“ขอบคุณน้ำใจของท่านเจ้าเมืองยิ่งนัก แต่ว่าพวกข้าคงจะไม่รบกวนท่านนาน” หยางซีอวิ๋นเอ่ยปากบอกแผนการเดินทางที่วางเอาไว้

เจ้าเมืองเป่ยเข้าใจเป็นอย่างดีว่าหลายวันที่ผ่านมาเซียนทั้งสามระหกระเหเร่ร่อนและได้รับความลำบากจึงยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกอย่าง

เขาโน้มน้าวใจจื่อเถิงและคนที่เหลือให้คล้อยตามทีละนิด “เมืองเป่ยตั้งอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาหลายชั่วอายุคน ด้านหลังไม่ไกลนักเคยเป็นที่ตั้งของสำนักเซียนในอดีต เมืองแห่งนี้จึงมีพลังเซียนไหลเวียนคอยปกป้องคุ้มภัยจากมารปีศาจมาเนิ่นนาน” เจ้าเมืองเป่ยยกถ้วยชาดื่มแล้วเอ่ยต่อ “หากพวกท่านกังวลว่าจะนำภัยมาสู่เมืองของเรา ข้าน้อยยืนยันได้เลยว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นขอรับ”

“ถึงอย่างนั้น พวกเราก็ไม่อยากรบกวนท่านเจ้าเมืองจริง ๆ” จื่อเถิงยังคงยืนยันคำเดิม

“อืม ข้าคงไม่อาจบังคับพวกท่านได้หรอก ระหว่างที่พักหลบฝนในจวนแห่งนี้ พวกท่านลองตรึกตรองดูอีกสักครั้งเถิด” เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “พลังเซียนที่ไหลเวียนในเมืองเป่ยเป็นเกราะกำบังชั้นดีช่วยพรางตาให้ชาวเมืองหลบพ้นจากสายตาของพวกมารปีศาจ หลายวันมานี้คนของข้าน้อยรายงานมาว่าเห็นพวกมันผ่านไปผ่านมาแต่กลับทำตัวราวมองไม่เห็นที่ตั้งเมืองเป่ยเสียอย่างนั้น”

“...”

“ข้าน้อยจึงคิดว่าหากพวกท่านต้องการที่หลบภัย จวนข้าน้อยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วขอรับ”

“ขอบคุณท่านเจ้าเมือง พวกข้าจะลองปรึกษากันก่อน” หยางซีอวิ๋นเอ่ยขอบคุณความมีน้ำใจของเขา

หลังจากนั้นทหารอารักขาจึงพาทั้งสามไปพักที่เรือนรับรองอีกฟากหนึ่งของจวนใหญ่ พลันฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูลงมาจากฟ้าไม่ขาดสาย

อากาศหนาวเย็นพัดผ่านมาเป็นระลอกพร้อมไอฝนเปียกชื้น ศิษย์สำนักเซียนจึงได้แต่นั่งอยู่ข้างในเรือนรับรองพลางปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป

“ข้าตรวจดูม่านพลังเซียนอย่างที่เจ้าเมืองเป่ยบอกแล้ว” อิงฮวาใช้วิชาเซียนที่เรียนมาตรวจสอบว่าเขาพูดจริงหรือไม่ “หากดูผิวเผินไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีม่านกั้นอยู่เจ้าค่ะ”

“อืม เพราะอย่างนั้นบริเวณรอบนอกที่เราเพิ่งผ่านเข้ามาจึงมีไอมารปีศาจจาง ๆ แต่พอเข้ามาในเมืองเป่ยกลับไม่ได้ร่องรอยของพวกมันแม้แต่น้อย” หยางซีอวิ๋นครุ่นคิดตามที่สัมผัสได้

“แต่ข้ากลับรู้สึกว่าแปลกยิ่งนัก ไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักเลย” จื่อเถิงออกความเห็นบ้าง

“เช่นนั้นพอฝนหยุดก็กลับออกไปจะดีกว่า” หยางซีอวิ๋นสรุปตามนั้น ประสบการณ์หลบหนีพรรคพวกกงจื่อเย่หลายวันที่ผ่านมาสอนพวกเขาไว้หลายอย่าง

อย่าไว้ใจใคร อย่าหลงกลและห้ามเปิดเผยตัวตนให้ผู้ใดรับรู้ หูตาของจอมมารแฝงอยู่ทุกที่และสิ่งที่เขาเห็นในเวลานี้อาจเป็นภาพลวงตา

ทว่า พายุฝนไม่หยุดโดยง่าย ทำท่าจะตกหนักเช่นนี้ไปอีกสามสี่วัน จื่อเถิงจึงฆ่าเวลาด้วยการตั้งสมาธิหลอมรวมสรรพสิ่งเพียงลำพังในห้องรับรองโดยมีอิงฮวาและหยางซีอวิ๋นคอยระวังอยู่รอบนอก

อีกฟากหนึ่งของจวนเจ้าเมืองเป่ย

เสิ่นฉือนั่งคุกเข่าอยู่หน้าแท่นสักการะ กลิ่นธูปเทียนฉุนโชยอบอวลทั่วห้อง

เขาเอ่ยปากท่องภาษาแปลก ๆ อยู่คนเดียวพลางกรีดข้อมือของตนเองให้เลือดหยดลงบนแผ่นยันต์สีดำที่มีอักขระโบราณกางไว้บนพื้น

ด้านหน้าของเขามีร่างไร้วิญญาณของคนผู้หนึ่งนอนแน่นิ่ง ร่างกายยังคงอุ่น ๆ เพราะเพิ่งถูกสังหารเมื่อครู่

“ท่านจอมมารได้โปรดปรากฏกายในที่แห่งนี้ด้วยเถิด” เสิ่นฉือท่องตำราเรียกจอมมารอย่างใจจดใจจ่อ ท่องวนไปวนมาซ้ำ ๆอยู่อย่างนั้นเกือบหนึ่งชั่วยาม

จนสุดท้ายแล้วความพยายามของเขาก็สัมฤทธิ์ผล กงจื่อเย่โผล่ขึ้นมาเหนือร่างไร้ชีวิตพลางแสยะยิ้ม สายตาของเขามองไปยังเจ้าเมืองเป่ยไม่สบอารมณ์

“เฮอะ มนุษย์อย่างเจ้ามีน้ำหน้าหาญกล้าเรียกข้าเชียวหรือ” กงจื่อเย่ดูถูกซึ่งหน้า

“ท่านจอมมาร อย่าได้กริ้วไปเลย ข้ามีเรื่องจะรายงานท่านขอรับ” เสิ่นฉือรีบเอ่ยปาก ในใจเต้นระรัวที่ได้เห็นร่างแท้จริงของจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ตามข่าวลือ

“...”

“ได้โปรดรับข้าและชาวเมืองเป่ยเป็นผู้รับใช้ท่านด้วยเถิด”

“ยังไม่ทันไรก็ริอาจต่อรองกับข้าเสียแล้ว ไม่รักตัวกลัวตายหรืออย่างไร” จอมมารรู้สึกทึ่งกับมนุษย์ตรงหน้าเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะผู้ใดย่อมเกรงกลัวเขา “หากเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะลองทำตามคำขอของเจ้า”

เสิ่นฉือดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับใช้ผู้ยิ่งใหญ่ คิดในใจว่านับจากนี้ไปจะได้พลังมารมาครอบครอง

“ข้าน้อยกักตัวเซียนผู้นั้นเอาไว้แล้วขอรับ”

“ผู้ใด” กงจื่อเย่สงสัย

“เซียนสำนักดาราสวรรค์ จื่อเถิงขอรับ” เจ้าเมืองเป่ยเอ่ยปาก “นางพักอยู่ที่ตรงนั้นขอรับ ท่านจอมมาร...” เจ้าเมืองเป่ยไม่ทันได้พูดจบประโยคดีจอมมารก็หายตัวไปทันควัน

กงจื่อเย่ปรากฏตัวอยู่ในเรือนรับรองที่จื่อเถิงพักอยู่เมื่อครู่ หากแต่กวาดตามองไปรอบห้องกลับไม่พบเจอนาง เขาหัวเราะลั่นราวกับคนบ้าเพราะคลาดกับนางอีกครา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 13 จงรักษาสัญญา

    ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วยามหยางซีอวิ๋นเดินตรวจตราดูรอบเรือนรับรองจึงรู้สึกว่าทหารอารักขาของเจ้าเมืองยืนอยู่รายรอบจนผิดสังเกต ไม่ใช่เพื่อดูแลปกป้องแต่ทำเหมือนต้องการกักขังไม่ให้พวกเขาหนีไปที่ใดแม้แต่อิงฮวาก็รู้สึกได้เช่นกันว่าบรรยากาศที่เป็นมิตรเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกน่ากลัวเข้ามาแทนที่ นางขยับเข้ามาใกล้ศิษย์พี่บอกเขาว่า “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าคนพวกนั้นแปลก ๆ เจ้าค่ะ"ผู้เป็นศิษย์พี่พยักหน้าบอกให้นางหาช่องทางหนีเตรียมเอาไว้อย่างเงียบ ๆ ส่วนเขาจะไปปลุกจื่อเถิงแล้วหนีออกไปพร้อมกันแม้ว่ายามนี้จะมีฝนกระหน่ำเทลงมา“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าทำตามคำสั่งครั้นจะแยกตัวออกไปกลับได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูที่พวกเขายืนอยู่จึงกระชับอาวุธในมือค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปตรวจสอบตุ๊บ!!!เด็กน้อยคนหนึ่งร่วงตกจากขอบหน้าต่

    Last Updated : 2025-01-17
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    ความรู้สึกที่ถาโถมทำให้พลังเซียนที่ถูกจอมมารกดขี่เอาไว้แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนคิดในใจด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องพาพวกเขาหนีไปจากตรงนี้ให้ได้กงจื่อเย่สัมผัสได้ว่าพลังเซียนของนางกำลังต่อต้านเขาอย่างรุนแรงกว่าเดิมไม่อาจออมมือทำเป็นเล่นได้อีกต่อไปจึงหล่อหลอมพลังมารที่แท้จริงขึ้นมาเพื่อสังหารนางให้สิ้นซากทว่า จื่อเถิงคือผู้ที่เทพบรรพกาลเลือกเอาไว้ การทำลายนางจึงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด สายพลังบริสุทธิ์สะท้อนกลับมาทำลายตัวเขาเองจนนิ่งงันไปชั่วขณะไอมารที่ควบคุมจื่อเถิงและอิงฮวาอยู่จึงอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้พวกเขาได้โอกาสโต้กลับร่ายพลังเซียนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องจอมมารในพริบตาจนลอยกระเด็นไปคนละทางพลังกึ่งเทพของจื่อเถิงไม่อาจควบคุมได้เพราะจิตใจที่ไม่มั่นคงมันสะท้อนเข้าหาหยกสีชมพูที่อาจารย์เจ้าสำนักให้นางเอาไว้จื่อเถิงจึงรู้สึกตัวตั้งสติร่ายวิชาเคลื่อนย้ายโดยใช้พลังใ

    Last Updated : 2025-01-19
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 15 บุกสำนักเซียน

    เขาซวนเหยาจื่อเถิงพยายามตั้งสติของตนเองไม่ให้วอกแวกคิดสิ่งใดเพราะเวลานี้นางจะต้องรวบรวมเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเดิมทีชีวิตที่ยืนยาวจะค่อย ๆ หล่อหลอมเมล็ดพันธุ์นั้นตามกาลเวลาที่ร่วงโรยผ่านไป ทว่า จื่อเถิงไม่อาจรอช้าได้ในเมื่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้องกับนางกำลังเผชิญกับอันตรายนับไม่ถ้วนสำนักดาราสวรรค์ตกอยู่ในวงล้อมของทัพมารที่ค่อย ๆ บีบเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ให้เปิดเผยที่ซ่อนของจื่อเถิงโดยใช้ชีวิตของศิษย์ที่เหลืออยู่เป็นเครื่องต่อรองหากแต่ทุกคนรู้ดีว่าจอมมารโฉดร้ายและสัตว์อสูรที่กำลังหิวกระหายไม่เคยปล่อยผู้ใดให้รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังคิดทำลายทั้งสามภพตามอำเภอใจ พวกเขาทั้งหมดจึงปิดปากเงียบและยืนหยัดปกป้องสำนักของตัวเองและชาวเมืองที่หลบเข้ามาพึ่งพิงจื่อเถิงนั่งสมาธิรวบรวมพลังบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลอยู่ภายในหุบเขาซวนเหยาเพียงลำพัง ในใจร้อนรนจนอดทนเอาไว้ไม่ได้ทำให้สติแต

    Last Updated : 2025-01-21
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 16 บีบคั้น

    กงจื่อเย่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดจึงยังไม่เห็นจื่อเถิงปรากฏตัว ครั้นมองดูเซียนสำนักดาราสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างจึงได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าระคนแค้นเจ้าสำนักเซียวและเซียนเยว่ฉีสัมผัสได้ว่าแก่นวิญญาณของลูกศิษย์ที่เคยวนเวียนอยู่ในสำนักแตกสลายไปเพราะน้ำมือของใคร แววตาทั้งสองคู่จ้องกลับจอมมารไม่เกรงกลัว“สวรรค์จะลงโทษเจ้า” เซียนเยว่ฉีโพล่งออกมา นางไม่คิดเลยว่าจอมมารผู้นี้จะร้ายกาจและชั่วช้าหยางซีอวิ๋นดับสูญตลอดกาลมิอาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก“สวรรค์น่ะหรือจะลงโทษข้าได้” กงจื่อเย่แสยะยิ้ม “น่าเวทนายิ่งนัก พวกเจ้าคงไม่รู้อันใดว่าสวรรค์เวลานี้ถูกข้าทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง”“เป็นไปไม่ได้” เจ้าสำนักเซียวไม่เชื่อสิ่งที่เขาเอ่ยปาก “มารอย่างเจ้าพูดโป้ปดเป็นอาจิณ เสแสร้งหลอกลวงผู้อื่น”“ไม่เห็นหรือว่าทำ

    Last Updated : 2025-01-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 17 ไว้ชีวิตศิษย์น้องด้วยเถิด

    จื่อเถิงกลับมาที่สำนักดาราสวรรค์ ภาพทั้งหมดที่นางเห็นมีเพียงร่างไร้วิญญาณของศิษย์พี่ อาจารย์ ชาวบ้านนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพังนางพยายามประคองสติของตนเองเอาไว้แล้วสอดสายตาหาผู้รอดชีวิต ในใจนึกหวังว่าต้องมีคนที่นางช่วยได้สักคน“สวรรค์โปรดเมตตา ข้าขอร้อง” จื่อเถิงอธิษฐานอ้อนวอนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเจ็บปวดคนเหล่านั้นคือคนที่นางเติบโตมาพร้อมกันด้วยความรัก ความผูกพันและมิตรภาพ แต่เวลานี้กลับนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย ทั้งดวงตายังเบิกโพลง“ศิษย์พี่” จื่อเถิงวิ่งไปหาคนผู้หนึ่ง สัมผัสได้ว่าเขายังคงมีลมหายใจอยู่ จึงร่ายพลังรักษาประคองชีวิตต่อเพียงนิดก็ยังดี พิษบาดแผลบนร่างโชกเลือดไม่ทรมานเท่าพลังที่กงจื่อเย่ฝังไว้ในร่าง รอให้จื่อเถิงได้เห็นกับตาจึงยั้งมือไว้ชีวิตศิษย์ผู้นี้เอาไว้ก่อนที่จะบีบทำลายต่อหน้านางให้สาแก่ใจ“ศะ... ศิษย์พี่” นางนิ่งอ

    Last Updated : 2025-01-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 18 เมล็ดพันธุ์ดวงที่สอง

    จื่อเถิงชะงักงัน ร้องลั่นรีบวิ่งเข้ามาหาอิงฮวา แต่ถูกพลังมารของอีกฝ่ายซัดกระเด็นไปคนละทาง“ไม่นะ อิงฮวา” นางพยายามยันตัวลุกขึ้น “ศิษย์พี่จะรีบรักษาเจ้าเดี๋ยวนี้ อดทนก่อนนะอิงฮวา”“รักษาอันใดกัน ไม่เห็นหรือว่านางไม่หายใจแล้ว” จอมมารหัวเราะลั่น เอ่ยปากชมคนตรงหน้า “เวลานี้ภาพของเจ้าช่างงดงามมากทีเดียว แต่ช้าก่อน นางยังเหลือแก่นวิญญาณอยู่ตรงนี้นี่”จอมมารล้อเล่นกับความรู้สึกของนาง ยกมือข้างหนึ่งร่ายพลังมารดึงแก่นวิญญาณของอิงฮวาออกมาจากร่างไร้ลมหายใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้จื่อเถิงจิตใจบอบช้ำเท่านั้นยังคงไม่เพียงพอ จอมมารยังพรากแก่นวิญญาณของศิษย์และอาจารย์คนอื่น ๆ มาด้วย คิดจะทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้มีโชคชะตากำราบมารอย่างนางบางทีจื่อเถิงอาจจะเจ็บช้ำจนไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปความสะเทือนใจทำให้ผนึกเทพ

    Last Updated : 2025-01-27
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 19 ชาติภพที่สอง

    ชีวิตในชาติที่สองของเทพดารากำลังเริ่มต้นใหม่ หากโชคชะตาของนางในครานี้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น นางจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักของคนรอบตัว และเมื่อถึงวัยออกเรือนจะได้แต่งงานกับคนที่นางรักดังใจหมาย ครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่มีเรื่องใดให้เศร้าเสียใจอย่างในชาติก่อนเช้าสดใสวันหนึ่งฤดูใบไม้ผลิผู้คนในจวนของท่านแม่ทัพกำลังวุ่นวายเดินเข้าเดินออกขวักไขว่เพราะอู๋ฮูหยินเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาสีหน้าของเขากังวลเป็นห่วงฮูหยินของตนเองจนทำตัวไม่ถูก“แม่ทัพอู๋ใจเย็นก่อนเถิด” น้ำเสียงอบอุ่นของสตรีผู้หนึ่งกล่าวกับเขา นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวประหม่ากว่าผู้ใดเพราะนี่เป็นลูกคนแรกของเขากับสหายของนาง“ดูเข้าสิ สีหน้าท่าทาง ใครเห็นต้องไม่เชื่อแน่ว่าคนผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่เมืองไท่หยาง” บุรุษน่าเกรงขามอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมาตบไหล

    Last Updated : 2025-01-29
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 20 ในที่สุด...

    นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ หลินซีเวยพยายามตามหาวิญญาณของสวีลู่ชิงมาโดยตลอด แต่กลับไม่เจอร่องรอยที่สาวถึงนางได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรู้สึกนั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา หลินซีเวยรีบไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ในทันทีพลันได้ยินเสียงของหมอกำลังบอกอาการพะอืดพะอมของอู๋ฮูหยิน“นางกำลังตั้งท้องขอรับ” หมอผู้นั้นบอกแม่ทัพใหญ่ “ข้าจะต้มสมุนไพรบำรุงครรภ์ไว้ให้ หากนางไม่อยากอาหาร อย่างน้อยก็ให้นางค่อย ๆ จิบยาลดอาการคลื่นไส้เถิด”“เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ท่านพูดว่าอันใด” แม่ทัพใหญ่คิดว่าตนเองหูแว่ว “ฮูหยินของข้าท้องอย่างนั้นหรือ”“ขอรับ อู๋ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์” หมอยืนยันหนักแน่นว่าอาการที่นางกำลังประสบอยู่เป็นอาการของคนแพ้ท้องไม่มีผิด “แม่ทัพใหญ่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนดีหรือไม่ นางไม่เป็นอันใดมากหรอก แค่แพ้ท้องตามประสาเท่านั้นเอง”“

    Last Updated : 2025-01-31

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 44 เมล็ดพันธุ์หยั่งรากในใจ(จบเล่ม1)

    หลังจากที่เมล็ดพันธุ์ถูกฝังในแก่นวิญญาณของจอมมารเรียบร้อยแล้ว ความทรงจำที่อู๋เยว่ชิงมีต่อเขาในฐานะคนรักของหลินซีเวยจึงพรั่งพรูเข้าหาสวีลู่ชิงใช้พลังเทพบรรพกาลทำให้เขารับความรู้สึกของนางแม้จะยืนยาวได้ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจแต่ก็พอทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบชั่วขณะความรักของนางที่เขาบอกว่าเป็นเรื่องลวงหลอก ดูเหมือนจอมมารจะสัมผัสได้ว่านางเอ่ยความจริงจากก้นบึ้งในใจ แต่มันกลับทำได้แค่เพียงสะกิดความรู้สึกแล้วจางหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยนางไม่ได้หวังอันใดไปมากกว่านี้ ขอแค่ให้เขาได้รับรู้บ้างเผื่อจอมมารจะรู้สำนึกว่าได้ทำอันใดลงไปแม้สวีลู่ชิงจะไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายที่แตกร้าวจะทำให้ดวงอื่น ๆ ที่เคยถูกฝังในร่างจอมมารปริแตกหยั่งรากลึกก่อนเวลาอันควรจนความรู้สึกทั้งปวงก่อตัวขึ้นใน

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 43 ความทรงจำหวนกลับ

    หากแต่ผลที่ได้ไม่เป็นอย่างคาดคิดเพราะพลังมารที่เขาส่งออกไปสะท้อนกลับเข้าหาตัวเหมือนอย่างเคยกงจื่อเย่ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เหตุใดจึงฆ่าเจ้าไม่ได้!!!”เขาเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ของชาตินี้ที่อยู่ในแก่นวิญญาณของนางต้องได้รับความเสียหายจนปริแตกแล้วจึงได้ลงมือ แต่กลับทำอันใดนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อยครั้นลองร่ายพลังมารใส่อู๋เยว่ชิงอีกครั้ง พลังรุนแรงนั้นยังคงสะท้อนกลับมาหาเขาไม่เคยเปลี่ยนกงจื่อเย่กระอักเลือดออกมากองใหญ่ คิ้วขมวดเป็นปม เอ่ยถามนางด้วยความสงสัย “ที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้รักข้าหรือ”นั่นเพราะเขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าความรักมักจะทำให้มนุษย์อ่อนแอ ยิ่งรักมากเท่าใดยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น หากถูกคนท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 42 แตกสลาย(TW18+)

    Trigger Warning (TW 18+) = มีเนื้อหาหรือเหตุการณ์ที่อาจทำให้สะเทือนใจห่างไปอีกเมืองหนึ่งไม่ไกลนักรถม้าของอู๋เยว่ชิงหยุดพักอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แถบชานเมือง นางพยายามรวบรวมสติของตนเองเอาไว้แล้วปกป้องอีนั่ว“เสด็จแม่ เราอยู่ที่ใดกันหรือ” อีนั่วเอ่ยปากถามทันทีที่ลืมตาหลังจากนอนหลับยาวนาน “เสด็จพ่อเล่า...”เมื่อถูกถามไถ่ถึงหลินซีเวย น้ำตาของนางก็เอ่อคลอแต่พยายามกลั้นใจเอาไว้ “พ่อของเจ้าจะรีบตามมา อีนั่วอย่าได้กังวลไปเลยนะ”มารน้อยพยักหน้าแล้วซบเข้าอ้อมกอดของมารดาสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของอู๋เยว่ชิง มือน้อย ๆ ลูบใบหน้าของนางราวกับต้องการปลอบประโลมพวกเขาหย

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 41 กำจัดเขาเสีย

    หลินซีเวยหมดท่าไม่อาจโต้กลับเหล่าเซียนสำนักหานหลิ่งได้อีกทั้งยังถูกตรึงด้วยผนึกเพื่อทำลายพลังมารปีศาจที่ควบคุมร่างเขาอยู่“ท่านเซียน ช่วยเขาไม่ได้หรือ” ฮ่องเต้เอ่ยปากถามเพราะยังมีความหวังว่าจะได้บุตรชายกลับคืน หากแต่เหล่าเซียนกลับตอบว่า “พลังมารปีศาจหลอมรวมเข้าแก่นวิญญาณของเขาแล้วมิอาจถอดถอนได้เฉกเช่นคนทั่วไป หนทางเดียวที่จะหยุดหายนะในเมืองไท่หยางคือสังหารเขาไปพร้อมกับมัน”“...” ทุกคนนิ่งเงียบ สายตามองปีศาจร้ายด้วยความหวาดกลัว เพียงแค่หนึ่งก้านธูป วังหลวงกลับนองเลือดราวกับมีสงครามครั้งใหญ่ หากคิดปล่อยไว้มีหวังทั้งเมืองไท่หยางคงกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คนเป็นแน่“ข้าไม่ได้ขอความเห็นพวกท่าน มาวันนี้เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง มารปีศาจตนนี้ร้ายกาจนักหากปล่อยให้หลุดรอดไปได้คงทำลายผู้คนในเมืองอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน&r

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 40 โกลาหล

    หลินซีเวยสัมผัสได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเขาจึงปลุกให้อู๋เยว่ชิงตื่นจากหลับฝัน เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาถึงตำหนักจันทราจนทำให้นางอกสั่นขวัญแขวนไปด้วยดวงตาสีฟ้ามองอีนั่วที่กำลังหลับแล้วสบตากับหลินซีเวย “ไม่จริงใช่หรือไม่เพคะ ไม่ใช่ฝีมือของลูก”เขาส่ายหน้าปิดบังความจริง “อย่ากังวลไปเลย ลูกเราไม่มีทางทำอันใดเช่นนั้นได้หรอก เชื่อข้าเถอะนะเยว่ชิง”“เพคะ หม่อมฉันเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรอีนั่วก็เป็นลูกของเรา ไม่มีทางเป็นมารปีศาจอย่างแน่นอน”ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดเพราะพลังมารของอีนั่ว เขาจึงหลบหน้าชายาตนเองเพราะไม่อยากให้เป็นห่วงก่อนจะอุ้มอีนั่วขึ้นมา “เยว่ชิง วังหลวงคงไม่ปลอดภัยแล้ว เรารีบหนีออกไปหลบอยู่ที่จวนแม่ทัพใหญ่สักพักเถิด”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 39 มารปีศาจอาละวาด

    เช้าวันต่อมาองครักษ์ส่งข่าวให้ทุกคนในวังหลวงได้รับรู้ว่านักพรตชราผู้นั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ความสิ้นหวังจึงมาเยือนคนในตำหนักจันทรายิ่งนักอู๋เยว่ชิงกอดอีนั่วเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะนางสัมผัสได้ว่ายามที่อีนั่วอยู่กับนาง อาการทรมานจะไม่แสดงออกมา หากแต่เมื่อใดที่นางเผลอหลับใหล พลังมารของอีนั่วกลับปะทุขึ้นมาทีละนิดจนมิอาจกลั้นนับวันยิ่งควบคุมไม่ได้ อู๋เยว่ชิงอดนอนฝืนตัวเองดูแลอีนั่วจนหลินซีเวยรู้สึกเป็นห่วงนางไม่แพ้กัน แต่เขากลับโทษตัวเองที่ทำอันใดเพื่อช่วยคนที่เขารักทั้งสองคนไม่ได้เลย“หม่อมฉันไม่เป็นอันใดเพคะ” นางลูบใบหน้าซูบเซียวของหลินซีเวยทั้งที่มือของนางแทบไม่มีแรงเหลือเขาแนบใบหน้ากับฝ่ามืออบอุ่นนั้น สายตาห่วงใยฉายชัดแต่ก็จำต้องแอบให้นางดื่มสมุนไพรเพื่อพัก

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 38 ปีศาจน้อย

    “องค์ชายสาม ไม่ได้พบพระองค์มานานพระวรกายแข็งแรงดีแล้วใช่หรือไม่” นักพรตผู้นั้นถามไถ่แล้วมองมารน้อยที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มไร้เดียงสาหลินซีเวยท่าทางนอบน้อม “เรื่องครั้งนั้น ข้ารู้สึกขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก เวลานี้อาการเจ็บป่วยไม่รู้สาเหตุจึงหายเป็นปลิดทิ้ง”ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่พึมพำว่า “ดีแล้ว” จากนั้นจึงยื่นมือมาหามารน้อยบ้าง อีนั่วผู้เป็นมิตรกับทุกคนจึงวางมือลงบนฝ่ามือของนักพรตชราอย่างไม่คิดระแวงครั้นคนตรงหน้าสัมผัสได้ว่าพลังมารแฝงอยู่ในแก่นวิญญาณจึงคิดไปว่าอาจจะเป็นผลทำให้อีนั่วต้องเจ็บป่วยเหมือนอย่างที่หลินซีเวยเคยประสบพบเจอ แต่พอได้ยินเสียงหง่าวดังมาจากด้านล่างจึงเข้าใจได้ว่าครั้งนี้คงจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอย่างแน่นอน“แมวน้อยตัวนี้มาจากที่ใดหรือ” เขาเอ่ยถามอู๋เยว่ชิงเพราะสัมผัสไ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 37 เหตุใดไม่กอดข้าบ้าง

    หลายวันต่อมาบรรดาปู่ย่าตายายของอีนั่วมาหาหลานพร้อมของรับขวัญเต็มไม้เต็มมือ ทั้งกำไลหยก กำไลเงิน แผ่นทองคำ จี้ทองและอีกสารพัดจนกล่องของขวัญในตำหนักจันทรากองพะเนินญาติสนิทมิตรสหายหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย แม้กระทั่งคนที่อยู่ไกลอย่างหลินมู่หลงยังส่งจดหมายมาแสดงความยินดีกับอู๋เยว่ชิงเจ้าตัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยามที่อ่านจดหมายทางไกลนั้น เรียกความอิจฉาเล็กน้อยจากเจ้าของตำหนักอย่างยิ่ง อู๋เยว่ชิงพลันรู้สึกได้ว่าสายตาใครบางคนมองนางมาตั้งแต่เมื่อครู่จึงค่อย ๆ หันกลับไป คลี่ยิ้มบางเรียกอีกฝ่ายเสียงหวาน “เสด็จพี่เพคะ”หลินซีเวยได้ยินนางเรียกรีบเดินเข้ามาหา “เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือ”“ทรงก้มลงมาใกล้ ๆ หม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 36 ลูกพ่อ... อยากมีน้องสาวหรือไม่

    ผ่านไปสามเดือนอู๋เยว่ชิงรับรู้ได้ว่าลูกน้อยในท้องกำลังอารมณ์ดีเพราะได้ออกมาเดินเล่นในสวนดอกไม้ข้างนอกบ้างหลังจากต้องอุดอู้อยู่ในตำหนักหลายวันเพราะนางต้องคอยดูแลหลินซีเวยที่จู่ ๆ ก็เจ็บออดแอดขึ้นมา“เจ็บมากหรือไม่เพคะ” อู๋เยว่ชิงถามไถ่อาการของเขาด้วยความเป็นห่วง หลายวันมานี้ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดไปมากนัก นางนึกว่าอาการแพ้ท้องจะหายไปแล้วแต่เขากลับเป็นหนักกว่าเดิมจนได้“อย่ากังวลเลย ยิ่งเจ้าทำหน้าขมวดคิ้วชนกันอย่างนี้แล้วเดี๋ยวอีนั่วจะพลอยเป็นห่วงเจ้าไปอีกคน” องค์ชายสามลูบใบหน้านางแผ่วเบาพลางจิ้มนิ้วยืดคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกแล้วบอกคนตรงหน้าว่า “เจ้านั่งเล่นกับลูกอยู่ตรงนี้สักพักหนึ่งเถอะ ข้าขอไปนอนงีบรออยู่ข้างในตำหนัก”“หม่อมฉัน...” อู๋เยว่ชิงคิดจะตามไปดูแลเขาด้วยแต่อีนั่วน้อยคงไม่ยอม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status