ตอนที่ 4
เต็มใจ
อดิสรณ์ใช้เวลารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ สองสัปดาห์เพราะความดันยังไม่ลดลง บางวันยังมีสูงอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือเขาจะกลืนอาหารลำบากและพูดลิ้นแข็ง จึงต้องอาศัยกำลังใจและคนดูแลอย่างใกล้ชิด
วิภา ธาวิน และมิตาจึงเริ่มคุยเรื่องของธาวินและมิตาที่ตกลงจะแต่งงานกันเพราะต้องการรีบมีทายาทให้กับคนเป็นพ่อที่เริ่มป่วยและการมีหลานไว้สืบสกุลคงทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น
วิภาเป็นห่วงว่าถ้าอดิสรณ์รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง เขาอาจจะไม่ยอม
“ความจริงน้าก็ไม่ได้เห็นด้วยนะคุณวินแต่ในเมื่อตัดสินใจกันแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมาทัดทานกัน เพียงแต่ว่าน้าเป็นห่วง ถ้าคุณอดิสรณ์รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพียงเพราะต้องการมีทายาทตามที่ท่านต้องการ ท่านคงไม่ยอม”
วันนี้วิภาได้กลับบ้านมาพักแล้วไปเฝ้าสามีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอจึงถือโอกาสคุยกับทั้งสองคน ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกนำไปบอก คนป่วย
ธาวินทำท่าคิดตามคำที่แม่เลี้ยงพูด เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าอยากจะบอกความจริงทุกอย่างเท่านั้น
“แล้วคุณน้าคิดว่าเราควรจะบอกคุณพ่อว่าอย่างไรดีครับ ท่านจะได้สบายใจ”
มิตานั่งฟังทั้งคู่คุยกันก็คิดตามไปด้วย เธอคิดว่าเธอมีทางออกสำหรับเรื่องนี้
“เอาแบบนี้ไหมคะ ก็บอกไปตามความจริงแต่ไม่ทั้งหมด บอกคุณลุงว่าพี่วินไม่คิดจะรักใครก็เลยคิดว่าผู้หญิงในชีวิตที่สนิทกันที่สุดก็เหลือแต่มิตาและตัวมิตาเองก็เต็มใจเพราะเชื่อว่าพี่วินจะดูแลและดีกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ ”
วิภากับธาวินมองหน้ากันทั้งสองต่างเห็นด้วยถึงแม้ จะสรุปแล้วก็คือทั้งคู่ไม่ได้รักกันแต่อดิสรณ์คงเข้าใจได้ว่าทั้งคู่เต็มใจและมองว่าต่างฝ่ายคือคนที่ดีที่สุดของกันและกัน
“แล้วคุณวินจะไปบอกเรื่องนี้กับท่านวันไหนหรือจะรอให้ท่านกลับมาพักที่บ้านก่อน”
วิภาคิดว่าเรื่องนี้ทั้งสองคนควรเป็นคนที่เข้าไปบอกกับ อดิสรณ์ด้วยตัวเอง
“ผมว่าจะไปบอกคุณพ่อก่อนเพราะถ้าท่านไม่มีปัญหาอะไร เราสองคนจะได้เตรียมงานแต่งเลย”
มาวินหันมามองสบตามิตาก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาจับมือเล็กของหญิงสาวไว้
“พร้อมไหมมิตา” ชายหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจ
“พร้อมค่ะ”
ธาวินตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กับบิดาในเช้าของวันพรุ่งนี้เพราะเขาต้องไปส่งวิภาเพื่อเปลี่ยนกับแม่บ้านที่เฝ้าบิดาของเขาอยู่แล้ว และชายหนุ่มตั้งใจว่างานแต่งงานจะจัดให้เร็วที่สุดและต้องยิ่งใหญ่สมกับที่บิดาของเขารอคอยมานาน
มิตานอนคิดทั้งคืนเธอบอกกับตัวเองว่าในเมื่อเธอเลือกแล้ว เธอจะต้องไม่มานั่งเสียใจทีหลังเด็ดขาด ถ้าวันใดธาวินเกิดแสดงท่าทางที่หมางเมินหรือเขาอาจจะเจอกับผู้หญิงที่เขารักขึ้นมา
เช้าวันนี้ทุกคนในครอบครัววชิระบารมีต่างอยู่พร้อมหน้ากัน อดิสรณ์ยังไม่ยอมกินข้าวต้ม เขารอให้ภรรยามาป้อนเอง วิภาจึงต้องจัดการเรื่องอาหารเช้าคนป่วยก่อน ส่วนธาวินก็ลงไปส่งแม่บ้านให้ขึ้นรถรับจ้างกลับไปพักผ่อน
คนป่วยอิ่มแล้วธาวินจึงลุกไปยืนข้าง ๆ บิดาโดยมีมิตายืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย
“คุณพ่อครับผมว่าคุณพ่อต้องรีบหายแล้วเพราะเดี๋ยวข่าวดีของผมจะเลื่อนออกไปอีกนาน”
ชายหนุ่มไม่บอกตรง ๆ แต่พูดให้คนป่วยรู้สึกสงสัยอยากรู้ก่อน
“วินลูกหลอกพ่อเล่นหรือเปล่า ทำมาเป็นพูดข่าวดีให้คนป่วยดีใจ”
อดิสรณ์พยายามฝืนพูดให้ชัดที่สุดเท่าที่เขาทำได้แต่ก็ต้องคอยใช้ทิชชู่ซับน้ำลายที่ชอบไหลออกทางข้างปากตลอด
“ผมจะแต่งงานครับพ่อและเจ้าสาวก็ยืนอยู่ข้างผมแล้ว คุณพ่อไม่ต้องแปลกใจเราสองคนมองหน้ากันแล้ว ว่าชีวิตนี้คงไม่มีใครที่จะดูแลเราทั้งคู่ได้เท่าเราสองคนดูแลกันเองและตอนนี้มิตาก็เรียนจบมาเป็นเลขาผมเวลาไปไหนดึกดื่นจะได้ค้างคืนได้อย่างไม่ต้องกลัวใครมองไม่ดี เอาเป็นว่ารีบหายเร็ว ๆ นะครับ”
ธาวินรู้ว่าบิดาของเขาพูดลำบากไม่ค่อยจะถนัดเพราะตอนนี้ลิ้นยังแข็งอยู่ เขาจึงชิงพูดยาวพูดให้ครบทุกอย่างที่คิดว่าบิดาของเขาต้องสงสัยอยากรู้
“เออ...ดี หยิ่งเสียตั้งนานมาตกลงปลงใจกับคนบ้านเดียวกัน”
อดิสรณ์ไม่ได้มีปัญหาเหมือนอย่างที่วิภาคิดไว้ คนเป็นภรรยาคิดว่าเขาคงเหนื่อยที่จะพูดอะไรให้ยืดยาวจึงปล่อยไปตามความต้องการของลูกชาย
“เรื่องงานแต่งงานเด็ก ๆ เขาจะจัดการกันเอง คุณสบายใจได้นะคะ รับรองยิ่งใหญ่สมเกียรติแน่นอน”
วิภาพูดเสริมในเรื่องนี้เพราะเห็นว่าธาวินเหมือนจะลืมพูดไปและเธอกลัวว่าสามีจะเป็นกังวล
“ฝากคุณช่วยดูด้วยนะ”
อดิสรณ์ดูมีสีหน้าที่สดชื่นขึ้น เขานอนมองหน้ามิตาและ ธาวินโดยมีวิภาคอยจับมืออยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา
การเตรียมงานแต่งงานเริ่มจากดูฤกษ์และเรื่องนี้วิภาขอจัดการเองเพราะทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่
ฤกษ์ที่ได้มาคืออีกแค่เพียงสี่สิบวันเท่านั้น ทั้งสองคนจึงต้องรีบเตรียมตัว เรื่องแรกคือการจองสถานที่และเตรียมชุด ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ธาวินให้ดาราช่วยหามาให้เลือก
ชุดแต่งงานของเจ้าบ่าวไม่มีปัญหาแต่ชุดของเจ้าสาว ตอนแรกมิตาจะเอาแบบที่มีอยู่แล้วเพราะจะได้ไม่วุ่นวายแต่ธาวิน ไม่ยอม
“เลือกแบบที่ชอบจริง ๆ แต่งงานครั้งเดียวไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้วนะ ช่างเขาทำทันอยู่แล้ว”
มิตาแอบอมยิ้มให้กับคำพูดของเจ้าบ่าวที่เขาคิดว่าจะแต่งงานแค่ครั้งเดียวเธอจึงยอมทำตาม
“แค่ชุดของมิตาก็เป็นแสนเลย หมดงานนี้ไม่เป็นล้านเลยเหรอคะ”
หญิงสาวไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจัดงานใหญ่และลงทุนขนาดนี้เพราะทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานเพราะความรักเสียหน่อย
เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่มิตาคิดว่าธาวินคงไม่สนใจแต่เขากลับจริงจังคือการถ่ายพรีเวดดิ้ง ชายหนุ่มไปถ่ายถึงที่เขาใหญ่และฟาร์มชื่อดังแถวนั้น ราคาก็หลักแสนอีก มิตายิ่งคิดแล้วเธอยิ่งรู้สึกเกรงใจที่ครอบครัวของธาวินต้องมาเสียเงินมากมายแบบนี้
“พี่วินมิตาว่าเราควรลดค่าใช้จ่ายลงบ้างไหมคะ มิตาเกรงใจ”
หญิงสาวกลั้นใจพูดทั้งที่ก็แอบกลัวว่าอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่ใช่เงินของเธอเสียหน่อย
“งานแต่งงานคือการให้เกียรติเจ้าสาวและครอบครัว และยิ่งฝ่ายเจ้าบ่าวให้เกียรติเจ้าสาวแค่ไหน นั่นย่อมแสดงถึงความเป็นคนที่มีความรับผิดชอบของครอบครัวเจ้าบ่าวด้วย ไม่ต้องคิดมาก พี่บอกแล้วอย่างไรว่างานแต่งานพี่จะจัดแค่ครั้งเดียว อย่างน้อยถ้าเรามีลูก ลูกจะได้มานั่งดูรูป ดูวิดิโอแล้วมีความสุขที่เห็นภาพสวย ๆ งาม ๆ ”
มิตาได้แต่ส่งยิ้มแล้วเธอคงไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะเหตุผลที่ธาวินให้เธอเพียงพอแล้วและมันก็เป็นจริงทุกคำ
ตอนที่ 5เกือบล่ม งานแต่งงานเตรียมทุกอย่างไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนนี้อดิสรณ์เองก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาเดินได้คล่องเหมือนปกติถึงแม้ขาข้างขวาจะอ่อนแรงลงแต่เรื่องของการกลืนและการพูดดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม “วิภางานแต่งงานของเด็ก ๆ เขาถึงไหนกันแล้ว” คนเป็นพ่อถึงร่างกายจะไม่แข็งแรงแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นงานแต่งงาน ของลูกชายเพียงคนเดียวของเขา “คุณวินเก่งมากเลยค่ะ จัดแจงทุกอย่างเองหมด มิตาก็มาบ่น ๆ อยู่ว่าหมดเงินไปเยอะห้ามก็ไม่ได้ คุณวินเขาบอกว่า&n
ตอนที่ 6หวงหรือห่วง ธาวินกลับขึ้นไปนอนคิดถึงคำพูดของมิตาทั้งคืน เขาไม่รู้เหมือนกันในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้รักเธอและตอนนี้เธอกับเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานกันแล้วทำไมเขาถึงต้องไปรู้สึกไม่พอใจจนพูดจาแบบนั้นทำไม คำว่าหวงกับห่วงชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหนกันแน่เพราะถ้าเขาห่วงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ถ้าหวงนั่นหมายความว่าเขากำลังรู้สึกอะไรกับอนาคตเจ้าสาวเข้าแล้ว “วินแกจะไม่รักใครอีกแล้วเข้าใจไหม” ชายหนุ่มขยี้ผมเหมือนต้องการระบายอารมณ์เมื่อเขาพูดกับตัวเองอยู่คนเดียวบนเตียงนอน มิตาเธอทั้งโกรธทั้งดีใจ หัวใจของเธอมันกำลังเข้าข้างตัวเองมันบอกว่าธาวินกำลังหวงและหึงเธอ&n
ตอนที่ 7คืนหวาน มิตาออกมาจากห้องน้ำก่อนที่ธาวินจะหมดความอดทน เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดชายหนุ่มจึงแกล้งหลับตาทำเหมือนว่าเขาทนรอไม่ไหวหลับไปแล้ว มิตามองมาที่เจ้าบ่าวของเธอพร้องกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจที่คืนนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะธาวินหลับไปแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนและพยายามห่มผ้าให้เบาและนุ่มนวลที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ทันทีที่หญิงสาวหลับตาโคมไฟหัวเตียงก็ถูกปิด ร่างสูงที่ ตอนแรกนอนนิ่งตอนนี้ขึ้นมาอยู่บนตัวของหญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอจึงสะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ “มิตาคิดว่าพี่วินหลับแล้ว”&
ตอนที่ 8ความห่างไกลกับถ่านไฟเก่าสองเดือนผ่านไป ธาวินตัดสินใจที่จะเปิดโครงการใหม่ที่หัวหินเพราะเขากลัวว่าถ้าช้าไปแล้วมิตาเกิดท้องขึ้นมา เขาจะไม่มีเวลาดูแล “อยู่ได้ใช่ไหมพี่ไปห้าวันแล้วจะกลับมาสองวันเพราะช่วงนี้ต้องดูแลการก่อสร้างทิ้งมากลัวมีปัญหา” ธาวินเป็นห่วงกลัวมิตาจะน้อยใจเพราะเขาไม่สามารถเอาเธอไปด้วยได้เพราะงานที่กรุงเทพจะไม่มีคนดู “ได้ค่ะ คอนโดคงไม่สร้างถึงห้าปีหรอกมั้งคะ” ธาวินเดินทางหัวหินกรุงเทพอยู่แบบนี้ได้เกือบสองเดือนแล้วแต่ปัญหามันดันมาเกิดเพราะมิตาดันไปรู้มาว่าลุลาเลิกกับปราชญ์แล้วและตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ที่โรงแรมในหัวหิน
ตอนที่ 9ข่าวดี มิตาเดินทางไปหัวหินทุกครั้งที่ธาวินไปและในที่สุดทั้งคู่ก็ได้เจอกับลุลา “วิน” ถ่านไฟเก่าส่งเสียงเรียกชื่อธาวินมาก่อนตัวเพราะเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจอคนรู้จักที่นี่ “เอ้า! ลุลา” ธาวินทักตอบและเขารีบคว้ามือของมิตามาจับไว้แน่นเพราะกลัวเหลือเกินว่าภรรยาจอมหึงจะเข้าใจผิดอีก ลุลามองมือทั้งคู่ที่จับกันแน่นก่อนที่จะส่งสายตาเป็นคำถามให้อดีตคนรักได้อธิบาย “ตอนนี้วินกับมิตาแต่งงานกันมาได้สักพักแล้ว และลุลาสบายดีไหม”
ตอนที่ 10ครอบครัวคือกำลังใจ ห้าเดือนต่อมา มิตาท้องใหญ่มากจากที่ตอนแรกท้องสามเดือนแล้วแต่ยังไม่มีใครดูออก ธาวินต้องเดินทางไปหัวหินตลอดเพราะตอนนี้คอนโดอยู่ในช่วงเลือกของตกแต่งของแต่ละห้องเพื่อให้มีความแตกต่างกัน “พี่วินไปหัวหินยาว ๆ เลยค่ะ มิตาอยู่ได้คนอยู่กันเต็มบ้าน พี่ขับรถไปมาแบบนี้บ่อย ๆ มิตายิ่งเครียดไปสักเดือนน่าจะเลือกทุกอย่างเสร็จ ถึงตอนคลอดลูกจะได้ไม่เป็นกังวล” มิตาพูดจากใจเพราะทุกครั้งที่สามีของเธอต้องขับรถไป รถมาเธอนอนไม่หลับตลอดและเธอก็รู้สึกว่าลูกในท้องรับรู้ถึงความเครียดของเธอด้วย ธาวินทำตามที
ตอนที่ 11เริ่มต้นด้วยเป้าหมายลงท้ายด้วยรัก ตลอดเวลาที่ครอบครัววชิระบารมีไปอยู่ที่หัวหินทำให้ธาวินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะมาก เขาไม่ทำหน้าเครียดเหมือนแต่ก่อน แต่ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านในที่สุดทุกคนก็ต้องพากันกลับ “ตอนนี้ก็ทำสัญญาขายไปแล้วถึงห้าห้องลูกได้เงินสิบล้านมาถือไว้ในมือแล้ว พ่อว่าอีกสักพักลูกก็ควรจะกลับกรุงเทพได้แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ลูกต้องทำ อย่าใช้เวลาชีวิตทั้งหมดกับเพียงแค่การกลัวในสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังทำ” อดิศักดิ์สอนลูกชายจบเขากับวิภาก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถปล่อยให้พ่อแม่ลูกเขาได้ร่ำลากัน “มิตาพี่ขอบคุณมากที่ดูแลลูกและอยู่ข้าง ๆ พี่ตลอด เดี๋ยวทำสัญญาอีกสองห้องเสร็จพี่ก็จะกลับแล้ว ถ้าคิดจะทำโครงการใหม่คงรอให้ลูกโตกว่านี้ พี่เข็ดแล้ว ต้องนอน
ตอนที่ 2เจรจา ร้านอาหารที่อยู่ใกล้บ้านของฝ่ายหญิงถูกใช้เป็นที่นัดหมาย เพราะวรพลกลัวว่าจะมีใครมาเห็นถ้าไปนัดเจอกันแถวบ้านของเขา “ลลิตาผมนึกว่าคุณจะมากับลินเสียอีก” วรพลถึงแม้จะเคยนอนกับแฝดคนพี่มาแล้ว ก็ยังแยกไม่ออกเลยว่าคนไหนพี่คนไหนน้อง “พี่พลคะลิลเองค่ะ พี่ลิตาไม่ยอมมา และลิลเข้าใจเลยว่าทำไมพี่สาวลินถึงไม่อยากเจอพี่ เพราะแค่แยกว่าคนไหนลิน คนไหนพี่ลิตาพี่ยังแยกไม่ได้ แปลว่าตลอดสองปีที่พี่คบกันมาพี่ไม่เคยรักพี่สาวลิลเลย” ลลิลสาวน้อยตัวเล็กเธอพูดได้แตกต่างจากท่าทางของตัวเธอมาก การพูดของเธอทำให้วายุถึงกับจ้องมองหน้าไม่ยอมแม้แต่จะกระพริบตาเพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าหมวยแบบนี้พูดจาได้ทั้งห้าวและตรง “ผมชื่อวายุเป็นเพื่อนของพล ที่ต้องมาด้วยเพราะผมกำลังจะพาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้” หญิงสาวหันไปมองหนุ่มหน้าขาวที่ท่าทางแตกต่างจากวรพลมาก เขาดูเหมือนหนุ่มเกาหลีเพียงแต่ตัวใหญ่กว่า ท่าทางการแต่งตัวก็ดูออกวัยรุ่นมากกว่าวรพลที่ดูรู้ว่าทำงานในระดับผู้บริหาร “ฉันถามเหรอคะ” วายุหน้าถอดสี ผู้หญิงอะไรเล่นพูดจาไม
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ