ตอนที่ 7
มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ
“ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม”
ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน
“อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้”
“คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย”
รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ
“ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว่าสองทุ่มก็ยังไม่ถึง”
หญิงสาวอยากจะปฎิเสธแต่มาคิดดูมันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดเพราะบ้านที่เธออยู่ต้องต่อรถอีกสองต่อถึงจะถึง
ล้านนาถามทางที่ดลย์จะต้องผ่านและมันก็เป็นทางเดียวกับที่เธอจะกลับบ้านเพียงแต่บ้านของเธอต้องต่อรถไปอีกต่อหนึ่ง
“ส่งล้านนาที่ห้างตรงแยกไฟแดงแล้วกันค่ะ ขอบคุณพี่ดลย์มากนะคะ ประหยัดเวลาไปได้เป็นชั่วโมงป่านนี้หน้าบริษัทจะได้ขึ้นรถกันหมดหรือยังก็ไม่รู้”
หญิงสาวพอคิดภาพออกเลยว่าหน้าที่ทำงานในวันฝนตกบรรยากาศจะเป็นอย่างไรเพราะเธอเคยเจอสมัยที่ยังเช่าหอพักแต่ตอนนั้นเธอเลือกที่จะรอให้ฝนหยุดหรือไม่ก็ให้คนน้อยลงก่อนถึงค่อยกลับ
“แวะหาอะไรกินก่อนไหม”
ดลย์หันมาถามคนนั่งข้าง ๆ เมื่อเขากำลังเลี้ยวรถเข้าไปหาที่จอดในห้างสรรพสินค้าแทนการจอดส่งที่ด้านหน้าแทน
“ไม่ดีกว่าค่ะ ล้านนาทำธุระแล้วก็จะกลับที่พักเลย”
หญิงสาวทำท่าจะเปิดประตูรถ ดลย์จึงไม่อยากเซ้าซี้เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดใจ
ล้านนาไม่ได้รีบกลับบ้านเหมือนอย่างที่บอกกับรุ่นพี่ บ้านวันนี้ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมาเพราะเธอจะต้องนอนอยู่บ้านหลังใหญ่เพียงคนเดียวแค่คิดคนตัวเล็กก็อยากจะร้องไห้ออกมาเพราะความคิดถึง
“สักวันเขาก็ต้องไป ล้านนาอ่อนแอไม่ได้เขากับแกมันคนละฐานะกัน”
อีกครั้งที่คนหัวใจอ่อนแอต้องเตือนตัวเองไม่ให้คิดฝันไปไกลถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะดูมีใจให้ก็ตาม
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาใกล้สามทุ่มแล้ว ล้านนายังคงคอยโทรศัพท์จากเจ้านายของเธออย่างมีหวังแต่สุดท้ายก็ไม่มีแม้แต่ข้อความใด ๆ ส่งมา เธอตัดสินใจกลับบ้านก็ได้แต่ภาวนาขอให้พรุ่งนี้มาถึงไว ๆ เพราะเธอคิดถึงเจ้านายจนหัวใจมันเหงาหว่าเหว่เดียวดาย
“แม่ยังไม่อยากกลับบ้านพาแม่ไปหาอะไรกินที่ร้านที่แม่ชอบหน่อยนะเดี๋ยวแม่บอกทางให้”
ราตรีให้ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอพาไปเสริมสวยเสร็จก็อ้อนให้พาไปหาอะไรกินต่อ
“คุณแม่ชอบร้านนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เห็นปกติไม่ชอบกินอาหารฝรั่ง”
“แม่ก็อยากเปลี่ยนบ้างหรือไม่ได้”
ราตรีทำท่าน้อยใจ ค้อนไปค้อนมาที่ลูกชายพูดจาเหมือนกำลังจะจับผิดเธอ
“สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะพี่ภู”
เสียงหวานดังทักทายแหวกกลางบทสนทนาระหว่างแม่กับลูกมาอย่างเจื้อยแจ้ว
“ไหว้พระจ๊ะหนูทรายแก้ว”
ทรายแก้วลูกสาวคนเล็กของเจ้าแม่นักธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประทศมาในชุดเดสแหวกอกจนเห็นเนินอกคู่อวบที่ขาวเหมือนดังสำลี
“พี่ภูดูตกใจนะคะที่เห็นทรายแก้ว”
สาวน้อยในวัยใกล้เคียงกับล้านนาส่งสายตาหวานหยดย้อยใส่ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ
“เอ่อ...คือ คุณแม่ไม่ได้บอกพี่ว่าทรายแก้วจะมากินข้าวด้วย พี่ก็เลยแปลกใจแต่ก็ดีใจนะที่ได้เจอกัน เกือบปีแล้วที่เราสองคนแทบจะไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันเลย”
ภูเบศพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อกลบเกลื่อนอาการตกใจของเขาจะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรกันในเมื่อทรายแก้วกับเขาเคยคบหากันสมัยที่ฝ่ายหญิงยังเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายแต่พอเธอเรียนมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มก็โดนทิ้งไม่เป็นท่า
“ทรายงานยุ่งมากค่ะ คุณแม่นำเข้าสินค้าตัวใหม่และยกให้ทรายเป็นคนจัดการดูแลสินค้าตัวนี้ทุกอย่างกว่าจะได้ยอดขายที่พอใจเหนื่อยจนไม่มีเวลาได้ไปไหนมาไหนเหมือนคนอื่นเขา”
สาวน้อยหน้าสวยพูดไปก็ส่งยิ้มหวานให้กับอดีตคนรักอย่างร่างเริงแจ่มใสเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขากับเธอไม่ได้มีอะไรต่อกันทั้งที่ความเป็นจริงเรื่องราวในอดีตทรายแก้วได้สร้างความเจ็บช้ำและผิดหวังให้กับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ อย่างไม่สนใจใยดีในความรู้สึกของอีกฝ่ายสักนิดเลย
บรรยากาศในการกินอาหารมื้อเย็นจากที่ภูเบศตั้งใจว่าจะใช้เวลาในคืนนี้กับมารดาให้มากที่สุดแต่กลายเป็นว่าเขากลับต้องมาคอยเอาใจทรายแก้วตามความต้องการของมารดา
“หนูทรายถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับธุรกิจก็ปรึกษาพี่เขาได้ทุกเมื่อนะ ภูเขาเก่งเหมือนคุณพ่อของเขา ครอบครัวเราสนิทคุ้นเคยมีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ”
หญิงสาวหันไปจับมือภูเบศมาวางไว้บนขาอ่อนที่ขาวเปล่งประกายของเธอก่อนจะทาบมือของเธอวางทับ
“ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ทรายต้องไปรบกวนพี่ภูแน่ ๆ ค่ะ”
ภูเบศใจหนึ่งอยากจะดึงมือของตัวเองกลับมาแต่ก็กลัวจะกลายเป็นคนเสียมารยาทและที่สำคัญเขาไม่อยากทำให้แม่ของเขาที่กำลังมีความสุขต้องกลับไปไม่สบายใจอีก
“พี่ยังไม่เห็นเรากินอะไรสักอย่าง เดี๋ยวพี่หั่นเนื้อย่างบาบีคิวให้สูตรเด็ดของที่นี่ ใช่ไหมครับคุณแม่”
ชายหนุ่มค่อย ๆ พามือของตัวเองออกจากขาเรียวที่ขาวเสียจนมองเห็นเส้นเลือดอย่างชัดเจน
ทรายแก้วเห็นอาการของอดีตคนรักแล้วก็อดขำไม่ได้เพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มกำลังหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อเขาได้สัมผัสขาอ่อนของเธอที่อยู่ใกล้กับส่วนสงวนเพียงไม่ถึงคืบ
“มือสั่นแบบนั้นจะหั่นได้อย่างไรคะเดี๋ยวทรายทำเองดีกว่า”
สาวน้อยหัวเราะอย่างมีความสุขที่เข้าใจว่าตัวเธอยังสามารถทำให้ภูเบศหวั่นไหวได้
“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
ชายหนุ่มลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเพราะยังรักทรายแก้วอยู่แต่เขาแค่รู้สึกตามแบบผู้ชายทั่วไปที่ได้ถึงเนื้อถึงตัวผู้หญิงสวยก็เท่านั้น ถ้าเป็นภูเบศคนเดิมเขาคงไม่มีทางปล่อยให้ทรายแก้วหลุดมือไปแน่ ๆ อย่างน้อยเขาก็จะได้เอาคืนที่เธอเคยทำให้เขาเสียใจ
ทรายแก้วเลือกที่จะทิ้งภูเบศไปหาผู้ชายอีกคนที่อายุมากกว่าภูเบศเสียอีกเพียงเพราะเขาสามารถให้เธอได้มากกว่าซึ่งตอนนั้นตัวของภูเบศเองยังคงเพิ่งทำงานและพ่อของเขาก็ฝึกให้ใช้แค่เพียงเงินเดือนเหมือนพนักงานคนอื่น ๆ
“ภูแม่ว่าเรากลับกันเถอะ น้องไม่ได้เอารถมาถ้าอย่างนั้นลูกไปส่งแม่ที่บ้านก่อนแล้วค่อยไปส่งน้อง เราสองคนไม่ได้เจอกันนานเห็นน้องว่ามีเรื่องจะปรึกษาด้วยจะได้ขับรถไปคุยกันไป”
“ทำไมไปส่งทรายก่อน คุณแม่จะได้นั่งคุยกับเราไปด้วย”
ชายหนุ่มแสดงท่าทางไม่เต็มใจออกมาเพราะเขาไม่อยากไปไหนกับผู้หญิงที่ยืนข้าง ๆ เพียงสองต่อสอง
“ภู...ทำตามที่แม่บอกดีกว่านะลูก”
สายตาและน้ำเสียงที่ดูเอาจริงทำเอาลูกชายที่กำลังไม่เต็มใจต้องพยักหน้ายอมทำตามเพราะไม่อยากทะเลาะกับมารดา
ราตรีกับทรายแก้วยังคงคุยกันต่ออย่างสนุกสนานและบ่อยครั้งที่คนเป็นแม่มักจะเอ่ยชื่อลูกชายเพื่อโยงให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับบทสนทนาตลอด
“หนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ค่อยยอมมีแฟนกัน ตาภูก็ยังโสด หนูทรายก็ยังไม่มีแฟน แม่นี่อดเชียร์ไม่ได้อยากได้ลูกสะใภ้น่ารักอย่างหนูทราย ใช่ไหมตาภู”
คนขับได้แต่หันไปยิ้มตอบเพราะเขาไม่ได้คิดอย่างที่มารดาพูดแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะบอกความรู้สึกออกมา
ราตรีลงรถแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงทรายแก้วและภูเบศ บรรยากาศในรถเงียบลงทันที
“พี่ภูยังไม่หายโกรธทรายอีกใช่ไหมคะ”
ทรายแก้วเปลี่ยนบทจากเด็กสาวสดใสกลายเป็นหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ทันที
“เปล่า พี่ยังคงเห็นทรายเป็นน้องสาวพี่เหมือนเดิมไม่ต้องไปคิดถึงอดีตพี่ลืมมันไปหมดแล้ว”
“แต่ทรายยังไม่ลืม พี่ภูขา..ทรายรักพี่นะคะ”
ปากก็บอกรักมือทั้งสองขาก็คล้องแขนคนขับมากอดแนบอกอวบของเธอไว้แน่น
“ปล่อยมือพี่เถอะ ใครมาเห็นมันคงไม่เหมาะ”
ภูเบศไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องมารยาทอีกแล้วเพราะตอนนี้อยู่กันแค่สองคน เขาจึงดึงแขนกลับทันที
ทรายแก้วกำลังจะโวยวายที่ถูกอีกฝ่ายดึงแขนกลับแบบนี้แต่ต้องปิดปากเงียบสนิทเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ของภูเบศดังขึ้น
“ผมขับรถอยู่เดี๋ยวถึงบ้านผมโทรหานะ ปิดบ้านให้ดี ๆ ถ้ามีอะไรรีบโทรหาผมอย่าเปิดบ้านเด็ดขาด พรุ่งนี้เจอกันครับ”
น้ำเสียงที่ชายหนุ่มใช้กับคนในโทรศัพท์ช่างแตกต่างจากเสียงที่เขาใช้กับทรายแก้วเหมือนฟ้ากับเหว
“พี่ภูใครโทรมาคะ”
ทรายแก้วตะโกนเสียงดังเข้าไปในโทรศัพท์โดยที่ชายหนุ่มยังไม่ทันที่จะได้กดวางสาย
“พี่รู้นะว่าเธอทำแบบนี้ต้องการอะไร”
คนขับรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องอดทนไว้หน้าอีกฝ่ายต่อไปแล้วในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ให้เกียรติเขาเลย
“แล้วจะทำไมคะ ทรายจะบอกคุณป้าว่าพี่ภูมีแฟนแล้ว”
“ก็ดีบอกเลย คุณแม่จะได้เลิกอยากจะได้ผู้หญิงอย่างเธอมาเป็นลูกสะใภ้เสียที”
กรี๊ด..... “พี่ภู”
บรรยากาศในรถกลับมาเงียบอีกครั้งแต่ครั้งนี้คือการเงียบแบบสนิทจนถึงบ้านของทรายแก้วเพราะต่างคนต่างรู้สึกไม่พอใจกัน
“หวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก”
ภูเบศหันหน้าที่ดูบึ้งตึงเพื่อบอกหญิงสาวที่กำลังจะเปิดประตูรถด้วยน้ำเสียงเหมือนเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน
“เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน หลับฝันดีนะคะสามีในอนาคต”
ประตูรถถูกปิดลงเหลือทิ้งไว้แต่คำพูดของหญิงสาวที่ดูเหมือนว่าเธอกลับมาในชีวิตของภูเบศครั้งนี้โดยมีจุดประสงค์ที่แน่นอนคือต้องการได้เขาเป็นสามี
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 1ระบายอารมณ์ “คุณคราม ทิพย์ว่าคุณเมามากแล้วนะคะ ขึ้นห้องเถอะค่ะ” ข้าวทิพย์เธอกลัวว่าลูกชายเจ้านายของเธอ จะเมากองอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น หากคุณอเนกกลับมาจากงานเลี้ยง ท่านจะต้องไม่พอในเธอแน่ ๆ ที่ยอมให้ลูกชายของเขาดื่มจนเมาแบบนี้ “หยุดเลย! เธอเป็นใครถึงได้มาสั่งฉัน ข้าวทิพย์ถ้าแม่เธอไม่มาเดินขวางทางรถที่แพรขับ พ่อของฉันก็ไม่ต้องเสียเงินปิดคดี และต้องมานั่งรับผิดชอบเธอแบบนี้หรอก” สีหน้าดุดัน และจ้องมองเธอแบบจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของครามเลย เพราะปกติแล้ว ชายหนุ่มเป็นคนพูดน้อย แล้วเรื่องที่แพรรำภาคู่หมั้นของเขาขับรถชนแม่เธอ ใคร ๆ ก็รู้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด &l
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
ตอนที่ 1ระบายอารมณ์ “คุณคราม ทิพย์ว่าคุณเมามากแล้วนะคะ ขึ้นห้องเถอะค่ะ” ข้าวทิพย์เธอกลัวว่าลูกชายเจ้านายของเธอ จะเมากองอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น หากคุณอเนกกลับมาจากงานเลี้ยง ท่านจะต้องไม่พอในเธอแน่ ๆ ที่ยอมให้ลูกชายของเขาดื่มจนเมาแบบนี้ “หยุดเลย! เธอเป็นใครถึงได้มาสั่งฉัน ข้าวทิพย์ถ้าแม่เธอไม่มาเดินขวางทางรถที่แพรขับ พ่อของฉันก็ไม่ต้องเสียเงินปิดคดี และต้องมานั่งรับผิดชอบเธอแบบนี้หรอก” สีหน้าดุดัน และจ้องมองเธอแบบจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของครามเลย เพราะปกติแล้ว ชายหนุ่มเป็นคนพูดน้อย แล้วเรื่องที่แพรรำภาคู่หมั้นของเขาขับรถชนแม่เธอ ใคร ๆ ก็รู้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด &l
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n