ตอนที่ 1
แค่เพียงแรกเจอ
“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”
ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้
“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”
ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า
“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”
คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงการของผู้หญิงที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองและเขาก็มองว่าถ้าภูริดลตัดสินใจจ้าง งานแบบนี้เป็นงานที่แสนจะสบายผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องอยากเสนอตัวมาเป็นภรรยารับจ้างให้เพื่อนเขาแน่
“แกคิดว่าจะมีคนรับจ้างจริง ๆ งั้นรึแต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าผู้หญิงที่จะมาเล่นบทเป็นเมียฉันจะต้องนอนกับฉันจริง ๆ เพราะสิ่งที่คุณพ่อยื่นคำขาดคือฉันจะต้องมีลูกดังนั้นผู้หญิงที่ฉันจะจ้างจะต้องบริสุทธิ์อยู่ สวย เก่งและฉลาด แกคิดว่าหาได้ไหมล่ะยุทธ”
คนพูดไม่ใช่แค่เพียงประชดประชันแต่เขาพูดความจริงบนความรู้สึกว่าคงไม่มีผู้หญิงที่เที่ยวเอาตัวมาแลกกับเงินที่ไหนมีคุณสมบัติครบตามที่เขาต้องการแต่ถ้าเพื่อนสามารถหาให้ได้ภูริดลก็พร้อมจะจ้างเธอคนนั้นเพียงแต่ขอให้เป็นผู้หญิงที่ถูกใจเขาจริง ๆ ก็พอ
“ไอ้หล่อเลือกได้ถ้าแกเจอผู้หญิงแบบที่แกว่า ฉันว่าแกเอาเขาเป็นเมียเลยจริง ๆ ก็ดีนะถ้าดูจากคุณสมบัติที่ตั้งไว้ผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างนั้นอย่าว่าแต่หามารับจ้างเลยหามาเป็นเมียก็ยังไม่รู้ว่าจะเจอหรือเปล่า”
ยุทธทั้งขำทั้งรู้สึกหมั่นไส้เพื่อนทีไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนกี่ปี ภูริดลก็ยังคงมีมาตรฐานผู้หญิงในอุดมคติสูงเหลือเกิน ถึงได้ยังครองความโสดมาจนถึงทุกวันนี้ถึงแม้จะมีผู้หญิงเสนอตัวมาเป็นคนรักอยู่มากมายแต่กลับต้องยอมแพ้กลับไปทุกคนเพราะเจอกับวาจาอันแสนร้ายกาจของภูริดลที่พร้อมจะเชือดเฉือนหัวใจผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาเพียงเพราะคิดว่าเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีและมีฐานะดีเท่านั้น
ค่ำคืนนี้ ผับที่ทั้งคู่เลือกมานั่งดื่มผู้คนค่อนข้างมากเพราะเป็นคืนวันศุกร์ภูริดลมองสำรวจหญิงสาวไปรอบร้านเผื่อว่าบางทีเขาอาจจะเจอใครสักคนที่รู้สึกถูกชะตา
“ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวในชุดที่ดูเรียบร้อยไม่เหมาะกับสถานที่เที่ยวแห่งนี้ถูกชายหนุ่มที่กำลังเต้นอยู่ด้วยความเมาจนร่างบางของเธอจนเซมากระทบกับไหล่ของภูริดลชนแก้วเหล้าที่อยู่ในมือหกรดเสื้อผ้าของเขาจนเปียกไปหมด
“เมาแบบนี้ก็กลับไปนอนที่บ้านซะมาเที่ยวเดินไปเดินมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นรู้ไหม หน้าตาเด็กแบบนี้อายุเกิน 18 หรือยังเกิดเป็นผู้หญิงหัดทำตัวให้มันมีค่าบ้าง”
ชายหนุ่มลุกขึ้นโวยวายทันทีสองมือลูบไปที่เสื้อสูทสุดหรูของเขาที่ตอนนี้มันเปื้อนไปด้วยแอลกอฮอล์ที่หกจากแก้วที่เขาถืออยู่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปยังต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเสียอารมณ์โดยที่อีกฝ่ายมีโอกาสได้พูดแค่คำว่าขอโทษเท่านั้น
“ฉันไม่ได้ตั้งใจแล้วก็ขอโทษคุณแล้วทำไมต้องพูดยาวขนาดนี้และที่สำคัญฉันไม่ได้เมาแต่คนที่มันเต้นอยู่ตรงนั้นมันชนฉันต่างหาก ผู้ชายอะไรไม่มีเหตุผลและยังชอบดูถูกคนอื่นอีกคุณเองก็ไม่เหมาะมาเที่ยวที่นี่เพราะที่นี่เขามาผ่อนคลายหาความสุขกันแต่ดูท่าทางแล้วจิตใจของคุณมันคงจะมีแต่ความทุกข์และมองทุกอย่างเป็นลบไปหมด”
ภูริดลได้แต่กำมือแน่นอยากจะเถียงสู้กับอีกฝ่ายแต่ก็ทำไม่ได้เพราะทันทีที่เธอพูดจบก็รีบเดินกลับเข้าไปในร้านและด้วยผู้คนที่มีมากในวันนี้จึงทำให้ชายหนุ่มมองไม่เห็นว่าเธอเดินไปนั่งที่โต๊ะไหน
“กลับบ้านก่อนนะยุทธอารมณ์ไม่ดี”
นักธุรกิจผู้เป็นเจ้านายจนเคยตัวเกิดมาไม่เคยเจอใครพูดแบบนี้ในเมื่อต้องยอมแพ้เพราะในสถานการณ์เขาเองไม่ใช่เจ้านายจึงไม่มีสิทธิ์จะมาบังคับหรือต่อว่าใครได้ทั้งนั้นภูริดลจึงขอตัวกลับก่อน วันนี้เขาคงไม่สนุกแล้ว
“เป็นไรวะพิมพ์เมื่อกี้ยังเห็นดี ๆ อยู่ เดินไปเข้าห้องน้ำ แป๊บเดียวหน้าเป็นตูดกลับมาเลย”
หม่อนสังเกตท่าทางและอาการของเพื่อนก็ดูออกได้ทันทีว่าตอนนี้พิรฎากำลังอารมณ์ไม่ดีทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งสามคนกำลังคุยกันเรื่องของอนาคตอย่างสนุกสนานเพียงแค่หญิงสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็กลายเป็นอารมณ์บูดบึ้ง
“ก็เมื่อกี้ถูกใครก็ไม่รู้มันเมาชนเราจนกระเด็นไปโดนคนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ เหล้ามันก็หกรดตัวคนนั้นเราก็ขอโทษแล้วกลับพูดโวยวายดูถูกเราสารพัดผู้ ชายอะไรวะ ! แต่งตัวก็ดี หน้าตาก็ดีปากหมาชิบเป๋ง”
พิรฎารู้สึกเสียอารมณ์ที่เธอต้องมาเจอคนแบบนี้เพราะตลอดชีวิตเธอก็เจอผู้ชายแบบนี้มาทั้งชีวิต นั่นก็คือบิดาผู้ที่เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำอะไรถูกต้องที่สุดในบ้านนอกนั้นทุกคนผิดหมดและยิ่งเธอมีแม่เลี้ยงเข้ามากลายเป็นว่าบ้านทั้งบ้านคนที่มีหน้าที่ผิดมีแค่เธอคนเดียว
“เรามาสนุกกันอย่าไปเสียอารมณ์กับคนที่เราไม่รู้จักเลย ยกแก้วขึ้นมาดื่มเบียร์ดีกว่าฉลองให้กับอิสรภาพของพิมพ์ที่นับจากนี้มันจะไม่ต้องกลับเข้าไปอยู่ในบ้านที่มีแต่ความทุกข์อีกแล้ว”
ฟางเป็นเพื่อนสนิทกับพิรฎามาตั้งแต่สมัยชั้นประถมเธอรู้เรื่องทั้งหมดของครอบครัวนี้และแม่ของเธอก็ยังเคยเป็นแม่บ้านให้กับแม่ของพิรฎาก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไปจึงทำให้เพื่อนทั้งสองคนนี้มีความสนิทสนมกันมากขึ้นส่วนหม่อนเป็นเพื่อนที่ทั้งคู่มารู้จักในสมัยมัธยมฟางเป็นผู้หญิงที่มาจากครอบครัวที่ดีและมีความสุขเธอจึงมักจะเป็นมุมมองแง่บวกให้กับเพื่อน ๆ ในขณะที่หม่อนมักจะเป็นขาลุยเวลาที่เพื่อนมีเรื่องมากกว่า
“ตัดสินใจดีแน่แล้วใช่ไหมพิมพ์แล้ววางแผนหรือยังว่าจะทำงานที่ไหน เราเข้าใจนะเรื่องที่จะออกมาอยู่อย่างอิสระแต่เธอก็ต้องวางแผนให้ดีอย่างน้อยก่อนหน้านี้พ่อของเธอก็ให้เงินแล้วตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัวเลยใช่ไหม”
หม่อนทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มคิดและวางแผนให้เพื่อนเพราะการเดินก้าวออกมาจากครอบครัวมันอาจจะทำให้พิรฎารู้สึกมีความสุขในหัวใจแต่ความทุกข์อาจจะกำลังตามมาถ้าวันนึงเงินที่มีถูกใช้ไปจนหมดและหญิงสาวก็ถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนูมีแต่ความสะดวกสบายคงไม่ชินกับความลำบาก
“เงินในบัญชีก็พอมีไม่กี่หมื่นแต่ก็มีพวกทองแหวนเพชรที่แม่เคยซื้อเก็บไว้ให้ถ้าไม่มีเงินใช้จริง ๆ ก็คงต้องขาย เราไม่ยึดติดกับของอะไรแบบนั้นหรอกถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่เหลือไว้ให้ดูต่างหน้าก็ตาม”
ปากก็บอกไม่รู้สึกอะไรทำเหมือนตัวเองเข้มแข็งแต่หัวใจของพิรฎาตอนนี้กำลังบอบช้ำ เธอได้พูดกับคนเป็นพ่อไว้ก่อนแล้วว่าสอบวันสุดท้ายเมื่อไหร่เธอจะเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นมายืนด้วยขาของเธอเองเพื่อพิสูจน์ให้พ่อรู้ว่า เธอไม่ได้เป็นอย่างที่อภิรดีแม่เลี้ยงของเธอกล่าวหาว่าชีวิตของเธอเต็มที่ก็ได้แค่ทำตัวเรียบร้อย รอผู้ชายรวย ๆ สักคนมาขอแต่งงาน
“โกหกใครก็โกหกได้แต่หลอกใจตัวเองไม่ได้หรอกนะตัดสินใจดี ๆ พวกเราพร้อมอยู่เคียงข้างแกตลอด เราคบกันมาขนาดนี้แล้วแกก็คงรู้เรื่องดี ๆ แกก็ปรึกษาฟางได้แต่ถ้าเรื่องไม่ดีก็ปรึกษาเราแทนแล้วกัน”
หม่อนพยายามพูดปลอบเพื่อนบนความไม่เครียดเพราะอยากให้อีกฝ่ายรู้สึกขำออกมาแล้วมันก็ได้ผลเพราะชีวิตของหม่อนเองก็ไปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่เธอก็ดูมีความสุข ผู้หญิงหลายคนอาจจะมองว่าการใช้ร่างกายแลกเงินเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีแต่สำหรับหม่อนมันคือความสุขเพราะเธอสามารถหาความสุขให้กับครอบครัวได้ แม่ของเธอมีเงินไปโรงพยาบาลดี ๆ มีของใช้ มีบ้านอยู่ในขณะที่ผู้หญิงบางคนบูชาความรัก เสียตัวให้กับผู้ชายที่คิดว่ารักที่สุดสุดท้ายไม่ได้แม้แต่อะไรติดมือมานอกจากน้ำตาเท่านั้น
“ฉันไปทำงานกับแกได้ไหมหม่อน”
สาวน้อยไฮโซหลุดปากพูดออกมาทั้งที่เธอตั้งใจว่าจะใช้ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย
“แกพูดจริงหรือพิมพ์ถ้าพ่อแก่รู้มีหวังหัวใจวายตายแน่”
ฟางและหม่อนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจเพราะสิ่งที่หญิงสาวกำลังพูดอยู่นั่นคืออาชีพการใช้ร่างกายบำเรอหาความสุขให้กับผู้ชายที่ยอมเสียเงินมาซื้อบริการถึงแม้ว่างานที่ทำจะไม่ใช่แบบผู้หญิงขายตัวทั่วไปเพราะเธอมีสิทธิ์เลือกที่จะไปกับผู้ชายคนไหนและเธอเองก็มักจะเลือกแต่ผู้ชายดีๆฐานะร่ำรวยและมั่นใจว่าจะไม่ทำอะไรเกินไปกว่าข้อตกลงในการซื้อบริการกัน
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับพ่อ ร่างกายก็ร่างกายเรา ใจก็ใจเราและตอนนี้เราต้องการหาเงินแต่บอกไว้ก่อนนะว่าเราขอเลือกผู้ชายที่จะมานอนกับเราโดยเฉพาะผู้ชายที่จะเป็นคนแรก หม่อนติดต่อหาลูกค้าให้เราหน่อยสิเลือกให้เราด้วยเอาแบบหล่อรวยที่สำคัญครั้งนี้เป็นครั้งแรก เราขอเรียกที่ 1 ล้านบาท”
“ หนึ่งล้าน !”
เพื่อนทั้งสองคนต่างพูดจำนวนเงินด้วยความตกใจเพราะเป็นราคาที่สูงมากถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะได้ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่มีมลทินใด ๆ ก็ตามแต่ก็ไม่เคยมีใครยอมจ่ายเท่านั้นสักที
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา