ตอนที่ 6
นามสกุลที่คุ้นหู
“สบายใจขึ้นหรือยังคะ”
พิรฎาถอนหายใจก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธอด้วยใบหน้าที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยหลังจากที่เธอต้องเข้าไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเพราะหญิงสาวทั้งรู้สึกกลัวและรู้สึกเจ็บกับการที่ต้องโดนตรวจภายในเป็นครั้งแรก
“ก็ดีนะผมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเต็มที่คุณเองก็เตรียมร่างกายให้พร้อมจะได้ไม่ต้องทนเป็นเมียผมนานเอาเถอะยิ่งเรามีลูกกันช้าเท่าไหร่คุณก็ยังจะต้องทนเห็นหน้าผมไปอีกนาน”
สาวน้อยได้แต่หันไปมองคนขับที่ตั้งแต่ออกมาจากบ้านเขายังไม่พูดหยุดพูดจาประชดประชันเธอเลยสักครั้งด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินแต่เธอก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรแล้วเพราะตลอดทางเธอเองก็เถียงเข้ามาตลอดเหมือนกันจึงคิดว่าต่อไปนี้จะอยู่แบบเงียบๆบ้างเพราะแค่ต้องทนปฏิบัติตามคำสั่งของเขาเธอก็เหนื่อยใจพออยู่แล้วถ้ายังจะต้องมาเถียงเอาผิดเอาถูกกับเขาอีกเธอคงจะต้องบ้าก่อนที่งานสำเร็จแน่นอน
“แวะไหนอีกคะนี่ฉันคิดว่าเราจะกลับบ้านกันได้แล้ว”
คนขับไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านตามที่อีกฝ่ายคิดแต่เขากลับพาเธอมาที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือ การจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้อง
“นามสกุลคุณผมรู้สึกคุ้นๆ”
ภูริดลพูดขึ้นหลังจากที่เขานั่งมองใบทะเบียนสมรสที่ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็ได้รับมาคนละ 1 แผ่นเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันการเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“นามสกุลฉันดังจะตายคุณจะไม่คุ้นได้ยังไงแต่อย่างว่าคนเราเกิดมาชื่อเหมือนกันนามสกุลเหมือนกันก็ยังไม่ได้มีชีวิตที่เหมือนกันเลยตอนสมัยที่ฉันเด็กๆมีแต่คนบอกว่านามสกุลแบบนี้บ้านต้องรวยแต่สุดท้ายฉันก็ยังจนถึงทุกวันนี้”
คนตอบหันหลังให้คนขับทันทีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะหาเหตุผลมาแก้ตัวไม่ทัน หญิงสาวไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาสได้เห็นนามสกุลของเธอแบบนี้ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นมันสั้นจนเธอคิดหาคำตอบในแบบฉุกเฉินแต่ในที่สุดมันก็รอดไปได้เพราะอีกฝ่ายเชื่อสนิทใจว่าเธอเองก็แค่มีนามสกุลไปตรงกับคนที่มีฐานะร่ำรวยทั้งที่ความเป็นจริงเธอกับคนพวกนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันสักนิด
“ก่อนกลับบ้านพาฉันไปแวะซื้อของหน่อยได้ไหม”
คนตัวเล็กเมื่อมองเห็นไกลๆว่าข้างหน้ามีห้างสรรพสินค้าเธอคิดขึ้นมาได้ว่าเธอเองยังแทบจะไม่มีของใช้ส่วนตัวจากตอนแรกที่ตั้งใจว่าเธอจะออกมาซื้อเองแต่เปลี่ยนใจเมื่อเริ่มรู้สึกว่าการเดินทางไปไหนมาไหนของเธอมันอาจจะสร้างความไม่ปลอดภัยถ้าเกิดคนของบิดามาเจอเข้าเธอจึงตัดสินใจที่จะขอให้คนขับพาเธอแวะซื้อในครั้งนี้เลย
“คุณนั่งรอตรงนี้ก็ได้นะฉันจะรีบซื้อแล้วจะรีบกลับมา”
หญิงสาวรู้สึกเกรงใจที่อีกฝ่ายจะต้องมาคอยเดินตามเธอเลือกซื้อเครื่องสำอางของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้หญิงแต่กลายเป็นว่า ภูริดลเต็มใจแต่กลับรู้สึกหงุดหงิดที่เหมือนหญิงสาวพยายามผลักเขาออกให้พ้นตัวเหมือนไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าเธอกับเขามาด้วยกัน
“ดูเหมือนคุณจะไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมเป็นสามี”
“แล้วแต่คุณจะคิดเลยค่ะถามจริงๆเถอะประจําเดือนไม่มาหรือเปล่าวันนี้ดูคุณจะหงุดหงิดตั้งแต่เช้าก่อนหน้านี้ที่ฉันยังไม่ได้เข้ามาอยู่บ้านคุณทำไมคุณดูเป็นคนพูดน้อยดูเป็นผู้ใหญ่แต่ตั้งแต่ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าคุณยังไม่หยุดพูดจาประชดประชันฉันเลยนะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับยกมือขึ้นมาโอบไหล่อีกฝ่ายเข้ามากอดแนบชิดกับตัวเสมือนว่าทั้งคู่คือข้าวใหม่ปลามันคือสามีภรรยาที่รักกันเหลือเกินจนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองด้วยรอยยิ้มเขินแทนหญิงสาวที่กำลังโดนกอดอยู่ตอนนี้
“ชิบ...แล้ว”
สายตาของพิรฎาหันไปเห็นหญิงสาวที่กำลังคิดเงินอยู่เครื่องข้าง ๆ เธอ ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือเลขาของบิดาของเธอนั่นเอง สาวน้อยไม่รู้จะหลบไปทางไหนจึงได้แต่ใช้มือโอบเอวสามีแนบใบหน้าของเธอกับอกกว้างของอีกฝ่าย ภูริดลเองถึงกับตกใจที่อยู่ดีๆหญิงสาวที่ทำท่าทางเหมือนรังเกียจเขามาตลอดกลับเอาตัวเข้ามาแนบชิดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่กำลังมอง
“พอรู้ว่าจะกลับบ้านก็อ้อนเชียวนะไม่ต้องกลัวคืนนี้ผมจัดหนักจัดเต็มอยู่แล้ว”
คนตัวสูงกระซิบข้างหูแผ่วเบาดึงอีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัวมากขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าสาวน้อยภายใต้อ้อมกอดรู้สึกหมั่นไส้แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอาใบหน้าออกจากที่กำบังจึงได้แต่ใช้เล็บจิกไปที่ท้องของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการลงโทษที่พูดจากวนอารมณ์เธอ
ภรรยารับจ้างต้องรับศึกหนักตั้งแต่คืนแรกจนถึงเวลานี้ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็มที่พิรฎาาเข้ามาทำหน้าที่ตามสัญญาของเธอภูริดลปฏิบัติหน้าที่สามีอย่างเคร่งครัดจนตัวเขาเองก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้จากที่ตั้งใจว่าจะให้หญิงสาวเป็นเพียงแค่เครื่องระบายอารมณ์และทำหน้าที่ให้เขาได้สมบัติจากบิดาแต่ตอนนี้กลายเป็นตัวเขาเองที่ติดเธอแทบจะไม่ยอมไปสังสรรค์อะไรกับเพื่อน
“เดี๋ยวนี้จะเจอหน้าคุณภูริดลแต่ละทีกระผมนายยุทธจะต้องเดินทางมาถึงบริษัทเลยใช่ไหมครับ”
เพื่อนคนสนิทพูดจาแซวชายหนุ่มตรงหน้าจากที่เคยเป็นหนุ่มตระเวนราตรีชอบการท่องเที่ยวมากกว่าการกลับบ้านแต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นคนที่ติดภรรยาแทบจะไม่ยอมไปไหนแม้ว่าเพื่อนจะพยายามชวนเท่าไหร่ก็ตาม
“แกก็พูดเกินไป ฉันต้องกลับบ้านเพราะอยากจะมีลูกเร็วๆจะได้ยกเลิกสัญญาบ้าบอเสียทีเบื่อหน้ายายนั่นจะบ้าแล้ว”
ปากที่ยังคงดูร้ายแต่มันกลับตรงข้ามกับใบหน้าที่ตอนนี้มีรอยยิ้มมุมปากเขินจนหน้าแดงเมื่อคิดถึงภาพผู้หญิงที่เขานอนกอดเธอทุกคืน
“ให้มันจริงอย่างที่ปากพูดแล้วกันไม่ใช่ถึงเวลาก็ร้องไห้ คร่ำครวญไม่ยอมเลิกกับเขานะ”
ยุทธอ่านใจเพื่อนออกแต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะเตือนอะไรเพราะตลอดเวลาของการคบกันตัวเขาเองต่างหากที่มักจะทำอะไรผิดพลาดให้ภูริดลต้องเป็นฝ่ายตักเตือนเสียมากกว่า
“แกพูดผิดหรือเปล่าคนอย่างฉันน่ะหรือจะคร่ำครวญเสียใจแกก็รู้สาเหตุที่ฉันจ้างผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเมียก็เพราะว่าไม่อยากมีครอบครัวแล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องมาคร่ำครวญถ้าถึงเวลาต้องหย่านี่ก็เฝ้ารอไม่รู้เมื่อไหร่จะท้อง”
คนเป็นเพื่อนได้แต่พยักหน้าทำท่าพยายามเชื่อทั้งที่ก็รู้ว่า อีกฝ่ายก็ดูออกว่าเขาไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่ภูริดลพูดจะเป็นความจริงในใจ
สองคนเพื่อนสนิทพูดคุยเรื่องต่างๆ มากมายที่เก็บไว้ในใจกันมาหลายวันเพราะปกติทั้งสองคนแทบจะเจอกันเกือบทุกคืนแต่ตั้งแต่ภูริดลรับพิรฎาเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันชายหนุ่มก็ไม่มีเวลามาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนอีกเลยแม้แต่เวลารับโทรศัพท์ก็ยังแทบจะไม่มีเพราะเมื่ออยู่ที่ทำงานเขาก็จะรีบทำงานให้เต็มที่เพราะต้องการรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาและถ้ายิ่งเวลาอยู่บ้านเขาแทบจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเวลาเขากับภรรยาได้
ยุทธมาหาเพื่อนที่ทำงานในครั้งนี้ความจริงแล้วเขามีเรื่องบางอย่างจะมาพูดให้ภูริดลได้รู้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพิรฎาแต่เขาเองไม่มั่นใจว่าควรจะพูดมันดีไหมแต่จากที่ได้ลองพูดคุยกันถึงภรรยารับจ้างของเพื่อนยุทธก็เปลี่ยนใจเก็บทุกอย่างเป็นความลับที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้เพราะดูแล้วเพื่อนของเขาน่าจะกำลังตกหลุมรักภรรยารับจ้างของตัวเอง
“แกมาหาฉันเพียงเพราะเหงาแค่นั้นหรือไงวะยุทธ”
แขกกำลังจะลากลับท่านประธานบริษัทจึงถามด้วยความแปลกใจเพราะคิดว่าการที่เพื่อนเดินทางมาหาเขาถึงที่บริษัทน่าจะต้องมีเรื่องสำคัญแต่พูดคุยกันมาเกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นจะว่าอะไรนอกจากพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบโดยเฉพาะเรื่องของภรรยารับจ้างเท่านั้น
“ไม่มีอะไรก็แค่คิดถึงเห็นแกกับพิมพ์อยู่ด้วยกันได้ก็สบายใจแล้วแล้วก็อย่าเผลอตัวไปรับภรรยารับจ้างของแกเข้าล่ะฉันไม่อยากมานั่งเช็ดน้ำตาให้”
ภูริดลจากที่ไม่รู้สึกสงสัยอะไรพอเริ่มเห็นแววตาและคำพูดส่งท้ายของเพื่อนเขาเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามเพราะตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเสียงหัวใจของตัวเองตอนนี้มันคิดกับหญิงสาวที่เขาหลับตานอนและตื่นขึ้นมาเจอในทุกวันอย่างไร
คนกำความลับเดินออกจากห้องของเพื่อนสนิทด้วยความรู้สึกที่เป็นกังวลเพราะความจริงที่เขารู้มาพิรฎาโกหกข้อมูลของเธอทุกอย่างและถ้าวันหนึ่งที่เรื่องราวพัฒนาไปมากขึ้นตามสัญญา ทั้งคู่มีลูกด้วยกันยุทธไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหญิงสาวจะยอมยกลูกของเธอให้ใครเพียงเพราะแลกกับเงิน 10 ล้านเพราะ ความจริงแล้วพิรฎาก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยไม่น้อยไปกว่าเพื่อนของเขาเลยและถ้าเวลานั้นภูริดลตกหลุมรักภรรยาของเขาเข้าเต็มหัวใจและอีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นคนเป็นเพื่อนไม่อยากจะคิดว่าชายหนุ่มที่คิดมาตลอดว่าจะไม่มีครอบครัวจะกลายเป็นคนที่คลั่งกับความรักได้ถึงขนาดไหน
ตอนที่ 7เมื่อความผูกพันมันก่อตัว“ผมขอบัวลอยเพิ่มอีกสักถ้วยนะครับ” ทุกคนในโต๊ะอาหารต่างหันไปมองคนพูดด้วยความตกใจเพราะนับตั้งแต่นารีเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะแม่เลี้ยงของ ภูริดลชายหนุ่มแทบจะไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอแต่วันนี้เขากลับขอบัวลอยเพื่อทั้งที่มันคือฝีมือของนารีซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มแทบจะ ไม่ยอมแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ “ที่ทำงานเป็นอย่างไรบ้างลูก” บารมีเห็นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นเขาจึงหาเรื่องชวนลูกชายคุยเกี่ยวกับงานบริษัทที่เขาวางมือให้ลูกชายเป็นคนสานต่อส่วนตัวเขาเองเป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาใหญ่คอยให้คำแนะนำในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น ระหว่างพ่อลูกกำลังพูดคุยกันพิรฎาก็ลุกขึ้นไปช่วยนารีเตรียมขนมหวานให้กับคนทั้งคู่อีกรอบเพราะขนมบัวลอยฝีมือนารีมีทั้งความอร่อยและกลิ่นหอมจึงทำให้สองพ่อลูกค้าเติมกันอีกเรื่อยๆ ช่วงระยะเวลาที่ผู้ชายทั้ง 2 คนออกไปทำงานข้างนอกสองหญิงที่อยู่ในบ้านจึงมีเวลาได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมพิรฎามองเห็นความดีในตัวของนารีและความจริงใจที่เริ่มชัดเจนออกมาทุกวัน เธอพยายามทำให้
ตอนที่ 8อะไรคือความจริง“ว้าย ! ” สิ้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจพิรฎาก็มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีสามีคอยยืนอยู่ข้างๆ “คุณปลอดภัยแล้วนะ” ภูริดลจับมือภรรยามากอดแน่นรอยยิ้มของเขามันดูมีความสุขมากกว่าการที่เห็นภรรยาลืมตาฟื้นขึ้นมาจนคนป่วยส่งสายตาเป็นคำถามให้อีกฝ่ายอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณกับลูกปลอดภัยดี” ชายหนุ่มบอกข่าวดีแก่ภรรยาที่มันเหมือนสายฟ้าฟาดลงไปกลางหัวใจของคนที่ตั้งใจจะสารภาพความจริงทุกอย่างภายในวันนี้จากที่ชีวิตของเธอมีแค่เพียงตัวคนเดียวตัดสินใจจะทำอะไรก็ยากเย็นมากพออยู่แล้วพอมารู้ข่าวที่ควรจะเป็นข่าวดีแต่มันกลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสั่นไหววูบวาบไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตที่ต่อไปนี้เพราะเธอกำลังจะเป็นแม่คน “ฉันท้องหรอคะ” “ใช่ เรากำลังจะมีลูกด้วยกันนะ” ภูริดลพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างในหัวใจเหมือนกันเพราะในสัญญาเขียนบอกไว้ว่าทันทีที่หญิงสาวคลอดลูกออกมาสัญญาจะจบลงทันทีชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยว่าพิรฎาจะไปจากเขาทันทีหรือไม่เพราะถึงเวลานั้นเธอมีอิสระเต็มตัวแล้ว คุณหมอตรวจดูอ
ตอนที่ 9ภรรยาไม่รับจ้างพิรฎาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เธอคิดว่ามันคือความอบอุ่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนเข้มแข็งจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ทันทีที่เธอเหยียบเท้าเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เธอตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับอภิรดีทันทีวันนี้เธอจะเอาทุกอย่างคืน“คุณพ่อพิมพ์กลับมาแล้ว”สาวน้อยเปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปก้มกราบบิดาทันทีเวลานี้พระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าอภิรดียังคงไม่ตื่นนอน 2 คนเพ่อลุกจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน“พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อต้องเป็นห่วงคุณพ่อรู้แล้วใช่ไหมว่าอีนั่นมัน….”คนเป็นพ่อใช้ฝ่ามือปิดปากของลูกเพราะไม่ต้องการให้ หญิงสาวพูดอะไรออกมาอีกแล้วเวลานี้นิรุตรู้ความจริงหมดแล้ว ทุกอย่างว่าภรรยาที่เขาคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีดูแลลูกสาวเขามาตลอดแท้ที่จริงเธอคืออสรพิษที่สูบเงินของเขาโยกย้ายเข้าไปบัญชีส่วนตัวของเธอจนเวลานี้บริษัทของเขาแทบจะยืนอยู่ไม่ได้โชคยังดีที่กรรมการบริหารคนอื่นของบริษัทยังคงเข้มแข็ง“พิมพ์จะเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อฟังค่ะ”ครั้งแรกที่สองคนพ่อลูกเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั
ตอนที่1เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว “พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้” มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร “ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย” มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง “วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่ง
ตอนที่ 2เลขาส่วนตัว มิตาเรียนจบเธอก็ได้ตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธาวินทันที งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยสำหรับคนที่จบทางด้านภาษามาอย่างมิตา เธอต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดาราต้องเริ่มสอนทีละงานที่คิดว่ามิตาจะสามารถทำได้ “เหนื่อยไหมวันนี้ วันแรกของการเป็นเลขาพี่” ธาวินหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้ท่าทางของมิตาเหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ง่วงมากเลยค่ะ ช่วงบ่ายมิตาแอบหลับด้วยเวียนหัวกับตัวหนังสือ มันเยอะไปหมด สงสารคุณดาราเลยลูกอ่อนแล้วยังต้องมาทำงานหนักแบบนี้” “ถ้าสงสารก็รีบเรียนรู้ คุณดาราเธอจะได้มีเวลาให้กับลูกมากขึ้น” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย คนตัวเล็กหลับแล้ว ธาวินไม่รู้จะคุยกับใครทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่บิดาเรียกเขาไปคุยเมื่อสองวันก่อน อดิสรณ์พูดกับลูกชายเรื่องของการมีทายาทสืบสกุลเพราะตัวอดิสรณ์ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเขาก็ดันมีธาวินเพียงคนเดียวอีก ถ้าธาวินไม่มีลูกก็เท่ากับว่าตระกูลของเขาจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ กิจการต่าง ๆ ที่ทำไว้สร้างมาด้วยน้ำพักน
ตอนที่ 3บีบ ธาวินกับมิตากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว บ้านหลังใหญ่เปิดไฟอยู่เกือบทุกดวง แม่บ้านพากันมานั่งอยู่กลางบ้านเหมือนกำลังรออะไรกันสักอย่าง “คุณธาวินคุณท่านอยู่ดี ๆ ก็หายใจติดขัด ปากเบี้ยว คุณวิภาพาส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ” แม่บ้านที่อายุมากที่สุดและอยู่รับใช้ครอบครัวนี้มานานทำหน้าที่รายงานเจ้านายตัวน้อยของเธอ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครโทรศัพท์บอกผมเลย” “ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว พวกเราก็รอฟังข่าวคุณวิภาก็ไม่เห็นโทรกลับมา คุณาวินรีบตามไปนะคะและส่งข่าวให้พวกเรารู้บ้าง จะได้หายห่วงกัน” ธาวินและมิตารีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ชายหนุ่ม ไม่ยอมให้มิตาโทรศัพท์ไปถามมารดาของเธอ เพราะเขาอยากไปรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ธาวินกลัวว่าถ้าบิดาอาการไม่ดีตัวเขาเองจะแย่ไปอีกคน โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านจึงใช้เวลาไม่นานและตอนนี้ดึกแล้วถนนค่อนข้างโล่ง มิตาวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังวิ่งนำเธอเพื่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อถามว่าตอนนี้บิดาของเขาอยู่ที่ไหน “คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะตอนนี้” ธาวินได้คำตอบก็รีบวิ่งตรงไ
ตอนที่ 4เต็มใจ อดิสรณ์ใช้เวลารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ สองสัปดาห์เพราะความดันยังไม่ลดลง บางวันยังมีสูงอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือเขาจะกลืนอาหารลำบากและพูดลิ้นแข็ง จึงต้องอาศัยกำลังใจและคนดูแลอย่างใกล้ชิด วิภา ธาวิน และมิตาจึงเริ่มคุยเรื่องของธาวินและมิตาที่ตกลงจะแต่งงานกันเพราะต้องการรีบมีทายาทให้กับคนเป็นพ่อที่เริ่มป่วยและการมีหลานไว้สืบสกุลคงทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น วิภาเป็นห่วงว่าถ้าอดิสรณ์รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง เขาอาจจะไม่ยอม “ความจริงน้าก็ไม่ได้เห็นด้วยนะคุณวินแต่ในเมื่อตัดสินใจกันแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมาทัดทานกัน เพียงแต่ว่าน้าเป็นห่วง ถ้าคุณอดิสรณ์รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพียงเพราะต้องการมีทายาทตามที่ท่านต้องการ ท่านคงไม่ยอม” วันนี้วิภาได้กลับบ้านมาพักแล้วไปเฝ้าสามีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอจึงถือโอกาสคุยกับทั้งสองคน ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกนำไปบอก คนป่วย ธาวินทำท่าคิดตามคำที่แม่เลี้ยงพูด เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าอยากจะบอกความจริงทุกอย่างเท่านั้น “แล้วคุณน้าคิดว่าเราควรจะบอกคุณพ่
ตอนที่ 5เกือบล่ม งานแต่งงานเตรียมทุกอย่างไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนนี้อดิสรณ์เองก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาเดินได้คล่องเหมือนปกติถึงแม้ขาข้างขวาจะอ่อนแรงลงแต่เรื่องของการกลืนและการพูดดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม “วิภางานแต่งงานของเด็ก ๆ เขาถึงไหนกันแล้ว” คนเป็นพ่อถึงร่างกายจะไม่แข็งแรงแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นงานแต่งงาน ของลูกชายเพียงคนเดียวของเขา “คุณวินเก่งมากเลยค่ะ จัดแจงทุกอย่างเองหมด มิตาก็มาบ่น ๆ อยู่ว่าหมดเงินไปเยอะห้ามก็ไม่ได้ คุณวินเขาบอกว่า&n
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ