ตอนที่1
เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว
“พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้”
มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน
ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร
“ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย”
มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร
หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า
ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง
“วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่งเพราะหยุดมาหลายปีแต่พอไปถึงรู้ไหมพี่เจอใคร”
คนเล่าหยุดพูดมิตาหันหน้าไปหาเพื่อรอฟังคำตอบ ธาวินกลืนน้ำลายลงคอทำให้มิตาพอเดาได้ว่าคงเป็นแฟนเก่าของเขาแน่ ๆ
“ลุลามาวิ่งกับปราชญ์ ทั้งคู่ทำเหมือนไม่เคยรู้จักพี่มาก่อน กางเกงที่ลุลาใส่ก็เป็นกางเกงสำหรับใส่วิ่งที่พี่ซื้อให้ ”
ธาวินหยุดเล่า เขาแหงนหน้ามองฟ้าท่าทางของชายหนุ่มตอนนี้ถ้าใครมาเห็นคงคิดว่าเขาเพิ่งอกหักมา ทั้งที่ความจริงลุลาแฟนสาวที่เขาคบมาตั้งแต่อายุสิบหกได้สวมเขาให้ธาวินและเลือกผู้ชายคนใหม่เมื่อถูกจับได้ ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นไกลคือ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา เหตุการณ์มันผ่านมาถึงสามปีแล้วแต่ทุกครั้งที่ชายหนุ่มไปเจอทั้งคู่มา เขาจะกลับมาเศร้าแบบนี้เสมอเหมือนว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้น
“พี่วินคะ บางเรื่องเราก็ควรจะลืมเพราะมันไม่ได้ทำให้เรามีความสุขและทุกครั้งที่พี่มานั่งทุกข์แบบนี้ สองคนนั้นเขาก็ไม่ได้มารับรู้ด้วย พี่วินเสียคนที่ไม่ได้รักพี่ไปแต่ยังมีคนที่รักพี่อยู่รอบตัวที่พี่ลืมพวกเขาไปนะคะ”
มิตาหมายถึงเธอด้วยในหนึ่งคนที่แอบรักพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้มานานแสนนาน แม่ของมิตาเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงของธาวินตั้งแต่มิตาอายุได้เพียงแค่สิบปีแต่ตอนนั้นธาวินก็เริ่มเป็นหนุ่มแล้วกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
มารดาของชายหนุ่มทิ้งเขากับอดิสรณ์ผู้เป็นพ่อไปตั้งแต่ ธาวินอายุได้เพียงแค่สิบปี ด้วยเหตุผลว่าช่วงนั้นธุรกิจของพ่อเขากำลังแย่ มีหนี้สินจำนวนมากและเพื่อนสนิทของอดิสรณ์ก็แอบแทงข้างหลังมานาน จนเมื่อมารดาของธาวินทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว จึงหนีไปกับเพื่อนของสามีและทิ้งลูกชายเพียงคนเดียวไปอย่างเลือดเย็น
“พี่ก็อยากลืม ลืมทุกเรื่องทั้งเรื่องของแม่และลุลาแต่ทำไมมันยิ่งจำก็ไม่รู้”
“แม่ของมิตาเคยเล่าให้ฟังค่ะ ว่าตอนที่พ่อทิ้งแม่ไปมี เมียน้อย แม่เจ็บมากและคิดว่าชีวิตนี้จะอยู่โดยไม่มีพ่อไม่ได้ วันหนึ่งพ่อยื่นคำขาดให้เราสองคนย้ายออกจากบ้านแม่ก็ยังหาเหตุผลต่าง ๆ มาแก้ตัวแทนพ่อหลอกตัวเองไปวัน ๆ จนวันที่แม่มีพ่อของพี่วินเข้ามา แม่จึงได้รู้ว่าเราสามารถมีความรักได้หลายครั้ง ดังนั้นเราไม่ควรทนอยู่กับคนที่เขาไม่ได้รักเราแล้ว”
ธาวินหันมามองหน้ามิตาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจว่าเด็กสาว รุ่นน้องต้องการจะบอกอะไรกับเขา
“พี่ไม่เข้าใจ ตอนนี้อย่าพูดอะไรให้พี่ต้องคิดเลย สมองมันตันไปหมดแล้ว”
“มิตาคิดว่าถ้าพี่วินเปิดใจให้กับใครสักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจของพี่ มิตาเชื่อว่าพี่จะลืมทั้งเรื่องของแม่พี่และพี่ลุลาแน่นอนค่ะ”
ธาวินใช้ขาเตะน้ำอย่างแรงจนน้ำกระเด็นโดนคนทั้งคู่เหมือนเขากำลังอยากระบายอารมณ์บางอย่าง
“มันยังจะมีอีกเหรอผู้หญิงดี ๆ สู้เจ็บเพราะไม่ลืมดีกว่าต้องไปเจอคนใหม่มาซ้ำแผลเก่าดีกว่า มิตาพี่ว่าเธอฟังพ่อพี่มากเกินไป เจอหน้าก็เฝ้าแต่อยากจะให้พี่มีแฟน เฝ้าแต่พูดถึงแต่เรื่องที่ตระกูลวชิระบารมีจะไม่มีใครสืบทอด ไม่คิดถึงความรู้สึกของพี่บ้างเลย”
หญิงสาวนั่งเงียบเพราะคิดว่าตอนนี้ เธอพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์เพราะอีกฝ่ายกำลังอารมณ์ร้อนอยู่
“เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า พี่ไม่อยากได้ยินเรื่องความรักอีกแล้ว เรามาคุยเรื่องของเธอกันดีกว่า เดือนหน้าก็เรียนจบแล้วคิดหรือยังจะเรียนต่อหรือทำงานเลย”
มิตาเปลี่ยนเรื่องคิดไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายเล่นหันมาถามเกี่ยวกับตัวเธอ
“พี่วินเปลี่ยนเรื่องเร็ว มิตาคิดไม่ทันเลยแต่ที่คิดไว้ก็คงทำงานเลยค่ะ เกรงใจคุณลุงส่งเสียมาหลายปีแล้ว”
อดิสรณ์ส่งเสียให้มิตาได้เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุดตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ความใจดีและจริงใจของวิภามารดา ของหญิงสาวทำให้ธาวินไม่เคยคิดรังเกียจแม่เลี้ยงของเขาเลย กลับรู้สึกว่าการเข้ามาอยู่ในครอบครัวเขาของวิภา ทำให้บ้านดูอบอุ่นขึ้นและเขายังได้มิตามาเป็นน้องสาวเพิ่มอีกหนึ่งคน
“ทำงานก่อนก็ดี เพราะพี่ว่าเราก็มีบริษัทเป็นของครอบครัวเราไม่จำเป็นต้องรีบเรียนต่อ เรียนรู้งานไปก่อนจะได้รู้ว่าจะไปเรียนต่อสาขาไหนดี เอาแบบนี้เรียนจบแล้วมาเป็นเลขาส่วนตัวของพี่แล้วกัน”
“แต่พี่วินมีเลขาอยู่แล้วนะคะ”
มิตาไม่อยากรู้สึกว่าการที่ตัวเองเป็นลูกเลี้ยงของเจ้าของบริษัทและจะสามารถทำงานตำแหน่งไหนก็ได้ทั้งที่เขามีคนเก่าทำอยู่และทำได้ดีมาก ๆ
“พี่วินมีเลขาอยู่แล้ว มิตาไม่เอานะคะไม่อยากให้คนอื่นเขามาว่าเป็นเด็กเส้น”
ธาวินยกมือหนามาเขย่าศีรษะน้องสาวอย่างเอ็นดูในความคิดของเธอ
“ใครบอก คุณดาราเธอก็เป็นเลขาของพี่เหมือนเดิม นั่นแหละ เพียงแต่พี่คิดว่าคุณดาราเขากำลังมีลูกเล็กเวลาพี่ต้อง ออกงานข้างนอกบางครั้งก็กลับดึกแถมบางทีงานเยอะเธอก็ต้องขนไปทำที่บ้านพี่เห็นแล้วสงสาร จึงอยากจะเอามิตาไปช่วยคุณดาราเธออีกที”
หญิงสาวได้ยินแบบนี้ก็ค่อยสบายใจขึ้น เพราะเธอก็เคยคิดแอบสงสารเลขาของธาวินอยู่ที่เพิ่งคลอดลูกได้ไม่กี่เดือน เธอกลับ ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวเลย
“ตกลงค่ะ ค่อยสบายใจหน่อยแต่มิตาไม่ได้เรียนทางนี้มา สงสัยต้องให้คุณดาราสอนงานอีกมากกว่าจะทำเป็น”
ทั้งคู่เป็นอันว่าคุยกันสนุกขึ้นเมื่อได้เปลี่ยนเรื่องคุย แต่เมฆดำบนฟ้าก็ดันมาเป็นอุปสรรคเพราะตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดแล้วทั้งคู่จึงรีบวิ่งแยกย้ายกันเข้าบ้านเพราะต่างก็กลัวเปียกและกลัวเสียงฟ้าร้องด้วย
ตอนที่ 2เลขาส่วนตัว มิตาเรียนจบเธอก็ได้ตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธาวินทันที งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยสำหรับคนที่จบทางด้านภาษามาอย่างมิตา เธอต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดาราต้องเริ่มสอนทีละงานที่คิดว่ามิตาจะสามารถทำได้ “เหนื่อยไหมวันนี้ วันแรกของการเป็นเลขาพี่” ธาวินหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้ท่าทางของมิตาเหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ง่วงมากเลยค่ะ ช่วงบ่ายมิตาแอบหลับด้วยเวียนหัวกับตัวหนังสือ มันเยอะไปหมด สงสารคุณดาราเลยลูกอ่อนแล้วยังต้องมาทำงานหนักแบบนี้” “ถ้าสงสารก็รีบเรียนรู้ คุณดาราเธอจะได้มีเวลาให้กับลูกมากขึ้น” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย คนตัวเล็กหลับแล้ว ธาวินไม่รู้จะคุยกับใครทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่บิดาเรียกเขาไปคุยเมื่อสองวันก่อน อดิสรณ์พูดกับลูกชายเรื่องของการมีทายาทสืบสกุลเพราะตัวอดิสรณ์ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเขาก็ดันมีธาวินเพียงคนเดียวอีก ถ้าธาวินไม่มีลูกก็เท่ากับว่าตระกูลของเขาจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ กิจการต่าง ๆ ที่ทำไว้สร้างมาด้วยน้ำพักน
ตอนที่ 3บีบ ธาวินกับมิตากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว บ้านหลังใหญ่เปิดไฟอยู่เกือบทุกดวง แม่บ้านพากันมานั่งอยู่กลางบ้านเหมือนกำลังรออะไรกันสักอย่าง “คุณธาวินคุณท่านอยู่ดี ๆ ก็หายใจติดขัด ปากเบี้ยว คุณวิภาพาส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ” แม่บ้านที่อายุมากที่สุดและอยู่รับใช้ครอบครัวนี้มานานทำหน้าที่รายงานเจ้านายตัวน้อยของเธอ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครโทรศัพท์บอกผมเลย” “ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว พวกเราก็รอฟังข่าวคุณวิภาก็ไม่เห็นโทรกลับมา คุณาวินรีบตามไปนะคะและส่งข่าวให้พวกเรารู้บ้าง จะได้หายห่วงกัน” ธาวินและมิตารีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ชายหนุ่ม ไม่ยอมให้มิตาโทรศัพท์ไปถามมารดาของเธอ เพราะเขาอยากไปรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ธาวินกลัวว่าถ้าบิดาอาการไม่ดีตัวเขาเองจะแย่ไปอีกคน โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านจึงใช้เวลาไม่นานและตอนนี้ดึกแล้วถนนค่อนข้างโล่ง มิตาวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังวิ่งนำเธอเพื่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อถามว่าตอนนี้บิดาของเขาอยู่ที่ไหน “คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะตอนนี้” ธาวินได้คำตอบก็รีบวิ่งตรงไ
ตอนที่ 4เต็มใจ อดิสรณ์ใช้เวลารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ สองสัปดาห์เพราะความดันยังไม่ลดลง บางวันยังมีสูงอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือเขาจะกลืนอาหารลำบากและพูดลิ้นแข็ง จึงต้องอาศัยกำลังใจและคนดูแลอย่างใกล้ชิด วิภา ธาวิน และมิตาจึงเริ่มคุยเรื่องของธาวินและมิตาที่ตกลงจะแต่งงานกันเพราะต้องการรีบมีทายาทให้กับคนเป็นพ่อที่เริ่มป่วยและการมีหลานไว้สืบสกุลคงทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น วิภาเป็นห่วงว่าถ้าอดิสรณ์รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง เขาอาจจะไม่ยอม “ความจริงน้าก็ไม่ได้เห็นด้วยนะคุณวินแต่ในเมื่อตัดสินใจกันแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมาทัดทานกัน เพียงแต่ว่าน้าเป็นห่วง ถ้าคุณอดิสรณ์รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพียงเพราะต้องการมีทายาทตามที่ท่านต้องการ ท่านคงไม่ยอม” วันนี้วิภาได้กลับบ้านมาพักแล้วไปเฝ้าสามีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอจึงถือโอกาสคุยกับทั้งสองคน ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกนำไปบอก คนป่วย ธาวินทำท่าคิดตามคำที่แม่เลี้ยงพูด เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าอยากจะบอกความจริงทุกอย่างเท่านั้น “แล้วคุณน้าคิดว่าเราควรจะบอกคุณพ่
ตอนที่ 5เกือบล่ม งานแต่งงานเตรียมทุกอย่างไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนนี้อดิสรณ์เองก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาเดินได้คล่องเหมือนปกติถึงแม้ขาข้างขวาจะอ่อนแรงลงแต่เรื่องของการกลืนและการพูดดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม “วิภางานแต่งงานของเด็ก ๆ เขาถึงไหนกันแล้ว” คนเป็นพ่อถึงร่างกายจะไม่แข็งแรงแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นงานแต่งงาน ของลูกชายเพียงคนเดียวของเขา “คุณวินเก่งมากเลยค่ะ จัดแจงทุกอย่างเองหมด มิตาก็มาบ่น ๆ อยู่ว่าหมดเงินไปเยอะห้ามก็ไม่ได้ คุณวินเขาบอกว่า&n
ตอนที่ 6หวงหรือห่วง ธาวินกลับขึ้นไปนอนคิดถึงคำพูดของมิตาทั้งคืน เขาไม่รู้เหมือนกันในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้รักเธอและตอนนี้เธอกับเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานกันแล้วทำไมเขาถึงต้องไปรู้สึกไม่พอใจจนพูดจาแบบนั้นทำไม คำว่าหวงกับห่วงชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหนกันแน่เพราะถ้าเขาห่วงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ถ้าหวงนั่นหมายความว่าเขากำลังรู้สึกอะไรกับอนาคตเจ้าสาวเข้าแล้ว “วินแกจะไม่รักใครอีกแล้วเข้าใจไหม” ชายหนุ่มขยี้ผมเหมือนต้องการระบายอารมณ์เมื่อเขาพูดกับตัวเองอยู่คนเดียวบนเตียงนอน มิตาเธอทั้งโกรธทั้งดีใจ หัวใจของเธอมันกำลังเข้าข้างตัวเองมันบอกว่าธาวินกำลังหวงและหึงเธอ&n
ตอนที่ 7คืนหวาน มิตาออกมาจากห้องน้ำก่อนที่ธาวินจะหมดความอดทน เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดชายหนุ่มจึงแกล้งหลับตาทำเหมือนว่าเขาทนรอไม่ไหวหลับไปแล้ว มิตามองมาที่เจ้าบ่าวของเธอพร้องกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจที่คืนนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะธาวินหลับไปแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนและพยายามห่มผ้าให้เบาและนุ่มนวลที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ทันทีที่หญิงสาวหลับตาโคมไฟหัวเตียงก็ถูกปิด ร่างสูงที่ ตอนแรกนอนนิ่งตอนนี้ขึ้นมาอยู่บนตัวของหญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอจึงสะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ “มิตาคิดว่าพี่วินหลับแล้ว”&
ตอนที่ 8ความห่างไกลกับถ่านไฟเก่าสองเดือนผ่านไป ธาวินตัดสินใจที่จะเปิดโครงการใหม่ที่หัวหินเพราะเขากลัวว่าถ้าช้าไปแล้วมิตาเกิดท้องขึ้นมา เขาจะไม่มีเวลาดูแล “อยู่ได้ใช่ไหมพี่ไปห้าวันแล้วจะกลับมาสองวันเพราะช่วงนี้ต้องดูแลการก่อสร้างทิ้งมากลัวมีปัญหา” ธาวินเป็นห่วงกลัวมิตาจะน้อยใจเพราะเขาไม่สามารถเอาเธอไปด้วยได้เพราะงานที่กรุงเทพจะไม่มีคนดู “ได้ค่ะ คอนโดคงไม่สร้างถึงห้าปีหรอกมั้งคะ” ธาวินเดินทางหัวหินกรุงเทพอยู่แบบนี้ได้เกือบสองเดือนแล้วแต่ปัญหามันดันมาเกิดเพราะมิตาดันไปรู้มาว่าลุลาเลิกกับปราชญ์แล้วและตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ที่โรงแรมในหัวหิน
ตอนที่ 9ข่าวดี มิตาเดินทางไปหัวหินทุกครั้งที่ธาวินไปและในที่สุดทั้งคู่ก็ได้เจอกับลุลา “วิน” ถ่านไฟเก่าส่งเสียงเรียกชื่อธาวินมาก่อนตัวเพราะเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจอคนรู้จักที่นี่ “เอ้า! ลุลา” ธาวินทักตอบและเขารีบคว้ามือของมิตามาจับไว้แน่นเพราะกลัวเหลือเกินว่าภรรยาจอมหึงจะเข้าใจผิดอีก ลุลามองมือทั้งคู่ที่จับกันแน่นก่อนที่จะส่งสายตาเป็นคำถามให้อดีตคนรักได้อธิบาย “ตอนนี้วินกับมิตาแต่งงานกันมาได้สักพักแล้ว และลุลาสบายดีไหม”
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ