ตอนที่ 10
ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา
ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน
“ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง”
วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม
“หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน”
ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเองเซ็นอะไรไป ตอนนี้เธอกลัวมาก และคิดว่าตัวเองไม่น่าทำแบบนี้เลย
“ลิตายอมแล้ว ตอนนี้ลิลอยู่ที่บ้านของลิตา”
วายุโทรศัพท์หาอรชรเพื่อฝากให้พี่สะใภ้ดูแลแก้มใส โดยให้เหตุผลว่าเขากับลลิลมีธุระด่วน และชายหนุ่มก็พาลิตาออกจากบ้านก่อนที่อรชรจะมาถึงห้องนอน
ทันทีที่วายุไปถึงที่บ้านของลิตา เขาตะโกนเรียกภรรยาเสียงหลงเหมือนคนกำลังเสียสติ
ลิตาทำอะไรไม่ถูกยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เธอคิดแค่เพียงสนุกไม่คิดเลยว่ามันจะจบแบบนี้
ลลิลเปิดประตูบ้านออกมาด้วยใบหน้าที่บวมไปหมด เพราะเธอนั่งร้องไห้ตั้งแต่บ่ายที่มาถึงร้องไห้จนถึงเวลานี้
“ลิลคุณเป็นอะไรไหม ทำไมคุณทำแบบนี้”
ภาพทั้งสองคนกอดกัน วายุพรหมจูบไปทั่วหน้าของคนในอ้อมกอดเหมือนว่าเขาอยากจะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาแทบใจจะขาดอยู่แล้ว
วายุประคองหญิงสาวที่ตอนนี้เหมือนกำลังจะหมดแรงให้ไปนั่งที่รถก่อนจะขับออกจากบ้านโดยไม่หันมาสนใจลิตาที่ยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่
ชายหนุ่มพาภรรยาไปจอดสงบสติอารมณ์เพราะทั้งตัวเขาเองก็ยังโมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่
ลลิลพยายามตั้งสติ ก่อนจะหันมามองหน้าสามีด้วยสายตาที่เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
“คุณกับพี่ลิตาไม่ได้....”
วายุดึงตัวภรรยามากอด เขาจูบลงไปที่ผมของเธอพร้อมกับ ถอนหายใจอย่างแรง
“ผมบอกแล้วไง ถ้าไม่ใช่คุณใครผมก็ไม่เอา แค่ผมสบตาผมก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เมียผม”
หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอร้องไห้เพราะความโล่งใจ เธอนั่งร้องไห้มาตลอดครึ่งวันที่ถูกสลับตัวเพราะคิดว่าตัวเธอเองต้องมีสามีคนเดียวกับพี่สาวตัวเอง
“ลิลดีขึ้นแล้วค่ะ ลิลขอโทษที่ไม่เข้มแข็งพอที่จะขัดใจพี่ลิตา กลับบ้านกันเถอะค่ะ ลิลคิดถึงแก้มใส”
อรชรอุ้มหลานสาวไปนอนที่ห้องของเธอ วายุจึงเดินไปรับแก้มใสและเด็กน้อยก็สะดุ้งตื่นร้องไห้เสียงดังจนอนุสรณ์เองต้องเดินจากห้องนอนมาดู
“มันอะไรกัน พ่อได้ยินเสียงรถขับออกไป แล้วนี่แก้มใสร้องไห้ทำไมกัน”
“ผมกับลิลทะเลาะกันนิดหน่อยครับ ก็เลยขับรถออกไปคุยกันข้างนอก ฝากลูกไว้กับพี่อรพอมารับลูกก็เลยตื่น”
ลลิลรีบวิ่งมารับลูกสาวไปกอด พอได้อกอุ่นของแม่ที่คุ้นเคยเด็กน้อยก็หลับต่อทั้งที่ยังสะอึกสะอื้นไม่หาย
“ทำอะไรก็คิดกันให้ดี ๆ ลูกเสียขวัญหมด เรามันโตกว่าเมียคิดให้มาก ๆ พ่อไปนอนแล้วนะ แล้วทีหลังอย่าทิ้งลูกแบบนี้อีก”
ชายหนุ่มได้แต่ทำท่ายอมรับผิด เพราะเขาไม่สามารถที่จะอธิบายความจริงได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ลิตาหายไปจากชีวิตของลลิลเกือบเดือนก่อนที่เธอจะตัดสินใจโทรศัพท์มาขอโทษน้องสาว เพราะเธอตัดสินใจจะกลับไปอยู่ที่อเมริกา เพราะอยู่เมืองไทยเธอก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว
ลลิลเธอไม่อยากให้พี่สาวไปแต่เธอก็รู้ว่าความจริงเธอก็ไม่อาจทำให้ลิตามีตัวตนในชีวิตเธอได้และตอนนี้เธอก็เลือกความรู้สึกและชีวิตของแก้มใสก่อนทุกอย่าง
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะพี่ ลิลรักพี่นะแล้วก็ไม่เคยโกรธพี่ด้วย ถ้าเหงาก็กลับมาอยู่บ้านเมืองเรานะพี่”
สองพี่น้องร่ำลากัน ก่อนที่ลิตาจะวางสายไปและเธอก็เดินทางไปอเมริกา นาน ๆ ทีถึงจะติดต่อกลับมาหาลลิล แต่น้องสาวก็คอยส่งรูปของแก้มใสไปให้พี่สาวดูโดยตลอด
ครอบครัวของวายุกลับมามีความสุขอีกครั้ง และครั้งนี้ โซ่น้อยคล้องใจแม่กับพ่อไว้เป็นหนึ่งเดียวด้วยความรักที่ทั้งสามคนมีให้กัน
วรพลก็ได้รับกรรมของเขาไป ขวัญสุดาคลอดลูกมาเธอก็ให้แต่สามีเป็นคนเลี้ยง เธอกดขี่วรพลจนแทบจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร
ลลิลเธอมอบหัวใจทั้งดวงให้กับวายุโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เธอรู้แล้วว่า ชายหนุ่มรักเธอจากหัวใจจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพียงรั้งเธอไว้เพราะต้องการแก้มใส
“ขอบคุณที่คุณทำให้ลิลรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงมันคืออะไร ลิลสัญญาว่าจะรักและจะอยู่กับคุณแบบนี้ไปตลอดชีวิต”
งานแต่งงานของลลิลกับวายุถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อแก้มใสอายุได้ขวบครึ่ง
วายุทำตามสัญญาทุกอย่างที่เขาเคยให้ไว้ ลลิลได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามประเพณี ความสุขครั้งนี้หญิงสาวอยากให้มารดาของเธอได้มีโอกาสได้อยู่รับรู้แต่ในเมื่อมารดาของเธอไม่อยู่แล้ว เธอจึงส่งภาพในงานส่งไปให้พี่สาวของเธอดูและลลิลจึงได้รู้ว่า ลิตาเองก็แต่งงานใหม่เหมือนกัน
สาวน้อยแก้มใสเติบโตมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่นอนุสรณ์ ก็วางมือให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ทั้งสองคนดูแลบริษัท ส่วนเขาก็ทำหน้าที่เป็นคุณปู่อยู่บ้านคอยดูแลหลานสาวทั้งสองคนเวลาที่กลับจากโรงเรียน
จบบริบูรณ์
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ