ตอนที่ 3
สะใภ้รับจ้าง
“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง”
ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน
“พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง”
หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด
“ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเพราะถ้าคุณพ่อของคุณถามขึ้นมาฉันกลัวจะตอบไม่ได้และมันก็จะไม่ใช่ความผิดของฉันเพราะคุณเองไม่เคยบอก”
ชายหนุ่มเล่าเรื่องราวความจริงของชีวิตของเขาเริ่มตั้งแต่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงสาเหตุที่ท่านต้องจากไป นารีแม่เลี้ยงที่ภูริดลสวมแว่นตามองอีกฝ่ายแต่ในแง่ร้ายถูกชายหนุ่มเล่าให้ หญิงสาวฟัง เขาคิดว่าสาเหตุที่บิดาเอาเรื่องอยากให้เขามีครอบครัวมาข่มขู่ในเรื่องของการโอนทรัพย์สินมรดกน่าจะเป็นแผนการของนารีที่รู้อยู่แล้วว่าเขาคงไม่มีทางมีครอบครัวเธอจึงหวังจะได้สมบัติทั้งหมด
“คุณคิดมากไปหรือเปล่าถ้าเขาต้องการสมบัติจากพ่อคุณจริง ๆ ไม่เห็นต้องยั่วยุใช้เหตุผลอื่นเลยเพราะแค่ในฐานะภรรยาเขาก็สามารถได้สมบัติตามสิทธิ์อยู่แล้ว”
พิมรดาไม่เห็นด้วยกับความคิดของภูริดลตั้งแต่วันแรกที่เธอได้ยินเรื่องราวนี้แต่ก็เสนอความคิดไปเพียงแค่ครั้งเดียวก็ถูกอีกฝ่ายส่งสายตาไม่พอใจมองมาทันที เธอจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำเพราะความจริงแล้วเรื่องนี้เธอเองก็ไม่สามารถตัดสินอะไรได้เพราะเธอยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เจอคนทั้งคู่
“ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละฉันคงไม่รู้หรอกว่าใครเป็นอย่างไรเพราะบางครั้งตัวฉันเองยังรู้จักตัวเองได้ไม่ดีด้วยซ้ำ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่เลือกฉัน”
“เธอหมายความว่าอย่างไร” คนขับหันมามองด้วยความสงสัย
“พูดตรง ๆ เลยนะฉันไม่ค่อยชอบพูดอ้อม เราสองคนต้องมีอะไรกันทั้ง ๆ ที่คุณกับฉันเคยเจอกันแค่ 2 ครั้งเท่านั้นคุณคิดว่าเราจะนอนด้วยกันได้ด้วยหรอ”
ชายหนุ่มอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เขาเริ่มเชื่อแล้วว่าหญิงสาวท่าทางก๋ากั่นที่นั่งมาข้าง ๆ กับเขาแท้ที่จริงแล้วเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยกว่าอายุจริง หญิงสาวคงคิดว่าการที่ผู้หญิงกับผู้ชายจะสามารถมีอะไรกันได้มันต้องเกิดจากความรักมาก่อนทั้งที่ความจริงผู้ชายอย่างเขารู้ดีว่าเรื่องบนเตียงกับเรื่องของหัวใจบางครั้งมันก็เป็นคนละเรื่อง ผู้ชายหลายคนสามารถมีอะไรกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลยได้เพียงแค่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศมันเป็นเรื่องของความรู้สึกทางร่างกาย ที่ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกทางจิตใจ
“ผู้หญิงและผู้ชายถูกสร้างให้มาคู่กันอยู่แล้วเธอไม่เห็นในหนังสือพระเอกกับนางเอกบางเรื่องก็ไม่ได้รักกันเขาก็ยังสร้างมาให้นอนด้วยกันได้ ตอนแรกที่ผมเห็นคุณผมคิดว่าคุณจะมีประสบการณ์เรื่องนี้มาพอสมควรถึงแม้จะยังบริสุทธิ์อยู่แต่พอฟังคุณถามแบบนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าผมกำลังหลอกเด็กอยู่หรือเปล่า”
พิรฎาเริ่มรู้สึกอายเมื่อถูกอีกฝ่ายเริ่มจับพิรุธได้ว่าความจริงแล้วถึงเธอจะพยายามทำปากเก่งทำเหมือนคนที่มีความกล้าในเรื่องที่เธอตัดสินใจทำแต่ความจริงหัวใจของเธอตอนนี้มันร้อนหนาวไปหมดเพราะตั้งแต่เกิดมาแค่ผู้ชายจับมือยังแทบจะไม่เคยแต่ที่เธอตัดสินใจจะทำแบบนี้ก็เพียงหวังจะประชดคนที่เป็นบิดาให้เห็นว่าเธอเองไม่ใช่ลูกสาวที่ดีอีกต่อไป
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ผม เธอเป็นเพียงแค่ภรรยาใหม่ของคุณพ่อเท่านั้น”
ภูริดลพูดแทรกขึ้นมาจนหญิงสาวที่กำลังตื่นเต้นรู้สึกกลัวว่าจะถูกจับพิรุธได้ยิ่งพลอยตกใจมือไม้สั่นเข้าไปใหญ่
“เรียกฉันว่าคุณน้าก็ได้ค่ะ”
นารีส่งยิ้มแบบเข้าใจเพราะเธอมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังมีแววตาหวาดกลัวและตื่นเต้นในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอคิดว่าพิรฎาคงกำลังรู้สึกกังวลกับครอบครัวใหม่ที่เธอต้องเข้ามาอยู่ด้วยและยังจะเจอสามีที่ดูจะบังคับทุกอย่างอีก
“ไหนเล่าเรื่องราวของเธอมาซิเป็นไงมาไงถึงได้มาเป็นภรรยาของดลได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกชายของฉันไม่เคยเล่าเลยว่ามีแฟนฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้ถูกจ้างมา”
“พิมพ์เป็นเพียงแค่นักศึกษาเคยมีโอกาสได้เจอกับคุณดลเพราะว่าเพื่อนของพิมพ์กับเพื่อนของคุณดลรู้จักกัน เราก็เลยมีโอกาสได้คุยกันตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของพิมพ์กำลังแย่คุณดลสงสารก็เลยเข้ามาช่วยเหลือเราทั้งคู่ก็เลยสนิทกันมากขึ้นแล้วความสัมพันธ์มันก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่องที่คุณดลไม่ได้เล่าให้คุณพ่อฟังก็คงจะเป็นเพราะว่าตัวพิมพ์เองไม่มีอะไรคู่ควรกับเขา”
หญิงสาวตีบทเศร้าเล่าความเท็จแม้แต่ตัวภูริดลเองยังหันมามองด้วยความชื่นชมที่เธอเล่นละครได้สมจริงทั้งที่ความจริงแล้วเขากับเธอยังไม่ได้ตกลงกันด้วยซ้ำว่าจะให้เหตุผลอย่างไรกับคนเป็นพ่อที่เขาเพิ่งจะพาภรรยามาเปิดตัวในเวลานี้
“ลูกชายฉันก็แปลก ทนให้ฉันพูดได้อยู่ทุกวันกับอีแค่บอกว่าตอนนี้มีแฟนแล้วจะยากดีมีจนอะไรมันก็ไม่เห็นเกี่ยว”
บารมีเชื่อในสิ่งที่ลูกสะใภ้คนใหม่พูดทุกอย่างอาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์แววตาของพิรฎาเป็นแววตาที่แสนจะจริงใจเพราะตัวเธอเองโดยนิสัยส่วนตัวก็เป็นคนเช่นนั้นมาโดยตลอดจึงทำให้เธอโดนพ่อบังคับให้อยู่ในกรอบตลอดเวลาเพราะไม่เชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกภายนอกได้โดยที่ไม่มีพ่อคอยปกป้อง
“ผิวพรรณของหนูดูสวยมีสง่ามากเลยนะจ๊ะถ้าน้าไปเจอที่อื่นคงคิดว่าหนูเติบโตมาในครอบครัวที่แสนร่ำรวยและถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีแต่ถึงแม้ว่าหนูจะมาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีเงินมีทองอะไรแต่มันก็แสดงให้รู้ว่าพ่อกับแม่ของหนูคงต้องรักหนูมาก ๆ ถึงได้ดูแลดีแบบนี้”
หญิงสาวเมื่อได้ยินผู้ใหญ่อีกฝ่ายพูดแบบนี้น้ำตาของเธอกำลังตกใน การเลี้ยงดูของพ่อในสายตาของคนอื่นเธอคือลูกสาวที่โชคดีแต่สำหรับเธอแล้วมันคือการถูกขังคุกในหัวใจ เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรกับเส้นทางชีวิตทั้งที่คนเป็นพ่อเองตัดสินใจทำอะไรไม่เคยคิดจะถามเธอสักคำแม้แต่การพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาโดยที่ผู้หญิงคนนั้น ทำดีกับเธอเพียงแค่ต่อหน้าบิดาเท่านั้นลับหลังก็เป็นเหมือนดังอสรพิษคอยกลั่นแกล้งทำร้ายเธอทุกอย่างและนี่ก็คือเหตุผลที่เธอตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านนรกหลังนั้น
“ตอนคุณพ่อยังอยู่บ้านของเราพอมีเงินค่ะแต่เมื่อท่านมาล้มป่วยแล้วจากไปครอบครัวก็เริ่มแย่ลงแล้วก็มาถึงจุดตกอับสุดเมื่อแม่จากไปอีกคนโชคดีที่พิมพ์ได้ทุนการศึกษาจากทางโรงเรียนจึงได้โอกาสได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯแล้วก็หางานทำพอส่งตัวเองเรียนได้และในระหว่างนั้นก็มีคุณภูริดลเข้ามาช่วยเหลือเราทั้งคู่ถึงได้รักกันค่ะ”
พิรฎาเอื้อมมือเล็กมาจับมือชายหนุ่มกุมไว้บนขาของเธอสายตาที่มองมาจากคนข้าง ๆ แสดงทั้งความรักและชื่นชมออกมาจนภูริดลเองอดที่จะเขินไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ การแสดงเท่านั้น
ผู้ใหญ่ทั้งสองยังคงนั่งคุยกับลูกสะใภ้คนใหม่เพื่อต้องการทราบข้อมูลโดยละเอียดและอยากให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวสนิทกันได้เร็ว
บารมีหวังว่าการที่ลูกชายมีภรรยาจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเพราะเขาต้องการให้ ลูกชายรู้ว่าการเป็นพ่อคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายและก็คงไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่รักลูก
หญิงสาวกับการเลือกเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอภายใต้หัวใจที่รู้สึกคาดหวังว่าสิ่งที่เธอกำลังจะเจอต่อไปนี้อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าการเป็นนกน้อยในกรงทองของบิดาที่ต้องทนอยู่กับ ความร้ายกาจของแม่เลี้ยง พิรฎามองไปรอบคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูแล้วก็ใหญ่ไม่ต่างจากบ้านของเธอแต่บ้านหลังนี้กับดูมีความอบอุ่นมากกว่าอย่างน้อยก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตามีมุมเล็กๆให้ นั่งพักผ่อนแสดงให้เห็นว่าคนบ้านนี้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่า การทำงานอยู่ข้างนอกซึ่งไม่เหมือนครอบครัวของเธอที่ในแต่ละวันบิดาจะออกจากบ้านแต่เช้าแล้วกลับมาถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืนแล้วถึงทำให้คนเป็นพ่อไม่เคยรับรู้ว่าลูกสาวต้องทนอยู่กับอะไร
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
ตอนที่ 6นามสกุลที่คุ้นหู“สบายใจขึ้นหรือยังคะ” พิรฎาถอนหายใจก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธอด้วยใบหน้าที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยหลังจากที่เธอต้องเข้าไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเพราะหญิงสาวทั้งรู้สึกกลัวและรู้สึกเจ็บกับการที่ต้องโดนตรวจภายในเป็นครั้งแรก “ก็ดีนะผมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเต็มที่คุณเองก็เตรียมร่างกายให้พร้อมจะได้ไม่ต้องทนเป็นเมียผมนานเอาเถอะยิ่งเรามีลูกกันช้าเท่าไหร่คุณก็ยังจะต้องทนเห็นหน้าผมไปอีกนาน” สาวน้อยได้แต่หันไปมองคนขับที่ตั้งแต่ออกมาจากบ้านเขายังไม่พูดหยุดพูดจาประชดประชันเธอเลยสักครั้งด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินแต่เธอก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรแล้วเพราะตลอดทางเธอเองก็เถียงเข้ามาตลอดเหมือนกันจึงคิดว่าต่อไปนี้จะอยู่แบบเงียบๆบ้างเพราะแค่ต้องทนปฏิบัติตามคำสั่งของเขาเธอก็เหนื่อยใจพออยู่แล้วถ้ายังจะต้องมาเถียงเอาผิดเอาถูกกับเขาอีกเธอคงจะต้องบ้าก่อนที่งานสำเร็จแน่นอน “แวะไหนอีกคะนี่ฉันคิดว่าเราจะกลับบ้านกันได้แล้ว” คนขับไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านตามที่อีกฝ่ายคิดแต่เขากลับพาเธอมาที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือ
ตอนที่ 7เมื่อความผูกพันมันก่อตัว“ผมขอบัวลอยเพิ่มอีกสักถ้วยนะครับ” ทุกคนในโต๊ะอาหารต่างหันไปมองคนพูดด้วยความตกใจเพราะนับตั้งแต่นารีเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะแม่เลี้ยงของ ภูริดลชายหนุ่มแทบจะไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอแต่วันนี้เขากลับขอบัวลอยเพื่อทั้งที่มันคือฝีมือของนารีซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มแทบจะ ไม่ยอมแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ “ที่ทำงานเป็นอย่างไรบ้างลูก” บารมีเห็นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นเขาจึงหาเรื่องชวนลูกชายคุยเกี่ยวกับงานบริษัทที่เขาวางมือให้ลูกชายเป็นคนสานต่อส่วนตัวเขาเองเป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาใหญ่คอยให้คำแนะนำในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น ระหว่างพ่อลูกกำลังพูดคุยกันพิรฎาก็ลุกขึ้นไปช่วยนารีเตรียมขนมหวานให้กับคนทั้งคู่อีกรอบเพราะขนมบัวลอยฝีมือนารีมีทั้งความอร่อยและกลิ่นหอมจึงทำให้สองพ่อลูกค้าเติมกันอีกเรื่อยๆ ช่วงระยะเวลาที่ผู้ชายทั้ง 2 คนออกไปทำงานข้างนอกสองหญิงที่อยู่ในบ้านจึงมีเวลาได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมพิรฎามองเห็นความดีในตัวของนารีและความจริงใจที่เริ่มชัดเจนออกมาทุกวัน เธอพยายามทำให้
ตอนที่ 8อะไรคือความจริง“ว้าย ! ” สิ้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจพิรฎาก็มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีสามีคอยยืนอยู่ข้างๆ “คุณปลอดภัยแล้วนะ” ภูริดลจับมือภรรยามากอดแน่นรอยยิ้มของเขามันดูมีความสุขมากกว่าการที่เห็นภรรยาลืมตาฟื้นขึ้นมาจนคนป่วยส่งสายตาเป็นคำถามให้อีกฝ่ายอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณกับลูกปลอดภัยดี” ชายหนุ่มบอกข่าวดีแก่ภรรยาที่มันเหมือนสายฟ้าฟาดลงไปกลางหัวใจของคนที่ตั้งใจจะสารภาพความจริงทุกอย่างภายในวันนี้จากที่ชีวิตของเธอมีแค่เพียงตัวคนเดียวตัดสินใจจะทำอะไรก็ยากเย็นมากพออยู่แล้วพอมารู้ข่าวที่ควรจะเป็นข่าวดีแต่มันกลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสั่นไหววูบวาบไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตที่ต่อไปนี้เพราะเธอกำลังจะเป็นแม่คน “ฉันท้องหรอคะ” “ใช่ เรากำลังจะมีลูกด้วยกันนะ” ภูริดลพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างในหัวใจเหมือนกันเพราะในสัญญาเขียนบอกไว้ว่าทันทีที่หญิงสาวคลอดลูกออกมาสัญญาจะจบลงทันทีชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยว่าพิรฎาจะไปจากเขาทันทีหรือไม่เพราะถึงเวลานั้นเธอมีอิสระเต็มตัวแล้ว คุณหมอตรวจดูอ
ตอนที่ 9ภรรยาไม่รับจ้างพิรฎาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เธอคิดว่ามันคือความอบอุ่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนเข้มแข็งจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ทันทีที่เธอเหยียบเท้าเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เธอตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับอภิรดีทันทีวันนี้เธอจะเอาทุกอย่างคืน“คุณพ่อพิมพ์กลับมาแล้ว”สาวน้อยเปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปก้มกราบบิดาทันทีเวลานี้พระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าอภิรดียังคงไม่ตื่นนอน 2 คนเพ่อลุกจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน“พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อต้องเป็นห่วงคุณพ่อรู้แล้วใช่ไหมว่าอีนั่นมัน….”คนเป็นพ่อใช้ฝ่ามือปิดปากของลูกเพราะไม่ต้องการให้ หญิงสาวพูดอะไรออกมาอีกแล้วเวลานี้นิรุตรู้ความจริงหมดแล้ว ทุกอย่างว่าภรรยาที่เขาคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีดูแลลูกสาวเขามาตลอดแท้ที่จริงเธอคืออสรพิษที่สูบเงินของเขาโยกย้ายเข้าไปบัญชีส่วนตัวของเธอจนเวลานี้บริษัทของเขาแทบจะยืนอยู่ไม่ได้โชคยังดีที่กรรมการบริหารคนอื่นของบริษัทยังคงเข้มแข็ง“พิมพ์จะเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อฟังค่ะ”ครั้งแรกที่สองคนพ่อลูกเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั
ตอนที่1เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว “พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้” มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร “ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย” มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง “วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่ง
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ