ตอนที่ 9
ทวง
อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน
“พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา”
วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ
“ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด”
การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่
วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
วันนี้ทุกคนออกไปทำงานหมด พระพายเองก็ไปโรงเรียน ลลิลอยู่บ้านกับแก้มใสและแม่บ้าน
ลิตาติดต่อมาว่าอยากจะมาเจอหน้าลูก ลลิลจึงนัดให้พี่สาวรอเธออยู่ที่ร้านกาแฟที่อยู่หน้าปากซอยก่อนถึงทางเข้าบ้านของวายุเพราะลลิลไม่อยากให้ใครเห็น
“ลูกสาวแม่ แก้มยุ้ยมาก หลงกันทั้งบ้านแน่ ๆ ”
ลิตาอุ้มแก้มใสไปยืนที่ตักสาวน้อยหันมองหน้าหญิงสาวทั้งสองคนด้วยความสงสัยก่อนจะส่งเสียงร้องไห้ออกมาและโผตัวกลับมาให้ ลลิลอุ้มเหมือนเดิม
“ดูแม่แท้ ๆ อุ้มกลับร้อง แต่ก็ช่างเถอะแกเลี้ยงลูกให้พี่ดีแบบนี้พี่ก็สบายใจ แล้วเป็นไงบ้างชีวิตสบายดีไหม”
ลลิลไม่กล้าบอกลิตาเรื่องจดทะเบียนสมรสและเรื่องที่เธอมีอะไรกับวายุแล้ว เพราะที่ตกลงกันไว้เป็นแค่การแสดงไม่ใช่แบบนี้
“สบายดีพี่ เขาก็ดูแลทั้งลิลและแก้มใสเป็นอย่างดี ”
หญิงสาวยังไม่ทันจะพูดจบก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วายุโทรมาเพราะเขาได้ข่าวจากแม่บ้านว่าลลิลพาแก้มใสออกมาข้างนอก
“พี่ลิตามาค่ะ เธออยากเห็นหน้าแก้มใส ลิลกลัวคนอื่นจะสงสัยเลยนัดเจอกับพี่ข้างนอก”
ชายหนุ่มถามถึงจุดที่ลลิลอยู่ เพราะตอนนี้เขาขับรถออกจากบริษัทแล้ว และกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน ให้เธอกับลูกรอเขาอยู่ที่ร้านเขาจะไปรับเธอกลับเอง
“คุณวายุนี่เขาดูหวงแกมากเลยนะ แค่ออกมาข้างนอกแค่นี้ต้องกลับจากที่ทำงานและรีบมารับเชียว แต่ก็ดีเหมือนกัน พี่จะได้เจอเขาสักที ถ้าถูกใจพี่ขอเปลี่ยนตัวกับแกเลยนะลิล”
แฝดผู้พี่พูดไปขำไป แต่หัวใจของน้องสาวไม่รู้สึกขำด้วย เพราะลึก ๆ ลลิลคิดว่าถ้าลิตาเจอกับวายุเธอต้องชอบเขาแน่ ๆ
ชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามาและมองหาภรรยากับลูกด้วยท่าทางที่เป็นห่วง
“ลิลทีหลังก็โทรบอกผม ทำแบบนี้ผมเป็นห่วงรู้ไหม”
วายุมาถึงก็มัวแต่บ่นภรรยาจนลืมไปเลยว่ามีแขกที่กำลังจ้องมองเขาอยู่
“สวัสดีครับคุณลิตา ขอโทษทีนะครับที่มัวแต่บ่นลิลจนลืมทักทายเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เคยได้ยินแต่ชื่อ วันนี้เราสองคนก็ได้เจอกันสักที ขอบคุณนะคะที่ดูแลลูกสาวและน้องสาวลิตาเป็นอย่างดี”
วายุทำสีหน้าจริงจัง เมื่อได้ยินพี่สาวภรรยาใช้คำว่าลูกสาวเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอพูดแบบนี้อีก
“ลูกสาวผมกับลิลครับ สิบห้าล้านผมซื้อคำว่าลูกสาวจากชีวิตคุณแล้ว ได้โปรดอย่าเรียกแก้มใสแบบนี้อีกไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม”
ลิตาแทนที่จะมีสีหน้าสลด แต่เธอกลับส่งยิ้มหวานให้วายุ เหมือนตัวเธอเองยิ่งเห็นท่าทางแบบนี้ยิ่งรู้สึกชอบ
ลลิลอ่านสายตาของพี่สาวออก หัวใจของเธอมันรู้สึกไม่ดี ลางสังหรณ์มันบอกว่าต่อไปนี้ชีวิตของเธอคงไม่สงบสุขเหมือนเดิมแน่
วายุไม่อยากให้ภรรยากับลูกสาวของเขาอยู่กับลิตานานเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวหญิงสาวที่สามารถทิ้งได้กระทั่งลูก และตัวเขาเองก็ดูออกว่าลิตามองเขาด้วยสายตาแบบไหน
บรรยากาศในรถเงียบมาก มีแต่เสียงของแก้มใส ลลิลไม่กล้าพูดอะไรสักคำเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจเธอ
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก คุณรู้ไหมว่าผมไม่ชอบใจมาก ๆ และคิดว่าคุณคงจะไม่ทำอีก”
ลลิลนั่งฟังเธอเงียบไปสักพักเพราะกำลังคิดว่าเธอไม่ควรจะรับปากเพียงเพราะให้วายุสบายใจแต่เธอควรจะพูดด้วยเหตุผล
“พี่ลิตาเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของลิล คุณคงห้ามให้เราเจอกันไม่ได้ และมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้พี่ลิตาไปที่บ้าน เอาเป็นว่าถ้าลิลจะออกมามาเจอเธอ ลิลจะไม่เอาลูกออกมาด้วยและจะบอกคุณก่อนทุกครั้ง”
วายุถอนหายใจ เพราะเขาจำใจต้องยอมรับในเหตุผลของภรรยา แต่ก็หวังว่าคงไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น
ค่ำคืนนี้ข้าวใหม่ปลามันก็เริ่มบทรักเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้น และวันนี้ลลิลก็เริ่มอายน้อยลง เธอเข้าใจหน้าที่ของการเป็นภรรยามากขึ้น
“คุณถ้าลิลกับพี่ลิตายืนอยู่ด้วยกันแต่งตัวเหมือนกันทุกอย่าง คุณคิดว่าคุณจะจำได้ไหม ว่าใครคือใคร”
วายุหันมามองสบตาภรรยาด้วยความแปลกใจที่อยู่ดี ๆ ลลิลถามคำถามแบบนี้
“ทำไมถึงถามแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ ลิลแค่เห็นว่าคุณพลยังแยกลิลกับพี่ลิตาไม่ค่อยออกถ้าเราแต่งตัวทำผมเหมือนกัน”
“นั่นมันเจ้าพล ผมนอนกับลิลทุกคืน อยู่ด้วยกันตั้งแต่แก้มใสเกิดจนตอนนี้ลูกจะเดินได้แล้ว ขอแค่พูดมาสักคำผมก็รู้แล้ว”
ลิตาโทรมาน้องสาวหลังจากหายหน้าไปได้เกือบสัปดาห์และครั้งนี้เธอก็ไม่ได้ต้องการเจอแก้มใส เธออ้างว่าคิดถึงอยากเจอน้องสาวก็เท่านั้น
ภาพของพี่สาวที่นั่งรอเธออยู่ที่ร้านทำให้ลลิลรู้ได้ทันทีว่าลิตากำลังคิดจะทำอะไร
“พี่เหมือนแกมากเลยใช่ไหม ถึงได้ทำหน้าตกใจแบบนั้น”
ลิตาเดินเข้ามาจับมือน้องสาว ลลิลหน้าซีดจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นลมแต่ไม่สามารถที่จะขัดขืนทั้งที่ตัวเธออยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลจากตรงนี้
“พี่พูดกับแกตรง ๆ เลยนะ ในเมื่อแกก็ไม่ได้เป็นเมียคุณวายุเขาจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอเปลี่ยนตัวกับแกนะ แกเองก็จะได้ไปมีชีวิตของแกไม่ต้องมานั่งเลี้ยงลูกพี่อยู่ นี่ถุงกุญแจบ้าน เอาโทรศัพท์แกมาแล้วแกเอาของพี่ไปใช้ เดี๋ยวเราเปลี่ยนชุดกัน พี่ชอบคุณวายุ พี่ขอนะ”
ลิตาลุกเดินนำไปที่ห้องน้ำแต่ลลิลไม่ยอมลุกตามยังคงนั่งนิ่งด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
“ลิลแกไม่ต้องห่วงนั่นลูกพี่ พี่จะดูแลให้ดี เด็กเดี๋ยวก็ลืมแล้วก็จะจำได้ว่าพี่คือแม่ แกไม่เคยได้ยินเหรอเลือดข้นกว่าน้ำ ที่แกทำท่าแบบนี้แกรักคุณวายุหรือแกเป็นเมียเขาแล้วใช่ไหม แต่พี่รู้ว่าเขาไม่เอาแกหรอก ลุก ๆ เดี๋ยวถ้าพี่เบื่อแล้วจะเปลี่ยนคืนเอง”
ลลิลไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมเธอถึงยอมทำตามที่พี่สาวต้องการทุกอย่าง มาได้สติอีกทีเธอก็เดินทางมาถึงบ้านของพี่สาวแล้ว นาฬิกาที่ข้างฝาบ้าน บอกให้รู้ว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ทุกคนคงกำลังกินข้าวเย็นพร้อมหน้ากัน
“ป้าคะมาเอาแก้มใสไปเลี้ยงหน่อยค่ะ ลิลขอกินข้าวก่อน”
ทุกคนต่างส่งสายตามองไปที่หญิงสาวด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้ว ลลิลเธอจะอุ้มแก้มใสและกินข้าวไปด้วย แต่วันนี้หญิงสาวกลับให้ป้าช่วยมาเอาลูกสาวไปเลี้ยง
วายุมองภรรยาอย่างไม่ไว้ใจ เพราะวันนี้ลลิลโทรศัพท์ไปบอกเขาว่าเธอจะออกไปเจอพี่สาว
คืนนี้แก้มใสร้องงอแงกว่าทุกคืนกว่าจะนอนหลับได้ คนเป็นแม่ก็ทำท่าทีเริ่มโมโหเพราะกล่อมกันอยู่นาน เด็กน้อยก็เอาแต่ร้องไห้
โคมไฟหัวเตียงดับลง ลิตาพยายามนอนนิ่ง ๆ เพื่อทำตัวให้เรียบร้อยเหมือนน้องสาว
วายุคว้าตัวภรรยาที่เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าใช่ภรรยาเขาไหมมากอด เพื่อดูปฎิกิริยา
ลิตายิ้มดีใจเพราะเธอคิดว่าตลอดเวลาที่น้องสาวอยู่กับวายุ เขาคงไม่เคยทำแบบนี้แค่เธอสลับตัวมาเขาก็หลงตั้งแต่วันแรกเลย
หญิงสาวค่อย ๆ หงายตัวและหันไปกอดตอบวายุ มือเล็กลูบลงไปที่แขนของชายหนุ่มอย่างรู้งาน
ไฟทุกดวงในห้องถูกเปิด วายุลุกออกจากที่นอน ก่อนจะโผตัวเข้ามาทำท่าเหมือนจะบีบคอหญิงสาวตรงหน้าแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นกำมือแน่น
“คุณเอาเมียผมไปไว้ไหน อย่าคิดจะปฎิเสธเพราะแค่ คุณอ้าปากพูดผมก็รู้ว่าคุณไม่ใช่เมียผม”
ลิตารีบลุกจากที่นอนเธอกลัวจนตัวสั่นพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดเลยว่าจะโดนจับได้ตั้งแต่วันแรก และไม่คิดว่าคนที่ดูสุขุมเงียบ ๆ อย่างวายุเวลาที่โกรธจะน่ากลัวถึงเพียงนี้
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ