เมื่อเสือหวงประทับรอยจูบตีตราจองสาวไว้พร้อมกับคำขู่"ห้ามใครซ้ำรอยพี่" แต่สาวเจ้าทั้งดื้อทั้งรั้นจนน่าขย้ำให้จมเขี้ยวเป็นการสั่งสอน แล้วอย่างนี้คิดว่าเสือหวงอย่างเขาจะปล่อยในเธอลอยนวลได้นานแค่ไหนกัน
Lihat lebih banyak“ลุงเพชร! ลุงเพชร! ลุงเพชรอยู่ไหนครับ” เพลิงตะวันเรียกหาลุงราวกับเด็กเสียขวัญ เมื่อผู้เป็นลุงไม่ขานรับ เขาก็เรียกหาน้ากระแต“น้ากระแต! น้ากระแตครับ” เหมือนทั้งบ้านจะเงียบไปหมด แล้วเมียเขาล่ะ เมียเขามาที่นี่หรือยัง หรือมาแล้วและก็กลับไปแล้ว แล้วทำไมไม่มีใครปลุกเขา“ลุงเพชร!” เพลิงตะวันตะโกนเรียกสุดเสียง จนเด็กรับใช้ต้องวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา“ลุงเพชรกับน้ากระแตไปไหน”“เอ่อ...คุณๆอยู่สวนหลังบ้านค่ะ”“ขอบใจ” เพลิงตะวันรีบเดินไปทางประตูหลังบ้าน เมื่อเปิดประตูออก สายตาคมก็มองไปทางศาลาแปดเหลี่ยมสีขาวหลังใหญ่กลางสวน เขาเห็นลุงเพชร น้ากระแต คุณวาทิต วาโย กระเต็น แต่ไม่เห็นเมียตัวเอง ขายาวก้าวเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ เมื่อยกมือไหว้ทักทายพ่อตากับพี่เมียแล้วเขาก็ถามหาเมียทันที“น้ำฝนล่ะครับ” ทุกคนพากันเงียบกริบ เหมือนต่างเกี่ยงกันที่จะตอบคำถามของเขา“น้ำฝนไม่ได้อยู่ที่นี่” พอได้ยินคำตอบจากปากลุงเพชรคนอยากเจอหน้าเมียใจจะขาดก็พานแข้งขาอ่อน“ก็ไหนลุงเพชรบอกน้ำฝนจะมากับพี่โยด้วยไงครับ”“ก็มา แต่...”“แต่ลุงเพชรพาเมียผมไปซ่อนอีกแล้วใช่
“กลับมากันแล้วเหรอ เป็นไงเพลิง ได้เจอน้ำฝนไหม แคกๆ” เพลิงตะวันมองคนที่เอนกายนั่งพิงพนักโซฟาแสร้งทำสีหน้าอิดโรยด้วยสายตาไม่พอใจ อย่ามาทำเป็นแสดงละครเลยลุงเพชร ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่านี่คืออาการแกล้งทำ“ไม่ได้เจอครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” เพลิงตะวันถอนหายใจแล้วเดินหนีขึ้นห้องไป ลุงเพชรไม่ช่วยอะไรเขาสักนิด แล้วยังจะมาแกล้งเขาอีก เออ...เขามันคนเคยไม่ดี ใครๆก็ไม่รัก ไม่อยากช่วยเหลือ ไม่สงสารคนที่ไม่ได้เจอหน้าลูกเมียมาหลายวันแล้วกันบ้างเลย“น้ำฝน พี่ขอคุยด้วยได้ไหมครับ” วาโยเคาะประตูห้อง แล้วเรียกน้องสาวที่หลบมาพักที่บ้านกับเขา ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะให้เธอพักอยู่ได้นานเท่าที่เธอต้องการ“ค่ะ พี่โย” หยาดพิรุณเปิดประตูให้พี่ชาย แล้วเดินกลับไปนั่งบนเตียง มองดูลูกชายที่เพิ่งนอนหลับปุ๋ยไปได้ไม่นานวาโยเดินเข้ามานั่งอีกฝั่งของเตียง เขาแตะแก้มหลายชายเบาๆอย่างเอ็นดู“หลับไม่รู้เรื่องเลยน้ำพุเอ๊ย!” วาโยแซวหลานแล้วเงยหน้าขึ้นมองน้องสาว เห็นเธอถอนหายใจเบาๆแล้วก็เห็นใจ หยาดพิรุณใจแข็งกับสามีได้ไม่นานหรอก แค่นี้ก็หงอยจนน่าเป็นห่วงแล้ว“ว่า
“ไง! เมียยังไม่ยอมคุยด้วยอีกเหรอ” ลุงเพชรมานั่งลงตบบ่าเขาเบาๆ สายตาของลุงเพชรเหมือนเยาะเย้ยมากกว่าจะเห็นใจ“ก็มีแต่คนกีดกัน ผมเลยไม่ได้คุยกับน้ำฝนสักที”“แล้วมันน่ากีดกันไหมล่ะ ชอบทำอะไรให้น้องงอนอยู่เรื่อย”“ถ้าไม่เข้าข้าง ก็อย่ามาซ้ำเติมผมเลย” เพลิงตะวันว่า เขาขยับออกห่างลุงเพชรอีกนิด นี่ก็ไม่ช่วย ไม่พาไป ทั้งที่บ้านหลังนั้นเป็นบ้านลูกเขยตัวเองแท้ๆ ถ้าลุงเพชรพาไป ใครหน้าไหนจะกล้าขัดขวาง“เฮ้ย! ทำผิดเองก็หาทางแก้เองสิวะ มันต้องนักเลงหน่อย”เพลิงตะวันปรายตามองลุงเพชร ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย บ้านพี่เมียมีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ทั้งคนของพี่เมียก็ยั้วเยี้ยเต็มหน้าบ้านไปหมด อย่างกับตั้งใจจัดมาเพื่อขัดขวางเขาโดยเฉพาะ“เป็นไงตาเพลิง ได้คุยกับน้ำฝนหรือยัง” น้ากระแตของตาเพลิงเดินมานั่งลงข้างหลานชาย ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เพลิงตะวันขยับไปหา กอดท่านไว้เต็มอ้อมแขน ออดอ้อนน่าสงสาร“น้ำฝนไม่ยอมคุยกับผมครับน้ากระแต คนแถวนี้ก็ใจร้ายไม่ยอมช่วย”คนถูกกล่าวหาว่าใจร้ายสะดุ้ง มองคนที่กอดเมียตัวเองด้วยสายตาหมั่นไส้ อ้อนได้อยู่คนเด
“หนูพรรณ”พรรณดาราลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อคนที่เธอมาหาเดินเข้ามาในห้องรับรองแขก“งานหนัก หรือเปลี่ยนไปจีบสาวบ้านอื่นแล้วคะ ทำไมถึงไม่ไปที่ไร่เลย” กวีไม่รู้ว่าจะขำหรือดีใจดี นี่เธอคิดถึงเขาใช่ไหม และก็กำลังงอนเขานิดๆใช่ไหม“อยากไปใจจะขาด แต่ช่วงนี้งานเข้า พี่ปลีกตัวไปไม่ได้เลย”“แล้วทำไมไม่โทรบอก” พรรณดาราถามแล้วก็ต้องกัดริมฝีปากตัวเอง เธอเป็นคนห้ามไม่ให้เขาโทรหาเองนี่นา“งั้นต่อไปนี้ให้พี่โทรหาได้แล้วใช่ไหมครับ ถ้าหนูพรรณอนุญาตให้พี่โทรหาได้ พี่จะโทรรายงานความประพฤติทุกชั่วโมงเลยก็ได้”“ก็ดีค่ะ แล้วต่อไปอย่าหายไปแบบนี้อีกนะคะ”กวียิ้มพอใจ แบบนี้คือเธอยอมเปิดใจให้เขาแล้วใช่ไหม ร่างสูงเดินเข้าไปยืนตรงหน้าหญิงสาว“เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม”“ก็ดูๆไปก่อนค่ะ” พรรณดาราไม่ใช่หญิงสาวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ เธอเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ถ้าใช่เธอก็ยอมรับว่าใช่ ความตรงๆกับหัวใจนี้เธอได้มาจากแม่พราว ที่เธอมาหาเขาถึงนี่ ก็เพราะแม่พราวเป็นคนแนะนำนั่นแหละ“ถ้าหนูรู้สึกว่าพี่เขาใช่ ก็ทำตามที่หัวใจต้องการ” แม่พราวเนี่ยไอดอลต
“ทำแผลให้พี่เขาหน่อย”“คุณแม่คะ” พรรณดาราอยากจะปฏิเสธ ทว่าสายตาดุที่ท่านมองมาก็ทำให้เธอจำใจหิ้วกล่องยาไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับเขากวียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อคุณพยาบาลจำเป็นมานั่งลงตรงหน้า แม้เธอจะมือหนักไปบ้างอย่างจงใจ แต่เขาก็อดทนได้“แม่ต้องขอโทษแทนเพลิงด้วยนะ รายนั้นใจร้อนไปหน่อย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ใช้กำลังไว้ก่อนอยู่เรื่อย”“ครับ ไม่เป็นไรครับแม่พราว” กวีพูดกับแม่พราว ทว่านัยน์ตาวิบวับจับจ้องดวงหน้าลูกสาวท่านตลอดเวลา“แล้วนี่พ่อวีมีธุระอะไรหรือถึงได้มาแต่เช้าเชียว”“เอ่อ...พอดีว่าคุณแม่อยากทานแก้วมังกรครับ ผมเลยแวะมาซื้อ”“แก้วมังกร?” แม่พราวทำหน้างง“ครับ คุณแม่ท่านบอกว่าแก้วมังกรที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าของไร่ภูอิงฟ้า”“อ้อ! แต่แก้วมังกรที่บ้านไม่มีนะจ๊ะ ถ้าพ่อวีอยากได้ คงต้องไปซื้อที่อาคารแสดงสินค้าตรงปากทางเข้าไร่โน่น” แม่พราวว่าอย่างรู้ทัน กวียิ้มแหยๆให้ผู้สูงวัย พอดีกับคุณพยาบาลจำเป็นใส่ยาให้เขาเสร็จแล้ว หญิงสาวก็เลยย้ายไปนั่งข้างมารดา“เอ่อ...ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับแม่พราว ขอบคุณมากนะครับหนูพรรณที่ทำแ
“ค่ะ” พรรณดารารับคำ ยิ้มหวานให้พี่ชาย หญิงสาวมองค้อนคนที่เธอไม่อยากเจอหน้า ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางแปลงเกษตรสาธิตที่อยู่ห่างอาคารแสดงสินค้าไปเล็กน้อย“พี่วี! มึงจะไปไหน” เพลิงตะวันรีบขยับไปดักทางคนที่ทำท่าจะเดินตามน้องเขาไป“ไปดูแปลงเกษตร”“ไม่ต้องเลย ไปดูแลลูกค้าคนสำคัญของพี่โน่น” เพลิงตะวันจับกวีหมุนแล้วรุนหลังเขาให้เดินกลับเข้าไปหาลูกค้าของเขา“ไอ้เชี่ยเพลิง ที่มึงกีดกันกูอยู่เนี่ย เพราะมึงหึงกูหรือเปล่า นี่มึงคิดมิดีมิร้ายกับกูอยู่ใช่ไหม” กวีขืนตัวไว้ ไม่ยอมเดินไปข้างหน้าตามแรงดันของเพลิงตะวัน“ปัญญาอ่อน ไปๆอย่ามายุ่งกับน้องผม ไม่งั้นพี่เจ็บตัวแน่ ที่นี่ถิ่นผมนะ อย่าทำตัวมีปัญหา”“เออๆ ไปก็ได้วะ เก็บน้องมึงไว้ในไร่ดีๆล่ะ ออกจากไร่ไปเมื่อไหร่ กูจับปล้ำทำเมียทันที” กวียิ้มยียวน ก่อนจะเดินหนีไป ปล่อยให้คนหวงน้องได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองตามด้วยความรู้สึกอยากกระทืบคนพูดให้ตายคาตีนเพลิงตะวันมองตามรถตู้ของโรงแรมนำคณะรองรัฐมนตรีกลับออกไปจากไร่ไปจนลับสายตา เมื่อแน่ใจแล้วว่าไอ้เจ้าของโรงแรมที่วอนตายในไร่ออกไปพร้อมรถตู้คัน
“ไม่ปล่อยใช่ไหม” พรรณดาราเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห หญิงสาวกำมืออีกข้างทุบแขนเขาสุดแรง และทุบไปหลายครั้งด้วย แต่ดูเหมือนกำปั้นน้อยๆของเธอจะไม่สะเทือนคนตัวโตที่ยืนค้ำหัวเธออยู่สักนิด “เจ็บตายแหละ” กวีว่า ทั้งน้ำเสียงและสายตาเยาะเย้ยเธอเต็มที่“คนบ้า! ปล่อยนะ!” พรรณดาราโมโหสุดขีด หญิงสาวใช้ทั้งมือที่ว่างและเท้าทั้งสองทำร้ายเขา“เฮ้ย!” กวีตกใจที่เด็กสาวโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว เขาไม่ได้เจ็บแต่ออกแนวรำคาญมากกว่า ชายหนุ่มกระตุกข้อมือบางดึงหมุนตัวเธอให้หันหลังให้เขา แล้วรวบตัวเธอมากอดไว้แน่นพรรณดาราตกใจที่อยู่ดีๆก็ถูกเขากักกอดเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย หญิงสาวจึงยกเท้าหมายจะกระทืบเท้าเขา แต่กวีก็ไหวตัวทัน เขายกร่างบางขึ้นจนเท้าลอยพ้นจากพื้น“กรี๊ด! ปล่อยฉันนะ ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!” เมื่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พรรณดาราก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ หญิงสาวหันหน้ากลับไปมองคนที่อุ้มเธออยู่ด้วยสายตาเคืองขุ่น กวียักคิ้วใส่อย่างกวนๆ“เสียงดีนี่ ร้องอีกสิ” กวีนึกหมั่นไส้แม่สาวน้อยที่พอเอาชนะเขาไม่ได้ก็เริ่มหาพวกมาช่วย“คุณหนูพรรณเกิดอะไรขึ้นคะ
“ก็เคยไป แต่ไปมาตั้งหลายปีแล้ว นะคะพี่เพลิงขา ให้หนูไปนะคะ หนูสัญญาว่าจะดูแลตัวเองดีๆ จะไม่ทำให้พี่เพลิงต้องเป็นห่วง”เพลิงตะวันหันกลับมามองหน้าน้องสาว แววตาอ้อนวอนของเธอ ทำให้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“อือๆจะไปก็ไป ขับรถดีๆ ห้ามเถลไถลไปไหน แล้วก็ต้องกลับบ้านก่อนสองทุ่มนะ”พรรณดารายิ้มกว้าง หญิงสาวกอดแขนพี่ชาย แล้วอิงซบอย่างออดอ้อน“พี่เพลิงน่ารักที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ”เพลิงตะวันมองตามน้องสาวที่วิ่งเข้าไปในบ้านอย่างดีใจ แม้จะเป็นห่วงแต่ก็รู้ล่ะว่าตัวเองคงไม่สามารถกางปีกปกป้องน้องตลอดไปได้ อีกอย่างน้องสาวเขาโตแล้ว และไม่ได้เป็นหญิงสาวเรียบร้อยไร้เดียงสาสักหน่อย เขารู้ว่าเธอเก่งและเอาตัวรอดได้ ไม่อย่างนั้นจะไปอยู่เมืองนอกตามลำพังได้หรือ แต่ที่เธอยอมอยู่แต่ในไร่ตามที่เขาบอกเพราะเกรงใจเขาเท่านั้นเองพรรณดารารวบผมยาวมัดหางม้า อวดดวงหน้าเนียนสดใส รอยยิ้มพริ้มเพราที่ประดับบนใบหน้าเป็นนิจ ทำให้หญิงสาวดูราวกับเด็กสาวอายุสิบเจ็ด เธอสวมเสื้อยืดสีกรมท่า ด้านหลังเสื้อสกรีนโลโก้ไร่ภูอิงฟ้าเหมือนกับพนักงานทุกคนที่มาช่วยงานที่บูท หญิงสาวสวมกางเกง
พี่พร้อมกับน้องพริ้งพยักหน้ารับคำป๊ะป๋าอย่างจริงจัง เด็กน้อยสองคนสบตากันแล้วประสานเสียงเอ่ยรหัสลับออกมาเสียงดังฟังชัดพร้อมกัน“เรา รัก กัน”กวีสบตาภรรยา ทั้งสองยิ้มก่อนจะเอ่ยรหัสตอบรับลูกๆด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข“แม่นแล้ว”“ทีนี้คุณแม่ก็บอกความลับมาได้แล้วนะคะ” พอป๊ะป๋ากับคุณแม่พูดรหัสตอบรับยังไม่ทันขาดคำ น้องพริ้งก็รีบคะยั้นคะยอขอทราบความลับทันทีพรรณดารากางแขนออกโอบกอดลูกน้อยทั้งสองมาแนบอก หญิงสาวจับมือน้อยของลูกทั้งสองมาวางลงบนหน้าท้องตัวเอง ยิ้มให้ลูกทั้งสองที่จ้องมองใบหน้าคุณแม่ตาแป๋ว“ในนี้มีน้องสองคนค่ะ”พี่พร้อมกับน้องพริ้งอ้าปากค้างทำตาโตพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เด็กน้อยตกตะลึงกับสิ่งที่คุณแม่บอก ทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น และสงสัย ทั้งพี่พร้อมกับน้องพริ้งมีคำถามมากมายอยู่ในหัว แต่ก็ยังไม่สามารถเรียบเรียงเป็นประโยคออกมาถามคุณแม่ได้“น้องสองคน” พี่พร้อมลูบท้องคุณแม่ด้วยความตื่นเต้น“น้องมาพร้อมกันสองคนเลยเหรอครับคุณแม่” เด็กชายถามคุณแม่เพื่อจะย้ำความมั่นใจ“ใช่ค่ะ น้องอยู่ในนี้สองคน เรียกว่าแฝดค่ะ
“ทำไมต้องเป็นเต็นด้วยล่ะพี่ต่าย ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้!” เสียงเข้มดุของพี่ชายที่เกิดก่อนเกือบสี่ปีทำให้พลอยไพลินหน้าหงิกงอลงทันที หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดยืนข้างพี่ชาย ผู้ซึ่งเอาแต่ก้มหน้าสนใจงานในมือ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะพอใจหรือไม่พอใจกับงานที่เขามอบหมายให้ พลอยไพลินนั่งคุกเข่าลงบนพื้น สองมือเกาะพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้แน่น หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตาปริบๆมองพี่ชาย ดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ และปั้นหน้าเศร้าให้ดูน่าสงสาร “พี่กระต่ายขา...” เสียงอ้อนหวานเจี๊ยบจนน่าขนลุกทำให้เพชรนิลมองน้องสาวอย่างไม่ไว้วางใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลุบตามองคนลงทุนคุกเข่าอ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ “อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก พี่ไม่ใจอ่อนหรอก” เพชรนิลบอกเสียงเข้ม แล้วขยับนั่งตัวตรงตามเดิม สายตาคมจ้องมองงานบนหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า ไม่ชำเลืองแม้หางตาดูน้องสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน “พี่กระต่ายขา...” พลอยไพลินยังคงเกาะพนักเก้าอี้ไว้ไม่ยอมปล่อย ห...
Komen